ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก

Tags: ทหารเรือ นักเขียน

ตอน: 25.1 "พี่เขาไม่ดีตรงไหน..แม่บอกแพรวหน่อย"

25.


“ถ้าพี่แพรวไม่เอาอัลบั้มรูปออกมาดู หนูนาก็ลืมวีรกรรมของพี่กรัณย์ไปแล้วนะคะ..ตอนนั้นปิดเทอมใหญ่ สงกรานต์มั้งเนอะ..ใช่ป่ะพี่ต้นกล้า..”

“อืม” จิตวัติที่ขับรถมุ่งตรงเข้าเมืองขานรับน้องสาวที่นั่งอยู่เบาะหลังพลางชวนคุยตามประสาเด็กช่างพูด

“เขาพากันมาเที่ยวที่บ้าน ขับรถเก๋งกันมาด้วยนะ”

“ใบขับขี่ก็ยังไม่มี ไอ้คณินทร์มันซ่า ขโมยรถที่บ้านมันมา..แล้วก็มาชกต่อยกับพวกนักเลงที่วัดตอนงานสรงน้ำพระ.”

พอน้องสาวเอ่ยถึงเรื่องในอดีต ภาพของเพื่อนสนิทสมัยเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมทหารทั้งสามคนก็ลอยเข้ามา
..โรงเรียนเตรียมทหาร เป็นสถานที่หล่อหลอมให้ผู้ที่เข้ารับการศึกษามีความสนิทสนมกลมเกลียว มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน เพื่อผลที่ดีในการปฏิบัติราชการในอนาคตข้างหน้า

...และกาลต่อมา หลังจากแยกเหล่ากันไปแล้ว แม้ความสัมพันธ์จะเบาบางลง ต่างคนต่างก็ไปเจอเพื่อนใหม่ มีภารกิจการงานแบ่งไปตามสายงานที่ได้เล่าเรียนมา แต่ความเป็นเพื่อนนั้นก็ยังตราตรึงอยู่ในใจ

ภูริช..ไอ้เก๊กหวงก้าง หวงน้องสาว กลัวเหลือเกินว่าเขาจะจีบน้องภีรชา..และพยายามยัดเยียดเรื่องความเจ้าชู้ของเขาใส่หูน้องสาว โดยหาเชื่อว่าเขาเห็นหมอภีรชาเป็นน้องสาวอีกคน ซึ่งเขาเองก็ทำได้เพียงแกล้งทำตัวให้ทางภูริชหวาดระแวงให้สนุกสนานกันไป

..กรัณย์ ไอ้เสือยิ้มยาก คลื่นใต้น้ำ ทหารอากาศขาดรัก

และคนสุดท้าย คณินทร์ ไอ้บ้าดีเดือด ตำรวจสายลับ รักงานยิ่งกว่าชีวิต ชอบทำตัวลึกลับและติดต่อได้ยากที่สุด

..และวันนั้นไอ้กรัณย์กับไอ้คณินทร์ก็จับมือกันสร้างวีรกรรม..

“ที่วัดมีรำวง หนุ่ม ๆ สาว ๆ มากันเยะ ทั้งคนที่นี่ ทั้งจากที่อื่น..แล้วมันก็มีพวกอันธพาลต่างถิ่นมาด้วย..เต้นไปลวนลามหญิงไป..หญิงก็ปัดป้อง ไอ้นั่นก็ไม่เลิก คณินทร์มันก็เลยทำแมนเข้าสั่งสอน แต่ทางนั้นใช้มีดสั้น กรัณย์ก็เลยต้องออกโรงสมทบ ที่นี่เองเพื่อนมันก็เข้าตะลุมบอน พี่กับไอ้ริชก็เลยต้องช่วยเพื่อน..ตำรวจก็มา พวกมันเปิดไปก่อน ดีแต่ว่าคนอยู่ในเหตุการณ์ กับคู่กรณีของมันบอกว่า พวกพี่เข้าช่วยจนมีเรื่องกัน แล้วอีกอย่าง พอตำรวจรู้ว่าพวกพี่อยู่เตรียมทหาร และเป็นคนที่นี่ เรื่องก็จบ..”

“แต่แม่ก็รีบสั่งให้กลับกรุงเทพฯ เพราะไอ้พวกนั้นมันก็นักเลงโต”

“รีบกลับเลยซิ..”

“ไม่กลับเลยหรอก ปิดเทอมนี่ เลยอยู่ซ่าส์รอท่าไอ้พวกนั้นอีกสองสามวัน พอมันเงียบไปตามประสานักเลงบ้านนอก..พวกเราก็ต้องกลับกรุงเทพฯ เพราะมีโปรแกรมไปทะเลกันต่อ..”

ฟังเรื่องนั้นแพรวพรรณก็นึกถึงอดีต..ตอนแรกแพรวพรรณก็ว่าจะไม่เล่า แต่เมื่อเห็นว่ามันเป็นเหตุการณ์เดียวกัน..

“แพรวไม่อยากจะบอกเลยว่า..ปีนั้น ปิดเทอมตอนแพรวอยู่ ม.1 แล้วกลับมาอยู่บ้าน..แพรวก็ให้ป้านงพาแพรวมางานวัด..แพรวอยากเห็นว่าเป็นอย่างไร แต่ว่าพอจะออกจากบ้านก็มีคนไปบอกว่ามีคนตีกันที่วัด แม่ก็เลยสั่งห้ามแพรวอย่างเด็ดขาด..”

“ถ้าแพรวมาวันนั้น พี่ก็คงได้เจอแพรวตอนนั้น”

แพรวพรรณหันไปยิ้มบาง ๆ ให้เขา..หน้าตานั้นยังมีริ้วของความกังวล..เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถือว่าเธอออกนอกลู่นอกทาง แต่ว่าไหน ๆ เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอจะต้องสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึก ๆ เพิ่มกำลังในการต่อสู้..


ช่วงที่หนูนาเอาเงินจากพี่ชายไปต่อคิวซื้อตั๋วหนังเรื่อง ‘ปัญญา เรณู’..ศุภโชคโทรเข้ามาหาจิรวัติรายงานความคืบหน้าภารกิจรักของตัวเอง..และพอทราบเรื่องเขาก็บอกกับแพรวพรรณด้วยใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มว่า...

“ศุภโชค เขาบอกว่า..เขากับพี่ญามีกำหนดจัดงานแต่งงานกันแล้ว”

“จริง ๆ เหรอ” แพรวพรรณตกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วอย่างนี้

“เป็นไปแล้ว วันวาเลนไทน์นี้ เขาจะแต่งตามประเพณีที่แปดริ้ว..แล้วเดือนมีนาคมจะเลี้ยงฉลองสมรส ที่สโมสรนาวิกโยธินที่สัตหีบ..”
“โห พี่ญานี่ม้ามืด..แต่ทำไมไม่เห็นโทรมาบอกแพรวก็ไม่รู้..”

“เดี๋ยวก็คงโทรบอกหรอก..ไปเหอะ หนูนาได้ตั๋วหนังมาแล้ว..”

และระหว่างที่นั่งอยู่ในโรงหนัง มือข้างซ้ายของแพรวพรรณก็อยู่ในอุ้งมือข้างขวาเพื่อถ่ายเทแรงเสน่หามาให้ตลอดเวลา จนแพรวพรรณดูหนังแทบไม่รู้เรื่อง..

ใจนั้นยอมรับว่ามีความสุข ที่มีวันนี้กับเขา..อนาคตชัดเจนขึ้น แต่อีกใจแพรวพรรณก็กังวลว่า พอออกจากโรงหนังที่มีความมืดปกคลุมไว้ไปแล้ว..ความสว่างด้านนอกนั้น จะทำให้เธอต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริง เย็นนี้ที่บ้านของเธอมีเรื่องวุ่นวายแน่ ๆ ดีไม่ดี โทรศัพท์ที่เธอปิดเครื่องไว้ เมื่อเปิดมาจะต้องมีข้อความบอกว่า แม่ของเธอโทรมาหากี่รอบ..

และเมื่อหนังจบ..เขาก็เดินจูงมือของเธอออกจากแถวเก้าอี้ จนกระทั่งถึงหน้าโรงหนังเขาก็ปล่อยมือ

“พี่ชอบหนังเรื่องนี้จังเลย..นึกถึงตอนเป็นเด็ก..”

“แพรวดูไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ภาษาอีสานเยอะไป”

“เป็นเพราะพี่รบกวนด้วยเปล่า”

“ส่วนหนึ่ง..”

“แต่พี่มีความสุขมากเลยนะ”

“แพรวรู้สึกว่าเปลืองตัวค่ะ..”

“แล้วทำไมไม่ดึงมือออก”

“ตอนนั้นมันหนาว..”ตอบเขาเบา ๆ แล้วแพรวพรรณก็ใช้สายตาเหลือบไปทางอื่น ซึ่งเขาก็ใช้สายตาคาดโทษไว้ แพรวพรรณเหลือบมามองอมยิ้มก่อนจะตัดบทว่า..

“เดี๋ยว แพรวขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ..หนูนาไปห้องน้ำกับพี่ไหม” แพรวพรรณหันไปหาน้องสาวของเขาซึ่งเดินตามหลังมา..

ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำแพรวพรรณก็ดึงโทรศัพท์ขึ้นมา...มีสายเรียกเข้าจากแม่นับสิบสายอย่างที่ได้คาดไว้ จริง ๆ แต่ว่าแพรวพรรณเลือกที่จะโทรกลับไปหาข่าวจากพี่สะใภ้เสียก่อน..

“แม่รู้เรื่องที่พี่พงศ์พาแพรวไปงานทำบุญบ้านพี่ต้นกล้าแล้วนะ เต้นใหญ่แล้วแพรว พี่พงศ์โดนเฉ่งไปด้วย ..รีบกลับมานะ..”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

พอเดินออกมาจากห้องน้ำ สีหน้าของแพรวพรรณนั้นเต็มไปด้วยความกังวล..

“แพรวหิวไหม ..กินสุกี้กันก่อนไหม”

“แม่สั่งให้แพรวรีบกลับบ้านโดยด่วน..”

“เป็นเรื่องแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ..” ว่าแล้วแพรวพรรณก็ถอนหายใจออกมา และระหว่างทางกลับบ้าน แม้หนูนาจะยัง ‘อิน’ อยู่กับหนังปัญญา เรณู ชวนคุยเรื่องตลก ๆ แต่ว่าแพรวพรรณก็ไม่สามารถปรับอารมณ์ให้คล้อยตามไปได้..

“แพรว พี่ว่าพี่ลงไปด้วยดีไหม ไปลาแม่กับพ่อแพรวด้วย พี่จะกลับสัตหีบคืนนี้เลย”

“เอาไงดีละ ตอนนี้แพรวคิดอะไรไม่ออกเลย แพรวเดาอารมณ์ของแม่ไม่ได้”

“เอาแบบอะไรจะเกิดก็ให้เกิดเลยแล้วกัน ไปเลยเนอะ”

“ถ้าแม่เสียงดังใส่ พี่ต้นกล้าจะโกรธแม่แพรวไหม”

“เดี๋ยวพี่ขอบารมีเสร็ดเตี่ยให้ช่วยดีกว่า..” ว่าแล้วจิรวัติก็ยกมือพนมทำปากขมุบขมิบ โดยมีน้องสาวนั่งยิ้ม ๆ มองขำ ๆ ส่วนแพรวพรรณหันมาสบตากับเมขลาก็หัวเราะนิด ๆ..

“เดี๋ยวหนูนาลงไปด้วยนะ ..ไม่ได้ไปตามลำพังเสียหน่อย”

ทั้งสามคนลงจากรถมายืนเคียงกันอย่างอาจหาญ..แพรวพรรณเดินนำหน้า พอผลักประตูบ้านเข้าไป ป๊าก็ละหนังสือพระเครื่องถอดแว่นสายตา ส่วนแม่ของเธอใช้พัดจีนพัดไล่อารมณ์ร้อน ๆ ให้ออกจากอกอยู่นั้นก็ค้อนลูกสาววงใหญ่..แพรวพรรณใจเต้นไม่เป็นส่ำ..ใบหน้านั้นแทบจะไม่มีสีเลือดเพราะว่าตั้งแต่เป็นลูกเป็นแม่กันมา เธอไม่เคยทำเรื่องใหญ่โตขัดใจแม่เท่าเรื่องในวันนี้

“อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย” แพรวพรรณทักพ่อกับแม่แล้วก็กวาดสายตามองหาผู้ช่วย นั่นก็คือพี่ชายกับพี่สะใภ้หรือไม่ก็ป้านง แต่ว่าในห้องรับแขกก็ไม่มีใครสักคน..

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ” สองพี่น้องที่เดินตามหลังแพรวพรรณมายกมือไหว้..พ่อของหญิงสาวรับไหว้ แต่คนเป็นแม่ทำ
เหมือนมองไม่เห็น..

“หนู น้องสาวพี่ต้นกล้าค่ะ ชื่อหนูนา”

“ไปไหนกันมา..” ตวัดสายตามองสองพี่น้องแบบหัวจรดเท้าแล้ว คำถามของแม่ก็ทำให้แพรวพรรณสะดุ้งน้อย ๆ..

“เอ่อ ไปดูหนังกันมาครับ” จิรวัติเสนอหน้ารับแทน และทางแม่ของแพรวพรรณก็เร็วพอที่จะคิดตัดไฟ..

“เธอสองพี่น้องกลับบ้านกันไปเหอะ ฉันอยากคุยกับลูกสาวของฉันเป็นการส่วนตัว”

“ครับ..งั้น วันนี้ผม ขอลากลับสัตหีบเลยนะครับ..”

“โชคดี” ..

“วันหลังผมขอมาเยี่ยมอีกนะครับ”

“ถ้ามาเพื่อมาหาตาพงศ์ ฉันก็ไม่ว่า..มาได้..”

“ครับ..งั้น วันนี้ผมลากลับก่อนนะครับ..แพรวพี่กลับก่อนนะ”

“ค่ะ..”

ส่งสายตาให้แพรวพรรณแล้ว สองพี่น้องก็ยกมือไหว้ลาพ่อกับแม่ของแพรวพรรณก่อนจะพากันเดินออกจากบ้าน ส่วนแพรวพรรณนั่งเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ก้มหน้ายอมรับการซักฟอกที่กำลังจะเกิดขึ้น..

“เงยหน้าคุยกับแม่” แพรวพรรณเชิดหน้าขึ้น แต่ว่าสายตานั้นยังจับอยู่ที่ผนังห้อง..

“จะเล่าเองหรือจะต้องให้แม่ซักทีละข้อ”

“เล่าเองก็ได้ค่ะ..” ขณะที่แพรวพรรณยืดตัวตรงเรียกความมั่นใจ พงศ์พันธุ์กับนพวรรณก็ค่อย ๆ ออกจากที่ซ่อนโผล่หน้ามาดูวีรกรรมของน้องสาวด้วย

“แพรว...” แพรวพรรณอยากจะบอกกับแม่ว่าเธอกับพี่ต้นกล้าคบหากันแบบ ‘แฟน’ แต่พอจะพูดตรง ๆ แบบนั้น แพรวพรรณก็รู้สึกอายขึ้นมา..

“แพรว..แพรว..” แพรวพรรณอึก ๆ อัก ๆ

“เอ้า เล่ามาสิ..มีอะไรก็พูดมา..”

“แม่รู้เรื่องแค่ไหนแล้วคะ”

“อย่ามาย้อนถามฉัน” เสียงของแม่ดังขึ้นเรื่อย ๆ

“ใจเย็น ๆ สิแม่” เห็นอาการสั่น ๆ ของลูกสาว คนเป็นพ่อก็รู้สึกสงสารขึ้นมา เพราะลึก ๆ แล้ว ตัวเขาเองก็นึกชอบ ‘นายทหารเรือ’ อยู่ไม่น้อย เพราะกิริยาท่าทางนั้นดูสง่างามสมชายชาตรี และที่สำคัญคุยกันเรื่องพระเครื่องแล้วคุยรู้เรื่องเสียด้วย..แต่ว่าภรรยาของเขานั้น ฟันธงไปแล้วว่า แพรวพรรณต้องคู่กับคนมีฐานะเสมอกัน และต้องเป็นคนที่ต้องอยู่ในเมืองนครสวรรค์เท่านั้น..

“แม่จะไม่ถามต้นสายปลายเหตุแล้วกัน เอาเป็นว่า แม่ขอสั่งห้ามไม่ให้แพรวคบหากับเขา..”

“แม่” ทั้งที่หญิงสาวพยายามหักห้ามใจแต่น้ำตาของแพรวพรรณไหลออกมาเป็นสาย..

“แม่รักแพรวนะ แม่ก็มีคนที่เหมาะสมคู่ควรกันไว้ให้แพรวแล้ว..”

“แต่แพรว”

“..แต่งกันแล้วเดี๋ยวก็รักกันเอง..แม่กับป๊าทีแรกก็ไม่ได้รักกัน”

จริง ๆ แล้ว วันเพ็ญนั้นมีใจชอบหนุ่มบ้านเดียวกันที่ชื่อบุญเกิด เพราะเขาหน้าตาดีและคารมคมคายนั้นไม่เป็นสองรองใคร สมบัติพัสถานก็มีเสมอกัน แต่ว่าพอเธอไปเรียนหนังสืออยู่ในเมือง หนทางอันยาวไกลกันนั้น ทำให้ ‘อีจุก’ เพื่อนร่วมชั้นเรียน ซึ่งมีโอกาสใกล้ชิดกับบุญเกิดมากกว่า เข้าทำคะแนน จนสามารถเอาชนะใจบุญเกิดไปได้ ทั้งที่อีจุกก็รู้ว่า เธอนั้นชอบบุญเกิดเป็นอย่างมาก..และที่ไม่ได้รักไม่ได้ชอบตั้งแต่ทีแรกที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นี้ก็เข้ามาดามหัวใจและด้วยเห็นว่า เขาจะทำให้เธอสุขสบายได้ วันเพ็ญจึงยอมแต่งงานอยู่กินด้วยกันจนรักกันในที่สุด

..แต่ว่าลึก ๆ ในใจนั้นแผลเล็ก ๆ นั้นก็ยังคงซ่อนอยู่ในใจ..

แพรวพรรณนิ่งเงียบ..

“เรื่องนิยายชุดอะไรนั่น แพรวถอนตัวซะด้วย” ก่อนที่แพรวพรรณจะกลับมานั้น ผู้เป็นแม่ได้ซักไซ้ลูกชายคนโตเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแพรวพรรณกับจิรวัติ ด้วยเป็นคนตรง ๆ พงศ์พันธุ์จึงบอกความเป็นไปเป็นมาเรื่องงานเขียนของน้องสาวทั้งหมด..

“ไม่ค่ะ” แพรวพรรณเสียงแข็งขึ้นมา แม้จะไม่เคยเถียงแม่ แต่ว่าเรื่องนี้ เธอจะไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด..ถ้าแม่ไม่เข้าใจเธอ เธอก็พร้อมจะไปจากบ้านหลังนี้เหมือนกัน..

และพอได้ยินเสียงแข็งกร้าวของลูกสาวกับดวงตาพราวไปด้วยหยาดน้ำตา..วันเพ็ญก็พอดูออกว่า น้ำกำลังเชี่ยวแบบนี้ ขืนเอาเรือไปขวาง เรือก็จะมีแต่แตกหักเสียหาย..

“ก็ได้..แต่ว่า อย่าติดต่อกับนายจิรวัติอีก”

“ไม่ค่ะ”

“แพรว..” ผู้เป็นแม่เหลืออด..

“พี่เขาไม่ดีตรงไหน...แม่บอกแพรวหน่อย”

“..ตรง ตรงที่เค้าจนกว่าเรา”

“แค่นั้นใช่ไหมคะ ถ้าใช่..แล้วถ้าแพรวจะลาออกจากสมบัติของแม่ละคะ”

“แพรว” ทีนี้เอง..องศาโทสะของวันเพ็ญก็ถึงขีดสุด..หมอนอิงที่อยู่ข้างตัวถูกปาใส่ลูกสาว..และทางเดียวที่จะแพรวพรรณจะทำได้ก็ยืนขึ้นแล้ววิ่งขึ้นห้องนอนร้องไห้เสียใจ

..เสียใจกับอารมณ์ตัวเอง และเสียใจที่ถูกแม่ลงโทษโดยการขว้างหมอนใส่..



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ธ.ค. 2554, 08:01:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ธ.ค. 2554, 08:01:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 3218





<< 24.3 "แม่หมอ มั่วอะไรอีก"   25.2 "โชคชะตาฟ้าลิขิต" >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 19 ธ.ค. 2554, 08:02:38 น.
อากาศเย้นเย็น..รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ..ช่วงใกล้ ๆ จบเข้าโหมด เครียดนิดหน่อยนะครับ..ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...จุ๊บ ๆ


แว่นใส 19 ธ.ค. 2554, 08:16:12 น.
โห อดีตรักของแม่ทำลูกสาวยุ่งอีกละ


anOO 19 ธ.ค. 2554, 08:59:43 น.
สู้ๆ ยัยแพรว
อย่าปล่อยให้พี่ญากับต้นเรือเค้าล้ำหน้า


innam 19 ธ.ค. 2554, 09:00:41 น.
อืม อดีตรัก


morisa 19 ธ.ค. 2554, 09:07:19 น.
คุณแม่ออกมาแต่ละครั้ง ทำเอาคนอ่านหนาวเกินอุณหภูมิวันนี้เลย


เด็กหญิงม่อน 19 ธ.ค. 2554, 10:56:05 น.
ง่าาาา พี่ต้นกล้าไม่อยู่ช่วยหนูแพรวเลย


XaWarZd 19 ธ.ค. 2554, 12:21:19 น.
วันนี้ไม่กดlike เพราะเสียใจกะแม่แพรว ทำแบบนี้ได้อย่างไร


Zephyr 19 ธ.ค. 2554, 12:50:22 น.
แม่ขา เข้าใจลูกบ้างสิคะ ชีวิตของใครก็เป็นของคนนั้นนะ บังคับไม่ได้หรอก อย่าเอาอดีตตัดสินปัจจุบันสิคะ


คิมหันตุ์ 19 ธ.ค. 2554, 15:05:09 น.
ค่อยๆพูดกับแม่ดีดีเด้อ


แวนด้าน้อย 19 ธ.ค. 2554, 19:03:10 น.
ที่แม่ขัดขวางเพราะมีอดีตนี่เอง


nutcha 19 ธ.ค. 2554, 19:49:05 น.
ธรรมดาของคนเป็นแม่ที่มักจะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นจะดีที่สุดสำหรับลูก พี่ต้นกล้าสู้ ๆ


wii 19 ธ.ค. 2554, 20:56:30 น.
ยัยจุกศัตรูหัวใจเเม่ของหนูเเพรวคือใช่เเม่ของจิตวัติหรือเปล่า ถ้าใช่เรื่องคงยุ่งเหยิงเเน่ๆ


minafiba 19 ธ.ค. 2554, 21:59:41 น.
^_^


silverraindrop 20 ธ.ค. 2554, 11:08:32 น.
กด like ให้แล้วน๊า


sunny 23 ธ.ค. 2554, 18:50:16 น.
กด แล้วเหมือนกัน


ณัฐวีร์ 27 ธ.ค. 2554, 01:03:12 น.
ดราม่าซะงั้น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account