พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 11

ตอนนี้มีชื่อว่า "ถึงเวลาเอาคืน" ค่ะ แต่จะโดนเอาคืนยังไง ต้องไปติดตามนะจ๊ะ

ขอบคุณทุกคนที่ยังตามอ่านกัน คอยเมนท์แล้วก็กดไลค์เพื่อให้กำลังใจกันนะคะ (ปอแก้วจะได้มีแรงใจไงคะ อิอิอิ :) )

ติ-ชมได้เสมอนะคะ ยินดีรับฟังค่ะ

^_______________________^

--------------------------------------------------------------------------------------------



ตอนที่ 11 : ถึงเวลาเอาคืน




นิชิตาที่กำลังยืนชื่นชมกับบรรยากาศสะดุ้งแทบจะสุดตัว คิดว่าตัวเองคงหูฝาดไปแน่ที่ได้ยินเสียงอย่างนี้ ไม่มีทางที่เธอจะเจอนิษศินีที่นี่ อะไรมันจะบังเอิญ โลกกลม อย่างที่เธอไม่อยากให้มันเป็นขนาดนี้

“ฉันถามว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ฮะยัยหมูหวาน” น้ำเสียงจิกๆสำเนียงเชิดๆอย่างนี้ นิชิตามั่นใจแล้วว่าคนที่เรียกเธอจากด้านหลังคือนิษศินีจริงๆ

...สำเนียงอย่างนี้...มีแค่ยัยพี่มิ้นท์...คนเดียวในโลก!...

อาจารย์สาวร่างเล็กค่อยๆหันตัวกลับมาเผชิญหน้ากับลูกพี่ลูกน้องสาว หากแต่พอหันมามองเต็มตา นิชิตาก็ต้องแทบอ้าปากค้างเมื่อพบกับอีกบุคคลหนึ่งที่ยืนเคียงข้างอยู่กับนิษศินี

...พีรัช...

“สวัสดีค่ะพี่พีน” นิชิตากระพุ่มมือไหว้ชายหนุ่มซึ่งมีฐานะในปัจจุบันเป็นคู่หมั้นของพี่สาวเธอแต่ฐานะในอดีตนั้น...ผู้ชายคนนี้เป็น ‘คนรัก’ ของเธอ

...มันก็แค่อดีต ที่ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่อยากจะเจอ...

“จิตใจจะทักแต่พีนใช่มั้ย” น้ำเสียงไม่พอใจของลูกพี่ลูกน้องสาวกับสายตาขวางๆที่มองมาทำให้นิชิตาลอบถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย แม้พีรัชจะเคยเป็นอดีตคนรักของเธอ แต่เมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งเธอแล้วหันไปคบกับนิษศินี ความสัมพันธ์ทุกอย่างที่เคยมีร่วมกันมา ความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้เขามันก็สิ้นสุดลงเช่นกัน

...ผู้ชายคนนี้สอนให้เธอได้รู้ว่า...หัวใจของคนเราแทบจะหาความจริงใจไม่ได้เลย...

“แล้วพี่มิ้นท์มาทำอะไรที่หัวหิน” นิชิตาไม่สนใจกับคำเหน็บแนม หญิงสาวตัดสินใจถามในคำถามเดียวกับที่นิษศินีถามเธอ

“ฉันถามเธอก่อนนะ”

“มิ้นท์ครับ ใจเย็นๆก่อน” แล้วก็เป็นพีรัชที่เอ่ยปากห้ามคู่หมั้นตัวเองที่ทำท่าว่าจะวีนแตก แน่นอนว่านิษศินียอมทำตามคำพูดของพีรัชทุกอย่าง ยกเว้นเสียอย่างเดียวคือเรื่องของนิชิตา

“พีนก็ดูยัยหมูหวานสิคะ เด็กอะไรไม่รู้ ชอบกวนประสาทมิ้นท์”

นิชิตาหรี่ตามองพี่สาว ให้มันได้อย่างนี้สิ ตัวเองหาเรื่องก่อนชัดๆแต่ไปๆมาๆดันโยนทุกอย่างมาเป็นความผิดของเธอไปเสียหมด

“หมูหวานไม่ได้กวนประสาท ก็ถามพี่มิ้นท์ดีๆ”

“เอ๊ะ!”

“มิ้นท์” พีรัชเรียกชื่อคู่หมั้นสาวเสียงต่ำก่อนจะหันมาเป็นผู้ตั้งคำถามแทน

“หมูหวานมาทำอะไรที่หัวหิน ทำไมพวกพี่ไม่มีใครรู้เลย”

“การที่หมูหวานจะไปไหนมาไหนหมูหวานต้องบอกทุกคนด้วยเหรอคะ” นิชิตาย้อนกลับนิ่มๆ

“ยัยเด็กนี่!” นิษศินีแว้ดขึ้นเสียงสูงหากนิชิตาไม่สนใจ

“หมูหวานมาทำธุระ...”

“กับใคร?” แล้วก็เป็นนิษศินีเหมือนเดิมที่ถามสวนขึ้นมา

“ธุระส่วนตัวค่ะ พี่มิ้นท์เข้าใจคำว่าส่วนตัวมั้ยเจ้าคะ” ทั้งคำพูดและหน้าตาที่แสดงออกมา นิชิตาตั้งใจที่จะยั่วประสาทลูกพี่ลูกน้องสาวกันเห็นๆ แน่นอนว่าคนที่ถูกยั่วก็กำลังโมโหจนหน้าดำหน้าแดง

“ยัยหมูหวาน!!”

เสียงแหลมแสบแก้วหูของนิษศินีทำเอานิชิตาต้องรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูก่อนจะหันมาทางพีรัช

“พี่พีนคะ...” เสียงเรียกของอดีตคนเคยรักทำเอาพีรัชเลิกคิ้วสูง

“ครับ”

“หมูหวานฝากพี่พีนพาพี่มิ้นท์ไปหาหมอด้วยนะคะ หมูหวานกลัวเส้นเสียงพี่สาวจะอักเสบ” บอกยิ้มๆก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้คนทั้งคู่

“ไปนะคะ...พี่มิ้นท์” ทิ้งท้ายด้วยคำลาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายให้นิษศีนีเจ็บใจเล่นๆก่อนจะเดินตัวปลิวจากไปไม่ต้องมีตาหลังก็รู้ว่าพี่สาวของเธอคงกำลังอยากจะลงแดงตายที่ถูกเธอยั่วไปซะขนาดนั้น

“หมูหวานนี่ยังน่ารักเหมือนเดิมนะ” คำชมที่ออกมากจากปากของพีรัชทำให้นิษศินียิ่งมีอารมณ์โมโห ดวงตาเรียวสวยตวัดมองค้อนคู่หมั้น

“ยังรักกันอยู่หรือยังไงคะ”

“โธ่...ยังไม่เลิกคิดเรื่องนี้อีกหรือไงครับ” พีรัชหัวเราะเบาๆในลำคอ ดึงร่างบางที่ยืนเคียงข้างมาโอบเบาๆ

“จะรู้เหรอ คนเคยรักกัน”

“แต่ผมก็เลือกคุณนี่ครับ” พีรัชพูดเสียงหวาน กดจมูกลงบนเส้นผมหอมกรุ่นเบาๆ

“จำคำของตัวเองให้ดีก็แล้วกันนะคะ ถ้าพีนนอกใจมิ้นท์แล้วกลับไปหายัยหมูหวาน น้องก็น้องเถอะ มิ้นท์จะอาละวาดให้พังกันไปข้างนึงเลย” นิษศินีบอกพร้อมสายตาร้ายกาจ พีรัชกระชับอ้อมแขนที่โอบหญิงสาวอีกนิดหนึ่ง

“แน่นอนครับ” บอกอย่างหนักแน่นหากสายตาคู่คมกลับมองไปยังทางที่นิชิตาเดินจากไป แววตาที่นิษศินีมองไม่เห็นว่าในสายตานั้นยังคงแฝงไปด้วยเยื่อใยที่พีรัชไม่คิดจะตัดมัน













ร่างเล็กบางที่เดินจ้ำออกจากสถานที่ซึ่งเจอกับนิชิตาและพีรัชหยุดยืนนิ่งอยู่บนชายหาดที่ไกลออกไปจากจุดๆนั้น ลมหายใจแผ่วเบาถูกผ่อนออกมาช้าๆ การเจอพีรัชที่นี่แม้ไม่ทำให้เธอเจ็บอย่างที่ควรมากนักแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าแผลที่ผู้ชายคนนั้นกรีดลงบนหัวใจของเธอมันยังไม่หายดี ทั้งที่เธอพยายามที่จะไม่เจอแล้วแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคู่หมั้นของลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ตาม เพราะหญิงสาวคิดว่าการไม่เจอกับพีรัช...บางที...เรื่องราวและแผลในอดีตอาจค่อยๆจางหายไปเอง

...แต่บางทีเธออาจคิดผิด บางที...การหันหน้ามาเผชิญกับปัญหามันอาจดีกว่าการหันหลังหนีปัญหาก็ได้...

“หมูหวาน! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

เสียงอันคุ้นเคยและประโยคคำถามเหมือนเดิมอย่างที่นิษศินีถามเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังทำเอานิชิตาตกใจเป็นครั้งที่สองเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวที่จะพบกับมุกตาภาเร็วขนาดนี้ ระหว่างทางอารัทธ์ได้ย้ำกับเธอแล้วว่าชิษวัศปิดเรื่องการมาทำงานที่หัวหินเป็นความลับถ้าเธอคิดจะเจอกับมุกตาภาก็ให้หาเหตุผลบอกเพื่อนสาวไปให้ดีว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไร อาจารย์สาวหน้าหมวยถอนหายใจออกเฮือกหนึ่งก่อนจะกลับหลังหันมามองมุกตาภาที่ยืนมองหน้าเธอด้วยแววตาสงสัย รอยยิ้มเฝื่อนๆถูกส่งให้เพื่อนเป็นใบเบิกทาง สมองประมวลผลเรียบร้อยว่าสมควรตอบมุกตาภาไปอย่างไร เธอเพียงแค่ตอบความจริงผสมเรื่องปรุงแต่งบ้าง...ก็เท่านั้น

“ก็...ตามมุกมาไง” คำถามของมุกตาภาได้รับคำตอบซึ่งเป็นความจริงทุกคำจากนิชิตา

“ตามมุกมา?” เพื่อนสาวถามเสียงสูง คิ้วโค้งสวยเลิกขึ้นอย่างสงสัย “แล้วตามมาถูกได้ยังไง มุกไม่ได้บอกหมูหวานไว้นี่ว่ามุกจะไปไหน”

“ก็...มีไกด์ดีล่ะมั้ง” นิชิตาตอบคำถามของเพื่อนอย่างทีเล่นทีจริง รอยยิ้มทะเล้นที่มักไม่ได้เห็นยามทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยปรากฏขึ้นบนดวงหน้ารูปไข่ผิดกับมุกตาภาที่ยังขมวดคิ้วมุ่นเพราะยังไม่คลายความสงสัย

“หมูหวานมาได้ยังไง บอกมุกมานะ” น้ำเสียงหวานแสร้งกดต่ำเพราะต้องการให้อีกฝ่ายยอมเผยความจริง ถ้าเป็นคนอื่นเจอน้ำเสียงอย่างนี้คงยอมบอกแต่คงใช้ไม่ได้ผลกับคนที่มีอาชีพเป็นอาจารย์อย่างนิชิตา

“ก็บอกแล้วไงว่ามีไกด์ดี” นิชิตายังยืนยันคำเดิม ดวงตาเรียวเล็กภายใต้กรอบแว่นสายตาตวัดมองเพื่อนกลับบ้าง เธอปล่อยให้มุกตาภาซักไซ้เธอพอแล้ว ถึงคราวของเธอบ้างที่จะซักฟอกเพื่อนสาวกลับคืน

“ว่าแต่มุกเถอะ ปกติจะไปทำงานนอกสถานที่ก็โทรบอกหมูหวานตลอด แล้วทำไมคราวนี้ถึงไม่โทร มี Something Wrong อะไรกับพี่อาร์มหรือเปล่า บอกมานะ” สายตาจับผิดกับประโยคแฝงความนัยของนิชิตาทำให้ใบหน้าของมุกตาภาสูบฉีดเลือดฝาดได้เป็นอย่างดี

“Something Wrong อะไร หมูหวานมั่วแล้ว มุกมาเรื่องงาน” แม้จะปฏิเสธออกไปแต่ก็ไม่ได้มั่นคงมากนัก รอยหวั่นไหวในแววตาคู่สวยยิ่งเน้นย้ำเป็นอย่างดีว่าสิ่งที่มุกตาภาพูดนั้นๆไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

“ขอให้เป็นเรื่องงานอย่างเดียวจริงๆเถอะ กลัวเสียแต่พี่อาร์มจะวางแผนเอาคืนเรื่อง ‘จูบ’ ของมุกด้วยน่ะสิ” นิชิตาหลิ่วตาล้อ น้ำเสียงเน้นคำว่า ‘จูบ’ แถมยังลากยาวกว่าคำอื่นจนมุกตาภาต้องแก้เขินด้วยการฟาดมือลงบนท่อนแขนของเพื่อนสาวเบาๆ

“เอาคืนอะไรล่ะ พี่อาร์มไม่กล้าทำหรอก” ปากก็พร่ำปฏิเสธแต่ดวงหน้าหวานกลับยิ่งแดงซ่าน

“ว่าได้เหรอ ทีมุกอยู่ดีๆยังไปจูบเขาเลย”

“หมูหวาน!!”

มุกตาภาเรียกชื่อเพื่อนเสียงดังลั่นชายหาด ดีที่ว่าบริเวณใกล้เคียงมีเพียงแค่พวกเธอสองคนจึงไม่มีสายตาของใครจ้องมอง อุณหภูมิบริเวณดวงหน้าเหมือนจะขึ้นสูงกว่าบริเวณอื่น คำพูดของนิชิตาตอกย้ำค่ำคืนที่เธอกล้าบ้าบิ่นไปขโมยจูบชิษวัศได้เป็นอย่างดี นึกถึงทีไรหัวใจมันก็พลันเต้นแรง ทั้งเขินทั้งอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

“หมูหวานเป็นห่วง ผู้ชายอย่างพี่อาร์มไม่ยอมเสียท่าเพราะผู้หญิงหรอกนะยิ่งมุกไปทำอย่างนั้น หมูหวานมั่นใจว่าพี่อาร์มต้องเอาคืนแน่”

ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มมองหน้าเพื่อนสนิทนิ่ง ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง เห็นด้วยว่าคำพูดของนิชิตานั้นเป็นความจริงที่เธอคงต้องเจอ แม้ชิษวัศจะยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญไม่ใช่เรื่องที่วางแผนไว้แต่หญิงสาวไม่เชื่อในคำพูดนั้น มุกตาภาเชื่อว่าเขาวางแผนไว้แน่ และแผนนี้ถูกวางไว้ขึ้นเพื่อเอาคืนเธอในเรื่องคราวก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆเธอนี่ล่ะจะเสียเปรียบที่สุดเพราะหัวใจดวงนี้มันมอบให้กับชิษวัศไปแล้วทั้งดวง ถ้าเขาวางแผนจะเอาคืนเธออย่างที่เธอทำไว้เมื่อคราวก่อน มุกตาภากลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะยอมให้เขาเอาคืน เพราะเธอมักแพ้...กับน้ำเสียงทุ้มน่าฟังกับดวงตาสีนิลคู่นั้นเสมอ

“มุกจะทำยังไงดี” น้ำเสียงที่เอ่ยถามเพื่อนสาวสั่นพลิ้วด้วยความกลัวจนนิชิตาต้องเอื้อมมือมากุมอีกมือหนึ่งซึ่งเย็นเฉียบไว้ราวกับต้องการให้กำลังใจ

“แค่ใจแข็งไว้ก็พอ หมูหวานรู้ว่ามุกรักพี่อาร์มมาก แล้วก็พยายามทำทุกอย่างที่จะให้พี่อาร์มยอมทำลายข้อห้ามของตัวเองเพื่อที่จะให้เขาหันกลับมามองมุกบ้าง แต่งานนี้หมูหวานคิดว่าพี่อาร์มยอมแหกข้อห้ามนั้นแน่ แต่ที่ไม่รู้ก็คือที่พี่อาร์มยอมผิดข้อห้ามของตัวเองเป็นเพราะเพียงอยากเอาคืนหรือเพราะเริ่มที่จะรักมุกขึ้นมาบ้าง หมูหวานไม่มั่นใจ”

นิชิตาประเมินสถานการณ์เท่าข้อมูลที่ได้รับมาจากอารัทธ์ หญิงสาวรู้ว่าชิษวัศจองห้องพักไว้เพียงห้องเดียว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่างานนี้ชิษวัศมีแผนที่จะเอาคืนเพื่อนของเธอแน่ แต่ถ้าเขาจะเอาคืนจริงก็หมายความว่าชิษวัศจะต้องยอมผิดข้อต้องห้ามของตัวเอง ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยแม้แต่จะสานสัมพันธ์กับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า หากคราวนี้กับทำท่าทีส่อแววพิรุธว่ามีแผนการอะไรบางอย่างเคลือบแฝงในการมาทำงานครั้งนี้อยู่แน่ ถ้าชิษวัศจะยอมผิดคำพูดและข้อห้ามของตัวเองที่ว่าจะไม่คบกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเพื่อที่จะหันมามองมุกตาภาในฐานะของคนรักเธอก็ดีใจกับเพื่อนด้วย แต่ถ้าเขาคิดจะผิดข้อห้ามเพียงเพื่ออยากจะเอาคืนมุกตาภา เธอก็คงทำได้เพียงแค่ภาวนาว่าขออย่าให้มันเป็นอย่างนั้นเลย

มุกตาภาพยักหน้ารับ บีบมือที่จับมือตัวเองไว้เพื่อขอกำลังใจ พอได้รอยยิ้มของนิชิตามาสมทบจึงทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้นมาบ้าง

“มุกจะพยายามไม่หลงคารมพี่อาร์ม มุกอยากให้พี่อาร์มทำลายข้อห้ามนั้นเพื่อที่จะรักไม่ใช่แค่เอาคืนกัน”

“ดีแล้ว มีอะไรก็โทรหาหมูหวานได้ตลอดนะ อยู่แถวๆนี้แหละ”

“หมูหวานมากับใครกันแน่” เรื่องการมาของนิชิตายังไม่หายไปจากความสงสัยของมุกตาภา ยิ่งเพื่อนสาวคนนี้พูดเหมือนว่าเธอกำลังเผชิญเหตุการณ์อะไรก็ยิ่งสงสัย นิชิตารู้ได้อย่างไร และเธอก็มั่นใจว่าเพื่อนคนนี้
ไม่ได้รู้เรื่องราวมาด้วยตนเองเป็นแน่ มันต้องมีผู้ร่วมกระบวนการ

“มากับไกด์ไง” นิชิตายังคงยืนยันคำเดิม สีหน้าที่แสนทะเล้นทำเอามุกตาภาอยากจะถ่ายคลิปไปให้ลูกศิษย์ที่มหาวิทยาลัยของเพื่อนสาวดูเสียจริงว่าอาจารย์ของพวกเขากำลังทำหน้าทำตาอย่างไร

“คงไม่ใช่ไกด์ชื่ออารัทธ์หรอกนะ” มุกตาภาแกล้งเดาไปอย่างนั้นแต่เมื่อเห็นดวงตาเรียวเล็กของนิชิตาเบิกกว้างเหมือนคนที่โดนจับผิดได้หญิงสาวก็ทำตาโตตาม ไม่คิดไม่ฝันว่าสิ่งที่พูดไปเล่นๆเกิดจะเป็นความจริงเสียขึ้นมา

“พี่อาร์ทจริงๆเหรอหมูหวาน” มุกตาภาถามคาดคั้น พอเห็นสายตาเลิกลั่กของอีกฝ่ายที่นานๆจะแสดงออกมาเสียดีก็สรุปได้เลยว่าสิ่งที่เธอพูดไปเป็นจริงทุกประการ

“อะไร หมูหวานจะมากับนายอารัทธ์นั่นได้ยังไง” เสียงปฏิเสธนั้นหนักแน่นแต่กลับไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย นิชิตาแกล้งหันเหสายตามองทิวทัศน์บริเวณโดยรอบนึกอยากจะดื่มด่ำกับธรรมชาติขึ้นมาดื้อๆ

“เป็นครูบาอาจารย์โกหกไม่ดีนะ” คราวนี้เป็นฝ่ายมุกตาภาที่ต้องสวมบทบาทอาจารย์ฝ่ายปกครองคอยจับผิดนักเรียนที่ทำผิดกฎ ส่วนนิชิตาก็กลายร่างจากอาจารย์มหาวิทยาลัยมาเป็นนักเรียนให้เธอจับผิด

“ไม่ได้โกหก...” คำปฏิเสธที่กำลังออกจากปากของนิชิตาถูกกลืนกลับลงไปเมื่อเห็นแววตาเฉียบคมของเพื่อนสาวอย่างมุกตาภา เจอไม้นี้ทีไรนิชิตาต้องยอมเปิดปากพูดความจริงทุกครั้งไป

“ก็ได้...ยอมรับแล้วก็ได้น่ะ เลิกมองหมูหวานอย่างนั้นซะที” นิชิตาสารภาพเสียงอ่อย มุกตาภาอมยิ้มอย่างชอบใจ

“แล้วไหนว่าไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา อยากจะหนีให้ไกลไง แล้วทำไมถึงมากับพี่อาร์ทได้” คำถามของมุกตาภาทำให้คิ้วเรียวสวยบนใบหน้ารูปไข่ขมวดชิด

“ก็เป็นห่วงมุกนั่นแหละถึงได้ยอมมากับตาบ้านั่น ฝืนใจจะตาย” นิชิตาสะบัดหน้าใส่ด้วยความแง่งอนร้อนจนมุกตาภาต้องเดินอ้อมมายิ้มกว้างใส่อย่างประจบประแจง

“โอ๋ๆ หมูหวานอย่างอนเลยน้า มุกซึ้งใจ ขอบใจ แล้วก็รักหมูหวานที่สุดเลย” รอยยิ้มประจบกับน้ำเสียงง้องอนของมุกตาภาใช้ได้ผลทุกครั้งไปยามเมื่อนิชิตากำลังโกรธหรือแง่งอน

“หมูหวานไม่เคยงอนมุกได้นานๆซะที” นิชิตาบ่นออกมาเบาๆแต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากมุกตาภาได้ดังจนลั่นหาด

“แล้วพี่อาร์ทล่ะ อยู่ไหน ไม่ออกมาเดินเล่นกับหมูหวานเหรอ”

ชื่อของอารัทธ์ทำเอานิชิตาขมวดคิ้วผูกเป็นโบว์อีกรอบ สายตากรุ้มกริ่มมีเลศนัยของมุกตาภาทำไมเธอจะมองไม่รู้ว่าเพื่อนต้องการจะสื่ออะไร เธอกับนายอารัทธ์งั้นหรือ ไม่มีทาง...เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่มีทาง!

“เลิกคิดซะเถอะมุก หมูหวานไม่มีทางเป็นหนึ่งในคอนเล็คชั่นของอีตาบ้านั่นแน่ๆ ป่านนี้นอนขึ้นอืดตายไปแล้วมั้ง เห็นบ่นว่าเพลียเพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน หึ! ไม่รู้ไปทำอะไรมาทั้งคืน”

น้ำเสียงกระฟัดกระเฟียดเรียกรอยยิ้มกว้างผสมเสียงหัวเราะจากมุกตาภาได้อีกครั้ง มาคราวนี้หญิงสาวยอมเป็นผู้ฟังที่ดียืนฟังคำบ่นของนิชิตาถึงอารัทธ์ที่มียาวเป็นหางว่าว สายตาก็จ้องมองสาวหน้าหมวยด้วยรอยยิ้มขัน นิชิตาคงยังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังพูดถึงคนที่เกลียดมากมายขนาดไหน รู้จักกันมานานทำไมมุกตาภาจะไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคนนี้ถ้าได้ฝังใจว่าเกลียดใครนิชิตาจะไม่พูดชื่อของคนๆนั้นออกจากปากเลยสักคำเดียว แต่อารัทธ์...เพื่อนเธอกลับต่อว่าต่อขานเขาให้เธอฟังได้ในทุกครั้งที่เจอกัน เป็นสัญญาณที่บอกได้ดีว่าแม้ปากจะบอกว่าเกลียดแต่ใจจริง...ใจจริงที่นิชิตายังไม่รู้ตัว...ว่าแท้ที่จริงแล้วหัวใจดวงนั้นไม่ได้คิดอย่างที่ปากได้พร่ำบอกออกไปเลย แต่เรื่องของหัวใจเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องรู้ด้วยตัวเอง ถ้าคนนอกจะช่วยคงช่วยได้แค่คอยกระทุ้งให้เจ้าตัวรับรู้ถึงเสียงเรียกของหัวใจได้เร็วขึ้นเพียงเท่านั้น

“มุกมานอนกับหมูหวานไหม” นิชิตาถามเมื่อเดินเลาะริมชายหาดกับมุกตาภามาพักหนึ่ง

“พี่อาร์ทไม่ยอมหรอก” เพื่อนสาวคนสนิทบอกพร้อมเสียงหัวเราะ และนั่นทำให้หญิงสาวได้รับฝ่ามือเบาๆของนิชิตามาเป็นรางวัล

“แสดงว่ามุกอยากให้หมูหวานนอนห้องเดียวกับอีตาบ้านั่นเหรอ”

“พี่อาร์ทไม่ทำอะไรหมูหวานหรอกน่า เชื่อมุก”

“พูดอย่างนี้เหมือนมุกอยากอยู่ห้องเดียวกับพี่อาร์มเลยนะ” คำพูดของนิชิตาทำให้มุกตาภารู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนขึ้นมาแปลกๆ

“ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย มุกก็แค่...อยากรู้ว่าพี่อาร์มคิดจะรักกันบ้างไหม มุกอยากได้คำตอบที่มันชัดเจน ว่ารัก...หรือไม่รัก มุกจะได้ตัดสินใจถูกว่ามุกจะเอายังไงต่อไปดี”

“ถ้ามุกตัดสินใจอย่างนั้นหมูหวานก็จะไม่ว่า แต่ถ้ามีอะไรมุกอย่าลืมโทรหาหมูหวานนะ หมูหวานยังอยู่ตรงนี้เสมอ” นิชิตายิ้มให้กำลังใจ เพราะหญิงสาวเคารพการตัดสินใจของคนอื่นเสมอ ยิ่งคนๆนั้นคือมุกตาภาด้วยแล้ว เธอคงทำได้เพียงแค่คอยอยู่เป็นกองหนุน คอยสนับสนุน ให้กำลังใจ และปลอบใจเวลาที่เพื่อนสาวต้องการเพียงเท่านั้น เรื่องของหัวใจ...ก็ต้องให้เจ้าของหัวใจเป็นคนจัดการปัญหาที่แก้ไม่ตกด้วยตัวเอง










โทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องลั่นห้องรบกวนคนที่ ‘นอนขึ้นอืด’ ไม่น้อย อารัทธ์ยืดสุดแขนเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บริเวณโต๊ะตัวเตี้ยข้างเตียง ดวงตาเรียวเล็กลืมตาขึ้นดูชื่อที่โทรเข้ามานิดหน่อยก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทั้งที่ตายังปรือๆเพราะยังนอนไม่เต็มอิ่ม ถ้าเป็นเบอร์ไม่สำคัญอยากจะตัดสายทิ้งพร้อมปิดเครื่องไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่นี่...เป็นเบอร์สำคัญและคนสำคัญโทรเข้ามาจะไม่รับให้เสียเรื่องได้อย่างไรกัน

“มีอะไรครับคุณชิษวัศ” น้ำเสียงงัวเงียตอบรับสายที่โทรเข้าก่อนจะยันตัวขึ้นพิงหัวเตียงในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

“มาหัวหินได้ยังไง” น้ำเสียงที่ตอบกลับมากดต่ำ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธมากแค่ไหน

“ขับรถมาสิวะ”

“อย่ามากวนประสาทฉันนะไอ้อาร์ท แกพักห้องไหนบอกมาเดี๋ยวนี้เลย!”

ชิษวัศในภาวะ ‘ฟิวส์ขาด’ ตะโกนลั่นมาตามสัญญาณ ดีที่อารัทธ์รู้ทันจึงยกโทรศัพท์ออกห่างหูเรียบร้อย รอยยิ้มสะใจปรากฏบนใบหน้า นานทีปีหนจะทำให้คนอย่างชิษวัศหัวเสียได้ แบบนี้มันน่าจดบันทึกไว้จริงๆเชียว

“ฟิวส์ขาดอย่างนี้แสดงว่าถามพนักงานแล้วเขาไม่บอกน่ะสิ” อารัทธ์ตอบกลับอย่างรู้ทัน

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะไอ้อาร์ท!”

“แล้วแกจะโกรธไปทำไม ขนาดฉันโดนแกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวฉันยังไม่โกรธเลย หรือแอบคิดไม่ดีกับน้องมุกอยู่เลยกลัวว่าจะมีก้างมาขวางคอ ไหนบอกว่าไม่กินเด็กไงวะ”

อารัทธ์แกล้งกระทุ้งอีกฝ่าย ความจริงรู้อยู่แล้วว่าชิษวัศต้องใช้ความสามารถของเทคโนโลยีในการติดตามความเป็นไปของตัวเองเป็นแน่ จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ถ้าชิษวัศจะรู้และเขาเองก็ไม่คิดจะปกปิดแม้จะสามารถทำได้ก็ตาม อารัทธ์จงใจที่จะเปิดการติดตามให้คนฟอร์มจัดได้รู้เพราะอยากจะเห็นว่าชิษวัศจะปฏิเสธ ‘ไม่กินเด็ก’ ได้อีกนานแค่ไหน และถ้าชิษวัศจะหาจริงๆก็คงหาได้ไม่ยากว่าตนพักอยู่ห้องใด แต่อารัทธ์ก็มีวิธีที่จะทำให้เพื่อนสนิทไม่แม้ที่จะคิดออกตามหา

“ฉันไม่ได้คิดไม่ดีกับหนูมุก!”

“เหรอ...” อารัทธ์ตอบกลับไปอย่างล้อเลียน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้สิ่งที่ชิษวัศอยากทำมากที่สุดก็คือการไล่เตะเพื่อนอย่างเขานั่นเอง “ไม่คิดจะเอาคืนเรื่องจูบแน่หรือไอ้อาร์ม เท่าที่รู้จักกันมาแกไม่เคยยอมให้ผู้หญิงมาลูบคมนี่หว่า”

อารัทธ์แกล้งหยอด เวลาสิบกว่าปีที่คบกันมาทำไมจะไม่รู้ว่านิสัยชิษวัศเป็นอย่างไร การพามุกตาภามาหัวหินครั้งนี้แถมยังจองห้องพักห้องเดียวชายหนุ่มมั่นใจว่าไอ้เพื่อนซี้มันมีวาระแอบแฝงอยู่แน่!

“ฉันไม่ได้คิดจะเอาคืน”

“จะแน่เร้อ”

“เออ!”

คำตอบแบบกระแทกกระทั้นทำเอาอารัทธ์ปล่อยหัวเราะลั่นห้อง ชิษวัศตอบอย่างนี้แสดงว่ามีวาระซ้อนเร้นอยู่แน่นอนไม่รู้ว่ามุกตาภาจะหาทางรับกับศึกนี้อย่างไร

“แล้วที่โทรมาอาละวาดกับฉันนี่ด้วยเรื่องอะไร หรือกลัวว่าจะมีก้างอย่างฉันไปขวางคอ”

“ไอ้อาร์ท...” เสียงที่ตอบกลับมากดต่ำมากกว่าเดิมราวกับว่าเจ้าตัวกำลังอดกลั้นอารมณ์โมโหที่กำลังปะทุอยู่ในอก “ถ้าแกกวนประสาทฉันอีกคำเดียว สาบานได้ว่าฉันสามารถหาแกเจอภายในครึ่งชั่วโมง”

“โอ้ๆ...ใจเย็นครับคุณเพื่อน” อารัทธ์ต้องรีบปรามเมื่อได้ยินน้ำเสียงจริงจังจากปลายสาย “เอาเป็นว่าที่ฉันมาหัวหินฉันไม่ได้มาขัดขวางอะไรแก แค่ใช้แกเป็นข้ออ้างมาเที่ยวกับสาวเท่านั้น แต่ถ้าสาวที่มากับฉันเข้าไปขวาง...งานนี้ฉันก็ไม่เกี่ยวนะ”

“อย่าบอกนะว่าแกมากับคุณหมูหวาน” ชิษวัศถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ ไม่คาดคิดว่าอารัทธ์จะหว่านล้อมผู้หญิงอย่างนิชิตามาจนได้

“เก่งใช่ไหมล่ะ” อารัทธ์ไม่ตอบแต่ดันตั้งคำถามกลับแต่เป็นคำถามที่บ่งบอกถึงคำตอบได้ชัดเจน

“แล้วคุณหมูหวานอยู่ไหน”

“ออกไปเดินเล่น ป่านนี้อาจเจอกับน้องมุกแล้วมั้ง”

“เหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ฉันก็เดาๆไป ว่าแต่แกไม่มีวาระซ่อนเร้นจริงๆนะไอ้อาร์ม แล้วก็ไม่ต้องตามหาฉันล่ะ เพราะฉันไม่ได้มาเป็นก้างเพื่อขวางคอแก”

“เออ!”

ชิษวัศกระแทกคำตอบกลับมาพร้อมกับสัญญาณที่ถูกตัดไปโดยเจตนา อารัทธ์หัวเราะขึ้นมาเบาๆ วางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะตัวเตี้ยข้างเตียงตามเดิม ก่อนจะพลิกตัวนอนหงายสายตาจ้องมองเพดานห้องสีขาวบริสุทธิ์ ริมฝีปากหยักลึกสีแดงสดแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ใช่ว่าจะมีเพียงชิษวัศคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่มีวาระซ่อนเร้น ชายหนุ่มเองก็มีเช่นเดียวกัน...เป้าหมายคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอาจารย์สาวคนนั้น แต่ท่าทางเคสของเขาจะยากกว่าเคสของชิษวัศมากนักเพราะดูจากท่าทางนิชิตาไม่มีทีท่าว่าจะหลงกลเลยสักนิดเดียว แต่ถ้าจะให้ถอยคงต้องปฏิเสธเพราะคนอย่างอารัทธ์ไม่เคยยอมแพ้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน ยิ่งผู้หญิงจอมพยศอย่างนิชิตายิ่งน่าท้าทาย!













หนึ่งวันที่หัวหินดำเนินผ่านไปจนถึงยามพระอาทิตย์ใกล้บอกลาท้องฟ้า มุกตาภาหยุดอยู่หน้าประตูไม้ของห้องพักก่อนจะเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าไป แต่เมื่อไม่มีเสียงใดตอบรับมาหญิงสาวจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปเองโดยไม่รอคำอนุญาต สิ่งแรกที่เห็นคือโต๊ะทำงานที่เหลือเพียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแต่กลับไม่มีเจ้าของนั่งอยู่ตรงนั้น มุกตาภาจึงกวาดสายตามองไปรอบห้องก่อนจะพบกับบุคคลที่เธอมองหานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง

ขาเรียวสวยค่อยๆก้าวเดินเข้าไปใกล้คนที่นอนหลับสนิททีละนิด พยายามให้ฝีเท้าของตัวเองเบาที่สุดเพราะกลัวว่าจะปลุกให้คนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราตื่นก่อนจะค่อยๆทรุดตัวนั่งลงริมขอบเตียงฝั่งเดียวกับที่ชิษวัศนอนอยู่ ดวงตาโตสวยจ้องมองคนที่หลับสนิทด้วยความเอ็นดูอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปเกลี่ยผมที่ปรกมาบริเวณหน้าผากให้พ้นไป หลับสนิทขนาดนี้เจ้าตัวคงจะเหนื่อยมากเพราะชิษวัศไม่ได้รู้ตัวเลยว่าข้างๆตัวเขามีเธอมานั่งอยู่ด้วยกัน

รอยยิ้มสวยประดับบนดวงหน้าหวานน่ารัก ชิษวัศยามหลับก็น่ามองไปอีกแบบ ผู้ชายตรงหน้าเธอเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด นอนหลับอย่างสบายใจ แก้มขาวใสตัดกับริมฝีปากสีสดที่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกราวกับต้องมนตร์ มุกตาภาใช้นิ้วชี้จิ้มแก้มของคนที่นอนหลับเบาๆ จิ้มไปก็อมยิ้มไป สมัยก่อนชิษวัศก็ชอบจิ้มแก้มยุ้ยๆของเธออย่างนี้เช่นกัน มาตอนนี้ก็ขอเธอทำอย่างที่เขาเคยทำในอดีตบ้างจะเป็นไร

หากร่างบางก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนที่คิดว่าหลับสนิทกลับลืมตาโพลงขึ้นมา มือที่ค้างอยู่บริเวณแก้มของชิษวัศถูกมือหนาจับเข้าให้ที่ข้อมือก่อนจะออกแรงดึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆให้ล้มลงบนเตียงด้วยกัน ชิษวัศอาศัยแรงที่มากกว่าจับข้อมือที่ดิ้นรนหาทางออกให้หยุดนิ่งด้วยมือของตัวเอง ชายหนุ่มกักขังเธอไว้ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่กว่าผสมกับสายตาคู่คมที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย รอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์พร่างพราวขึ้นจนมุกตาภาได้แต่ต่อว่าตัวเองในใจว่าเธอเสียท่าเขาเข้าให้อีกแล้ว

“พี่อาร์มคิดจะทำอะไร” แม้จะอยู่ในสภาวะล่อแหลมแต่มุกตาภาก็ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวอย่างที่นิชิตาบอกมา เธอต้องใจแข็งเข้าไว้ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ตกหลุมพรางที่ชิษวัศดักไว้แน่

“พี่น่าจะถามมากกว่านะว่าเมื่อกี้หนูมุกคิดจะทำอะไร”

คำพูดของชิษวัศสร้างความตกใจให้กับมุกตาภาไม่น้อย หญิงสาวตวัดค้อนวงโตให้คนที่เจ้าเล่ห์แสนกล

“คนเจ้าเล่ห์...ตื่นมาตั้งแต่มุกเคาะประตูแล้วใช่ไหม”

ชิษวัศส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมยิ้มพราว

“เปล่า...พี่หลับตั้งแต่หนูมุกเคาะประตูต่างหาก”

มุกตาภาตวัดค้อนให้เสียอีกที พยายามบิดมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายแต่ทำอย่างไรก็หลุดพ้นจากพันธนาการของชิษวัศไม่ได้เลย

“ปล่อยมุกได้หรือยัง” เมื่อไม่สามารถจะเป็นอิสระได้ด้วยตัวเองจึงยอมร้องขอคนที่ยึดอิสระของตัวเองไว้

“นั่นสินะ จะปล่อยดีหรือยัง” ชิษวัศถามกลับด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีนิลพราวระยับอย่างมีความนัย ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าใกล้ดวงหน้าหวานทีละนิดจนใกล้กัน ลมหายใจอุ่นๆของชิษวัศที่รวยรินรดใบหน้าอยู่ตอนนี้ทำให้มุกตาภาแทบลืมหายใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะบิดหน้าหลบเป็นพัลวัน

“ใกล้ไปแล้ว” น้ำเสียงหวานร้องเตือนหากคนถูกเตือนกลับไม่ได้สำนึกเลยแม้แต่น้อย ชิษวัศยังคงใบหน้าให้ชิดอยู่อย่างนั้น เสียงหัวเราะทุ้มๆดังขึ้นก่อกวนอยู่ริมข้างหูของมุกตาภา

“หนูมุกไม่ใช้น้ำหอมใช่ไหม” คำถามที่จู่ๆก็ถามขึ้นอย่างไม่มีบทนำทำให้ดวงหน้าที่หลีกหนีไปในคราแรกหันกลับมาเผชิญกับใบหน้าคมที่อยู่แทบชิดกันอีกครั้ง

“ถ้าจะเล่นเกมยี่สิบคำถามกับมุกก็ช่วยปล่อยกันก่อนได้ไหมคะ” มุกตาภาร้องขอเสียงอ่อนเสียงหวานหากชิษวัศกลับทำเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นยิ้มเท่านั้น

“พี่ยังไม่ได้คำตอบเลย หืม...ขอคำตอบด้วยครับ” ชิษวัศก้มหน้าลงต่ำไปอีกนิด ส่วนคนที่ถูกต้อนเอาคำตอบก็ต้องรีบเบี่ยงหลบอย่างรวดเร็วเพราะไม่อย่างนั้นจมูกโด่งสันของเขาได้ชนเข้ากับปลายจมูกเชิดรั้นของเธอเป็นแน่

“ปะ...เปล่า เปล่าค่ะ มุกไม่ได้ใช้ มุกแพ้กลิ่นน้ำหอม ถ้าได้กลิ่นใกล้ๆจะปวดหัว” มุกตาภาตอบพร้อมให้เหตุผลเสียยืดยาวเพราะกลัวว่าถ้าไม่บอกให้เขาเข้าใจเธอจะอาจจะโดนวิธีแปลกๆเค้นเอาคำตอบที่ชิษวัศอยากจะฟังก็เป็นได้

“ถึงได้ใช้น้ำอบใช่ไหม” ชิษวัศบอกด้วยรอยยิ้มกริ่ม กดจมูกลงบนแก้มใสของคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

“หอมไปอีกแบบ”

คนที่ถูกขโมยหอมแก้มรีบหันมามอง สัมผัสเมื่อครู่ยังคงติดตรึง ความร้อนไม่รู้มาจากไหนเห่อลามไปจนทั่วไปหน้าถึงลำคอ ไม่ต้องให้ใครมาบอกมุกตาภาก็รู้ได้ว่าตอนนี้หน้าเธอต้องแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้วแน่ๆ

“พี่อาร์ม อย่าทำอย่างนี้นะ” น้ำเสียงที่พยายามทำให้แข็งกลับสั่นไหวโดยที่เจ้าตัวเองก็ห้ามไม่อยู่ อาการเหล่านั้นจึงทำให้คนที่ถือไพ่เหนือกว่ายิ่งได้ใจ

“พี่ทำอะไร”

“ก็ ก็ทำอย่างนี้ไง ปล่อยมุกซี่” ท้ายประโยคเอ่ยขึ้นพร้อมกับบิดข้อมือจากการเกาะกุมของชิษวัศอีกครั้งและมันก็ไร้ผล...เช่นเดิม

“หนูมุกก็อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวพี่ก็ปล่อยเอง” ชิษวัศบอกยิ้มๆ ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะรุกขนาดนี้หรอก แต่มุกตาภาอยากจะมาวางระเบิดไว้ก่อนเอง แบบนี้ก็ต้องโดนเอาคืน

“เดี๋ยวคือเมื่อไหร่”

“นั่นสินะ เมื่อไหร่ดีล่ะ”

“มุกไม่ได้ล้อเล่นนะคะ”

“แล้วหนูมุกเห็นพี่ล้อเล่นอยู่หรือ หืม?” ชิษวัศก้มหน้าเข้าไปใกล้ให้มากกว่าเดิมจนสายตาคู่คมเห็นชัดเจนว่าแก้มของหญิงสาวผู้นี้ใสเพียงใด

“มะ...ไม่เอานะพี่อาร์ม...อย่าเล่นอย่างนี้” น้ำเสียงหวานปฏิเสธเสียงสั่น สถานการณ์อย่างนี้คาดเดาได้อยากว่าชิษวัศแค่อยากแกล้งเธอเล่นหรือคิดจะเอาจริง แต่ไม่ว่าทางไหนมันก็ไม่ดีต่อหัวใจที่อ่อนไหวของเธอทั้งนั้น...ไม่ดีเลย

“ใกล้ขนาดนี้หนูมุกได้กลิ่นน้ำหอมของพี่ไหม” คำถามประหลาดกับรอยยิ้มแปลกๆทำให้คิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยังขยับปากตอบคำถามนั่นตามความจริง

“มะ...ไม่ ไม่นี่คะ มุกได้กลิ่นแค่...แค่...” มุกตาภาเงียบไปนิดหนึ่ง หน้าที่ว่าร้อนอยู่แล้วยิ่งร้อนวูบยิ่งกว่าเดิมเมื่อจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นโคโลญผสมกับกลิ่นอาฟเตอร์เชฟอ่อนๆของผู้ชายตรงหน้า

“แค่อะไร” น้ำเสียงทุ้มถามซ้ำ ดวงตาสีนิลพราวระยับไม่ต่างอะไรกับรอยยิ้มที่ปรากฏให้มุกตาภาได้เห็นจนต้องหลบทั้งสายตาทั้งรอยยิ้มนั่นแทบไม่ทัน

“แค่ แค่...ได้กลิ่นโคโลญกับอาฟเตอร์เชฟ” น้ำเสียงที่บอกออกไปเบาหวิว หัวใจเต้นโครมครามราวกับว่าจะหลุดออกมานอกอก ไม่กล้าเลยที่จะหันไปสบดวงตาคู่คมที่มองจ้องมา

“แล้วเหม็นไหม”

“มะ...ไม่ค่ะ ถ้ากลิ่นอ่อนๆมุกไม่เป็นอะไร”

“แล้วหนูมุกชอบหรือเปล่า”

“คะ?” มุกตาภาย้อนถามเสียงสูง ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ สงสัยในคำว่า ‘ชอบ’ ของชิษวัศว่าเขาต้องการจะถามอะไรกับเธอกันแน่

“ชอบอะไรคะ?”

“นั่นสินะ...ชอบอะไรดีล่ะ” ชิษวัศแกล้งทำสีหน้าขบคิดพอใจอย่างมากที่ได้แกล้งมุกตาภาจนหน้าแดงหูแดงไปหมด เธอจะได้รู้ว่าการที่คิดจะยุ่งกับผู้ชายอย่างเขานั้นมันไม่ดีเลย

“พี่อาร์มปล่อยมุกนะ” มุกตาภาพยายามร้องขออีกครั้ง

“พี่จะปล่อยถ้าหนูมุกยอมตอบคำถาม” มาคราวนี้ชิษวัศยอมรับคำร้องขอของหญิงสาวแต่ก็ยังไม่วายที่จะมีข้อแม้

มุกตาภาหันหน้ามาสบกับดวงตาคู่คมอีกครั้ง คิ้วโค้งสวยชมวดชิด ริมฝีปากบางเม้มแน่นสนิทจนเป็นเส้นตรงเมื่อเจ้าตัวกำลังใจความคิดและชั่งใจกับคำถามของคนเจ้าเล่ห์อย่างชิษวัศ

“พี่อาร์มก็ถามมาสิคะ” สุดท้ายหญิงสาวก็ยอมที่จะเดินลงหลุมพรางที่ชิษวัศดักไว้อยู่ดี

“คืนนั้น...จูบพี่ทำไม”

คำถามของชิษวัศปลุกให้ความทรงจำในคืนนั้นกลับมาอีกครั้ง หัวใจที่เต้นรัวและแรงราวกับกลองเพลยิ่งโหมกระหน่ำ ลมหายใจเข้าออกพลันที่จะติดขัดไปเสียหมด

“พี่ต้องการคำตอบนะหนูมุก” ชิษวัศกดเสียงต่ำย้ำถึงคำตอบที่ต้องการ ใช้สายตาที่ราวกับพญาเหยี่ยวเจอเหยื่อถูกใจมองตรงมายังหญิงสาวตรงหน้า

มุกตาภาสบกับสายตาคู่นั้นด้วยแววตาที่หวั่นไหว เธอแพ้อย่างราบคาบกับสายตาอย่างนี้ของชิษวัศ ดวงตาสีนิลที่ทรงพลังคล้ายกับกำลังสะกดเธอให้ต้องอยู่ในมนตร์เสน่หาของเขา

“เพราะมุกอยากให้พี่อาร์มรู้ว่ามุกไม่ใช่เด็ก” เมื่อถูกสายตาอย่างนั้นบังคับมุกตาภาจึงต้องตอบตามความจริง แม้จะรู้ดีว่าคำตอบของเธอในสถานการณ์อย่างนี้อาจจะส่งผลเสียตามมาก็ตาม

“ตอนนี้พี่ก็รู้แล้วนะ” รอยยิ้มมาดร้ายของชิษวัศทำให้คนที่กำลังถูกคุกคามรู้สึกกลัวขึ้นมาจับหัวใจ

“แต่...แต่พี่อาร์มจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า พี่อาร์มไม่เคยผิดข้อห้ามของตัวเอง” มุกตาภารีบยก ‘ข้อต้องห้ามของชิษวัศ’ มาเพื่อหาทางรอดให้กับตัวเอง

ชิษวัศจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่สั่นระริกด้วยความกลัว มุมปากยกขึ้นนิดหนึ่ง ถึงคราวแล้วที่มุกตาภาสมควรจะรู้เสียทีว่าการที่เธอราดน้ำมันในกองไฟที่กำลังจะมอดให้เปลวไฟพัดโหมขึ้นมาอีกครั้งมันจะเป็นอย่างไร

“มุกตาภา...” ชายหนุ่มเรียกชื่อคนที่อยู่ภายในพันธนาการของตัวเองช้าๆชัดๆ “มีข้อห้ามมันก็ต้องมีข้อยกเว้น...รู้หรือเปล่า”

ถ้อยคำของชิษวัศทำให้หัวใจดวงน้อยที่เต้นโครมครามร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม หญิงสาวไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าคนอย่างชิษวัศจะยอมให้ข้อห้ามของตัวเองมีข้อยกเว้น

“พี่อาร์ม...ขอโทษ มุกขอโทษ ปล่อยมุกนะคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มที่จะเอาจริงโดยไม่มีแววล้อเล่นคนที่ถูกต้อนให้จนมุมจึงต้องรอข้องอีกครั้งพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยจนทำให้คนที่ถือไพ่เหนือกว่าและกำลังจะชนะในเกมนี้ต้องรีบปล่อยมือและดึงคนขี้แยให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆกัน

“หนูมุก...ร้องไห้ทำไม” ชิษวัศละล่ำละลักถาม ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้ ชายหนุ่มเพียงแค่อยากแกล้งเธอเพื่อเอาคืนเรื่องจูบเท่านั้น แม้จะยอมรับว่าอยากจะสั่งสอนให้เธอได้รู้ว่าไม่ควรเข้ามายุ่งกับหัวใจของผู้ชายอย่างชิษวัศแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้เธอกลัวมากมายขนาดนี้เลยจริงๆ

เมื่อชิษวัศหยิบยื่นอิสระให้อีกครั้ง มุกตาภาก็ปล่อยน้ำตากับเสียงสะอื้นฮักออกมาอย่างไม่อายใครร้อนถึงอีกคนที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยกันต้องรั้งร่างบางเข้าสู่อ้อมอกกว้างก่อนจะ ‘โอ๋’ เบาๆอย่างที่เคยทำให้สมัยก่อน

“โอ๋ๆ พี่อาร์มขอโทษ หนูมุกอย่าร้องนะ” ชิษวัศโยกร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขนไปมาแต่ไม่รู้ทำไมยิ่งโอ๋คนในอ้อมแขนถึงได้ยิ่งร้องไห้หนักจนชายหนุ่มต้องดันร่างของมุกตาภาออกจากอ้อมแขนของตัวเองนิดหนึ่งจนพบกับดวงหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาเต็มไปหมด

ชิษวัศค่อยๆใช้นิ้วไล่เกลี่ยเช็ดน้ำตาที่ไหลมาเป็นทางให้พ้นไปแต่ยิ่งเช็ดมุกตาภาก็ยิ่งร้องจนชายหนุ่มเองก็จนด้วยปัญญาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเธอดี

“ถ้าร้องมากกว่านี้พี่จับจูบซับน้ำตาเสียดีไหม” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาเล่นๆหวังขู่ให้คนที่ร้องไห้เป็นเผาเต่ากลัว แล้วดูว่าเหมือนจะได้ผลเสียด้วยเมื่อมุกตาภาหยุดสะอื้น น้ำใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาก็คล้ายที่จะค่อยๆแห้งเหือดไปพร้อมกับร่างบางที่เขยิบถอยออกห่าง

“พี่ไม่ได้คิดจะทำอะไรเสียหน่อย ไม่ต้องกลัวแล้ว” น้ำเสียงทุ้มย้ำบอกหากคราวนี้มุกตาภากลับยังไม่ยอมปักใจเชื่อ

“คนเจ้าเล่ห์...มุกไม่เชื่อหรอก”

“งั้นพี่ทำดีมั้ย” ชิษวัศทำท่าจะเขยิบเข้าไปใกล้ เห็นอย่างนั้นมุกตาภาจึงรีบกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

“มุกจะฟ้องป้าอัญถ้าพี่อาร์มคิดจะทำอะไรมุก” มุกตาภางัดไม้ตายขึ้นมาใช้แต่ชิษวัศกลับไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจกับคำขู่

“ถ้าอย่างนั้นมุกคงต้องเตรียมตัวรับขันหมากจากแม่พี่” คำพูดที่พูดออกไปคล้ายกับไม่ใส่ใจของชิษวัศทำให้อุณหภูมิความร้อนบนหน้าของมุกตาภาพวยพุ่งขึ้นมากกว่าเดิม ถ้อยคำที่จะตอบโต้กลับถูกกลืนหายไปหมดเมื่อคำว่า ‘ขันหมาก’ เข้ามากระทบโสตประสาท

“บ้า! พี่อาร์มบ้า!” คำพูดคลาสสิคฉบับละครหลังข่าวคือคำพูดเดียวที่มุกตาภานึกออกในขณะนี้ นึกโกรธตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่สามารถตอบโต้ชิษวัศกลับไปได้ดีกว่าคำว่า ‘บ้า’

“โอเคครับ บ้าก็บ้า” ชิษวัศยอมรับข้อกล่าวหาแต่โดยดี ร่างสูงก้าวลงจากเตียงมายืนฝั่งตรงข้ามกับมุกตาภา “หนูมุกไปล้างหน้าล้างตาซะ เดี๋ยวพี่จะพาไปกินอะไรอร่อยๆ ถือว่าเป็นการขอโทษละกัน”

“มาตบหัวแล้วคิดจะลูบหลังกันเหรอ”

“หนูมุกปฏิเสธ?”

“เปล่าซะหน่อย” มุกตาภาสะบัดหน้าพรืดก่อนจะเดินตุปัดตุป่องเข้าไปในห้องน้ำ ชิษวัศส่ายหน้าให้กับการกระทำนั้นอย่างนึกขัน กระหวัดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วหัวใจก็พลันเต้นผิดจังหวะ แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะอยู่ในการควบคุมของตนเองแต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นไหวในหัวใจแบบแปลกๆแต่ชายหนุ่มก็พยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเองอย่างสุดความสามารถแม้มันจะมีบางครั้งที่หลุดวงโคจรไปบ้างก็ตาม

“จะรอดไหมวะไอ้อาร์ม” ชิษวัศบ่นกับตัวเองขึ้นมาเบาๆ จ้องมองไปยังประตูห้องน้ำที่มีบุคคลหนึ่งซึ่งกำลังเป็นตัวแปรสำคัญของหัวใจในขณะนี้ ทั้งที่พยายามจะออกห่างแต่มุกตาภากลับยิ่งเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปใกล้ชิดกับเธอ แม้จะรู้ดีว่าการกระทำอย่างนั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อหัวใจของตัวเองเลย ความผูกพันที่สานสายใยกันมาตั้งแต่เด็กที่อาจจะเคยลืมเลือนไปนานได้ถูกรื้อฟื้นและยังคงถักทอต่อไป ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัวในหัวใจเพิ่มพูนขึ้นวันละน้อยแม้ชิษวัศจะเพียรพยายามปฏิเสธและลดทอนความรู้สึกนั้นออกไปแต่มันก็ไม่ง่ายเลยเมื่อความรู้สึกที่แท้จริงยังบอกชัดว่า ‘เขารักเธอ’ แต่กลับต้องตัดใจและตั้งกำแพงขึ้นป้องกันตัวเองเพราะกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยกับความรักเมื่อวัยแรกรุ่นครั้งนั้น

...รักครั้งนั้นมันเหมือนกับฝันร้ายที่ต่อให้พยายามลบไปอย่างไรมันก็ยังไม่ยอมลืมเลือนไปกับกาลเวลาที่ล่วงเลย...


--------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปว่าเรื่องของหมูหวานก็ชักยุ่งเหยิงเหมือนกันนะคะ ไปๆมาๆก็ทำท่าว่าจะมีปัญหาเหมือนๆคู่พี่อาร์มซะแล้วววว นายอาร์ทเอ๋ย...ถ้าเกิดรู้ความจริงว่าหมูหวานเป็นน้องสาวของอดีตแฟนเก่าจะทำหน้ายังไงนะ เฮ้ออออออ แล้วถ้ายิ่งรู้ว่าอดีตแฟนเก่าของคุณอาจารย์อยู่ใกล้ผู้หญิงที่ตัวเองหมายปองไว้ขนาดนี้ พี่อาร์ทจะเป็นยังไง ฮ่าๆ

ส่วนพี่อาร์มถ้าหนูมุกไม่ร้องไห้...อะไรจะเกิดขึ้นต่อกันน้า...ฮ่าๆ พี่อาร์มใจอ่อนอีกแล้วที่เห็นหนูมุกร้องไห้ แต่พี่อาร์มเริ่มที่จะเปิดใจกว้างขึ้นแล้วนะคะ ถึงเจ้าตัวเค้าจะยืนยันนั่งยันว่าเขาแค่จะเอาคืนก็เถอะ :)

ตอนหน้า...มีคนหนึ่งบอกรักค่ะ แต่จะเป็นใครหนอ...เดาได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ^^"

พบกันตอนหน้า "ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีโลกใบนี้?" ค่ะ :))



ตอบเมนท์จ้า...



pattisa : ทายถูกครึ่งนึงค่ะ สรุปแล้วทุกคนโผล่มาแบบหมูหวานไม่ได้ตั้งตัวกันทั้งนั้นเลย // ปล. ปอแก้วบอกพี่อาร์มแล้วนะคะ พี่อาร์มฝากมาบอกคุณ pattisa ว่าเดี๋ยวพี่อาร์มจะซื้อให้ อิอิ :P

violette : เฉลยแล้วว่าใคร ถูกใจคุณ violette ไหมคะ? บังเอิญจริงจริ๊งงงง รวมพลแฟนเก่ากันหรือยังไงก็ไม่รู้ ดีนะเฟลอร์ไม่มาด้วย ฮ่าๆ

roseolar : พี่อาร์ทแกเพลียจัดค่ะ ขนาดพี่อาร์มโทรมาแกยังขี้เกียจจะรับเลย ส่วนเรื่องหึง...รอดูต่อไปค่ะ พี่อาร์ทงานเข้าอยู่เรื่อยๆเลยค่ะ ออกจะเปิดเผยว่ารักชัดซะขนาดนั้นแต่สถานการณ์รอบตัวมันไม่ได้เป็นใจไปด้วยเล้ย // ส่วนพี่อาร์มกะหนูมุก...หวานไหมคะ ปอแก้วว่าน่ารักดีนะคะ กุ๊กกิ๊กกันเล็กๆน้อยๆ พี่อาร์มมาดเจ้าชายน้ำแข็งหายไปเลย ฮ่าๆ ส่วนตอนหน้า...ต่อเนื่องจากตอนนี้ค่ะ อิอิ ><

anOO : สองสาวเขาคิดกันค่ะ แต่...หนูมุกดันเป็นฝ่ายที่อยากลองใจพี่อาร์มซะงั้น หารู้ไม่ว่ากำลังจะตกหลุมพรางของพี่อาร์มเต็มๆ ไม่รู้จะบอกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ^^"

Amata : แบบว่าลงตัวสุดๆเลยค่ะ รอพี่อาร์มเปิดใจกว้างๆรับหนูมุกอยู่เนี่ยค่ะ จะเมื่อไหร่น้อ...

nunoi : สรุปว่าหมูหวานเจอทุกคนค่ะ มารวมตัวกันที่หัวหินโดยมิได้นัดหมาย ฮ่าๆ วุ่นวายดีแท้...

WallyValent : เราก็ชอบนายไวน์นะ จริงๆมีแรงจะเขียน เพราะหนูมุกมันแอบส่งอิมเมจพี่อาร์มมาให้ ฮ่าๆๆๆๆ แต่สถานการณ์มันไม่ค่อยจะเอื้อจริงๆสิให้ตาย




ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ม.ค. 2555, 11:18:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2555, 12:13:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1894





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 10   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 12 >>
pattisa 15 ม.ค. 2555, 20:12:55 น.
หนูมุกคงจะหนีพี่อาร์มไม่พ้น อิอิ


violette 16 ม.ค. 2555, 01:36:31 น.
กรี๊ดดดดด คู่หมูวานดูซับซ้อนมากค่ะ แอบสงสัยอิตาพี่พีนว่าทำไมทิ้งหมูหวานได้เน้อ
คู่พี่อาร์มนี่ แพ้ทางหนูมุกซะละ โฮ่ๆ แต่ยังเก็บอาการเนอะ
แล้วนายอาร์ทนี่เจอพี่มิ้นท์ของหมูหวานแล้วจะว่าไงหว่าอยากอ่านค่า


WallyValent 16 ม.ค. 2555, 11:31:42 น.
อยากเห็นพี่อาร์มฟิวส์ขาดบ่อยๆ เผื่อจะได้เอาคืนหนูมุกบ้าง
55+



anOO 16 ม.ค. 2555, 12:01:14 น.
หมูหวานเอาไกด์ตัวดีไปอวดเลย ไม่ต้องแคร์แล้ว
หนูมุกสู้ตาย พี่อาร์มกำลังจะมีข้อยกเว้นแล้ว


Amata 16 ม.ค. 2555, 13:25:01 น.
บรรยากาศเป็นใจให้เอาคืนเนอะพี่อาร์ม...


nunoi 17 ม.ค. 2555, 17:01:44 น.
พี่อาร์มเอ๋ย มีข้อห้าม ก็ มีข้อยกเว้น เจ้าเล่ห์จริงๆเล้ย


teesaparn 18 ม.ค. 2555, 11:42:28 น.
ขอบคุณเจ้าสำหรับเม้นท์ มาส่งกำลังใจ๋หื้อเน้อเจ้า ซอบจื้อของคุณ
บ่ะฮู้ว่าคุณเคยอ่านนิยายเรื่องดั่งดาวเดือนก่อ นางเอกบ่ะอยากบอกว่าจื้อ...ปอแล้ว เอ๊ย ปอแก้ว
จะติดตามอ่านนิยายของคุณเช่นกัน สู้ๆๆ^-^


roseolar 19 ม.ค. 2555, 07:46:54 น.
หมูหวานนนน~
ถูกยายมิ้นท์แย่งแฟนเหรอเนี่ย สงสัยพีรัชต้องกลายมาเป็นชนวนให้นายอาร์ทหึงหมูหวานของเราแน่เลย ว่าแต่ว่า...คู่ของหนูมุกกับพี่อาร์มชักจะหวานเกินไปแล้วน้าาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account