พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก
ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 13
ตอนนี้เป็นเรื่องราวระหว่างพี่อาร์ทกับหมูหวานค่ะ
หวังว่าจะชอบกันนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์แล้วก็กดไลค์นะคะ
ถ้าจะเมนท์ทักทายกันจะดีใจมากเลยค่าาาาา แล้วก็...ถ้าชอบก็กดไลค์ให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ :))
ขอให้มีความสุขค่ะ ^__________^
---------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 13 : ความรู้สึกแปลกๆ
“คุณอารัทธ์! คุณบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าเพื่อนคุณพักอยู่ห้องไหน” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดกับประโยคคำสั่งของอาจารย์สาวดังลั่นชายหาดที่ทอดตัวยาวเลียบริมรีสอร์ท สองเท้ายังคงก้าวฉับๆเพื่อเดินทางกลับไปตั้งหลักที่ห้องของตัวเองเมื่อพบว่า มุกตาภานั้นคลาดสายตาไปอย่างไม่น่าให้อภัยโดยมีสาเหตุมาจากผู้ชายที่เดินตามหลังเธอมาติดๆคนนี้ ถึงจะเพียรพยายามโทรหาเพื่อนสาวแล้วก็ไม่เป็นผลเพราะติดต่อมุกตาภาไม่ได้เลย
...เป็นเพราะอีตาบ้าคนนี้คนเดียว...นายอารัทธ์ตัวร้าย!!...
“ผมไม่รู้”
“โกหก!” นิชิตาหันควับกลับมาพร้อมกับคำพูดที่จงใจตอกใส่หน้าอีกฝ่าย
“ผมเปล่า” ผู้ร้ายปากแข็งยังคมยืนกรานเช่นเดิมแถมยังลอยหน้าลอยตาตอบให้หญิงสาวได้หมั่นไส้เล่นอีกต่างหาก
“ฉันจะทำยังไงกับคุณดีนะ” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาบ่งบอกถึงอาการหัวเสียได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์การสอนหนังสือ กับการจัดการเหล่านิสิตหลายคนที่เซี้ยวๆได้อยู่หมัดไม่ได้ช่วยเธอในสถานการณ์อย่างนี้เลย เมื่อปัญหาของเธอคือผู้ชายที่ชื่ออารัทธ์!
คนที่ตั้งใจยั่วโมโหยิ้มกริ่ม ยอมรับว่าจงใจรั้งอาจารย์สาวหน้าหมวยใส่แว่นเป็นครูไหวใจร้ายคนนี้ไว้เพื่อไม่ให้ตามติดชีวิตของมุกตาภามากไปกว่านี้ เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเพื่อนแต่ห่วงมากไปมันก็ไม่ดี เพราะจะทำให้แผน ‘วัวแก่อยากกินหญ้าอ่อน’ ของเขาเสียรูปเสียร่างหมด เนื่องจากคนอย่างชิษวัศถ้าไม่เจอดัก ล่อ ลวง ให้จนมุมจนดิ้นไม่หลุด ไม่มีทางที่คนอย่างนั้นจะยอมคืนคำพูดและยอมรับเสียงหัวใจของตัวเอง
อารัทธ์จ้องมองดวงหน้ามนของผู้หญิงตัวเล็กอย่างนึกขันพลางนึกในใจ
...คาสโนว่าอย่าเขายอมกลายร่าง (ชั่วคราว) มาเป็นกามเทพสื่อรัก อันที่จริงคุณอาจารย์เธอน่าจะขอบคุณแถมด้วยการให้รางวัลนะ ไม่ใช่มาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กันๆอย่างนี้...
“ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะครับ” ประโยคที่พูดขึ้นมากลางปล้องทำเอานิชิตายิ่งขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สมองทำการประมวลผลอย่างทันท่วงทีเพื่อประเมินว่าอารัทธ์กำลังจะใช้ไม้ไหนกับเธอ
“หมายความว่ายังไง”
“การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมไงครับ ผมจะบอกว่าไอ้อาร์มพักอยู่ห้องไหนถ้าคุณอาจารย์ยอมจ่ายค่าง้างปากที่สมน้ำสมเนื้อ” สายตาหวานหยดย้อยที่จ้องมองมาทำให้นิชิตาต้องรีบหลบดวงตาคู่นั้นเป็นพัลวัน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องหลบ หญิงสาวรู้เพียงแค่ว่าถ้าไม่หลบเสียตอนนี้เธออาจจะต้องมนต์เจ้าเล่ห์ของอารัทธ์ก็เป็นได้
“ไม่ต้องมาใช้แผนนี้ ฉันไม่หลงกลคุณหรอก” บอกพร้อมสะบัดหน้าพรืดก่อนจะหมุนตัวเดินต่อไปโดยมีเสียงแมลงวี่แมลงวันดังไล่ตามหลังมาติดๆให้เธอได้รำคาญในอารมณ์
“ไม่เป็นห่วงน้องมุกแล้วหรือครับ”
“ห่วง”
“แล้วทำไมไม่ยอมลงทุนจ่ายค่าง้างปากผมล่ะ”
“นักธุรกิจลงทุนเพื่อหวังกำไรเป็นผลตอบแทน ไม่ได้หวังแค่จะถอนทุนคืน คุณอย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทัน” นิชิตาใช้การเปรียบเปรยดักทางความคิดของอารัทธ์ มั่นใจว่าเธอตบปากรับคำคนเจ้าเล่ห์อย่างนายคนนี้เธอคงได้ขาดทุนยับเยิน
“ฉลาด” เอ่ยชมสั้นๆก่อนจะพูดต่อ “สมแล้วกับตำแหน่งว่าที่ภรรยาสุดที่รักและแม่ของลูกผม”
“นายอารัทธ์!” น้ำเสียงใสดังขึ้นด้วยความโมโห คำนำหน้าชื่อของอารัทธ์เปลี่ยนจาก ‘คุณ’ เป็น ‘นาย’ ตามอารมณ์โกรธที่พัดโหม
“อย่าโมโหสิครับ ทำหน้าตาอย่างนี้เดี๋ยวผมไม่รักนะ” หากคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอารมณ์โกรธของผู้หญิงตรงหน้าก็ยังคงปฏิบัติการกวนประสาทต่อไป พอเห็นสาวหมวยตัวเล็กโมโหมากขึ้นอารัทธ์กลับยิ่งพอใจที่ได้แกล้ง
“ไอ้คนบ้า! ฉันไม่ได้อยากให้คุณมารักซะหน่อย เป็นไปได้ไม่อยากรู้จักคนอย่างคุณด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วฉันทำกรรมอะไรไว้ชาตินี้ถึงได้เจอผู้ชายอย่างคุณตามจองล้างจองผลาญก็ไม่รู้!”
“โนๆๆๆ” อารัทธ์ส่งเสียงประท้วง “เรียกว่าเคยทำบุญร่วมชาติกันมาดีกว่าครับ แล้วที่บอกว่าจองล้างจองผลาญนี่ผิดนะครับคุณอาจารย์ ผมทำอย่างนั้นซะที่ไหน อย่างผมเค้าเรียกว่า ‘จองรักจองหัวใจ’ ครับ”
“อย่างคุณน่าเอาไปจองจำไม่ต้องปล่อยมาเห็นเดือนเห็นตะวันได้ยิ่งดี”
“ยินดีครับถ้าจะจองจำผมด้วยหัวใจของคุณ”
“อี๋...” นิชิตาส่งเสียงร้องผสมกับกับสีหน้าท่าทางที่แสดงอาการรังเกียจออกมาอย่างชัดเจน ขนแขนพร้อมเพรียงกันลุกขึ้นเกรียวเมื่อได้ยินประโยคที่แสนจะน้ำเน่าของอารัทธ์
“ขอบอกว่าเน่าสนิท”
“เน่าแล้วชอบไหมล่ะครับ”
นิชิตาฉีกยิ้มหวานก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าเรียบเฉยอย่างรวดเร็ว
“บังเอิญว่าไม่ชอบค่ะ เก็บคำพูดหวานปนน้ำเน่าชวนเลี่ยนเอาไว้ใช้กับผู้หญิงของคุณเถอะ!” ว่าจบก็ก้าวเดินต่อไปยังห้องพัก เมื่อเห็นจุดหมายปลายทางอยู่ไม่ไกลจากระยะสายตาร่างเล็กบางก็ยิ่งสาวเท้าอย่างรวดเร็วหากก็ต้องชะงักฝีเท้าลงและยืนอยู่กับที่เมื่อพบว่ามีใครคนหนึ่งยืนขวางอยู่หน้าประตู
...เป็นเรื่องจนได้ไหมล่ะ!...
นิชิตาบ่นในใจอย่างหัวเสียเมื่อพบว่าคนที่ยืนขวางอยู่หน้าห้องคือผู้หญิงหนึ่งในสต็อคสาวๆของอารัทธ์ที่เจอในร้านอาหารเมื่อครู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าหล่อนมายืนตากยุงรออะไรถ้าไม่ใช่รอผู้ชายคนที่เดินตามหลังเธอมาแต่คงไม่ทันได้คิดว่าจะมีคนที่พักห้องนี้อีกคน
“เธอมาอยู่ที่นี่ทำไมยะ” คนที่รออยู่ก่อนแล้วถามเสียงแหลมปรี๊ด
อาจารย์สาวกลอกตาไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด
“ฉันจะเข้าห้อง กรุณาหลบด้วย” นิชิตาไม่ตอบในสิ่งที่ถูกถามมาตรงๆ แต่คำพูดของเธอคงทำให้ผู้หญิงอีกคนเข้าในใจคำตอบได้ไม่ยาก
“เธอ! เธอจะนอนห้องนี้ได้ยังไง!” เสียงที่สูงกว่าประโยคเมื่อครู่ทำเอานิชิตาต้องรีบยกมือขึ้นปิดหู
“ก็นี่มันห้องพักฉัน ทำไมฉันจะนอนไม่ได้” เจ้าของห้องตอบ ปรายตามองไปยังเจ้าของห้องอีกคนอย่างใคร่รู้ว่าคนอย่างอารัทธ์จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร จริงอยู่ที่หญิงสาวยังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่ใช่ ‘ผู้หญิงของอารัทธ์’ แต่เธอก็เคยบอกเขาไว้แล้วว่าอย่าให้ผู้หญิงในสต็อคของเขามายุ่งวุ่นวายหรือระรานเธอ ไม่อย่างนั้นเธอได้เหวี่ยงไม่เว้นหน้าใครแน่ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาหาเรื่องหรือสาเหตุของเรื่องทั้งหมด...อย่างอารัทธ์
“อาร์ทขา...” นางแบบสาวเรียกชื่อหนึ่งบุรุษที่ยืนอยู่เสียงหวานพร้อมกับเกี่ยวคล้องแขนซบไหล่คลอเคลียราวกับแมวน้อยอ้อนเจ้าของ “คืนนี้เชอรี่จะอยู่กับอาร์ท ส่วนคนไหนที่ไม่เกี่ยว...” ดวงตาเรียวสวยของนางแบบสาวปรายตามามองผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เธอมองว่าเป็นศัตรูหัวใจ “...อาร์ทช่วย ‘ไล่’ ไปหน่อยสิคะ”
นิชิตาเชิดหน้าขึ้นมองไปยังอารัทธ์ ดวงตาเรียวชั้นเดียวจ้องมองตรงไปอย่างไม่นึกกลัวในคำตอบที่จะได้รับ แม้คำตอบนั้นจะออกมาเป็นไล่เธอไปก็ตาม
“ผมว่าคุณกลับไปก่อนดีกว่านะเชอรี่” แล้วคำตอบของอารัทธ์ก็ทำให้นิชิตาเหยียดยิ้มอย่างผู้มีชัยเหนือนางแบบสาวสวยพริ้งคนนั้น
“อะ...อาร์ทว่ายังไงนะคะ” เสียงแหลมสูงดังขึ้นถามอย่างไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “อาร์ทไล่เชอรี่เพราะยัยหมวยหน้าจืดนี่เหรอคะ!”
นิชิตาหันมามองแม่นางแบบปากแดงตาขวางเมื่อโดนกล่าวหาว่าเป็น ‘ยัยหมวยหน้าจืด’
“นี่คู้ณ....” หญิงสาวลากเสียงยาว “ผู้ชายออกปากขนาดนี้แล้ว ถ้าเป็นฉัน...ฉันไม่กล้ายืนอยู่ต่อหรอกนะ บอกตามตรงว่าอาย”
“แก!!” สรรพนามที่ถูกใช้เรียกแทนนิชิตาถูกเปลี่ยนทันทีพร้อมๆกับการคุกคามของฝ่ายตรงข้ามที่ทำท่าว่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกายจนอารัทธ์ต้องเข้ามาแทรกกลางเพื่อห้ามปรามพร้อมกับปกป้องผู้หญิงอีกคนที่ชายหนุ่มเลือกแล้วซึ่งก็คือ...นิชิตา
“ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะเชอรี่ กลับไปก่อน” อารัทธ์บอกเสียงต่ำ แม้จะเลิกติดต่อกับนางแบบสาวคนนี้ไปนานแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายยังพยายามติดต่อขอสายความสัมพันธ์อยู่เรื่อยมา และครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้เขาจะกำชับจากทางรีสอร์ทแล้วว่าห้ามบอกใครทั้งนั้นว่าเขาพักห้องไหนแต่คนอย่างเชอรี่คงหาทางง้างปากพนักงานที่นี่ได้ไม่ยาก
“เชอรี่ไม่กลับ! คืนนี้ถ้าอาร์ทไม่อยู่กับเชอรี่ นังหน้าจืดนี่ก็จะไม่ได้อาร์ทไปเหมือนกัน!!”
คำประกาศกร้าวของเชอรี่ทำเอาอารัทธ์ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เพิ่งรู้ซึ้งถึงคำเตือนของชิษวัศเอาก็ตอนนี้ ที่เคยบอกเขาว่าเวลาจะเลือกคบใครให้ดูถึงความคิดและสภาวะทางอารมณ์ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ความสวยเข้าว่าอย่างเดียว
ส่วนนิชิตาที่ไม่อยากจะเข้าไปร่วมวงกับ ‘ศึกชิงนาย’ ก็ก้าวมาด้านหน้าของอารัทธ์เพื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แม้ใจจริงหญิงสาวจะไม่พอใจอยู่มากที่ถูกเรียกด้วยสรรพนามไม่เป็นมิตรอย่างนั้น แต่ลึกๆก็เข้าใจและอดสงสารสาวนามเชอรี่ไม่ได้ คงเพราะหล่อนรักอารัทธ์มากจึงแสดงกิริยาเช่นนี้ ถ้าจะผิดก็ต้องผิดที่อารัทธ์ที่คิดกับหล่อนเพียงแค่เล่นๆไม่ได้จริงจัง
“ที่ฉันพูดไปเมื่อครู่ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะกวนโมโหคุณ ส่วนผู้ชายคนนี้ฉันยังยืนยันคำเดิมว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ไม่ใช่คู่ควง คู่ขา กิ๊ก หรือว่าแฟน คุณวางใจได้ ฉันไม่เข้าไปร่วมวงแย่งเขากับคุณแน่ ถ้าคุณจะเอาคนของคุณคืนก็เชิญค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”
คำปฏิเสธของนิชิตาทำให้อารัทธ์มองไปที่สาวร่างเล็กด้วยความน้อยใจ เป็นครั้งแรกที่คนอย่างอารัทธ์รู้สึกน้อยใจกับคำปฏิเสธของเธอคนนี้ แม้หลายครั้งหลายคราเขาจะได้รับคำปฏิเสธมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ชายหนุ่มจะรู้สึกน้อยใจและเสียใจขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เขาไปกับผู้หญิงอีกคน เธอก็คงไม่สนใจหรือใส่ใจอะไรเลยใช่ไหม
“คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธอเหรอ” นางแบบสาวหยันเสียงสูง ดวงตาเรียวสวยมองมายังคนที่หล่อนคิดว่าขี้ริ้วขี้เหร่ อย่างสบประมาท
“คนอย่างฉันไม่เคยผิดคำพูดของตัวเอง ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของฉัน”
“ผมไม่ใช่สิ่งของที่คุณคิดจะโยนให้ใครก็ให้ได้นะคุณนิชิตา”
หนึ่งบุรุษที่ยืนนิ่งฟังการสนทนาระหว่างสองสาวเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเสียไม่ได้เมื่อถูกคนที่รักผลักไสไล่ส่งอย่างไม่คิดถึงหัวอกกันอย่างนี้
“ถึงคุณจะไม่รักผม คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะยกผมหรือไล่ผมไปกับผู้หญิงคนอื่น”
นิชิตาหันมาสบกับดวงตาคู่เรียวเล็กของอารัทธ์อย่างไม่เกรงกลัว หญิงสาวจับอารมณ์โกรธกรุ่นจากน้ำเสียงนั้นได้ เธอรู้ว่าเขาไม่พอใจในคำพูดของเธอ และรู้...ว่าคำพูดนั้นทำร้ายจิตใจของเขาไม่น้อย แต่เธอไม่อยากที่จะตกอยู่ในวังวนเช่นนี้ ต้องคอยผจญกับผู้หญิงของเขา เธออยากได้ชีวิตที่สงบสุขของเธอกลับมา ชีวิตที่ไม่เคยมีผู้ชายที่ชื่อว่าอารัทธ์
“งั้นคุณก็ออกไปจากชีวิตฉันซะสิ ฉันจะได้ไม่ต้องไล่หรือยกคุณให้กับคนอื่น”
“ไม่ครับ ผมเดินเข้ามาในชีวิตคุณแล้ว ไม่มีวันที่จะหันหลังเดินไปจากคุณแน่ ต่อให้คุณไม่เต็มใจก็ตาม”
“อาร์ท!!!”
นางแบบสาวเรียกชื่อคนที่เธอหลงหัวปักหัวปำเสียงสูงซึ่งแฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะเพิ่งได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่บอกชี้ชัดว่าเขานั้นได้เลือกใครซึ่งผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอ
“อาร์ทจะเลือกมันใช่ไหม เชอรี่ไม่ยอม! อาร์ทเป็นของเชอรี่ เชอรี่ไม่ยอมยกให้ใครทั้งนั้น!!”
“เลิกบ้าได้แล้วน่ะเชอรี่!!” อารัทธ์ตวาดเสียงดังใส่คนที่ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล น้ำเสียงนั้นดังมากขนาดนิชิตาที่ยืนอยู่ด้วยยังตกใจ
“อาร์ท...อาร์ทตวาดเชอรี่...” น้ำตาหนึ่งหยดไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยก่อนที่เหลือจะไหลออกมาเป็นสาย
“ผมพูดชัดแล้วนะเชอรี่ ผมกับคุณเราไม่มีอะไรกันแล้ว ไม่ว่าแต่ก่อนผมกับคุณจะเคยคบกันยังไงก็ตาม แต่เท่าที่ผมจำได้ผมไม่เคยเรียกคุณว่าแฟน ต่างคนต่างมีอิสระ ไม่มีอะไรผูกมัด”
“แต่เชอรี่รักอาร์ท”
“แต่ผมไม่ได้รักคุณ” อารัทธ์สวนออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ และคำปฏิเสธนั้นก็ยิ่งทำให้คนที่ร้องไห้อยู่แล้วยิ่งร้องหนักจนนิชิตาอดไม่ได้ที่จะขอพูดบ้าง
“คุณมันเห็นแก่ตัวที่สุดเลยคุณอารัทธ์” คิ้วโค้งสวยบนดวงตาชั้นเรียวขมวดชิดอย่างไม่พอใจกับคำปฏิเสธของอารัทธ์ แม้นางแบบที่ชื่อเชอรี่อะไรนั่นจะไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่ พูดง่ายๆคือเกลียดขี้หน้ากันด้วยซ้ำ แต่ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันเธอรู้สึกว่าอารัทธ์เห็นแก่ตัวเกินไป ไม่มีความรับผิดชอบเกินไป ที่สำคัญ...เขาเลือดเย็นเกินไป...จนเธอเริ่มกลัว
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณ” อารัทธ์บอกห้าม ชายหนุ่มเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามในความเป็นส่วนตัวแม้คนๆนั้นจะเป็นคนที่ตัวเองรักก็ตาม
“อ้อ...” นิชิตาย้อนเสียงสูง “จะบอกให้ฉันอยู่เฉยๆ อย่าเสนอตัวเข้าไปยุ่งอย่างนั้นใช่ไหม”
“คุณอาจารย์...” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มประชด อารัทธ์จึงยอมลงให้โดยเรียกนิชิตาเสียงอ่อน “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“แต่ฉันคิดว่าคุณหมายความอย่างนั้น” นิชิตาเชิดหน้าขึ้น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“เดี๋ยวเราค่อยคุยกันได้ไหม”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุย เชิญคุณเคลียร์กับผู้หญิงของคุณต่อเถอะ จะไปคุยกันทั้งคืนไม่ต้องกลับมาก็ดีนะคะ ฉันจะขอบคุณมาก” บอกอารัทธ์ก่อนจะหันมาทางผู้หญิงอีกคน
“เอาผู้ชายของคุณไปเลยนะคะคุณเชอรี่ ถ้าจะกรุณาก็ช่วยเก็บไว้ดีๆอย่าให้มายุ่งกับชีวิตฉันอีก ฉันไม่ต้องการ” พูดจบก็เดินเข้าห้องพัก ล็อคประตูโดยกุญแจห้องก็ตกอยู่ในการครอบครองของตัวเอง ไม่สนใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายนอก ไม่สนใจเสียงเคาะประตูที่ดังรัวตั้งแต่เธอเข้าห้องมา
“คุณอาจารย์! เปิดประตูให้ผมหน่อย เรามีเรื่องต้องคุยกัน คุณอาจารย์!”
“ฉันคงไม่กล้าอาจเอื้อมไปรบกวนเวลาของคุณกับคุณเชอรี่หรอกนะคะ”
ถ้อยคำประชดประชันของคนในห้องทำเอาอารัทธ์พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
“เลิกประชดผมแล้วเปิดประตูให้ก่อนได้ไหม”
“อาร์ทขา...เขาไล่แล้วอาร์ทจะไปสนใจทำไมคะ มาห้องเชอรี่ดีกว่านะคะอาร์ท” นางแบบสาวที่ร้องไห้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือดเมื่อครู่หลงเหลือไว้เพียงแค่รอยน้ำตาเมื่อศัตรูหัวใจยอมถอยทัพ
อารัทธ์ถอนหายใจอีกที ทำไมเวลาที่เจอกับคนที่คิดจะฝากอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตไว้กับเธอหากก็ต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆนานา แต่ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาหรืออับจนหนทางขนาดไหนชายหนุ่มก็ไม่คิดจะยอมแพ้เพราะเขาสาบานกับตัวเองไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องชนะใจอาจารย์สาวหน้าหมวยให้ได้ หัวใจดวงนั้นเขาต้องได้มันมาโดยที่เธอเองก็เต็มใจเช่นกัน
“ก็ได้เชอรี่ ผมจะไปกับคุณ” อารัทธ์จงใจพูดให้คนที่อยู่ในห้องได้ยิน ได้คิดอะไรเลยเถิดไปเอง แม้ความจริงจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ตาม เพราะที่ชายหนุ่มยอมไปก็เพื่อจัดการเรื่องราวระหว่างตนเองและอดีตคู่ควงให้จบลง
ฝ่ายนิชิตานั้นได้ยินทุกคำพูดของอารัทธ์ชัดเจน บทสนทนาและเสียงฝีเท้าของคนทั้งคู่ค่อยๆเดินห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียง ร่างเล็กบางทรุดลงนั่งบนเตียง ดวงตาเรียวเล็กใต้กรอบแว่นสายตามองไปยังบานประตูที่ถูกล็อคกลอนอย่างดีด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ...มันเหมือนคนที่เธอคุ้นเคยกำลังเดินออกไปจากชีวิตและจะไม่หันหลังย้อนกลับมา
...จะรู้สึกอย่างนี้ทำไมหมูหวาน ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนคุ้นเคยและจะไม่มีวันใช่ เขาก็แค่คนแปลกหน้าที่อยากจะเอาชนะเธอ...แค่นั้น...
หญิงสาวปฏิเสธเสียงดังในใจก่อนจะลุกพรวดและเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน บางทีน้ำเย็นๆอาจทำให้เธอเลิกติดฟุ้งซ่านได้บ้าง นิชิตาใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็ออกจากห้องน้ำมาในชุดนอนเสื้อกับกางเกงขาสี่ส่วนสีเขียวอ่อนเข้าชุด ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกวางแปะไว้บนศีรษะเพื่อซับผมเส้นเล็กที่ยังหมาดไปด้วยหยดน้ำก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือไปเปิดผ้าม่านผืนยาวเพื่อดูวิวทะเลยามค่ำคืน
“กรี๊ดดดดดดด!!” เสียงร้องเพราะตกใจกับขาที่ก้าวถอยหลังไปสองก้าวจนเกือบจะสะดุดขาตัวเองล้มคะมำเริ่มจะมั่นคงเมื่อเจ้าตัวตั้งสติได้หากหัวใจก็ยังเต้นรัวไม่หยุดเมื่อดวงตาทั้งสองข้างมองเห็นร่างๆหนึ่งทาบหน้าลงมากับกระจกของประตูที่เปิดสู่ระเบียงราวกับจิ้งจกที่เกาะอยู่บนผนังก็ไม่ปาน
“คะ...คุณอารัทธ์!!”
---------------------------------------------------------------------------------------------
ตัดจบอย่างนี้มีใครโกรธปอแก้วไหมคะ อิอิอิ ถึงประตูจะโดนล็อคแต่ห้องก็ยังมีระเบียง แน่นอนว่า...พี่อาร์ทไม่ยอมแพ้ ฮา...
ตอนหน้ามาดูพี่อาร์ทง้อคุณอาจารย์กันนะคะ ว่าบทจะหวาน...พี่อาร์ทหวานและระบายความรู้สึกในใจยังไง :))
ปล. ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ตอนที่แล้วนะคะ ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นและคุยกัน ขอบคุณมากเลยค่ะ ^____^
ตอบเมนท์ค่ะ...
Auuuu : นั่นสิคะ กล้าๆหน่อยพี่อาร์ม // ปล. คิดถึงนะคะคุณ Auuuu อิอิ
nunoi : แค่ก้าวขายื่นมืออกไปมันยากแค่ไหนกันเชียวใช่ไหมคะ มาตามดูกันต่อดีกว่าเนอะ
roseolar : เป็นผู้ชายที่น่าขัดใจจริงๆใช่ไหมคะ คอยเบรกตัวเองตลอดๆ สู้พี่อาร์ทไม่ได้ เดินหน้าเต็มกำลังไม่ว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม ฮ่าๆ แต่อย่าเพิ่งเซ็งพี่อาร์มนะค้าาาา ให้โอกาสเค้าหน่อยน้าาาา
ลิขิตรา : ดีใจมากๆเลยค่ะที่คุณไอซ์มาเม้นท์ให้ :) เห็นด้วยค่ะที่ผู้หญิงไม่มากจะเป็นอย่างนี้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าหมูมุกรักพี่อาร์มมากๆนั่นเอง จะรักก็รักสิเนอะ กล้าๆหน่อยใช่ไหมคะ :) แต่อย่าโกรธพี่อาร์มนานนะคะ สงสารพ่อพระเอกเขาหน่อย มีแต่คนโมโหใส่ทุกตอนเลย ^^"
pattisa : ถึงวันนั้นจะสมน้ำหน้าพี่อาร์มใช่ไหมคะ อิอิ วิ่งหนีความรักของหนูมุกดีนัก
mookisme : จะตัดใจจริงๆเหรอคะ อิอิ แน่ใจน้าาาา
teesaparn : ตอนนี้พี่อาร์มคงพอรู้ตัวแล้วล่ะค่ะว่าถ้ายังทำอย่างนี้จะโดนคนอ่านโกรธแล้วนะ :)
anOO : ใจร้ายจริงๆด้วยค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองก็ชอบเขามากขนาดนี้ ถ้าวันไหนหนูมุกมีคนอื่นมาชอบ พี่อาร์มจะเริ่มรู้สึก แล้วพี่อาร์มก็ต้องเป็นฝ่ายที่จะต้องเดินตามหนูมุกบ้างค่ะ!
Amata : หาไม่ได้น่ะสิคะ ช่างไม่รู้เลยว่าตัวเองโชคดีขนาดไหน พี่อาร์มนะพี่อาร์ม
violette : พี่อาร์มใกล้จะตบะแตกเต็มทนแล้วค่ะ ฮ่าๆ ส่วนพี่อาร์ท...ปอแก้วจัดให้สองตอนเลยค่ะ ถึงตอนนี้คุณ violette สงสารพี่อาร์ทหรือยังคะ รถไฟชนกันเต็มๆเลย ><
WallyValent : เราขอแนะนำว่าให้เธอไปเคลียร์กับหนูมุกเองนะ ว่าเค้าจะยอมยกให้หรือเปล่า เพราะหนูมุกเค้าก็รอมานานเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ
หวังว่าจะชอบกันนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์แล้วก็กดไลค์นะคะ
ถ้าจะเมนท์ทักทายกันจะดีใจมากเลยค่าาาาา แล้วก็...ถ้าชอบก็กดไลค์ให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ :))
ขอให้มีความสุขค่ะ ^__________^
---------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 13 : ความรู้สึกแปลกๆ
“คุณอารัทธ์! คุณบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าเพื่อนคุณพักอยู่ห้องไหน” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดกับประโยคคำสั่งของอาจารย์สาวดังลั่นชายหาดที่ทอดตัวยาวเลียบริมรีสอร์ท สองเท้ายังคงก้าวฉับๆเพื่อเดินทางกลับไปตั้งหลักที่ห้องของตัวเองเมื่อพบว่า มุกตาภานั้นคลาดสายตาไปอย่างไม่น่าให้อภัยโดยมีสาเหตุมาจากผู้ชายที่เดินตามหลังเธอมาติดๆคนนี้ ถึงจะเพียรพยายามโทรหาเพื่อนสาวแล้วก็ไม่เป็นผลเพราะติดต่อมุกตาภาไม่ได้เลย
...เป็นเพราะอีตาบ้าคนนี้คนเดียว...นายอารัทธ์ตัวร้าย!!...
“ผมไม่รู้”
“โกหก!” นิชิตาหันควับกลับมาพร้อมกับคำพูดที่จงใจตอกใส่หน้าอีกฝ่าย
“ผมเปล่า” ผู้ร้ายปากแข็งยังคมยืนกรานเช่นเดิมแถมยังลอยหน้าลอยตาตอบให้หญิงสาวได้หมั่นไส้เล่นอีกต่างหาก
“ฉันจะทำยังไงกับคุณดีนะ” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาบ่งบอกถึงอาการหัวเสียได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์การสอนหนังสือ กับการจัดการเหล่านิสิตหลายคนที่เซี้ยวๆได้อยู่หมัดไม่ได้ช่วยเธอในสถานการณ์อย่างนี้เลย เมื่อปัญหาของเธอคือผู้ชายที่ชื่ออารัทธ์!
คนที่ตั้งใจยั่วโมโหยิ้มกริ่ม ยอมรับว่าจงใจรั้งอาจารย์สาวหน้าหมวยใส่แว่นเป็นครูไหวใจร้ายคนนี้ไว้เพื่อไม่ให้ตามติดชีวิตของมุกตาภามากไปกว่านี้ เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเพื่อนแต่ห่วงมากไปมันก็ไม่ดี เพราะจะทำให้แผน ‘วัวแก่อยากกินหญ้าอ่อน’ ของเขาเสียรูปเสียร่างหมด เนื่องจากคนอย่างชิษวัศถ้าไม่เจอดัก ล่อ ลวง ให้จนมุมจนดิ้นไม่หลุด ไม่มีทางที่คนอย่างนั้นจะยอมคืนคำพูดและยอมรับเสียงหัวใจของตัวเอง
อารัทธ์จ้องมองดวงหน้ามนของผู้หญิงตัวเล็กอย่างนึกขันพลางนึกในใจ
...คาสโนว่าอย่าเขายอมกลายร่าง (ชั่วคราว) มาเป็นกามเทพสื่อรัก อันที่จริงคุณอาจารย์เธอน่าจะขอบคุณแถมด้วยการให้รางวัลนะ ไม่ใช่มาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กันๆอย่างนี้...
“ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะครับ” ประโยคที่พูดขึ้นมากลางปล้องทำเอานิชิตายิ่งขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สมองทำการประมวลผลอย่างทันท่วงทีเพื่อประเมินว่าอารัทธ์กำลังจะใช้ไม้ไหนกับเธอ
“หมายความว่ายังไง”
“การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมไงครับ ผมจะบอกว่าไอ้อาร์มพักอยู่ห้องไหนถ้าคุณอาจารย์ยอมจ่ายค่าง้างปากที่สมน้ำสมเนื้อ” สายตาหวานหยดย้อยที่จ้องมองมาทำให้นิชิตาต้องรีบหลบดวงตาคู่นั้นเป็นพัลวัน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องหลบ หญิงสาวรู้เพียงแค่ว่าถ้าไม่หลบเสียตอนนี้เธออาจจะต้องมนต์เจ้าเล่ห์ของอารัทธ์ก็เป็นได้
“ไม่ต้องมาใช้แผนนี้ ฉันไม่หลงกลคุณหรอก” บอกพร้อมสะบัดหน้าพรืดก่อนจะหมุนตัวเดินต่อไปโดยมีเสียงแมลงวี่แมลงวันดังไล่ตามหลังมาติดๆให้เธอได้รำคาญในอารมณ์
“ไม่เป็นห่วงน้องมุกแล้วหรือครับ”
“ห่วง”
“แล้วทำไมไม่ยอมลงทุนจ่ายค่าง้างปากผมล่ะ”
“นักธุรกิจลงทุนเพื่อหวังกำไรเป็นผลตอบแทน ไม่ได้หวังแค่จะถอนทุนคืน คุณอย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทัน” นิชิตาใช้การเปรียบเปรยดักทางความคิดของอารัทธ์ มั่นใจว่าเธอตบปากรับคำคนเจ้าเล่ห์อย่างนายคนนี้เธอคงได้ขาดทุนยับเยิน
“ฉลาด” เอ่ยชมสั้นๆก่อนจะพูดต่อ “สมแล้วกับตำแหน่งว่าที่ภรรยาสุดที่รักและแม่ของลูกผม”
“นายอารัทธ์!” น้ำเสียงใสดังขึ้นด้วยความโมโห คำนำหน้าชื่อของอารัทธ์เปลี่ยนจาก ‘คุณ’ เป็น ‘นาย’ ตามอารมณ์โกรธที่พัดโหม
“อย่าโมโหสิครับ ทำหน้าตาอย่างนี้เดี๋ยวผมไม่รักนะ” หากคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอารมณ์โกรธของผู้หญิงตรงหน้าก็ยังคงปฏิบัติการกวนประสาทต่อไป พอเห็นสาวหมวยตัวเล็กโมโหมากขึ้นอารัทธ์กลับยิ่งพอใจที่ได้แกล้ง
“ไอ้คนบ้า! ฉันไม่ได้อยากให้คุณมารักซะหน่อย เป็นไปได้ไม่อยากรู้จักคนอย่างคุณด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วฉันทำกรรมอะไรไว้ชาตินี้ถึงได้เจอผู้ชายอย่างคุณตามจองล้างจองผลาญก็ไม่รู้!”
“โนๆๆๆ” อารัทธ์ส่งเสียงประท้วง “เรียกว่าเคยทำบุญร่วมชาติกันมาดีกว่าครับ แล้วที่บอกว่าจองล้างจองผลาญนี่ผิดนะครับคุณอาจารย์ ผมทำอย่างนั้นซะที่ไหน อย่างผมเค้าเรียกว่า ‘จองรักจองหัวใจ’ ครับ”
“อย่างคุณน่าเอาไปจองจำไม่ต้องปล่อยมาเห็นเดือนเห็นตะวันได้ยิ่งดี”
“ยินดีครับถ้าจะจองจำผมด้วยหัวใจของคุณ”
“อี๋...” นิชิตาส่งเสียงร้องผสมกับกับสีหน้าท่าทางที่แสดงอาการรังเกียจออกมาอย่างชัดเจน ขนแขนพร้อมเพรียงกันลุกขึ้นเกรียวเมื่อได้ยินประโยคที่แสนจะน้ำเน่าของอารัทธ์
“ขอบอกว่าเน่าสนิท”
“เน่าแล้วชอบไหมล่ะครับ”
นิชิตาฉีกยิ้มหวานก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าเรียบเฉยอย่างรวดเร็ว
“บังเอิญว่าไม่ชอบค่ะ เก็บคำพูดหวานปนน้ำเน่าชวนเลี่ยนเอาไว้ใช้กับผู้หญิงของคุณเถอะ!” ว่าจบก็ก้าวเดินต่อไปยังห้องพัก เมื่อเห็นจุดหมายปลายทางอยู่ไม่ไกลจากระยะสายตาร่างเล็กบางก็ยิ่งสาวเท้าอย่างรวดเร็วหากก็ต้องชะงักฝีเท้าลงและยืนอยู่กับที่เมื่อพบว่ามีใครคนหนึ่งยืนขวางอยู่หน้าประตู
...เป็นเรื่องจนได้ไหมล่ะ!...
นิชิตาบ่นในใจอย่างหัวเสียเมื่อพบว่าคนที่ยืนขวางอยู่หน้าห้องคือผู้หญิงหนึ่งในสต็อคสาวๆของอารัทธ์ที่เจอในร้านอาหารเมื่อครู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าหล่อนมายืนตากยุงรออะไรถ้าไม่ใช่รอผู้ชายคนที่เดินตามหลังเธอมาแต่คงไม่ทันได้คิดว่าจะมีคนที่พักห้องนี้อีกคน
“เธอมาอยู่ที่นี่ทำไมยะ” คนที่รออยู่ก่อนแล้วถามเสียงแหลมปรี๊ด
อาจารย์สาวกลอกตาไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด
“ฉันจะเข้าห้อง กรุณาหลบด้วย” นิชิตาไม่ตอบในสิ่งที่ถูกถามมาตรงๆ แต่คำพูดของเธอคงทำให้ผู้หญิงอีกคนเข้าในใจคำตอบได้ไม่ยาก
“เธอ! เธอจะนอนห้องนี้ได้ยังไง!” เสียงที่สูงกว่าประโยคเมื่อครู่ทำเอานิชิตาต้องรีบยกมือขึ้นปิดหู
“ก็นี่มันห้องพักฉัน ทำไมฉันจะนอนไม่ได้” เจ้าของห้องตอบ ปรายตามองไปยังเจ้าของห้องอีกคนอย่างใคร่รู้ว่าคนอย่างอารัทธ์จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร จริงอยู่ที่หญิงสาวยังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่ใช่ ‘ผู้หญิงของอารัทธ์’ แต่เธอก็เคยบอกเขาไว้แล้วว่าอย่าให้ผู้หญิงในสต็อคของเขามายุ่งวุ่นวายหรือระรานเธอ ไม่อย่างนั้นเธอได้เหวี่ยงไม่เว้นหน้าใครแน่ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาหาเรื่องหรือสาเหตุของเรื่องทั้งหมด...อย่างอารัทธ์
“อาร์ทขา...” นางแบบสาวเรียกชื่อหนึ่งบุรุษที่ยืนอยู่เสียงหวานพร้อมกับเกี่ยวคล้องแขนซบไหล่คลอเคลียราวกับแมวน้อยอ้อนเจ้าของ “คืนนี้เชอรี่จะอยู่กับอาร์ท ส่วนคนไหนที่ไม่เกี่ยว...” ดวงตาเรียวสวยของนางแบบสาวปรายตามามองผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เธอมองว่าเป็นศัตรูหัวใจ “...อาร์ทช่วย ‘ไล่’ ไปหน่อยสิคะ”
นิชิตาเชิดหน้าขึ้นมองไปยังอารัทธ์ ดวงตาเรียวชั้นเดียวจ้องมองตรงไปอย่างไม่นึกกลัวในคำตอบที่จะได้รับ แม้คำตอบนั้นจะออกมาเป็นไล่เธอไปก็ตาม
“ผมว่าคุณกลับไปก่อนดีกว่านะเชอรี่” แล้วคำตอบของอารัทธ์ก็ทำให้นิชิตาเหยียดยิ้มอย่างผู้มีชัยเหนือนางแบบสาวสวยพริ้งคนนั้น
“อะ...อาร์ทว่ายังไงนะคะ” เสียงแหลมสูงดังขึ้นถามอย่างไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “อาร์ทไล่เชอรี่เพราะยัยหมวยหน้าจืดนี่เหรอคะ!”
นิชิตาหันมามองแม่นางแบบปากแดงตาขวางเมื่อโดนกล่าวหาว่าเป็น ‘ยัยหมวยหน้าจืด’
“นี่คู้ณ....” หญิงสาวลากเสียงยาว “ผู้ชายออกปากขนาดนี้แล้ว ถ้าเป็นฉัน...ฉันไม่กล้ายืนอยู่ต่อหรอกนะ บอกตามตรงว่าอาย”
“แก!!” สรรพนามที่ถูกใช้เรียกแทนนิชิตาถูกเปลี่ยนทันทีพร้อมๆกับการคุกคามของฝ่ายตรงข้ามที่ทำท่าว่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกายจนอารัทธ์ต้องเข้ามาแทรกกลางเพื่อห้ามปรามพร้อมกับปกป้องผู้หญิงอีกคนที่ชายหนุ่มเลือกแล้วซึ่งก็คือ...นิชิตา
“ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะเชอรี่ กลับไปก่อน” อารัทธ์บอกเสียงต่ำ แม้จะเลิกติดต่อกับนางแบบสาวคนนี้ไปนานแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายยังพยายามติดต่อขอสายความสัมพันธ์อยู่เรื่อยมา และครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้เขาจะกำชับจากทางรีสอร์ทแล้วว่าห้ามบอกใครทั้งนั้นว่าเขาพักห้องไหนแต่คนอย่างเชอรี่คงหาทางง้างปากพนักงานที่นี่ได้ไม่ยาก
“เชอรี่ไม่กลับ! คืนนี้ถ้าอาร์ทไม่อยู่กับเชอรี่ นังหน้าจืดนี่ก็จะไม่ได้อาร์ทไปเหมือนกัน!!”
คำประกาศกร้าวของเชอรี่ทำเอาอารัทธ์ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เพิ่งรู้ซึ้งถึงคำเตือนของชิษวัศเอาก็ตอนนี้ ที่เคยบอกเขาว่าเวลาจะเลือกคบใครให้ดูถึงความคิดและสภาวะทางอารมณ์ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ความสวยเข้าว่าอย่างเดียว
ส่วนนิชิตาที่ไม่อยากจะเข้าไปร่วมวงกับ ‘ศึกชิงนาย’ ก็ก้าวมาด้านหน้าของอารัทธ์เพื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แม้ใจจริงหญิงสาวจะไม่พอใจอยู่มากที่ถูกเรียกด้วยสรรพนามไม่เป็นมิตรอย่างนั้น แต่ลึกๆก็เข้าใจและอดสงสารสาวนามเชอรี่ไม่ได้ คงเพราะหล่อนรักอารัทธ์มากจึงแสดงกิริยาเช่นนี้ ถ้าจะผิดก็ต้องผิดที่อารัทธ์ที่คิดกับหล่อนเพียงแค่เล่นๆไม่ได้จริงจัง
“ที่ฉันพูดไปเมื่อครู่ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะกวนโมโหคุณ ส่วนผู้ชายคนนี้ฉันยังยืนยันคำเดิมว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ไม่ใช่คู่ควง คู่ขา กิ๊ก หรือว่าแฟน คุณวางใจได้ ฉันไม่เข้าไปร่วมวงแย่งเขากับคุณแน่ ถ้าคุณจะเอาคนของคุณคืนก็เชิญค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”
คำปฏิเสธของนิชิตาทำให้อารัทธ์มองไปที่สาวร่างเล็กด้วยความน้อยใจ เป็นครั้งแรกที่คนอย่างอารัทธ์รู้สึกน้อยใจกับคำปฏิเสธของเธอคนนี้ แม้หลายครั้งหลายคราเขาจะได้รับคำปฏิเสธมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ชายหนุ่มจะรู้สึกน้อยใจและเสียใจขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เขาไปกับผู้หญิงอีกคน เธอก็คงไม่สนใจหรือใส่ใจอะไรเลยใช่ไหม
“คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธอเหรอ” นางแบบสาวหยันเสียงสูง ดวงตาเรียวสวยมองมายังคนที่หล่อนคิดว่าขี้ริ้วขี้เหร่ อย่างสบประมาท
“คนอย่างฉันไม่เคยผิดคำพูดของตัวเอง ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของฉัน”
“ผมไม่ใช่สิ่งของที่คุณคิดจะโยนให้ใครก็ให้ได้นะคุณนิชิตา”
หนึ่งบุรุษที่ยืนนิ่งฟังการสนทนาระหว่างสองสาวเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเสียไม่ได้เมื่อถูกคนที่รักผลักไสไล่ส่งอย่างไม่คิดถึงหัวอกกันอย่างนี้
“ถึงคุณจะไม่รักผม คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะยกผมหรือไล่ผมไปกับผู้หญิงคนอื่น”
นิชิตาหันมาสบกับดวงตาคู่เรียวเล็กของอารัทธ์อย่างไม่เกรงกลัว หญิงสาวจับอารมณ์โกรธกรุ่นจากน้ำเสียงนั้นได้ เธอรู้ว่าเขาไม่พอใจในคำพูดของเธอ และรู้...ว่าคำพูดนั้นทำร้ายจิตใจของเขาไม่น้อย แต่เธอไม่อยากที่จะตกอยู่ในวังวนเช่นนี้ ต้องคอยผจญกับผู้หญิงของเขา เธออยากได้ชีวิตที่สงบสุขของเธอกลับมา ชีวิตที่ไม่เคยมีผู้ชายที่ชื่อว่าอารัทธ์
“งั้นคุณก็ออกไปจากชีวิตฉันซะสิ ฉันจะได้ไม่ต้องไล่หรือยกคุณให้กับคนอื่น”
“ไม่ครับ ผมเดินเข้ามาในชีวิตคุณแล้ว ไม่มีวันที่จะหันหลังเดินไปจากคุณแน่ ต่อให้คุณไม่เต็มใจก็ตาม”
“อาร์ท!!!”
นางแบบสาวเรียกชื่อคนที่เธอหลงหัวปักหัวปำเสียงสูงซึ่งแฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะเพิ่งได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่บอกชี้ชัดว่าเขานั้นได้เลือกใครซึ่งผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอ
“อาร์ทจะเลือกมันใช่ไหม เชอรี่ไม่ยอม! อาร์ทเป็นของเชอรี่ เชอรี่ไม่ยอมยกให้ใครทั้งนั้น!!”
“เลิกบ้าได้แล้วน่ะเชอรี่!!” อารัทธ์ตวาดเสียงดังใส่คนที่ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล น้ำเสียงนั้นดังมากขนาดนิชิตาที่ยืนอยู่ด้วยยังตกใจ
“อาร์ท...อาร์ทตวาดเชอรี่...” น้ำตาหนึ่งหยดไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยก่อนที่เหลือจะไหลออกมาเป็นสาย
“ผมพูดชัดแล้วนะเชอรี่ ผมกับคุณเราไม่มีอะไรกันแล้ว ไม่ว่าแต่ก่อนผมกับคุณจะเคยคบกันยังไงก็ตาม แต่เท่าที่ผมจำได้ผมไม่เคยเรียกคุณว่าแฟน ต่างคนต่างมีอิสระ ไม่มีอะไรผูกมัด”
“แต่เชอรี่รักอาร์ท”
“แต่ผมไม่ได้รักคุณ” อารัทธ์สวนออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ และคำปฏิเสธนั้นก็ยิ่งทำให้คนที่ร้องไห้อยู่แล้วยิ่งร้องหนักจนนิชิตาอดไม่ได้ที่จะขอพูดบ้าง
“คุณมันเห็นแก่ตัวที่สุดเลยคุณอารัทธ์” คิ้วโค้งสวยบนดวงตาชั้นเรียวขมวดชิดอย่างไม่พอใจกับคำปฏิเสธของอารัทธ์ แม้นางแบบที่ชื่อเชอรี่อะไรนั่นจะไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่ พูดง่ายๆคือเกลียดขี้หน้ากันด้วยซ้ำ แต่ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันเธอรู้สึกว่าอารัทธ์เห็นแก่ตัวเกินไป ไม่มีความรับผิดชอบเกินไป ที่สำคัญ...เขาเลือดเย็นเกินไป...จนเธอเริ่มกลัว
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณ” อารัทธ์บอกห้าม ชายหนุ่มเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามในความเป็นส่วนตัวแม้คนๆนั้นจะเป็นคนที่ตัวเองรักก็ตาม
“อ้อ...” นิชิตาย้อนเสียงสูง “จะบอกให้ฉันอยู่เฉยๆ อย่าเสนอตัวเข้าไปยุ่งอย่างนั้นใช่ไหม”
“คุณอาจารย์...” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มประชด อารัทธ์จึงยอมลงให้โดยเรียกนิชิตาเสียงอ่อน “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“แต่ฉันคิดว่าคุณหมายความอย่างนั้น” นิชิตาเชิดหน้าขึ้น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“เดี๋ยวเราค่อยคุยกันได้ไหม”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุย เชิญคุณเคลียร์กับผู้หญิงของคุณต่อเถอะ จะไปคุยกันทั้งคืนไม่ต้องกลับมาก็ดีนะคะ ฉันจะขอบคุณมาก” บอกอารัทธ์ก่อนจะหันมาทางผู้หญิงอีกคน
“เอาผู้ชายของคุณไปเลยนะคะคุณเชอรี่ ถ้าจะกรุณาก็ช่วยเก็บไว้ดีๆอย่าให้มายุ่งกับชีวิตฉันอีก ฉันไม่ต้องการ” พูดจบก็เดินเข้าห้องพัก ล็อคประตูโดยกุญแจห้องก็ตกอยู่ในการครอบครองของตัวเอง ไม่สนใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายนอก ไม่สนใจเสียงเคาะประตูที่ดังรัวตั้งแต่เธอเข้าห้องมา
“คุณอาจารย์! เปิดประตูให้ผมหน่อย เรามีเรื่องต้องคุยกัน คุณอาจารย์!”
“ฉันคงไม่กล้าอาจเอื้อมไปรบกวนเวลาของคุณกับคุณเชอรี่หรอกนะคะ”
ถ้อยคำประชดประชันของคนในห้องทำเอาอารัทธ์พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
“เลิกประชดผมแล้วเปิดประตูให้ก่อนได้ไหม”
“อาร์ทขา...เขาไล่แล้วอาร์ทจะไปสนใจทำไมคะ มาห้องเชอรี่ดีกว่านะคะอาร์ท” นางแบบสาวที่ร้องไห้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือดเมื่อครู่หลงเหลือไว้เพียงแค่รอยน้ำตาเมื่อศัตรูหัวใจยอมถอยทัพ
อารัทธ์ถอนหายใจอีกที ทำไมเวลาที่เจอกับคนที่คิดจะฝากอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตไว้กับเธอหากก็ต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆนานา แต่ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาหรืออับจนหนทางขนาดไหนชายหนุ่มก็ไม่คิดจะยอมแพ้เพราะเขาสาบานกับตัวเองไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องชนะใจอาจารย์สาวหน้าหมวยให้ได้ หัวใจดวงนั้นเขาต้องได้มันมาโดยที่เธอเองก็เต็มใจเช่นกัน
“ก็ได้เชอรี่ ผมจะไปกับคุณ” อารัทธ์จงใจพูดให้คนที่อยู่ในห้องได้ยิน ได้คิดอะไรเลยเถิดไปเอง แม้ความจริงจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ตาม เพราะที่ชายหนุ่มยอมไปก็เพื่อจัดการเรื่องราวระหว่างตนเองและอดีตคู่ควงให้จบลง
ฝ่ายนิชิตานั้นได้ยินทุกคำพูดของอารัทธ์ชัดเจน บทสนทนาและเสียงฝีเท้าของคนทั้งคู่ค่อยๆเดินห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียง ร่างเล็กบางทรุดลงนั่งบนเตียง ดวงตาเรียวเล็กใต้กรอบแว่นสายตามองไปยังบานประตูที่ถูกล็อคกลอนอย่างดีด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ...มันเหมือนคนที่เธอคุ้นเคยกำลังเดินออกไปจากชีวิตและจะไม่หันหลังย้อนกลับมา
...จะรู้สึกอย่างนี้ทำไมหมูหวาน ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนคุ้นเคยและจะไม่มีวันใช่ เขาก็แค่คนแปลกหน้าที่อยากจะเอาชนะเธอ...แค่นั้น...
หญิงสาวปฏิเสธเสียงดังในใจก่อนจะลุกพรวดและเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน บางทีน้ำเย็นๆอาจทำให้เธอเลิกติดฟุ้งซ่านได้บ้าง นิชิตาใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็ออกจากห้องน้ำมาในชุดนอนเสื้อกับกางเกงขาสี่ส่วนสีเขียวอ่อนเข้าชุด ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกวางแปะไว้บนศีรษะเพื่อซับผมเส้นเล็กที่ยังหมาดไปด้วยหยดน้ำก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือไปเปิดผ้าม่านผืนยาวเพื่อดูวิวทะเลยามค่ำคืน
“กรี๊ดดดดดดด!!” เสียงร้องเพราะตกใจกับขาที่ก้าวถอยหลังไปสองก้าวจนเกือบจะสะดุดขาตัวเองล้มคะมำเริ่มจะมั่นคงเมื่อเจ้าตัวตั้งสติได้หากหัวใจก็ยังเต้นรัวไม่หยุดเมื่อดวงตาทั้งสองข้างมองเห็นร่างๆหนึ่งทาบหน้าลงมากับกระจกของประตูที่เปิดสู่ระเบียงราวกับจิ้งจกที่เกาะอยู่บนผนังก็ไม่ปาน
“คะ...คุณอารัทธ์!!”
---------------------------------------------------------------------------------------------
ตัดจบอย่างนี้มีใครโกรธปอแก้วไหมคะ อิอิอิ ถึงประตูจะโดนล็อคแต่ห้องก็ยังมีระเบียง แน่นอนว่า...พี่อาร์ทไม่ยอมแพ้ ฮา...
ตอนหน้ามาดูพี่อาร์ทง้อคุณอาจารย์กันนะคะ ว่าบทจะหวาน...พี่อาร์ทหวานและระบายความรู้สึกในใจยังไง :))
ปล. ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ตอนที่แล้วนะคะ ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นและคุยกัน ขอบคุณมากเลยค่ะ ^____^
ตอบเมนท์ค่ะ...
Auuuu : นั่นสิคะ กล้าๆหน่อยพี่อาร์ม // ปล. คิดถึงนะคะคุณ Auuuu อิอิ
nunoi : แค่ก้าวขายื่นมืออกไปมันยากแค่ไหนกันเชียวใช่ไหมคะ มาตามดูกันต่อดีกว่าเนอะ
roseolar : เป็นผู้ชายที่น่าขัดใจจริงๆใช่ไหมคะ คอยเบรกตัวเองตลอดๆ สู้พี่อาร์ทไม่ได้ เดินหน้าเต็มกำลังไม่ว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม ฮ่าๆ แต่อย่าเพิ่งเซ็งพี่อาร์มนะค้าาาา ให้โอกาสเค้าหน่อยน้าาาา
ลิขิตรา : ดีใจมากๆเลยค่ะที่คุณไอซ์มาเม้นท์ให้ :) เห็นด้วยค่ะที่ผู้หญิงไม่มากจะเป็นอย่างนี้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าหมูมุกรักพี่อาร์มมากๆนั่นเอง จะรักก็รักสิเนอะ กล้าๆหน่อยใช่ไหมคะ :) แต่อย่าโกรธพี่อาร์มนานนะคะ สงสารพ่อพระเอกเขาหน่อย มีแต่คนโมโหใส่ทุกตอนเลย ^^"
pattisa : ถึงวันนั้นจะสมน้ำหน้าพี่อาร์มใช่ไหมคะ อิอิ วิ่งหนีความรักของหนูมุกดีนัก
mookisme : จะตัดใจจริงๆเหรอคะ อิอิ แน่ใจน้าาาา
teesaparn : ตอนนี้พี่อาร์มคงพอรู้ตัวแล้วล่ะค่ะว่าถ้ายังทำอย่างนี้จะโดนคนอ่านโกรธแล้วนะ :)
anOO : ใจร้ายจริงๆด้วยค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองก็ชอบเขามากขนาดนี้ ถ้าวันไหนหนูมุกมีคนอื่นมาชอบ พี่อาร์มจะเริ่มรู้สึก แล้วพี่อาร์มก็ต้องเป็นฝ่ายที่จะต้องเดินตามหนูมุกบ้างค่ะ!
Amata : หาไม่ได้น่ะสิคะ ช่างไม่รู้เลยว่าตัวเองโชคดีขนาดไหน พี่อาร์มนะพี่อาร์ม
violette : พี่อาร์มใกล้จะตบะแตกเต็มทนแล้วค่ะ ฮ่าๆ ส่วนพี่อาร์ท...ปอแก้วจัดให้สองตอนเลยค่ะ ถึงตอนนี้คุณ violette สงสารพี่อาร์ทหรือยังคะ รถไฟชนกันเต็มๆเลย ><
WallyValent : เราขอแนะนำว่าให้เธอไปเคลียร์กับหนูมุกเองนะ ว่าเค้าจะยอมยกให้หรือเปล่า เพราะหนูมุกเค้าก็รอมานานเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ม.ค. 2555, 16:32:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ม.ค. 2555, 22:52:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 1904
<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 12 | เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 14 >> |

mookisme 27 ม.ค. 2555, 17:13:41 น.
ขอเจิมไว้ก่อน :)
ขอเจิมไว้ก่อน :)

violette 27 ม.ค. 2555, 17:59:20 น.
5555 ไม่สงสารค่ะ ออกแนวฮามากกว่า ช่วยไม่ได้นะนี่ กรรมตามสนอง
แอบฮาค่ะเปรียบเทียบพระรองเป็นจิ้งจกเลยหรือคะ
5555 ไม่สงสารค่ะ ออกแนวฮามากกว่า ช่วยไม่ได้นะนี่ กรรมตามสนอง
แอบฮาค่ะเปรียบเทียบพระรองเป็นจิ้งจกเลยหรือคะ

ปรางขวัญ 27 ม.ค. 2555, 18:24:04 น.
หง่ะ นายอารัทธ์ทำไปได้ เดี่ยวได้กลายร่างเป็นจิ้งจกแน่ๆถ้าหมูหวานเอาคืน อิอิ
ชอบค่ะไรเตอร์ รอตอนหน้าอย่างใจจดจ่อ
หง่ะ นายอารัทธ์ทำไปได้ เดี่ยวได้กลายร่างเป็นจิ้งจกแน่ๆถ้าหมูหวานเอาคืน อิอิ
ชอบค่ะไรเตอร์ รอตอนหน้าอย่างใจจดจ่อ

anOO 27 ม.ค. 2555, 18:24:34 น.
เป็นใครก็คงกรี๊ดเสียงหลงแบบนี้ทั้งนั้น ยืนรออยู่ข้างนอกเฉยๆ ก็น่าตกใจพอแล้ว
นี่ยังเอาหน้าไปแปะไว้ที่กระจกอีก คงน่าเกลียดพิลึก
เป็นใครก็คงกรี๊ดเสียงหลงแบบนี้ทั้งนั้น ยืนรออยู่ข้างนอกเฉยๆ ก็น่าตกใจพอแล้ว
นี่ยังเอาหน้าไปแปะไว้ที่กระจกอีก คงน่าเกลียดพิลึก

ปอยอะนะ 27 ม.ค. 2555, 18:40:50 น.
555 ทำไปได้นะ
555 ทำไปได้นะ

nunoi 28 ม.ค. 2555, 12:14:06 น.
อ้าว สุดหล่อไหงกลายเป็นจิ้งจกไปซะได้
อ้าว สุดหล่อไหงกลายเป็นจิ้งจกไปซะได้

WallyValent 29 ม.ค. 2555, 09:49:29 น.
จิ้งจกO.O 555+
ว่าจะเปลี่ยนใจไปหาพี่อาร์ท แต่ตอนนี้ฉันยังยืนยันที่จะแย่งพี่อาร์มเหมือนเดิม xD (เปิดสงคราม 55)
จิ้งจกO.O 555+
ว่าจะเปลี่ยนใจไปหาพี่อาร์ท แต่ตอนนี้ฉันยังยืนยันที่จะแย่งพี่อาร์มเหมือนเดิม xD (เปิดสงคราม 55)

teesaparn 30 ม.ค. 2555, 11:45:11 น.
หมั่นไส้...เฉอะ
หมั่นไส้...เฉอะ

Amata 2 ก.พ. 2555, 14:42:55 น.
ตอนนี้แปลงร่างเป็นหลายอย่าง เดี๋ยวเป็นพ่อสื่อ เดี๋ยวเป็นจิ้งจก!
ตอนนี้แปลงร่างเป็นหลายอย่าง เดี๋ยวเป็นพ่อสื่อ เดี๋ยวเป็นจิ้งจก!