Missing Love
(ภาคต่อของพาย) เมื่อเขาทำรักหายไปจนมาเจอเธอ และเธอตั้งใจพลาดความรักเพื่อความสำเร็จ แล้วเขาจะทำให้เธอหันมาสนใจความรักได้อย่างไร
Tags: พาย แจ็คลีน

ตอน: ML016

Missing Love ตอนที่ 16

โรงพยาบาลเอกชนยังคงเงียบเชียบ เขามองนาฬิกาบอกเวลาตีสามของเช้าวันใหม่ ถึงตอนนี้แจ็คลีนจะยังไม่นอน แต่เขาก็ไม่แน่ใจนัก ทว่ายังไงเขาก็คงติดอยู่ที่นี่อีกพักหนึ่ง เขาจึงคิดว่าโทรไป...เธอคงไม่ว่าอะไร

“ค่ะ” แจ็คลีนตอบขณะกำลังนั่งอ่านอีเมลจากพี่ชาย ที่เล่าเรื่องขณะทำงานเป็นอาสาสมัคร

“คุณนอนหรือยัง” ทรงธรรมพูดกับเธอเป็นภาษาฝรั่งเศสเช่นเคย ส่วนหนึ่งไม่อยากให้แก้วกินรีฟังออกด้วย

“ยังค่ะ ท่านพี่เขียนอีเมลมาบอกว่า มีความสุขดีกับแฟนสาวคนใหม่ ฉันค่อยโล่งใจหน่อย ว่าแต่คุณยังไม่นอนอีกเหรอคะ” น้ำเสียงเธอสดใส เพราะได้ข่าวดีจากพี่ชาย ขณะเดียวกันก็ดีใจที่เขาโทรมา

“จริงๆ ก็เข้านอนตั้งแต่วางสายจากคุณเมื่อสามชั่วโมงก่อน แต่พอดีลูกเพื่อนไม่สบาย แล้วเขาก็ไม่มีใครก็เลยจัดการให้น่ะ ตอนนี้กำลังรอเข้าห้องพิเศษอยู่ ผมก็เลยโทรหาคุณน่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” เขาถามเธอด้วยความเกรงใจ

“ไม่เลยค่ะ ฉันกำลังอารมณ์ดีที่พี่ชายฉันได้พบผู้หญิงที่ใช่เสียที ครึ่งปีแล้วกว่าเขาจะมีชีวิตชีวาอย่างตอนนี้ เขามีความหวังกับความรักได้อีก ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ คุณล่ะ ไม่ง่วงแย่เหรอคะ นี่ขับรถมาไกลไหม” เธอมีท่าทีห่วงใยเขามากขึ้น

หลายเดือนที่ผ่านมา เขากลายเป็นหลักยึดเหนี่ยวให้เธอ เหมือนพี่ชายอีกคนเลยก็ว่าได้ เธอแทบไม่ได้คุยกับไพรด์หรืออิคารัส เพราะทุกครั้งที่คุยจะคิดถึงพี่ชายมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเฮเลนไม่ต้องพูดถึง ถ้าต้องฟังน้องสาวฟูมฟาย เธอจะหงุดหงิดมากกว่าเดิม จึงไม่โทรไปให้เสียความรู้สึกกัน

“เดี๋ยวพอกลับไปก็หลับ มาอีกทีก็ตอนจ่ายเงิน ช่วงนี้งานเยอะจริงๆ ไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก เศรษฐกิจกำลังแย่ ต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา” ทรงธรรมพูดกับเธออย่างอารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพยาบาลเข้ามาถาม

“คุณพ่อคะ ขอลายเซ็นด้วยค่ะ” พยาบาลเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นพ่อของเด็กหญิง

แจ็คลีนได้ยินชัดเจน ก่อนจะได้ยินเขาแก้ตัวกับพยาบาล

“ผมไม่ใช่พ่อของเด็กคนนี้ ผมเป็นเพื่อนกับแม่ของเด็กคนนี้ ขออย่าเข้าใจผิด เด็กคนนี้เป็นลูกครึ่ง คุณดูไม่ออกหรือไง” ทรงธรรมข่มใจพูดใส่พยาบาลที่เข้าใจผิดนั้น “อย่าพูดแบบนี้อีก ถ้าคุณไม่รู้จริงๆ เสียมารยาทที่สุด ผมไม่ชอบ”

เธอยังไม่ตัดสาย เพราะไม่อยากเข้าใจอะไรผิด และดูเขาโมโหพอควร ที่มีใครยัดเยียดความเป็นพ่อของเด็กที่ไม่ใช่ลูก หรือคนที่เขาตั้งใจจะให้เป็นลูก

“แก้ว ทำไมเธอไม่บอกพยาบาล ว่าฉันเป็นแค่เพื่อนเธอ เธอทำแบบนี้อีกแล้วเหรอ จงใจให้ใครต่อใครเข้าใจผิดไปทั่ว” ทรงธรรมพูดตรงๆ กับเพื่อน

“ฉันขอโทษ ฉันคิดว่าเรื่องเล็กน้อยคงไม่เป็นไร” แก้วกินรีรู้ว่าพยาบาลเข้าใจผิด แต่ก็จงใจไม่แก้

“ขอบอกเลยนะ ว่าฉันอาจจะใจดี แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา เอาเอกสารมาให้เซ็น แล้วฉันจะกลับล่ะ” ทรงธรรมอ่านเอกสารที่พยาบาลเอามาให้เซ็น ก่อนจะลงชื่อแล้วพูดอีกครั้ง “รักษาสุดความสามารถของพวกคุณ แล้วส่งบิลค่ารักษามาให้ผม ผมรู้จักผู้อำนวยการโรงพยาบาลของคุณ อย่าให้ผมรู้อีกนะ ว่าคุณเที่ยวไปเดาส่งว่าใครเป็นพ่อใครแบบนี้อีก ผมไม่ชอบ”

พยาบาลเวรมองญาติคนไข้แล้วหน้าซีด ก่อนหัวหน้าพยาบาลเวรกะดึกเดินเข้ามารับงานต่อ แล้วกล่าวขอโทษ “ขอโทษพ่อเลี้ยงธรรมนะคะ เธอเพิ่งมาใหม่ อายุยังน้อยไม่ค่อยมีประสบการณ์ค่ะ”

“อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก แล้วก็ฝากดูแลลูกเพื่อนผมด้วย หวังว่าจะไม่มีข่าวลือว่าผมเป็นพ่อเด็กคนไหน ไม่งั้นล่ะก็ผมจะฟ้องร้องให้เฉียบขาด” ทรงธรรมไม่ได้ขู่ และพูดตามนั้นตรงๆ สายตาเขาจับจ้องแก้วกินรีอย่างโกรธๆ

“ธรรม ฉันขอโทษ” แก้วกินรีเกาะแขนเขาเอาไว้และพยายามขอโทษ

“ขอให้เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เถอะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่อยากจะคิดเลย ว่าเธอจะร้ายกาจได้แบบนี้ ทั้งที่ฉันเป็นเพื่อนที่ทั้งใจดีและเมตตาเธอมาตลอด” ทรงธรรมโกรธจริงๆ และคาดโทษเอาไว้อย่างหนัก ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป

แก้วกินรีถึงได้ตระหนักว่า การทำให้เขารักนั้นว่ายาก แต่การทำให้เขาอภัยให้กับความเจ็บปวดที่เธอเคยสร้างแก่เขา นั้นยากกว่ามาก ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวเธอกำลังลำบาก เธอคงไม่มีวันได้เจอเขาอีกแล้ว

ทรงธรรมฉุนเฉียว จนลืมไปว่ายังคุยโทรศัพท์กับแจ็คลีนไม่จบ เมื่อเขาวางโทรศัพท์ลงไปที่เครื่องในรถ แล้วสายตัดถึงได้รู้ว่า แจ็คลีนยังไม่วางสาย เขาลังเลที่จะโทรกลับไป แต่ก็โทร “ยังอยู่ไหมครับ”

“อยู่ค่ะ ยังไม่นอน” แจ็คลีนฟังเขาโกรธๆ ก็พอเข้าใจ “ใจเย็นๆ นะคะ พยาบาลใหม่อาจจะเข้าใจผิดได้”

เสียงถอนหายใจแทนคำตอบ เขาไม่อยากให้เธอมารับรู้เรื่องงี่เง่าๆ ของพยาบาลฝึกหัดอวดดี “ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้นะ ผมแค่ไม่ชอบให้ใครคิด เอ่อ...คิดอะไรแบบนี้”

“มองเจตนาดีเป็นเสียน่ะเหรอคะ บ่อยไปค่ะ อย่าคิดมากสิ” แจ็คลีนรู้ว่าเขาโกรธ เพราะเธอได้ยินที่เขาถูกเรียกว่าพ่อของเด็กอีกคนต่างหาก และกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด “ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยมีลูกนอกสมรสค่ะ”

น้ำเสียงเธอยังสดใส จึงทำให้เขาโล่งใจได้มาก ก่อนจะถามเธอ “คุณรู้ได้ยังไงล่ะ ถ้าเรื่องเกิดที่ปางไม้ อาจไม่มีข่าวเลยก็ได้นะครับ”

แจ็คลีนหัวเราะ ที่เขาคิดจะยั่วเธอให้หึง เธอรู้ว่าเขากำลังแกล้งถามเธอ แต่เธอก็ตอบตามจริง “ก็ที่บ้านฉันสืบประวัติคุณยาวเหยียดเลย รับรองว่าแม้แต่อดีตที่คุณลืมไปแล้วก็คงมี ฉันเดาว่าเด็กที่คุณพาไปก็คงจะชื่ออลิซเบธ ชาร์ปส์ ใช่ไหมคะ”

“อืม คุณรู้ละเอียดจริงๆ ผมชักอายแล้วสิ” เขาพูดอย่างไม่จริงจัง แต่ทำให้เธอหัวเราะได้ เขาก็สบายใจมากขึ้น

“คุณคงไม่ว่านะคะ บ้านฉันมีปัญหาเรื่องการไว้ใจ ฉันหมายถึงบ้านคุณปู่คุณย่าของฉันน่ะค่ะ คุณแม่ฉันเขาไม่คิดอะไรมากอยู่แล้วค่ะ ฉันจะคบใครหรืออะไรยังไง เขาก็ไม่ห่วง เพราะเขารู้ว่า ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นใคร และกำลังอยู่ในฐานะอะไร เรื่องการตัดสินใจ คุณพ่อเป็นห่วงฉันน้อยกว่าอยู่แล้ว” แจ็คลีนบอกตามตรง เพราะเธอไม่เคยประมาทกับการใช้ชีวิต ต่างจากพี่ชายที่บ้าระห่ำกว่ามาก

“ไม่เป็นไรหรอก ผมก็เข้าใจ เพราะคิดเอาไว้ ถ้ามีลูกสาว ผมก็คงทำไม่แตกต่างนักหรอก” ทรงธรรมพูดอย่างเข้าใจจริงๆ เพราะเธอก็เป็นลูกและหลานสาวของคนที่ติดอยู่ในกลุ่มร่ำรวยอย่างมาก

แจ็คลีนเพียงหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะคุยกับเขาอีกสักพักแล้วบอกลา เพราะเขาคงอยากจะนอนมากกว่า ขณะเธอก็มีเรียนตอนเช้าด้วย เธอจึงอยากนอนให้เต็มที่

****************************************


แจ็คลีนนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูกลางใจกรุงปารีส เธอมีนัดทานอาหารกับแมเรียนคู่หมั้นของอองรี แต่กลับพบฟรานซิสกับรีอาแทน เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“สวัสดีค่ะ แมเรียนอยู่ไหนคะ แมเรียนไม่ได้บอกว่าคุณกับรีอาจะมาพบด้วย” แจ็คลีนมองหาแมเรียน ก่อนจะนั่งลง และมองแม่กับน้องสาวของแมเรียน “มีอะไรกันแน่คะ คุณให้แมเรียนโทรมานัดให้ แล้วเจ้าตัวก็ไม่มาเองเหรอคะ”

“อย่ามาทำเป็นว่าแม่ฉันทำผิดหน่อยเลยน่า ทำเป็นผู้ใหญ่แต่จริงๆ เธออายุน้อยกว่าฉันอีก” รีอาแสดงอำนาจใส่แจ็คลีนขึ้นมาทันที

“หยุดนะ! รีอา ลูกไม่รู้หรือไงว่าแจ็คลีนเป็นใคร เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นเยาว์ ที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งของโลกเลยนะ เงียบและให้เกียรติเธอด้วย” ฟรานซิสดุลูกสาว ก่อนจะหันไปยิ้มกับแจ็คลีน “ขอโทษแทนรีอาด้วย แกยังเด็กน่ะ”

“มีอะไรเหรอคะ” แจ็คลีนไม่ยอมสั่งอาหาร เพราะรู้ว่าสองคนนี้มีจุดประสงค์อะไร

ตระกูลว็องแดลต้องการทรัพย์สินของคุณทวดโรบินคืน รวมทั้งเครื่องเพชรหลายชุด ที่คุณทวดโรบินได้ซื้อจากญาติที่ขาดเงิน และเพราะพ่อเธอเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายของท่าน โดยท่านระบุในพินัยกรรมให้ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดแก่กาเบรียล ธีโอฟาสเต้แต่เพียงผู้เดียว ทำให้ตระกูลว็องแดลโกรธ และพยายามติดต่อขอคืนเครื่องเพชรเก่าแก่มาหลายปีแล้ว

“อีกไม่นานแมเรียนจะแต่งงานกับอองรีแล้ว เราก็อยากให้เครื่องเพชรเก่าแก่ของตระกูล ได้ออกมาแสดงโดยแมเรียนในงานแต่งงานนะจ๊ะ ก็เลยอยากจะขอเครื่องเพชรชุดไพลินมาไว้ใส่จ๊ะ” ฟรานซิสพูดขอ และหมายถึงขอจริงๆ แบบไม่คืน

“ขอเหรอคะ เสียใจค่ะ ในพินัยกรรมของท่านทวดโรบินระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้มอบเครื่องเพชรทั้งสามสิบกว่าชุดให้ใคร และไม่อนุญาตให้ซื้อขายเครื่องเพชรด้วยค่ะ ขอโทษที่ฉันให้คุณไม่ได้ เพราะแมเรียนหรืออองรีก็ไม่ใช่เจ้าของเครื่องเพชรทั้งหมดนี้” แจ็คลีนพูดตามตรง

“จะมากเกินไปแล้วนะ แม่ฉันพูดดีๆ กับเธอ ก็เห็นแก่หน้าท่านหน่อยสิ” รีอาโมโหก็โวยวายขึ้นมา

“เสียใจ! ฉันพูดตามความจริง ทำไมไม่ไปถามสมาชิกตระกูลว็องแดลว่า ทำไมถึงขายทรัพย์สินของตระกูลทอดตลาด ก่อนท่านทวดโรบินจะต้องไปตามซื้อเก็บมาจนครบ จำได้ว่าตอนท่านทวดทั้งสองเสียชีวิต และทิ้งมรดกไว้ให้ท่านพ่อ ท่านพ่อได้แบ่งมรดกให้ตระกูลว็องแดลแล้วนี่คะ ได้ข่าวว่าหลายล้านทีเดียว” แจ็คลีนพูดและมีสีหน้าเรียบเฉย

“ฉันไม่สนใจ จะให้หรือไม่ให้กันแน่” รีอาถามให้ชัด

แจ็คลีนลุกขึ้นยืน ก่อนตอบ “ไม่ ขอตัวและลาก่อน” เธอหมุนตัวแล้วเดินออกจากโต๊ะทันที

“พวกเธอมันโจร ที่ต้องการปล้นตระกูลว็องแดล เครื่องเพชรมูลค่ามหาศาลของตระกูลถูกพวกเธอเอาไปจนหมด” รีอาโกรธจัด จึงด่าแจ็คลีนอย่างรุนแรง ขณะที่ฟรานซิสก็ไม่ห้ามลูกสาว

แจ็คลีนหันกลับมามอง ก่อนจะโทรศัพท์คุยกับอองรี “ได้ข่าวว่าเธอจะแต่งงานแล้วเหรอ ดีใจด้วยนะ”

“อะไร! พูดเรื่องอะไรน่ะ ฉันยังไม่มีกำหนดแต่งงาน คนที่จะแต่งงานน่ะ พี่เธอไม่ใช่เหรอ” อองรีออกจะประหลาดใจที่วันทำงานของเขากำลังวุ่นวายมากกว่าสงบสุข

“ฉันจะรู้เหรอ ก็ฟรานซิสกับรีอาอยากให้ฉันยกเครื่องเพชรชุดไพลินให้ เพราะแมเรียนอยากใส่ในวันแต่งงานนี่ แต่ฉันสงสัยอยู่นะ ว่าทำไมต้องให้ ในเมื่อเธอกับแมเรียนไม่มีสิทธิในเครื่องเพชรชุดนี้ หรือชุดไหนๆ ที่ท่านทวดโรบินยกให้ท่านพ่อฉัน” แจ็คลีนพูดเสียงดังฟังชัดกับญาติหนุ่มของตัวเอง และเพื่อให้ฟรานซิสกับรีอาได้ยินด้วย ทำให้ผู้หญิงสองคนนั้นเงียบ

“อะไรนะ! ฉันเคยบอกแมเรียนแล้วว่า ถ้าคิดจะแต่งงานกับฉัน ก็ต้องไม่ไปยุ่งกับทรัพย์สมบัติของท่านทวดโรบิน เพราะฉันไม่มีสิทธิวุ่นวายกับมรดกส่วนนั้น ไม่เป็นไร ฉันจะจัดการเอง บางทีฉันอาจจะคิดใหม่เรื่องแต่งงานกับคนตระกูลว็องแดล” อองรีตัดสินใจเฉียบขาด ก่อนจะตัดบทญาติสาว

“ขอบใจ” แจ็คลีนพูดจบ ก่อนจะมองฟรานซิสและรีอาอีกครั้ง “อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงกับการหมั้นหมายของแมเรียนกับอองรี ทำไมไม่กลับไปรอฟังข่าวล่ะ เสียดายนะ เพราะฉันชอบแมเรียนมากเสียด้วยสิ”

รีอากำลังจะพูดด่า แต่ฟรานซิสรีบจับลูกสาวคนเล็กเอาไว้ แล้วได้แต่มองแจ็คลีนเดินออกไปจากตรงนั้น

แจ็คลีนได้แต่ถอนหายใจ เพราะเรื่องนี้ยืดเยื้อมานาน ตระกูลว็องแดลพยายามจะฟ้องร้องขอสมบัติตระกูลคืนโดยไม่เสียเงิน แต่กลับกลายเป็นว่า ท่านทวดโรบินตัดปัญหาด้วยการขายหุ้นของบริษัทว็องแดล จนตัวเองถือหุ้นเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์ และเป็นมรดกให้กับพ่อเธอถือครองจนทุกวันนี้

ทรัพย์สินทั้งอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสิ่งของ ท่านทวดโรบินระบุชัดเจนไม่ให้ขายออก และรู้ว่าลูกบุญธรรมเพียงคนเดียวของเขาจะไม่ลำบาก เพราะตระกูลธีโอฟาสเต้มีทรัพย์สมบัติมากแค่ไหน และคงไม่ทอดทิ้งให้กาเบรียลต้องขายสมบัติของเขาเหมือนที่ญาติพี่น้องของเขาเคยทำ

****************************************


ห้องนั่งเล่นแลดูอึดอัดมากขึ้น เมื่อแจ็คลีนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง ก่อนพ่อเธอจะส่ายหน้า แล้วดึงภรรยาออกไปจากห้อง เพราะต่างก็รู้ว่าเรื่องไม่มีทางจบ จนกว่าตระกูลว็องแดลจะได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ

แจ็คลีนมองหน้าพี่ชายทั้งสามคนแล้วก็ว่าที่พี่สะใภ้ ที่ต่างก็ไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่อง “ได้แบบชุดแต่งงานมาแล้วนะ เราไปเลือกเครื่องเพชรกันดีกว่า”

“ดีเลยจ๊ะ พี่สามคนไปเล่นดนตรีก่อนนะ” มิคาเอลรู้ว่าเรื่องเครื่องเพชรไม่ใช่เรื่องของหนุ่มๆ

“ไปธนาคารเหรอคะ แจ็คกี้” โจเซฟีนถามขึ้น แต่ทำให้สามหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนออกไปจากห้อง “ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ”

“เปล่าหรอกจ๊ะ ไปห้องนิรภัยของบ้านหลังนี้ดีกว่านะ” แจ็คลีนพาโจเซฟีนเดินตามพี่ๆ ไป

หนุ่มทั้งสามแยกเข้าห้อง และสุดทางเดินของห้องใต้ดิน จากนั้นแจ็คลีนก็เอากุญแจออกมาไขที่ช่องคล้ายๆ กับปลั๊กไฟฟ้า จากนั้นกำแพงก็เลื่อนออก แล้วเผยประตูทางเข้าออก แล้วก็ต้องเดินลงบันไดไปอีกชั้น จากนั้นก็ถึงประตูจริงๆ ของห้องนิรภัย

“โห!!” หญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็น

“อะไรจ๊ะ เนี่ยแหละห้องนิรภัยของบ้านหลังนี้จ๊ะ ห้องนี้มีเครื่องเพชรห้าสิบกว่าชุดเลยนะ ของเก่าดั้งเดิมมีสามสิบสองชุด ก็ชุดที่ตระกูลว็องแดลอยากได้นั่นแหละ แล้วก็เครื่องเพชรส่วนตัวของท่านทวดแจ็คลีนสิบห้าชุด แล้วก็ของท่านแม่มีน้อยสุดๆ ของท่านพ่อไม่ต้องพูดถึง มีแต่ของผู้ชายทั้งนั้นล่ะ” แจ็คลีนกดเปิดกล่องนิรภัย ทำให้เห็นเครื่องเพชร

“ไม่กลัวขโมยเหรอคะ เยอะจังเลย” โจเซฟีนมองแล้วละลานตาไปหมด รู้ว่าครอบครัวนี้ร่ำรวย แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้

“ไม่ต้องกังวลหรอกจ๊ะ ถ้ามีใครเข้ามาโดยไม่ได้ใส่รหัสที่ประตูทางเข้า น้ำจากสระว่ายน้ำในร่มจะไหลเข้ามาท่วมห้องนี้ แล้วทันทีที่เราออกไป อากาศในห้องนี้จะถูกดูดออกไปจากห้อง ห้องนี้ทำด้วยเหล็กหนาสิบนิ้ว ระบบอากาศก็ถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม อย่ากังวลไปเลย ไหนชอบชุดไหน” แจ็คลีนมองๆ และช่วยเลือก

โจเซฟีนมองอย่างกลัวหาย “แล้วถ้าฉันเกิดเดินไม่ดี ทำสร้อยมีปัญหาแล้วเกิดหลุดร่วงจะทำยังไงดีล่ะคะ”

แจ็คลีนหัวเราะแล้วส่ายหน้าช้าๆ “ไม่เป็นไร เธอเลือกก่อนแล้ว เดี๋ยวฉันจะเอาไปให้ร้านเพชรช่วยดูความแข็งแรงอีกที นานๆ จะเอาออกมานะ เพราะท่านแม่ไม่ค่อยได้ใส่เท่าไร โดยมากจะใช้แต่ของท่านพ่อน่ะ มีแต่ฉันแหละที่ใช้ ก็ดีนะ ถ้าเธอแต่งงานแล้วก็มีเพื่อนช่วยใช้”

โจเซฟีนเดินมองแล้วก็นึกเกรงๆ ก่อนจะมองชุดเครื่องเพชรสีชมพูอย่างถูกใจ “เอ่อ ชุดนี้ได้ไหมคะ”

แจ็คลีนมองแล้วก็ยิ้มให้ “ชุดนี้ท่านแม่เคยใส่แค่ครั้งเดียวนะ ตอนนั้นเป็นงานกลางปีของตระกูลธีโอฟาสเต้ เป็นครั้งเดียวที่ท่านแม่ยอมใส่ชุดผู้หญิงออกงานล่ะ แหม สมเป็นลูกสะใภ้ของท่านแม่จริงๆ มาเถอะ ลองใส่ดู เลือกมรกตกับทับทิมไปด้วย ไพลินฉันจะใส่เอง”

โจเซฟีนฟังแจ็คลีนเน้นประโยคสุดท้ายก็หัวเราะ เพราะคิดว่าแจ็คลีนจงใจแก้เผ็ดตระกูลว็องแดล ที่ต้องการในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนแล้ว

****************************************


ขณะนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน เพราะตั้งใจไปออกตั้งแคมป์กันหมด แต่เธอติดภารกิจในฐานะผู้ถือหุ้นของธีโอฟาสเต้ และเธอทำได้ดี เมื่อถูกตั้งคำถาม แม้จะมีการตั้งแง่ในเรื่องของฌาคส์ฟิลิปเป้อยู่บ้าง เพราะตอนนี้เธอดูแลทั้งเคไอและฌาคส์ฟิลิปเป้ หากก็ผ่านไปได้ด้วยดี จนเกือบทำให้ซีริลและอองรีเสียหน้าในการประชุม

หญิงสาววัยยี่สิบสามกำลังสนุกกับงานที่ทำ และฉลองชัยด้วยการดื่มแชมเปญอยู่ในบ้านเงียบๆ สี่เดือนมานี่เธอแทบไม่ได้โทรศัพท์กับทรงธรรม เพราะฝ่ายชายยุ่งกับงาน และปัญหาการแข่งขันของปางไม้ ถ้าโทรไปก็คุยกันไม่ได้เรื่อง เพราะเขาง่วงมากจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร

งานการลงทุนเขาก็ส่งให้เคไอช่วยดูแลแทน เพราะไม่มีเวลาดูแลอย่างเดิมแล้ว เธอจึงไม่ค่อยอยากโทรไปรบกวนเขาเท่าไรนัก ได้แต่อีเมลไปหาบ้าง เขาก็แทบไม่มีเวลาตอบ

เสียงเปิดประตูเข้ามาทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง เห็นอองรีท่าทางเละเทะไม่เหมือนเคย ก็ขมวดคิ้วสงสัย สายตาที่มองเธอก็ดูไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก

เขาเดินเข้ามาโดยมีคนสนิทช่วยพยุง และพยายามเดินไปยังเก้าอี้คนเดียว ก่อนโบกมือไล่คนสนิทออกไป และพยายามจะพูดกับเธอ “ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเธอเหรอ”

“ใช่แล้วล่ะ คนอื่นออกไปตั้งแคมป์หมดเลย ว่าแต่มีอะไร โทรมาก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีนอนพักก่อนแล้วค่อยโทรมานะ ทำไมมีสภาพแบบนี้ได้ล่ะ” แจ็คลีนถามด้วยความสงสัย แม้จะน่ากลัวไปบ้าง แต่ยังดีที่เป็นญาติกัน ไม่งั้นเธอคงต้องเตรียมอาวุธไว้ใกล้มือ

เบเนดิกซ์ได้พักและใช้เวลาอยู่กับสามี ยูริก็เป็นผู้ติดตามของโจเซฟีนไปแล้ว ตอนนี้มีแต่รองพ่อบ้านเท่านั้น ที่ยืนอยู่นอกห้อง เธอคิดอีกทีอาจต้องตั้งหลักสักหน่อย

วันนี้เขาเจอแต่เรื่องหนักๆ ทั้งเรื่องงานในที่ประชุม แล้วยังเรื่องคู่หมั้นสาวที่ไม่ใช่สเป็กเขาอีก หลายเรื่องที่เขาโดนกดดันอย่างหนักจากพ่อ เมื่อพี่ชายเขาทิ้งภาระของตระกูล ด้วยการเป็นทหารรับใช้ชาติ

แจ็คลีนถอนหายใจ ก่อนขยับมานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับเขา แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้ ก่อนจะพูดราวกับกำลังพูดกับพี่ชายแท้ๆ “ก็นะ อย่ากดดันตัวเองมากนักสิ หาเวลาว่างทำอย่างอื่นบ้าง หาเวลาผ่อนคลายบ้างสิ”

อองรีกุมมือญาติสาวเอาไว้ จ้องมองและสบตากันนิ่ง ก่อนแจ็คลีนสะบัดมืออย่างแรง เมื่อได้สติ ก็ขยับถอยไปนั่งห่างๆ ขณะที่อองรีก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง แล้วสะท้านในใจ แม้พยายามทำลายความรู้สึกแปลกๆ นี้ทิ้งไป แต่ดูเหมือนจะยากลำบากเหลือเกิน

“เดี๋ยวจะให้คนจัดที่นอนให้นะ หรือจะกลับบ้านล่ะ” แจ็คลีนก็รู้สึกแปลกๆ ไม่รู้สึกโกรธหรือรังเกียจ แต่ก็บอกไม่ได้เช่นกันว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน

เขากลับไม่ตอบแล้วพูดคุยกับเธอ “บางทีฉันก็หวังให้แมเรียนเป็นแบบเธอนะ แต่น่าตลกแมเรียนต่างจากเธอทุกอย่าง ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หัวอ่อน เฮ้อ แม่เขายังถามฉันอยู่นั่นแหละ ว่าจะมีโอกาสไหมที่เธอจะให้เครื่องเพชรพวกนั้นคืนตระกูลว็องแดล ฉันก็ถามว่า แล้วที่แต่งงานเพื่อสมบัติใช่ไหม แมเรียนก็ตอบไม่ได้ ไม่มีใครตอบได้ ฉันก็เลยกลับ แล้วก็ดื่มๆ แล้วก็มาหาเธอเนี่ยแหละ”

แจ็คลีนขมวดคิ้ว ไม่ค่อยชอบใจตระกูลว็องแดลเท่าไรนัก เพราะวุ่นวายกับเรื่องสมบัติที่ตัวเองเอาออกมาขายกิน ในช่วงเศรษฐกิจโลกตกต่ำ เมื่อนานมาแล้ว

“เธอจะมาทวงสมบัติให้พวกนั้นรึไง” เธอพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

“บ้ารึไง! ฉันพูดเรื่องนี้กับใครไม่ได้เลยต่างหากล่ะ ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว” อองรีไม่สนใจอะไรนัก นอนหนุนตักเธอ แล้วพยายามจะไม่คิดอะไรอีก “เธอว่าฉันควรจะทำยังไง แมเรียนนิสัยดีแต่ครอบครัวเธอสิ น่าปวดหัว บางทีฉันก็อยากถอนหมั้นเสียให้มันพ้นๆ ไป”

แจ็คลีนฟังแล้วขมวดคิ้ว ก่อนถาม “คบกันมาตั้งนาน ทำไมอยู่ๆ คิดจะถอนหมั้นเสียล่ะ แมเรียนเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอต้องเรียนรู้ที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเองสิ อีกอย่างนะเธอไม่ได้รักเขาเหรอ อองรี”

อองรียกมือขึ้นก่ายหน้าผาก แล้วมองขึ้นไป เห็นดวงหน้าของญาติเขาใกล้ชิด ก่อนจะถอนหายใจ “ไม่รู้สิ ท่านปู่แนะนำให้รู้จักกัน แมเรียนก็นิสัยดีพอคบได้ ไม่มีเรื่องฉาว ไม่เคยนอกใจฉัน ผิดอย่างเดียวตรงที่ตระกูลเธอ จ้องแต่จะเอาสมบัติท่านทวดโรบินเนี่ยแหละ คิดแล้วปวดหัวนะ”

“ตัวแมเรียนล่ะ เขาต้องการไหม” แจ็คลีนถามไปตามเรื่อง แล้วไม่ได้ก้มลงมองอองรี แต่กำลังทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ในที และเธอก็ทำได้น่ารัก เพราะดูมุ่งมั่นจะช่วยญาติแก้ปัญหา ทั้งที่บางทีก็ดูเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด

“ไม่นะ เขาไม่เคยพูดถึงจนกระทั่งไม่นานมานี้เลยล่ะ โดยมากจะถามเรื่องของฉันมากกว่า คอยดูแลห่วงใยฉัน ถ้าไม่สบายก็คอยดูแล ฉันเสียอีกไม่ค่อยมีเวลาดูแลเขาเท่าไร” อองรียกมือขึ้นจับดวงหน้าสวยหวานให้หันลงมามองเขาบ้าง

“อะไรล่ะ” แจ็คลีนก้มลงมองเขาที่กำลังมองเธออย่างใกล้ชิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แล้วพูดต่อแบบตะกุกตะกัก เพราะสถานการณ์เริ่มไม่น่าไว้ใจนัก “อืม ถ้า...ถ้ามีใครสักคนพร้อมจะห่วงใย พร้อมจะดูแล แล้วก็พร้อมจะเป็นกำลังใจให้ มันหาได้ไม่ง่ายนักหรอกนะ คนที่พร้อมจะสนับสนุนเราทุกด้านน่ะ งั้นก็มองข้ามข้อเสียไปบ้างสิ แมเรียนเป็นคนดี เขาดีกับเธอนะ”

อองรีใช้นิ้วเล่นเส้นผมสีมองของเธอ ก่อนได้สติ แล้วลุกขึ้นนั่ง พยายามตั้งสติ “นั่นสินะ เธอทุ่มเทชีวิตให้ฉันมามาก ฉันควรตอบแทนเธอบ้าง ขอบใจที่รับฟังฉัน ไม่แปลกใจที่มิคาเอลรักน้องสาวอย่างเธอมากแบบนี้ ฉันกลับล่ะ”

เขาลุกขึ้นยืนและยังเซไปเซมาอยู่เช่นเดิม จนแจ็คลีนต้องเข้าไปช่วยพยุง “ไม่ต้องหรอก”

“ได้ยังไงก็เธอเป็นพี่ชายฉันเหมือนกันนี่ อย่างน้อยก็ให้ฉันช่วยพยุงจนกว่าจะถึงมือคนสนิทเธอนะ” แจ็คลีนยิ้มให้ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่ออองรีจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างหนักหน่วง จนเธอแทบลืมไปว่าเขาเป็นญาติเธอ ก่อนได้สติแล้วสะบัดอย่างแรง “ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ”

“ขอโทษ ลืมไปซะเถอะ ฉันเดินเองดีกว่านะ” อองรีพูดแล้วหันหลังให้อย่างรู้สึกผิด แล้วพยายามเดินไปให้ถึงประตู ก่อนเรียกคนสนิทมาช่วยพยุงเขา

แจ็คลีนยกมือขึ้นปิดปาก ความรู้สึกที่ยากจะลืม ในความขัดแย้งที่เธอเคยมีกับอองรี ไม่เคยมีความเกลียดชังอย่างแท้จริง ระหว่างเธอกับญาติหนุ่มมีแต่ความสับสน

เธอกลับห้องนอนด้วยความสับสน นอนบนเตียงแล้วห่มผ้าให้กับตัวเองอย่างละเมอ เริ่มคิดแปลกๆ เริ่มมองหาสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในสายตา ความรู้สึกแปลกๆ ที่อองรีเป็นในวันนี้ เกิดจากความรู้สึกแบบไหนกันแน่ แล้วก็มีดวงหน้าของผู้ชายอีกคนผุดขึ้นมา เธอจึงเปิดลิ้นชักมองแหวนวงที่เขาเคยมอบให้ จากนั้นก็ถอนหายใจ

บางทีถ้าเธอเปิดใจให้ใครเข้ามา อาจลืมสิ่งที่เปิดขึ้นในคืนนี้ เมื่อคิดก็เผลอสัมผัสริมฝีปากของตัวเองอยู่ตลอด ก่อนได้สติแล้วกดโทรไปยังเมืองไทย

“ฮัลโหล” ปลายสายเป็นผู้หญิงตอบกลับมา

“สวัสดีค่ะ ขอสายคุณธรรม” แจ็คลีนเงยหน้ามองนาฬิกาบอกเวลาของเมืองไทย ก่อนจะต้องแปลกใจ เพราะเป็นเวลาตีสี่ของเช้าวันใหม่ที่นั่นแล้ว

“หลับอยู่ค่ะ ค่อยโทรมาใหม่ตอนเช้านะคะ” ปลายสายทำเสียงไม่พอใจนัก ก่อนจะกดตัดสายหน้าตาเฉย แก้วกินรีรู้ว่าเป็นใครแน่นอน แต่เรื่องอะไร...เธอจะให้เขารับสาย

แจ็คลีนนิ่งงัน มองแหวนของเขาแล้วก็รีบเก็บไว้ที่เดิม...

เวลาผ่านไป...ใจคนเราก็เปลี่ยนได้ ดังสายน้ำที่พัดไปตามที่ต่างๆ เปลี่ยนรูปร่างไปตามสถานที่ และใจคนก็เป็นดังเช่นหินผา ต่อให้เข้มแข็งเพียงไร ถูกพายุโหมใส่ก็ปรับเปลี่ยนรูปร่างได้เช่นกัน

****************************************


สองวันถัดมา เขาก็โทรหาเธอ แต่เธอไม่รับสายเขา จนเขาเริ่มแปลกใจ สองวันก่อนเขาไม่สบาย จึงเข้าห้องแล้วพักผ่อน และเพราะฝนตกหนัก เขาจึงให้แก้วกินรีกับลูกสาวพักที่บ้านใหญ่ ขณะที่เขาพักที่บ้านกลางสวนไม้ของเขา แล้วเขาก็ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะแจ็คลีนไม่เคยโทรหาเขาในช่วงเวลาที่เขาควรพักผ่อน

เขาพยายามโทรหาเธอหลายครั้ง จนเธอรับสาย “เป็นยังไงบ้างครับ”

“สบายดีค่ะ คุณล่ะคะ” แจ็คลีนถามไปอย่างนั้นกำลังดูชุด ที่ตัดเสร็จพร้อมสำหรับงานแต่งงานของพี่ชายเธอ

“สบายดีแล้วครับ เป็นไข้หวัดอยู่สองสามวัน ที่เมืองไทยพายุเข้าน่ะครับ คุณกำลังทำอะไรอยู่” ทรงธรรมถามเมื่อได้ยินเธอพูดเกี่ยวกับเสื้อผ้า

“กำลังลองชุดค่ะ จะใส่ไปงานแต่งงานพี่มิค อีกหกอาทิตย์เองค่ะ ต้องลองหน่อยจะได้รู้ว่าพร้อม ชุดแต่งงานของโจสวยมากค่ะ สูทของพี่มิคก็หล่อเชียว” แจ็คลีนพูด โดยไม่ใส่ใจความคิดเขามากนัก

“เสียดายจัง ถ้ามีเวลาผมก็อยากไปนะ” ทรงธรรมพูดอย่างไม่รู้อนาคต เพราะปัญหาที่ปางไม้ก็มากพอดู

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งานเรียบง่าย ถึงข่าวซุบซิบจะพูดยังไง ครอบครัวเราก็หวังว่าจะเรียบง่ายอย่างที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการนะคะ เห็นท่านปู่บอกว่า จะยังไงงานแต่งงานของฉันต้องใหญ่โตสมเกียรติ ฉันยังหัวเราะอยู่เลยค่ะ เพราะยังไม่มีเจ้าบ่าวให้เห็น ท่านปู่ก็เลยบอกว่าไปหาเอาในงานนี้ก็ได้” แจ็คลีนพูดแล้วก็หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะเป็นความจริงที่เธอกับปู่พูดแบบนั้น

“คุณเป็นคนสวยและเก่ง ต้องมีผู้ชายอยากจะแต่งงานกับคุณเยอะอยู่แล้วครับ เรื่องไม่มีเจ้าบ่าวนี่หมดห่วงไปได้เลย” ทรงธรรมพูดตามตรง เพราะเขาก็หวังว่าจะได้เป็นเจ้าบ่าวของเธอ

แจ็คลีนหัวเราะ “คุณเป็นเพื่อนฉันก็พูดได้สิคะ ผู้ชายที่ไหนก็กลัวผู้หญิงเก่งกว่าทั้งนั้นล่ะค่ะ ยกเว้นผู้ชายคนนั้นจะมองเห็นแก่นแท้ของนิสัยฉัน จนมองข้ามไปได้ เอาล่ะ ฉันไม่รบกวนคุณดีกว่า เดี๋ยวคนรักคุณจะว่าเอา แค่นี้ก่อนนะคะ ฉันต้องลองชุดอีกหลายชุด สวัสดีค่ะ” แจ็คลีนบอกลาและตัดบท โดยไม่ได้ฟังคำอธิบายของเธอ

“คนรัก?” เขาทวนคำพูดของเธออย่างงุนงง

หรือเธอจะโกรธที่เขาหาเวลาไปงานแต่งงานของพี่ชายเธอ จนคิดไปว่าที่เขาไม่ไปเพราะมีคนรักอยู่แล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ว่ายังไงเขาก็หาเวลาไปหาเธอได้ตลอด กระทั่งเธอมาเมืองไทย เขาก็ไม่มีเวลาลงไปเยี่ยมเธอเหมือนอย่างเคย

เธอน้อยใจ...

ให้ตายเถอะ...ปัญหาเรื่องงานเขายังเคลียร์ไม่จบ ก็พบปัญหาหัวใจมาจ่อรออีก

“อรัญ” เขาเรียกผู้ช่วยส่วนตัวเขามาดู และจัดการปัญหาเรื่องงาน เพื่อให้เขาสามารถไปงานแต่งงานของพี่ชายเธอได้ และเมื่อได้เจอหน้าเขาก็ถามขึ้น “ปัญหาเรื่องโรงเพาะกล้าไม้จะจบเมื่อไร”

“ถ้าทำอย่างพ่อเลี้ยงว่า เดือนหน้าก็จบแล้วครับ” อรัญพูดตามตรง เพราะตอนนี้พ่อเลี้ยงทำงาน จนเลิกโกนหนวดเคราเลยทีเดียว

“งั้นจัดการให้จบ จองตั๋วเดือนหน้า ฉันต้องไปถึงที่นั่นในตอนเช้า” ทรงธรรมบอกวันแต่งงานของพี่ชายเธอ และสั่งลูกน้องจองตั๋วให้ แล้วก็หันมาจัดตารางงานเสียใหม่ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสโทรหาเธอบ้าง

“พ่อเลี้ยงครับ วันก่อนแม่บ้านตึกใหญ่บอกว่า คุณแก้วน่ะ จะเอาโทรศัพท์พ่อเลี้ยงออกไปจากไร่ด้วย ยังดีที่ผีปู่ย่าคุ้มครอง มือถือพ่อเลี้ยงตกลงมาเสียก่อนเลยไม่ได้เอาไป” อรัญรายงานเรื่องที่เพิ่งรู้มา เพราะไปคุยกับแม่บ้านบนตึกเมื่อเช้า

“อะไรนะ! ทำไมเพิ่งบอกวะ เฮ้อ ถึงว่าคนรกคนรักอะไร ที่แท้ก็อย่างนี้ สงสัยยัยแก้วเอาโทรศัพท์ฉันไปไว้ในห้อง อะไรกัน ปกติก็ไม่เคยโทรมาหลังเที่ยงคืน ก็ประจวบเหมาะโทรมาช่วงนั้นพอดี วันไหนก็ไม่โทรมา บังเอิญโทรมาตอนที่ยัยแก้วเอามือถือไปพอดี ปวดหัว” ทรงธรรมบ่นออกมาอย่างสุดทน เพราะหลายเดือนมานี้เจอมาหลายเรื่อง

“พ่อเลี้ยงใจเย็นๆ ครับ เรื่องอะไรเหรอครับ” อรัญถามให้แน่ใจ

“ก็แจ็คลีนน่ะสิ พูดแปลกๆ สองวันนี่ก็ไม่ยอมรับสาย เรื่องงานก็สุมหัวจะแย่ แล้วนี่ยังเรื่องนี้อีก” ทรงธรรมก็หงุดหงิดพอประมาณ และเพราะอยู่กับคนสนิท จึงออกท่าทางได้เต็มที่

“พ่อเลี้ยงก็ใจเย็นๆ สิครับ สาวๆ ก็อย่างนี้ละครับ เวลาผมทำงานกับพ่อเลี้ยงมากๆ กลับไปยังโดนเมียซักซะขาวเลย เขาว่าผู้หญิงหึงก็เพราะรักนะครับ” อรัญพยายามเตือนสติเจ้านาย

“ถ้าเขารักแล้วเขารอก็ดีน่ะสิ แต่เห็นหนีไปหาคนใหม่ทุกที” ทงธรรมเอาเรื่องเก่ามาผสมใหม่

“ถ้าเขาคิดว่าเรารักเขา...เขาก็รอ โดยเฉพาะคุณแจ็คลีน เธอน่าจะเป็นคนอย่างนั้น แต่ถ้าเธอคิดว่าไม่รักแล้ว หมดรักแล้ว คนอย่างคุณแจ็คลีน...เธอไม่รอหรอกครับ” อรัญพูดแล้วก็ต้องหลบ เพราะเจ้านายคว้าของขว้างใส่เขา

“คนยิ่งกลัวๆ อยู่ ยังไม่รีบโทรไปสั่งดอกไม้ให้เธออีก รออะไรอยู่” ทรงธรรมสั่งลูกน้อง และโมโหแบบไม่จริงจังนัก นึกเห็นด้วยกับคนสนิทนิดๆ “แต่ไม่ต้องบอกนะว่าจะไปงานแต่งงานพี่ชายเธอ อยากจะให้เธอประหลาดใจน่ะ”

“ครับๆ” อรัญต้องสั่งดอกไม้จากเมืองไทย ยังดีที่เขามีเบอร์โทรติดต่อของร้านดอกไม้ที่ฝรั่งเศส และมีบัญชีที่โอนเงินยูโรไปได้ด้วย ไม่งั้นชีวิตคงน่าปวดหัวกว่านี้เยอะ

ทรงธรรมได้แต่หวังว่าช่วงที่ห่างเหินจะไม่ทำให้เธอคิดว่าเขาจงใจเหินห่าง ไม่อย่างนั้นเขาคงปวดหัว โดยเฉพาะตอนนี้เธอเรียนจบแล้วกำลังต่อปริญญาโท เกรงว่าเธอจะมองหน้าหนุ่มอายุใกล้เคียงกัน แล้วพูดภาษาเดียวกันจนชีวิตสวนทางกับเขาไป

****************************************


สวัสดีค่ะ
>,< ติดตอบเม้นอีกที อิอิ
มาอีกตอน โฮะๆๆๆ ไปแล้วค่ะ..เฟรี้ยว
ขอบคุณที่ติดตามนิยายค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ม.ค. 2555, 23:57:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ม.ค. 2555, 23:57:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 1909





<< ML015   ML017 >>
ร้อยวจี 10 ม.ค. 2555, 00:25:49 น.
มีพวกเห็นแก่ตัวเพิ่มเข้ามาอีกแล้ว ส่วนนางมารร้ายก็ไม่วายแผลงฤิทธิ์อีก แบบนี้ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด สนุกค่ะรีบมาต่ออีกนะคะ


konhin 10 ม.ค. 2555, 01:40:55 น.
เอาเข้าาบ้านทำไมเนี่ย งูเห่าชัดๆ


anOO 10 ม.ค. 2555, 08:55:21 น.
เผลอแป๊บเดียวแจ็ค 23 ซะแล้ว
นายธรรมก็สลัดแก้วไม่หลุดซะที


ตุ๊งแช่ 10 ม.ค. 2555, 09:46:05 น.
ตอนแรก แอบงง ตอนเดียวเวลาผ่านเร็วเลย งงๆ ตอนสุดท้ายเลยอ๋อ


Noka 10 ม.ค. 2555, 11:15:45 น.
เรื่องนี้ญาติเยอะ ตอนแรกก็สับสน แต่อ่านไปมาก็เริ่มจำได้และรู้สึกสนุกตามสไตล์เพลิงวารีค่ะ ^^


tuktuk 10 ม.ค. 2555, 13:41:20 น.
รอค่ะรอ....


kaeka 10 ม.ค. 2555, 14:05:17 น.
เฮ้อออออออ ทรงธรรม พยายามมานานแค่โดนนังงูเห่าหนเดียวคะแนนตกอีกแล้ว


หนอนฮับ 10 ม.ค. 2555, 16:14:07 น.
หนอยยยย...จัดการขั้นเด็จขาดกับนางแอบมารซะเลย..หนอยแนะ


Pat 10 ม.ค. 2555, 19:24:23 น.
งงๆ ต้นบทยังคุยถึงคนรักใหม่มิคาเอลนา อ่านๆไปทำไมเป็นโจเซฟินล่ะคะ


ร้อยวจี 10 ม.ค. 2555, 21:34:34 น.
ไม่งงค่ะ ไปอ่าน Love & Rock สิคะ จะรู้ ภาคของมิคาเอล สนุกเหมือนกัน


maplezaa 11 ม.ค. 2555, 12:34:52 น.
ช่วยจัดการยัยแก้วให้เด็ดขาดได้ป่ะคุณธรรม ไม่ไหวจะเคลียร์น่ะ


XaWarZd 12 ม.ค. 2555, 04:34:48 น.
ยัยแก้วยังไม่จบอีก น่าจะโดนชุดใหญ่ตัดหางปล่อยวัดไปเลยนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account