Crazy Laws กฏหมายฮาเดือด!!
เมื่อ "วินด์ ฮิลล์" นักเรียนกฎหมายปี 1 ผู้มีดีแค่หน้าตาแต่สติปัญญาอยู่ในระดับน่าอับอาย ต้องมาพานพบกับ "เวสต์ วิซ" ผู้ช่วยผู้พิพากษา ที่ถูกไหว้วานจากอาจารย์ีที่ปรึกษาของวินด์ ฮิลล์ ให้มาช่้่วยเข็นให้หนุ่มดีแต่รูปคนนี้เลื่อนชั้นไปได้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น..เมื่อสองคนนี้ต้องมาร่วมไขคดีไปด้วยกัน พร้อมกับ "ประมวลกฎหมาย" อาวุธประจำตัวนักเรียนกฎหมายทุกคน!?
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: มาตราที่ 2
มาตราที่ 2 : นักเรียนกฎหมายพึงมีความฉลาด
กราบเท้าคุณลุงที่เคารพและรักยิ่ง...
นี่คงเป็นจดหมายอีกฉบับถึงคุณลุงที่ผมคงไม่มีโอกาสได้ส่ง เนื่องจากกลัวว่าคุณลุงจะส่งจดหมายตอบกลับมาด่าให้ผมสะดุ้งจนหัวใจวายเล่น แต่คุณลุงโปรดวางใจเถอะครับ ถึงจดหมายฉบับนี้จะไม่ถึงมือคุณลุง แต่ใจของผมยังอยู่กับคุณลุงเสมอนะครับ (ถึงไม่บอกว่า รักนะจุ๊บจุ๊บ แต่คุณลุงคงเข้าใจใช่มั้ยครับ)
เทอมนี้ทุกอย่างดูจะเริ่มต้นได้สวยมาก อ.แมรี่โรสมอบหมายให้ผมช่วยดูแลคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ และถ้าผมจับคนร้ายได้ ผมก็จะได้ลาจากเทอม 1 อันน่าเบื่อหน่ายและก้าวเท้าไปเป็นนักเรียนเทอม 2 ซะที เอาใจช่วยผมด้วยนะครับคุณลุง!!
นอกจากนี้ อ.แมรี่โรสยังหาตัวช่วยมาเป็นคู่หูในการสืบสวนคดีคู่กับผมให้ด้วยครับ ชื่อของเขาคือ เวสสสสสสสสสสต์ วิซ เป็นรุ่นพี่สุดยอดอัจฉริยะแห่งวงการกฎหมาย ถึงนิสัยของพี่แกจะแปลกพอๆกับชื่อ แต่ถ้ามีเขาคอยช่วยล่ะก็ ความฝันของผมก็น่าจะไปถึงดวงดาวแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตามรุ่นพี่เวสต์ (ซึ่งประกาศว่าถ้า ส ไม่ครบสิบจะไม่ยอมหันมา แต่เพื่อเป็นการประหยัดน้ำหมึกและความขี้เกียจของผม งั้นขอใช้ ส แค่ตัวเดียวละกันนะครับ) เขาดูจะไม่เชื่อถือในความสามารถของผมสักเท่าไหร่ เพราะงั้นวันนี้รุ่นพี่ก็เลยสั่งให้ผมออกไปฝึกซ้อมตามจับคนร้ายในคดีต่างๆดูครับ ที่จริงถึงผมจะมีผลงานแต่การตามจับคนผายลมก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำคดีแนวอื่นไม่เป็นซะหน่อย มาแอบสบประมาทกันอย่างนี้ ผมคงต้องโชว์ฝีมือให้ดูกันซะหน่อยแล้ว ลูกชายฆ่าได้หยามไม่ได้ใช่มั้ยครับ คุณลุง!!
สุดท้ายนี้ กระผม นาย วินด์ ฮิลล์ หลานสุดรักของคุณลุงยังแข็งแรงดีและวิ่งไล่ตามจับผู้ร้ายอย่างขยันขันแข็งทุกวันครับ เพราะฉะนั้นได้โปรดวางใจว่าเทอมนี้ผมจะสามารถสอบเลื่อนชั้นได้ โดยที่คุณลุงไม่ต้องขายนังทุยศรีเพื่อเอาเงินมาส่งให้ผมเรียนซ้ำชั้นอีกรอบแน่นอนครับ!!
ปล. ผมจะมุ่งมั่นต่อไปและไม่ละความพยายามจนกว่าจะเรียนจบครับ คุณลุง
++++++++++++++
การฝึกซ้อมทำคดี : คดีที่ 1 มรดก
กฎหมายแบ่งออกได้เป็นหลายหมวดและหลายประเภท มีตั้งแต่เรื่องใหญ่ระดับโลกไปจนถึงเรื่องเล็กระดับมดกัด แต่หากจะถามวินด์ ฮิลล์ว่ากฎหมายประเภทไหนที่ยุ่งยากที่สุดแล้ว ส่วนมากมักหนีไม่พ้นไปจากกฎหมายที่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง โชคร้ายยิ่งกว่าว่ากฎหมายแทบทุกประเภทมักมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
และในเวลานี้ชายหนุ่มผู้เคยแต่วิ่งไล่จับคนร้ายผายลมแล้วหนี ก็กำลังต้องเผชิญกับบททดสอบทางด้านกฎหมายบทใหม่ แน่นอนล่ะว่า แต่เป็นบทเก่าของชาวบ้านเขาไปนานแล้ว...
“เงินมรดกทั้งหมดต้องเป็นของฉันย่ะ!!”
“น้อยๆหน่อย เป็นแค่เมียใหม่ของพ่อ คิดว่าจะได้เงินไปสักเท่าไหร่กันเชียว!!”
เสียงตวาดเกรี้ยวกราดจากมุมแดงคือหญิงสาวในชุดสีแดงเลือดนก วงหน้าที่ตบแต่งเครื่องสำอางมาอย่างดีเต็มไปด้วยความโกรธจนแทบเห็นรอยแตกของแป้งบนใบหน้า ริมฝีปากสีสดกำลังพ่นคำด่าออกมาเป็นชุดด้วยศัพท์ที่ไม่เกี่ยงว่าจะทำให้ ‘สิ่งกีดขวาง’ ตรงหน้าเธอถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วเฮือกอีก
ขณะเดียวกันด้านมุมน้ำเงินคือ ชายหนุ่มวัยประมาณ 30เศษในชุดสูทสีกรมท่า วงหน้าที่อ้วนท้วนจากการกินดีอยู่ดีเต็มไปด้วยความโกรธไม่ต่างไปจากของแม่เลี้ยงสาว ซึ่งหากว่าไม่ติดที่มี ‘สิ่งกีดขวาง’ แล้ว ร่างหนาก็คงกระโจนเข้าไปบีบคอนังตัวแสบที่มาเกาะพ่อเขากินกว่าสิบปีให้ตายคามือไปนานแล้วเช่นกัน
“จะ...ใจเย็นๆก่อนครับ...”
‘สิ่งกีดขวาง’ หรือก็คือชายหนุ่มนามว่า วินด์ ฮิลล์ พยายามบอกด้วยรอยยิ้มอย่างเต็มฝืน มันเป็นโชคดีอยู่บ้างของคนที่เกิดมาหล่อ ถึงจะให้ฝืนยิ้มแค่ไหน แต่อันว่าคนมันหล่อก็ยังหล่อจนฉุดไม่อยู่..อยู่ดี รอยยิ้มนั้นยังมากพอที่กระชากใจสาว และทำให้หนุ่มแอบหัวใจแกว่งเล็กน้อย แม้ว่าลึกลงไปภายใต้รอยยิ้มนั้น...คือความรู้สึกอยากวิ่งหนีกลับบ้านก็ตาม
ก็ใครล่ะจะคิดว่าแบบทดสอบแรกที่คุณพี่เวสต์ วิซ เอามาให้เขาทำนั้น จะเป็นการไกล่เกลี่ยคดีศึกชิงมรดกระหว่างแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แพทเทิร์นน้ำเน่าสุดเก่าแก่ที่มีให้เห็นกันจนเกลื่อน แต่น่าเสียดายที่ความสนุกจากการได้ยืนมุงดูอยู่ห่างๆ กับการต้องมาไกล่เกลี่ยในฐานะคนกลางนั้น มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง..
นั่นก็เพราะทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่เลี้ยงคนงาม หรือ ลูกชายของเศรษฐีที่ตายไป ต่างก็ล้วนแล้วแต่หมายมั่นปั้นมือว่าเงินมรดกสิบล้านจะต้องตกเป็นของตนเองแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่ตามกฎหมายแล้ว..นั่นสิ ตามกฎหมายแล้วมันควรเป็นของใครกันล่ะ?
ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มผู้จำข้อกฎหมายได้แค่จับคนผายลม หันขวับไปหาคุณรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ห่างออกไปในระยะ 1 เมตรราวกับกลัวใครจะเข้าใจผิดว่ารู้จักกันกับเขา ก่อนจะ...
“รุ่นพี่เวสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสต์....”
เสียงนุ่มทุ้มส่งสัญญาณ SOS ออกไป โดยไม่ลืมที่จะเติม ส ให้ 10 ตัว แถมยังแถมเพิ่มให้อีก 10 ตัวเป็นการสมนาคุณเป็นพิเศษ เผื่อว่าคุณท่านจะยอมใจอ่อนเลิกยืนกระดิกเท้าดู แล้วหันมาทำหน้าที่ตัวช่วยที่ดีเสียที
แต่อันว่าชีวิตคนเรายากลำบากฉันใด การมากับคุณพี่เวสต์ก็ยากลำบากไม่ต่างกันฉันนั้น เมื่อคุณพี่ที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะ เพียงแค่ปรายสายตาสุดเหยียดมองมาแบบที่ถอดข้อความออกมาเป็นรหัสได้อย่างชัดเจนว่า ‘โง่นัก..ตายซะ’
วินด์ ฮิลล์ครางหงิงอยู่ในคอ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ครางออกมาในความเป็นจริง ร่างโปร่งก็กลับมีอันต้องเซถลาไปยังมุมแดงเสียก่อน!!?
“นายต้องจัดการเรื่องนี้ให้ฉัน” นิ้วเรียวงามที่คงจะเรียวงามกว่านี้มากถ้าไม่ติดว่ามันกำลังถูกใช้ขยุ้มคอเสื้อของหนุ่มรูปงามอย่างแรง “คิดว่าฉันปรนนิบัติไอ้แก่นั่นมาเป็นสิบปีเพื่อจะได้กลับบ้านมือเปล่ารึไงยะ!!”
“..คะ...ครับ..คือว่า...ช่วยปล่อยผม...”
“จะบ้ากันเรอะไง!!”
เพียงการกระชากครั้งเดียว ร่างโปร่งก็ปลิวติดมือไปยังมุมน้ำเงินของฝ่ายลูกเลี้ยงผู้กำลังบันดาลโทสะ มือที่อุดมไปด้วยไขมันสองข้างวางลงบนไหล่ของนักกฎหมายผู้ซวยพอจะต้องมารับหน้าที่ในคดีนี้ ก่อนจะเขย่าอย่างแรงจนวินด์ ฮิลล์ถึงกับหัวสั่นหัวคลอน
“ฉันคือลูกชายเพียงคนเดียวของพ่อ เรื่องอะไรจะต้องมาแบ่งมรดกให้กับนังคนหวังสมบัตินี่ บอกมันไปสิว่าเงินทั้งหมดต้องเป็นของฉัน!!”
“ฝันไปเถอะ ไอ้ XXXX .....”
สงครามชิงมรดกซึ่งเริ่มต้นขึ้นด้วยปาก ทำท่าว่าจะพัฒนาเป็นการลงไม้ลงมือ เมื่อฝ่ายสาวเจ้าเริ่มถกกระโปรงขึ้น กรงเล็บคมเงื้อง่าเตรียมใช้เล็บที่ตกแต่งมาอย่างสวยงามให้เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันฝ่ายลูกเลี้ยง แม้จะไม่มีติดอาวุธแบบเล็บคมๆของอีกฝ่าย แต่ชายหนุ่มก็มีข้อได้เปรียบด้วยร่างกายไซส์รอบพุงเท่ากับ XL และกล้ามไขมันบนแขนที่มากพอจะตบคนตายได้
เห็นได้ชัดว่า ศึกวันทรงชัย : คู่ชิงมรดก กำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยอาจได้มีผู้เคราะห์ร้ายคนแรกคือกรรมการห้ามมวยที่ยืนขวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง ทว่าในตอนนั้นเองเวสต์ วิซผู้เสียเวลาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือเพียงชั่วอึดใจ ก็ยอมเอ่ยปากขึ้นในที่สุด
“นายรู้รึเปล่าว่า สินส่วนตัว กับ สินสมรส ต่างกันตรงไหน?”
“รู้สิครับ!!” วินด์ ฮิลล์ตะโกนตอบด้วยความรู้สึกเหมือนกับมีเทพเจ้ากฎหมายมาโปรด ชายหนุ่มรีบพลิก ‘ประมวลกฎหมายมรดก’ ที่ตั้งแต่ได้มาในวันเปิดเทอมครั้งแรกก็ยังไม่เคยเปิดอ่านมาก่อน “สินส่วนตัว พูดกันในภาษาชาวบ้านก็คือ ทรัพย์สมบัติที่ได้มาก่อนแต่งงานครับผม!!”
อ่านจบก็รีบพลิกเปิดหน้าถัดไปอ่านต่อ ด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังถูกหวย
“สินสมรส คือ ทรัพย์สมบัติที่ได้มาหลังแต่งงานครับ รุ่นพี่เวสสสสสสสสสสต์!!”
เวสต์ วิซมองคนที่ปากบอกว่ารู้ แต่เอาเข้าจริงก็ต้องพลิกหนังสืออ่านด้วยสายตาเหยียดเหมือนมองแมลงสาบ แต่อันว่าหลวมตัวเข้ามาช่วยแล้ว..ก็คงได้แต่ต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป
“ผู้ตายคราวนี้มีทรัพย์สมบัติที่เหลือเป็นจำนวน 10 ล้านเกล ตรวจสอบแล้วเป็นสินส่วนตัว 8 ล้านเกล สินสมรสอีก 2 ล้านเกล ถ้านายฉลาดพอที่จะพลิกประมวลฯหน้าถัดไปก็จะรู้ว่า จะต้องแบ่งมรดกยังไง”
วินด์ ฮิลล์จะฉลาดพอหรือไม่นั้นยังน่าสงสัยอยู่ แต่คุณรุ่นพี่อุตส่าห์บอกใบ้ถึงขนาดนี้ ถ้าไม่พลิกหน้าถัดไปเสียหน่อยก็ไม่ใช่คนชื่อ วินด์ ฮิลล์แล้ว
และมันก็ตรงเป๊ะตามคาด คำตอบปรากฏอยู่ในหน้าถัดไป อย่างที่ดูเหมือนว่าคุณรุ่นพี่ที่หล่อสู้เขาไม่ได้คนนี้จะต้องท่องประมวลกฎหมายได้ทั้งเล่มแหงๆ
“อะแฮ่ม ตามประมวลกฎหมายมรดก มาตราที่ 17 วรรคที่ 1 กำหนดว่า สินสมรสจะต้องถูกหักแบ่งออกมาครึ่งนึงให้ทางฝ่ายคุณภรรเมียก่อนจากนั้นจึงเอาส่วนที่เหลือไปรวมกับสินส่วนตัว แล้วค่อยหารแบ่งให้คุณภรรเมียและคุณลูกอีกครั้งในจำนวนเท่าๆกันครับ”
ว่าจบชายหนุ่มก็หยิบเศษกระดาษขึ้นมา ก่อนจะทดเลขลงไปตามประสาคนอ่อนคำนวณขั้นร้ายแรง
“เอ่อ..เริ่มต้นเลยสินสมรสมี 2 ล้าน หารแบ่งให้คุณภรรเมียไปก่อน 1 ล้าน ก็เหลืออีก 1 ล้านไปรวมกับสินส่วนตัวเดิม 8 ล้าน เพราะฉะนั้นสินส่วนตัวจะรวมว่ามีทั้งหมด 9 ล้านเกล จากนั้นก็ต้องเอา 9 ล้านไปหาร 2 ให้คุณภรรเมียกับคุณลูกต่อสินะ...”
คิ้วเรียวเริ่มขมวดน้อยๆอย่างที่มีแต่จะทำให้วงหน้าหล่อเหลายิ่งดูเครียดขรึมจริงจังจนน่าหลงใหล ชายหนุ่มผู้กำลังทุ่มเทความพยายามในการหารเลข จนในที่สุดเวลาก็ผ่านไปอีก 3 นาทีโดยประมาณ
“เรียบร้อยแล้ว ผมขอสรุปนะครับ!!”
วินด์ ฮิลล์แย้มรอยยิ้มกว้าง ดวงตาสีฟ้าใสเป็นประกายพราวเหมือนได้พบรักใหม่ และนี่ก็คือครั้งแรกที่เขาคนนี้ต้องมาจับประมวลกฎหมายมรดก แถมยังเคลียร์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย
“สินส่วนตัว 9 ล้านเกล หารแบ่ง 2 คนจะได้คนละ 5 ล้านเกล เท่ากับว่าคุณภรรเมียได้ไป 5 ล้านเกล บวกส่วนแบ่งจากสินสมรสอีก 1 ล้านรวมเป็น 6 ล้านเกล ส่วนคุณลูกชายได้ไป 5 ล้านเกลครับ!!”
เวลานั้นวินด์ ฮิลล์ไม่ได้เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมคู่กรณีทั้งสองถึงได้มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด จนแม้แต่คำที่คิดจะโต้แย้งเรื่องการแบ่งมรดกต่อก็ยังมีอันต้องพูดไม่ออก ดวงตาสองคู่สี่ข้างทำได้แค่เบิ่งกว้างมองหนุ่มรูปงามนักกฎหมายผู้กำลังยืนหัวเราะอย่างลำพองใจ แม้ว่าเสียงหัวเราะนั้นจะไม่ได้อยู่นานนักก็ตาม...
“ทีหลังลองเอาเครื่องคิดเลขไปต้มกินแก้โง่ก็ดีนะ...”
เป็นคำแนะนำด้วยเสียงทุ้มของนักกฎหมายอัจฉริยะผู้ยอมย่างเท้าเข้ามาใกล้ในที่สุด วงหน้าหล่อเหลาแย้มรอยยิ้มบางๆที่ไม่ได้รับกันเลยกับอาการสุดเหยียดในดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นสีใส ชายหนุ่มเดินมาหยุดลงตรงหน้าของคู่กรณีทั้งสอง ก่อนจะเปิดประมวลกฎหมายมรดกออกอ่าน
“ตามประมวลกฎหมายมรดก มาตราที่ 17 วรรคที่ 1 ผมขอสรุปว่า คุณภรรยาจะได้รับส่วนแบ่งจากสินสมรสเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านเกล และได้รับส่วนแบ่งจากสินส่วนตัวอีก 4.5ล้านเกล รวมเป็น 5.5 ล้านเกล ส่วนคุณลูกชายจะได้รับส่วนแบ่งจากสินส่วนตัวไป 4.5 ล้านเกลครับ”
มือแกร่งกระแทกหนังสือปิดดังปัง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแย้มรอยยิ้มให้กับทั้งสองคนที่ทำท่าจะโต้แย้งต่อ
“ถ้ายังมีปัญหามากเรื่อง ผมคงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในการจับกุมข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่...”
“ไม่ๆๆ พวกเราไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ”
“ใช่ๆๆ ผมพอใจแล้วกับส่วนแบ่งนี่”
มันคงเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมาที่แม่เลี้ยงสาวกับลูกชายจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้ ทั้งสองรีบก้มหัวลงละล่ำละลักขอบคุณ ก่อนจะรีบโกยจากไปให้พ้นจากวงรัศมีที่ดวงตาสีน้ำเงินสุดโหดคู่นั้นจะมองมาถึง และนี่ก็คืออีกหนึ่งความสามารถของชายหนุ่มผู้กำลังจะได้ก้าวขึ้นเป็นผู้พิพากษาในเร็ววัน นั่นคือ สกิลเขม่นกันด้วยสายตา
และนอกจากนี้ก็ยังอีกสกิลหนึ่งที่สองคนผู้วิ่งจากไปไม่ได้รับรู้...
“สุดยอดเลยครับรุ่นพี่เวสสสสสสสสสสต์! ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่ากรณีแบบนี้จับกุมในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานได้ด้วย”
วินด์ ฮิลล์ปลื้มใจสุดขีด ถึงคราวนี้สุดท้ายจะกลายเป็นว่าคนที่ได้รับคะแนนและเงินตอบแทนจะเป็นรุ่นพี่เวสต์ วิซที่มาช่วยปิดคดีให้ แต่ว่าการได้ความรู้ใหม่ในเรื่องดีๆแบบนี้มันก็สุดยอดไปเลย!
“ว่าแต่เมื่อกี้ถ้าคุณสองคนนั่นเค้าถามต่อว่า ขัดขวางในแง่ไหน นี่ควรตอบว่าไงดีครับ?”
“ขัดขวางการพักรับประทานอาหารเที่ยงของเจ้าหน้าที่”
เวสต์ วิซ ตอบด้วยรอยยิ้มเย็น ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้งโดยไม่สนใจอาการอ้าปากค้างของอีกฝ่าย
“เที่ยงครึ่งแล้ว กินข้าวกันเถอะ”
...และนี่ก็คืออีกหนึ่งคดีที่ทำให้วินด์ ฮิลล์คิดว่าตนเองได้รู้จักกับผู้ชายที่ชื่อว่า เวสสสสสสสสสสต์ วิซ เจ้าของฉายาและสกิล ‘เกรียน(ไม่)เงียบ’ ดียิ่งขึ้น...
การฝึกซ้อมทำคดี : คดีที่ 2 จราจร
แม้ว่าดาวดวงนี้จะเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ แต่หากเจาะจงลงไปถึงคุณภาพของประชากรที่อาศัยอยู่ในดาวดวงนี้ หรือหากยกตัวอย่างแค่วินด์ ฮิลล์ เพียงคนเดียวแล้ว มันก็เพียงพอที่จะทำให้ยุคนี้กลายเป็นยุคโลกาวินาศเสียมากกว่า
และความโลกาวินาศที่ว่านั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากทางด้านการคมนาคมที่ถึงจะผ่านไปกี่ร้อยกี่พันปี ก็ต้องมีคนชนแล้วหนีหรือขับรถฝ่าไฟแดงอีกอยู่ดี
จากสถิติแล้วกล่าวได้ว่าใน 1 เดือนจะมีคดีด้านจราจรเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 9,700 คดี ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนนักกฎหมายที่คอยดูแลด้านจราจรแล้ว มันจึงทำให้กลายเป็นความยุ่งยากอย่างมากที่จะสามารถดูแลทั้งหมดได้
ด้วยเหตุนี้การคมนาคมบนท้องถนนจึงกลายเป็นเรื่องที่เป็นจุดบอดที่สุดสำหรับวงการกฎหมาย จนกระทั่งได้มีผู้คิดค้นอุปกรณ์ช่วยเหลือขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ถูกติดตั้งไว้ทั่วทุกสี่แยกแล้ว มันก็ทำให้นักกฎหมายจราจรล้วนแล้วแต่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อุปกรณ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า “จ่าเฉย”
บริเวณสี่แยกแห่งหนึ่ง หุ่นของชายหนุ่มสูง 180 เซนติเมตรในชุดเครื่องแบบสีกากี กำลังยืนประจำนิ่งอยู่บนฟุตบาทรูปวงกลมกลางสี่แยก ดวงตาคู่สีดำที่กลอกไปมาได้แบบ 360 องศา ทั้งยังติดตั้งกล้องวงจรปิดขนาดจิ๋วไว้ด้านใน กำลังทำหน้าที่สอดส่องการทำผิดกฎจราจรอย่างขะมักเขม้น
ซึ่งหากจ่าเฉยสามารถตรวจพบการทำผิดกฎจราจรข้อใดข้อหนึ่ง ภายในห้องเครือข่ายของนักกฎหมายจราจรก็จะมีเสียงออดดังขึ้น จากนั้น..พวกเขาก็จะปรากฏตัว!!
“ประกาศ ตรวจพบรถเก๋งนำเข้า สีดำ ป้ายทะเบียน MMK43 ขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขตชุมชน”
เสียงประกาศดังขึ้นจากปากที่พะงาบขึ้นลงของหุ่นจ่าเฉย และเสียงนั้นยังดังผ่านลำโพงสายในเข้าไปถึงห้องเครือข่ายที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
“กระผม จ่าเฉย หมายเลข 92 จะขอทำการเปิดระบบขนส่ง ณ บัดนี้!”
สิ้นเสียงนั้น หุ่นของชายหนุ่มสูง 180 เซนติเมตร ก็พลันปรากฏแสงสว่างออกมาจากทั้งร่าง ก่อนจะตามด้วยเสียงตะโกนก้อง
“รับทราบ! วินด์ ฮิลล์ นักเรียนกฎหมายปี 1 เริ่มต้นการตามจับคนร้าย!!”
ท่ามกลางสายตาของประชาชีบนท้องถนน ชายหนุ่มรูปงามผู้มีเรือนผมสีดำสนิทพุ่งออกมาจากตัวของหุ่นจ่าเฉยพร้อมด้วยจักรยานแม่บ้านที่ติดตั้งครบทั้งตะกร้าและกระดิ่งอันจิ๋ว ชายหนุ่มตวัดเท้าขึ้นคร่อมจักรยานด้วยท่าทางอันสง่างาม ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการไล่ตามจับคนร้ายที่ขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง...
“รถยนต์สีดำ ป้ายทะเบียน MMK43 กรุณาหยุดให้จับกุมด้วย”
ด้วยการปั่นจักรยานอย่างรุนแรงจนสายโซ่แทบขาด วินด์ ฮิลล์ใช้มือหนึ่งจับแฮนด์จักรยาน ส่วนอีกมือก็ถือโทรโข่งประกาศไล่ตามรถที่แล่นไปไกลจนเริ่มไม่เห็นฝุ่น
“คุณขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตชุมชนที่กฎหมายจำกัดความเร็วแค่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กรุณาหยุดรถแล้วมารับใบสั่งด้วยครับ!”
แล้วใครมันจะหยุดให้โง่.................
ความคิดที่ทุกคนผู้ได้รู้เห็นเหตุการณ์ด้วยความบังเอิญต่างก็คิดอยู่ในใจ แต่ไม่มีใครกล้าพอจะพูดกับหนุ่มรูปงามที่ปั่นจักรยานด้วยท่วงท่าที่ยังคงสง่างามไม่เปลี่ยน แม้ว่าเมื่อผ่านไปเพียง 5 ล้อถีบ เท้าที่ปั่นจักรยานก็เริ่มช้าลง..ช้าลงเรื่อยๆ
“เฮ่อ...เหนื่อยจัง...”
ร่างสูงฟุบลงไปเอาตัวพังพาบกับจักรยานที่เพิ่งถูกใช้งานยังไม่ถึง 5 นาที แต่เจ้านายผู้น่าสงสารซึ่งแทบไม่เคยออกกำลังกายก็ดันหมดแรงข้าวต้มเสียก่อนแล้ว
“นอกจากหน้าตาแล้ว นายยังพอหาอย่างอื่นไปคุยอวดคนอื่นเค้าได้อีกมั้ย?”
เสียงนุ่มทุ้มแต่เยียบเย็นดังขึ้นข้างกาย ให้คนที่หมดแรงแล้วถึงกับผวาหันไปมองคุณรุ่นพี่ที่โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง หรือที่จริงแล้วการมาของเวสต์ วิซก็คงมีเสียงอยู่บ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะถูกเสียงหอบด้วยความหมดแรงของวินด์ ฮิลล์ดังกลบจนสิ้น
“รุ่นพี่เวสฯต์!!?”
ดวงตาคู่สีน้ำเงินปรายมองมา ก่อนที่รอยยิ้มบางๆแบบรอยยิ้มการค้าจะปรากฏบนมุมปากได้รูป
“ฉันไม่นับว่า ฯ เท่ากับ ส.เสือ 9 ตัวหรอกนะ”
ว่าจบมือก็สวมหมวกกันน็อคลงกับหัวตนเอง ขณะที่วินด์ ฮิลล์ที่กำลังสยดสยองจากสายตาข่มขวัญของรุ่นพี่ เพิ่งจะได้สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบ 4 สูบ สีชมพูสะท้อนแสงของเครื่องยนต์แสบตาจนแทบไม่กล้ามองกันตรงๆ
และจากการเสียเวลาในการหรี่ตาดูเพียงชั่วครู่ชั่วยามนี่เอง เมื่อวินด์ ฮิลล์ลืมตาขึ้นดูอีกครั้งก็พบว่า ชายหนุ่มผู้เป็นความหวังแห่งวงการกฎหมาย ได้ขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปตีคู่กับรถคันนั้นเสียแล้ว!!
...มีอะไรที่รุ่นพี่ทำไม่ได้บ้างเนี่ย..!!?
“ช่วยหยุดรถด้วยครับ...”
เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเยือกเย็น ขณะที่กระจกรถถูกลดลง ก่อนที่เด็กหนุ่มคนขับจะชะโงกหน้าออกมา
“ไม่อยากหยุด มีไรมั้ย?”
เด็กแว้นในรถตะโกนตอบกลับมาอย่างไร้ความเกรงกลัว แถมด้วยการแลบลิ้นปลิ้นตาให้กับคนหน้าหล่อที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้พกอาวุธติดตัว หากน่าเสียดายที่เขาไม่ได้รู้เลยว่าสำหรับนักกฎหมายแล้ว..ประมวลกฎหมาย คือ อาวุธที่ดีที่สุด!!
เมื่อตลอดชีวิตของนักกฎหมายสิ่งเดียวที่เชื่อถือได้คือ “ประมวลกฎหมาย” หนังสือที่รวบรวมกฎหมายทุกข้อของแต่ละประเภทเอาไว้ โดยที่ประมวลกฎหมายก็จะมีอยู่มากมายหลายชนิด ทั้งประมวลกฎหมายมรดก ประมวลกฎหมายจราจร ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
เมื่อพบเห็นผู้กระทำผิด นักเรียนกฎหมายจะเปิดหนังสือประมวลกฎหมายและอ่านบทลงโทษตามที่ระบุไว้เป็นมาตรา ซึ่งมีกฎละเอียดยิบย่อยในการใช้อยู่มากมาย แต่โดยหลักๆแล้วคือ ความผิดที่เกิดขึ้นต้องตรงกับมาตรากฎหมายข้อที่อ่าน และ ออกเสียงตัวสะกดถูกต้อง
หากทำได้ถูกต้องครบถ้วน เชือกหรือโซ่ขนาดยักษ์...ซึ่งขึ้นอยู่กับเลเวลของหนังสือประมวลกฎหมายที่ซื้อมา ยิ่งมีเลเวลสูง ราคาก็จะยิ่งแพง และอุปกรณ์ในการจับกุมก็จะยิ่งแน่นหนามากขึ้น...ก็จะพุ่งออกไปมัดตัวผู้ร้ายไว้ เป็นอันจับกุมสำเร็จ
นอกจากนี้การได้คะแนนและค่าตอบแทนนั้นก็จะเกิดขึ้นผ่านทางหนังสือประมวลกฎหมายที่ใช้เป็นสื่อกลางกับฐานข้อมูลขององค์กรกฎหมายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อประมวลกฎหมายให้ ‘คุณ’ ได้ ก็ย่อมให้ ‘โทษ’ ได้เช่นกัน สำหรับคนที่ใช้ประมวลกฎหมายไม่ถูกต้อง เช่น พบตัวผู้ร้ายที่ยักยอกเงินจากธนาคาร แต่กลับอ่านมาตรากฎหมายว่าด้วยโทษจากการฆาตกรรม ซึ่งเป็นความผิดคนละประเภทกัน ผลที่เกิดขึ้นคือการจับกุมนั้นจะพุ่งย้อนกลับมาหาตัวผู้อ่าน และยังเสียคะแนนประสบการณ์อีกด้วย
ตามปกติแล้ว นักเรียนกฎหมายทั่วไปจะพกหนังสือประมวลกฎหมายแค่คนละประเภทเพื่อป้องกันการสับสน ในกรณีของวินด์ ฮิลล์นั้นมักจะพกประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมไว้ใช้ ส่วนในกรณีของเวสต์ วิซ.......
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้กับเด็กแว้นที่กล้าพอจะมาต่อปากต่อคำกับเขา แล้วมือก็คว้าหนังสือประมวลกฎหมายจราจรขึ้นมาอ่าน
“ตามประมวลกฎหมายจราจร มาตราที่ 3 คุณขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตจำกัดความเร็ว มีโทษปรับ 1,000 เกลและยึดใบขับขี่เป็นการชั่วคราว กรุณาหยุดรถด้วยครับ”
ครั้งนี้ถึงไม่อยากหยุดรถก็ยังต้องหยุด...!?
เมื่อทันทีที่เวสต์ วิซอ่านข้อความในประมวลฯจบ ตะปูเรือใบไซส์ใหญ่สุดก็พุ่งออกมาจากประมวลฯอย่างดีที่ซื้อมาในราคาเล่มละ 1,000 เกล และเจาะยางทั้งสี่เส้นแตกในพริบตา!!
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ”
เวสต์ วิซส่งยิ้มการค้าให้กับผู้ทำผิดกฎจราจรที่รีบลนลานคว้ากระเป๋าตังค์มาจ่ายค่าปรับ ซึ่งกว่าที่วินด์ ฮิลล์จะปั่นจักรยานตามมาถึงนั้น รถป้ายทะเบียน MMK43 ก็ถูกเข็นไปจอดที่ข้างทางเสียนานแล้ว
“มาซะทีนะ..”
ชายหนุ่มรุ่นพี่ปรายตาเชือดเฉือนมองคนที่เพิ่งปั่นจักรยานมาถึงด้วยอาการเหนื่อยหอบ วินด์ ฮิลล์ที่พอก้าวเท้าลงจากจักรยานได้ก็แทบจะทรุดลงไปนอนหมดแรงอยู่ตรงนั้น
“ช้ามาก ต่อให้นายเดินมาก็ยังน่าจะมาถึงเร็วกว่านี้เลย”
“พอดี..ผมเจอคดีน่าสนใจเข้าน่ะครับ” วงหน้าหล่อเหลายังคงยิ้มออกแม้ในยามที่เหงื่อไหลโซมใบหน้า โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ที่ทำให้เขายังเป็นปลื้มไม่หาย “เมื่อกี้เด็กขายพวงมาลัยตรงสี่แยกแอบผายลมกลางถนนครับ นี่ถ้าไม่ใช่ว่าผมเป็นเซียนด้านนี้ รับรองเลยว่าเด็กหนุ่มคนนั้นคงรอดตัวไปแล้ว!”
ว่าจบก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ วงหน้าหล่อเหลายังคงฉีกยิ้มจนแก้มแทบปริอย่างที่เชิญชวนให้เวสต์ วิซนึกอยากเอาประมวลกฎหมายตบสั่งสอนสักทีสองที เผื่อไอ้เจ้าบ้าคนนี้จะได้เลิกเอาแต่ตามจับคดีไร้สาระพวกนั้นซะที
อย่างไรก็ตาม..นี่มันก็เพิ่งจะแค่วันแรกเท่านั้นที่พวกเขาต้องมาจับมือกันในฐานะคู่หู ดังนั้นเองชายหนุ่มจึงยอมอ่อนข้อให้ ด้วยการใช้แค่ปลายเท้าเตะสะกิดเข้าให้ทีหนึ่ง
“ลุกขึ้น ได้เวลาไปสถานที่เกิดเหตุในคดีฆาตกรรมหลักที่นายต้องรับผิดชอบแล้ว”
“เอ๋? แต่ตอนแรกรุ่นพี่บอกว่าจะให้ผมไปทดลองจับฆาตกรคดีง่ายๆเป็นการลองเชิงดูก่อนไงครับ?”
วินด์ ฮิลล์ถามด้วยความสงสัย กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่กล้าขัดอะไร นอกไปจากรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามอีกฝ่ายที่กำลังเดินจ้ำห่างออกไป พร้อมกับเปิดดูแผนที่จากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ในมือไปด้วย
“ไม่จำเป็นแล้ว...แค่ 2 คดีนี้ ฉันก็รู้แล้วว่าถึงจะให้นายฝึกซ้อมก่อนอีกสักกี่คดี..” เวสต์ วิซ หันกลับมามองพร้อมด้วยรอยยิ้มเย็น “...มันก็ไม่ทำให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาหรอก”
“รุ่นพี่พูดแบบนี้หมายความว่า...” วินด์ ฮิลล์เบิกตากว้าง ดวงตาคู่สีฟ้าเป็นประกายวิบวับ “ในที่สุดก็ยอมรับความสามารถของผมแล้วสินะครับ มันแน่นอนอยู่แล้วว่าคนอย่างผมน่ะไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมอะไรเพิ่มแล้ว!”
มือขาวเนียนยกขึ้นเสยผมตัวเองอย่างหล่อ รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าของคนที่เข้าใจความหมายในคำพูดของเวสต์ วิซผิดอย่างจัง ชายหนุ่มเดินฮัมเพลงตามรุ่นพี่สุดโหดไปด้วยอาการระรื่น ความดีใจที่ถูกยอมรับในความสามารถทำให้วินด์ ฮิลล์ไม่ทันสังเกตเห็นว่าพวกตนกำลังเดินเข้ามาในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ลิฟท์เลื่อนไปหยุดที่ชั้น 6 ก่อนที่เวสต์ วิซจะเดินนำมาที่หน้าห้อง 6 0 2
“ห้องนี้แหละ ฉันเชิญให้ผู้ต้องสงสัยมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสอบปากคำแล้ว เผื่อการสอบปากคำในที่เกิดเหตุจะทำให้นายเห็นภาพรวมได้ชัดเจนขึ้น” ชายหนุ่มว่าหลังจากก้มลงดูที่อยู่ในสมุดจดให้แน่ใจ “เข้าไปได้เลย ประตูไม่ได้ล็อคกุญแจไว้”
“ได้เลยครับ!!”
ด้วยไฟแรงเกินร้อย วินด์ ฮิลล์ผลักประตูดังผัวะ เท้าซ้ายก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไป แต่ก่อนที่จะได้ชักเท้าขวาตามนั่นเอง...
ฉึก!
เสียงนิ่งๆแต่ชวนเร้าใจให้เย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง ดวงตาคู่สีฟ้าที่เคยมองตรงไปด้านหน้าค่อยๆก้มลงมองวัตถุชั่วร้าย..เจ้าของเสียงที่ร่วงลงมาจากด้านบนของประตูห้อง และปักด้านคมของมันลงตัดสายหูคีบอีแตะของเขาอย่างพอดิบพอดี
“มะ..มะ..มะ..มะ..มะ..มะ..มะ..มีด...”
เวสต์ วิซชะโงกหน้าเข้ามาดูจากด้านหลังของรุ่นน้องที่ไม่เพียงแต่จะเป็นโรคโง่แต่ยังแถมท้ายด้วยโรคติดอ่างเข้าไปอีกโรคหนึ่ง ดวงตาคู่สีน้ำเงินมองมีดที่ปักคาอยู่กับสายคีบอีแตะของอีกฝ่ายแวบหนึ่ง แล้วรอยยิ้มอันสุดแสนจะแจ่มใสก็กลับมาปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง
“สายคีบรองเท้าแตะขาดแบบนี้ โบราณเค้าว่าลางร้ายจะมาเยือนนะ”
มือตบลงบนหลังของวินด์ ฮิลล์เบาๆ เมื่อช่วยอธิบายเพิ่มด้วยน้ำเสียงเอาบุญ
“มีรายงานแจ้งมาว่านักเรียนกฎหมายที่เคยรับผิดชอบคดีนี้ถูกหามส่งโรงพยาบาลไปแล้ว 3 ราย ยังไงก็พยายามเข้าละกันนะ คุณเจ้าของสถิติซ้ำชั้น 3 เทอม”
เสียงหัวเราะที่ดังอยู่ข้างหูช่างฟังบาดจิตบาดใจเสียนี่กระไร วินด์ ฮิลล์ก้มลงมองมีดที่ปักตรึงกับพื้นรองเท้าของตัวเองด้วยความรู้สึกพูดไม่ออก บางทีกลับบ้านไปเย็นนี้ เขาคงต้องเขียนข้อความในจดหมายถึงคุณลุงเพิ่มเสียแล้ว...
ปลล. คุณลุงกั๊บ..ผมเริ่มอยากเลิกเรียนกฎหมายแล้วล่ะกั๊บ...
- - - - TBC. - - - -
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า >< สำหรับเรื่องแผนรักฉบับแคลคูลัสก็ยังแต่งต่ออยู่นะคะ ถึงจะคืบหน้าอย่างช้ามากๆก็เถอะ OTL เพราะว่าพอดีมีธุระด่วนจี๋ทำให้ต้องแต่งเรื่องนี้นำหน้าแซงทางโค้งมาก่อน เรื่องอื่นเลยต้องหยุดก่อนเป็นการชั่วคราวน่ะค่ะ T T
Langlae
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ม.ค. 2555, 15:13:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ม.ค. 2555, 15:13:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 1451
<< บทนำ+มาตราที่ 1 | มาตราที่ 3 >> |
Edelweiss 6 ม.ค. 2555, 20:40:37 น.
โถ่ พ่อวินด์ ฮิลล์ จะกะล่อนเป็นหาคุณลุงว่าัยังไงอีกล่ะเนี่ย
ส่วนชื่อ เวสสสสสสสสสสต์ ฮามากค่ะ(พิมพ์ไปต้องนับ ส ไป) ;P
โถ่ พ่อวินด์ ฮิลล์ จะกะล่อนเป็นหาคุณลุงว่าัยังไงอีกล่ะเนี่ย
ส่วนชื่อ เวสสสสสสสสสสต์ ฮามากค่ะ(พิมพ์ไปต้องนับ ส ไป) ;P
แว่นใส 7 ม.ค. 2555, 23:42:45 น.
ตลกดีจริง
ตลกดีจริง