รอยร่างรางรัก
หญิงสาวคนหนึ่งกลายเป็นวิญญาณไร้ร่าง ส่วนอีกคนต้องติดอยู่ในร่างที่ไม่ใช่ตัวเธอเอง โดยมีเบื้องหลังอยู่ที่ความปรารถนาอันแรงกล้าของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง

รอยร่างแห่งรักจะนำพาเธอทั้งหมดไปลงเอยที่ใด

ตีพิมพ์ในชื่อ "ลิขิตร่างพรางรัก"
Tags: วิญญาณ ดวงจิต สลับร่าง

ตอน: ตอนที่ 4

“ได้เรื่องไหมคะคุณว่าน”

อวิกาเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย เสียงฝีเท้านั้นทำให้เธอนึกถึงผู้ใหญ่ตัวสูง รูปร่างใหญ่ โดยลืมไปเสียสนิทว่ายังมีชายร่างสูงใหญ่อีกคน

“คุณว่าน?”

“คะ...” คนนั่งบนเตียงชะงักคำเรียกของคนที่ก้าวเข้ามา เขาคือพี่...พี่เมฆ “พี่เมฆ มาได้ยังไงคะ”

“พี่ออกมาพบลูกค้าสินเชื่อแถวนี้ เลยแวะมาเผื่อจะกินข้าวด้วยกัน” พารินธรยังคงไม่ละสายตาที่แสดงถึงความข้องใจจากใบหน้าของน้องสาวหรือจะเรียกให้ถูกคืออวิกาในร่างของน้องสาวของเขา “แล้วเมื่อกี้เราเรียกนายว่านว่ายังไงนะ คุณ?”

“ค่ะ ก็เรียกกันเล่น ๆ ไงคะ บางทีในวงเพื่อนก็พูดเล่น ทำเป็นเรียกกันเพราะ ๆ บ้าง”

หญิงสาวปดรู้ตัวว่าพลาดที่ใช้คำเรียกคนที่ควรเป็นเพื่อนสนิทว่าคุณ ยิ่งพลาดที่ไม่ดูให้ดีก่อนว่าผู้ที่เดินเข้ามาให้ห้องคือพารินธรไม่ใช่วงศ์วรัณ

“แล้วทำไมต้องถามนายว่านแปลก ๆ อย่างนั้นด้วยล่ะ ได้เรื่องไหม มีเรื่องอะไรเหรอ”

อวิกาหยุดคิดเพียงครู่ก็ตอบเสียงเรียบ

“ก็เห็นว่ามีโทรศัพท์มาเรื่องงาน ขอออกไปคุยนอกห้องน่ะค่ะ ไม่รู้ไปถึงไหนออกไปนานมากแล้ว”

ชายผิวสองสีพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนจะรับรู้ในคำอธิบายหากดวงตาคมโตดำสนิทนั้นยังมีแววของความสงสัยเจืออยู่

“แล้วพ่อกับแม่ไปไหนล่ะ”

“เห็นว่าจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ฝนยุให้ไปด้วยจะได้เปลี่ยนบรรยากาศไม่อย่างนั้นก็เอาแต่อุดอู้อยู่ในโรงพยาบาล”

พารินธรซึ่งดูคลายความสงสัยไปบ้างกลับขมวดคิ้วขึ้นอีก เหมือนเขาเพิ่งสังเกตถึงความผิดปกติของน้องสาว

“พี่ว่าเราแปลก ๆ ไปนะยัยฝน”

“แปลก” อวิกาทวนคำ ใจนึกหวั่นทว่ายังคงฝืนยิ้มเมื่อเอ่ยถาม “ยังไงคะ”

“ปกติเราไม่ใช่คนพูดเพราะกับพี่กับเชื้อเท่าไหร่นะ คะขานี่ไม่ค่อยจะได้ยิน แต่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาเราพูดจาแปลกไป”

หญิงสาวอ้าปากจะโต้แต่แล้วก็ยังนึกไม่ออกว่าจะแก้ตัวอย่างไร ยิ่งไม่รู้ว่าเขาสงสัยแค่ไหนกันนะกับการที่จู่ ๆ น้องสาวก็เปลี่ยนลักษณะการพูดจา

“จะว่าเพราะขึ้นมันก็ใช่ แต่ดูไม่ใช่เรายังไงก็ไม่รู้”

“คนเราก็มีเปลี่ยนความคิดกันบ้างสิพี่เมฆ อุบัติเหตุนี่มันก็แรงอยู่นะ” ต้องพูดแบบนี้ล่ะมั้ง คุณฝนดูท่าทางร่าเริง ขี้เล่น อวิกาสูดลมหายใจยาว เมื่อต้องปรับการพูดจาจากที่เคยชิน “ก็เลยอยากจะลองพูดคะขาเป็นกุลสตรีดูบ้าง นึกว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นซะอีกนะเนี่ย มีพี่เมฆคนเดียวที่ทัก พ่อกับแม่ยังไม่เห็นว่าอะไรเลย”

“เอ่อ...พูดแบบนี้ค่อยสมเป็นยัยฝนตัวแสบของพี่หน่อย”

“พ่อกับแม่บอกรึเปล่าว่าจะมากินข้าวไหม”

อวิกาส่ายหน้าแทนคำตอบ

“งั้นเดี๋ยวพี่โทร.ถามพ่อแม่แล้วลงไปซื้อก๋วยเตี๋ยวไว้รอพ่อกับแม่กลับมาดีกว่า จะเอาอะไรไหม”

“กินข้าวโรงพยาบาลไปก่อนน่าจะปลอดภัยกว่า” หญิงสาวกลืนคำลงท้ายประโยคลงคอ ไม่กล้าพูดคะขาต่อหน้าพารินธรอีก “พี่เมฆไปเถอะ”

คล้อยหลังพารินธร อวิกาขยับตัวเล็กน้อยนึกอยากจะลุกขึ้นเดินไปถามพยาบาลและตามวงศ์วรัณไปที่ห้องซึ่งร่างของเธอนอนพักอยู่ หากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยกลับก่อให้เกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาทันที หญิงสาวตระหนักว่าร่างกายนี้ไม่พร้อมที่จะลุกขึ้นเดินไปไหนต่อไหนจึงทำได้เพียงแต่นั่งรออย่างกระวนกระวาย



สลิลาเดินไปไหนมาไหนในโรงพยาบาลได้อย่างสะดวก การไม่มีเลือดเนื้อร่างกายทำให้สามารถเดินผ่านประตู กำแพง และทุกสิ่งในโรงพยาบาลได้เพียงแค่คิด แต่เพราะไม่ได้คิดว่าควรรอให้ใครสักคนไปสอบถามเลขที่ห้อง ทำให้ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหาห้องพักผู้ป่วยที่มีชื่ออวิกาติดอยู่ที่หน้าประตูได้พอดีกับที่เสียงดังเตือนประตูลิฟต์เปิด ร่างสูงของวงศ์วรัณก้าวออกมาสมทบทันทีที่เห็นสลิลา

“ห้องนี้ใช่ไหม”

หญิงสาวพยักหน้าเอ่ยถาม “จะเข้าไปด้วยกันไหม”

“เข้าไปได้ยังไงล่ะ ไม่รู้จักใครในห้อง เข้าไปเถอะ”

คนที่ปกติมั่นใจในตัวเองไม่ค่อยจะหวั่นกลัวอะไรตอนนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก หากรอยยิ้มเอาใจช่วยของวงศ์วรัณทำให้หญิงสาวมีความกล้ามากขึ้น เดินผ่านประตูเข้าไปภายในห้องพักผู้ป่วย

ภายในห้องพักนั้นมีชายหนุ่มที่ดูจะอ่อนวัยกว่าเธอราวสองปีนอนเหยียดอยู่บนโซฟาตัวยาว อย่างนี้ละมั้งที่เขาเรียกว่า ‘นอนเฝ้า’ เพราะเขานอนหลับเอาจริงเอาจังขณะที่ร่างในชุดผู้ป่วยโรงพยาบาลก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง

หญิงสาวค่อย ๆ ย่องทั้งที่ไม่จำเป็น...ไม่มีใครได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอแม้แต่ตัวเธอเอง การเคลื่อนไหวทุกอย่างแม้ดูเหมือนคนทั่วไปแต่มันไม่มีน้ำหนัก ไม่มีเสียง

เธอชะโงกดูร่างที่ตนควรจะเข้าไปอยู่ ดวงจิตของสลิลาส่ายหน้าเมื่อคำว่า “สิง” แวบเข้ามาในความคิด ไม่ใช่ผีสักหน่อยใช้คำว่าสิงมันไม่ถูกต้อง

สวยนะ สวยกว่าเราเยอะเลย ผิวน้ำผึ้ง ผมดำขลับ อยู่ในร่างนี้ก็คงดีไม่หยอกนะ แต่ทำงานทำการอะไรก็ไม่รู้ เออ...จริงสิ แล้วอย่างนี้จะทำยังไงกันล่ะ ถ้าสลับร่างกันจะทำงานกันได้ไหม เอาเถอะ ๆ เอาไว้ค่อยคิดทีหลังแล้วกันนะ ดีกว่าเร่ร่อนไม่มีร่างอยู่

สลิลานั่งลงบนเตียงก่อนจะเอนหลังลงนอน คาดหวังว่าดวงจิตของเธอจะซ้อนลงไปบนร่างของอวิกาจนแนบสนิท ทว่ากลับมีแรงดันบางอย่างดีดเธอออกมา หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงหันไปมองร่างที่นอนนิ่งอย่างแปลกใจ

“อะไรกัน ทำไมถึงเข้าไปอยู่ในร่างไม่ได้...ลองอีกทีแล้วกัน”

ผลที่ออกมานั้นเป็นเช่นครั้งแรก ดวงจิตของเธอถูกแรงผลักบางอย่างดันออกมาจากร่างของอวิกา สลิลายืนมองร่างที่นอนนิ่งอยู่อย่างข้องใจ หากเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ความสงสัยก็แปรไปเป็นความตระหนก เมื่อเปลือกตาของผู้ที่อยู่ในชุดผู้ป่วยค่อย ๆ เผยอเปิดขึ้นมา

มีดวงจิตหรือวิญญาณของใครสักคนอยู่ในร่างของอวิกา !



หลังจากนั้นไม่กี่นาทีวงศ์วรัณก็รีบรุดไปที่ห้องพักที่ร่างของสลิลานอนพักอยู่ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครก็รีบเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ทันที

“แย่แล้วครับ คุณเพชร”

“อะไรคะ คุณว่านเกิดอะไรขึ้น”

“ร่างของคุณเพชรฟื้นแล้วครับ เมื่อกี้ที่ห้องโน้นวุ่นวายกันใหญ่”

อวิกาในร่างสลิลาขมวดคิ้ว “ทำไมถึงแย่ล่ะคะ ก็คุณฝน...”

“ฝนไม่ได้เข้าไปอยู่ในร่างคุณเพชรครับ เค้ายังอยู่ที่นี่”

“อะไรนะคะ”

“คุณเพชรฟังไม่ผิดหรอกครับ ร่างของคุณเพชรฟื้นแล้วแต่วิญญาณ หรือจิตหรืออะไรก็ไม่รู้ในร่างนั้นไม่ใช่ฝน ฝนเข้าไปในร่างนั้นไม่ได้”

“ใครกันคะ ใครที่อยู่ในร่างเพชร ถ้าวิญญาณของเพชรมาอยู่ร่างคุณฝน วิญญาณคุณฝนก็ควรจะได้อยู่ในร่างของเพชร”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนนี้หมอมาตรวจร่างกาย เอ่อ...ร่างของคุณเพชรอยู่ครับ นี่ฝนเค้าโวยวายใหญ่แล้ว”

วงศ์วรัณตอบสีหน้าไม่สู้ดีนัก ทั้งยังยกนิ้วขึ้นปิดที่หูทั้งสองข้าง อวิกามองไปรอบ ๆ ห้องก่อนเอ่ย

“ใจเย็น ๆ นะคะคุณฝน”

“จะให้ฉันเย็นได้ยังไงกันล่ะ บอกเค้าด้วยนะนายว่าน ตอนนี้ร่างฉันเค้าก็อยู่ ร่างเค้าก็มีใครไม่รู้อยู่ แล้วอย่างนี้ฉันก็ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อนน่ะสิ ฉันต้องเป็นผีไม่มีร่างแบบนี้เหรอ ฉันตายแล้วจริง ๆ เหรอ”

“โธ่! ฝน เรื่องนี้คงไม่มีใครอธิบายได้หรอก ไม่มีใครเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงเหมือนกัน”

“ฉันอยากไปดูค่ะ...ไปเยี่ยมคนที่ประสบอุบัติเหตุด้วยกัน คงไม่ใช่เรื่องแปลก เราไปกันเลยนะคะคุณว่าน ช่วยตามบุรุษพยาบาลกับรถเข็นให้ด้วยเพราะฉันคงเดินไม่ไหว”

“เดี๋ยวผมลองไปขอยืนรถเข็นดูนะครับ ที่ห้องทำงานของพยาบาลประจำชั้นอาจจะมีก็ได้...ใจเย็น ๆ ก่อนนะฝน เรื่องนี้มันอาจมีทางแก้ไขก็ได้”

วงศ์วรัณพูดจบก็รีบผละออกจากห้องไปทิ้งอีกหนึ่งร่างและสองดวงจิตให้อยู่ในห้องพัก



อวิการู้สึกกระวนกระวายบอกไม่ถูกเมื่อวงศ์วรัณเข็นเธอออกจากลิฟต์โดยสารไปตามโถงทางเดินมุ่งสู่ห้องพักผู้ป่วยที่เธอนอนพักรักษาตัวอยู่

ไม่ใช่...ใครก็ตามที่อยู่ในร่างนั้นไม่ใช่เธอ ขณะที่เธอเองก็อยู่ในร่างของคนอื่น เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงกันนะ

วงศ์วรัณเข็นรถมาหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่งซึ่งมีชื่อนามสกุลของอวิกาอยู่สวนทางกับคณะของแพทย์และพยายาลที่เพิ่งออกมาจากห้อง ชายหนุ่มเคาะประตูเบา ๆ ก่อนหันไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับอากาศธาตุ ไม่ใช่สิ เขาคงกระซิบกับสลิลามากกว่า เมื่อเปิดประตูเข้าไปชายในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้นวม ย่นหน้าผากเล็กน้อยก่อนที่แววระลึกได้จะปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“แย่แล้วพี่เพชร คุณคนนี้ต้องมาเอาเรื่องที่พี่เพชรขับรถเหินไปชนรถเขาแน่ ๆ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ พี...” เธอเกือบหลุดเรียกชื่อเล่นของน้องชายออกไปแต่ระงับเอาไว้ได้ทัน “พี่แค่อยากมาเยี่ยม เพราะได้ข่าวจากพยาบาลว่าคุณ...เอ่อ...คุณเพชรฟื้นแล้ว”

“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยม”

คนที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียงยิ้ม...อวิกาบอกความรู้สึกไม่ถูกที่ได้เห็นว่าตัวเธอเองกำลังส่งยิ้มมาให้และมันไม่ใช่การมองใบหน้าของตัวเองผ่านกระจกเช่นทุกครั้ง

“ทั้งที่ฉันเป็นคนขับรถพุ่งไปชนคุณแท้ ๆ”

หญิงสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็นมองใบหน้าของตนอย่างจะค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง หันไปมองวงศ์วรัณและอาศิสที่ยืนอยู่ทางหนึ่งก่อนหันกลับมาเอ่ยกับร่างของตน

“ฉันอยากจะคุยอะไรกับคุณเพชรหน่อยจะได้ไหมคะ”

“จะดีเหรอ” อาศิสก้าวเข้าไปยืนอยู่ข้างเตียง “ผมว่ามันจะไม่เหมาะรึเปล่าพี่เพชร”

“ไม่มีอะไรหรอกพีท ออกไปรอข้างนอกเถอะ”

“มีอะไรร้องเรียกผมดัง ๆ ไม่งั้นก็กดเรียกพยาบาลเลยนะพี่”

เมื่อร่างของอวิกาพยักหน้าเบา ๆ อาศิสก็ยอมเดินไปสมทบกับวงศ์วรัณแล้วพากันก้าวออกไปจากห้องพักผู้ป่วย กระทั่งเสียงปิดประตูดังให้ได้ยินคนบนเตียงจึงเอ่ยถาม

“คุณ...ฉันไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร แต่คุณมีอะไรจะคุยกับฉันก็เชิญนะคะ”

“คุณเป็นใครคะ”

แววสงสัยปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่อวิกาคุ้นเคยยามส่องกระจก กระทั่งเกิดเหตุการณ์ประหลาด คิ้วบางได้รูปขมวด ดวงตานั้นสื่อถึงความไม่เข้าใจ ก่อนเรียกปากบางจะขยับ

“ฉันชื่ออวิกาค่ะ ชื่อเล่นคุณคงถามจากพยาบาลมาแล้ว”

อวิการู้สึกว่าหัวใจของตนหรือจะพูดให้ถูกคือหัวใจของสลิลา อวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่เธออยู่กำลังเต้นแรงอย่างไร้การควบคุม ขณะที่คนบนเตียงยังมีสีหน้าเหมือนไม่ได้สงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย

“คุณไม่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติเลยเหรอคะ”

ร่างของอวิกาก้มลงมองสำรวจตัวเอง ก่อนเงยหน้าขึ้นตอบ

“ไม่มีอะไรผิดปกตินี่คะ ที่จริงฉันได้ฟังจากคุณหมอมาเหมือนกันว่าคุณกับฉันมีอาการแทบไม่ต่างกัน บาดแผลฉกรรจ์ไม่พบ อวัยวะภายในไม่มีการกระทบกระเทือน แต่เราสองคนเหมือนแค่หลับไปเท่านั้น”

หากทั้งสองคนจะสามารถมองเห็นและได้ยินคำพูดของหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในห้องได้ คงจะเห็นว่าสลิลาเดินมาที่เตียงชะโงกหน้าไปใกล้ร่างของอวิกา

“แล้วเจ้าของร่างนี้ก็ไปอยู่ในร่างฉัน แล้วเธอซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ก็มาอยู่ในร่างของคุณเพชร”

“คุณ...แน่ใจนะคะ ว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติกับร่างกายหรือว่า...เอ่อ...ดวงจิตของคุณ”

แววตาของอวิกานั้นแข็งกระด้างขึ้นมาจนหญิงสาวเองรู้สึกหวั่นกลัว เธอไม่เคยแสดงความโกรธเกรี้ยวแบบนี้แน่

“ฉันไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าคุณจะเข้ามาถามอะไรฉันแบบนี้ ที่จริงถ้าจะเอาเรื่องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นฉันก็ไม่ว่าอะไรนะคะ ครอบครัวของฉันยินดีชดใช้ให้”

ยังไม่ทันที่อวิกาจะโต้ตอบอะไร ประตูห้องพักก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงร้องห้ามของวงศ์วรัณ

“เดี๋ยวครับ คุณ...ข้างในเค้าคุยธุระกันอยู่”

หญิงสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็นจำชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาได้ทันที

“ผมมาหาคนรัก คุณอย่ายุ่ง”

คำว่า ‘คนรัก’ กระตุ้นอารมณ์บางอย่างให้เต็มตื้นขึ้นมาในอก อวิการู้สึกได้ถึงความอุ่นที่หัวตา ดูท่าทางชนวิทจะห่วงใยเธอมากจริง ๆ เขาก้าวฉับไม่กี่ก้าวก็ถึงเตียง

“เพชร...คุณเป็นยังไงบ้าง”

“พี่ชน”

ร่างของอวิกาโผเข้ากอดชนวิททันที เขากอดกระชับแล้วลูบเรือนผมดำขลับอย่างปลอบประโลม

“ผมมาดูงานติดตั้งป้ายให้ลูกค้าแถวนี้ พีทโทร.ไปบอกว่าคุณฟื้นแล้วผมเลยรีบมาเลย ผมเป็นห่วงคุณมากเลยรู้ไหม”

“เพชรก็กลัวค่ะ เพชรกลัวว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาพบพี่ชนอีก”

ร่างของอวิกายังคงกอดกระชับอยู่กับชนวิท ทำให้อวิกาในร่างของสลิลาได้แต่มองภาพนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา ใครก็ตามในร่างของเธอรู้จักเธอ รู้จักครอบครัวของเธอและยังรู้จักคนรักของเธอด้วย

“พี่ชนคะ...เพชรมีแขก”

ชนวิทเหมือนเพิ่งจะตระหนักว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่บนรถเข็นภายในห้องพักนี้ เขาหันมามองทางอวิกาในร่างของสลิลาด้วยสีหน้าสงสัย

“คุณคนนี้ คือคนที่เพชรขับรถพุ่งชนน่ะค่ะ เขารู้ข่าวว่าเพชรฟื้นแล้วเลยมาเยี่ยม”

อะไรกัน...ไม่จริง

ความนิ่งเย็นของอวิกาเริ่มสั่นคลอน เมื่อดวงจิตหรือดวงวิญญาณของคนที่อยู่ในร่างนั้นเหมือนจะพร้อมกับการเป็นตัวเธออย่างสมบูรณ์

"พะ...เอ่อ...คุณชนวิทคงอยากจะอยู่ดูแลคุณฝน” อวิการะงับอาการใจสั่นเต็มที่ ชนวิทดูไม่มีแววระลึกได้ใด ๆ แน่ล่ะ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้ดีว่าเสียงที่พูดออกไปนั้นไม่ใช่เสียงเธอ หันไปบอกกับคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย “เอาไว้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่เลย”

"ฉันว่าคุณให้คุณหมอตรวจอะไรดูหน่อยก็ดีนะคะ เหมือนคุณดูแปลก ๆ ยังไงชอบกล" ผู้ป่วยบนเตียงคนไข้ว่าทั้งที่ยังไม่คลายกอดจากชนวิท "บางทีสมองคุณอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนก็ได้"

หญิงสาวบนรถเข็นมองอาการที่ชนวิทหันกลับไปกอดกระชับร่างของเธอแล้วรู้สึกหวิวในอก ที่ตั้งใจจะเรียกให้วงศ์วรัณมาเข็นรถก็ทำได้เพียงพยักหน้าส่งสัญญาณบอก

หนุ่มผิวเข้มทำตามคำ ส่ายหน้า...เขาคงได้ยินสลิลาพูดอะไรอยู่ข้างหู เพราะชายหนุ่มนิ่วหน้าคล้ายกับได้ยินเสียงดังเกินขนาด



“คุณเพชรครับ” วงศ์วรัณเอ่ยขึ้นเมื่อเข็นรถเข้าไปภายในลิฟต์ “ตอนนี้คุณเพชรคงต้องอธิบายแล้วล่ะครับว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่เพราะฝนเค้าเชื่อว่ากำลังโดนหลอก”

“ใช่ เหมือนโดนหลอกแต่ไม่รู้ว่าใครหลอก นี่แหละคนหลอกผีของจริงเลยนะ” เจ้าของดวงจิตที่มีเพียงวงศ์วรัณเท่านั้นที่สัมผัสได้เอ่ย “ไม่ใช่สิ ไม่ใช่คนหลอกผี แต่จะเรียกว่าอะไรก็ช่างเถอะ แต่ฉันโดนหลอกแน่ ๆ”

“ฝน...ฟังคุณเพชรก่อนเถอะ”

“ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะว่าใครมาใช้ร่างของฉัน แต่ฉันคืออวิกาคือเพชร คนที่ขับรถชนรถของคุณจริง ๆ นะคะ”

“แน่ใจได้ยังไงว่าจะไม่หลอกกัน ดูท่าทางดวงวิญญาณในร่างคุณเพชรก็รู้จักดีทั้งน้องชายคุณเพชร ทั้งแฟนคุณเพชร”

วงศ์วรัณถ่ายทอดคำถามให้อวิกาในร่างสลิลาฟัง หญิงสาวบนรถเข็นขมวดคิ้ว ส่ายหน้าอย่างนึกอะไรไม่ออก

“ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ยืนยันไม่ได้ใช่ไหมครับว่าคุณคือคุณเพชรจริง ๆ ไม่ใช่ดวงจิตดวงวิญญาณที่ไหนที่บังเอิญยึดร่างของฝนได้ แล้วอ้างอะไรไปเรื่อย”

“คุณฝนคะ คุณว่านคะ ฉันขอเวลาสักหน่อยนะคะ ฉันจะพิสูจน์ให้ได้ว่าใครก็ตามที่อยู่ในร่างนั้นไม่ใช่ฉัน และฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คุณฝนต้องร่อนเร่ไม่มีร่าง ฉันจะหาคำตอบและหาทางแก้เรื่องนี้ให้ได้ค่ะ ฉันสัญญา”

“บางทีอาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณก็ได้ครับ” วงศ์วรัณเอ่ย “ถ้าเกิดว่าชะตาของฝนถึงฆาต ไม่ว่ายังไง เรื่องมันก็ต้องเป็นแบบนี้”

“ไม่จริง นายว่านทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ฉันยังไม่อยากตาย”

“แต่เรื่องที่ฝนไม่มีร่างอยู่ตอนนี้ ฝนต้องยอมรับให้ได้นะ ถ้าคุณ...” ชายหนุ่มผิวเข้มไม่รู้จะเรียกหญิงสาวบนรถเข็นด้วยชื่อใดดี “ถ้าคุณยืนยันว่าคุณคือคุณเพชร เราคงต้องหาทางพิสูจน์กันต่อไป ส่วนเรื่องฝน เราจะช่วยเต็มที่ เรื่องนี้มันต้องมีคำตอบ ถึงมันจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็เถอะ แต่มันต้องมีสาเหตุมีที่มาที่ไปแน่ ๆ”

“นายก็พูดได้สิ นายไม่ใช่คนที่ต้องเร่ร่อนไม่มีร่างอยู่แบบฉันนี่”

“เราไม่รู้ว่าฝนเชื่อมั่นในตัวเราแค่ไหน แต่เราอยากบอกให้รู้ว่าเราจะช่วยฝนเต็มที่ ฝนเป็นคนสำคัญมากสำหรับเรา”

ภายในกล่องทรงสี่เหลี่ยมเงียบสนิทไปทันทีที่วงศ์วรัณพูดจบ ดวงจิตซึ่งไม่มีร่างสามารถเดินผ่านไปไหนก็ได้ เดินทะลุประตูลิฟต์หายวับไปโดยไม่สนใจกับเสียงเรียกของวงศ์วรัณ

“เดี๋ยวสิฝน”

อวิกาซึ่งมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนักยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่กล้าบอกกับชายหนุ่มผิวเข้มที่ยืนงงอยู่ว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่คงไม่อยากให้ผู้ชายสารภาพความรู้สึกโดยมีบุคคลที่สามอยู่ด้วยเท่าใดนัก

รอยยิ้มบนใบหน้าของสลิลาเลือนไปแทบจะทันทีที่บานประตูเหล็กเปิดออกช้า ๆ และพบว่า พารินธรยืนกอดอกอยู่หน้าห้องพักผู้ป่วย มองมาทางเธอและวงศ์วรัณด้วยสายตาตำหนิ



กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ม.ค. 2555, 09:14:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ม.ค. 2555, 09:14:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 2183





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
sai 1 ม.ค. 2555, 10:36:51 น.
เค้าคือใครล่ะนั่น????


ปรางขวัญ 1 ม.ค. 2555, 11:45:59 น.
อืม รู้สึกว่าจะยุ่งเหยิงแล้วสิ ตกลงใครเป็นใครกันเนี่ย
คนอ่านเริ่มงง 555


DearJazz 1 ม.ค. 2555, 21:37:54 น.
น่ากลัวจัง วิญญาณใครก็ไม่รู้ เนียนเชียว


panon 1 ม.ค. 2555, 23:03:23 น.
น่ากลัวแฮะวิญญานใครหว่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอย่างนี้สงสัยจะจงใจแฮะ


XaWarZd 2 ม.ค. 2555, 03:09:35 น.
ใครอ่ะมาแอบอ้าง คลายปมหน่อยเร้ว


pseudolife 2 ม.ค. 2555, 08:39:58 น.
น่ากลัวจัง ผู้หญิงที่อยู่ในร่างคุณเพชร คือวิญญาณแค้นที่มาตัดหน้ารถนั่นหรือเปล่า


กมลภัทร 2 ม.ค. 2555, 09:13:19 น.
จ๊ากกก คลายปมก็จบสิครับ อิอิ ส่วนจะยุ่งเหยิงต่อไปแค่ไหนต้องติดตามนะครับ เรื่องนี้ นางเอกโวย ๆ คนนึง นางเอกเรียบร้อยคนนึง ตามสไตล์ ^^


นกอุมาพร 2 ม.ค. 2555, 22:23:05 น.
อะไรกันละค่ะเนี้ย ดูวุ่นวายกันจังเลย


ของขวัญ 3 ม.ค. 2555, 00:55:16 น.
วิญญาณที่สามคือใครน้อ


lovemuay 3 ม.ค. 2555, 11:49:52 น.
นั่นสิ วิญญานแค้นเพชร เลยจะมาแย่งร่างแน่เลย บางที่อาจหลงรักนายชลอยู่เลยอยากแย่งร่างมาเป็นของตัวเอง


น้องอุด้ง 4 ม.ค. 2555, 08:51:00 น.
วิญญาณ นั้นคือครายยอ่า อยากรู้ๆๆๆ ><


เพียงพลอย 4 ม.ค. 2555, 21:54:19 น.
วิญญาณเบอร์สามแอบแรงอะ ใครหว่า แต่ต้องรู้จักเพชรแน่เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account