พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 15."หากผมไม่รับของละครับ"

15.


เมื่อแนะนำให้กุลกัญญารู้จักกับชัชชัยแล้ว ชัชชัยก็หิ้วของพะรุงพะรังของสองสาวเดินนำหน้าขึ้นสะพานลอยข้ามฝั่งเดินไปยังที่รับฝากรถ

ในสายตาของกุลกัญญานั้น รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้คิดกับมาลีอย่างไร ความหวานชื่นปรากฏในอารมณ์ของกุลกัญญาทันที โลกจะเป็นสีชมพูเมื่อคนมีความรัก ผู้อ่านคงจะชอบฉากพ่อแง่แม่งอน และคงอยากจะรู้ว่าคู่พระคู่นางคู่นี้จะลงเอยกันอย่างไร แล้วถ้าพี่ชายของเธอเป็นตัวเลือกอีกคนของมาลีล่ะ มาลีจะเลือกใคร แค่นึกถึงพล็อตเรื่องใหม่ กุลกัญญาก็ยิ้มกริ่มขึ้นมา

“เป็นอะไรกุล”

มาลีที่นั่งอยู่บนเบาะหลังคู่กัน เห็นกุลกัญญามองออกไปนอกรถแล้วยิ้มหวานเรี่ยราดไป จึงอดถามไม่ได้

“คิดเรื่อยเปื่อยนะ นักเขียนน่ะมาลี ก็หาแรงบันดาลใจไปเรื่อย พอนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ยิ้มปลื้มไว้ก่อน”

“เรื่องเป็นอย่างไรเหรอ” มาลีซักไซ้เพราะอยากรู้วิธีการคิดของคนเหล่านี้เหมือนกัน

“ก็หนึ่งหญิงสองชาย ผู้ชายรักผู้หญิง ผู้หญิงรักผู้ชายอีกคน”

“แล้วผู้ชายอีกคนที่ว่ารักผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า” ชัชชัยแทรกขึ้นมา

“คุณชัชชัยอยากให้รักหรือเปล่าล่ะ”

ด้วยตัวละครตัวแรกคือภาพของชัชชัย ดังนั้นกุลกัญญาจึงต้องถามเอาความรู้สึก

“ผมก็คงไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นรักผู้หญิงคนที่เขารักหรอกครับ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาเรียกว่าคู่แข่ง”

“มีคู่แข่งไม่ดีหรือคะ คนอ่านเขาชอบวิธีทำคะแนนนะกุลว่า”

ชัชชัยนิ่งตรอง

“เรื่องของคุณกุลพิมพ์ที่ไหนหรือครับ”

“ไม่มีหรอกค่ะ เขียนเล่นๆ ลงตะกร้าขยะบอกอไปเรื่องเดียวเอง นี่กุลก็เลยกำลังพล็อตเรื่องใหม่อยู่ มาวันนี้ก็ได้แรงบันดาลใจเยอะทีเดียว เอ้าตกลง ชอบหรือไม่ชอบที่จะมีคู่แข่ง”

“ถ้าเราแพ้เราก็ไม่ชอบหรอกครับ”

“แล้วทำไมเราไม่ทำให้ชนะล่ะคะ”

“ก็จะพยายามเอาชนะให้ได้”

น้ำเสียงนั้นคล้ายกับจะบอกกับคนที่นั่งคู่กับกุลกัญญา แต่มาลีหาได้สนใจฟังเรื่องที่คนทั้งคู่สนทนา ยามนี้ตาของมาลีมองออกไปนอกรถ เห็นถึงสัมมาอาชีพมากมายที่คิดว่าตนเองจะทำได้หรือไม่ คนกวาดถนน คนเข็นรถขายของตามฟุตบาท หรือเจ้าของกิจการร้านรวงเล็กๆ ที่ต้องผจญฝุ่นควันเหล่านี้

แล้วมาลีก็นึกถึงกลยุทธ วันหยุดแบบนี้เขาจะไปไหน ทำอะไร ออกเที่ยวต่างจังหวัดกันอีกหรือเปล่า ที่ทำงานเขาอยู่แถวสีลม แต่ไม่ใช่ตึกที่ชัชชัยพาไปทานอาหารวันนั้น ในแผนที่ก็ไม่ได้ระบุตึกต่างๆ บนถนนด้วย มาลีจึงไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหนของถนนสีลม

ถ้าได้มีโอกาสเจอกัน เธอกับเขา หรือว่าเขาจะปฏิบัติกับตนอย่างไร ยังจะมีสายตาอาวรณ์ให้เธอเห็นอีกไหม เมื่อคืนนี้แม้แต่น้ำเสียงของเขาแสดงว่า เขาชอบเธอ เธอล่ะ ยังเด็กไป คนละชั้นเลย เขาคงไม่คิดจริงจัง อาจหวังแค่เล่นๆ ถ้าแค่เล่นๆ ให้เขาจีบได้แต่จะไม่ถลำตัว

“มาลี” กุลกัญญาเรียกชื่อเพื่อดึงมาลีให้ตื่นจากภวังค์

“อะไร ตกใจหมดเลย”

“เราชวนคุณชัชชัยทานข้าวที่บ้านด้วยนะ”

“ตามใจเจ้าของบ้านซิ แล้วพี่ชายกุลไม่ว่าเอาเหรอ ชวนคนแปลกหน้าหน้าตาแปลกๆ เข้าบ้าน”

“ไม่ว่าหรอก ไม่ได้ไม่มีหัวนอนปลายเท้าซะเมื่อไหร่ล่ะ”

ด้วยพอรู้ชื่อและนามสกุล กุลกัญญาก็ถึงบางอ้อขึ้นมา ในหนังสือเลดี้วีค เขาเป็นคอลัมนิสต์เรื่องเกี่ยวกับท่องเที่ยวแนววิถีชีวิตชาวบ้าน แบบนี้ก็มีหวังที่จะให้เขาพาผลงานของเธอถึงมือบก. และบก.ก็จะตอบรับโดยตรง โดยไม่ทิ้งให้เธอตั้งตารออย่างไร้ความหวังแบบนี้


ขณะที่รถของชัชชัยแล่นไปถึงแยกถนนรัชดาฯ กุลกัญญาก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่ชาย “กุลพี่ทำอาหารไว้ให้แล้วนะ มีต้มยำหัวปลีเนื้อสะโพกไก่ที่กุลชอบ ผัดผักรวมมิตร ไข่เจียวหมูสับอีกจาน ข้าวพี่ตักใส่หม้อแบ่งไว้ให้แล้วนะ จานพี่ก็จัดไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว”

“อ้าวแล้วพี่จะไปไหน”

“พอดีคุณรมณีย์เธอมารับไปข้างนอก พี่ก็เลยไม่ว่างกะทันหัน ไม่โกรธพี่นะ บอกเพื่อนกุลด้วยว่าพี่ขอบใจ ตามสบายนะ ไม่เป็นไรนะ”

พี่ชายวางโทรศัพท์ไปแล้ว กุลกัญญาถอนหายใจออกมา ก็ตัวละครอีกตัวไม่อยู่เสีย แล้วฉากเผชิญหน้าสามคนก็ไม่เห็นภาพนะซิ กุลกัญญายังนึกสนุก โดยหารู้ไม่ว่า พล็อตที่เธอคิดไว้นั้นเป็นเรื่องชิงรักหักสวาทยิ่งกว่าในนิยายที่เธอจะแต่งขึ้นมาเสียอีก



รถของชัชชัยเลี้ยวเข้ามาในหมู่บ้าน เมื่อผ่านซอย 4 มาลีอดมองไปยังหน้าบ้านของตนเองไม่ได้ ดีแต่ว่าไม่เห็นรถของนันทาจอดอยู่ เมื่อไม่กลับก็ไม่มีใครบ่น แล้วรถของชัชชัยก็แล่นต่อไปยังซอย 12 ซึ่งจะเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็กๆ มีสภาพเก่ากว่าบ้านแถวต้นซอย แต่ข้อดีคือมีต้นไม้ขึ้นระหว่างรั้วเกือบทุกหลัง ทำให้รู้สึกชื่นใจกว่าบ้านทาวเฮ้าส์แห้งแล้งสีเขียวของนันทา


“ลงมาเลยค่ะยินดีต้อนรับสู่บ้านกุลกัญญา ว่าที่นักเขียนชื่อดัง” กุลกัญญาจงใจให้เขาได้ยิน เผื่อบางที เขาคงจะได้คุยกับบก.ถึงเรื่องที่เธอส่งต้นฉบับไปให้ทางเลดี้วีคพิจารณา

ชัชชัยปิดประตูพร้อมกับบิดขี้เกียจอ้าปากหาวอย่างสบายๆ มาลีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันอยากจะเอานิ้วกระแทกปากซะจนระงับความอยากไว้ไม่อยู่ เมื่อหล่อนจะกระแทกจริงๆ เขาก็ไล่งับอย่างหยอกเอิน กุลกัญญาสังเกตและเก็บทุกอิริยาบถของคนสองคนไว้ในใจ

เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านแล้ว มาลีจึงได้เห็นว่าบ้านหลังนี้มีรถยนต์คันกลางเก่ากลางใหม่ มอเตอร์ไซค์เก่าๆ และจักรยานคันที่กุลกัญญาปั่นไปที่สวนในวันนั้นจอดอยู่ ที่ใต้ร่มมะม่วงในรั้วฝั่งประตูเข้าตัวบ้านจัดเป็นสวนน้ำ มีน้ำตก มีปลาหางนกยูงและมีชิงช้าเหล็กดัดวางไว้

กุลกัญญาขอตัวเข้าบ้านทำธุระส่วนตัวก่อน ส่วนมาลีปรี่เข้าไปหามุมนั้นทันที ชัชชัยเห็นรอยยิ้มของมาลีแล้วเขาก็ยิ้มที่มุมปาก

“คงคิดถึงบ้านซินะ”

“ไป ทำไมที่สวน” มาลียังข้องใจเรื่องที่บังเอิญพบกันในตลาดนัดสวนจตุจักร

“ไปหาเพื่อน บังเอิญเห็นคุณเดินอยู่ก็เลยเดินตาม อยากชวนกลับด้วยกันก็แค่นั้น ไม่มีอะไร”

ชัชชัยโกหก อันที่จริงใจเขาจะขาดเสียให้ได้ ด้วยเดินจนรอบตลาดก็หาเห็นแววมาลีกับเพื่อน จนกระทั่งเขาคิดว่า คนทั้งคู่คงกลับบ้านกันไปแล้ว เขาจึงตั้งใจจะเดินกลับมาที่รถ ซึ่งจอดอยู่บริเวณแถบร้านหนังสือที่เขาเองก็ต้องพึ่งพิงซื้อหาเพื่อหาข้อมูลอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งได้เห็นมาลี เขาจึงรู้สึกว่า ‘พระพรหม’ คงลองใจเขาเป็นแน่

“ก็ดีเหมือนกัน สะดวกดีแถมประหยัดค่ารถด้วย อีกอย่างกุล

กัญญาก็ไม่ค่อยสบายด้วย แบบนี้ก็ดีจะได้ไม่เหนื่อยมาก”

“เป็นอะไร”

ชัชชัยมีสีหน้าเป็นห่วงขึ้นมา มาลีหันไปมองผ่านประตูกระจกที่มีเหล็กดัดกันขโมย เห็นว่ากุลกัญญายังไม่ลงจากชั้นบนจึงพูดต่อว่า

“เปลี่ยนไตแล้วกินยากดภูมิ”

ชัชชัยพยักหน้ารับ รู้ดีว่าโรคนี้สิ้นเปลืองเงินทองและมีโอกาสเสียชีวิตได้หากดูแลตัวเองไม่ดี ชัชชัยลอบมองสภาพบ้าน ประเมินฐานะทางการเงิน คนหาเงินรักษาคงต้องลำบากน่าดู

“พ่อแม่เขาล่ะ” ชัชชัยยังซักไซ้เอากับมาลี

“เสียชีวิตหมดแล้วค่ะ”

มาลีทำเสียงลอดไรฟันออกมา ขณะก้มลงใช้นิ้วชี้แหย่ไปในบ่อปลา

เมื่อรู้เรื่องของกุลกัญญา ชัชชัยนึกถึงต้นฉบับที่กุลกัญญาบอกทันที เธอคงมีความหวังกับนิยายเรื่องนั้น แต่เขาก็พอรู้ว่าพื้นที่ของเลดี้วีคนั้นถูกนักเขียนนามอุโฆษรุ่นเก่ายึดหัวหาดไว้หมดแล้ว ยากที่หน้าใหม่จะได้ลงเรื่องที่นั่น แต่ถ้าเรื่องมันแย่ ‘ไม่เป็นสับปะรด’ ก็ยากที่จะช่วยกันอีก

“เชิญเข้าบ้านก่อนค่ะ อาหารพร้อมแล้ว กันเองๆ นะคะคุณชัชชัย ฝีมือพี่ชายกุลเองค่ะ”

กุลกัญญาล้างหน้าล้างตาแล้วลงมาร้องบอก มาลีจึงพยักหน้าให้ชัชชัยเข้าบ้านพร้อมกันกับตน

เมื่อเข้าไปในบ้าน สิ่งที่สะดุดตามาลีอย่างแรงนั้นก็คือ รูปถ่ายหน้าตรงสวมชุดครุยบานใหญ่ของคุณกลยุทธ วงศ์พระจันทร์ มาลีใจเต้นแรง มันคือลิขิตจากสวรรค์อย่างนั้นหรือ ทำไมเธอกับเขาต้องวนเวียนกลับมาพบกันอีกรอบ

“มานั่งที่นี่เลยค่ะ” กุลกัญญารีบจัดการกับแขกสองคน
มาลีเดินตามไป เหมือนกับที่ชัชชัยไม่ชักช้าเช่นกัน

“กุลอ่านคอลัมน์ของคุณชัชทุกเรื่องทุกฉบับเลยนะ”

สายตาของชัชชัยอยู่กับหนังสือเลดี้วีคที่วางเรียงอยู่บนชั้นหนังสือ ซึ่งมีตั้งแต่เล่มบางๆ เก่าๆ จนถึงเล่มหนาในปัจจุบัน

“แฟนพันธุ์แท้จริงๆ ครับ เชื่อแล้ว” ในคำว่าเชื่อแล้วนั้น เขายิ่งอยากช่วยเด็กผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาอีก
“มีแข่งแฟนพันธุ์แท้เลดี้วีคเมื่อไหร่ก็โทรมาตามกุลซิ” มาลีร่วมเสนอความคิดเห็น

“คุณแม่รู้คงดีใจมากๆ เลยครับ”

“ทำไมหรือคะ”

“แม่ผมเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้”

“อ้าวเป็นลูกชายหรือคะ คนละนามสกุลนี่” กุลกัญญาดีใจระคนแปลกใจ

“ผมใช้นามสกุลของพ่อครับ”

“ทีแรกก็คิดว่าคุณเก่งจังเลยมีคอลัมน์ประจำตั้งแต่อายุยังน้อย”

“ผมไม่เก่งแต่อาศัยมีโอกาสครับ”

“แบบนี้คุณก็ช่วยพูดกับคุณแม่คุณได้ซิ” มาลีรีบพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“คงพูดได้ แต่ได้ลงหรือไม่นั้น ผมว่าคอมเม้นต์จากบรรณาธิการน่าจะสำคัญกว่านะครับคุณกุล” เขายังไม่ให้ความหวังทั้งหมด

“ค่ะนั่นแหละค่ะคือสิ่งที่กุลต้องการ เรื่องได้ลงไม่ได้ลง กุลก็ทำใจไว้ห้าสิบห้าสิบ แต่ไม่ได้ลงเพราะอะไรมันจะทำให้งานเราพัฒนาไปได้ ขอบคุณคุณชัชชัยล่วงหน้านะคะ”

กุลกัญญายิ้มกว้าง มาลียิ้มดีใจกับกุลกัญญา และแลไปหาชัชชัย เธอเห็นแววตาเมตตาในหน่วยตาของเขา เขาแลสบกลับมาหา ตาประสานกัน มาลีรีบหลบสายตามองลงไปยังอาหารบนโต๊ะทันที เขาคือผู้ชายต้องห้าม


เมื่อจัดการกับอาหารมื้อที่คุณกลยุทธเป็นคนทำ มาลีจึงรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าปกติ อากัปกิริยานั้นไม่ได้อยู่นอกสายตาของชัชชัยเอาเสียเลย ภาพที่มาลีตักข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยแบบไร้จริตนั้นทำให้เธอน่ารักขึ้นอีก
เมื่อลุกออกจากโต๊ะอาหาร เขาเสมองดูของแต่งบ้านที่เป็นจำพวกเครื่องแก้ว เก่าๆ ในตู้โชว์และที่สะดุดตาอีกชิ้นนั้นคือรูปของครอบครัว คือมีพ่อแม่ลูกชายลูกสาวที่ยิ้มร่าดูมีความสุข ถึงแม้วันนี้พวกเขาจะอยู่อย่างเจ็บปวด แต่ดูแล้วในอดีตความหวานชื่นและความอบอุ่น คงเป็นยาใจให้พวกเขาได้จนถึงปัจจุบัน
ชัชชัยไถลไปหยุดที่ชั้นหนังสือเลดี้วีค ก่อนจะค่อยๆ เลาะมาที่รูปถ่ายของพี่ชายกุลกัญญาที่เขารู้สึกคุ้นๆ หน้า

พ่อรูปหล่อนี่มันคนเดียวกับผู้ชายคนที่รมณีย์ควงไปเป็นข่าวด้วยในคืนนั้น รมณีย์ชอบผู้ชายที่มีเพียงเท่านี้ได้จริงๆ หรือ นายณรงค์เดชยอมอย่างนั้นหรือ แล้วเขาล่ะ ถ้าเขาเกิดคิดตกล่องปล่องชิ้นกับมาลี พ่อจะว่าอย่างไร ป่านนี้พ่อเอาเขาไปแนะนำกับลูกไฮโซที่ไหนอีก

เมื่อคิดจริงจัง เขาก็เริ่มคิดสางปัญหาที่จะเกิดขึ้น พ่อไม่มีสิทธิ์มีเสียงกับชีวิตของเขาอีกแล้ว มีแต่แม่เท่านั้น แล้วแม่จะรับผู้หญิงบ้านป่าแต่งตัวธรรมดาได้ไหมหนอ อยากพามาลีไปให้แม่ดูตัวเหลือเกิน แม่จะทำอย่างไร แม่จะดีใจไหม

ชัชชัยครุ่นคิดจนกระทั่งรถแล่นจากซอย 12 กลับมาที่ซอย 4 ไฟในบ้านยังปิดเงียบ มาลีมองไปยังถุงสินค้าที่อยู่เบาะหลัง ประมาณการในใจว่า ชัชชัยจะลงจากรถหรือจะกลับบ้านเลย แต่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วเปิดประตูลงไปไขประตูรั้ว เดินไปไขประตูบ้าน แล้วเดินกลับมารับมาลีที่หิ้วถุงออกมาจากรถ

“ช่วยตัวเองได้”

มาลีปฏิเสธ เขาไม่ต่อปาก แต่ก็ไม่ได้หยุดพฤติกรรมที่ทำให้มาลีรู้สึกหวั่นไหว ชัชชัยเดินไปในบ้านเปิดประตูนำทาง มาลีถือถุงมาหยุดถอนหายใจ ใจหนึ่งก็อยากขอบคุณที่เขาเป็นคนขับรถไปรับกลับมา แต่อีกใจ “กลับบ้านได้แล้ว จะนอนแล้ว”

มาลีไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญ แต่เสียงนั้นหาทำให้ชัชชัยมีพฤติการณ์เปลี่ยนไปแต่อย่างใด ชายหนุ่มยังเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องน้ำส้มออกมาเทใส่แก้วสองแก้ว แล้วก็ถือไปส่งให้มาลีที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนโซฟา

“ได้อะไรมาบ้างวันนี้”

เขาทำท่าจะเปิดถุงดู

“ของผู้หญิงทั้งนั้นแหละ” มาลีรีบรวบปากถุงไว้

ชัชชัยเหลือบมองในถุงพลาสติกใส แค่เห็นลายผ้าก็เดาออกว่าข้างในเป็นชุดอะไร แต่เขาก็คิดว่าพูดถึงเรื่องหนังสือดีกว่า แต่อีกใจก็คิดว่า ถ้ามาลีแต่งตัวอย่างนันทาหรือกุลกัญญาจะทำให้เธอน่าดูขึ้นอีกไหมหนอ

“ซื้อหนังสืออะไรมา”

“หนังสือแบบเรียน” มาลีพูดไปเสียอีกทาง

“วิชารวน หรือวิชารัก” ชัชชัยกวนโทสะคืนบ้าง

“ขอตัวก่อนแล้วกัน” มาลีรวบถุงแล้วลุกขึ้น

“เดี๋ยวซิ” ชัชชัยรั้งไว้ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา มาลีชะงัก

“มีงานให้ช่วยทำ จะทำไหมเงินดีนะ” ได้ยินคำลงท้ายมาลีตาโตทีเดียว แต่ว่า

“เงินดีก็ไม่ทำ”

ทำใจแข็งแล้วรีบดิ่งขึ้นชั้นบน โดยมีความหวังว่าอีตานี่คงจะกลับบ้านไปเสียที เมื่อชื่นชมและลองใส่ชุดใหม่หมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจก แถมติดกิ๊บเก๋ที่กุลกัญญาแนะนำให้ซื้อเป็นนานสองนาน มาลีก็ตั้งใจจะเปลี่ยนผ้าอาบน้ำ แต่เมื่อเปิดประตูแล้วค่อยๆ ย่องๆ ลงมาดู ก็พบว่า ‘แขก’ เอาคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานที่โต๊ะอาหารเสียแล้ว

และเหมือนว่าเขาจะรู้ว่ามีคนย่องลงมามองอยู่ข้างหลัง เขาหันขวับมามองมาลีในชุดผู้หญิงหวาน หวีผมแสกข้างติดกิ๊บโลหะสีขาวมีเกล็ดคริสตัลแพรวพราว ไม่มีวันที่เขาจะเลิกทำคะแนนเด็ดขาด ไอ้หมอนั่นเองก็ไม่มีวันได้เข้าใกล้มาลีแน่นอน เอ๊ะ แล้วคู่แข่งที่กุลกัญญาเปรยออกมาเป็นใคร แค่คนในนิยายหรือในชีวิตจริงมาลีมีใครเข้ามาป้วนเปี้ยนแล้ว


กลยุทธรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อต้องนั่งฟังเพลงภาษาต่างประเทศไปพร้อมๆ กับดื่มเหล้าที่ราคาแสนแพง เขาไม่ปรารถนามาที่ canta bella club สถานที่นั่งดื่มและฟังเพลงของพวกมีระดับ

เขาเองคนพื้นๆ ธรรมดา มาที่นี่ก็เหมือนยาจกพลัดมายังสรวงสวรรค์ รมณีย์ถามเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเบื่อหรือเปล่า เขาตอบว่าเบื่อ แต่เธอก็หาได้ใส่ใจกับคำพูดนั้น เธอแสร้งฟังเพลงเคาะจังหวะเบาๆ ร้องคลอไป และบ่อยครั้งที่เธอเอนซบพาเนื้อแน่นพร้อมกลิ่นกายสาวสัมผัสกับผัสสะของเขา

เธอเป็นต่อเขาทุกทาง เขาเป็นหมากบนกระดาน เธอจะเลือกหยิบวางไว้ตรงไหนในเวลานี้ก็ได้ ยิ่งเธอรู้ว่าเขามีจุดอ่อนตรงที่มีน้องสาวป่วยเป็นโรคไต ต้องใช้เงินซื้อยาเดือนละเกือบสองหมื่น ไม่มีวันที่จะเขาเดินออกไปจากบริษัทง่ายๆ แน่

เมื่อต้องนั่งทนหาวถึงเวลาตีสอง รมณีย์ก็ขับรถพาเขากลับมาส่งที่บ้าน กลยุทธหน้าชาเมื่อรมณีย์ชะโงกหน้ามาหอมที่พวงแก้มของเขา

“ขอโทษนะคะ”

เขาปรายตามองไปยังหน่วยตาระยับที่อยู่ไม่ห่างจากดวงตาของเขา ความปั่นป่วนเกิดขึ้นในใจลูกผู้ชายทันที นี่มัน พ.ศ.ไหนกันหนอ ประเทศไทยหรือเปล่า ทำไมผู้หญิงคนนี้กล้าแสดงออกทางความรู้สึกได้มากถึงเพียงนี้

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” กลยุทธรีบเปลี่ยนเรื่อง

“อย่าเพิ่งไปค่ะ”

รมณีย์เอี้ยวตัวไปที่เบาะหลังของเบนซ์ซีคลาส แล้วรวบถุงเสื้อผ้าที่ในระหว่างเดินช็อปปิ้ง ในตอนนั้นเธอบอกว่าของคุณพ่อและของตัวเอง แต่ตอนนี้เธอส่งให้กับเขาทั้งหมด

“ของคุณกับของน้องกุลค่ะ”

ความอดทนของกลยุทธแทบจะสิ้นสุดทีเดียว เขาขบกรามจนนูนเป็นสัน

“รับไปเถอะค่ะ รมมี่รู้ว่าคุณลำบาก เงินเดือนคุณเท่าไหร่ และคุณต้องใช้เท่าไหร่ ขอให้รมมี่มีส่วนเอี่ยวกับชีวิตคุณบ้าง”

“แล้วความรู้สึกของผมละครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับ” น้ำเสียงของเขาเด็ดเดี่ยวขึ้น

“เพราะคุณเป็นคนแบบนี้ไงคะ ยิ่งทำให้รมมี่ถอนตัวจากคุณไม่ขึ้น”

เขายิ้มนิดๆ แล้วเปิดประตู

“หากผมไม่รับของละครับ”

รมณีย์เปิดประตูรถและก้าวลงพร้อมถุงสินค้า หล่อนยืนยิ้มให้เขา อย่างไรเสียก็ต้องชนะ

“รับไปเถอะค่ะ อย่าให้รมมี่ต้องเรียกกุลมาช่วยตัดสินใจด้วยเลย”

กลยุทธยิ้มที่มุมปากอย่างยอมจำนน แววตาขณะที่เดินกลับมาหาหญิงสาวนั้นแข็งกร้าว ในคืนที่ราตรีไร้ดาวแบบนี้ เขารวบหูถุงกระดาษไว้พร้อมกับมือรมณีย์ ก่อนจะโน้มตัวกดปลายจมูกที่โด่งเป็นสันลงที่บริเวณพวงแก้มสีชมพูแทนคำพูด ที่เขาไม่อยากเอ่ย หากเขาเป็นผู้ชายป้ายเหลือง คงเป็นคนที่มีราคาค่าตัวแพงทีเดียว



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ม.ค. 2555, 13:50:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ม.ค. 2555, 13:50:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 1970





<< 14. นิวัฒน์   16. "เกิดมามีชีวิตเดียว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด" >>
แว่นใส 9 ม.ค. 2555, 14:14:55 น.
เครียดแหะ


innam 9 ม.ค. 2555, 14:44:24 น.
มาทำให้ผู้อ่านสับสนอีกแล้วคุณเฟื่อง


minafiba 9 ม.ค. 2555, 21:22:30 น.
^_^


Pat 9 ม.ค. 2555, 21:31:44 น.
น่าเห็นใจกลยุทธ แต่เรื่องนี้เชียร์ชัขชัยอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account