พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 8

ขอมาก่อนวันศุกร์นะคะ :)

พี่อาร์มจะเปลี่ยนไปจากเหตุการณ์ในตอนนี้ค่ะ แต่จะเปลี่ยนไปเพราะอะไร ติดตามอ่านเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับคนอ่าน คนเมนท์ และไลค์ที่ให้เป็นกำลังใจกันมานะคะ ขอบคุณที่ค่อยๆเดินไปด้วยกันค่ะ :)

เจอกันตอนหน้าจ้า...ตอนนี้ปอแก้วไม่แน่ใจแล้วว่าจะเอามาลงวันไหน เอาเป็นว่าถ้าเขียนเสร็จจะรีบเข็นมาลงนะคะ :)

-----------------------------------------------------------------------------------------------




ตอนที่ 8 : บทพิสูจน์




ห้องทำงานของชิษวัศคือห้องที่ชายหนุ่มเลือกที่จะแปรเปลี่ยนให้เป็นห้องสอบสวนเพื่อหาความจริงจากปากของมุกตาภา ประตูห้องถูกล็อคเรียบร้อยกันคนเข้ามารบกวน เจ้าของห้องไม่สนใจแล้วว่าคนที่ถูกนำมาจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ ในแววตาคู่นั้นจะสั่นระริกแค่ไหน หวาดกลัวเพียงใด ชิษวัศจะไม่สนใจและจะไม่สงสารแม้ว่ามุกตาภาจะร้องไห้ออกมาตรงหน้าก็ตาม

“ทำไมไม่พูดความจริง” คำถามของชิษวัศทำเอามุกตาภาจุกจนแทบพูดไปออก เธอกลัวที่สุดว่าวันนี้จะมาถึง วันที่เขารู้ความจริงว่าเธอรู้จักกับเขามาก่อนแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก วันที่เขามองและถามคำถามเธอด้วยสายตาและน้ำเสียงที่เย็นชา วันที่พี่อาร์มกำลังจะเกลียดเธอ

“คือว่ามุก...มุก...” น้ำเสียงตะกุกตะกักกับน้ำตาที่จะไหลอยู่รอมร่อยิ่งทำให้ชิษวัศหงุดหงิด ชายหนุ่มเกลียดที่สุดคือการโกหก คนที่โดนกระทำคือเขา คนที่สมควรจะเสียใจก็คือเขา ไม่ใช่เธอที่กำลังจะร้องไห้!

“ไม่ต้องร้องไห้แล้วก็บอกมาว่าทำไมไม่พูดความจริง!” น้ำเสียงที่ตะโกนจนดังลั่นห้องทำงานที่ถูกสร้างขึ้นเป็นแบบเก็บเสียงจากภายในทำเอามุกตาภาผวา น้ำตาหยดเผาะลงบนฝ่ามือที่ประสานไว้บนหน้าตัก

“เพราะพี่อาร์มจำมุกไม่ได้”

“อะไรนะ” คำตอบของมุกตาภาทำให้ชิษวัศต้องถามกลับ ไม่เข้าใจว่าที่ตนเองจำเธอไม่ได้มันเกี่ยวอะไรกับที่เธอจะต้องโกหกว่าไม่เคยรู้จักกัน ก็แค่เธอเดินเข้ามาบอกว่าคือเด็กน้อยในวันนั้น ทุกอย่างก็จบ ทำไมต้องมาโกหกให้เขาหัวปั่นด้วย ทำไมกัน!

“เพราะมุก...อยากให้พี่อาร์มจำมุกได้ด้วยตัวของพี่อาร์มเอง ไม่ใช่ให้ใครมาบอก”

“ถึงต้องโกหกอย่างนั้นน่ะหรือ คุณจะทำเรื่องให้มันยุ่งทำไม เมื่อคืนที่บ้านสวนคุณบอกเองไม่ใช่รึไงว่า...เด็กคนนั้นก็จำผมไม่ได้เหมือนกัน” ชิษวัศกดเสียงต่ำ รู้สึกว่าตัวเองโง่หนักหนาที่ถูกหลอก มุกตาภารู้เรื่องทั้งหมดแต่ทำเป็นไม่รู้อะไรเลยแถมยังหลอกถามเรื่องราวในอดีตทั้งๆที่เธอจดจำมันได้ตลอดเวลา

คนที่โดนตวาดเชิดหน้าขึ้น ปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มใสเป็นทาง

“เพราะพี่อาร์มจำมุกไม่ได้ต่างหากมุกถึงพูดไปอย่างนั้น มุกยอมรับว่าครั้งแรกที่เจอกันโดยบังเอิญมุกจำพี่อาร์มไม่ได้ แต่มุกก็จำได้ว่าพี่อาร์มชื่อชิษวัศ นามสกุล ตตินรากรณ์ พี่อาร์มไม่ชอบกินถั่วลิสง ไม่ชอบกินตั้งโอ๋ กินเผ็ดไม่ค่อยได้ ห้องทำงานต้องสะอาดเพราะพี่อาร์มแพ้ฝุ่น ชอบใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาว ดอกไม้ที่ชอบคือดอกจำปีเพราะพี่อาร์มชอบกลิ่นของมัน ตอนเด็กๆที่บ้านสวนน้ำท่วมจนต้นจำปีตาย พี่อาร์มเสียใจจนไม่ยอมเล่นกับมุกไปหลายวัน...” มุกตาภาเว้นจังหวะเล็กน้อยเมื่อพูดถึงความทรงจำในอดีตก่อนจะยกหลังมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปลวกๆ

“...แต่พี่อาร์มจำอะไรเกี่ยวกับมุกไม่เลย จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเด็กตัวน้อยที่วิ่งเล่นกับพี่อาร์มชื่อมุกตาภา จำสัญญาใต้ต้นนนทรีไม่ได้ จำเรื่องราวในสมัยก่อนแทบไม่ได้ ความทรงจำที่มีค่าของมุกแต่กับพี่อาร์มมันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำในสมัยเด็กที่ไม่มีใครนั่งจดจำ มุกคงโง่เองที่หวังว่าจะทำให้พี่อาร์มจำได้ มุกน่าจะรู้ดีว่าคนอย่างพี่อาร์มคงไม่เปลืองสมองมาจำเรื่องไร้สาระ...ถ้ามุกทำให้พี่อาร์มโกรธก็ขอโทษด้วยนะคะ”

น้ำตาที่เช็ดไปเมื่อครู่ไหลออกมาเป็นสายจนคนที่เผลอตวาดไปด้วยอารมณ์โมโหรู้สึกผิดขึ้นมา ตกใจไม่น้อยที่มุกตาภาจดจำเรื่องเกี่ยวกับตนเองได้ดีขนาดนี้ทั้งที่ตอนนั้นเธอยังเด็กอยู่แท้ๆ ถ้าไม่นับบิดากับมารดา มุกตาภาเป็นคนแรกที่รู้ว่าเรื่องส่วนตัวของเขามากถึงขนาดนี้ ทุกอย่าง...เธอจดจำไว้ในความทรงจำที่ไม่เคยลืมเลือน

“แล้วทำไมไม่คิดบ้างว่าถ้าบอกความจริงแล้วหนูมุกจะได้เจอกับพี่อาร์มคนเดิม ไม่ใช่คุณอาร์มที่หนูมุกเจออยู่ทุกๆวัน” น้ำเสียงที่ค่อยๆปรับระดับลงมาเป็นโทนปกติกับคำเรียกขานที่เปลี่ยนไปส่งผลให้น้ำตาที่ไหลรินเริ่มที่จะแห้งเหือดไปทีละน้อย

“เพราะมุกกลัวพี่อาร์มจะจำไม่ได้ มุกทนไม่ได้ถ้าบอกความจริงออกไปแล้วพี่อาร์มมองมุกเหมือนกับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน”

“แต่ทำอย่างนี้ก็รู้ไม่ใช่หรือว่าพี่จะต้องโกรธ” ชายหนุ่มย้อนถาม จ้องมองไปยังอีกคนที่นั่งก้มหน้าก้มตา มุกตาภาพยักหน้ารับ บีบมือที่ประสานบนหน้าตักแน่น น้ำตาที่คล้ายจะแห้งไปรื่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้านชิษวัศเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะเริ่มร้องไห้อีกรอบ ชายหนุ่มถึงกับถอนลมหายใจออกยาว ท่าทางของเขาคงทำให้มุกตาภากลัวมาก เพราะเธอไม่แม้จะเงยหน้ามามองกัน สองมือที่ประสานกันไว้ถูกบีบจนเห็นรอยแดง

ชิษวัศก้มตัวลงก่อนจะเอื้อมมือไปแตะสองมือที่ประสานกันแน่นของมุกตาภา สัมผัสนั้นทำให้เจ้าของมืออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามอง รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ยามเช้าคือสิ่งที่เธอได้รับจากคนตรงหน้า เป็นรอยยิ้มที่เธอเพรียกหามานานนับสิบปี รอยยิ้ม...ของ ‘พี่อาร์ม’

“เด็กน้อยขี้แย ไม่ต้องร้องไห้แล้ว พี่อาร์มขอโทษที่ตวาดไปอย่างนั้น” คำขอโทษของชิษวัศทำให้ความหวาดกลัวของมุกตาภาค่อยๆจางหายไป

“พี่อาร์ม...ไม่โกรธมุกแล้วหรือคะ” เธอกลั้นใจถามแม้จะกลัวกับคำตอบที่จะได้รับก็ตาม

“โกรธสิ...” คำตอบของชิษวัศทำเอามุกตาภาตัวลีบเหลือนิดเดียว “...แต่พอเห็นหนูมุกร้องไห้แล้วมันก็โกรธไม่ลง ที่สำคัญพี่ชายคนไหนจะทำใจโกรธน้องสาวได้นานล่ะจริงไหม”

ชายหนุ่มเอื้อมมือมาโยกศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมเส้นเล็กสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามราตรี ชิษวัศยอมรับว่าตัวเองโกรธมากที่ถูกมุกตาภาหลอกอย่างนี้ แต่พอเห็นเธอร้องไห้ ใจที่พยายามทำให้แข็งกลับอ่อนยวบราวกับกำแพงดินชุ่มน้ำจนพังทลายลงมาเพราะน้ำตาของเธอ แม้เสี้ยวหนึ่งจะดีใจที่ได้น้องสาวในวัยเด็กกลับคืนมา หากอีกเสี้ยวหนึ่งกลับรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูกเมื่อสถานะระหว่างเขาและเธอเปลี่ยนจากเจ้านายกับลูกน้องไปเป็น ‘พี่ชายและน้องสาว’ ซึ่งนั่นหมายความว่า...เขาไม่ควรคิดอะไรกับมุกตาภาในทางชู้สาว ไม่สมควรที่จะปล่อยความรู้สึกของตัวเองไปมากกว่านี้ เพราะไม่ใช่เพียงแค่ว่าเธออายุน้อยกว่าเขา แต่ที่สำคัญ...มุกตาภาเป็นน้องสาว และเขาก็สมควรเป็นแค่ ‘พี่ชาย’ สำหรับเธอ ไม่ควรเขยิบฐานะให้มากไปกว่านั้น

...ความสัมพันธ์แบบนี้ล่ะดีที่สุดแล้ว อย่างมุกตาภาเธอเหมาะที่จะเป็น ‘หนูมุก’ เท่านั้น อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์เลยไอ้อาร์ม ผู้หญิงที่สดใสราวกับดอกไม้แรกแย้มอย่างนี้อย่าให้ต้องมาทนเหี่ยวเฉากับผู้ชายที่ไม่คิดจะรดน้ำพรวนดินรังแต่จะปล่อยให้แห้งเหี่ยวตายอย่างแกเลย...













หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อยเวลาอาหารเย็นก็เริ่มขึ้นพอดี โต๊ะอาหารที่ปกติไม่ค่อยได้ใช้งานนักเพราะเวลางานของแต่ละคนไม่ตรงกันหากวันนี้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ แม้บิดาของชิษวัศจะไม่อยู่เนื่องจากติดงานอยู่ต่างประเทศแต่คุณอัญชิสาก็ทำให้มื้อเย็นวันนี้เป็นอีกมื้อหนึ่งที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับแขกผู้ร่วมโต๊ะอีกสองคนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะทวิดาร์และมุกตาภาที่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนชิษวัศต้องแปลกใจ เพราะโดยปกติอดีตแฟนสาวจะสนิทกับคนยาก แต่ไม่รู้ทำไมถึงทำท่าว่าถูกชะตากับมุกตาภาก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะทวิดาร์เป็นลูกโทนจึงอยากมีน้องสาวที่ชอบอะไรคล้ายๆกันสักคน ส่วนชิษวัศก็ใช้โอกาสนี้บอกมารดาว่ามุกตาภาทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับตนเอง แม้คุณอัญชิสาจะตกใจและตำหนิลูกชายว่าทำไมถึงจำน้องไม่ได้ไปบ้างแต่สุดท้ายก็ยิ้มอย่างพอใจเมื่อมุกตาภาแก้ต่างให้ชิษวัศว่าเป็นเพราะเธอที่ไม่ยอมบอกความจริงเองว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร

สิ้นสุดมื้อเย็นที่แสนอร่อย คุณอัญชิสาบอกให้ทั้งทวิดาร์และมุกตาภาไปรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นส่วนตัวท่านจะไปดูว่าแม่บ้านจัดผลไม้กันเรียบร้อยแล้วหรือยัง ซึ่งทั้งสองสาวก็พยักหน้ารับแต่โดยดี ในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งหรูหราแต่ก็แลดูอบอุ่นจึงเหลือเพียงแค่อาคันตุกะสาว เพราะชิษวัศได้ปลีกตัวไปตั้งแต่ข้าวยังไม่หมดจานเมื่อมีโทรศัพท์ด่วนจาก ‘ภูมิรพี’ ดูจากสีหน้าท่าทางน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว แต่เขากลับเลือกที่จะไม่บอกให้ใครรับรู้และเดินไปคุยธุระต่อในห้องทำงานเกือบครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ออกมา

“ไม่ต้องรอหรอกจ้ะมุก อีกนานเลยกว่าอาร์มจะมา”

มุกตาภาหันมามองคนที่อ่านใจเธอออกอย่างหมดจดด้วยความทึ่ง ทวิดาร์สามารถล่วงรู้ในความคิดของเธอแถมยังรู้นิสัยของชิษวัศเป็นอย่างดีว่าถ้าได้แตะงานแล้ว ต่อให้เอาช้างไปฉุดออกจากกองเอกสารก็ไม่สำเร็จ

“ทำไมพี่เฟลอร์ถึงรู้ล่ะคะ” หญิงสาวลองถาม แม้จะพอเดาได้บ้างว่าความสัมพันธ์ระหว่างชิษวัศและทวิดาร์นั้นพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยคบ แต่มุกตาภาก็ยังอยากรู้ให้แน่ใจในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่ ‘หลงรัก’ ชิษวัศมานาน

“ก็รู้จักกันมานานนี่นะ” ทวิดาร์บอกยิ้มๆ มองสาวน้อยหน้าตาน่ารักอย่างรู้ทัน มุกตาภาคงอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและชิษวัศเป็นอย่างไรแม้จะไม่ยอมถามออกมาตรงๆก็ตาม

“พี่เฟลอร์เป็นแฟนพี่อาร์มหรือคะ” ตัดใจถามออกไปแม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของทวิดาร์ก็ตาม แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป มุกตาภาก็รู้สึกใจฝ่อไม่น้อย

“ขอ...ขอโทษนะคะ มุกไม่น่าถามเรื่องส่วนตัว” หญิงสาวจึงรีบขอโทษขอโพยเพราะกลัวอีกฝ่ายจะโกรธ หากทวิดาร์กลับหัวเราะขึ้นมาเบาๆพร้อมกับโบกไม้โบกมือเพื่อให้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับคำถามของมุกตาภา

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอกจ้ะมุก พี่ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย” ดวงหน้าสวยส่งรอยยิ้มหวานให้คนอายุน้อยกว่ามุกตาภามองภาพตรงหน้าด้วยแววตาชื่นชม เท่าที่สัมผัสได้ทวิดาร์เป็นผู้หญิงที่สวยมากแถมยังไม่ถือตัว ช่างพูดช่างคุย ใครได้อยู่ใกล้ก็ล้วนแต่สบายใจ เป็นผู้หญิงที่ทำให้คนรอบตัวยิ้มและมีความสุขตามเธอได้

“แล้วพี่ก็ไม่ได้เป็นแฟนอาร์มด้วย ‘เคย’ เป็นต่างหาก”

“คะ?” มุกตาภาย้อนถามเสียงสูงเมื่อได้ยินคำว่า ‘เคย’ หลุดออกจากปากของทวิดาร์ “ละ...แล้วทำไมถึง...”

“เลิกกันน่ะเหรอ” ทวิดาร์ช่วยต่อประโยคคำถามให้จบ มุกตาภาพยักหน้ารับ

“คงเพราะพี่ไม่มีความอดทนมากพอล่ะมั้ง” คำตอบที่พูดด้วยน้ำเสียงติดตลกทำให้คนที่ตั้งคำถามยิ่งไม่เข้าใจ จากที่พูดคุยมุกตาภารู้สึกได้ว่าทวิดาร์ไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าอารมณ์ หึงหวงโดยไม่มีเหตุผล ผู้หญิงคนนี้ฉลาด รู้จักคิดในทุกคำพูดที่เอ่ยออกมาและที่สำคัญไม่น่าจะใช่ผู้หญิงที่มีความอดทนต่ำ

“พี่เฟลอร์น่ะหรือคะไม่อดทน” น้ำเสียงที่ถามออกไปราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ทวิดาร์พูด

“คนที่จะคบกับอาร์มได้ตลอดรอดฝั่ง ความอดทนแค่มากไม่พอหรอกนะจ๊ะ แต่ต้องเป็นมากที่สุดต่างหาก”

“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” แม้เธอจะมั่นใจว่ารู้จักชิษวัศมานาน แต่ด้วยเวลาที่ไม่ได้เจอกันนานนับสิบปี ช่วงเวลาที่หายไปนั้นหญิงสาวสามารถพูดได้เต็มปากว่าเธอไม่รู้จักชิษวัศในช่วงเวลานั้นเลย

“อาร์มน่ะ...เป็นคนที่ถูกใจคนยาก ช่างเลือก ที่สำคัญชอบมีข้อห้ามเกี่ยวกับผู้หญิงที่ตัวเองจะคบเยอะแยะไปหมด”

“ข้อห้าม?” มุกตาภาถามกลับเสียงสูง ส่วนทวิดาร์พยักหน้ารับ ไม่รู้สึกขัดเคืองใจแม้แต่น้อยที่ต้องเล่าเรื่องของชิษวัศในช่วงเวลาที่คบหาดูใจให้มุกตาภาฟัง เพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหญิงสาวผู้นี้รู้ ‘ข้อต้องห้ามของชิษวัศ’ เธอจะทำอย่างไรกับปัญหาที่ต้องเผชิญ

“อาร์มจะไม่คบกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าตัวเองจ้ะ เขาบอกว่าเด็กเกินไป”

มุกตาภามองหน้าคู่สนทนาด้วยความรู้สึกราวกับว่าโลกได้ถล่มลงตรงหน้า ความหวังทั้งหมดดับวูบลงดั่งเปลวเทียนต้องลม หัวใจแลดูมืดมนจนเธอหาหนทางที่จะก้าวต่อไปยากเหลือเกิน หญิงสาวรู้ดีว่าถ้าสิ่งไหนชิษวัศบอกว่า ‘ไม่’ แล้ว เขาจะไม่มีทางเปลี่ยนใจโดยเด็ดขาด ยิ่งเป็นข้อต้องห้ามที่ตั้งด้วยตัวเองยิ่งไม่มีทางที่เขาคิดจะคืนคำ

“ทำไมล่ะคะ” ถาม...เพราะอยากรู้ว่าทำไมชิษวัศต้องตั้งข้อห้ามอย่างนั้นเพื่อปิดกั้นโอกาสของตัวเอง และถาม...เพื่อที่จะได้รู้ว่าเธอยังมีโอกาสเท่าใดที่จะทำให้เขา ‘เปลี่ยนใจ’

เมื่อเห็นสาวตรงหน้าถามด้วยแววตาประกายแห่งความหวัง คนเล่าอย่างทวิดาร์จึงลอบยิ้มโดยไม่ให้คนฟังได้เห็น ช่วงขาเรียวสวยตวัดพาดในท่าไขว่ห้าง ก่อนจะเท้าแขนทั้งสองข้างลงบนหมอนอิงบนตักด้วยท่วงท่าสบายๆ

“เพราะตรรกะของผู้ชายที่ชื่อชิษวัศมันแปลกกว่าคนอื่นน่ะสิ อาร์มน่ะ...ไม่ชอบผู้หญิงที่ไม่มีความคิด ขี้งอน ไร้เหตุผล ความอดทนต่ำ ก็เลยเลือกที่จะคบคนที่อายุใกล้ๆกับตัวเองเข้าไว้ ถ้าน้อยกว่า...ผู้ชายคนนี้ตัดออกจากตัวเลือกของตัวเองทั้งหมด เพราะคิดว่าถ้าคบกันไปก็คงจะคุยกันไม่รู้เรื่องสู้คบกับคนที่อายุใกล้เคียงกันไม่ได้ คุยกันรู้เรื่องกว่า”

“นิสัยใจคอมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุนี่คะ” มุกตาภาแย้ง หญิงสาวคิดว่าการที่คนเราจะมีนิสัยอย่างไรมันขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของแต่ละคน บางคนถึงจะอายุจะน้อยแต่ก็มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และความคิดสูง ทำไมชิษวัศถึงต้องเอาเรื่องอายุมากำหนดอะไรอย่างนี้ด้วย มันไม่เห็นจะเข้าท่าเลย

“พี่ก็เคยแย้งไปเหมือนกัน แต่คนหัวดื้อก็ยังดึงดันที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง มีครั้งนึงอาร์ทเคยบอกพี่มาเหมือนกันว่าอาร์มเคยชอบกับรุ่นน้องสมัยเรียนมัธยม แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงก็บอกเลิกไปด้วยเหตุผลที่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้คิดกับอาร์มในฐานะแฟน อาจจะเป็นสาเหตุนี้ที่ทำให้อาร์มสร้างข้อห้ามนี้ขึ้นมา เพราะหลังจากวันนั้นอาร์มก็ประกาศว่าจะไม่คบผู้หญิงที่เด็กกว่าตัวเองอีกเด็ดขาด”

“พวกชอบเอาเรื่องฝังใจมาใช้มองโลกในแง่ร้าย”

ทวิดาร์ปล่อยหัวเราะพรืดกับคำปรามาสของสาวตรงหน้าและเมื่อเห็นว่าทวิดาร์หัวเราะมุกตาภาจึงหลุดหัวเราะตาม ไม่รู้ว่าป่านนี้ชิษวัศจะทำงานไปจามไปแล้วกี่รอบที่โดนนินทาแกมต่อว่าจากทั้งเธอและมุกตาภา ยิ่งมองใบหน้ามนรูปไข่ของคนที่อ่อนวัยกว่ายิ่งรู้สึกว่ามุกตาภาเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก เข้ากับคนง่ายแถมยังมีความคิดความอ่านเกินอายุ ถ้าไม่ติดเพียงเรื่องอายุ ทั้งรูปลักษณ์และคุณสมบัติประกอบกัน ชิษวัศไม่มีทางปล่อยให้สาวน้อยคนนี้หลุดมือไปเป็นแน่ แล้วเธอเล่า...กลับมาหาคนที่เคยเป็น ‘อดีตคนรัก’ อีกครั้งด้วยเหตุผลใด กลับมา...เพื่อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หรือกลับมา...เพราะต้องการเขี่ยถ่านไฟเก่าให้คุขึ้นมา...อีกครั้ง

...ไม่รู้สินะ...ตอนนี้เธอก็ยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าเธอ...กลับมาเพราะอะไร...

“นินทาอะไรผมหรือเฟลอร์” เสียงของคนต้นเรื่องดังแว่วมาพร้อมกับร่างของเจ้าตัวที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างทวิดาร์

“ไม่ได้นินทาอะไรอาร์มสักหน่อย” ไม่พูดเปล่า...ท่อนแขนกลมกลึงคล้องเกี่ยวกับท่อนแขนของคนข้างตัวไว้หลวมๆ

“ใช่มั้ยจ๊ะมุก" แถมยังหันมาถามคนที่นั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามด้วยต่างหาก

มุกตาภามองภาพของสองหนุ่มสาวด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปอย่างบอกไม่ถูกใจหนึ่งก็ชื่นชมเพราะทั้งคู่แลดูเหมาะสมกันเหลือเกินทั้งรูปร่างหน้าตา หน้าที่การงานและฐานะทางสังคม แต่ใจหนึ่งก็รู้สึกอิจฉา อยากเข้าไปแทรกกลางระหว่างชิษวัศและทวิดาร์ให้รู้แล้วรู้รอด อยากจะบอกกับทวิดาร์ว่าอย่าเข้าใกล้พี่อาร์มเพราะเธอ ‘หวง’ หญิงสาวรู้สึกเกลียดตัวเองเหลือเกินที่มีความคิดร้ายกาจอย่างนี้ ทั้งที่ทวิดาร์ก็แสนจะดีกับเธอ แต่เธอดันมีความรู้สึกอิจฉาอย่างนี้ได้อย่างไรกัน

“ค่ะ” น้ำเสียงที่ตอบกลับไปเบาแสนเบากับสายตาที่หลุบต่ำทำให้ชิษวัศอดที่จะมองอย่างเป็นห่วงไม่ได้ เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามาร่วมวงสนทนากับพวกเธอ ชายหนุ่มยังได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งคู่อยู่เลย หากพอเขาเข้ามาสีหน้าของมุกตาภากลับเปลี่ยนไปไม่สดใสอย่างเดิม

หากยังไม่ได้ทันคุยอะไรมากไปกว่านี้คุณอัญชิสาก็กลับมาพร้อมกับผลไม้นานาชนิดทั้งแอปเปิ้ล สาลี่ ฝรั่ง ชมพู่ และองุ่นจากไร่ของมุกตาภามาเป็นของหวานสำหรับอาหารเย็นมื้อนี้ ส่วนการสนทนาทั้งหมดก็รวบเบ็ดเสร็จอยู่ที่นายหญิงของบ้าน คุณอัญชิสาชวนคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้สารพัดตามประสาคนแก่ขี้เหงาเพราะปกติลูกชายตัวดีก็กลับบ้านดึกดื่นเลยไม่ค่อยจะได้คุยกัน วันนี้มีหลานสาวน่ารักทั้งสองคนมาเยี่ยมเยียน การสนทนาประสาผู้หญิงโดยมีชิษวัศร่วมนั่งฟังแต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นแทรกได้เลยจึงลากยาวจนจวนเจียนจะเที่ยงคืนท่านถึงจะยอมปล่อยให้ทวิดาร์และมุกตาภากลับไป

หน้าที่เดินมาส่งอาคันตุกะสาวต่างวัยจึงเป็นงานที่ชิษวัศได้รับมอบหมายจากมารดา ขับรถเวลาประมาณนี้สำหรับทวิดาร์ชายหนุ่มไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ จะห่วงก็แต่อีกคน กลัวว่าไปหมดว่าเธอจะประสบอุบัติเหตุ เพราะปกติมุกตาภาจะกลับบ้านทันทีหลังเลิกงาน น้อยครั้งนักที่จะกลับดึกขนาดนี้ มันก็เลย...ทำให้ชิษวัศอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

...เพราะเธอเป็นน้องสาว...

“หนูมุกไม่ง่วงแน่นะ จะให้พี่ไปส่งมั้ย ทางก็ดูมันให้ดีๆ ไม่ต้องรีบขับเข้าใจหรือเปล่า พอถึงบ้านแล้วโทรกลับบอกพี่ด้วย”

คำถามผสมปนเปกับคำสั่งที่ยาวเป็นขบวนทำเอามุกตาภาขมวดคิ้วมุ่น อยากรู้นักว่าถ้าเขาไม่รู้ว่าเธอคือหนูมุกในวันวานเขาจะเป็นห่วงอย่างนี้ไหม พอเห็นทวิดาร์แอบยิ้มเธอยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจที่ชิษวัศทำเหมือนว่าเธอเป็นเด็กที่เพิ่งสอบใบขับขี่ผ่านและต้องหัวถึงหมอนก่อนสามทุ่มไม่อย่างนั้นจะงอแงง่วงนอน

“มุกไม่ใช่เด็กนะ” น้ำเสียงที่พูดออกมานั้นติดจะขึ้นจมูก หญิงสาวพยายามย้ำกับชิษวัศมาเสมอว่าเธอไม่ใช่เด็ก เลิกเอาอายุมาเป็นตัวชี้วัดเรื่องของหัวใจเสียที

“หนูมุกก็ยังเด็กจริงๆนั่นแหละ”

ประโยคที่ตั้งใจจะล้อเลียนของผู้พูดแต่ดันสร้างอารมณ์โกรธผสมโมโหให้กับผู้ฟังมุกตาภาที่กำลังจะเอื้อมมือเปิดประตูรถตัดสินใจหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่กำลังยิ้มยั่วเธอ ร่างสูงของชิษวัศถอยหลังไปครึ่งก้าวเนื่องจากแรงโถมของร่างบอบบางที่โถมตัวเข้ามา กลิ่นน้ำอบไทยอ่อนๆลอยขึ้นมาแตะจมูกอีกครั้ง ลมหายใจแทบจะผสมกลายเป็นลมหายใจเดียวกันเมื่อริมฝีปากบางประทับแนบเข้ากับริมฝีปากหยักลึก แม้สมองจะบอกให้ผลักเธอออกแต่หัวใจกลับค้านหัวชนฝา หัวใจที่กำลังร่ำร้องและต้องการที่จะตอบกลับในสิ่งที่มุกตาภาเป็นคนเริ่มต้น

ไม่นานนักคนที่ถูกกล่าวหาว่า ‘เด็ก’ ก็ผละออกจากคนที่ถูกเธอขโมย ‘จูบ’ ริมฝีปากบางเม้มนิดๆ ดวงตาคู่โตสบมองคนตัวโตนิ่ง ที่ทำไปไม่ใช่ว่าเธอไม่มียางอาย หญิงสาวยังมั่นใจว่าตัวเองยังมีสิ่งนั้นอยู่เต็มเปี่ยม เพราะตอนนี้เธอแทบอยากที่จะแทรกแผ่นดินหนีไปให้พ้นๆจากตรงนี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความอยากเอาชนะจึงทำให้ตัดสินใจทำเรื่องน่าอายไปอย่างนั้น เพราะมุกตาภาอยากให้ผู้ชายคนนี้ได้รู้ไว้...ว่าเธอ...ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป...ไม่ใช่เลย

“มุกไม่ใช่เด็กแล้ว” หญิงสาวทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะก้าวขึ้นรถและขับออกไปจากรวดเร็วโดยหารู้ไม่ว่าการกระทำของตัวเองนั้นราวกับราดน้ำมันลงในกองไฟที่กำลังจะมอดไหม้ให้กลับมาลุกโชติช่วงอีกครั้ง

“เป็นการพิสูจน์ที่เห็นผลดีนะเนี่ย” อีกคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพูดขึ้นลอยๆ “ไว้วันหลังเฟลอร์ยืมมาใช้บ้างดีรึเปล่านะ” แล้วก็ได้สายตาคมกริบจากชิษวัศมาเป็นของรางวัลตอบแทน ทวิดาร์หัวเราะร่วน นานทีปีหนจะเห็นผู้ชายอย่างชิษวัศยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะทำอะไรไม่ถูกเพราะถูกจูบนี่ยิ่งไม่เคยได้เห็น

“ไปก่อนนะอาร์ม” ทวิดาร์ยิ้มหวาน แกล้งก้าวเข้าประชิดใกล้ตัวชิษวัศ คราวนี้ร่างสูงรีบถอยหลังทันทีเพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย

“ไม่ต้องหวงรอยจูบของน้องมุกขนาดนั้นก็ได้น่ะอาร์ม เฟลอร์ไม่จูบซ้ำรอยเดิมหรอก ถ้าจะจูบ...เฟลอร์จะประทับรอยใหม่” น้ำเสียงนั้นทีเล่นทีจริงจนชิษวัศจับจุดไม่ได้ ทำได้เพียงแค่มองตามร่างระหงที่ก้าวขึ้นรถและขับออกไป

“นี่มันวันอะไรกันวะ!” ชายหนุ่มอดที่จะสบถกับตัวเองเบาๆไม่ได้ วันเดียวเขาถูกผู้หญิงสองคนปั่นหัวสองครั้งติดๆกัน คนหนึ่งเป็นอดีตคนรัก ส่วนอีกคนก็เป็นผู้หญิงที่เขาถูกใจแต่ต้องหาเหตุผลต่างๆนานามาประกอบกันเพื่อกันเธอให้พ้นไปจากพื้นที่ของหัวใจ เพราะเธอคือผู้หญิงที่อยู่ใน ‘ข้อต้องห้าม’ แต่แล้ววันนี้มุกตาภาได้ทำให้ความพยายามทุกอย่างกลับกลายเป็นศูนย์เผลอๆอาจจะติดลบเสียด้วยซ้ำ กำแพงที่ก่อตัวสูงยิ่งกว่าพนังกั้นน้ำในฤดูน้ำหลากพังครืนลงมาอย่างรวดเร็วเพียงแค่สัมผัสจากริมฝีปากเธอ

...หนูมุก...ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้นจะโทษพี่ไม่ได้นะ จะมาหาว่าพี่อาร์มร้ายไม่ได้เชียวนะ ดันมาก่อกวนหัวใจกันอย่างนี้ ถ้าพี่เกิดคิด ‘แหกข้อห้าม’ ขึ้นมาจริงๆ พี่จะเอาคืนด้วยการคิดดอกเบี้ยยิ่งกว่าเงินกู้นอกระบบอีกคอยดู!...

--------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนหน้า...เปลี่ยนบรรยากาศไปหัวหินกันค่ะ

ใครที่คิดถึงคุณอาจารย์กับพี่อาร์ทตอนหน้าเจอกันนะคะ :D


ตอนคอมเมนท์กันจ้า...


ปรางขวัญ : มาคราวนี้หนูมุกเราบุกบ้างค่ะ เพราะมันไม่ไหวจริงๆ คำก็เด็กสองคำก็เด็กเลยพิสูจน์ให้เห็นกันซะบ้าง อิอิ ปล. เปลี่ยนจากสองตอนเป็นมาไวกว่ากำหนดนะคะ XD

anOO : ต้องบอกว่าเกือบจะโดนค่ะ แต่พอพี่อาร์มเห็นน้ำตาก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ :)

nunoi : ใช่เลยค่ะ เล่นไปขโมยจูบเขามาซะอย่างนั้น ต้องโดนเอาคืนแน่นอนเลย ><

violette : คราวนี้ถูกใจหนูมุกไหมคะ ส่วนพี่อาร์มปอแก้วหวังว่าตอนต่อๆไปจะทำให้คุณ violette หายงอนได้นะคะ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ :)

Amata : ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ ขอให้คุณ Amata มีความสุขเช่นกันค่ะ ^^




ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ม.ค. 2555, 11:19:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ม.ค. 2555, 11:42:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1870





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 7   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 9 >>
violette 3 ม.ค. 2555, 12:47:17 น.
หนูมุกสุดยอดจริงๆด้วยค่ะ แต่แห้ม นายอาร์มยังหวั่นไหวกับเฟลอร์เปล่าเนี่ย
ไม่ต้องหวั่นไหวแล้ว ลุยจีบหนูมุกเต็มที่ไปเล้ยยย เนอะๆ


anOO 3 ม.ค. 2555, 14:01:29 น.
ไม่คิดว่าหนูมุกจะพิสูจน์ความเป็นเด็กด้วยมุกนี้
พี่อาร์มเลยอึ้งกินไปเลย คราวนี้คงตัดสินใจง่ายกว่าเดิมแล้วล่ะ


roseolar 3 ม.ค. 2555, 15:36:02 น.
หนูมุก ระวังพี่อาร์มคิดดอกนะนั่น
เปิดมาเห็นดีใจมากค่ะ เป็นของขวัญวันปีใหม่ที่พิเศษจริงๆนะ ^ ^


nunoi 4 ม.ค. 2555, 18:27:13 น.
555 สุดยอดมาก หนูมุก


WallyValent 5 ม.ค. 2555, 10:47:42 น.
จะเอาไงก็เอาสิพี่อาร์ม สองจิตสองใจแบบนี้ เดี๊ยะๆ xD
เดี๋ยวจับพิสูจน์เลยว่าเราก็โตแล้วเหมือนกัน 555+


Amata 5 ม.ค. 2555, 21:36:24 น.
แล้วจะคอยดูนะคะคุณชิษวัศ ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account