วิวาห์อารมณ์
เมื่อรักนั้นไม่ได้มาด้วยหัวใจ การครองเรือนจึงเต็มไปด้วยความร้าวรานใจ
Tags: อย่า ยอม แพ้

ตอน: ผิดพลาดของใคร

กำนันปริกและแม่วาด มาจากต่างจังหวัด เปรมมารอรับที่ท่ารถ ชายหนุ่มรับสัมภาระจากมือบิดาและมารดา ซึ่งขนมามาก แม่วาดเอ่ยอย่างไม่สบายใจนักว่า
“เรามาอย่างคนน้อยไม่สมหน้าสมตาของคุณหนูเลย สงสารเธอจริงๆ”
“แม่อย่าคิดมากเลยครับ”
“เปรมบอกเพื่อนให้มากันมากหรือเปล่า”
“ติดงานกันครับ” เปรมเอ่ยเลี่ยงไป เพราะความจริงเขาไม่บอกใครเลยนอกจากผู้ใหญ่คนสำคัญ ซึ่งคิดว่ามากพอแล้ว กำนันปริกเขมันมองลูกชายอย่างค้นหาความจริงว่าชายหนุ่มต้องการแต่งงานจริงหรือเปล่า เปรมเผลอมองบิดาแล้วหลบตาท่านวูบหนึ่ง กำนันยั้งคำถามไว้ เพราะไม่อยากให้ภรรยาได้ยิน
เที่ยงวันนั้นแม่วาดลงครัว กำนันปริก ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อกล้าม นุ่งผ้าขาวม้าอย่างถนัดตามประสาคนเคยชิน ท่านนั่งสนทนากับลูกชายซึ่ง สวมกางเกงสีเทาทรงกระบอก เสื้อยืดทหาร
บนโต๊ะมีของกินเล่น ซึ่งทั้งสองพ่อลูกไม่ชอบดื่ม แต่กำนันเห็นขวดเหล้าเปล่าวางทิ้งไว้ที่มุมระเบียง ท่านไม่ว่าอะไรเรื่องนี้ แต่ท่านถามเรื่องที่คาใจ
“ไม่ชอบใจในการแต่งงานนี้หรือเปรม”
“เปล่าครับ” เขาปฏิเสธทันที กำนันจึงเอ่ยย้ำเสียงหนักว่า
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี พ่อเป็นผู้ใหญ่ ถึงไม่มียศมีเกียรติอะไรที่จะประกันลูกได้ แต่พ่อเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งที่เมื่อทำอะไรลงไปแล้วต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด”
“พ่อหมายความว่าอย่างไรครับ”
“ถ้าไม่พอใจแต่งก็อย่ารับปากส่งเดชว่าแต่ง เพราะเมื่อแต่งกันไปแล้วมาเลิกราหย่าร้างกัน ผู้ใหญ่จะเสียได้”
เปรมนิ่งอึ้งไปในทันที แม่วาดถืออาหารซึ่งทำเสร็จแล้วมาวางให้ เปรมบอกมารดาว่าจะจัดหามาเอง แม่วาดจึงนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง เมื่อลูกชายไปแล้ว แม่วาดจึงเอ่ยเบาๆกับสามีว่า
“ไปว่าอะไรเข้าล่ะ หน้าตึงยังกับหนังกลองไปเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกแม่วาด ทำอะไรให้เจ้าหัวดื้อกินล่ะกลิ่นหอมเชียว”
“หน้าฝนหาของยาก ก็กินผักน้ำพริกไปเปรมชอบน้ำพริกตาแดงผัดกุ้งแห้ง”
“ที่อื่นผัดหวาน เปรมไม่ชอบกินหวาน คิดถึงคุณหนูนะ คุณหนูชอบกุ้งหวาน นี่ก็ผัดกุ้งแก้วมาให้เยอะเลยจะไปหาวันนี้ก็กระไรอยู่ คิดถึงจริงๆ หมั้นเดือนเดียวแล้วแต่งเลย ความจริงน่าจะหมั้นเช้าแต่งเย็นนะพี่” แม่วาดกล่าวอย่างใจคิด
“กลัวๆว่าจะไม่ได้เป็นสะใภ้ยังไงก็ไม่รู้สิ”
เปรมประคองถาดใส่จานอาหาร และโถข้าวด้วยสองมือ เขาได้ยินเสียงสนทนาของผู้ให้กำเนิดจึงหยุดเท้าแค่มุมเฉลียงแอบฟัง
“คิดมากอะไรกันล่ะแม่วาด พรุ่งนี้ก็หมั้นหมายเป็นสะใภ้กันแล้ว”
“ฉันมองออกทีเดียวนะพี่ว่าคุณหนูรักลูกเรายังกับอะไร แต่คนของเราสิ ไม่แสดงออกอะไรจนอดคิดไม่ได้ว่ามันโดนเขาบังคับหรือเปล่า”
“ถ้าบังคับจริงคุณหลวงท่านก็ให้ปฏิเสธไปแล้ว ทำไมมันไม่ออกปากไปล่ะ”
“หรือทำนิสัยที่แก้ไม่หายนะลูกเราคนนี้”
“อะไรหรือแม่”
“อยากเอาชนะคนน่ะสิพี่”
เปรมสะอึกอึ๊กเมื่อโดนแทงใจดำจากคำของมารดาซึ่งเป็นอย่างคำที่เอ่ยกันเสมอว่า ไม่มีใครรู้ใจลูกเท่ากับพ่อแม่ เว้นแต่ลูกของใครฤทธิ์มากเกินเท่านั้นเอง
ระหว่างทานอาหารนั้นกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น เปรมสงสัย เพราะเขาได้ลางานแล้วไม่น่าที่จะเป็นเรื่องงาน ชายหนุ่มปลีกตัวไปรับสายในบ้านซึ่งเป็นที่ตั้งโทรศัพท์
“สวัสดีครับ เปรมพูด”
“จะไม่มาดูว่าที่เจ้าสาวของคุณแต่เป็นเมียคนอื่นสักหน่อยหรือ” เสียงผู้หญิง ฟังคุ้นแต่เปรมนึกไม่ออก
“ใครกัน”
“คนที่หวังดีไม่อยากให้คุณเป็นชู้กับเมียคนอื่นน่ะสิ” ปลายสายวางไปแล้ว เปรมมองโทรศัพท์เหมือนจ้องสิ่งของประหลาด หัวใจร้อนเหมือนโดนเหล็กนาบ เขาวางโทรศัพท์ลงสนิทดีแล้ว กริ่งโทรดังขึ้นมาอีกครั้งเขารีบรับพลางกรอกเสียง
“ถ้าไม่บอกว่าเป็นใครก็ไม่ต้องมาก่อกวน”
“อะไรกัน หัวเสียอะไรนักหนาว่าที่สามีน้อยของผม”
“นคร” เปรมครางเรียกอีกฝ่าย ก่อนสบถดัง “แกอย่าบ้ามากนักเลย ใครไปเป็นผัวน้อยผัวหลวงของแก”
นครหัวเราะเยาะ แม้ว่าท่าทีแท้จริงจะเต็มไปด้วยความร้าวรานใจที่ไม่อาจสมหวังในรักได้ก็ตามที
“เอาเมียอั๊วมาคืนดีกว่าน่าหมวด อย่าเอาพิธีการมาแย่งไปเลยน่า สู่กันอย่างลูกผู้ชายดีกว่า หมวดก็มีคนรักอยู่แล้วไม่ใช่หรือ จะเอาน้องแดงเมียที่ผมนอนด้วยทุกคืนไปทำไมอีก”
เปรมทิ้งสายโครม ผลุนผันออกไปข้างนอก แม่วาดและกำนันปริกรีบทักลูกชายซึ่งทำท่าเหมือนกับจะไปเอาเรื่องใครสักคนให้ถึงตาย
“มีอะไรหรือเปรม”
“ไม่มีครับแม่” ชายหนุ่มกลั้นใจบอกผู้ให้กำเนิด ก่อนทำใจที่ร้อนรุ่มให้สงบลงอย่างยากเย็น
ทหาร หากไม่มีสติ ไม่มีระเบียบจะเสียกลข้าศึกโดยง่าย เวลายังเป็นของเขา ดารกายังไม่พ้นมือเขา
แกจะไม่มีวันลากดารกาไปตามใจของแกอีกแล้วนคร...เปรมประกาศศึกในใจ!!
วัลย์วิไลขับรถเข้าบ้านราชพานิช เชิดคอลอยหน้าเหมือนกับว่าไม่ได้มีแผลอะไรออกไปจากบ้านหลังนี้ คนงานในบ้านพากันเข้าไปนินทาลับหลัง แต่ไม่เข้าหูคุณนายเท่านั้น วัลย์วิไลเดินผ่านห้องโถงใหญ่ ซึ่งได้รับการตกแต่งใหม่ด้วยผ้าม่านสีทองหรูหรา เก้าอี้ และโต๊ะจัดเข้ามุมอย่างเตรียมพร้อมในการรับแขกสำหรับการหมั้นหมาย เลิศชายเหลือบตามองภรรยา ซึ่งเข้าไปกราบแทบตักพ่อแม่สามี ซึ่งพวกท่านรับไหว้อย่างไม่ถือสา ดารกายกมือไหว้หลงทิศไปอย่างอวดดีและไม่ให้อภัย วัลย์วิไลต้องเอ่ยปากกับอีกฝ่าย
“พี่ขอโทษนะน้องแดง อย่าโกรธพี่อยู่เลย พรุ่งนี้ก็เป็นวันมงคลของน้องแดงแล้วนะ”
“ค่ะ แดงขออย่างให้มีเรื่องอัปมงคลเกิดขึ้นซ้ำก็พอค่ะพี่วัลย์ แดงเห็นแก่พี่ชายของแดงนะคะไม่ใช่ตัวแดงเอง”
วัลย์วิไลไม่ตอบโต้อะไรกับดารกา แต่หันไปทางสามีถามเขาว่า
“ทางคุณเลิศมีใครมาเป็นพยานการหมั้นครั้งนี้บ้างคะ ท่านนายกจะมามั้ย”
“ผมได้เป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้นไม่ได้เป็นรัฐมนตรีอย่างที่หวัง จะมีก็ข้าราชการที่เห็นหน้ากันเท่านั้นไม่ได้บอกใครมาก แต่วันแต่งคงบอกมากสักหน่อย ไม่พักผ่อนก่อนหรือวัลย์”
วัลย์วิไลเสแสร้งยิ้มให้กับคุณเลื่อน ซึ่งขนลุกขนชันอย่างผิดปกติ
“จะดูแลช่วยคุณแม่สักหน่อยก่อนค่ะเผื่องานไม่เรียบร้อย”
ดารกาขอตัวจากทุกคนกลับเข้าห้องพัก แม้นรีบตามไปเพื่อกันท่าไม่ให้วัลย์วิไลเข้าใกล้นายน้อยของตน
วันนี้ที่บ้านหลวงราชพานิชคึกคักเป็นพิเศษ ช่างเสริมสวยมาทำผมให้กับว่าที่เจ้าสาว ซึ่งถึงแม้จะเพียงเป็นวันหมั้น แต่ดารกาสวยสดงดงามในชุดไทยสีงาช้างปักเหลื่อม
ขบวนเถ้าแก่มาถึงบ้านในเวลาสาย
จอมพลพันชั่งและคุณหญิงนั่งรถคันหรู ซึ่งว่าที่เจ้าบ่าวในชุดพิธีการซึ่งแต่งเต็มยศสีขาวเป็นคนขับ นั่งข้างด้วยแฝดคู่เล็กของท่านพันชั่ง เพื่อนสนิทคือนเรศขับรถให้กำนันปริกและแม่วาดได้นั่งมาพร้อมกับสินสอดมากค่า
คุณเลื่อนและคุณหลวงออกไปรับเจ้าใหญ่นายโตซึ่งเชิญมาเป็นพยานในการหมั้นหมายของลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา พร้อมกับเลิศชาย ซึ่งได้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี วัลย์วิไลเคียงคู่กับสามี แขกคุณหลวงมาพร้อมกันแล้ว และได้รับเชิญเข้าไปในห้องโถงด้วยกันทั้งหมด
ดารกายิ้มสดใสกับวันหมั้นในครั้งนี้เธออยู่รอชั้นบนพร้อมกับแม้น
กระทั่งขบวนรถของเปรมมาถึง จอดรถแล้วเปิดประตูให้กับแฝดคู่เล็ก ซึ่งอุณากรรณรีบลงมาก่อนอย่างซุกซนจนคุณหญิงต้องปราม
“พี่กรรณอย่างซนนะคะ” จากนั้นเถ้าแก่สองคนลงจากรถตามลูกสาวทั้งสอง และจูงลูกสาวคนละข้าง
พานทองเพื่อนสนิทอีกคนของเปรม ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของพันชั่ง มาเป็นเกียรติพร้อม แฝดพี่ นั่งรถคันเดียวกันตามคุณพ่อคุณแม่มาด้วย
เลิศชายออกรับแขกแทนผู้ให้กำเนิด ขบวนเจ้าบ่าวเข้ามาถึงห้องโถงต่างทักทายปราศรัยกันอย่างเป็นไมตรี อุณากรรณถามหาดารกาเสียงแจ้วๆ
“ไหนคะเจ้าสาวพี่เปรมพี่กรรณจะจูงมือมาให้ค่ะ”
“นั่นวันแต่งค่ะพี่กรรณ”มะนาวบอกน้องสาวจอมซน ทุกคนพากันเอ็นดูอุณากรรณเป็นพิเศษ ความน่ารักของเด็กน้อยทำให้เปรมอดที่จะนึกถึงดารกาในวัยเดียวกันนี้อย่างทนเก็บไม่ได้ เขาเคยเอ็นดูเด็กหญิงคนนั้นมากมาย
คุณเลื่อนออกปากชม
“ช่างเหมือนหนูแดงจริงๆค่ะท่าน ไม่กลัวใครเลยนะคะ ท่านผู้หญิง”
“พี่กรรณอยากเป็นทหารเหมือนคุณพ่อเลยซนๆค่ะคุณเลื่อน”
“พี่กรรณอยากเห็นเจ้าสาวแล้วค่ะ”อุณากรรณร้องขออีก ครานี้คุณเลื่อนให้เด็กรับใช้ขึ้นไปตามว่าที่เจ้าสาวลงมาจากชั้นบน ครู่หนึ่งดารกาได้ลงมาจากชั้นบน
หญิงสาวงดงามอย่างไร้ที่ติ พันชั่งและท่านผู้หญิงสบตากันราวกับจะรำลึกถึงความหลัง อุณากรรณตบมือเปาะแปะออกปากชมตามประสาจอมแก่น
“เจ้าสาวสวยจังเลย”เอ่ยแล้ววิ่งไปจับมือดารกา ซึ่งค้อมตัวลงมาโอบร่างน้อยๆของอีกฝ่าย
“ชื่ออะไรคะ พี่ชื่อพี่แดง”
“ชื่อพี่กรรณ คุณแม่บอกว่าให้มาจูงเจ้าสาวไปให้พี่เปรมค่ะ” อุณากรรณเอ่ยอย่างแก่แดดจากนั้นจูงมือดารกาไปที่เปรมจริงอย่างปากว่า ดารกา ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ และคลานเข่าเข้าไปนั่งพื้น ตรงข้ามกับเปรม อุณากรรณทรุดกายนั่งพับเพียบข้างเจ้าสาวราวกับเป็นเพื่อนไปด้วยเลย เกนหลงลงจากตักพี่สาวไปนั่งข้างกายของเปรม สร้างความเอ็นดูให้กับแขกที่มาเป็นพยานยิ่งนัก
ชายหนุ่มเกือบลืมความตะขิดตะขวงใจที่มีมาตั้งแต่วันวานด้วยความงามจับใจของว่าที่เจ้าสาว แต่คำว่าเมียคนอื่นกวนใจให้กับเปรมเป็นอันมาก จึงมองเหมือนไม่เห็นดารกาเสียอย่างนั้น
“สวยอย่างนี้นี่เล่า เปรมจึงให้มาสู่ขอให้ด้วยตัวเอง” พันชั่งเอ่ยอย่างคนปากหวาน “คุณหลวงจะว่ากล่าวอย่างไรครับ ผมก็เพิ่งเป็นเถ้าแก่กับเขาวันนี้เป็นวันแรกของชีวิต เคยแต่เป็นเจ้าบ่าว และก็เป็นครั้งเดียว เปรมก็จะเป็นเช่นผมรับรองได้ครับ”
“ท่านออกปากด้วยตัวเองอย่างนี้เห็นจะประกันได้ว่าหนูแดงจะเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขได้จากชีวิตสมรส ใช่มั้ยเปรม” คุณหลวงถามไม่อ้อมค้อม เปรมนิ่งอึ้งไม่ทราบมาก่อนว่าคุณหลวงจะมาด้วยไม้นี้
เขาไม่เคยรับปากคุณหลวงแต่วันนี้จะนิ่งเฉยอยู่คงไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่มาเป็นสักขีพยานกันมากนัก ลูกผู้ชาย เอ่ยวาจาแล้ว ให้นั่งให้ยืน ไม่มีสับปลับ เจ้าสาวที่เต็มไปด้วยราคี จะให้เขาปกครองด้วยความรักเต็มหัวใจได้หรือ
“คุณแดงคงเป็นแม่ศรีเรือนที่ดีได้ ผมรับปากท่านครับ”
คำตอบออกชอบกล แต่ดารกาก็ยิ้มรับอย่างอ่อนหวาน สุขล้ำเต็มหัวใจ วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวมีความสุขที่สุด และเมื่อชายหนุ่มสวมแหวนเพชรมากค่าให้เป็นเครื่องหมั้นหมาย
แม้เปรมจะคิดว่านี่คือการเริ่มต้นที่ผิดพลาด แต่ดารกากลับหายเจ็บจากวันที่ได้พบทั้งชิดสมัยและชายหนุ่ม จากนี้เธอรอวันสมรสเท่านั้น อะไรจะเกิดขึ้นหรือ เธอไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว
เปรมเป็นของเธอแล้ว และจะเป็นเพียงคนเดียวตลอดไป!!!





นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ธ.ค. 2554, 17:17:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ธ.ค. 2554, 17:17:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 3545





<< ความหวัง   แต่งงานตามอารมณ์ >>
saralun 15 ธ.ค. 2554, 17:33:16 น.
หนูแดง สู้ ๆ


Asian 15 ธ.ค. 2554, 17:40:23 น.
ให้รู้ซะมั่งว่าของใครเป็นของใคร แต่มือที่สามก็น่ากลัวอยู่


violette 15 ธ.ค. 2554, 17:48:26 น.
ยังคงเข้ามาถอนหายใจแทนหนูแดง สู้เค้านะหนูแดง ใครไม่รักแต่พ่อแม่สามีก็รักหนูแดงออกเนอะ


Zephyr 15 ธ.ค. 2554, 17:50:24 น.
มือที่สาม สี่ ห้า นี่ ยังไว้ใจไม่ได้ เอาเถอะ พี่เปรมยังหูตาบอดอยู่ ไปพิสูจน์เองละกันนะ ว่า หนูแดงเป็น เมีย คนอื่นจริงรึปล่าว ถ้าไม่ใช่ ไม่ต้องมาหวงทีหลังนะ เบื่อคนปากแข็ง ไม่รู้ใจตัวเองจริงๆ


windy2000 15 ธ.ค. 2554, 19:48:23 น.
สวมแหวนแต่ยังไม่ได้สวมทะเบียน นอนใจมะได้น๊า


คิมหันตุ์ 15 ธ.ค. 2554, 20:19:47 น.
แต่งงานแล้วพิสูจน์โลดดดดดดดดพี่เปรม คริคริ


nunoi 15 ธ.ค. 2554, 21:53:47 น.
ถ้าพี่เปรมรู้ว่า หนูแดงยังไม่เคยเป็นเมียใครหล่ะก็ทำยังไงน่ะ


nutcha 15 ธ.ค. 2554, 21:56:24 น.
พี่เปรมก็ยังปิดหูปิดตาตัวเองอยู่เหมือนเดิม หนักใจแทนหนูแดงผู้ไม่หวังดีเยอะจัง


อริสา 17 ธ.ค. 2554, 04:16:25 น.
มาลุ้นช่วยหนูแดงค่ะ


nlist 21 ธ.ค. 2554, 21:21:59 น.
พีเปรมนะพี่เปรม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account