อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 12

ตอนที่ 12

พรายจันทร์ถอนหายใจอย่างหนักใจหลังจากวางสายของตะวันฉายที่โทรมาบอกว่าไม่สามารถมารับได้และบอกอีกว่าจะส่งคนมารับแทน ซึ่งเธอจะไม่หนักใจเลยหากว่าคนที่มารับจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขา พัดยศ! เธอไม่แน่ใจว่าการได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาจะทำให้ความรู้สึกที่เธออุตส่าห์เก็บกดมันให้ลึกลงไปในใจจะไม่แสดงออกมา

“เฮ้อ!หรือว่าจะหนีกลับก่อนดีนะ”ร่างบางบ่นพึมพำกับตัวเองและก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องหนีกลับก่อนให้ได้ แต่แล้วในตอนเย็น...

“น้องจันทร์รอพี่นานไหม พี่ลืมไปเลยว่าตอนนี้มันช่วงเลิกงาน รถเลยติดไปหน่อย ขอโทษนะครับ”พัดยศที่รีบลงจากรถมาหาคุณครูสาวที่ยืนรอ หญิงสาวส่งยิ้มแหยๆให้ก่อนจะก้าวขึ้นรถเมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูให้

“น้องจันทร์จะไปที่ไหนต่อไหมครับ หรือจะกลับบ้านเลย”พัดยศถามหลังจากขึ้นมาบนรถแล้ว พรายจันทร์ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะต้องอ้าปากค้างเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยชวน

“ถ้างั้นไปทานข้าวกันไหมครับ พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย ชักเริ่มหิวแล้วสิ”ชายหนุ่มพูดพลางเอามือลูบท้องแสดงให้เห็นว่าหิวจริงๆ พรายจันทร์มองท่าทางนั้นของเขาอย่างขำๆก่อนจะตอบตกลง

“ก็ได้ค่ะ ร้านไหนก็แล้วแต่พี่พัดเลย”


“น้องจันทร์ทานได้ไหมครับ”พัดยศถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ เมื่อเห็นอาการนิ่งเงียบนั่งจ้องชามสีชมพูของหญิงสาวร่างบอบบางที่เขาพามาที่ร้านแห่งนี้ ร้านบะหมี่ที่มีขายทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย พรายจันทร์เงยหน้าจากชามบะหมี่ที่เธอนั่งจ้องอยู่ก่อนตอบ

“ได้ค่ะ ทำไมเหรอคะ”

“เปล่าครับ พี่แค่สงสัยว่าน้องจันทร์จะถามอาหารข้างทางแบบนี้ได้ไหมเท่านั้นเอง แต่พอได้ยินอย่างนี้พี่ก็เบาใจ เพราะว่าพี่ลืมตัวไป นึกว่ามากับน้องดาว รายนั้นเขาไม่ชอบร้านหรูๆ พี่ก็เลยติดไปด้วย ไม่ทันได้คิด”

“ทานได้ค่ะ จันทร์ไม่เรื่องมากอยู่แล้ว แต่จันทร์สงสัยเท่านั้นเองว่าพี่พัดก็ทานอย่างนี้ด้วย”หญิงสาวสารภาพความจริงถึงสิ่งที่เธอนิ่งคิดอยู่เมื่อครู่ เพราะบุคลิกของเขาไม่เข้ากับร้านอาหารริมถนนแบบนี้เลยจริงๆ และยิ่งบวกกับเสื้อผ้าที่หรูหรามียี่ห้อ ทำให้ลูกค้าภายในร้านหลายคนหันมามองโต๊ะที่พวกเธอนั่งกันใหญ่นับตั้งแต่ที่เดินเข้ามา ยังดีที่เขาไม่ใส่สูทลงมาด้วยไม่งั้นคงกลายเป็นเป้าสายตามากกว่าเดิม

“ครับ พี่ทานมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยแล้วล่ะ เพื่อนๆพี่ ก็พวกไอ้เมืองนั่นแหละ น้องจันทร์ก็รู้นะว่าเจ้าพวกนั่นมันแนวไหน พี่ก็ต้องไปตามนั้น ไปๆมาๆก็เลยชิน เป็นเรื่องธรรมดามากเลย”ชายหนุ่มพูดปนหัวเราะ ก่อนจะจัดการปรุงบะหมี่ตรงหน้า พรายจันทร์มองอีกฝ่ายปรุงบะหมี่ยิ้มๆก่อนจะถาม

“พี่พัดไม่มีเพื่อนที่คณะบ้างเหรอคะ จันทร์เห็นพี่พัดอยู่แต่กับพวกพี่เมือง”

“ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ กับไอ้พวกนั้นพี่รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย เลยรู้ใจกันมากกว่าเพื่อนมหา’ลัยน่ะจ๊ะ” พัดยศเงยหน้าตอบ ก่อนจะจัดการส่งตะเกียบพร้อมช้อนให้หญิงสาว พรายจันทร์รับมาช้าๆหญิงสาวแอบมองใบหน้าคมที่ก้มลงจัดการกับบะหมี่อย่างหิวโหย หมดมาดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในทันใด ความสุขเล็กๆแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจราวกับว่าเป็นหยดน้ำที่ตกลงกระทบผืนดินยังความชุ่มชื้นไปทั่วย่อมหญ้า แม้ความสุขที่เกิดขึ้นจะมาจากการแอบรักคนมีเจ้าของ แต่สำหรับเธอไม่ต้องการที่จะครอบครอง แค่ได้มองก็สุขล้นหัวใจ

ภายหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว พัดยศก็ขับรถมาส่งพรายจันทร์ที่บ้านและอยู่คุยกับคุณหญิงผกามาศ คุณมินตราและคุณบุษบาที่มานั่งคุยเล่นกับอีกสองคนอยู่พอดีสักพักใหญ่ก็ขอตัวกลับโดยปฏิเสธคำชวนทานข้าวเย็นของคุณหญิงเนื่องจากมีนัดกับมารดาที่ของให้ไปงานเลี้ยงเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ของกระเป๋าแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งที่ท่านเป็นลูกค้าประจำพอดีโดยมีพรายจันทร์เดินออกมาส่งด้วยความเต็มใจ

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่พัดที่ไปรับจันทร์”

“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่รถน้องจันทร์จะซ่อมเสร็จวันไหนล่ะ”

“เห็นพี่ตะวันบอกว่าอาทิตย์หน้าค่ะ”หญิงสาวบอกตามที่พี่สาวคนสวยซึ่งเป็นผู้อาสาเอารถไปเข้าอู่ให้เธอบอกมา พัดยศนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะถามต่อ

“อ้าว แล้วอย่างนี้น้องจันทร์จะไปทำงานยังไงครับ เพราะรถที่บ้านนี้ก็มีคนใช้ทุกคัน”

“ขาไปคงติดรถไปกับคุณพ่อไม่ก็พี่ตะวัน แต่ขากลับนี่คงจะต้องอาศัยแท๊กซี่แล้วล่ะค่ะ”พรายจันทร์บอกอย่างที่คิด ก่อนชะงักเมื่ออีกฝ่ายพูดบางอย่างออกมา

“เอางี้แล้วกัน ขากลับเดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ...”พัดยศพูดอย่างหวังดี “...ยังไงซะโรงเรียนของน้องจันทร์ก็เป็นทางผ่านอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก ไม่งั้นเดี๋ยวดาวรู้เข้าพี่จะโดนว่าเอา”

พรายจันทร์หน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินว่าสาเหตุจริงๆที่เขาจะไปรับเธอก็เพราะกลัวน้องสาวคนเล็กของเธอ หรือก็คือคนรักของเขาจะโกรธเอา น้ำใสๆคลอหน่วยแต่เธอก็พยายามขืนไว้ไม่ให้มันไหลออกมา สุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่พยักหน้าตกลงเมื่อเขาถามซ้ำอีกครั้ง

“งั้นก็ตามนี้นะครับ พรุ่งนี้ตอนเย็นเจอกัน”พัดยศส่งยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไป ร่างบางมองตามหลังรถยุโรปคันหรูของเขาไปอย่างเลื่อนลอย ความเจ็บปวดในหัวใจนั้นเพิ่มพูนจนกลายเป็นความชินชา สิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้ก็คือ เธอจะขอเป็นคนเห็นแก่ตัวสักครั้ง แค่อาทิตย์เดียวก็ยังดี ขอเธอได้ตักตวงความสุขที่ได้อยู่ใกล้กับเขาให้ได้มากที่สุดก็พอ แล้วจากนั้นคงถึงเวลาที่เธอจะต้องตัดใจเสียที

พรายจันทร์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่อย่างคนที่ตัดสินใจเด็ดขาด เธอตั้งใจจะจบความหวังที่รอคอยมานานลงเสียที เพราะไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเพราะฉะนั้นหลังจากอาทิตย์หน้าไปเธอก็จะคอยช่วยเหลือความรักของเขากับน้องสาวของเธออย่างเต็มที่ หญิงสาวหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะได้ไปทำงานของตนเอง หารู้ไม่ว่าการที่เธอไม่ปฏิเสธความหวังดีของเขาในวันนี้จะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล...


“ไงจ๊ะ น้องรักของพี่ วันนี้นายพัดยศเขามาส่งเธออีกหรือเปล่า”ตะวันฉายส่งเสียงทักทายน้องสาวที่นั่งตรวจการบ้านเด็กนักเรียนอยู่ในห้องของตนเองอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะรีบปิดประตูแล้วเดินเข้ามาใกล้พรายจันทร์ที่ตอนนี้วางปากกาในมือลงแล้วหันมาส่งยิ้มให้พี่สาว

“ค่ะ พี่พัดจะมาส่งจนกว่ารถจะเสร็จ ว่าแต่เขาจะเอามาส่งให้หรือว่าให้จันทร์ไปรับเอง”

“เดี๋ยวพี่ให้คนไปรับรถเธอเอง แล้วเป็นไง ไปไหนกันมาบ้าง”

“ไปไหนอะไรคะ”พรายจันทร์ถามพี่สาวอย่างสงสัย ตะวันฉายส่งเสียงจึ๊กจั๊กก่อนจะขยายความ

“ก็เธอกับนายพัดยศไงล่ะยะ หมอนั่นไปรับเธอสองวันแล้วนะ อย่าบอกนะว่าไม่ได้พาเธอไปไหรเลยน่ะ”

“ก็แล้วทำไมพี่พัดต้องพาจันทร์ไปไหนด้วยล่ะคะ จันทร์ไม่ได้เป็นอะไรกับเขานี่นา เขาอุตส่าห์มาส่งก็ดีเท่าไหร่แล้ว”ร่างบางตอบกลับเหมือนไม่ได้คิดอะไรกับชายหนุ่มแล้ว แต่แน่นอนว่ามีหรือตะวันฉายจะดูไม่ออก ร่างเพรียวมองท่าทางคล้ายคนตัดใจของน้องสาวอย่างหงุดหงิด ผลสุดท้ายหญิงสาวทนไม่ไว้จึงโวยวายออกมา

“โง่!แกมันโง่ ฉันอุตส่าห์หาทางให้แกได้อยู่กับหมอนั่นทุกวันตั้งอาทิตย์นึง แต่แกกลับปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แกนี่มันไม่น่าเกิดมาเป็นน้องฉันเลยจริงๆ!”

“ค่ะ จันทร์ยอมรับว่าจันทร์โง่ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างความถูกต้องกับความต้องการจริงแล้ว จันทร์ขอเลือกอย่างแรกค่ะ แค่ได้อยู่ใกล้กับเขาทุกวันแค่ไม่กี่นาทีอย่างนี้ก็ดีที่สุดแล้ว แล้วก็หลังจากนี้จันทร์จะตัดใจจากพี่พัด พี่ตะวันไม่ต้องมายุ่งเรื่องของจันทร์หรอกค่ะ...”พรายจันทร์โต้คำพูดพี่สาวกลับอย่างมั่นคง แม้แผลในใจจะยังไม่หายดีก็ตาม ก่อนจะพูดไล่อีกฝ่ายทันที

“...แล้วก็หากพี่ตะวันไม่มีอะไรแล้ว ก็เชิญกลับห้องของพี่ไปด้วยนะคะ จันทร์จะทำงาน”

“แก!แกกล้าไล่ฉันเหรอยายจันทร์”ตะวันฉายตาโตมองน้องสาวแสนเรียบร้อยที่วันนี้กล้าไล่เธอออกไปจากห้อง ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน มีแต่เธอที่เป็นฝ่ายไล่ แต่พรายจันทร์ยังคงนิ่งเงียบ ตะวันฉายเลยได้แต่ฟึดฟัดออกจากห้องไปทันที ร่างบางมองตามหลังของพี่สาวคนโตไปอย่างสบายใจที่ในที่สุดก็มีวันที่เธอเป็นต่อตะวันฉายก่อนจะหันไปสนใจงานของตนเองต่อ

ทางด้านตะวันฉายภายหลังจากโดนไล่ออกมาแล้ว ร่างเพรียวก็เก็บความไม่พอใจไประบายใส่สาวใช้คนสนิทที่ยกเอาน้ำเย็นมาให้พอดี

ซ่า!

“ว้าย!คุณตะวันเอาน้ำมาสาดใส่แววทำไมคะเนี่ย”แววที่เนื้อเปียกโชก ถามเจ้านายสาวอย่างงุนงง เพราะอยู่ดีๆก็โนน้ำสาดใส ตะวันฉายมองอีกฝ่ายตาขวางก่อนจะตรงรี่เข้ามาทุบตีอีกฝ่ายทันที เมื่อพอใจแล้วร่างเพรียวจึงเดินหอบไปนั่งยังเตียงของตน ทิ้งให้สาวใช้คนสนิทที่หน้าตาเขียวช้ำนั่งร้องไห้กระซิกๆอยู่ที่เดิม

“เงียบเดี๋ยวนี้นะนังแวว! จะร้องหาอะไรของแก แค่นี้ไม่ตายหรอก”ตะวันฉายสั่งสาวใช้คนโปรดด้วยความรำคาญ แววจึงรีบเงียบทันทีเพราะกลัวจะโดนทุบอีก แต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เป็นพักๆ ทั้งห้องเงียบกริบอยู่พักหนึ่งตะวันฉายก็เปิดปากถามแววทันที

“นังแวว สองวันมานี้นายพัดยศเขามาส่งยายจันทร์แล้วก็กลับไปเลยเหรอ”

“ค่ะ คุณตะวัน คุณตะวันถามทำไมเหรอคะ” แม้จะยังกลัวๆอารมณ์ของเจ้านายสาวอยู่แต่แววก็ทำใจกล้าถามกลับไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“สอด! ไม่ต้องมายุ่งให้มากนัก เดี๋ยวจะโดนอีก”แววรีบกระถดตัวให้พ้นจากรัศมีฝ่ามือพิฆาตของตะวันฉายทันที ร่างเพรียวมองสาวใช้อย่างหงุดหงิด ก่อนจะเลิกใส่ใจเมื่อมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า

“แล้วแกรู้ไหมว่านังดาวมันจะกลับมาวันไหน”

“เห็นคุณบุษบอกกับคุณผู้หญิงเมื่อวานว่าคุณดาวจะกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ”แววบอกตามที่ตนได้ไปแอบฟังเจ้านายคุยกันมา ตะวันฉายนิ่วหน้าเมื่อได้ฟังคำตอบก่อนสรุปในใจว่าตนควรจะทำอะไรบางอย่างก่อนที่ทุกอย่างจะพังพินาศ

“ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว นังแววพรุ่งนี้คุณแม่กับคุณย่าจะออกไปไหนหรือเปล่า”

“คงไม่ล่ะค่ะ เพราะคุณผู้หญิงกับคุณท่านจะออกจากบ้านวันเว้นวัน วันนี้ออกไปแล้ว พรุ่งนี้ก็ไม่น่าจะออก”

“ดี! นังแววเดี๋ยวฉันจะให้แกช่วยอะไรฉันหน่อย ถ้าสำเร็จ...”ร่างเพรียวหยุดพูดก่อนจะเดินไปเปิดกระเป๋าถือ หยิบธนบัตรสีเทาขึ้นมาห้าใบก่อนจะส่งให้คนสนิทที่ตาโต รีบยื่นมาหยิบอย่างดีใจ ตะวันฉายยิ้มมุมปากก่อนจะพูดต่อ “...แกค่อยมาเอาเพิ่มอีกห้าพัน”

“หมื่นนึงเหรอคะ คุณตะวันจะให้แววหมื่นนึงเลยเหรอคะ”

“ใช่!หนึ่งหมื่นจะเป็นของแกหากแผนของฉันเป็นไปด้วยดี แต่ถ้าหากไม่สำเร็จห้าพันหลังแกไม่ต้องเอา เข้าใจไหม”

“เข้าใจค่ะ เข้าใจ เพื่อเงินหมื่นนึงคุณตะวันจะให้แววไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ได้เลยค่ะ”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกย่ะ แค่คอยทำตามที่ฉันสั่งก็พอ เดี๋ยวพรุง่นี้ฉันจะบอกหน้าที่ของแก แต่ตอนนี้ไปให้พ้นหน้าได้แล้ว ฉันจะพักผ่อน”ตะวันฉายไล่สาวใช้ออกไปทันที ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป


“แกแน่ใจแล้วนะ ว่าจะกลับบ้านวันนี้”เสียงเพื่อนรักที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้ดาวเหนือต้องวางงานในมือลง แล้วหันไปมอง

“อื้อ บอกแม่ไว้แล้ว”

แกโอเคแล้วหรือไง”ตรีทิพย์เดินเข้ามานั่งตรงกันข้ามกับเพื่อนที่ตอนนี้เริ่มหยิบงานขึ้นมาทำอีกครั้ง ขณะนี้ทั้งคู่อยู่ที่สวนหลังบ้านของตรีทิพย์แล้วก็เป็นวันที่สามแล้วที่เธอมาอาศัยบ้านของเพื่อนรักอยู่เพื่อพักหัวสมองและจิตใจจากเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต แม้จะได้ผลบ้างเพราะตอนนี้เธอไม่ใส่เรื่องที่ตะวันฉายก่อขึ้นแล้ว หากแต่เธอกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ต่างหาก และในเมื่อเธอสบายใจแล้วก็ได้เวลากลับบ้านซักที

ตรีทิพย์กอดอกมองเพื่อนอย่างกังวลในสุขภาพจิตของเพื่อน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆสำหรับคนที่มีพี่สาวนิสัยทรามอย่างตะวันฉาย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายยืนยันแล้วว่าจะกลับบ้านจะให้เธอทำอย่างไรได้นอกจากให้กำลังเพื่อนและคอยช่วยเหลืออยู่อย่างเดิม แต่มันก็ยังมีอีกเรื่องที่ทำให้เธอขุ่นใจนั่นก็คือ เรื่องหัวใจของพี่ชายเธอ ถ้าดาวเหนือกลับไปบ้านแล้วอย่างนี้เมื่อไหร่พี่เธอถึงจะได้มีโอกาสทำแต้มกับเขาบ้าง!

แม้ว่าพักนี้พัดยศจะยอมห่างจากดาวเหนือ ไม่มาตามตื้ออย่างเช่นช่วงแรกที่เพื่อนเธอออกปากขอเว้นระยะ แต่ก็ยังว่างใจไม่ได้เนื่องด้วยอีกฝ่ายไม่ได้ยอมเลิกแบบถาวร ทำให้พี่ของเธอไม่ยอมลงมือจีบดาวเหนือซักที แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร แถมมารดาก็ยังช่วยพูดแล้วก็ตาม แต่สุภาพบุรุษตลอดชาติอย่างพี่ตฤณก็ยังไม่ยอมเอนเอียงตาม ได้แต่บอกว่ารออีกหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะรอมาทั้งชีวิตแล้ว เล่นเอาเธอกับแม่ไปต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียว

“ขอบใจมากนะตาล ที่ให้ฉันมาพักใจที่นี่ และก็ขอโทษด้วยที่มารบกวน”ดาวเหนือละจากงานในมือ ก่อนจะบอกกับเพื่นอด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดึงให้คนที่จมอยู่ในภวังค์ความคิดต้องสะดุ้ง และเมื่อตรีทิพย์เรียบเรียงสติที่กระเจิงไปและรับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายพูดอะไรออกมา หญิงสาวจึงได้แต่เขวี้ยงค้อนไปให้

“งี่เง่า! จะมาขอโทษทำไมไม่ทราบยะ แกมาพักใจบ้านฉันมาหลายปีดีดักแล้วนะ ยังจะมาพูด มาพักนานๆทีไร พูดอย่างนี้ทุกที ถ้าแกพูดอีกคราวหน้านะ....”ตรีทิพย์ชี้นิ้วใส่หน้าเพื่อนที่มองมายิ้มๆไม่ได้มีความกลัว ก่อนจะพูดจนจบประโยค

“...เลิกคบ!”

“จ้าๆ แต่ขอบใจจริงๆนะ”

“คำขอบใจน่ะขอรับไว้ แต่คำขอโทษน่ะเอายัดใส่กล่องแล้วถ่วงหินให้จมทะเลไปเลยนะ อย่าให้ได้ยิน ว่าแต่จะกลับกี่โมง อยู่กินข้าวเย็นก่อนสิ”ตรีทิพย์พูดขู่ ก่อนจะชวนให้ทานอาหารเย็นก่อนกลับ ดาวเหนือชะงักเล็กน้อยก่อนจะหลบตาเพื่อนขณะตอบปฏิเสธ

“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวต้องกลับไปทำงานต่ออีก”

“โอ๊ย!งานของไอ้ขี้หลีนั่นช้าๆไปเลยก็ได้ อยู่กินข้าวกันก่อน หรือจะให้แม่มาพูดเอง”ตรีทิพย์โวยวายเพราะรู้ว่างานที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่นั่นคืองานของลูกค้าที่เธอเกลียดแสนเกลียด แต่ยังไงก็หนีไม่พ้น ใช่แล้ว! เขาก็คืออดีตลูกค้าที่เธอซัดซะน่วม เพราะอีกฝ่ายมาลวนลามเธอ ก่อนที่งานนี้จะถูกเปลี่ยนมือมาที่ดาวเหนือ แม้เพื่อนเธอจะบอกว่าไม่เห็นอีกฝ่ายจะมาทำท่ากะลิ้มกะเลี่ยอะไรอีก แต่เธอก็ไม่วางใจและตามไปด้วยทุกครั้งที่เพื่อนเธอต้องไปคุยงานกับอีกฝ่าย

“ไม่ต้อง!อยู่ก็ได้ แค่นี้ก็ต้องมาขู่”ดาวเหนือหน้ามุ่ยที่สุดท้ายก็แพ้เพื่อน ส่วนตรีทิพย์พอเอาชนะเธอได้แล้วก็วิ่งตัวปลิวกลับเข้าไปบอกคุณตรีเนตรทันที ดาวเหนือถอนหายใจ ที่เธอไม่อยากอยู่ก็เพราะยังไม่พร้อมที่จะเจอกับตฤณต่างหาก นับตั้งแต่ได้รู้ว่าเขามีคนที่แอบรักอยู่แล้ว (แต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวเอง) ก็ได้แต่พยายามถอยห่าง แม้จะยังไม่มั่นใจว่ารัก แต่ก็เริ่มรู้สึกดี หากเขามีคนที่รักอยู้แล้ว เธอก็ควรจะถอยห่างดีกว่าปล่อยให้หัวใจเจ็บในอนาคต


“ความจริง พี่พัดไม่ต้องมาส่งจันทร์แล้วก็ได้นะคะ ให้คนรถของที่บ้านไปรับก็ได้”พรายจันทร์บอกกับสารถีกิติมศักดิ์ที่ไม่ได้ลงมาด้วย พัดยศส่งยิ้มไปให้ก่อนจะตอบ

“น้องจันทร์ลืมไปแล้วเหรอครับว่าคุณลุงไปดูงานต่างจังหวัดแล้วเอาคนรถไปด้วย น้องจันทร์จให้เขามารับได้ไง”

“จันทร์ลืมน่ะค่ะ”หญิงสาวตอบ พร้อมส่งยิ้มแหยๆไปให้เพราะเธอลืมจริงๆ พัดยศมองท่าทางของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ก่อนจะแกล้งขู่

“ถ้างั้นก็เลิกเกรงใจได้แล้ว เข้าใจไหมครับ”

“ค่ะ พี่พัดเข้าไปทานข้าวเย็นก่อนไหมค่ะ”

“วันนี้คงต้องขอตัว พี่มีนัดคุยงานกับลูกค้าต่อครับ”พัดยศปฏิเสธก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือของตน พบมาใกล้เวลานัดแล้วก็รีบบอกลา

“ใกล้เวลาแล้วพี่ต้องขอตัวก่อน เจอกันพรุ่งนี้เวลาเดิมนะครับ น้องจันทร์”ชายหนุ่มส่งยิ้มก่อนจะปิดกระจกแล้วขับออกไปทันที พรายจันทร์ยืนมองตามไปพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะตัวชาวูบเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูที่ไม่ได้ยินมาหลายวันที่ด้านหลัง

“พี่จันทร์?”

"ยายดาว!!"



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2554, 06:37:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2554, 06:37:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 1671





<< ตอนที่ 11   ตอนที่ 13 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account