ต้องชะตารัก By ณพรชล
ความรักของมนุษย์เราจะมั่นคงสักแค่ไหนกันนะ

หากว่าคนที่เรารักที่สุดกลับจำเรื่องราวระหว่างกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เราควรจะทำอย่างไรดี

ทำทุกวิถีทางให้เธอจำได้

ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป

หรือ สร้างความทรงจำใหม่ให้กับเธอ

ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอะไร

"ผมไม่รู้ว่าสำหรับพี่ต้นแล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่าดี หรือ แค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากพอ แต่ในความรู้สึกของผมปลายข้าวไม่ใช่แค่ความหลง ไม่ใช่แค่ความผูกพันธ์ หรือแม้แต่ความสงสารใดๆ แต่ปลายข้าวคือความรัก ชีวิต และจิตใจของผม เพียงครั้งแรกที่ผมเห็นเธอ ผมรู้ในทันทีว่าเธอคือ ‘คนที่ใช่’ สำหรับผม ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่มีใครเชื่อเพราะคิดว่าผมยังเด็กเกินไป แต่ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันความรู้สึกเดิมว่าปลายข้าวยังเป็น ‘คนที่ใช่’ สำหรับผม คือคนที่ผมอยากมีอนาคตร่วมกับเธอและไม่มีใครสามารถแทนที่เธอได้ ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ปลายข้าวอยู่ใกล้ๆ เคียงข้างผมได้โดยไม่ให้เธอเสียหายหรือมีใครมาครหา"
Tags: พี่สกาย ปลายข้าว

ตอน: ตอนที่ 8.2 อัพวันละนิดจิตแจ่มใส ^^

********* มาต่อแล้วนะค่ะ^^ **********

ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ
ด้วยรักและจุ๊บๆ

ปอรินทร์^^


8.2


“ปลายจะลากพี่ถึงไหนเนี่ย มันจะเลยโรงที่เราจะไปดูแล้วนะครับ” ถึงแม้เขาจะสงสัยในท่าทางและคำพูดของหญิงสาว แต่ก็อดเอ่ยล้อเธอไม่ได้ ทันทีที่เขาเห็นชายแปลกหน้าคนนั้นจับมือถือแขนหญิงสาวตรงหน้า เขาก็รีบตรงไปหาด้วยความร้อนใจ เพราะสังเกตุจากท่าทีของหญิงสาวที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก

“อ่ะ...เอ่อ...ขอโทษทีค่ะพี่สกาย” หญิงสาวเหมือนนึกขึ้นได้จึงรีบเอ่ยขอโทษและปล่อยมือออกจากแขนชายหนุ่มทันที

“ปลายเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าตาดูไม่ค่อยดีเลย” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาซีดเซียว

“ม่ะ...ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คงจะแค่ตกใจนิดหน่อย แล้ว...ตกลงเราดูหนังกันโรงที่เท่าไหร่คะ” ธัญพัชรบอกเสียงเบา ก่อนจะหาทางเฉไฉไปเรื่องอื่น

“โรงที่สิบสี่ครับน้องปลาย เราเข้าโรงกันเถอะ ป่านนี้หนังคงเริ่มฉายแล้วล่ะ” ชายหนุ่มเข้าใจดีว่าเธอคงไม่อยากเอ่ยถึงมันอีก ถึงแม้ว่าเขาอยากรู้ใจจะขาดว่าชายคนนั้นเป็นใคร แล้วทำอะไรเธอหรือเปล่าแต่เขาก็ไม่เซ้าซี่ถาม เพียงแต่จูงมือเธอไปยังโรงหนังที่มีหลายเลขตรงกับตั๋วที่อยู่ในมือแทน โดยที่หญิงสาวยินยอมให้เขาจับจูงเธอไปอย่างว่าง่ายไม่สะบัดมือออก แค่นี้เขาก็รู้สึกดีแล้วที่เธอไม่รังเกียจสัมผัสของเขาเหมือนกับชายคนนั้น

หนังฉายไปได้เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ธัญพัชรก็รู้สึกว่าศีรษะของคนข้างๆ เริ่มเอียงมาหาเธอเรื่อยๆ จนสุดท้ายศีรษะทุยสวยได้รูปก็เอียงมาซบไหล่บอบบางของเธอ เมื่อเธอหันไปก็พบว่าชายหนุ่มที่พยายามชวนเธอมาดูหนังด้วยสารพัดวิธี ตอนนี้กลายเป็นมานอนให้หนังดูตัวเองแทนเสียแล้ว เธอไม่คิดที่จะปลุกเขาเพราะคิดว่าเขาคงเหนื่อยมากเพราะตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมากายนภัสนิ์ทำงานหนักทุกวัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อยากมาพักผ่อนสมองอย่างที่บอก ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังจอที่กำลังฉายหนังรักโรแมนติกอยู่นั้น จิตใจของเธอกำลังสับสนและว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ‘ทำไมนะ กับคนๆ นี้ เธอกลับรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และใจเต้นแรงทุกครั้งที่ชายคนนี้สัมผัสเธอ ไม่เคยรู้สึกขยะแขยงสัมผัสเหมือนชายคนเธอหนีมาเมื่อครู่’ เธอคิดอย่างแปลกใจตัวเอง

“เฮ้อ...กะว่าจะมาดูหนังสักหน่อย กลายเป็นมาให้หนังดูตัวเองไปซะได้ สงสัยต้องให้ปลายเล่าเรื่องที่เหลือให้พี่ฟังแล้วล่ะ” กายนภัสนิ์ยิ้มเจื่อนให้หญิงสาวขณะเดินออกจากโรงหนัง

“ปลายว่าถ้าพี่สกายเหนื่อยขนาดนี้ พี่สกายน่าจะกลับไปนอนที่บ้านมากว่านะคะ ไม่น่ามานอนในโรงหนังให้เปลืองเงิน” หญิงสาวข้างกายบ่นอุบอิบ

“ก็ที่บ้านพี่ไม่มีหมอนสวยๆ นุ่มๆ แบบนี้ไงครับ เมื่อกี้พี่หลับสบายแถมฝันหวานอีกด้วย” ชายหนุ่มบอกด้วยสีหน้าชื่นมื่น เพราะตอนที่เขารู้สึกตัวนั้นไฟในโรงหนังก็สว่างขึ้นหนังจากหนังที่ฉายจบลง พบว่าตนเองนอนซบไหล่หญิงสาวที่นั่งตัวเกร็งสีหน้ากระอักกระอ่วน เพราะผู้คนที่ผ่านหน้าเขาไปนั้นอมยิ้มกับเขาและเธอ แถมเขายังได้ยินเสียงแว้วๆ อีกว่าเขาและเธอช่างเป็นคู่รักที่น่ารักเสียจริงๆ

“บ้า...เอ๊ะ! พี่สกายจับมือปลายทำไมคะ” หญิงสาวที่เดินเคียงข้างพึมพำออกมาเบา ก่อนจะอุทานลั่น เมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มก็ดึงมือเธอมากุมเอาเสียดื้อๆ

“ก็คนมันเยอะ พี่ก็เลยจับมือปลายเอาไว้ กลัวปลายว่าจะหลงกับพี่ไงครับ” ชายหนุ่มยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง ซึ่งถ้าลูกน้องคนสนิทอย่างพลได้ฟังคงจะขำไม่หยุดแน่ๆ เพราะจะจับมือสาวทั้งทียังต้องมีข้ออ้างอีก

“ปลายไม่ใช่เด็กนะคะ ที่คลาดสายตานิดเนียวก็วิ่งหายไปไหนต่อไหนน่ะ” คนถูกกุมมือส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก็ยอมให้ชายหนุ่มกุมมือแต่โดยดีไปตลอดทาง จนชายหนุ่มสะดุดตาเข้ากับสโนว์บอลในร้านหนึ่ง ลักษณะด้านในสโนว์บอลเป็นรูปสองตายายยืนกอดกันกลางทุ่งข้าวที่กำลังออกรวงสีทองอร่ามและมีก้อนเมฆเล็กๆ ลอยอยู่ด้านบน ทำให้เขานึกถึงตัวเองและคนที่เขากุมมือด้วยไม่ได้

“ปลายครับ เดี๋ยวพี่มานะ ขอไปทำธุระนิดหน่อย” เขาบอกก่อนจะเดินตรงไปยังร้านขายขอเล่นที่เขาหมายตาไว้ หญิงสาวได้แต่มองตาไปอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เธอจึงเดินดูของไปเรื่อยๆ

ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินขวักไขว่กันไปมา เธอกลับรู้สึกว่าตนเองตกเป็นเป้าสายตาของใครคนหนึ่ง เมื่อเธอกวาดสายตาไปรอบๆ ก็พบหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งจ้องเธอเขม็ง สีหน้าและแววตาของเธอคนนั้นเรียบสนิท ไม่บ่งบอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน แต่กลับทำให้เธอรู้สึกหนาวยะเยือกไปยังขั้วหัวใจ เมื่อหญิงแปลกหน้าคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เธอเท่าไหร่ ความกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตก็เข้ามเกาะกุมจิตใจเธอเรื่อยๆ ความรู้สึกต่างๆ ที่มีในตอนนี้ไม่มีอย่างอื่นเลย นอกจากความกลัวหญิงที่กำลังเดินมาหาเธอจนร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน

“เรียบร้อยแล้วครับปลาย เราไปหาข้าวเย็นกินกันเถอะ...ปลาย... ปลายครับเป็นอะไรหรือเปล่า” กายนภัสนิ์เดินมาหาหญิงสาวด้วยหน้าระรื่น แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่ตอนนี้ซีดขาวและดูตื่นกลัวกับอะไรบ้างอย่าง หญิงสาวไม่อาจซึมซับคำพูดของกายนภัสนิ์เลยแม้แต่น้อย ภาพความทรงจำ ความหวาดกลัวต่างๆ ผ่านเข้ามาในหัวของเธอเยอะแยะมากมายจนเธอแทบจะรับไม่ไหว เธอเอาแต่ยืนสั่นจนกระทั่งความหวาดกลัวถึงขีดสุดสติก็ขาดผึ่ง คำพูดสุดท้ายที่เปล่งออกมาจากปากเธอก่อนที่ดวงตากลมโตจะปิดลง สร้างความตกใจและงุนงงให้กับกายนภัสนิ์เป็นที่สุด

“อย่า...หนูกลัวแล้ว...”



โปรดติดตามต่อกับ 8.3 นะคะ^^



ปอรินทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ม.ค. 2555, 00:01:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ม.ค. 2555, 00:02:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 1684





<< ตอนที่ 8.1 อัพทีละนิ๊ดพอให้ชุ่มช่ำหัวใจ^^   ตอนที่ 8.3 ขอโทษทีมาช้าค่าาาาาาา T^T >>
ทองหลาง 12 ม.ค. 2555, 00:49:00 น.
ค้างๆๆๆๆๆอีกแล้ว


sai 12 ม.ค. 2555, 08:52:32 น.
ค้างมากอ่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ


anOO 12 ม.ค. 2555, 15:48:48 น.
อ่ะนะ...ใครทำปลายเนี้ย ใครกัน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account