อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 14

ตอนที่ 14

“เรียบร้อย งานนี้ฟรีตลอดทาง เห็นไหมว่าฉันเก่ง”ตรีทิพย์ที่วางสายจากพี่ชายคนดีแล้วบอกกับเพื่อนรักที่นั่งฟังอยู่ ดาวเหนือมองสีหน้าสมใจของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องส่ายหัว ในใจนั้นสงสารตฤณอย่างมากที่ต้องมามีน้องสาวจอมเจ้าเล่ห์อย่างตรีทิพย์

“แกนี่มันจริงๆ หลอกใช้พี่ตฤณเขาจนได้”

“อ๊ะ! ก็เขาเต็มใจให้หลอกนี่นา ฉันไม่ผิดนะ”

ดาวเหนือส่ายหัว ก่อนจะสนใจงานในมือต่อ ปล่อยให้ตรีทิพย์มีความสุขกับชัยชนะเหนือพี่ชายต่อไป ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนดังขึ้น แต่เจ้าตัวกลับแค่ปรายตามองแล้ววางเฉย จนเธอต้องเอื้อมมือไปหยิบมาดู หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครโทรมาหาเพื่อนของเธอ ดาวเหนือยื่นโทรศัพท์ไปด้านหน้า ก่อนจะถามยิ้มๆ

“ไม่รับเหรอ ถ้างั้นฉันรับให้นะ”พูดจบก็ไม่รอให้เพื่อนอนุญาต จัดการรับสายทันทีก่อนกรอกเสียงลงไป ดวงตาคมจ้องมองอากัปกิริยาของตรีทิพย์ที่แม้จะไม่มองหากแต่ก็เงี่ยหูฟังเต็มที่

“สวัสดีคุณวี นี่ดาวเอง ยายตาลไม่ยอมรับสายคุณ”ตรีทิพย์ถลึงตาใส่เพื่อนที่ดันบอกความจริงไป แต่ดาวเหนือไม่ใส่ใจก่อนจะอมยิ้มพร้อมส่งมือถือคืนเจ้าของ

“เอ้า!รับซะคุณวีบอกว่าถ้าไม่รับเขาจะไปนั่งรอในบ้านแก แล้วบอกแม่แกให้หมดเลยว่าแกเคยไปต่อยเขาเอาไว้”

“ไอ้บ้านั่น! เอามานี่สิ”มือบางคว้าโทรศัพท์กลับคืน ก่อนจะโวยใส่ปลายสายที่พูดอะไรกลับมาซักอย่าง แต่เล่นเอาเพื่อนของเธอถึงกับหน้าแดงแถมลุกนี้ไปเสียเฉยๆ ดาวเหนือมองตามร่างของอีกฝ่ายที่เลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ภายในบ้านของเธอ สุดท้ายแล้วก็เป็นอย่างที่เธอเคยพูดเอาไว้

‘ไอ้หน้าหยก’ หรือ นายวีกิจ ลูกชายเจ้าของบ้านที่ตรีทิพย์เคยไปทำงานให้ก่อนที่เมืองแมนจะส่งต่อมาให้เธอเพราะเพื่อนรักไปต่อยหน้าเขาเข้าให้ โทษฐานบังอาจจับก้น! เธอเคยลองถามชายหนุ่มดูก็ได้ความว่าเขาสะดุดบันไดหน้าคะมำทำให้มือไปคว้าเอาสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเพื่อช่วยพยุง ซึ่งก็คงเป็นโชคร้ายของเขาที่สิ่งนั้นดันเป็นบั้นท้ายของอีกฝ่ายเข้าพอดีบวกกับกิตติศพท์ด้านความเป็นเสือผู้หญิงของเขาด้วยแล้วทำให้ไม่มีใครเชื่อถือ

แต่มาวันนี้ชายหนุ่มดันตกหลุมรักเพื่อนของเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น เที่ยวตามจับ ตามจีบอยู่แทบทุกวัน แม้ตรีทิพย์จะปฏิเสธว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้แต่เธอก็ไม่เคยเห็นว่าเพื่อนของเธอจะโวยวายอะไรมากมายนัก ยามที่วีกิจบุกมาถึงที่ทำงานแล้วลากเอาตัวไปนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนหรือชวนไปดูหนัง ท่าทางงานนี้ตรีทิพย์คงจะพบเนื้อคู่ที่ตรงตามตำราที่ว่า เกลียดสิ่งไหนมักจะได้สิ่งนั้น อย่างแน่นอน!


พัดยศจอดรถที่หน้าบ้านของพรายจันทร์ก่อนจะเดินลงมากดออด ไม่นานนักสาวใช้ร่างบางนางหนึ่งก็เดินมาหาพร้อมกับเปิดประตูให้เมื่อพบว่าผู้ที่มาคือใคร ชายหนุ่มเมื่อประตูถูกเปิดออกก็ยิงคำถามทันที

“คุณจันทร์กลับมาหรือยัง”

“มาถึงแล้วค่ะ เมื่อซักครึ่งชั่วโมงที่แล้วนี่เอง”สาวใช้ตอบ ก่อนจะรับคำเมื่ออีกฝ่ายใช้ให้ไปตามพรายจันทร์ลงมาพบ พัดยศเดินตามสาวใช้ไปก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าที่สนามหน้าบ้านหลังเล็กมีใครคนหนึ่งที่หัวใจเฝ้าหานั่งอยู่ ชายหนุ่มเปลี่ยนทิศทางทันที ขายาวก้าวตรงไปยังร่างโปร่งทันที

“น้องดาว กลับมาแล้วเหรอครับ”

ดาวเหนือชะงักมือที่กำลังเขียนรายละเอียดเพิ่มเติมของงานทันที หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะเงยหน้าเผชิญกับเขา พัดยศยิ้มกว้างก่อนจะนั่งลงโดยไม่มีใครเชื้อเชิญ

“อืม พี่พัดมานี่มีธุระอะไรเหรอ”ชายหนุ่มหน้าเจื่อนเมื่อเจอคำถามแบบไร้เยื่อใยของคนรัก

“พี่ตามมาดูน่ะครับ ว่าน้องจันทร์กลับมาหรือยัง เพราะว่าวันนี้พี่ไปรับเขาสาย เขาเลยกลับมาก่อน แต่น้องดาวครับ เรื่องของเราพี่ไปทบทวนดูแล้วตลอดเวลาที่พี่ไปดูงาน พี่ไม่เคยที่จะไม่คิดถึงน้องดาวเลย...” พัดยศรีบพูดในสิ่งที่ต้องการออกมาอย่างรวดเร็ว มือหนาคว้ามือบางมากุมหมับอย่างที่เจ้าของมือยังตกใจ ก่อนจะพูดต่อ

“เพราะฉะนั้นอย่าเลิกกับพี่เลยนะครับ พี่รักน้องดาวนะ”ดาวเหนือหน้าเครียด มองอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยใจ

“พี่พัดอย่ายื้ออีกเลย ดาวรู้ว่าพี่รู้ความรู้สึกของดาว ดาวไม่เคยคิดกับพี่เกินพี่น้อง และมันจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดนับแต่วันที่ดาวคิดได้ อย่าทำให้ดาวลำบากใจเลยนะ”หญิงสาวค่อยๆดึงมือออกมา พัดยศกำมือแน่น หลับตาลงเพื่อข่มอารมณ์ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไป แต่แล้วก็หันกลับมาบอกอย่างจริงจัง

“ไม่ว่าน้องดาวจะพูดยังไง พี่ก็จะไม่ยอมแพ้หรอกนะครับ”ชายหนุ่มเดินจากไป โดยลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงที่มาอย่างสิ้งเชิง ดาวเหนือได้แต่มองตามหลังอีกฝ่ายไปอย่างหนักใจ


พรายจันทร์ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างอ่อนแรง น้ำใสๆที่คลอหน่วยอยู่เมื่อครู่ไหลรินไม่ขาดสาย ภาพที่เห็นเมื่อครู่ยังคงติดตา แม้จะเตือนตัวเองอีกกี่ครั้งก็ยังคงทำใจไม่ได้ ตอนที่สาวใช้ขึ้นมาบอกว่าพัดยศมาหาเธอ เธอดีใจมากรีบเก็บของแล้วลงไปข้างล่างแล้วเธอเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าวันนี้น้องสาวสุดที่รักของเธออยู่บ้านพอดี

และแล้วความดีใจก็หายไปเมื่อหญิงสาวเดินออกมาที่หน้าบ้านแล้วพบว่าพัดยศกำลังกุมมือส่งสายตาหวานให้กับดาวเหนือน้องสาวของเธอ แต่เป็นคนรักตัวจริงของเขา ไม่ใช่เธอ! ภาพคนสองคนกุมมือกันทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับอยู่ในหัวใจ จนไม่อาจจะยืนอยู่ต่อไปได้ เธอรีบวิ่งกลับขึ้นห้องของตัวเองขึ้นมาและร้องไห้อย่างหมดกลั้น ไม่ได้รับรู้ว่าต่อจากนั้นทั้งคู่เป็นอย่างไร

“หมดเวลาของฉันแล้วสินะ หมดเวลาฝันหวานแล้วพรายจันทร์ ตัวจริงของเขากลับมาแล้ว ได้เวลาตัดใจแล้ว”หญิงสาวบอกกับตัวเองเบาๆ ใบหน้ารูปหัวใจยังคงมีหยาดน้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย

“นับแต่พรุ่งนี้ไปเราจะต้องลืมพี่พัดไปให้หมดทั้งหัวใจ เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้วพรายจันทร์”แล้วพรายจันทร์ก็นอนร้องไห้ให้กับความรักที่ไม่มีวันสมหวังของเธอ จนกระทั่งผล็อยหลับไป


“เฮ้ย!เมื่อกี้เสียงคุ้นๆ พี่พัดมาเหรอ”ตรีทิพย์ที่เดินออกมาจากบ้านหลังจากวางสายจาก ‘ไอ้หน้าหยก’ ที่ยอมวางสายเมื่อเธอยอมให้เขาตามไปกระบี่ด้วย หญิงสาวนั่งลงที่เดิมก่อนจะชะงักเมอื่เห็นเพื่อนรักนั่งหน้านิ่ง แต่บรรยากาศรอบตัวนั้นดูจะตึงเครียด

“อืม”

“มาได้ไงอ่ะ หรือว่าบ้านนี้มีพรายกระซิบ”

“เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาหาฉัน เขามาหาพี่จันทร์ ก็อย่างที่เคยเล่าไป รถพี่จันทร์เสีย พี่พัดก็อาสาไปรับ แต่วันนี้พี่จันทร์กลับมาเองก่อนเพราะพี่พัดติดธุระ เขาก็เลยตามมาดูว่าถึงบ้านรึยัง ดันมาเจอฉันนั่งอยู่นี่พอดี”ดาวเหนือเล่าเสียงเรียบ อีกฝ่ายทำท่ารับรู้ก่อนจะถาม

“แล้วเขาพูดอะไรกับแก แกถึงทำหน้าอย่างกับจะตายอย่างนี้”

“เขาบอกว่าเขาจะไม่ยอมตัดใจ พูดง่ายก็คือเขาจะไม่ยอมเลิกกับฉัน”

“ทำไมแกไม่บอกตรงๆไปเลยวะ ว่าแกๆไม่ได้รักเขา”

“บอกแล้ว บอกว่าไม่เคยคิดเกินพี่น้อง เขาก็ไม่ฟัง ตอบอย่างบอกแกไปนั่นแหละ”หญิงสาวถอนหายใจออกมาหนักๆ ตรีทิพย์ได้แต่มองเพื่อนรักที่ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตของตนดี พลางคิดไปถึงพี่ชายจองเธอที่กำลังรอคอยเวลา แต่ดูท่าคงจะอีกยาว ‘เอ๊ะ! แต่ถ้าทำให้พี่พัดเห็นว่าดาวเหนือมีคนใหม่ แล้วเขาก็รักดาวเหนือมาก พี่พัดจะยอมถอยหรือเปล่านะ’ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ และเกือบจะพูดออกไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายพูดบางอย่างขึ้นมาก่อน

“ฉันคงต้องทำให้พี่พัดกับพี่จันทร์รักกันให้ได้”

“เฮ้ย!ไหงงั้นล่ะ”ตรีทิพย์ร้องลั่นเมื่อได้ฟังคำพูดของเพื่อน ดาวเหนือเหล่มองก่อนจะเล่าถึงเรืองที่ตะวันฉายได้เคยมาพูดให้ฟัง เพื่อนรักทำท่าไม่เห็นด้วยเมื่อฟังจนจบและยิ่งเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนมาเล่าให้ฟังยิ่งแล้วใหญ่

“แกเชื่อคุณพี่ตะวันดับเหรอไง อย่าลืมว่าเขาจ้องจะเล่นงานแกอยู่นะ แล้วอยู่ดีๆจะมาทำเป็นสงสารอยากให้ตาสว่างนี่ ยังไงๆก็มีพิรุธ”ตรีทิพย์ฟันธงทันที เพราะคนอย่างตะวันฉายที่เธอรู้จักมาหลายปีนั้น ไม่เคยทำอะไรให้ใครฟรีๆ ยิ่งโดยเฉพาะอีกฝ่ายเป็นคนที่ตัวเองเกลียดเข้าไส้ ยิ่งไม่มีทางใหญ่ ดาวเหนือยักไหล่ก่อนจะบอก

“ฉันก็ไม่ได้เชื่อเสียทีเดียว ถ้ามันไม่มีมูล แต่เผอิญก็เคยได้ยินจากคนอื่นมาบ้าง แต่ก็นานมาแล้ว ตอนนั้นฉันไม่ได้ใส่ใจ มาตอนนี้ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นจริง”

“ได้ยิน? ได้ยินเรื่องอะไร”

“มีเพื่อนพี่จันทร์คนหนึ่งเขาเคยมาเล่าให้ฟังว่าพี่จันทร์แอบปลื้มพี่พัดอยู่ ตอนที่เรายังเรียนกันอยู่น่ะ”

“โอ๊ย! ไอ้ดาว เรื่องตั้งกะปีมะโว้แล้ว ป่านนี้พี่จันทร์เขาคงเลิกรักไปแล้วล่ะ จะบ้าเหรอไม่มีใครจะแอบรักคนๆเดียวมาได้นานขนาดนี้หรอก”หญิงสาวบอกอย่างไม่เชื่อถือ ก่อนจะยิ้มแหยๆเมื่อนึกไปถึงพี่ชายของตนเอง

“มันก็มีเหมือนกันนะไอ้ตาล คนที่เฝ้ารอความรักนานๆแบบนั้น”

“เฮ้อ! แล้วจะเอาไง”สุดท้ายตรีทิพย์ก็ต้องยอมแพ้ เพราะเถียงไม่ออก หญิงสาวถามเพื่อนรักที่นั่งนิ่ง ดาวเหนือมองขึ้นไปยังห้องของพี่สาวคนรองอย่างครุ่นคิดก่อนจะตอบ

“ไว้กลับมาจากกระบี่ก่อนแล้วกัน”หญิงสาวบอก ก่อนทั้งคู่จะหันกลับไปสนใจกับงานอีกครั้ง โดยที่ดาวเหนือไม่รู้เลยว่าแผนการของเธอดำเนินไปช้ากว่าใครบางคน


“คุณตะวันขา วันนี้คุณพัดมาหาคุณจันทร์ที่บ้าน แล้วก็เจอคุณดาวตก พอคุณจันทร์ลงมาเห็นเข้าก็วิ่งกลับไปร้องไห้เลยค่ะ”แววรายงานเจ้านายเสียงใส ก่อนจะคลานเข้ามารับธนบัตรสีม่วงใบหนึ่งที่เจ้านายสาวส่งมาให้ทันที

“ทำดีมากนังแวว ได้เวลาแล้วสินะ รถยายจันทร์ก็เสร็จแล้วด้วย นังตัวดีก็จะไม่อยู่บ้านวันไหนนะ นังแวว”ตะวันฉายยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะถามสาวใช้อีกครั้งเรื่องที่ดาวเหนือจะไปทำงานที่ต่างจังหวัด

“วันมะรืนนี้ค่ะ เห็นว่าไปกระบี่”

“ฉันไม่สนหรอกว่ามันไปไหน ฉันสนแต่ว่ามันไปเมื่อไหร่ แล้ววันนั้นฉันจะได้เริ่มแผนการสุดท้ายซักที”หญิงสาวบอกด้วยดวงตามุ่งร้ายต่อน้องสาวต่างมารดาที่เธอเกลียดสุดหัวใจ

“แผนที่ว่านี่คืออะไรคะ คุณตะวัน”

“ไม่ต้องยุ่ง! แผนนี้ฉันจะลงมือเอง รับรองงานนี้นังดาวต้องน้ำตาตกใน”พูดจบร่างเพรียวก็หัวเราะออกมาอย่างสมใจ โดยมีแววคอยเป็นลูกคู่ให้

“ได้ข่าวว่าแกจะไปต่างจังหวัดเสาร์นี้ จะไปไหนเหรอ”คุณชนะชัยถามบุตรสาวคนเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้าง วันนี้เขามาร่วมรับประทานอาหารที่บ้านหลังเล็ก เพื่อที่จะได้แก้ไขความผิดพลาดในอดีตที่ท่านละเลยลูกสาวคนนี้ ดาวเหนือเหลือบมองพ่อเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“กระบี่”

“ไปกี่วันล่ะ”

“สองสามวัน”คุณบุษบามองพ่อลูกคุยกันอย่างลุ้นๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่ทั้งคู่คุยกันโดยไม่ได้ทะเลาะกัน ซึ่งเป็นอะไรที่เธออยากจะให้เป็นมานานแล้ว แม้จะไม่ได้คุยกันแบบสบายๆแต่ก็ถือว่าเป็นเริ่มต้นที่ดีแล้ว

คุณชนะชัยพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะทานข้าวเงียบเช่นเดียวกับลูกสาว คุณบุษบารีบถามต่อทันทีเพื่อไม่ให้บรรยากาศอึมครึม

“แล้วไปทำอะไรล่ะลูก ไปเที่ยวเหรอ?”

“เปล่า ดาวไปทำงาน”จบประโยคนั้นทั้งพ่อและแม่ชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปาก คุณชนะชัยมองลูกสาวอย่างค้นหาความจริง ส่วนคุณบุษบามีท่าทางตื่นเต้นอย่างมาก รีบซักถามรายละเอียด

“ทำงานเหรอลูก งานอะไรล่ะ แล้วทำมานานแล้วรึยัง ทำไมไม่บอกแม่บ้าง”

“ใจเย็นสิคุณ ถามลูกรัวอย่างนั้น ลูกจะตอบได้ไง”คุณชนะชัยดุภรรยาอีกคนของท่าน ก่อนจะหันไปรอคำตอบของลูกสาว

“งานตกแต่งภายในโรงแรมแห่งหนึ่งที่กระบี่ เขากำลังจะเปิดสิ้นเดือนนี้ ดาวกับตาลเลยต้องรีบไป”

“ยายตาลด้วยเหรอลูก”

“อืม”

“ทำงานนี้มานานแค่ไหนแล้ว”คุณชนะชัยถาม ดาวเหนือจ้องตาบิดาก่อนจะตอบเรียบๆ

“ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พี่เมืองเขาก็มาจองตัวแล้ว เขากับพี่คนอื่นๆเปิดบริษัทรับออกแบบบ้านครบวงจรน่ะ ดาวอยู่แผนกตกแต่งภายในกับไอ้ตาล”

“ตั้งแต่ยังเรียน!งั้นก็แสดงว่าเงินที่ดาวหามาเองก็คือค่าจ้างทำงานนี้เหรอลูก”คุณบุษบาตาโตอย่างตื่นเต้น มาวันนี้เธอรู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้อย่างมาก ถ้าหากลูกบอกเธอซักนิดเธอก็จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับอนาคตของลูก รวมถึงไม่คะยั้นคะยอให้ลูกไปทำงานที่บริษัทของสามีเป็นแน่

คุณชนะชัยมองลูกสาวอย่างภูมิใจน้อยๆแกมโล่งใจที่งานที่ลูกทำไม่ผิดกฏหมายแล้วก็ไม่หลักลอยอย่างที่ตนเคยกลัว แม้ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจแต่ดาวเหนือก็สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเองท่านก็พอใจแล้ว และไม่คิดที่ขวางอีกฝ่ายต่อไปเพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย บอกตรงๆท่านเข็ดแล้ว!

“ระวังตัวด้วยแล้วกัน แล้วก็ซื้อของฝากมาฝากพ่อบ้าง”คุณชนะชัยบอกลอยๆ ก่อนจะตักข้าวเข้าปากทำไม่รู้ไม่ชี้ ดาวเหนือกระพริบตาน้อยๆอย่างงงๆ ส่วนคุณบุษบาก็ลุกขึ้นไปเติมแกงเขียวหวานไก่ของตนอย่างอารมณ์ดี


ก๊อก ก๊อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงๆสองครั้ง ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกโดยไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต พรายจันทร์ส่ายหัวกับนิสัยที่แก้ไม่หายของพี่สาวคนเก่ง ก่อนจะถามถึงธุระที่อีกฝ่ายมาหาตน

“พี่ตะวันมาหาจันทร์มีอะไรคะ”

“จะมาถามว่าวันนี้ขับรถไปเองแล้ว มีปัญหาอะไรไหม”ตะวันฉายนั่งลงบนเตียงของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ ก่อนจะหยิบเอาสมุดการบ้านของเด็กๆที่น้องสาวกำลังตรวจขึ้นมาดูแล้วเบ้ปาก พรายจันทร์มองท่าทางนั้นอย่างขำๆก่อนจะตอบ

“ก็ดีค่ะ ดีกว่าตอนยังไม่เข้าอู่อีก”

“แน่ล่ะ อู่ฉันมีระดับนี่ยะ ว่าแต่ฉันว่าควรจะเลี้ยงข้าวนายพัดยศซักมื้อเพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาอุตส่าห์คอยรับ คอยส่งแกตั้งเป็นอาทิตย์”พรายจันทร์ชะงักมือที่กำลังตรวจการบ้านทันที ก่อนจะรีบปฏิเสธ

“ทำไมล่ะ แกนี่มันไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณเอาเสียเลย”ตะวันฉายเอะอะ ไม่ใช่เพราะมารยาททางสังคมอย่างที่ตนกล่าวอ้าง แต่เป็นเพราะหากน้องสาวยังปฏิเสธแผนที่เธอวางไว้จะล่มไม่เป็นท่า

“พี่ตะวันอยากเลี้ยงก็เลี้ยงสิคะ จันทร์เคยเลี้ยงพี่พัดไปแล้ว”หญิงสาวโกหก อันที่จริงมีแต่พัดยศที่เลี้ยงเธอ เพราะเมื่อเธอบอกเขาว่าจะเลี้ยง เขาก็ไม่ยอมทุกที ตะวันฉายกัดปาก หัวสมองคิดหาทางออกทันที ก่อนจะยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้

“ก็ได้ ฉันเลี้ยงเอง! แต่แกต้องไปด้วย เข้าใจไหม ห้ามปฏิเสธ โทรไปบอกนายนั่นเดี๋ยวนี้! พี่จะนั่งรออยู่นี่แหละ”หญิงสาวส่งโทรศัพท์บ้านแบบไร้สายที่บนหัวเตียง พร้อมกดเบอร์ให้เรียบร้อยแก่น้องสาวของตนที่หน้างอรับไปอย่างไม่เต็มใจ พรายจันทร์รออยู่ครู่ชายหนุ่มจึงรับสาย

“พี่พัดคะ นี่จันทร์นะคะ พี่พัดยุ่งอยู่รึเปล่าคะ”

“ไม่ยุ่งครับ พี่เพิ่งจะกลับถึงบ้านเอง น้องจันทร์มีอะไรรึเปล่าครับ”พัดยศถอดเนกไทของตนออกด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะนั่งลงบนเตียง พรายจันทร์สูดหายใจลึกๆก่อนจะบอก

“คือว่าพี่ตะวันเขาอยากจะเลี้ยงขอบคุณพี่พัดที่อาสามารับมาส่งจันทร์ตอนที่รถเสียน่ะค่ะ”

“วันไหนครับน้องจันทร์”หญิงสาวเอามือปิดกระบอกโทรศัพท์เอาไว้ ก่อนจะถามตะวันฉายเรื่องวันเมื่ออีกฝ่ายบอกมาแล้ว ร่างบางจึงบอกต่อกับพัดยศที่รอสายอยู่

“พรุ่งนี้สองทุ่มค่ะ ที่ร้าน...”พัดยศทวนวัน เวลาและร้านอาหารอีกครั้งก่อนจะวางสายไป พรายจันทร์ส่งโทรศัพท์คืนตะวันฉายที่ออกอาการดี๊ด๊า

“พี่ตะวันพอใจแล้วนะคะ ถ้างั้นจันทร์ขอตัวทำงานต่อก่อน”

“พอใจมากน้องรัก รับรองเลี้ยงตอบแทนมื้อนี้ ทั้งเธอและนายพัดยศจะจำไปตลอดกาลเลยทีเดียว”ร่างเพรียวทิ้งท้ายก่อนจะยิ้มระรื่นออกไปจากห้อง พรายจันทร์ส่ายหัวให้กับพี่สาว ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรในคำพูดนั้นด้วยนึกว่าอีกฝ่ายคงหมายถึงความเว่อร์ของอาหารที่จะสั่งมามากกว่า และไม่นึกฝันว่าพี่สาวแท้ๆของเธอจะทำกับเธอแบบนี้


“ฝากน้องด้วยนะคะคุณตฤณ ตอนแรกนึกว่าไปกันเองยังกังวลอยู่เลย”คุณบุษบาบอกพลางพิจารณาชายหนุ่มร่างสูง หน้าคมใส่แว่นไร้กรอบที่วันนี้อยู่ในชุดเสื้อโปโลสีขาวยี่ห้อดัง กับกางเกงแสล็คสีดำรองเท้าหนังสีเดียวกันที่ตรีทิพย์แนะนำว่าคือพี่ชาย พร้อมทั้งบรรยายสรรพคุณของอีกฝ่ายดีเยี่ยมอย่างไว้วางใจ

ส่วนคุณหญิงผกามาศกับคุณมินตราที่มาส่งก็มองอย่างชอบใจในความสุภาพของชายหนุ่มแล้วก็อดเทียบไม่ได้ว่าทั้งพัดยศและตฤณต่างก็มีความเป็นสุภาพบุรุษในแบบของตน คงจะดีไม่น้อยหากจะได้คนทั้งคู่มาเป็นเขย คุณมินตรามองชายหนุ่มไม่วางตาเพราะเมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นดาวเหนือเดินลงมาในชุดเสื้อกล้ามสีขาวสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีเดียวกัน กางเกงยีนส์ขาม้าสีซีด รองเท้าผ้าใบด้วยสายตาอ่อนโยน ซึ่งเป็นสายตาที่ผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวที่เธอรักเหมือนลูก เธอเองก็อยากจะสนับสนุนทั้งคู่เพราะดูสมกันดี ติดที่ว่าดาวเหนือคบอยู่กับพัดยศ

“ตกลงคุณป้าเอาอะไรบ้าง หรือจะเอาเหมือนคุณย่า”คุณมินตราเบนสายตากลับมายังหญิงสาวที่เดินมาถามเรื่องของฝากกับเธอ

“เหมือนกันนั่นแหละยายดาว ป้าไม่ค่อยรู้เรื่องของขึ้นชื่อทางใต้นัก ถ่ายรูปมาฝากป้าเยอะๆล่ะ”ดาวเหนือพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปร่ำลาแม่ของตนรวมทั้งคุณหญิงผกามาศและคุณมินตรา ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของชายหนุ่มที่จอดอยู่หน้าบ้าน

ตรีทิพย์ขึ้นไปคอยบนรถ โดยนั่งอยู่ที่ตอนหลังของรถหน้าตาเฉย ตฤณส่ายหัวกับน้องสาวเจ้าแผนการ ก่อนจะแย่งกระเป๋าจากมือของดาวเหนืออย่างนุ่มนวลไปไว้ท้ายรถ แล้วเดินกลับมาเปิดประตูข้างคนขับอีกฝ่าย ดาวเหนือขอบคุณเบาๆก่อนส่งยิ้มให้ ยิ้มที่ทำให้คุณบุษบาและคุณมินตราต้องมองหน้ากัน ก่อนจะรับไหว้ชายหนุ่ม ตฤณขึ้นประจำที่คนขับก่อนจะออกรถมุ่งหน้าสู่กระบี่

“นี่บุษเธอเห็นอย่างที่พี่เห็นใช่ไหม”คุณมินตราถามอีกฝ่ายโดยที่สายตายังไม่ละไปจากท้ายรถของชายหนุ่ม คุณบุษบาตอบรับอีกฝ่ายเสียงแผ่ว

“ค่ะ คุณพี่”คุณหญิงผกามาศมองสะใภ้ทั้งสองอย่างงงๆ ก่อนจะทนไม่ไหวถามขึ้นมา

“พวกเธอเห็นอะไรกัน”

“ก็เห็นยายดาวยิ้มน่ะสิค่ะ คุณแม่”คุณมินตราตอบแทนคุณบุษบาที่ยังคงอึ้งๆ คุณหญิงทวนคำอย่างงงๆ ก็แค่ยิ้มไม่เห็นจะแปลกตรงไหนทำไม่ต้องตกใจกันด้วย

“ไม่เห็นแปลกอะไรนี่”

“แปลกสิคะคุณแม่ ขนาดตาพัดยศยายดาวยังยิ้มให้แต่ปากตาไม่ยิ้ม แต่นี่ยิ้มทั้งปากทั้งตา มันหมายความว่าอะไรล่ะคะ”คุณมินตราค้อนใส่แม่สามีที่ดูจะยังตามเรื่องไม่ค่อยทัน ก่อนจะหันไปมองคุณบุษบาที่ทำหน้าเครียด

“บุษ เป็นอะไรไหม”

“บุษกลัวค่ะ คุณพี่ ยายดาวท่าทงจะชอบคุณตฤณ แล้วตาพัดล่ะคะ บุษสงสารตาพัด”

“เฮ้อ!อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะนะ เราไปแก้อะไรไม่ได้หรอก ได้แต่คอยดูกันต่อไป ไปเถอะ ไปทำอาหารกัน กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์”ว่าแล้วคุณมินตราก็ดึงแขนของคุณบุษบาให้เดินตามมา โดยมีคุณหญิงที่เข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไรร้องเรียกหาความกระจ่างตามหลังไป

“อะไรนะยายดาวชอบพ่อหนุ่มแว่นนั่นเหรอ ตายแล้ว!เล่ามาให้หมดนะ แม่มิน แม่บุษ รอแม่ด้วย!”


“พี่ตฤณ ตาลหิวแล้วอ่ะ แวะกินข้าวหน่อยดิ”ตรีทิพย์ชะโงกหน้าไปหาพี่ชายที่กำลังขับรถอยู่ ขณะนี้พวกเธอเพิ่งเข้าเขตจังหวัดเพชรบุรี และก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว ท้องของเธอเริ่มประท้วงขออาหารแล้วด้วย ตฤณส่ายหน้าก่อนจะดุน้องสาว

“หิวอีกแล้วเหรอเราน่ะ เพิ่งจะแวะปั๊มให้ซื้อของกินที่นครปฐมไปเองนะ”

“มันหมดแล้วอ่ะ”

“หมดแล้ว! ยายตาลกินหรืออะไรเนี่ย ถุงเบ้อเริ่ม กินคนเดียวหมดเลยเหรอ”ตฤณร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะเขาได้แวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมันและให้ตรีทิพย์ลงไปซื้อของกินเพื่อจะได้รองท้องก่อนจะไปกินข้าวเที่ยงที่เมืองเพชร

“แหม ถุงใหญ่อะไรกัน แล้วตาลก็ไม่ได้กินคนเดียวนะยายดาวก็กิน”

“ฉันกินไปชิ้นเดียวเอง นอกนั้นแกฟาดเรียบ”ดาวเหนือบอกเมื่อเห็นว่าเพื่อนพาดพิงมาถึงตน ตฤณมองน้องสาวทางกระจกมองหลังเห็นอีกฝ่ายย่นจมูกใส่เพื่อนก็หัวเราะออกมา ก่อนจะยอมแวะเข้าตัวเมืองเพชรไปหาอะไรทานเพื่อตัดปัญหาเสียงโวยวายของแม่จอมยุ่ง

“โอเค เดี๋ยวพี่แวะให้ แล้วก็กินให้อิ่มเลยนะ เดี๋ยวพี่ขับยาวไม่แวะให้กินอีกแล้ว นอกจากแวะปั๊ม”

“แล้วเราจะไปทานข้าวเย็นที่ไหน พี่ตฤณ”ดาวเหนือหันไปถามคนขับรถกิตติมศักดิ์ ตฤณหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะตอบ

“พี่กะว่าจะไปทานที่ชุมพรครับประมาณห้าโมงเย็น คงไปถึงกระบี่ราวๆสองสามทุ่ม”ดาวเหนือพยักหน้าหงึกๆรับรู้ ก่อนที่จะมีเสียงโหยหวนของใครบางคนดังขึ้นมา

“ห้าโมง! โอ๊ย!ตายๆ กระเพาะฉันต้องทะลุเพราะความหิวแน่ๆ”

“กินจุอย่างนี้คุณวีเค้าจะเลี้ยงเราไหวไหมฮะ ยายตาล”ตฤณล้อน้องสาวของตน ที่เงียบเสียงไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อของบุคคลที่สาม ที่เธอแกล้งลืมทิ้งไว้ที่กรุงเทพซะอย่างนั้น ป่านนี้คงหงุดหงิดแล้วแน่ๆเพราะเธอปิดมือถืออีกต่างหาก”

“เลี้ยงไม่ไหวก็ไม่ต้องเลี้ยงไม่สนซะหน่อย”หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบ หน้าขาวๆแดงขึ้นเล็กน้อย

“แล้วนี่แกมาโดยไม่รอเขา เดี๋ยวก็งานเข้าหรอก”จบคำของดาวเหนือ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวมองหน้าจอก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นว่าใครโทรมา

“สวัสดี คุณวี ตอนนี้พวกดาวอยู่แถวเพชรบุรี คุณอยู่ที่ไหน”ตรีทิพย์เบิกตากว้าง เมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น ตฤณหัวเราะหึหึ

“อ๋อ!เพิ่งออกมาจากสมุทรสงคราม งั้นเดี๋ยวพวกเรารออยู่ที่นี่แล้วกันนะคะ มาถึงแล้วก็โทรมาบอกด้วยนะคะ”หญิงสาววางสายก่อนจะหันไปบอกตฤณเรื่องของวีกิจที่ขับรถตามมา ซึ่งฟังจากเสียงแล้วงานนี้เพื่อนเธองานเข้าของจริง!

“คุณวีบอกว่ากำลังตามมา ดาวเลยบอกว่าเดี๋ยวเรารออยู่ที่นี่ไม่เป็นไรนะคะ”

“ไม่ครับ”

“เป็น!”เสียงสองเสียงดังประสานกันแต่ดาวเหนือและตฤณไม่ใส่ใจเสียงที่สอง ทั้งคู่นั่งสนทนาเรื่องอื่นต่อไปไม่ใส่คนที่หน้าซีดเมื่อรับรู้ว่าคนที่ตนตั้งใจทิ้งไว้จะใจกล้าตามมาด้วย!

หลังจากที่ตรีทิพย์ทานก๋วยเตี๋ยวหมดไปแล้วถึงสามชาม ชายหนุ่มร่างสูงไม่แพ้ตฤณ ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มสกรีนลายหัวกระโหลกไขว้ สวมรองเท้าผ้าใบ ที่ถึงแม้ว่าจะแต่งตัวธรรมดาเพียงใดแต่หากเข้าไปดูใกล้จะพบว่าทุกอย่างบนตัวชายหนุ่มนั้นรวมกันแล้วหลายหมื่น! เขาเดินมาที่โต๊ะของพวกเธอทันทีที่เห็น ใบหน้าเรียวที่บ่งบอกสัญชาติอีกครึ่งในตัวได้เป็นอย่างดี ประกอบไปด้วยดวงตาเรียวเล็ก จมูกเชิดขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงความรั้นของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากอมชมพูอย่างที่ผู้หญิงหลายทั้งอิจฉาทั้งอย่างครอบครอง มาตอนนี้มีรอยยอ้มเหี้ยวเกรียมแปลกๆส่งมาให้หญิงสาวที่กำลังจะลุกหนี

“หยุดนะตาล นั่งลงเดี๋ยวนี้ถ้าคุณหนีผมจะจับจูบโชว์เลยคอยดู!”ตรีทิพย์รีบนั่งลงกับที่ทันที ส่วนดาวเหนือกับตฤณก็หันมาหัวเราะให้กัน ตรีทิพย์ถลึงตาใส่พี่และเพื่อนก่อนจะกัดฟันพูดใส่หน้าพี่ชายตนเองที่วันนี้ดูยิ้มระรื่น

“พี่ตฤณ!เป็นพี่ตาลนะ ไม่ช่วยน้องเลย หึ! ได้ใกล้สาวเข้าหน่อยล่ะแหมระรื่นเชียว”

“อะแฮ่ม! พี่ว่าเราไปดูขนมไปทานบนรถกันดีกว่านะครับน้องดาว อย่าอยู่เป็นก้างเลย”ว่าแล้วชายหนุ่มก็แอบฉวยโอกาสเล็กๆคว้าข้อมือร่างโปร่งที่นั่งข้างให้ลุกตามตนไป ตรีทิพย์มองพี่ชายที่ชิ่งแถมยังหนีบเพื่อนเธอไปด้วยอย่างอึ้งๆ ก่อนจะส่งยิ้มแหยๆไปให้คนที่เพิ่งจะนั่งลงตรงข้ามกับตนซึ่งตีหน้ายักษ์ส่งมาให้

“เอ่อ พี่ตฤณปล่อยมือดาวเถอะ ดาวเดินเองได้”หญิงสาวรีบบอกคนที่ยังคงจับข้อมือของตนไม่ปล่อย ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขิน ตฤณรีบปล่อยมือทันทีราวกับจับของร้อนใบหน้าขึ้นสีไม่แพ้กัน และต่างฝ่าต่างก็ยืมแข่งกันหน้าแดงอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ค้าที่ขายขนมอยู่ตรงนั้นจะโวยวายขึ้นมาก่อน

“เอ้า!พ่อหนุ่มจะซื้อไหมของน่ะ ถ้าไม่ซื้อก็ไปยืนจีบกันที่อื่น ขวางทางคนเค้าจะทำมาหากิน!”

ดาวเหนือกลั้นยิ้มก่อนจะเดินนำไปรอที่รถ ส่วนตฤณก็ควักเงินซื้อขนมของแม่ค้าคนนั้นก่อนจะเดินตามไป ซึ่งก็พบว่าอีกสองคนที่เหลือได้ออกมาจากร้านแล้ว

“ไอ้ดาวแกมานั่งกับฉัน ส่วนนายน่ะนั่งหน้ากับพี่ตฤณไปซะเข้าใจ๋?”ตรีทิพย์สั่ง ก่อนจะรีบดันเพื่อนรักให้ขึ้นรถไป หญิงสาวปิดประตูไล่หลังเพื่อนไป แล้วหันไปมองหน้าพี่ชายพร้อมกับพูดว่า

“ไม่ให้นั่งกับไอ้ดาวแล้ว พี่ทรยศ!”ว่าแล้วก็โดดตามเพื่อนเข้าไปทันที ปล่อยให้ ‘คนทรยศ’ กับคนที่เพิ่งมาใหม่ยืนอึ้งอยู่กับที่ วีกิจตบไหล่หนุ่มรุ่นพี่อย่างสงสาร เพราะเขาดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่าตฤณนั้นชอบดาวเหนือ

“ทำใจหน่อยนะพี่ตฤณ ทยนั่งกับผมไปอีกไม่กี่ชั่วโมง เดี๋ยวพอถึงตอนแวะกินข้าวเย็นผมจะแก้แค้นให้”วีกิจก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่ทันที ส่วนรถของเขาให้คนรถที่ขับมาให้ขับกลับไปแล้ว ตฤณถอนหายใจเล็กๆก่อนจะขึ้นไปประจำที่ของตนบ้าง หลังจากนั้นทั้งคณะก็เดินทางต่อไปพร้อมกับทะเลาะกันของวีกิจและตรีทิพย์ ประสานกับเสียงหัวเราะของดาวเหนือและตฤณ



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2554, 06:39:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2554, 06:39:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1750





<< ตอนที่ 13   ตอนที่ 15 >>
Setia 17 เม.ย. 2554, 18:47:59 น.
คู่ยายตาลนายวีนี่น่ารักดีนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account