Missing Love
(ภาคต่อของพาย) เมื่อเขาทำรักหายไปจนมาเจอเธอ และเธอตั้งใจพลาดความรักเพื่อความสำเร็จ แล้วเขาจะทำให้เธอหันมาสนใจความรักได้อย่างไร
Tags: พาย แจ็คลีน

ตอน: ML009

Missing Love ตอนที่ 9

เช้าวันใหม่ทำให้คนตื่นขึ้นสดใส ทรงธรรมลืมตาในห้องนอนหรู ที่มีการตกแต่งแบบยุควิคตอเรียน เขากำลังนอนบนเตียงสี่เสาที่มีม่านในตัว และเขาตื่นเพราะเสียงเปิดประตูและกลิ่นหอมของอาหารเช้า ที่คนรับใช้นำมาเสริฟไว้ โดยไม่สนใจว่าคนในห้องจะตื่นขึ้นหรือไม่

หากเพราะเมื่อวานทุกอย่างแลดูสับสน เฮนริคจึงสั่งคนรับใช้ให้เตรียมอาหารเช้าไว้ที่โต๊ะในห้องทุกห้องที่มีแขกแทน เพราะสุดจะคาดเดาว่าแต่ละคนจะตื่นตอนกี่โมงกันแน่

ทรงธรรมแหวกม่านทึบของเตียงออก เห็นคนรับใช้ชายผมสีทองก็มองอย่างสงสัย ก่อนจะถามเป็นภาษาอังกฤษ “อรุณสวัสดิ์ มีใครตื่นแล้วบ้างครับ”

“อรุณสวัสดิ์ มองซิเออร์อภินันท์ เช้านี้นอกจากคุณแจ็คลีนกับนายท่านธีโอฟาสเต้ ยังไม่มีท่านอื่นตื่นครับ เชิญรับอาหารเช้านะครับ ขอตัวก่อน” คนรับใช้ชายที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีขอตัว และออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว จนทรงธรรมถามไม่ทัน

แล้วนี่เขาต้องทำอะไรต่อไป...เขาครุ่นคิดก่อนโทรหาอรัญ แม้จะบอกไปแล้วว่าเขาจะค้างที่นี่ก็ตาม “อ๋อ อรัญ สายค่อยมารับ แล้วไปสนามบินเลยใช่ไหม”

“ครับท่าน” อรัญตอบกลับมา

ทรงธรรมรับทราบอีกสองสามอย่าง ก่อนจะครุ่นคิดถึงปัญหาที่รอเขาไปแก้ ตอนแรกเขาคิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับเพราะมีปัญหาในงาน และพ่อเขาก็สร้างปัญหาไว้รอเขาแก้อีกด้วย

เขามองอาหารเช้าแล้วก็นึกยิ้ม เพราะไม่คิดว่าคฤหาสน์หรูแห่งนี้จะน่าอยู่ไม่แพ้โรงแรมชั้นหนึ่งเลยทีเดียว ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตู และมีคนเดินเข้ามา

“ขอประทานโทษครับ ผมนำเสื้อผ้าของท่านไปซักแล้วนำมาให้ครับ” คนรับใช้พูดก่อนนำไปจัดวางที่ห้องแต่งตัวซึ่งติดกับห้องน้ำ ก่อนจะเดินออกมา “ท่านต้องการให้ผมเตรียมน้ำอุ่นสำหรับอาบน้ำให้หรือยังครับ”

“ยังครับ” ทรงธรรมตอบและโล่งใจที่คนบ้านนี้ยอมพูดภาษาอังกฤษกับเขา

“ถ้าต้องการเรียกใช้ผม กรุณากดกริ่งตรงหัวเตียง แล้วผมจะเข้ามาเตรียมน้ำสำหรับอาบให้นะครับ” คนรับใช้บอกก่อนขอตัวออกไปจากห้อง

“เดี๋ยวครับ คือว่ามีชุดลำลองให้ผมใส่สำหรับเดินเล่นได้ไหมครับ” ทรงธรรมถามขึ้น เพราะเขาไม่อยากอยู่เฉยๆ ในห้อง

“ชุดลำลองมีอยู่ในห้องแต่งตัวแล้วครับ มีชุดสำหรับเล่นกีฬา หรือชุดว่ายน้ำด้วยครับ เชิญท่านตามสบาย หากต้องการอะไร ทุกห้องจะมีกริ่งซ่อนอยู่ใต้ฝาครอบรูปเทวดาน้อย แบบนี้นะครับ ขอตัวครับ” คนรับใช้ตอบแล้วเดินออกไปจากห้องทันที

ทรงธรรมก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง เพราะกำลังอยากจะถามว่าแจ็คลีนอยู่ที่ไหน เพื่อจะคุยกับเธออีกนิด แต่คิดไปคิดมาก็คงดูไม่ดี ถ้าถามถึงเด็กสาวอายุไม่ถึงสิบแปด และเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านอีกด้วย

เขาเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเดินเล่น เขาสัมผัสได้ถึงความสงบเงียบ และสายลมสดชื่นในยามเช้า ทั้งที่บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในกรุงปารีส เมืองที่มีคนมากมาย

เขาได้ยินเสียงคนกำลังนั่งกดอะไรเล่นอยู่ และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นเธอนั่งอยู่ในสวนดอกไม้ และกำลังกดคอมพิวเตอร์ในมืออยู่อย่างชำนาญ เหมือนเด็กสมัยนี้ที่กำลังแชทผ่านมือถืออย่างไรอย่างนั้น

“ตื่นแล้วเหรอคะ” แจ็คลีนมองเขาอย่างประหลาดใจ เพราะนอกจากเธอกับปู่ยังไม่มีใครตื่น และปู่เธอก็เพิ่งกลับไป และที่ค้างที่นี่เพราะไม่อยากให้พ่อบ้านโรเบิร์ตที่อายุมากแล้วขับรถกลางดึก

“ครับ ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ นั่งด้วยได้ไหม” ทรงธรรมถามเธอที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ซึ่งมีชากับของว่าง แม้เธอไม่แตะต้องก็ตาม

“ตามสบายค่ะ ทานอาหารว่างไหมคะ ชาหรือกาแฟดีคะ” แจ็คลีนถามขึ้นขณะเปลี่ยนอิริยาบถ กิริยาท่าทางของเธอดูยังไงเขาก็ไม่รู้สึกเบื่อ เพราะเธอว่าท่าทางได้อย่างเหมาะสมเสมอ

“ผมเพิ่งทานอาหารเช้ามาครับ กาแฟน่าจะดีกว่า รู้สึกเหมือนพักอยู่โรงแรมชั้นเลิศเลย ผมชื่นชมนะครับ” ทรงธรรมเห็นเธอมองเฉยๆ ก็รีบพูด

“มีคนที่เคยมาพักที่นี่บอกเยอะค่ะ แต่โดยมากคุณพ่อไม่ค่อยให้ใครมาพัก ยกเว้นแต่เพื่อนสนิทๆ คุณพ่อไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในบ้านค่ะ ท่านชอบความสงบ” แจ็คลีนอธิบาย ก่อนจะกดตอบข้อความ

“เดี๋ยวคนของผมจะเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนที่นี่เลยนะครับ ผมก็ตั้งใจจะขึ้นเครื่องกลับวันนี้ เพราะมีปัญหาเรื่องงานด้วยครับ” ทรงธรรมพยายามสนทนากับเธอให้มาก ดีกว่าปล่อยให้เธอแชทจนลืมว่าเขาอยู่ตรงนี้

แจ็คลีนเงยหน้าขึ้น ก่อนพยักหน้าช้าๆ พร้อมพูดตามมารยาท “เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะคะ หวังว่าปัญหาคุณจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี”

เขาเห็นเธอตอบตามมารยาท ก็ได้แต่ดื่มกาแฟอย่างเงียบๆ

แจ็คลีนตอบแชทอีกพักก็มองไปรอบๆ ก่อนจะถาม “คุณจะกลับกี่โมงคะ”

“สิบเอ็ดโมง คนของผมจะมาที่นี่ แล้วก็จะขึ้นเครื่องช่วงบ่ายนะครับ” ทรงธรรมตอบ

“งั้นคุณก็ว่าง ไปเล่นเทนนิสกันไหมคะ ฉันเสร็จธุระแล้วล่ะค่ะ” แจ็คลีนถามเขา และเมื่อเขาตอบรับ เธอก็ใช้เวลาช่วงเช้าและช่วงสายกับการเล่นเทนนิสกับเขา

ถึงเขาจะเล่นได้ไม่ถนัดเท่าเธอ เขาก็ยังพยายามเล่น จนกระทั่งได้เวลาที่เขาต้องเตรียมตัวกลับ เธอบอกลาเขาอย่างเรียบง่าย แม้พี่ชายจะลงมาแล้วก็ตาม

ทรงธรรมออกจากบ้านเธอ และเห็นการต้อนรับแบบสุดยอดของคนในบ้าน ถึงแม้เขาจะไม่ได้ลาเจ้าของบ้านโดยตรง เพราะลูกสาวเจ้าของบ้านบอกว่า พ่อแม่จะไม่ตื่นหลังเที่ยงแน่นอน เขาจึงต้องกลับไปก่อน

แจ็คลีนรู้ดีว่า เมื่อคืนพ่อแม่คงสนุกกันนานทีเดียวหลังเลิกปาร์ตี้ จึงบอกลาแขกแทนพ่อแม่ เพราะคงยากจะปลุกให้ตื่นได้ และทั้งสองคงนอนกอดกันอย่างสงบสุขด้วยความรัก

****************************************


เมื่อถึงสนามบินทรงธรรมก็รอเวลาขึ้นเครื่อง และพบว่าเขาได้เจอคนไทยที่ไม่ควรจะเจอ ความบังเอิญเกินไปทำให้เขาต้องหันไปมองคนสนิทเขาเป็นเชิงถาม

“ผมไม่ทราบเรื่องที่เธอมาที่นี่จริงๆ ครับ” อรัญก็แปลกใจไม่แพ้เจ้านาย เพราะรู้ว่าหญิงสาวพยายามติดต่อเจ้านายเขามาหลายเดือนแล้ว แต่เจ้านายเขาไม่เคยคิดอยากให้เจอเลยแม้แต่น้อย

“ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่นะ ฉันกำลังจะกลับเมืองไทยพอดีเลย” หญิงสาวบอกทั้งที่เขาไม่คิดจะถาม

เขาฟังเที่ยวบินก็รู้ว่าเที่ยวบินเดียวกัน ก่อนเขาจะทักทาย “สวัสดี ผมขอตัวก่อนนะ”

โชคดีที่ของเขาเป็นชั้นธุรกิจ ซึ่งแตกต่างจากเธอที่เป็นชั้นธรรมดา ก่อนเขาจะเห็นเด็กหญิงที่เข้ามาเกาะขาเธอ

“แม่ขา หนูอยากทานขนมค่ะ” เด็กหญิงวัยสามขวบเข้ามาเกาะขาเธอ เพื่อขอให้แม่ซื้อขนมให้ทาน

“เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ” แก้วกินรีบอกลูกสาว ก่อนจะอุ้มเอาไว้ แล้วคุยกับเขา “เดี๋ยวก่อนสิคะ ธรรม หรือเดี๋ยวนี้เธอไม่อยากคุยกับแก้วแล้ว”

ทรงธรรมมองเด็กหญิงนัยน์ตากับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน ก่อนจะมองเธออย่างเฉยชา “ผมไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรต้องคุยกับคุณอีก นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่ได้ติดต่อคุณกลับ ผมขอตัว”

เขาหลีกเลี่ยงอดีตคนเคยรัก เพราะไม่อยากให้เธอหลงคิดว่ายังมีถ่านไฟให้เขี่ยอีก เขาจบเมื่อทุกอย่างจบ

“ฉันได้คุยกับป้าเนียรแล้วนะ แล้วพอดีฉันพาลิซซี่มาเยี่ยมชาร์ลค่ะ ก็เลยแวะมาเที่ยวปารีส พอดีฉันโทรไปที่บ้านเธอ ป้าเนียรบอกว่าเธอมาเที่ยวยุโรป และมักจะแวะที่ปารีสเสมอ” แก้วกินรีพูดอย่างมีความหมาย

“เหรอ แต่ฉันว่าเธอควรพาลูกไปซื้อขนมเสียนะ ขอตัวก่อน” ทรงธรรมพูดด้วยนำเสียงราบเรียบ

เขาไม่ได้ใส่ใจนักกับอดีตคนเคยรัก ถึงอย่างไรเธอก็แต่งงานและมีลูกสาวอยู่แล้ว ซึ่งแม้ว่าเธอจะหย่าจากสามีชาวอังกฤษไปแล้วก็ตาม ก็ไม่ใช่ธุระของเขาที่จะไปวุ่นวายด้วย

“ธรรมคะ เราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้เชียวเหรอคะ” แก้วกินรีพยายามอ้อนวอนเพื่อให้เขาอภัย

“ผมไม่คิดว่าจะเป็นได้” ทรงธรรมพูดชัดเจน ก่อนหันหลังแล้วเดินออกจากตรงนั้น

“มัมมี๊ร้องไห้ทำไมคะ” เสียงเด็กหญิงถามแม่ แล้วยกมือขึ้นลูบหน้าแม่เบาๆ “อย่าร้องนะคะ โอ๋ๆๆ”

ทรงธรรมหยุดแล้วหันไปมอง เห็นเธอก้มหน้าซบไหล่เล็กๆ ของลูกสาวก็ได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นก็ถามขึ้น “พาลูกเธอไปทานขนมกับฉันก็ได้นะ”

อรัญนึกสยองขึ้นมาในทันที และรู้ว่าต้องคอยระวังแทนเจ้านาย เพราะความหลังครั้งเก่า คงยากจะทำให้เจ้านายเขาใจร้ายกับคนเคยรักได้ง่ายๆ

แก้วกินรีแอบยิ้ม เมื่อเห็นเขาใจอ่อนกับลูกสาวเธอ ความหวังที่จะกลับมาสานรักให้คืนกลับดังเดิม เริ่มมีหวังขึ้นอีกครั้ง

ใช่...เธอพลาดที่ทิ้งเขายามเขาลำบาก แต่ตอนนี้เธอก็โดนกรรมตามสนอง เพราะสามีเก่าไม่ต้องการเธออีก แม้จะยังส่งเสียเธอกับลูก แต่เธอก็โหยหาความรัก

ทรงธรรมมองเด็กหญิงทานขนมราคาแพงที่เขาพามา แล้วยังพูดคุยกับเด็กหญิงบ้าง

“ธรรมดูเข้ากับเด็กได้ดีผิดคาดนะคะ แถมยังรู้จักขนมเยอะแยะเลยค่ะ” แก้วกินรีถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสและโล่งใจมากกว่าเดิม

ทรงธรรมเงยหน้าขึ้นสบตาเธออย่างเย็นชา ก่อนพูดขึ้น “ผู้หญิงคนหนึ่งพาผมไปทานขนมบ่อยๆ จากที่ไม่ชอบก็ต้องชอบล่ะ เธอคนนั้นทานขนมเก่งน่ะ แล้วขนมฝรั่งเศสก็มีหลายแบบ เธอช่วยผมแนะนำขนมที่จะถูกปาก เธอยังพาผมไปร้านอาหาร เลือกน้ำหอม แล้วก็อะไรอีกมากนัก”

แก้วกินรีถึงกับนิ่งอึ้งไปในทันที เพราะในตอนท้ายเขาพูดขณะมองไปที่ขนม แล้วยิ้มนิดๆ อย่างอ่อนโยนเมื่อพูดถึงผู้หญิงอีกคน เธอรู้ในทันที เพราะเขาก็เคยมีแววตาแบบนี้ให้เธอ

ถ้าเธออยู่ใกล้เขาเพียงพอ...บางทีความรู้สึกต่างๆ อาจกลับคืนมาได้

****************************************


เวลาผ่านไป...

ชายหนุ่มโดนสะกิดขณะหลับอย่างมีความสุขบนเตียงนอนของตัวเอง แม้อากาศจะร้อนไปบ้าง แต่เขาก็คุ้นเคยกับอากาศแบบนี้ หากพอโดนซุกกอดเข้าจริงๆ เขาก็ตกใจตื่น แล้วถอยห่างทันที

“อะไรกัน!” ทรงธรรมมองหญิงสาวบนเตียงอย่างงุนงง ก่อนได้สติ “คุณเข้ามาในห้องผม แล้วทำแบบนี้ได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

“เอ่อ ป้าเนียรบอกว่าคุณยังหลับอยู่ค่ะ ฉันคิดว่าไม่เป็นไรถ้าจะมาปลุกคุณ” แก้วกินรีพูดคล้ายรู้สึกผิด แต่แท้ที่จริงจงใจอย่างยิ่งเลยทีเดียว

“ออกไป!” เขาออกคำสั่งเฉียบขาด และเมื่อไม่เห็นเธอขยับ ก็เดินไปยังอีกฝังของเตียงแล้วลากเธอออกไปจากห้อง ก่อนจะปิดห้องแล้วล็อกห้อง จากนั้นก็จัดการกับตัวเองจนเรียบร้อย แล้วเดินลงไปยังห้องอาหาร เพราะเขาหิวมากแม้จะสายมากแล้วก็ตาม

“มีอะไรทานบ้างครับ” เขาถามกับแม่บ้านอีกคน ราวกับสิ่งที่เกิดไม่เคยเกิดขึ้น และเห็นเธอโผล่หน้าเข้ามาในห้องอาหาร นั่นยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสีย “ผมคงพูดไม่ชัด ผมบอกให้คุณออกไปจากบ้านผม และก็หมายถึงอาณาเขตของบ้านผมด้วย”

ยุพาได้ยินหลานชายส่งเสียงดัง ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมจำเนียร ก่อนจะถาม “มีอะไรเหรอ ธรรม”

สักพักลิซซี่เดินเข้ามาหาแม่ ก่อนจะกอดแขนแม่เอาไว้

“นี่อีกแล้ว ลูกเธอไม่มีโรงเรียนให้ไปหรือไง ต้องลากกันมาที่นี่อยู่เรื่อย ป้าเนียร ถ้าทำหน้าที่แม่บ้านไม่ได้ล่ะก็ ผมอนุญาตให้กลับไปอยู่กับญาติได้เลยนะ อรัญ ส่งแขกแล้วก็ห้ามเข้ามาในปางไม้อีกเป็นอันขาด แล้วก็หาคนไปส่งป้าจำเนียรที่บ้านด้วย จ่ายเงินค่าชดเชยให้ แล้วไม่ต้องให้กลับมาทำงานที่นี่อีก” ทรงธรรมอดทนมาปีกว่าแล้วก็ถึงขีดสุด เมื่อแก้วกินรีสามารถบุกเข้าไปในห้องนอนเขาได้

“พ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงจะไล่ข้าเจ้าหรือคะ ข้าเจ้าทำงานรับใช้บ้านนี้มาหลายปีแล้วนะเจ้า ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายเลยนะเจ้า” จำเนียรเป็นอึ้งที่เจ้านายสั่งไล่เธอออก

“ไล่สิ ทำตัวไม่ถูกไม่ควร ต่อให้ทำงานที่นี่มานาน แต่สาระแนเรื่องเจ้านายก็ต้องไล่ออก อรัญยืนทำอะไรอยู่ สั่งให้คนไปเก็บข้าวของของป้าจำเนียรแล้วพาไปส่งบ้านเลย อย่าให้กลับมาทำงานที่นี่อีก” ทรงธรรมพูดชัดเจนเสียจนคนอื่นไม่กล้าพูดอะไร

“ย่าขอได้ไหม จำเนียรทำงานกับย่ามานาน ดูแลย่ามาอย่างดี อีกอย่างเขายังดูแลหลานมาตั้งแต่เด็กนะ” ยุพาพยายามยุติความโกรธที่อยู่ภายในของหลานชาย

“เขาเป็นแม่ผมหรือเปล่าครับ ถึงกล้าปล่อยให้ผู้หญิงน่าไม่อายคนนี้เข้าไปในห้องนอนของผม ย่าก็เลือกเอาระหว่างผมกับป้าจำเนียรก็แล้วกัน เพราะถ้ายังอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่สามารถไว้ใจคนที่ทำงานในบ้านนี้ได้ แล้วผมจะจ้างคนแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง” ทรงธรรมชี้แจงด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้ความปราณี

“เอาเป็นว่าต่อไปนี้ ย่าจะขอรับผิดชอบแม่จำเนียรเอง หลานก็อย่ากังวลไปเลย” ยุพาพยายามประนีประนอม

“คุณย่ารู้ว่าผมพูดคำไหนคำนั้น อรัญยังไม่ส่งแขกอีกเหรอ เดี๋ยวให้คนมาเก็บของฉันด้วย ฉันจะไปอยู่ที่บ้านไม้กลางไร่ หาคนไปดูแลที่นั่นด้วย ฉันจะสร้างบ้านหลังใหม่ที่นั่น อย่าครับ คุณย่า หรือจะให้ผมย้ายออกไปอยู่ที่อื่น” ทรงธรรมหมดความอดทนของแท้ ทั้งที่ไม่พูดอะไรกับการคุกคามที่เจอมาตลอด

จำเนียรคุกเข่าแล้วคลานเข้าไปขอโทษ ที่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย “ข้าเจ้าเสียใจที่ทำให้พ่อเลี้ยงลำบากใจ อย่าทำแบบนี้เลยนะเจ้า”

“ปล่อย!” ทรงธรรมขยับหนีแล้วเดินลงเรือนไปในทันที ก่อนลงไปก็สั่งรองแม่บ้านให้เอาอาหารว่างกับมื้อเที่ยงไปให้เขาที่บ้านไม้หลังโน้น ยังดีที่เขามักจะอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เพราะห่างไกลจากบ้านหลังใหญ่มากนัก

บ้านหลังนี้แตกต่างจากเรือนหอเก่าของพ่อ เพราะเขาสั่งรื้อมันทิ้งทันที ที่รู้เรื่องที่แม่เขาต้องเผชิญก่อนเขาเกิด และสร้างบ้านหลังขนาดพอดี ไม่ใหญ่มากเอาไว้เพื่อพักผ่อน

ยุพามองหลานชายโกรธจัด แล้วเดินออกไปจากบ้านก็มองหน้าจำเนียรอย่างตำหนิ ก่อนจะออกคำสั่งชัดเจน “ยังไม่ไล่แขกไปอีกเหรอ จะรอให้เรียกตำรวจก่อนหรือไง เธอ จำเนียร ต่อไปนี้ให้ตามฉันแล้วห้ามเข้าไปบ้านโน้นอีก เธอสมร ต่อไปนี้คอยดูแลความเป็นไปในบ้าน ดูแลให้เรียบร้อย แล้วอย่าให้ต้องไล่ออกอีกคนล่ะ แยกย้ายไปทำงานได้แล้ว”

“แต่หนู” แก้วกินรีพยายามอธิบาย

“เก็บมารยาของเธอไว้ใช้กับผู้ชายคนอื่น ถ้ามายุ่งกับหลานชายฉันอีกล่ะก็ ฉันจะไม่ห้ามอะไรอีกเลย เอาลูกเธอไปด้วย ไปหาพ่อให้ลูกเธอที่อื่นซะ มีศักด์ศรีเสียบ้าง ผู้ชายเขาปฏิเสธเธอตั้งหลายครั้งอย่างมีมารยาท เธอยังหน้าด้านทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกเหรอ ทีหลังคิดให้มันไกลกว่านี้ เธอคิดเหรอว่าหลานชายฉันจะสิ้นคิด เก็บเอาผู้หญิงที่ฉีกหัวใจเขาเป็นเสี่ยงๆ กลับมา เธออีกจำเนียร อายุเท่าไรแล้ว ยังคิดว่าพ่อเลี้ยงจะเอาผู้หญิงสารเลวคนนี้ กลับมาทำเมียอีกเหรอ มีสติกันมั่ง แยกย้ายกันไปทำงาน” ยุพาออกคำสั่งอีกรอบ ก่อนทุกคนจะวุ่นวาย

อรัญอุ้มลิซซี่เอาไว้ แล้วคว้าข้อมือและลากแก้วกินรีให้ออกไปพ้นบ้าน โดยพาไปใส่ในรถ แล้วสั่งให้คนขับรถของปางไม้ไปส่งยังที่พักของทั้งสองคน

เขาเดินไปยังบ้านไม้หลังพอดีของเจ้านาย และเห็นเจ้านายกำลังนั่งทานอาหารว่างอยู่ที่ระเบียง ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ห่างๆ เพื่อรอรับคำสั่ง

ทรงธรรมทานอาหารอยู่อย่างเงียบๆ เพราะแม่บ้านเอาอาหารมาให้ ก่อนคนสนิทเข้ามา เขาทานพร้อมครุ่นคิดก่อนถามขึ้น “ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ”

“ครับ” อรัญตอบอย่างสงบ

“วันนี้วันหยุด กลับไปอยู่กับลูกกับเมียเถอะ” ทรงธรรมบอกคนสนิท ก่อนจะถอนหายใจและขออยู่เงียบๆ คนเดียว

“ให้ผมต่อสายคุณแจ็คลีนไหมครับ” อรัญรู้ว่าเจ้านายว้าวุ่นใจ เพราะสงครามประสาทที่เจอมาตลอดเกือบสองปี

“ไม่ต้องหรอก ที่นั่นเพิ่งจะตีสามตีสี่ เธอคงอยากพักผ่อนเงียบๆ น่ะ” ทรงธรรมถอนหายใจนิดๆ

แจ็คลีนเป็นหญิงสาวคนเดียวที่เขาติดต่อ และเธอเป็นผู้หญิงเข้าถึงยาก ไม่ใช่เพราะเธอมีคนติดตามอยู่เป็นโขยง แต่เพราะหัวใจเธอก็เข้าถึงยาก และเกิดมาจากเธอมีความสนใจอย่างอื่น มากกว่าเรื่องความรักของชายหญิง

“กลับไปหาลูกเมียเถอะ ฉันอยากพักผ่อนเงียบๆ แล้วจัดการงานเอกสารที่ค้างอยู่” ทรงธรรมดื่มกาแฟอย่างเงียบๆ เขารู้ว่าเมื่อไรเขาพร้อมจะทำงานและจะทำเมื่อนั้น

อรัญเรียกคนงานหนุ่มคนหนึ่งที่ว่างอยู่มาดูแล และคอยกันไม่ให้พวกผู้หญิงเข้ามาวุ่นวาย พร้อมทั้งรอรับคำสั่งจากพ่อเลี้ยงหนุ่มที่ต้องการปลีกวิเวกจากความวุ่นวาย

****************************************


หญิงวัยกลางคนก็ฟังเพื่อนอธิบายจนตาค้าง ก่อนจะมองหน้าลูกสาวผมสีทองที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วก็มองลูกสาวเพื่อนที่กำลังพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของพ่อตนเอง

“ว่าไง แกเห็นด้วยกับฉันใช่ไหมล่ะ” พอลเคาะโต๊ะเป็นจังหวะอย่างอารมณ์ดี

“ไอ้บ้า! ลูกฉันเพิ่งจะอายุสิบเก้าได้อาทิตย์เดียว แกจะเอาไปเป็นผู้บริหารบริษัทสาขายุโรปเนี่ยนะ กินยาเขย่าขวดหรือเปล่าเนี่ย” พายถามเพื่อนด้วยความประหลาดใจ

“คุณแม่คะ หนูคิดดีแล้วค่ะ ปีที่แล้วหนูทำกำไรให้บริษัทเกือบสามสิบล้านยูโรเลยนะคะ หนูพิสูจน์แล้วว่าหนูทำได้จริงๆ” แจ็คลีนยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง แม้ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นของแม่ แต่เธอก็อยากให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครหัวใจวาย

พายยกมือขึ้นลูบหน้า ก่อนจะชี้หน้าเพื่อน “แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยห้ามลูก มีอะไรก็คุยกับกาเบรียลเองก็แล้วกัน”

“ไอ้บ้า! ที่คุยกับแกก่อน ก็เพราะอยากให้แกช่วยคุยกับกาเบรียล ถึงตามกฎหมาย แจ็คจะสามารถตัดสินใจเองได้ก็ตาม” พอลพยายามชี้แจงให้เพื่อนฟัง

“ก็ให้แจ็คไปทำงานกับแกสิ แล้วแกก็พาแจ็คไปชี้แจงให้กาเบรียลฟังด้วยก็แล้วกัน” พายไม่คิดหาเรื่องมาทะเลาะกับสามี เพราะทั้งคู่พยายามไม่ทะเลาะกันมาตลอดช่วงเวลาที่แต่งงาน

“น้าพายคะ น้าพายก็รู้นี่คะ ว่าน้ากาเบรียลยังไม่อยากให้แจ็คทำงาน” หลินพูดตามที่รู้

“ก็นั่นแหละ ถึงอยากให้แกไปอธิบายให้กาเบรียลฟัง เผื่อว่าพ่อกาเบรียลถามจะได้ตอบถูก” พอลอธิบายและมองเพื่อนอย่างลุ้นๆ

“แกนี่ ไม่เข้าใจหรือไงว่าไม่อยากทะเลาะกับเมีย หาเรื่องมาเองก็ไปจัดการเอาเองสิ” พายก็พูดหยอกๆ เพื่อนแล้วก็ยิ้มๆ นิดๆ

“ไอ้บ้า! เมียแก แกก็คุยดิ” พอลก็รู้แล้วว่าเพื่อนเล่น ก็พูดเล่นกับเพื่อน

“โอ๊ย! แกก็รู้ว่าเมียฉันเป็นยังไง แกก็ไปพูดเองเลย” พายก็หยอกกับเพื่อน ทำเอาหลินกับแจ็คลีนต่างก็ทำหน้างง ก่อนทั้งสองคนหันไปมองแล้วหัวเราะ

“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ พ่อ น้าพายมีเมียที่ไหนคะ เมียน้าพายอะไรกันคะ หนูงงไปหมดแล้ว” หลินขมวดคิ้วแล้วจ้องมองไปทั่ว

พายกับพอลฟังหลินแล้วยิ่งหัวเราะ ก่อนพายจะเฉลย “คืองี้ ช่วงที่คุณตาของลูกเสีย แม่พาพ่อของลูกไปเมืองไทย แล้วประจวบเหมาะคุณตาของลูกเสียพอดี ทีนี้ช่วงงานศพก็มีแต่คนเข้าใจว่าแม่พาผู้หญิงไป ใครๆ ก็คิดว่าพ่อของลูกเป็นเมียของแม่ไง ลูกก็รู้ว่าเมื่อก่อนแม่คบหาและควงกับผู้หญิงไง”

“เอ่อ เมื่อก่อนน้าพายเป็นเกย์เหรอคะ” หลินถามด้วยความประหลาดใจ

“ใช่มั้ง หรือไม่ใช่ เอาเป็นว่าน้าสนใจผู้หญิง ชอบอิงชอบใกล้ชิด แต่ผู้ชายสวยๆ ก็ไม่คิดจะละเว้นเหมือนกัน อืม เอาเป็นว่านายไปคุยกับกาเบรียลเองก็แล้วกันนะ” พายเล่าๆ แวยังกลับเข้าเรื่องอีกจนได้

“ไม่เคยหลงประเด็นเลยนะเฟ้ย!! แกล่ะคุย อีกอย่างจะตอบสนองความต้องการของลูกสาวสุดที่รักไม่ได้หรือยังไง” พอลก็จับผมเพื่อนแล้วขยี้ๆ อย่างสนิทสนม

“ปล่อยโว๊ย! เฮ้อ ไอ้บ้านี่ แจ็ค แม่อยากให้ลูกสนุกกับชีวิตก่อนจะทำงานนะ ทำไมไม่ไปใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่นทั่วไปแล้วก็สนุกสุดๆ ก่อนจะฝังตัวกับการทำงาน ลูกมีเวลาทำงานไปอีกสามสิบสี่สิบปีนะ” พายหันไปพูดอย่างจริงจัง เพราะคิดว่าสามีก็คงต้องพูดแบบนี้แน่ๆ

“ก็หนูสนุกแบบนี้นี่คะ เร้าใจที่ได้ลุ้นว่าจะได้หรือจะเสีย ปีก่อนหนูได้มาร้อยสามสิบกว่าล้าน เสียไปร้อยกว่าล้านนะคะ สนุกจะตายไปค่ะ” แจ็คลีนพูดชัดเจน

พายยกมือขึ้นลูบหน้าก่อนจะจ้องเพื่อนตาเขม็ง “ฉันจะเอาลูกเข้ารับการบำบัดติดพนันดีกว่า”

ทั้งสามคนฟังแล้วก็ร้องเสียงดังพร้อมกัน ก่อนพอลจะพูดแทนหลานสาว “บ้าน่า! แจ็คไม่ได้ติดการพนันนะ”

“ไม่เลย ฟังที่พูดสิ ติดแน่ อย่างกับติดการพนันเลยต้องใช่ล่ะ” พายพูดขึ้นแล้วกอดอกอย่างเชื่อมั่น

แจ็คลีนก็ต้องถอนหายใจ แล้วยอมรับว่าหลงใหลความเสี่ยงเรื่องการเงินแค่ไหน ก่อนจะพูดกับแม่อย่างยอมแพ้ “หนูยอมรับก็ได้ค่ะ ว่ามันท้าทายแค่ไหน ก็ได้ค่ะ หนูยอมแพ้”

พอลกับหลินมองหน้าพายกับแจ็คลีนแล้วงุนงง ก่อนฟังพายอธิบาย

“จำได้ไหม ว่านายก็เคยบ้าคลั่งกับการแทงหุ้นจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว สิ่งที่ฉันต้องการให้แจ็คทำมากกว่าเล่นหุ้นลงทุนกับความเสี่ยงก็คือ ลงทุนอย่างสร้างสรรค์ แล้วไม่ใช่ปั่นจนหุ้นสูงแล้วเทขายด้วย คนเราจะลงทุนหรือร่ำรวยก็ควรได้มาโดยไม่เบียดเบียนคนอื่นนะ” พายสั่งสอนลูก เพราะดูจะกลับไปสนุกกับการเล่นหุ้นมากเหลือเกินในช่วงปีที่ผ่านมานี้

“หนูขอโทษค่ะ” แจ็คลีนต้องยอมรับในเหตุผลของแม่ จึงได้แต่ทำหน้าจ๋อยนิดๆ

“เรื่องจะทำงานบริหารน่ะ มันไม่ได้ดูแค่ผลกำไรที่ทำหรอกนะ ผลกำไรโดยรวมที่นายบอกฉันเป็นพันล้านไม่ใช่เหรอ คนจะยอมรับแจ็คลีนหรือไง ถ้าเข้าไปบริหารงานน่ะ” พายพูดเป็นการเป็นงานทั้งที่ไม่ค่อยได้ทำนัก

“ได้สิ เพราะปีที่แล้วฉันให้แจ็คได้ลองงานแล้วล่ะ ถ้าได้ทำเป็นชิ้นเป็นอันก็น่าจะดีกว่านะ” พอลบอกเพื่อน และไม่กล้าพูดโน้มน้าวเพื่อนอีก

“คืองี้ เพิ่งคุยกับอาเหม็ดเรื่องบ่อน้ำมันเล็กๆ ของมันน่ะ ตอนนี้มันใกล้จะหมดแล้ว มันกำลังเครียดเรื่องจะทำยังไงให้คนงานมันยังมีงานทำ นี่ก็ยังไม่รู้ว่าอะไรยังไง ฉันจำได้ว่าแกเคยพูดๆ อยู่ว่าบริษัทเรามีแผนกให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนนี่ รับงานไปเลยก็แล้วกัน” พายพูดกับเพื่อนแล้วแจกงานเพื่อนทันที

“เดี๋ยวก่อน ฉันไม่อยากจะวุ่นวายหรอกนะ แต่ว่าให้เด็กๆ ช่วยกันทำไหม หลินน่ะ มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อน ตอนนี้หลงก็อยู่ประจำที่ตะวันออกกลาง คอยดูแลการลงทุนที่โน้น ให้แจ็คทำงานนี้พิสูจน์ด้วยเป็นไง เด็กสามคนมีความสามารถนะ” พอลพยายามให้โอกาสๆ เด็กๆ ได้พิสูจน์ฝีมือ

พายขมวดคิ้วแล้วถามเพื่อน “เยอะไปหรือเปล่า”

“น่า ให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่พิสูจน์ฝีมือหน่อยสิ” พอลตีความหมายเพื่อนผิดไป

“ไม่ใช่ฉันหมายถึง ต้องสามคนเลยเหรอวะ แค่คนเดียวก็เอาอยู่แล้วมั้ง” พายพูดแล้วก็หัวเราะทำให้บรรยากาศดีขึ้นมาก และทุกคนต่างก็รู้ว่าเธอไม่เคยเครียดเรื่องไหนให้คนอื่นเห็นได้นาน

“ที่ให้แจ็คช่วยด้วย ก็เพราะว่าเธอมีหุ้นในบริษัทอาเหม็ดด้วยต่างหาก และฉันก็สังเกตมาพักใหญ่แล้วว่าดูเหมือนอาเหม็ดจะชะลอการผลิต คิดอยู่ว่าต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง ไม่สะดวกถามตรงๆ แกบอกมาก็ดี เดี๋ยวจะให้หลงกับแจ็คช่วยกันละกัน ส่วนหลิน ลูกก็ดูแลงานที่สิงคโปร์ไปละกัน” พอลสรุปในตอนท้าย

“เรื่องจะให้แจ็คเข้าทำงานเลย มันก็ไม่ใช่เรื่องยากนะ แต่ก็ต้องรู้นะ ว่าแจ็คต้องเข้าเรียนที่ปริญญาตรีให้จบ เห็นธีโอดอร์บอกว่าจะให้ต่อโทด้วย คิดว่าหลานจะทำทุกอย่างไปด้วยได้ไหมล่ะ” พายชี้แจงเพื่อน

“ได้ค่ะ หนูทำได้” แจ็คลีนรีบพูด

“งั้นแม่ขอให้ลูกหยุดเล่นหุ้นหนึ่งปี ห้ามเอาเงินไปเล่นหุ้นแม้แต่ครั้งเดียว หนึ่งปี ตกลงไหม” พายตั้งข้อตกลงกับลูก เพราะเกรงว่าลูกสาวจะเสพติดการพนัน

แจ็คลีนนิ่งอึ้งไปพักก่อนรับคำ “ได้ค่ะ”

“รู้ไหมว่าลุงพอลเคยติดการเล่นหุ้น จนต้องเข้ารับการบำบัด แต่เพราะลุงพอลรู้แล้ว ว่าเมื่อไรควรหยุดแล้วเน้นที่ช่วยเหลือให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ทุกอย่างในชีวิตจึงดีขึ้น เพราะงั้นลูกก็ไม่ควรถลำลึก อย่าบอกแม่ว่าลูกไม่ติด ถ้าลูกได้ฟังสิ่งที่ตัวเองพูดเมื่อครู่” พายตำหนิลูกสาวนิดๆ เพราะรู้อาการของคนที่เสพติดอะไรบางอย่างดี

“เราไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ น้าพาย” หลินพยายามพูดแก้ให้น้อง

“หลิน น้าไม่ได้พูดเพราะว่าไม่ไว้ใจแจ็ค คนที่คิดว่าตัวเองไม่ติดอะไร เชื่อเถอะ คนที่ทระนงตนทุกคนไม่รู้จักตัวเองทุกคนนั่นแหละ คิดว่าตัวเองไม่ติด คิดว่าตัวเองอยู่เหนือมัน แต่ความเป็นจริง ถ้าเรารู้ว่าอะไรเป็นสิ่งยั่วยุ ก็ไม่ควรให้มันเอาชนะเราได้ และถ้าคิดว่าเข้มแข็งพอ และยังทำอยู่เสมอ รับรองได้ว่าคนคนนั้นขาดมันไม่ได้หรอกนะ” พายพูดอย่างรู้จริง เพราะเธอเห็นเพื่อนกี่คนที่เคยจมดิ่ง อยู่ในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควบคุมอยู่

“พอเถอะ หลิน เชื่อเถอะว่าไม่มีใครเชียวชาญเท่าน้าพายหรอกนะ พ่อพูดจริงๆ น้าพายเป็นคนที่ช่วยให้เพื่อนเลิกยามาหลายคนแล้วล่ะ พ่อก็เคยติดเล่นหุ้นจนน้าพายช่วยเอาไว้ ก่อนจะสร้างกำแพงช่วยให้พ่อไม่หมกหมุ่นอยู่กับมัน จนเอาชนะใจตัวเองได้ และรู้ว่าเมื่อไรควรหยุด เมื่อไรควรทำต่อน่ะ” พอลอธิบายให้ลูกสาวฟัง ก่อนจะลูบเรือนผมลูกสาว

แจ็คลีนซบไหล่แม่ ก่อนจะกอดแขนเอาไว้ “หนูเข้าใจแล้วค่ะ ถึงเวลาที่หนูต้องพอแล้วจริงๆ”

“พ่อต้องเล่าเรื่องที่พ่อติดแทงหุ้นให้หนูฟังนะคะ น่าจะเล่าให้หนูฟังก่อน หนูกับแจ็คจะได้ไม่ถลำลึก ของแบบนี้มันติดต่อทางพันธุกรมได้ค่ะ หนูจะได้ระวังตัวด้วย” หลินทำเสียงเข้มงวดขึ้นมาทันใด ก่อนจะฟังพ่ออธิบาย เธอก็กลัวว่าเธอจะกู่ไม่กลับเช่นกัน

พายลูบเรือนผมสีทองที่ตอนนี้ถูกยืดและเรียบตรง ยิ่งดูยิ่งเหมือนพ่อเธอนัก ผู้ชายแสนสวยที่เธอรักและยังรักกันอยู่เสมอ ขณะที่พอลก็พยายามอธิบายให้ลูกสาวฟัง จะได้เป็นเรื่องตัวอย่างไม่ให้ลูกทำตามอีก

****************************************
เกือบสองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
อิอิ สาวโตขึ้้น หนุ่มแก่ลง เอ๊ะยังไง
ใครไม่ไปไหนช่วงปีใหม่รออ่านนิยายทุกวันได้เลยค่ะ อิอิ
30/12/2011-3/11/2012 ทุกวัน
ขอตอบเม้นหลังวันที่ 3ไปเลยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายมาโดยตลอดค่ะ

sirinda
คุณ ร้อยวจี --- อิอิ ใช่แล้ววค่ะ เม้นคนแรกเลยค่ะ
คุณ ตุ๊งแช่ --- หุหุ รักษาระดับขั้นเทพ อิอิ
คุณ anOO --- 555+ ใช่ค่ะ เมาปิ้นกันไปเลย อิอิ
คุณ XaWarZd --- ใจเย็นๆ ค่ะเดี๋ยวทรงธรรมก็ค่อยๆ มีบทบาทเองค่า
คุณ tuktuk --- ถูกต้องนะครับ อิอิ
คุณ sai --- อิอิ แม่ที่เจ๋งจริงๆ ชิมิๆ
คุณ หนอนฮับ --- น่าจะมีอีก แต่กับเรมองด์หรือเปล่านี่ไม่รู้นะคะ อิอิ
คุณ วิลาสิณี --- อิอิ พายเจ๋งเสมอ หงิงหงิง @^_^@

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- ขอบคุณค่ะ ไม่เรียบง่ายแต่เอามันคนเขียนค่ะ อิอิ

bloggang
คุณ วรรณ --- ตอนใหม่มาแล้วค่ะ อิอิ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ธ.ค. 2554, 20:44:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ธ.ค. 2554, 20:44:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1864





<< ML008   ML010 >>
ร้อยวจี 26 ธ.ค. 2554, 21:54:46 น.
สุดยอดคือพาย คิดดีทำดี สนุกค่ะ


ร้อยวจี 26 ธ.ค. 2554, 21:57:50 น.
ลืมค่ะ มีตัวละครหน้าด้านเพิ่มมาอีกหนึ่งแล้วหรือค่ะ สนุกมากค่ะ คุณทรงธรรมเด็ดขาดดี ขอเป็นแบบนี้นะคะ


sai 27 ธ.ค. 2554, 00:01:38 น.
เย้ๆ ปีใหม่อย่างน้อยก็มีอะไรแก้เหงาไปอีกอย่างแว้วๆๆๆๆๆ


anOO 27 ธ.ค. 2554, 09:23:57 น.
พายนี่เป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณืในทุกเรื่องและทุกด้านจริงๆ
ตอนนี้แจ็ค 19 แล้วคุณลุงทรงธรรม อายุเท่าไรแล้วค่ะ


ตุ๊งแช่ 27 ธ.ค. 2554, 09:50:22 น.
ดีจัง อ่านทุกวัน ตอนนี้คนอ่านเสพติด missing love ต้องเลิกยังไงนี่ 555


XaWarZd 27 ธ.ค. 2554, 13:04:18 น.
เวลาผ่านไปง่ายดายเหลือเกิน


kaeka 27 ธ.ค. 2554, 20:42:14 น.
อิอิ ใจดีจังเลยนะคะ รออ่านนิยายดีกว่านะนี่ อัพโลดคร้า

แม่พายมาแย่งซีนได้ตลอดเลย สมจริงๆที่ผ่านอะไรมาเยอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account