พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 15

ตอนต่อไปมาแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทิ้งคอมเมนท์แล้วก็กดไลค์นะคะ

หวังว่าตอนนี้คงทำให้ใครหลายคนหายหมั่นไส้พี่อาร์มได้บ้าง...นะคะ :)

----------------------------------------------------------------------------------------------



ตอนที่ 17: ยาวิเศษ




เมื่อวันคืนแห่งการเปิดใจผ่านพ้นไป ดวงตะวันที่ลาลับขอบฟ้าในเย็นของเมื่อวานก็โผล่กลับขึ้นมาใหม่พร้อมกับแต่งแต้มท้องฟ้าด้วยสีส้มอ่อนๆของแดดยามเช้า ร่างบางระหงที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนาราวกับลูกแมวตัวน้อยเริ่มที่จะยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ ดวงตาเรียวสวยค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นโดยใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งเพื่อปรับสายตาให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆยันตัวขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอน ความรู้สึกแรกที่รับรู้ได้คือปวดหัวหนึบๆแต่ไม่มากเกินกว่าจะทนไม่ได้ เหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปของเมื่อคืนเริ่มที่จะฉายในความทรงจำทีละฉากและก็จบลงที่ฉากสุดท้ายก่อนที่ประสาทสัมผัสของเธอจะดับวูบลง

...เธอบอกรักพี่อาร์ม!...

มุกตาภาหันควับมามองอีกข้างของเตียงโดยอัตโนมัติ ดวงตาสวยเบิกกว้างเมื่อพบกับอีกหนึ่งคนที่กำลังอยู่ในห้วงฝัน ชิษวัศยามหลับสนิทดูแปลกตาไปกว่าเคย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าที่มักคร่ำเคร่งอยู่กับงานผ่อนคลายลงไปมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมานั่งพินิจว่าชิษวัศเป็นอย่างไรเมื่อยามหลับ เพราะเมื่อคืนเธอนั้นเมาพับไม่รู้เรื่องและคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่อาร์มที่เป็นคนพาเธอมานอนบนเตียงนี้...ด้วยกันกับเขา

...ตายแล้ว!!...

ผ้าห่มผืนหนาถูกเลิกขึ้นเพราะเจ้าตัวต้องการจะสำรวจเสื้อผ้าของตัวเองเป็นอันดับแรกและเมื่อพบว่ามันยังอยู่ในชุดเดิมไม่มีผิดเพี้ยน มุกตาภาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยพี่อาร์มก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษพอ

“พี่ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่ต้องสำรวจขนาดนั้นก็ได้”

คนที่กำลังสำรวจเสื้อผ้าของตัวเองอย่างละเอียดอีกทีสะดุ้งโหยงเมื่อคนที่เธอคิดว่ากำลังหลับสนิทเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมาและสายตาคู่คมสีนิลกำลังจ้องมองเธอ

“พี่อาร์ม!” มุกตาภาอุทานเป็นชื่อของอีกฝ่ายเสียงดัง ดวงตากลมสวยมองชิษวัศที่กำลังลุกขึ้นนั่งตาปริบๆ

“ปวดหัวไหม” คำถามของคนที่ตื่นขึ้นมานั่งขัดสมาธิเคียงข้างกันทำเอาคนที่ยังมีสติไม่เต็มร้อยเงียบไปพักใหญ่จนชิษวัศต้องถามอีกครั้ง

“หนูมุก...พี่ถามว่าปวดหัวไหม” มาคราวนี้ไม่ถามเปล่าเพราะชิษวัศดันยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเกือบชิดจนมุกตาภาต้องรีบกระเถิบตัวถอยอย่างรวดเร็ว

“นิด...นิดหน่อยค่ะ มุกขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พูดจบก็ลุกพรวดลงจากเตียง หยิบข้าวของอย่างรวดเร็วก่อนหายเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ชิษวัศมองตามหลังไปด้วยรอยยิ้ม

“เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเชียวหนูมุก”

ชิษวัศเอ่ยขึ้นมาเบาๆพร้อมกับก้าวลงจากเตียงก่อนจะเดินออกไปยังระเบียงเพื่อชมวิวทิวทัศน์และชื่นชมกับทะเลยามเช้าที่ต้องกับแสงตะวันจนระยิบระยับสวยงาม ดวงตาคมทอดมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า เหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนย้อนเข้ามาในความคิด ชายหนุ่มยังคงจำได้ทุกคำว่าเมื่อคืนตนเองถามอะไรมุกตาภา และยังคงจำคำตอบของเธอ...ได้ขึ้นใจ

ความจริงชิษวัศกะจะถามเธอให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อครั้งยามเธอลืมตาตื่น แต่พอเห็นท่าทางตื่นตระหนกและแววตาตกใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะยอมใจอ่อนค่อยๆถอยออกมาหนึ่งก้าวให้เหลือที่ว่างระหว่างกันเพื่อให้มุกตาภาสบายใจและมั่นใจพอที่จะเชื่อว่าเขาจะไม่เป็นอันตรายสำหรับเธอ

“พี่อาร์ม!!!”

เสียงร้องตะโกนที่ดังมาจากด้านในทำให้ชิษวัศรีบรุดเข้าไปยังต้นเหตุของเสียงทันทีซึ่งก็คือห้องน้ำที่มีมุกตาภาอยู่ในนั้น ชายหนุ่มเคาะประตูห้องน้ำรัว ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างในเป็นอะไรหรือไม่ แค่ได้ยินเสียงเธอตกอกตกใจขนาดนั้นเขาเองก็พลอยจะตกใจไปด้วย

“หนูมุก หนูมุกเป็นอะไร” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความห่วงใยชัดเจน

“พี่อาร์มไปไหนมา มุกเรียกตั้งนานแล้ว” คนที่อยู่ในห้องน้ำว่า หญิงสาวร้องเรียกเขาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาจึงตัดสินใจตะโกนขอความช่วยเหลือ

“พอดีพี่อยู่ที่ระเบียง ขอโทษนะครับ แล้วหนูมุกเป็นอะไร ร้องเรียกซะพี่ตกใจหมด”

คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของประตูเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้เธออยู่ในชุมคลุมอาบน้ำและถ้าอยู่คนเดียวเธอคงเดินออกไปจัดการธุระส่วนตัวเองแล้ว แต่นี่มีชิษวัศอยู่ด้วย การที่จะให้เธอเดินออกจากห้องน้ำไปด้วยชุดคลุมอาบน้ำมันน่าอายเกินไป จึงต้องไหว้วานให้ชายหนุ่มช่วยหยิบของใช้ส่วนตัวซึ่งจำเป็นมากเมื่อรอบเดือนของเธอมา

...น่าอายชะมัดเลย...

“มุกลืมหยิบของมา พี่อาร์มช่วยหยิบมาให้มุกหน่อยได้ไหมคะ”

ชิษวัศเลิกคิ้วสูงกับคำขอของคนในห้องน้ำ

“ของอะไรครับ แล้วอยู่ตรงไหน พี่จะได้หยิบให้” ชายหนุ่มอาสาอย่างใจดี

“ใน...กระเป๋าเสื้อผ้าน่ะค่ะ เป็นถุงผ้าสีฟ้า” คนในห้องน้ำบอก แต่แทนที่จะรีบไปหยิบ ชิษวัศกลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

“เอ่อ...” น้ำเสียงทุ้มเริ่มตะกุกตะกัก “ถ้าเป็นในกระเป๋าเสื้อผ้า พี่ว่าหนูมุกออกมาหยิบเองดีกว่าไหม” ไม่ใช่ว่าชิษวัศไม่อยากช่วยเหลือ แต่การจะให้เขาเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้หญิงมันออกจะเก้อเขินไปหน่อย

“มุกไม่ค่อยสะดวก พี่อาร์มช่วยหยิบให้หน่อยเถอะค่ะ” มุกตาภาร้องขอเสียงอ่อน ใช่ว่าเธออยากให้เขาเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าเธอเสียเมื่อไหร่ แต่สถานการณ์ของเธอในชุดคลุมอาบน้ำกับรอบเดือนที่เพิ่งมานั้นทำให้ไม่สามารถออกไปเอาของใช้จำเป็นได้จริงๆ

“แต่พี่เป็นผู้ชาย เปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้หญิงมันไม่ค่อยดี”

คำพูดของชิษวัศทำเอามุกตาภาถอนหายใจออกมายาวเหยียด ดีใจก็ดีใจอยู่ที่พี่อาร์มยังใส่ใจในรายละเอียดและรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควรกระทำแต่ดันทำผิดที่ผิดเวลาไปเสียหน่อยเพราะตอนนี้เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างเร็วที่สุด

“พี่อาร์ม” มุกตาภาเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พี่อาร์มหยิบได้เลยค่ะ มุกไม่สะดวกจริงๆ ช่วยหน่อยนะคะ มุกออกไปจากห้องน้ำตอนนี้ไม่ได้”

เมื่อน้ำเสียงของอีกฝ่ายจริงจังขึ้น ชิษวัศจึงตัดสินใจตามทำคำขอร้องของเธอ แต่ก็ยังเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะขออนุญาตหญิงสาวก่อนที่จะเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอ

“งั้นพี่ขออนุญาตเปิดนะครับ” บอกพร้อมกับเดินไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าของมุกตาภาก่อนจะจัดการหาถุงผ้าสีฟ้าตาที่อีกฝ่ายได้บอกมา ดีที่มุกตาภาจัดกระเป๋าได้เป็นระเบียบจึงทำให้ชายหนุ่มหาสิ่งที่เธอต้องการได้ไม่ยากนัก

ชิษวัศเดินกลับมาที่ประตูห้องน้ำก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู รอจนประตูแง้มออกแล้วจึงส่งเจ้าถุงผ้าสีฟ้าให้แก่เจ้าของของมัน

ประมาณสิบนาทีประตูห้องน้ำห้องเดิมก็เปิดออกพร้อมร่างของมุกตาภาในชุดเดรสแขนกุดสีฟ้าอ่อน หญิงสาวก้มหน้างุดเดินไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะง่วนอยู่กับการเก็บของ ชิษวัศมองอากัปกิริยาเหล่านั้นด้วยความขัน มุกตาภาคงอายไม่น้อยที่ต้องขอความช่วยเหลือจากเขาในการหยิบของใช้ส่วนตัวเช่นนี้ซึ่งชิษวัศเองก็พอเดาออกว่าเป็นอะไร

...เรื่องของผู้หญิง...

เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเบาๆก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อจัดการชำระร่างกายของตนเองบ้างเพราะช่วงสายของวันนี้ชายหนุ่มได้นัดหุ้นส่วนคนสำคัญไว้เพื่อคุยกันในเรื่องการร่วมทุนทางธุรกิจต่อ ซึ่งการพูดคุยในวันนี้ชิษวัศต้องได้คำตอบและรายละเอียดที่แน่นอนเพื่อไปรายงานคุณปู่แฝดได้อย่างถูกต้องทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ

ชิษวัศใช้เวลาในห้องน้ำน้อยกว่ามุกตาภาประมาณครึ่งหนึ่งก่อนจะออกมาในชุดเสื้อกล้ามสีขาวใส่ทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าน้ำทะเลไล่ระดับความเข้มจากล่างขึ้นบน ท่อนล่างเป็นกางเกงขาสามส่วนสีขาวทำให้ชายหนุ่มแลดูสดใสและอ่อนวัยกว่าเดิม หากเมื่อออกมาสิ่งที่ชิษวัศเห็นกลับเป็นร่างบอบบางของมุกตาภาที่นอนขดอยู่บนโซฟาตัวยาวโดยแขนทั้งสองข้างกอดรัดหมอนอิงใบโตไว้บริเวณท้องน้อยแน่น

ร่างสูงรีบรุดเข้าไปดูอาการทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่ค่อนข้างซีดเผือด ริมฝีปากบางนั้นเม้มแน่นเป็นเส้นตรงราวกับว่าเธอกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดอย่างสุดกำลัง แม้จะเคยเห็นอาการอย่างนี้ไม่มากนักแต่ชิษวัศก็พอจะเดาออกว่าสาเหตุอาการป่วยของมุกตาภามีสาเหตุมาจากอะไร เพราะสาเหตุคงไม่ต่างจากที่ ‘เรศิกานต์’ ลูกพี่ลูกน้องสาวของตนเองเป็นมากนักในวันที่...เป็นวันนั้นของเดือน

“หนูมุก ปวดท้องมากไหม” ชิษวัศย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าชิดกับโซฟาที่คนป่วยนอน กระแสน้ำเสียงที่ถามออกไปแสดงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน หากคนที่ปวดท้องกลับทำเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ

“ลุกขึ้นนั่งไหวหรือเปล่า”

“ไหวค่ะ แต่ไม่อยากลุกเลย” คราวนี้คงป่วยตอบคำถามกลับ แต่ก็ยังงอแงไม่ยอมลุกขึ้นมานั่ง

“ปวดมากแบบนี้ทุกเดือนไหม พี่ว่าไปหาหมอดีกว่านะ” ถามแต่ก็ตัดสินใจเองเสียเสร็จสรรพ ส่วนคนป่วยก็ได้แต่เลิกคิ้วสูงอย่างสงสัยว่าชิษวัศรู้ได้ยังไงว่าเธอป่วยเป็นอะไร

“ทำไมพี่อาร์มถามเหมือนรู้ว่ามุกเป็นอะไร”

“ถึงพี่จะเป็นลูกชายคนเดียว แต่พี่ก็มีลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้หญิงนะครับ อาการอย่างนี้ก็เคยเห็นมาบ้าง” ชิษวัศไขข้อข้องใจให้หนูน้อยช่างสงสัยก่อนจะถามหญิงสาวอีกครั้ง “แล้วหนูมุกพกยามาด้วยไหม ถ้าไม่ได้เอามาพี่จะได้ไปหามาให้”

“เอามาค่ะ อยู่ในกระเป๋า” หญิงสาวบุ้ยหน้าไปทางกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่จะโทรสั่งรูมเซอร์วิสให้เขาเอาข้าวต้มมาให้ กินแล้วจะได้กินยาตาม”

มุกตาภามองอีกฝ่ายตาปริบๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อยในปกครองของชิษวัศเข้าไปทุกวันแต่ก็ยังพยักหน้ายอมรับกับคำสั่งนั้น

“แล้วพี่อาร์มจะทำอะไร” ถามทั้งๆที่นอนขดอยู่บนโซฟาเมื่อเห็นว่าชิษวัศเดินไปยังเคาท์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อชงอะไรบางอย่าง

“พี่เห็นว่ามีโกโก้อยู่ เลยจะชงให้ ดื่มอะไรอุ่นๆคงช่วยได้บ้าง” ความห่วงใยที่แสดงออกอย่างชัดเจนทำให้

มุกตาภาค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ดวงตากลมสวยหันไปมองคนที่กำลังง่วนอยู่กับการชงโกโก้ เสียงช้อนที่กระทบกับแก้วเสียงดังกว่าปกติอย่างที่มันควรจะเป็นเรียกรอยยิ้มแต่งแต้มบนดวงหน้าสวยได้ไม่น้อยเมื่อคิดว่าชิษวัศคงไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ให้ใครเท่าไหร่

...แต่พี่อาร์มทำเพื่อเธอ...

แม้จะดูเป็นความคิดที่เข้าข้างตัวเอง แต่ถ้ามันทำให้เธอมีความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ หญิงสาวก็ขอคิดเข้าข้างตัวเองเพื่อตักตวงความสุขเหล่านั้นบ้างจะเป็นไร เผื่ออนาคตข้างหน้า บางที...เธออาจจะไม่มีโอกาสได้พบกับความสุขเช่นนี้อีกก็เป็นได้

“พี่อาร์ม” เสียงหวานเรียกคนที่กำลังชงโกโก้ร้อนเบาๆ

“ครับ” ชิษวัศขานรับ ดวงตาสีนิลละจากสิ่งที่กำลังทำอยู่เพื่อมองไปยังคนที่ร้องเรียก

“ขอบคุณนะคะ” บอกพร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วก็ได้รอยยิ้มของชิษวัศตอบกลับมาพร้อมกับคำถามที่ถามอีกฝ่ายกลับ

“ขอบคุณพี่ทำไม”

“เพราะพี่อาร์มใจดี” คำตอบของมุกตาภาทำเอาชิษวัศหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยกแก้วโกโก้ร้อนมาเสิร์ฟให้คนป่วยถึงที่

“แสดงว่าแต่ก่อนพี่ใจร้ายมากเลยล่ะสิ” เสียงทุ้มพูดไปในทางติดตลกเสียมากกว่าพร้อมกับยื่นแก้วโกโก้ให้กับมุกตาภารอจนหญิงสาวรับไปถือไว้เรียบร้อย ชายหนุ่มจึงทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวที่ติดกัน

“บางทีค่ะ” หญิงสาวเลือกที่จะตอบตามตรง พลางจิบโกโก้ร้อน “บางที...พี่อาร์มก็ทำตัวเย็นชาใส่มุก แต่บางที...พี่อาร์มก็ยังเป็นพี่อาร์มที่อบอุ่นและใจดีของมุกคนเดิม”

“แล้วหนูมุกอยากให้พี่เป็นพี่อาร์มที่ใจดีของหนูมุกตลอดไปไหม”

“คะ?” มุกตาภาย้อนถามเสียงสูง รู้สึกว่าคำถามที่ชิษวัศถามเธอกลับมามันฟังดูกำกวมอย่างไรชอบกล “พะ...พี่อาร์มหมายความว่าอะไร มุก...ไม่เข้าใจ”

น้ำเสียงที่ถามออกไปนั้นแสนจะตะกุกตะกัก แค่อาการปวดท้องก็ทำให้มุกตาภาแสนสาหัสมากแล้ว แต่ชิษวัศดันทำให้ใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำเข้าไปอีก สมองคิดเตลิดไปไกลกับคำถามของเขา เธอกำลังคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่อาร์มกำลังจะบอกเธอว่าเขาจะอยู่กับเธอ เป็นพี่อาร์มที่ใจดีของเธอตลอดไป

“เมื่อคืนหนูมุกบอกอะไรพี่ หนูมุกจำได้ไหม” คำถามที่มุกตาภาภาวนาตั้งแต่ลืมตาตื่นให้ชิษวัศจำเหตุการณ์และคำบอกรักของเธอไม่ได้ในเมื่อคืนวานนั้นไม่เป็นผล เขาจำได้...และกำลังจะถามเพื่อย้ำความมั่นใจอีกครั้งจากเธอที่มีสติสัมปชัญญะที่ดีกว่าเมื่อคืน

“เมื่อคืน...เหรอคะ” หญิงสาวแกล้งถามซ้ำเพื่อถ่วงเวลา

“ใช่ครับ เมื่อคืน จำได้ไหมว่าบอกอะไรพี่” ชิษวัศถามซ้ำอย่างใจเย็น ชายหนุ่มรู้ว่ามุกตาภาพยายามที่จะเลี่ยงในการตอบคำถาม เพราะฉะนั้นจึงต้องใจเย็น ไม่บุ่มบ่ามเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าให้เธอตกใจ

มุกตาภากัดริมฝีปากล่างน้อยๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก้มหน้าก้มตางุดไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย เธอต้องโกหก เธอต้องบอกว่าเธอจำไม่ได้ แม้จะแน่ใจมานานแล้วว่า ‘รัก’ แต่เธอกลับไม่มั่นใจในความรักครั้งนี้เสียเลย หัวใจของเธอนั้นแน่วแน่แต่กับหัวใจอีกดวงเล่า...มันรัก มั่นคงและจริงใจกับเธอแค่ไหนกัน

...เธอไม่มั่นใจ ไม่มั่นใจเลยจริงๆ...

“พี่อาร์ม...ถามมุกว่า...ถ้าเราอยู่ห่างกันอย่างนี้...แล้วถ้าพรุ่งนี้ไม่มีโลกใบนี้แล้วมุกจะทำยังไง”

“จำได้ไหมว่าหนูมุกตอบยังไง” ชายหนุ่มถามย้ำคำถามเดิม ค่อยๆต้อนลูกแมวตัวน้อยให้เข้ามุมทีละนิด

มุกตาภาพยักหน้านิดๆ หากก็ยังไม่ยอมสบตาสีนิลคู่นั้นตรงๆ

“มุก...มุกจะเดินเข้าไปหาพี่อาร์ม...” เสียงหวานหยุดไปนิดหนึ่ง ดวงตาคู่สวยที่ไม่ได้สบมองใบหน้าของชิษวัศจึงไม่ทันได้เห็นว่าใบหน้าคมประดับไปด้วยรอยยิ้มละมุน

“แล้วยังไงต่อครับ”

“แล้ว...กอดพี่อาร์มไว้...ต่อให้พรุ่งนี้จะไม่มีโลกอยู่แล้วก็ตาม” พูดออกไปก็รู้สึกว่าใบหน้ายิ่งเห่อร้อนขึ้นมา ไม่ต้องให้ใครบอกมุกตาภาก็รู้ได้ว่าตอนนี้เธอคงหน้าแดงหมดแล้ว

“แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ จำได้หรือเปล่าว่าพี่ถามต่อว่าอะไร”

หากคราวนี้มุกตาภากลับเลือกที่จะส่ายหน้าปฏิเสธทั้งที่ความจริงแล้วหญิงสาวยังจำทุกคำพูดที่ได้ประทับลงในหัวใจได้เป็นอย่างดี

“ถ้าจำไม่ได้พี่จะบอกให้” คนตั้งคำถามใจดีที่จะบอกคำตอบแม้อีกฝ่ายจะตอบไม่ได้ มุกตาภาเผลอเงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกใจเมื่อพี่อาร์มเกิดจะใจดีเกินเหตุบอกคำตอบในสิ่งที่เธอรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่อยากรู้

“พี่ถามต่อว่า...ทำไมหนูมุกถึงตอบพี่อย่างนั้น แล้วหนูมุกก็ตอบพี่ว่า...”

“โอ๊ย...” คนที่ลุกขึ้นมานั่งแกล้งขดตัวล้มลงนอนแถมยังส่งเสียงโอดเพื่อแกล้งเปลี่ยนประเด็นการสนทนา แล้วก็ได้ผลเสียด้วยเมื่อชิษวัศรีบรุดเข้ามาประชิดร่างบางหน้าด้วยสีหน้าตระหนก

“ปวดท้องมากหรือครับ”

“ค่ะ...” แกล้งบอกเสียงเบาพร้อมปรับสีหน้าให้สมจริงกับอาการที่แสดงออกไป

“พี่ว่าไปหาหมอดีกว่า ไปครับ พี่พาไป” ชิษวัศทำท่าว่าจะอุ้มร่างบางที่นอนทรมานด้วยอาการปวดท้องประจำเดือนไปพบแพทย์ และแน่นอนว่าคนที่ป่วยจริงแต่แกล้งทำเป็นอาการหนักเกินกว่าเหตุต้องรีบปฏิเสธให้กับความเอื้ออาทรนั้นทันควัน

“ไม่เป็นไรค่ะ มุก...ทนได้ แค่กินยาก็พอ”

“ปวดมากขนาดนี้จะบอกว่าไม่เป็นไรได้ยังไง อย่าดื้อนะหนูมุก” มาคราวนี้ชิษวัศปรับน้ำตาและสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น เพราะบทจะดื้อเห็นหน้าหวานๆอย่างนี้ บทจะดื้อ...มุกตาภาก็ดื้อได้แบบไม่เกรงใจใครเหมือนกัน

“ไม่ไป ยังไงมุกก็ไม่ไป” คนป่วยยังคงดึงดัน

...ก็เธอจะดื้อของเธออยู่อย่างนี้นี่ล่ะ ใครจะทำไม? โรงพยาบาลกับหมอเป็นอะไรที่เธอไม่ชอบเอาเสียเลย ถึงจะเป็นพี่อาร์มขอร้องก็เถอะ...แต่เธอไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด!...

“ถ้าไม่ได้ป่วยพี่จะจับมาตีซะให้เข็ด ทำไมดื้ออย่างนี้นะ” ชิษวัศแกล้งขู่ให้กลัว

“ถ้าพี่อาร์มตีมุกตอนป่วย มุกจะจำไปตลอดชีวิตว่าพี่อาร์มใจร้าย” แต่คนถูกขู่หาได้กลัวไม่

“เด็กดื้อ”

“คนแก่ใจร้าย”

“พี่ยังไม่ได้ตีหนูมุกเลยนะ จะมาหาว่าพี่ใจร้ายได้ยังไง”

“ไม่รู้ล่ะ มุกว่าไว้ก่อน”

ชิษวัศพ่นลมหายใจออกมายาว มองคนที่ทำท่าจะว่าเกาะโซฟาแน่นไม่ยอมขยับไปไหนอย่างอ่อนใจ

“ตกลงว่าไม่ยอมไปหาหมอใช่ไหม”

“ค่ะ” ตอบรับเสียงหนักแน่นแถมยังสำทับด้วยการพยักหน้าเพื่อให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าต่อให้ชิษวัศเอาช้างมาลากเธอก็จะเกาะโซฟาอยู่อย่างนี้ไม่ยอมไปไหน

“แต่ถ้ากินยาแล้วไม่ดีขึ้นต้องยอมให้พี่พาไปหาหมอนะครับ” คราวนี้ชิษวัศเลือกที่จะปรับน้ำเสียงให้นุ่มลง ดวงตาสีนิลทอดอ่อนมองดวงหน้าน่ารัก ตรึงให้สายตาคู่กลมสวยมองสบกันกลับมา

“ไม่เอา” หากเด็กดื้อก็ยังเป็นเด็กดื้อเป็นวันยังค่ำ มุกตาภาบอกปฏิเสธ แม้จะเป็นเสียงที่ออกมาเบาๆแต่เธอหญิงสาวก็ยังคงเลือกที่จะปฏิเสธ

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ” ถึงตอนนี้ชิษวัศกลับยอมถอยตามใจคนป่วย เป็นจังหวะเดียวกับรูมเซอร์วิสที่มาส่งอาหารพอดีชายหนุ่มจึงเปิดประตูให้พนักงานเข้ามาเสิร์ฟข้าวต้ม รอจนพนักงานออกจากห้องไปจึงหันมาจัดการพยาบาลคนป่วยที่ตอนนี้เดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร หากสีหน้ากลับยังบ่งบอกชัดเจนว่าเธอกำลังอดทนกับอาการปวดท้องขนาดไหน

“พี่ป้อนนะ” ชิษวัศอาสาอย่างใจดี

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ” แต่มุกตาภากลับปฏิเสธลิ้นรัว “พี่อาร์มจัดการของพี่อาร์มเถอะค่ะ มุกกินเองได้ ที่สำคัญเรามีนัดกับหุ้นส่วนนะคะ”

“หนูมุกคิดว่าพี่ใจร้ายพอที่จะลากหนูมุกไปทำงานด้วยหรือ” น้ำเสียงที่กดต่ำราวกับว่ากำลังไม่พอใจทำให้ข้าวต้มคำแรกที่มุกตาภาตักเข้าปากรสชาติมันกลับฝืดเฝื่อนอย่างไรชอบกล

“แต่มุกมาทำงาน” หากหญิงสาวก็ยังเถียง

“กินข้าวต้ม กินยา แล้วก็นอนพักซะมุกตาภา” แล้วก็ได้คำสั่งเด็ดขาดกลับมาอย่างทันที

“เผด็จการ” คนป่วยบ่นเบาๆไม่ได้กะให้ใครอีกคนได้ยิน แต่ชิษวัศก็ดันเกิดหูดีขึ้นมา หญิงสาวจึงได้รับสายตาดุๆเป็นของรางวัลกลับมา มุกตาภาจัดการกับข้าวต้มตรงหน้าไปไม่ถึงครึ่งชามก่อนจะบอกว่าอิ่มซึ่งชิษวัศก็ไม่ได้ว่าอะไร ชายหนุ่มทำเพียงแค่บอกให้เธอไปกินยาแล้วนอนพักซะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงาน

“ถ้าปวดท้องมากโทรบอกพี่ทันทีนะหนูมุก” ชิษวัศบอกย้ำก่อนที่จะออกไปพบกับหุ้นส่วนคนสำคัญ

“แต่พี่อาร์มต้องคุยงาน...”

“หนูมุก...งานของพี่สำคัญก็จริงแต่ไม่ได้สำคัญกว่าร่างกายของหนูมุกแน่”

กระแสน้ำเสียงและแววตาที่แสนอบอุ่นราวกับว่าเป็นยาวิเศษที่ทำให้อาการปวดท้องของมุกตาภาเบาบางลงในชั่วพริบตา หัวใจพองโตแทบคับอกเมื่อชิษวัศเป็นห่วงเธออย่างนี้ แม้เขาอาจจะยังไม่รัก แต่แค่ตอนนี้เขามีใจที่คอยเป็นห่วงเป็นใย เธอก็ดีใจมากเกินพอแล้ว แม้จะยังไม่ได้ดังหวังว่าพี่อาร์มจะ ‘รัก’ เธอในสักวัน แต่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอมั่นใจได้ว่า...ความหวังของเธอยังพอมีทางและมัน...ยังไม่ดับวูบลง

“ค่ะ...ถ้ามุกปวดมาก มุกจะโทรไปนะคะ” บอกพร้อมกับรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้า สายตามองชิษวัศที่กำลังเดินออกจากห้องไป

“อ้อ...” หากร่างสูงที่กำลังจะเดินถึงประตูกลับชะงักเท้าและหันหลังเดินกลับมายังเตียงนอนที่คนป่วยนอนอยู่

“มีอะไรคะ” มุกตาภาเลิกคิ้วสูงถามคนที่ย้อนเดินกลับมาหาเธออย่างสงสัย

“พี่มียาวิเศษด้วยนะ”

“คะ?” คนที่สงสัยอยู่แล้วยิ่งสงสัยหนักเข้าไปใหญ่เมื่อจู่ๆชิษวัศก็พูดอะไรที่เธอจับใจความไม่ได้เสียเลย

“ยาวิเศษไงครับ เหมือนตอนเด็กๆ เวลาที่หนูมุกเป็นแผล หนูมุกก็จะวิ่งมาให้พี่เป่าเพี้ยง แล้วหนูมุกก็จะหายเจ็บไงครับ”

เมื่อได้คำแถลงไขจากอีกฝ่าย มุกตาภาก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

“แต่มุกไม่ได้เป็นแผลนะคะ ที่สำคัญตอนนี้มุกก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย...”

คำว่า ‘ด้วย’ ของท้ายประโยคนั้นหายไปครึ่งเสียงเมื่อริมฝีปากบางถูกทาบปิดด้วยริมฝีปากหยักลึกก่อนที่ชิษวัศจะเป็นฝ่ายถอนจูบ ดวงตาคู่คมมองสาวตรงหน้าอย่างนึกขัน ตาที่โตอยู่แล้วของมุกตาภาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ริมฝีปากที่ชายหนุ่มเพิ่งประทับลงไปเมื่อครู่เผยอขึ้นมานิดหนึ่งจนเขาอยากจะลิ้มรสความหวานนั่นเสียอีกสักครั้ง

“ยาวิเศษไงครับ ถ้ากลับมาแล้วยังไม่หายหรือยังไม่ดีขึ้น พี่จะใช้ยาขนานพิเศษแล้วนะ” บอกไว้เท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนป่วยที่ได้รับ ‘ยาวิเศษ’ นอนอึ้งอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก รู้แต่ว่าหัวใจมันเต้นโครมครามไปหมด เต้นแรงเสียยิ่งกว่าคราวที่ตัวเองไปขโมยจูบจากอีกฝ่ายเสียอีก ทั้งยังประโยคเมื่อครู่ของชิษวัศที่ดังก้องอยู่ในหัว

‘...ถ้ากลับมาแล้วยังไม่หายหรือยังไม่ดีขึ้น พี่จะใช้ยาขนานพิเศษแล้วนะ’

...จนได้ไหมเล่ามุกตาภา เธอโดนพี่อาร์มเอาคืนเสียจนได้ งานนี้ไม่หายก็ต้องหาย เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงได้ลิ้มลองยาวิเศษขนานพิเศษของพี่อาร์มเป็นแน่ แค่ ‘ยาวิเศษ’ เมื่อครู่เธอก็รู้สึกเหมือนถูกใครกระชากวิญญาณออกจากร่างแล้ว ขืนโดนขนานพิเศษเข้าไป...เธอ...ไม่อยากจะคิด...

“พี่อาร์ม...ทำแบบนี้หมายความว่ารักกันไหมคะ รักมุกเหมือนที่มุกรักพี่อาร์มบ้างไหม...” คำถามถูกเอ่ยขึ้นมาลอยๆพร้อมกับมือที่ยกขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเอง ริมฝีปาก...ที่เพิ่งมีคนประทับและลิ้มรสความหอมหวานไปเมื่อสักครู่ แม้จะแลดูบางเบาทว่าสัมผัสนั้นยังคงติดตรึงและมุกตาภาก็คิดว่ามันคงตราตรึงฝังลงในหัวใจตลอดไป...ไม่มีวันจาง


----------------------------------------------------------------------------------------------

ใคร...เซ็งคุณพี่อาร์ม ถึงตอนนี้แล้วหายเซ็งไหมคะ แล้วก็...ใครอยากได้ยาวิเศษบ้างงงง?? ฮ่าาาาาา

ตอนหน้า...คำถามของหนูมุกกำลังจะได้คำตอบแล้วค่ะ

เจอกันในตอนหน้า "คำตอบที่รอคอย" นะคะ


ตอบเมนท์ค่ะ...


anOO : สุดๆค่ะ หมูหวานไม่ฝันดีคืนนี้ก็ไม่รู้จะฝันดีคืนไหนแล้วค่ะ ^^

nunoi : ท่าทางจะเขินมากเชียวค่ะ :)

violette : รับรองว่าต้องมีวันนั้นแน่ค่ะ ฮ่าๆ

roseolar : หมูหวานทำท่าว่าจะใจอ่อนเหมือนกันค่ะ แต่เรื่องของหัวใจมันไม่ง่ายอย่างที่คิดน่ะสิคะ เพราะอุปสรรคกำลังจะมาแล้วล่ะค่ะ

teesaparn : ปอแก้วก็อยากค่ะ ที่เขียนอย่างนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการของคนเขียนเอง ฮ่าาา ><

Amata : ได้ดีจริงๆค่ะ ต้องให้มีอาร์มดูตัวอย่างบ้างอะไรบ้าง ^^"







ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.พ. 2555, 10:44:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.พ. 2555, 17:40:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1824





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 14   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 16 >>
violette 5 ก.พ. 2555, 11:40:25 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยย


roseolar 5 ก.พ. 2555, 16:30:23 น.
ยาวิเศษของพี่อาร์มทำคนอ่านไข้ขึ้นหน้าร้อนเห่อเลย
ยาอะไรเนี่ย >///<
ปล.สงสัยพี่อาร์มจะรู้ว่าเรตติ้งเริ่มตก เพราะคนอ่านหันไปคลั่งไคล้พี่อาร์ทแทน เลยรีบทำคะแนนบ้าง ว่าแต่ว่าใครกระซิบบอกพี่อาร์มกันนะ ใช่คุณปอแก้วอ๊ะเปล่าเอ่ย


anOO 5 ก.พ. 2555, 16:45:01 น.
555 ยาวิเศษของพี่อาร์ม ต่อไปหนูมุกคงไม่กล้าป่วย


teesaparn 6 ก.พ. 2555, 11:56:08 น.
อยากได้ยาวิเศษของอ้ายอาร์มพ่องอ่ะ ฮู้สึกจะร้อนวูบๆ วาบๆ ดีเนอะ^^


nunoi 7 ก.พ. 2555, 15:36:59 น.
อ๊ากกกก อยากได้ยาวิเศษบ้างอ่ะ


mookisme 7 ก.พ. 2555, 17:51:20 น.
อ๊ายยยยยยยย พี่อาร์มมมม !!!!
อยากจะลงไปแดดิ้น กะริดๆ ไม่ไหวจะเคลียร์นะ ทำแบบนี้หมายความว่าไงกั๊นนนน !!!!! XD


Amata 7 ก.พ. 2555, 18:58:07 น.
พี่อาร์มทำตัวดีขึ้นนะรู้ไหม ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account