Missing Love
(ภาคต่อของพาย) เมื่อเขาทำรักหายไปจนมาเจอเธอ และเธอตั้งใจพลาดความรักเพื่อความสำเร็จ แล้วเขาจะทำให้เธอหันมาสนใจความรักได้อย่างไร
Tags: พาย แจ็คลีน

ตอน: ML017

Missing Love ตอนที่ 17

งานแต่งงานช่วงเช้ากับบ่ายผ่านไปอย่างเรียบง่ายและหรูหรา แจ็คลีนได้พักเหนื่อยบ้าง เพราะเป็นแม่งานช่วยพี่ชาย แต่ยังไม่ทันได้พักอย่างเต็มที่ก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาเธอ

“ไงคะ” แจ็คลีนรู้ว่าปลายสายเป็นใคร

“ช่วยผมหน่อยสิ รปภ.หน้างานไม่ให้ผมเข้างานน่ะ คือว่าคุณไม่ได้ให้การ์ดเชิญผมไว้” ทรงธรรมบอกเธอแล้วถอนหายใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีการักษาความปลอดภัยมากอย่างนี้

“เอาโทรศัพท์ให้ รปภ. หน่อยค่ะ” แจ็คลีนบอกเขา แล้วเมื่อเธอรับรอง รปภ. หน้างานก็ให้เขาเข้าไปได้ ก่อนเธอจะบอกเขาว่า เธอนั่งอยู่ไม่ห่างจากโต๊ะพี่ชายนัก

“ลุงมาเหรอคะ” เฮเลนถามพี่สาวอย่างสงสัย

“อืม อย่าไปเรียกแบบนั้นต่อหน้านะ เขายังไม่แก่สักหน่อย” แจ็คลีนเริ่มแก้ตัวแทนทรงธรรม ก่อนจะต้องเปลี่ยนใจ เพราะเขามีหนวดเครารุงรัง

“แบบนี้หนูว่าเรียกได้นะคะ” เฮเลนมองชายหนุ่มที่มีหนวดเคราเดินมา แล้วก็หัวเราะกับเจนีน

แจ็คลีนมองเขาแล้วตาค้าง เขาตัวสูงร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร ซึ่งก็จัดว่ากำลังพอดี แต่หนวดเคราเขายังไม่ได้จัดการ...แตกต่างจากปกติ

“หนุ่มของเธอนี่น่ากลัวนะ” สเตฟานกรีดไม้กรีดมือวิจารณ์ตามประสาหนุ่มเกย์ กับไอรีนที่กำลังมองไปทางที่เพื่อนชี้

“ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะมานะ ตอนแรกผมไม่คิดว่างานจะเสร็จทัน กว่าจะได้เครื่องก็คิดอยู่ว่าจะมาทันไหม” ทรงธรรมตื่นๆ กับญาติและเพื่อนๆ เธอ ญาติบางส่วนเขารู้จัก แต่เพื่อนๆ เธอ เขาแทบไม่เคยมีโอกาสได้รู้จัก

แจ็คลีนถอนหายใจยาวกับหนวดของเขาที่เพื่อนๆ เธอแอบวิจารณ์นิดๆ แต่ก็ต้องยอมให้เขานั่งข้างๆ ก่อนเขาจะนั่ง เธอก็นึกได้ว่าข้างๆ เธอเป็นเก้าอี้ของเพื่อนอองรี ที่เป็นคู่เดทออกงานของเธอ

“คุณกำลังจะนั่งที่เก้าอี้ของผม” ปีเตอร์จ้องหน้าชายหนุ่มอีกคนแบบหาเรื่อง เดือนกว่าแล้วที่เขามีโอกาสไปไหนมาไหนกับแจ็คลีน และเริ่มชอบเธอ

“โอะโอ!!” สเตฟานเห็นรถไปชนกันก็ต้องมองอย่างประหลาดใจ

ทรงธรรมมองชายหนุ่มคนนี้อย่างงุนงง ก่อนจะมองเธอเป็นเชิงถาม

“ไม่เอาน่า พีท นี่ก็ทรงธรรม อภินันท์ เขาเป็นเพื่อนฉัน ธรรมคะ นี่ปีเตอร์ มาร์แชล พีทเป็นคู่เดตในงานนี้ของฉันน่ะค่ะ คือท่านปู่คิดว่าฉันควรมีเพื่อนมางานด้วยค่ะ เขาเป็นเพื่อนชาวอังกฤษของอองรีค่ะ เราไปนั่งที่โน้นก็ได้นะคะ ขอตัวสักครู่นะคะ พีท” แจ็คลีนลุกจากเก้าอี้ ก่อนที่จะมีมวย แล้วจับข้อมือเขา พาไปนั่งอีกห้อง ที่ไม่ใช่ห้องจัดเลี้ยง

เธอพาเขามานั่งที่เก้าอี้ด้านนอก ก่อนจะพูด “ขอโทษนะคะ ก็ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมาน่ะ”

“ผมรู้ แต่คุณต้องมีคู่เดตด้วยเหรอ” ทรงธรรมถามเธอด้วยน้ำเสียงเข้มงวดและไม่พอใจเท่าไรนัก

“ก็แล้วจะให้ฉันทำยังไง มีแต่คนบอกว่าฉันควรมีคู่ออกงาน อายุอย่างฉันไม่ควรออกงานคนเดียว แล้วฉันก็ไม่ได้อยู่กับพีททั้งวัน เพราะฉันยุ่งมาก พี่ชายกับพี่สะใภ้ฉันต้องการคนช่วยและฉันก็เก่งที่สุด” แจ็คลีนพูดอย่างเมานิดๆ เพราะเธอดื่มไปหลายแก้วมากแล้วกำลังอารมณ์ดี และเหนื่อยด้วย

“คุณเมาเหรอเนี่ย” ทรงธรรมมองเธอแปลกไป

“มานั่งดีกว่านะคะ” แจ็คลีนกวักมือเรียกเขา ก่อนจะยอมรับเมื่อเขานั่งลง “ฉันเริ่มดื่มตั้งแต่เช้า เพราะวันที่แสนวุ่นวาย ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันลูกพ่อแม่ แล้วก็น้องสาวของพี่ชายตั้งสามคน ฉันดื่มเหล้าไปสามขวดแล้วก็ไวน์อีกสี่ขวดได้ แค่นี้ก็นิดหน่อยค่ะ ว่าแต่คืนนี้คุณนอนที่ไหนล่ะ”

“โรงแรมสิครับ” ทรงธรรมถอนหายใจ ลูบผมเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู

“คุณยังรักฉันอยู่ไหม” แจ็คลีนถามแล้วก็หัวเราะนิดๆ

ทรงธรรมขมวดคิ้วก่อนจะตอบ “ผมยังรักคุณอยู่นะ”

“แน่ใจนะ ว่ายังไม่มีใครจริงๆ” แจ็คลีนถามสบตาเขาหวานซึ้ง ชนิดที่เรียกว่า...ต่อให้มีก็ไม่กล้าตอบว่ามี

“ไม่มีแน่นอน ผมบอกแล้วไงว่าแก้วแกล้งผม เขาเอามือถือผมไปครอง แล้วยังเกือบขโมยไปแล้วด้วยซ้ำ เขาอยากให้คุณคิดว่าผมมีเขาแล้ว ทั้งที่มันไม่มีวันเป็นอย่างนั้นแน่นอน” ทรงธรรมขยับเข้าใกล้เธออัตโนมัติอย่างลืมตัว

“ทำไมเขาถึงอยากให้ฉันคิดแบบนั้นละ เขาเคยเป็นมากกว่าเพื่อนใช่ไหมคะ” แจ็คลีนทำเสียงอ้อนแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ยิ่งทำให้เขาลืมไปเลยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน

“อดีตเท่านั้นล่ะ ผมเคยคบเขา เคยอยากแต่งงานกับเขา แต่พอชีวิตและฐานะครอบครัวผมแย่ลง เขาก็ตีจากไปกับคนอื่น ลิซซี่ก็ลูกเขาไง” ทรงธรรมเผลอสารภาพหมด

“พอเขากลับมา คุณเคยมีอะไรกับเขาไหมคะ” แจ็คลีนกำลังล่อหลอกเอาคำตอบจากเขา น้ำเสียงเย้ายวนเกินจะโกหกได้ลง

“ไม่เคยมีหรอก ใครจะยอมกลับไปลงหลุมเดิมล่ะ ผมเคยเจ็บปวดแล้ว จะไม่ขอกลับไปเจ็บปวดอย่างเดิมแล้ว ผมจะรอคุณพร้อมเปิดใจมากกว่า” ทรงธรรมพูดจบก็เผลอโน้มเข้าไปจูบเธออย่างหนักหน่วง กว่าจะได้จูบนี้มา เขารอแล้วรอเล่า ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อได้จูบนี้มาเขาก็ไม่คิดว่าจะถอนจูบง่ายนัก

“ขอตัวน้องสาวเข้างานไปกับผมก่อนได้ไหม แล้วค่อยว่ากันเรื่องคุณ” มิคาเอลยืนเอามือไพล่หลัง ตอนแรกกะว่าจะรอจนจูบกันเสร็จ แต่ดูเหมือนจะนานเกินรอ

“ท่านพี่!!” แจ็คลีนผลักเขาทันทีที่มีสติ แล้วก็ยิ้มแห้งๆ

“จะได้เวลาดื่มฉลองแล้วล่ะ” มิคาเอลทำเป็นไม่เห็นเสีย

ตาลุงคนนี้...ก็ใช่ว่าจะน่ารังเกียจเสียที่ไหน อีกอย่างเขาเรียนรู้เรื่องความรักมากพอที่จะไม่เข้าไปยุ่ง เขาเกือบล้มเหลวมาครั้งหนึ่ง เพราะมีคนอื่นเข้ามาวุ่นวาย จนเขาเกือบไม่ได้แต่งงานกับเจ้าสาวของเขา บทเรียนจึงสอนให้เขาเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้ให้น้อยลง

“คุณไปนั่งโต๊ะเดียวกับปู่ผมก็แล้วกัน ท่านคงไม่รังเกียจเหนาเครารุงรังของคุณเท่าไรหรอกนะ สมัยท่านคนไว้เคราเยอะแยะไป” มิคาเอลพูดพร้อมยิ้มขำ เพราะดูเหมือนน้องสาวเขาจะไม่รังเกียจหนวดเคราของตาลุงคนนี้เท่าไร

ทรงธรรมลืมตัวยกมือขึ้นลูบหน้า ขณะที่แจ็คลีนก็ก้มหน้าเพราะกำลังเขินอาย แต่ก็โดนพี่ชายกั้นขวางเอาไว้ และโดนพี่ชายโอบไหล่เอาไว้ จนถึงโต๊ะของเจ้าบ่าวอย่างเขา โดยมีเจ้าสาวนั่งอยู่ใกล้ๆ

พิธีต่างๆ ก็จบลงด้วยรอยยิ้มของคนทั้งงาน แจ็คลีนถูกชวนออกไปเต้นรำอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่ทรงธรรมได้แต่นั่งเกร็งอยู่กับญาติผู้ใหญ่ของเธอ จะผ่อนคลายลงก็ตอนที่พายมานั่งข้างๆ แต่ก็ไม่นานเพราะกาเบรียลดูจะไม่อายใคร แม้ภรรยาเขาจะสวมสูทเต็มยศออกไปเต้นรำกับเขา

ทรงธรรมหาทางรอดด้วยการขอตัวไปจากโต๊ะ เมื่อการเต้นรำเริ่มต้นขึ้น

“แม้แต่วันแต่งงานลูกชายยังสวมสูท ลูกสะใภ้คนนี้ของท่านพ่อท่านแม่ดูจะเป็นคนพิเศษเหลือเกินนะครับ” เรมองด์ยังคงหาเรื่องได้ตลอด เพราะดูเหมือนครอบครัวพี่ชายคนที่สามทำอะไรดูจะไม่ผิดในสายตาคนอื่น

“พายจะเป็นยังไงก็ไม่ใช่ธุระของลูกหรอกนะ เรมองด์ แทนที่ลูกจะมาพูดประชดพ่อแม่แบบนี้ ทำไมไม่ออกไปหาเครื่องดื่ม ดื่มให้พอใจแล้วกลับเสียล่ะ ยังไงมิคาเอลก็หลานของลูก จะเกลียดกันให้ตายไปข้าง ก็ไม่ทำให้สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปได้ แม่ไม่เคยสอนให้ลูกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้นะ

โตได้แล้วก็หยุดงอนพี่ชายของลูกซะ เลิกคิดอิจฉาเรื่องที่พี่ชายของลูกได้รับมรดกจากท่านปู่โรบินได้แล้ว อย่างน้อยลูกก็ได้เวลาจากแม่กับพ่อมากกว่าพี่ของลูก ยามป่วยไข้ แม่ก็ดูแลลูกมากกว่าพี่ของลูก กาเบรียลได้ความรักจากท่านปู่ท่านย่าทดแทน ลูกน่าจะดีใจแทนที่จะอิจฉา หรือความรักของแม่ไม่มีค่าเท่ากับเงินทองที่พี่ชายลูกได้ไป” บอนแนร์พูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา เพราะรำคาญเรื่องที่ลูกๆ ขัดแย้งกัน

“ท่านแม่!!” เรมองด์มองอย่างอึ้งๆ

“เงินทองน่ะ ของนอกกาย ความรักจากพ่อแม่น่าจะมีค่ามากกว่านะลูกนะ” บอนแนร์สมทบในตอนท้าย ก่อนจะลูบผมลูกชายคนที่สี่อย่างเอ็นดู “รู้ไหม แม่คิดทบทวนมานานเหลือเกิน ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกกับกาเบรียล จนพ่อเตือนแม่ให้เข้าใจ

ลูกรัก...ลูกสองคนเหมือนกันตรงที่ต่างอิจฉากันและกัน กาเบรียลอิจฉาลูกตรงที่คิดว่า ลูกได้รับความรักจากพ่อแม่มากกว่า ขณะที่ลูกก็คิดว่าท่านปู่โรบินกับท่านย่าแจ็คลีนลำเอียง ยกทรัพย์สมบัติให้กาเบรียลคนเดียว แต่รู้ไหม กาเบรียลรักลูกมากกว่าที่ลูกคิดนัก เขาถึงได้แบ่งส่วนที่ท่านปู่ไม่ห้ามแบ่งให้กับพี่น้องทุกคน ทั้งยังแบ่งให้กับตระกูลว็องแดลด้วย

ทำไมลูกไม่คิดว่านี่เป็นการแสดงความรักของกาเบรียลล่ะ ลืมเรื่องบาดหมางไปได้แล้ว และก็ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ด้วยการคืนดีกับพี่ชายซะ ก่อนจะไม่เหลือพี่น้องไว้ให้รักอีก”

เรมองด์มองพี่ชายที่กำลังมีความสุขกับภรรยาที่รัก “ท่านพี่จะให้อภัยผมเหรอ”

“กาเบรียลรักลูกนะ เพียงแต่วิธีรักอาจจะประหลาดๆ ไปซะหน่อย ก็สมตัวเขา แล้วก็สมตัวลูกด้วย” ธีโอดอร์โอบไหล่ภรรยาขณะพูดกับลูกชาย ในที่สุดภรรยาเขาก็เข้าใจสิ่งที่เขาเพียรทำมาตลอด เขาหันไปทางซีริล ก่อนจะเตือนลูกชาย “ทำให้หลานๆ เลิกเกลียดกันด้วยก็ดี ชีวิตมันสั้นจะอยู่อย่างเกลียดชังกันไปเพื่ออะไร”

“พี่เห็นด้วยกับท่านพ่อท่านแม่นะ พอได้แล้วกับความเกลียดชัง หันมาดูแลกันและกันดีกว่านะ” ฌองตัดใจพูดกับน้องชาย

เมื่อได้ยินแม่พูดแบบนั้น เขาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตลอดมาเขาเข้าข้างน้องชายคนที่สี่ เพราะรู้สึกว่าน้องชายขาดบางอย่างเสมอ โดยไม่ได้มองความจริงอย่างที่แม่มอง เมื่อแม่พูดแบบนั้น เขาก็เริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไมน้องชายถึงทำตัวเป็นศัตรูกันมาตลอด

อิจฉาความรักที่อีกฝ่ายได้รับ...ปมเดียวที่เหลืออยู่

เสียงถอนหายใจดังลั่นเข้าในสมองของเขา ขณะที่พายกับกาเบรียลเดินเข้ามา เรมองด์เดินเข้าไปหาพี่ชาย และจ้อง...จ้อง และยืนขวางทางที่จะเดินไปนั่งโต๊ะ

“อะไรของนาย” กาเบรียลมองท่าทางแปลกๆ ของน้องชายที่ชอบหาเรื่อง

“ขอโทษ” เรมองด์อดพูกระแทกไม่ได้ เพราะทุกอย่างยังใหม่สำหรับเขา

“เรื่อง?” กาเบรียลเป็นงง และยังไม่ปล่อยมือจากภรรยา แล้วเขาก็ตกใจและยังไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อน้องชายกอดเขาเข้าให้ เขาทำตาโตอย่างงุนงง “เรื่องอะไร!”

“แค่นี้แหละ!” เรมองด์ปล่อยพี่ชายแล้วเดินไปหาลูกชายแทน

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” กาเบรียลถามพาย ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้นครับ”

“น้องเขาก็อยากแสดงความรักกับพี่ชายบ้างสิ” บอนแนร์ทำเสียงดุลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก

“อ๋อ” พายก็เข้าใจขึ้นมาได้

“อ๋อ! อะไร” กาเบรียลถามภรรยาเพราะยังงงไม่เลิก

“น่าพี่น้องกัน” พายพูดแล้วลูบหลังสามีเป็นเชิงปลอบ

“อะไร!” กาเบรียลยังคงงงต่อไปขณะที่คนอื่นในโต๊ะก็ได้ยิ้ม

“เขาพยายามปรับความเข้าใจกับนายในแบบของเขาน่า” พายต้องเป็นคนอธิบาย

กาเบรียลหันไปมองน้องชายที่กำลังคุยกับลูกชาย ก่อนซีริลเดินไปหาแจ็คลีนที่กำลังเต้นรำกับปีเตอร์ แล้วก็เต้นรำกับลูกพี่ลูกน้อง...เป็นการสงบศึก

“ดีใจที่ทุกอย่างสงบลงได้” พายพูดขึ้น ก่อนจะหันไปจูบสามีที่ทำหน้างงๆ อยู่นิดหน่อย ก่อนจะทำหน้าเข้าใจ

“โอเคๆ ดีแล้วๆ แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ดีที่เรมองด์เข้ามากอด เอาเถอะๆ” กาเบรียลยังขนลุกที่น้องชายเข้ามากอดยังไม่หาย แต่ก็ไม่ค่อยคิดมาก เพราะไม่พยายามคิดมากมานานแล้ว

ขณะที่แจ็คลีนเต้นรำกับญาติอีกคนอย่างอึดอัด

“เป็นอะไร เต้นรำซะแข็งเลย เมื่อกี้เต้นกับพีทไม่เห็นจะเกร็งแบบนี้” ซีริลพูดเสียงแข็งๆ ตามเดิม

“เปล่าหรอก แต่ไม่เคยเต้นรำกับเธอก็เท่านั้นเอง” แจ็คลีนไม่อยากต่อปากต่อคำในงานแต่งงานพี่ชาย

“ท่านพ่อบอกให้ฉันมาปรับความเข้าใจกับเธอ เราเป็นพี่น้องกัน ก็ไม่ควรจะทะเลาะกันอีก เมื่อกี้ท่านพ่อปรับความเข้าใจกับท่านลุงแล้วล่ะ เธอคิดว่าไง” ซีริลพยายามปรับความเข้าใจ เมื่อพ่อเขาอธิบายถึงความสำคัญของพี่น้อง

แจ็คลีนหยุดเต้น แล้วกอดซีริลแทนคำตอบ “เราก็ปรับความเข้าใจกันได้แล้วนะ”

ซีริลถึงกับหน้าแดง ไม่คิดว่าจะโดนเธอกอด และเมื่อเธอปล่อย เขาก็รีบเดินกลับไปที่โต๊ะ ทำให้แจ็คลีนต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะโดนอองรีเข้ามาขอเต้นรำด้วย

“คุยอะไรกับซีริล ทำให้เขาหน้าแดงไปอย่างนั้น” อองรีถามเมื่อได้โอกาสเต้นรำกับเธอ

“เปล่าค่ะ ก็ซีริลอยากปรับความเข้าใจนี่ ฉันก็เลยกอดเขาปรับความเข้าใจแทน ไม่เห็นต้องพูดอะไรกันเลยนี่ เรื่องที่เกิดขึ้น มันก็เป็นเรื่องเด็กๆ เท่านั้นเอง กอดกันก็จบแล้วล่ะ พี่น้องกันนี่นา” แจ็คลีนพูดแล้วก็ยิ้ม ดูโล่งใจและมีความสุขมากกว่าที่เคย ทั้งยังผ่อนคลายท่าทีลง ก่อนเธอจะถามขึ้น “หมุนหน่อยไหม มาเถอะ”

อองรีเต้นรำกับเธอ จับเธอหมุนแล้วโอบรับ ก่อนจะสบตาต้องกัน จากนั้นก็รีบเปลี่ยนท่า แต่แจ็คลีนยังหัวเราะสนุกอยู่ในที จนเขาเริ่มสงสัย “เธอดื่มไปกี่แก้วเนี่ย”

“ไม่รู้สิ ไม่ได้นับ ก่อนดื่มฉลอง นับบรั่นดีได้สามขวด ไวน์อีกสี่ อ๋อ ลืมแชมเปญแต่จำไม่ได้แล้วว่ากี่แก้ว” แจ็คลีนเริ่มมึนหัวเราะหมุนไปหลายรอบ จึงยอมให้อองรีพยุง

เขาโอบไหล่และพาเธอกลับไปที่โต๊ะ ก่อนจะบอกเพื่อนๆ เธอ “แจ็คลีนต้องกลับบ้านแล้วล่ะ เธอเมามากเหลือเกิน”

“ไม่ๆ ยังเต้นได้อีกหลายรอบ” แจ็คลีนสนุกกับงานฉลองอยู่ดี ก่อนจะหันไปทางทรงธรรมที่กำลังเดินมาทางนี้ ก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินไปจูงมือเขา “เต้นรำกับฉันสักเพลงนะคะ”

ทรงธรรมโดนเธอลากไปกลางฟลอร์ แล้วเต้นรำกับเธออย่างแปลกๆ ก่อนจะถามเธอ “คุณแน่ใจนะ ว่ายังไหว”

“น่าไหวสิ ฉันยังสนุก” แจ็คลีนยังคงเต้นรำอย่างสนุกสนาน

สเตฟานนั่งมองเพื่อนสาวกับไอรีน ก่อนจะพูดจีบปากจีบคอ “ตายๆ เพื่อนฉัน ดูสิ ไอรีน หล่อนเมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว”

“อย่าห่วงไปเลยน่า พี่ชายแจ็คอยู่เต็มไปหมด มีผู้ชายคนไหนกล้าลากหล่อนไปก็ประหลาดแล้วล่ะ” ไอรีนรู้ว่าพี่ชายเพื่อนนั้นตาขวางอย่างกับอะไรดี แม้จะอยู่ข้างๆ คนรักของตัวเองก็ตาม

ทรงธรรมเริ่มเป็นห่วงเธอ ก่อนจะช่วยพยุงเธอเอาไว้ตลอดที่เต้นรำกัน เมื่อเพลงจบลง แทนที่เขาจะพาเธอไปที่โต๊ะ เขาก็พาเธอไปส่งถึงมือพ่อแม่เธอ แล้วพูดขึ้น “แจ็คลีนต้องการพักผ่อนแล้วล่ะครับ ให้ใครพาเธอขึ้นนอนดีไหมครับ”

ผู้ใหญ่ต่างก็มองเขาพยุงเธอเอาไว้ข้างหนึ่ง กึ่งลากกึ่งจูงเสียด้วยซ้ำ ก่อนพายจะลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มลูกสาวเอาไว้ “เดี๋ยวพาไปเอง ขอบใจนะ คืนนี้กลับโรงแรมเหรอ พรุ่งนี้เก็บของมาค้างที่บ้านสิ ทีหลังมาค้างที่บ้านเถอะ แค่ค่าตั๋วไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยกับปารีสก็แพงแย่แล้ว ยังต้องเสียค่าโรงแรมอีกเหรอ”

“นั่นสิ ต่อไปนี้ก็มาเป็นแขกที่บ้านนี้ได้เลยนะ” กาเบรียลบอกทรงธรรมแทนการยืนยันอีกที

“พ่อว่าดึกมากแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวคงอยากมีเวลาส่วนตัวแล้วล่ะนะ เดี๋ยวเราก็กลับกันเถอะ” ธีโอดอร์เห็นว่าวันมงคลวันนี้เกิดแต่เรื่องดีๆ มากมาย ก็รู้สึกคุ้มค่ากับชีวิตครอบครัวของเขา

ไม่ว่าข่าวจะเสียหายจะออกมาอย่างไร ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวลอีก เพราะอย่างน้อยครอบครัวก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกันเมื่อปรับความเข้าใจกันได้

“หนูยังไม่อยากนอนค่ะ หนูยังอยากเต้นรำอยู่เลย” แจ็คลีนพูดขึ้น ทั้งที่แทบลืมตาไม่ขึ้น อยู่ในอ้อมแขนของแม่

“ลูกนายนี่ยังไง เมาแล้วดื้อ” พายโทษกาเบรียลอย่างไม่จริงจังนัก

“ก็เธอนั่นแหละดื้อนัก ลูกถึงได้ดื้อไง” กาเบรียลก็พูดกับภรรยาอย่างไม่จริงจังนัก ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

ครอบครัวประหลาดๆ ของลูกชายคนที่สามก็ทำให้ทุกคนไม่ต้องเครียดได้ ท่าทีเฉยชาที่ทุกคนเกรงกันนัก ก็ผ่อนคลายลงได้ ด้วยความสุขที่ทุกคนมีในวันนี้

****************************************


หัวสมองหนักปวดจนแทบไม่อยากจะลืมตา เพราะสายตาไวต่อแสงทำให้ต้องสั่งแม่บ้านปิดม่านเอาไว้ตลอด ก่อนจะคลานลงจากเตียง แต่ก็สะดุดใครบางคนจนต้องร้องออกมาเสียงดัง

“อะไร ลูก” พายหันไปมองลูกสาวที่อยู่ใต้ความมืด เห็นลูกสาวนั่งกุมขมับก็รวบมากอดเอาไว้ “มานี่มา จะรีบตื่นไปไหน ดื่มหนักนะ เรา เมื่อวานยืนได้ก็เก่งแล้ว”

“หนะ...หนู” แจ็คลีนพยายามจะพูด แต่ก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมา

“นอนต่อเถอะ เดี๋ยวแม่ให้เจน่าเอายาแก้แฮงค์มาให้” พายบอกลูกสาว ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง หลังจากกล่อมให้ลูกสาวหลับอีกครั้ง แต่แจ็คลีนยังไม่ยอมปล่อยมือจากแม่

“ทำไมแม่มานอนอยู่บนเตียงหนูล่ะคะ” แจ็คลีนถามอย่างสงสัย แต่ก็หลับตาอยู่ท่าทางยังมึนไม่หาย

“ลูกสนุกเกินไปน่ะสิ แม่อุ้มลูกมานอน แต่ลูกไม่ยอมนอนท่าเดียว พ่อเข้ามาดู แล้วแม่ก็ลงไปจัดการกับพี่ชายกับโจ แล้วพอกลับมา พ่อก็กล่อมลูกจนหลับ แล้วพ่อเขาเป็นห่วงเลยให้แม่มานอนเป็นเพื่อน กลัวว่าลูกจะตื่นขึ้นมาแล้วดื่มต่อน่ะสิ” พายใช้เสียงโทนต่ำ เพราะรู้ว่าลูกสาวจะปวดหัวอย่างรุนแรง ถ้ามีใครมาพูดเสียงสูงๆ ใส่หู

“ค่ะ” แจ็คลีนตอบรับ ก่อนหลับตาลง

เที่ยงวันเธอสวมแว่นตากันแดด นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในสวน รอดูข่าวเรื่องการแต่งงานของพี่ชาย และก็เห็นข่าวที่เขียนเรื่องดีๆ ก็เบาใจ ก่อนจะมองแก้วน้ำที่นึกว่าคนรับใช้เอามาวางไว้ “ขอบใจจ๊ะ”

“ไม่เป็นไรครับ” ทรงธรรมนั่งแล้วยิ้มให้ เขายังไม่ได้โกนหนวดเคราเหมือนเดิม

แจ็คลีนมองเขาแล้วก็ฝืนยิ้ม ขณะดื่มน้ำที่เขาเอามาให้ “ทำไมวันนี้มาแต่วันเลยล่ะคะ”

“พ่อแม่คุณชวนผมมาพักที่นี่น่ะ” ทรงธรรมบอกเธอ แล้วเห็นได้ชัดว่าเธอยังเมาค้างอยู่

“อ๋อค่ะ ท่านคงเห็นว่าสะดวกดี แล้วก็ไม่สิ้นเปลืองด้วย แค่คุณต้องเสียค่าเครื่องบินเพื่อมาเยี่ยมฉันบ่อยๆ ฉันก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว ในฐานะเพื่อน ฉันรู้ว่าคุณทุ่มเท” แจ็คลีนพูดอ้อมและเลี่ยงไปไกล

“คุณจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเราจูบกัน” ทรงธรรมถามตรง จนเธอยกมือขวาขึ้นลูบหน้า ก่อนเขาจะได้เห็นรอยยิ้มสวยของเธอ ทำให้เขารู้ว่าเธอจำได้

“ฉันเมา แต่ยังมีสติอยู่ค่ะ คุณคงไม่ถือคนเมานะคะ” แจ็คลีนยื่นมือไปลูบเคราเขา แล้วก็หัวเราะนิดๆ เพราะสากมือ พยายามนึกถึงจูบเมื่อคืน ก็หัวเราะคิกได้น่ารัก จนคนมองอยากดึงมาจูบ

“ผมคนไทย ถือนะครับ ผมต้องรับผิดชอบแล้วล่ะ” ทรงธรรมพูดยิ้มๆ แล้วจับมือเธอเอาไว้ ทั้งยังมองอย่างแสนรัก แต่เธอกลับหัวเราะ แล้วไม่พูดอะไร นอกจากดึงมือกลับมาแล้วรับสายที่กำลังเข้ามา

“ไง พีท” แจ็คลีนรับสายเพื่อนอองรีที่โทรมาตลอด แต่เธอไม่ได้โทรกลับ

“เมื่อคืนยังไม่ได้ลาเธอเลย เป็นยังไงบ้าง เห็นผู้ชายคนนั้นไร้มารยาทมาก ลากเธอออกจากฟลอร์ไปเลย” ปีเตอร์วิจารณ์ผู้ชายอีกคนที่ไว้หนวดเรารกรุงรัง

“อ๋อ เขาเป็นห่วงน่ะ เห็นฉันเมามาก นี่ก็กำลังจะทานมื้อเที่ยงกับเขาล่ะ เธอจะกลับลอนดอนแล้วใช่ไหม ไว้ค่อยเจอกันใหม่นะ แค่นี้ก่อนจ๊ะ” แจ็คลีนพยายามตัดบท เริ่มรำคาญหนุ่มขี้บ่นอย่างปีเตอร์ ไม่น่าเชื่อว่าอองรีจะสุงสิงกับคนขี้บ่นแบบนี้ “ผู้ชายอะไรขี้บ่นน่ารำคาญ”

ทรงธรรมไม่ค่อยได้เห็นเธอบ่นว่าใครนัก ก็นึกแปลกใจ หรือเธอยังเมาค้างไม่หาย

“ทนได้ไหมคะ ปกติฉันจะขี้บ่นกับคนใกล้ตัวค่ะ ไม่งั้นฉันคงสติแตกไปนานแล้ว พูดแล้วก็ยังมึนไม่หายเลย” แจ็คลีนพูดแล้วก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“คุณแกล้งผลักไสผมอีกแล้วใช่ไหม ผมขอโทษเรื่องที่ไม่ได้คุยกับคุณแต่แรก หกเดือนมานี่ผมยุ่งมาก คู่แข่งผมป่วนผมไปหมด ผมพยายามอย่างหนักที่จะมาพบคุณจริงๆ นะ” ทรงธรรมพยายามอธิบายให้เธอฟังจนเธอปิดปากเขา

“อย่าคิดมากสิคะ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย โอ๊ย! นี่ฉันยังเมาค้างอยู่เลยนะเนี่ย ไปทานมื้อเที่ยงกันเถอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่คงไม่มาทานด้วย ตอนสายฉันตื่นมา คุณแม่ก็กลับไปที่ห้อง ท่านทั้งสองคงกำลังหวานชื่นกันอยู่ เราไปทานกันเถอะค่ะ” แจ็คลีนทำไม่ใส่ใจเท่าไรนัก รู้สึกมึนๆ เหนื่อยๆ แล้วก็อยากจะนอนมากกว่า

ทรงธรรมมองเธอยื่นมือมาให้เขา แล้วยังไม่ยอมจับมือง่ายๆ

“นี่คุณ มือฉันล้างมาสะอาดนะคะ” แจ็คลีนพูดเสียงเข้มใส่เขา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะนิดๆ “ฉันไว้ใจคุณน่า มาเถอะ เราเป็นเพื่อนมากี่ปีแล้ว คุณเกือบจะเป็นพี่เขยฉันอยู่แล้วนะ”

ทรงธรรมต้องยอมแพ้ และจับมือเธออย่างเสียไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงเอาเรื่องคลิปเก่ามาพูดจนเขาอายแน่ “คุณยอมรับผมแล้วเหรอ”

“ถ้าคุณยอมโกนหนวดเคราแล้วก็พอไหว เพราะตอนนี้ดูเหมือนมหาโจรมากเลยเชียวค่ะ” แจ็คลีนพูดขึ้น ก่อนจะกอดแขนเขาเอาไว้ แล้วพาเดินไปยังห้องทานอาหาร

มื้อเที่ยงมื้อนั้นจัดเป็นมื้อเที่ยงที่ดีของเขา ทำให้เขารู้สึกสบายใจ ก่อนเธอจ้างหมอนวด มานวดให้เธอผ่อนคลาย เพราะยืนแทบตลอด และเดินไปเดินมาดูความพร้อมของงานแต่งงานให้สมบูรณ์แบบที่สุด จากนั้นก็เต้นรำเกือบทั้งคืน และเธอจึงเตรียมพร้อม ทั้งยังชวนเขาอีกด้วย แต่เขาก็ขอนอนพักแทน เพราะต้องทำงานหนักมาหลายวัน

“เถอะนะคะ นวดเนี่ยช่วยได้เยอะ ทั้งนวดแผนไทยแผนจีน” แจ็คลีนคะยั้นคะยอ เพราะรู้ว่าเขาทำงานหนักมาตลอด

“ผมไม่ชอบให้ผู้ชายมาโดนตัวผมน่ะ” ทรงธรรมบอกตามตรง

“งั้นขอหมอนวดผู้หญิง เอาสาวๆ สวยๆ ดีไหมคะ” แจ็คลีนเสนอ แล้วก็หัวเราะใส่เขา

“พ่อเอาด้วย ขอให้แม่ด้วยนะ” กาเบรียลเดินเข้ามาแล้วบอกลูกสาว

“ของท่านพ่อท่านแม่ หนูจัดมาให้แล้วค่ะ” แจ็คลีนลุกขึ้นไปกอดแล้วหอมแก้มพ่อทั้งสองข้าง ก่อนจะทำอย่างเดียวกันกับแม่

“งั้นก็สั่งหมอนวดมาสี่เลย เมื่อยขบเลยนะเนี่ย โดยเฉพาะช่วงสายๆ เนี่ย” พายพูดแล้วก็หัวเราะกับสามี

ต่างก็รู้ว่าหมายถึงอะไร และไม่ต้องเกรงใจแขกขาประจำแล้ว เพราะดูจะปักหลักจีบจริงจังแล้วไม่ไปไหน

กาเบรียลจูบภรรยาอย่างมีความสุข ทั้งแสนรักและหลงใหล โดยไร้จุดจบ ใครจะว่าเขาบ้าคลั่งเพราะรักเธอคนนี้ เขาก็ไม่สนใจ เพราะช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นยาวนาน ผ่านเรื่องราวมากมาย ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจแยกจากจนกว่าความตายจะมาพรากจากได้

แจ็คลีนยิ้มและชื่นชมความรักของพ่อแม่ เธอต้องการความมั่นคงในความรัก จึงค่อยตัดสินใจที่จะคบหาดูใจ หาไม่แล้วขออยู่และชื่นชมความรักแสนหวานนี้ต่อไปดีกว่า

ทรงธรรมมองเธอแล้ว คิดว่าอ่านใจเธอได้บ้าง เธอน่าจะต้องการรักยืนยาวมากกว่าความสัมพันธ์ชั่วคราว เธอจึงใช้เวลานานในการศึกษาดูใจ หากรักจากชายหนุ่มคนไหนผิวเผิน คงได้แต่ล่าถอยค้นหาคนใหม่

เขาจะเป็นชายคนนั้น...คนที่ยืนหยัดรักเธอให้ได้อย่างที่พ่อแม่เธอทั้งสองเป็น

การจะรักผู้หญิงที่เห็นความรักมั่นคงอยู่ตลอดเวลาอย่างเธอนั้น ต้องอาศัยความอดทนเป็นที่ตั้ง ต่อให้ต้องท้อแท้สิ้นหวัง แต่ถ้ารักใครสักคนอย่างแท้จริง อุปสรรคก็เป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อยให้ฝ่าฟันไปเท่านั้น...สิ่งสุดท้ายต่างหากที่สำคัญ

เมื่อเธอสูงค่า ควรแก่การไขว่คว้า...ต่อให้ต้องลงทุนลงแรงทั้งกายใจแค่ไหน เขาก็คิดว่าคุ้มค่าที่ได้อยู่เคียงข้างเธอ เพราะเธอคือแจ็คลีน ธีโอฟาสเต้...ลูกสาวของชายหญิงคู่หนึ่งที่มีรักมั่นคง

****************************************


หลังจากงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ของหลานชายคนหนึ่งของตระกูลธีโอฟาสเต้ ก็เป็นงานคอนเสิร์ตที่พี่น้องหลายคนเข้ามาเป็นกำลังใจให้หนุ่มวงร็อค แจ็คลีนก็เริ่มเหนื่อยอีกครั้ง แม้จะไม่ได้เป็นแม่งานช่วยอย่างเคย แต่เธอทำงานเต็มตัวแล้ว เพราะเรียนจบมาพักใหญ่ และกำลังเรียนต่อปริญญาโท

เธอนั่งระหว่างกลางคู่รักหกคู่ ก่อนจะเริ่มหงุดหงิด เพราะเห็นความรักมากเกินขนาด แล้วกำลังจะสำลักความรักตายท่ามกลางคู่เล็กสามคู่ คู่ใหญ่อีกสามคู่ เหลือแต่เธอที่มีคู่รักมานั่งเพิ่มระดับน้ำตาลให้บ้านทรงไทยที่กำลังเตรียมงานแต่งงานในอีกสามวันข้างหน้า

“เชอะ!” แจ็คลีนลุกขึ้นอย่างหงุดหิด แล้วออกไปจากห้องนั่งเล่น ก่อนจะวิ่งเข้าห้องนอนตัวเองแล้วปิดล็อค ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ก่อนจะนอนอ่านเอกสารงานแทน เพื่อลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงมิคาเอลถามน้องสาว “แจ็คที่รัก อารมณ์ไม่ดีอะไรเหรอ”

“อย่ามายุ่งเลย!!” แจ็คลีนตะโกนออกไป

“แจ็คที่รัก โกรธพี่เหรอ” มิคาเอลพยายามง้อน้องสาว

“อย่ากวนใจหนูได้ยินไหม!!” แจ็คลีนตะโกนอีกครั้ง

“น้องสาวที่รัก พี่รักแจ็คเสมอนะ อย่างอนได้ไหม พี่ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรผิด” มิคาเอลถอนหายใจช้าๆ เพราะน้องสาวปิดห้องไม่ยอมออกมาสักที สักพักไพรด์ก็เข้ามาดู “นายลองหน่อยสิ โกรธฉันเรื่องอะไรก็ไม่รู้”

“แจ็คที่รัก มิคทำอะไรให้เหรอจ๊ะ ออกมาคุยกับพี่หน่อย” ไพรด์พยายามกล่อมน้องสาวด้วยอีกคน

“ไปให้พ้นนะ!! แจ็คอยากอยู่คนเดียว” แจ็คลีนไล่ทุกคนทันทีเลย

“อ้าว! พี่ทำอะไรให้ล่ะจ๊ะ บอกหน่อยสิ” ไพรด์พยายามพูดกับน้องเสียงอ่อนลง

“ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกค่ะ แจ็คก็อยากอยู่คนเดียวบ้างก็เท่านั้นล่ะค่ะ” แจ็คลีนทำเสียงอ่อนลง เพราะไพรด์เป็นพี่ชายที่ใจดีที่สุด

“อย่าทรมานเจ้ามิคเลยนะ ตอนนี้พี่ชักทรมานใจแล้วสิ เพราะน้องสาวพี่ไม่ยอมบอกว่ากำลังเครียดเรื่องอะไร” ไพรด์ยืนพูดอยู่ที่หน้าห้องแทนญาติที่กำลังรอลุ้นอยู่

“เปล่าค่ะ แต่แจ็คง่วงแล้วจะนอนแล้วค่ะ” แจ็คลีนปิดไฟในห้อง เพราะดูเหมือนพี่ๆ จะไม่ยอมออกไปจากหน้าห้อง ถ้าเธอไม่ยอมเปิดประตูหรืออ้างว่านอนหลับ

“คืนนี้ให้พี่ค้างเป็นเพื่อนไหม หรือไพรดีล่ะ เราสองคน คนใดคนหนึ่ง” มิคาเอลพยายามยื่นข้อเสนอ ทั้งที่ไพรด์ทำท่าเหมือนยังไม่อยากนอนร่วมเตียงกับน้องสาวเท่าไรนัก

“คร่อก!!” แจ็คลีนแกล้งทำเสียงกรนดังลั่น ทำให้พี่ๆ ได้แต่ล่าถอยออกมาจากประตู

เธอค่อยถอนหายใจ เพราะยังไงก็ยังคงวุ่นวาย เพราะเห็นแต่คู่รักเต็มบ้านไปหมด ถึงเธอจะมีทรงธรรมมาจีบอยู่ตลอด แต่ตอนนี้เขาก็ไม่อยู่จีบเธอเสียด้วย แล้วเธอก็ยังไม่แน่ใจนักว่าควรรักเขาหรือไม่ แม้จะรู้ว่าเขาดูจะคงเส้นคงวาในช่วงแรก แต่พักหลังเขาก็ดูห่างเหินไป ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งยังมีเรื่องแม่ม่ายสาวที่เป็นคนรักเก่าตามมาด้วยอีกคน

เธอจึงไม่แน่ใจนัก...

แจ็คลีนพลิกตัวเองไปมาอีกสองสามรอบ ก่อนจะได้ยินเสียงคนไขกุญแจเข้ามาก็หันไปที่ประตู ก่อนจะเห็นแม่ยืนอยู่แล้วเข้ามาพร้อมล็อคประตู “ท่านแม่ก็...”

“ก็พ่อเขาเป็นห่วง พี่ชายก็เป็นห่วง น้องสาวก็เป็นห่วง พี่สะใภ้ลูกก็เป็นห่วง ป้ากับลุงก็เป็นห่วง แล้วแม่ก็เป็นห่วง” พายแกล้งพูดยาว และก่อนจะพูดจบก็คลานขึ้นมาอยู่บนเตียงลูกสาว แล้วกอดลูกสาวเอาไว้

“หนูไม่อยากให้ท่านแม่ต้องแยกห้องกับท่านพ่อเลยค่ะ หนูนอนคนเดียวก็ได้ หนูอายุยี่สิบสามแล้วนะคะ หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะ” แจ็คลีนพูดขณะอยู่ในอ้อมแขนแม่

“ไม่ได้หรอก พ่อของลูกไม่อยากให้ลูกเหงาน่ะ หรือจะให้พ่อมานอนด้วยอีกคนล่ะ” พายถามลูกสาวที่ทำท่าทางแตกต่างจากที่พูด เพราะกำลังกอดเธอเอาไว้แน่นจนอบอุ่นเลยทีเดียว

“ท่านแม่คนเดียวก็พอค่ะ หนูเหงาจังเลยค่ะ” แจ็คลีนยอมพูดความจริงได้สักที ก่อนระบายออกมาตรงๆ “ไม่ใช่เพราะไม่มีใครอยู่ในบ้านหรอกนะคะ แต่หนูก็อยากจะมีคนอื่นที่ไม่ใช่คนในสายเลือดอยู่ข้างๆ บ้าง”

“อยากมีความรักว่างั้นเถอะ ก็มีสิลูก พ่อแม่จะไปว่าอะไรล่ะ อายุยี่สิบสามแล้ว อยากมีก็มีเลย แม่เคยห้ามลูกที่ไหน” พายหัวเราะนิดๆ ไม่ค่อยเคร่งเครียดเท่าไรนัก

“แต่ท่านแม่คะ หนูเคยเห็นหลายๆ คน ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างโจ โจก็ต้องย้ายมาอยู่กับท่านพี่ ย้ายมาอยู่กับครอบครัวคนรัก ไพรด์ก็เหมือนจะย้ายไปอยู่กับอิซซี่ กิ่งก็ย้ายมาอยู่กับอิกกี้ แล้วหนูล่ะคะ หนูไม่กล้าโลภมากค่ะ หนูอยากอยู่กับทุกคน แต่ไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนหนึ่งจะมีค่าพอ เท่าสมาชิกทั้งครอบครัวของเรา” แจ็คลีนมองไม่เห็นอนาคตระหว่างเธอกับทรงธรรม หรือผู้ชายคนไหนที่เข้ามา

แต่ละคนก็อยากให้คนรักเข้าไปในโลกของตัวเอง แล้วก็ต้องเลือกเอาว่าจะอยู่ที่ไหนอีก ปัญหาทางเลือกของชีวิตที่เธอไม่คิดว่าทรงธรรมจะทำได้ หรือเธอจะยอมย้ายไปอยู่กับเขาได้ ถ้ามีอนาคตร่วมกัน

“ฮ่าๆๆ แม่เข้าใจประเด็นของลูกแล้ว แม่มีเครื่องเจ็ทส่วนคัว ไว้จะซื้อให้ลูกสักลำ ลูกรัก จะบ้าหรือไง! แค่ลูกมีคนรัก หรือชีวิตคู่ไม่ได้หมายความว่า ลูกจะไม่มีพวกเรา เข้าใจเสียใหม่ ลูกรัก” พายหัวเราะขำ ทำให้ลูกสาวทุบอกเธอเบาๆ อย่างงอนๆ

“แต่จะมีผู้ชายคนไหนรักหนูเหมือนอย่างที่พ่อรักแม่ แล้วแม่รักพ่อ หรือลุงเก่งรักป้าพิม หรือน้านอร์ธรักน้าปารีสบ้างล่ะคะ” แจ็คลีนไม่มั่นใจในรักของคนสมัยนี้มากนัก

“ลูกต้องเรียนรู้มันเอง ทั้งพ่อและแม่ต่างก็ต้องใช้หัวใจเรียนรู้เรื่องพวกนี้ทั้งนั้นล่ะ พี่ชายของลูก ทุกคนที่ลูกเห็นว่ารักกันมาก เขาผ่านอะไรมาเยอะ และยังต้องผ่านอะไรอีกเยอะ ลูกต้องเรียนรู้และยอมรับ คนไม่เคยเจ็บปวดก็จะรู้เหรอ ว่ารักแท้คืออะไร เพราะนิยามแต่ละคนไม่เหมือนกัน รักแต่ละแบบก็ไม่เหมือนกัน” พายพยายามอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจ และรู้แล้วว่าลูกสาวหงุดหงิดเพราะรักส่วนที่ขาดหาย

แจ็คลีนได้รับความรักมาตลอด รักจากพ่อแม่ รักจากพี่น้อง รักจากเพื่อนๆ รักจากญาติมิตร แต่รักชนิดเดียวที่ขาดหายก็คือ...รักแบบชายหญิง

เจ้าตัวอาจยังไม่เข้าใจ...เพราะสับสน

****************************************

สวัสดีค่ะ เอาเม้นทั้งหมดมาตอบรวมกันแล้วนะคะ
มาโพสต์ แล้วก็จากไป หงิหงิ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายมาตลอดนะคะ

sirinda
คุณ sai --- >,< คนเขียนก็ดีใจที่มาอ่านค่า เรื่องก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะจบเรื่องค่ะ อิอิ
คุณ ร้อยวจี --- อีกไม่นานก็ถึงตอนที่ต่อกันแล้วค่ะ ระหว่างภาคมิคาเอลกับแจ็คลีน อิอิ
คุณ konhin --- ไม่อยากเอาเข้าเท่าไรค่ะ แต่บ่างอย่างก็ยากจะเลี่ยง ^^”
คุณ Amata --- ^^ ขอบคุณค่ะ
คุณ XaWarZd --- เธอมีความพยายามค่ะ แต่จะได้ผลไหม...อิอิ เดี๋ยวยัยแก้วรู้ผลค่า
คุณ oolong --- ขอบคุณค่ะ พายชนะเลิศ ส่วนพระเอกได้คะแนนสงสารไปเต็มๆ อิอิ
คุณ anOO --- ยังไงก็ต้องสลัดหลุดจนได้ค่า อิอิ
คุณ ตุ๊งแช่ --- แจ็คหญิงจริงๆ ค่ะ แล้วครอบครัวนี้ยินดีวุ่นวายจะได้มีเรื่องให้เขียนให้อ่านไงคะ อิอิ (แก้ในต้นฉบับแล้วค่ะ อิอิ แต่ไม่ได้แก้ในเวบนะคะ)
คุณ kaeka --- เดี๋ยวคะแนนก็ขึ้นค่ะ อิอิ
คุณ MDDC --- ขอบคุณค่ะ และเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ
คุณ หมูบูลิน --- ขอบคุณค่ะ
คุณ jink --- 555+ แค่นี้ก็ทรมานจะแย่อยู่แล้วค่ะ
คุณ maplezaa --- แม่แก้วมีความสามารถพิเศษเรื่องหวังค่ะ
คุณ หนอนฮับ --- เดี๋ยวก็มีคนจัดการขั้นเด็ดขาดเองค่ะ อิอิ
คุณ wind --- ใช่ค่ะ เธอพูดไม่ค่อยรู้เรื่องนี่แหละ
คุณ ใบบัวน่ารัก --- ยังค่ะ ยังคิดไม่ได้ เดี๋ยวก็ยุ่งอีกเรื่อยๆ
คุณ dino --- ^^
คุณ Noka --- ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^^
คุณ tuktuk --- มาตามที่รอค่ะ ^^
คุณ Pat --- อย่างที่คุณร้อยวจีเคยตอบไว้ค่ะ ส่วนที่งงก็ขอแก้ที่ต้นฉบับแทนนะคะ อิอิ

dek-d
คุณ โกโก้รสกล้วย --- ด้วยความยินดีค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ อิอิ
คุณ novel --- แจ็คพยายามแก้ปัญหาได้อยู่แล้วค่ะ

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- อีก 9 วัดคงจะไม่ไหวค่ะ อิอิได้เป็นเจ้าสาวแน่แต่เมื่อไรหนอ...
คุณพี่ chakansi --- ยังดับได้อีกเยอะค่ะ อิอิ อ่ะมีแม่ม่ายแน่นอนค่ะ

bloggang
คุณ vicky --- ขอบคุณที่เข้ามาทักทายเช่นกันค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ม.ค. 2555, 23:08:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ม.ค. 2555, 23:08:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1914





<< ML016   ML018 >>
ร้อยวจี 12 ม.ค. 2555, 23:36:34 น.
ดีใจมากค่ะรอนะคะ ความรักจงเจริญ พายจงเจริญ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


XaWarZd 13 ม.ค. 2555, 00:36:45 น.
เฮ้อ อีตาลุงหายไปบ่อยๆ บ้างก็ดีนะเผื่อแจ็คจะคิดไรได้บ้าง แต่อย่าหายยาว ยัยแก้วก็ไม่ไปซะที มันน่านัก ตอนหน้าจะเป็นตอนโดนจับตัวไปอะยังอ่ะ


konhin 13 ม.ค. 2555, 01:48:16 น.
ตาลุงจะทำยังไงต่อหล่ะ แจ็คเหมือนเจ้าสาวที่กลัวฝนเลย


anOO 13 ม.ค. 2555, 09:37:16 น.
ตาลุงจ๋า...แจ็คพร้อมสำหรับความรักแล้วนะ
อย่าหายไปบ่อยสิ ช่วงนี้แจ็คคงต้องการใครสักคนแล้วล่ะ


ตุ๊งแช่ 13 ม.ค. 2555, 10:05:11 น.
มีเมาด้วยไม่น่าเชื่อ 55 รอลุ้นตอนหน้าใครน๊ากล้าลักพาตัวหนูแจ๊ค


jink 13 ม.ค. 2555, 14:44:58 น.
แจ็คลีนเมาน่ารักเชียว อิอิ


kaeka 13 ม.ค. 2555, 20:57:17 น.
ลุ้นความรักหนุ่มสาวของสาวแจ็คกันได้อีก


konhin 14 ม.ค. 2555, 02:32:35 น.
กลับไปอ่านตอนจบเรื่องก่อน แจ็คจะถูกลักพาตัว แผนใครหล่ะเนี่ย (ร้ายๆแบบนี้ ให้แจ็ควางแผนเองเลย)


หนอนฮับ 18 ม.ค. 2555, 23:37:45 น.
ว้าววว...ว้าวุ่นเรื่องรักจริงๆ สาวแจ๊คของเรา อิอิ เธอโตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ววววว


konhin 19 ม.ค. 2555, 07:57:27 น.
นับวันรอ คิดถึงคร้าบบบบบ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account