มาเฟียร้ายพ่ายไฟรัก
'ฟรานเชสโก้ การ์เซียโน่' มาเฟียหนุ่มตระกูลดังแห่งอิตาลีผู้ที่มีหัวใจเย็นชาแข็งกระด้างดั่งหินผา ไม่คิดปรารถนาจริงจังกับผู้หญิงคนไหน...แต่เพราะการแกล้งจองที่พักให้เขาผิดของน้องเขยจอมหื่น ทำให้ชีวิตเขาต้องมาพัวพันกับ 'ลียา' ตำรวจสาวแสนเชยอาชีพที่เป็นปฏิปักษ์กับเขาอย่างที่สุด.....แต่จะทำยังไงดีเขาดันเป็นโรคแพ้สาวสะโพกกลมนมโต แล้วยัยตำรวจสุดเชยนี่ก็เข้าคอนเซป จนเขาคิดอยากจะกักเก็บเธอเหวี่ยงลงกลางเตียงทุกวินาที!!
Tags: มาเฟียร้ายพ่ายไฟรัก ลดา ลัลลดา แก้วจอมขวัญ
ตอน: ตอนที่ 2...ถูกใจ...หากจำต้องตัดใจ
บทที่ 2...ถูกใจ...หากจำต้องตัดใจ
“ใส่กุญแจ่มือมันซะ แล้วเอามันเข้าห้องขังได้แล้วจ่า...ห้องมืดสำหรับนักโทษพิเศษ”
เสียงห้วนจัดที่เอ่ยสั่งการ ทำให้คนรับคำสั่งรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ของหนุ่มต่างชาติที่นั่งยกเท้าขึ้นวางบนโต๊ะร้อยเวรอย่างไม่เกรงกลัว แต่เดินเข้าไปใกล้เพียงนิดก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสบเข้ากับสายตาแข็งกร้าวทรงอำนวจสีบรั่นดีที่ตวัดมองมา พร้อมกับร่างบางของหญิงสาวที่พวกเขารู้จักดีในฐานะว่าที่เจ้าสาวของผู้กองพิพัตรที่นั่งออกคำสั่งอยู่ และสำคัญที่สุดเป็นถึงหลานสาวของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลุกขึ้นยืน
ลียาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ร่างสูงของฟรานเชสโก้ลุกขึ้นยืนประจัญหน้ากับคนที่ทั้งรักทั้งแค้นอย่างพิพัตร พอได้รับรู้ความเลวของเขาที่ผุดตามขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ยิ่งตอกย้ำความโง่งมงายของเธอเหลือเกิน
หลังจากที่ผู้ชายต่างชาติที่เธอยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อส่งกระสุนทะลุไหล่ขวาของพิพัตรแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นตำรวจท้องที่ก็มาถึง และพิพัตรก็ออกคำสั่งให้จับกุมผู้ชายคนนั้นทันที ตอนแรกเธอเห็นเขาเอื้อมมือไปที่ปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวด้านหลังใต้เสื้อยืด และจากสายตาของเขาเธอรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งใดใดทั้งนั้น เป็นเธอเองที่ไม่อยากจะให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเขาต้องมาเดือดร้อนไปมากกว่านี้ เพราะรู้ดีว่าในจังหวัดนี้พิพัตรมีเส้นสายสนิทสนมกับผู้มีอิทธิพลมากแค่ไหน ดังนั้นเธอจึงคว้าปืนของเขามาถือไว้ก่อนที่เขาจะดึงมันออกมา และขอร้องให้เขายอมมาที่กองปราบแห่งนี้
แต่เขาก็ไม่ยอมทำตาม เขาทำท่าจะเข้าไปซัดกับพิพัตรและตำรวจท้องที่อีกสองนายด้วยมือเปล่านั่นแหละ แต่สักพักเขาก็ชะงักเหมือนคิดอะไรได้ เหยียดยิ้มก่อนจะยอมทำตามที่เธอขอร้องแต่มีข้อแม้ว่าให้เธอเคลียร์ทุรกอย่างให้จบในหนึ่งชั่วโมง
“คุณไม่มีสิทธิทำแบบนั้นกับเขานะพิพัตร” ดวงตาเรียวสวยเหลือบมองร่างสูงของคนที่กำลังจะถูกยัดเข้าห้องขังพิเศษ แต่กลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดใด เขานั่งเอนหลังกับเก้าอี้ กอดอก ยกขาขึ้นวางชี้หน้าร้อยเวรด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ที่ไม่หวั่นไม่กลัวอะไร เพราะฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ? ลียาคิดในใจ แต่จากท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่อย่างที่เธอคิด ดูจากที่แย่งปืนในมือเธอลั่นไกอย่างไม่ลังเลสักนิดก็พอจะเดาได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ก็คนปกติทั่วไปที่ไหนจะพกปืนกันล่ะ
“มันยิงผมนะลิน ทำไมลินถึงเข้าข้างคนอื่นอย่างนี้” พิพัตรตัดพ้อ พลางส่งสายตาเกลียดชังไปให้คนที่ทำให้ตัวเองเจ็บ
ทำเป็นเก่งไปเถอะมึง เกี๋ยวกูจะทรมานมึงให้สาสม!!
“จะพล่ามกันอีกนานมั๊ย จะทำอะไรก็ทำสักทีสิวะ” คนที่หงุดหงิดเพราะต้องมานั่งจับเจ่านาน ๆ เริ่มหมดความอดทน
ร่างสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบห้าเซนติเมตรลุกขึ้นยืน มือยังคงกอดอกอยู่เหมือนเดิม สายตาแข็งกร้าวไล่มองใบหน้าทุกคนที่อยู่ในห้องพักร้อยเวรที่ละคน ก่อนจะมาหยุดนิ่งที่ใบหน้าที่แดงก่ำด้วยอารมณ์โกรธของคนที่เขาส่งกระสุนทะลุไหล่มัน
“พูดภาษาสากลไม่เป็นกันหรือยังไง หรือโง่กันทั้งโรงพัก แต่เมื่อกี้ก็เห็นมึงพูดได้นี่ หรือว่าพอเจอลูกตะกั่วเข้าหน่อยเลยโง่เง่ามากกว่าเก่า” พลางเหยียดริมฝีปากหมิ่น ๆ ส่งไปให้ เป็นผลให้อีกฝ่ายลุกพรวดจากเอ้าอี้ถลาเข้ามาหาทันที ซึ่งมาเฟียหนุ่มเลือดร้อนที่กำลังเดือดสุด ๆ ก็รอรับอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อร่างสูงโปร่งของพิพัตรถลาเข้ามาหาพร้อมกับเงื้อกำปั่นหมายจะต่อยเอาเลือดปากอีกฝ่าย ฟรานเชสโก้ที่รออยู่ก็แค่ยกกำปั่นขึ้นสวนกลับแบบเน้น ๆ เข้ากลางกำปั่นที่ส่งตรงมา หมัดที่หนักกว่าแรงกว่าของมาเฟียหนุ่มส่งผลให้แขนของพิพัตรตั้งแต่ข้อมือจนถึงหัวไหล่เจ็บแปลบ และด้วยเพราะมืออีกข้างบาดเจ็บก็ยิ่งทำให้ผู้กองพิพัตรพ่ายแพ้หมดรูป ร่างสูงโปร่งหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูงมากแล้วสำหรับผู้ชายไทยแต่ก็ยังเตี้ยกว่าร่างสูงกำยำของมาเฟียหนุ่ม ดังนั้นเพียงชั่ววินาทีที่พิพัตรทรุดเพราะความเจ็บปลาบทั่วแขน เขาก็ถูกฟรานเชสโก้พลิกตัวให้คว่ำหน้าลงกับโต๊ะร้อยเวร ไพร่สองมือไว้ด้านหลังทำให้พิพัตรร้องเสียงหลงเพราะเจ็บแปลบที่แผลที่ถูกยิงไปสด ๆ ร้อน ๆ
“จะเอาชนะกู รอชาติหน้าเถอะมึง” เสียงกระซิบเหี้ยมข้างหู จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็หันกลับไปทางผู้หญิงเฉิ่มเชยที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ “ฉันจะกลับแล้ว เธอเคลียร์ไปเองแล้วกัน” พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อปากกระบอกปืนไม่ต่ำกว่าห้าจากนายตำรวจที่อยู่ภายในห้องเล็งมาที่ตัวเอง
“จะเอายังไงอีกวะ!! เดี๋ยวพ่อก็ส่งลงนรกให้หมดนี่หรอก“ ชะงักไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะความรำคาญ "เธอจะจัดการหรือให้ฉันจัดการ” ตวัดสายตาไปถามร่างบางที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
ที่ยอมมาดี ๆ ก็เพราะแค่ไม่อยากจะให้เรื่องมันยุ่งวุ่นวายจนหมดความเป็นส่วนตัว เพราะถ้าเขามีเรื่องปุ๊บ เชื่อเถอะว่าไม่เกินสามวันพวกศัตรูทั้งหลายก็คงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนแล้วคงได้แห่กันมา จากนั้นแทนที่เขาจะได้พักผ่อนคงจะได้วิ่งฝ่าห่ากระสุนแทนกันล่ะ เพราะมาครั้งนี้เขามาเดี่ยวไม่คิดจะเอาบอร์ดี้การ์ดคนไหนมาด้วยทั้งนั้น ไม่ได้กลัวตายหรอกแต่เขาแค่อยากจะหาความสงบให้ตัวเองสักระยะ
แต่ดูท่าแล้วความสงบกับมาเฟียอย่างเขามันคงจะเป็นเส้นขนานตลอดชาติ!!
“ฉันจัดการเองค่ะ คุณรออีกแป๊บนะคะ เดี๋ยวฉันจะขับรถไปส่ง” ขืนให้เขาจัดการดูจากสายตาแล้ว ก็มีแนวโน้มว่าจะจบลงด้วยการนองเลือด
“ลิน!! คุณยังจะไปพูดดีกับมันอีกเหรอ ไม่เห็นหรือไงว่ามันทำร้ายผม ทำร้ายสามีของคุณนะ!!” พิพัตรตะคอกใส่ลียาที่เห็นเธอพูดจาอ่อนหวานกับคนที่เขาอยากจะส่งมันลงนรก ถ้าไม่ติดว่าเขายังไม่อย่างจะเสี่ยงต้องโดนสอบสวน เขายิงกบาลให้มันเป็นผีเฝ้ากองปราบแน่ รอก่อนเถอะ ถึงเวลามันได้ไปอยู่นรกแน่!!
“เห็น และฉันก็สะใจที่เห็นคุณโดนแบบนั้น” ลียาตอบกลับนิ่ง ๆ จากนั้นจึงหันไปมองทุก ๆ ใบหน้าของตำรวจทุกนายที่เหลือ “ผู้ชายคนนี้ยิงผู้กองพิพัตรเพราะเขาต้องการช่วยเหลือฉัน ดังนั้นเขาไม่มีความผิดร้ายแรงถึงขนาดต้องถูกกักขังในห้องมืด และฉันขอเอาตำแหน่งและหน้าที่การงานของตัวเองค้ำประกันเขาออกไป ถ้าใครมีปัญหาอะไรก็ติดต่อไปที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วกัน” ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะใช้ชื่อและอิทธิพลของผู้เป็นลุงมากล่าวอ้าง แต่ครั้งนี้มันจำเป็นจริง ๆ
น้ำเสียงจริงจังบวกกับชื่อตำแหน่งผู้ที่ยกมาหนุนทำให้ตำรวจทุกนายยกเว้นพิพัตรค่อย ๆ ลดปืนในมือลง ใครล่ะจะกล้ามีเรื่องกับหลานสาวสุดที่รักของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ดุและมีอิทธิพลอย่าง พลเอกดำรงฤทธิ์ อัครเดชา
“หวังว่าคุณคงไม่คิดที่จะทำอะไรผู้ชายคนนี้อีกนะพิพัตร เพราะต่อจากนี้ไปเขาจะมาอยู่กับฉัน และถ้าเขาเป็นอะไรแม้แต่นิด คุณคือผู้ต้องสงสัยคนแรก” ลียาพูดกับผู้ชายที่เธอไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อนให้เสียงเรียบ ก่อนจะหันไปหาร่างสูงของชายหนุ่มอีกคน แล้วเอ่ยเบา ๆ “ไปกันได้แล้วค่ะ”
ฟรานเชสโก้เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ ที่เห็นผู้หญิงเฉิ่มเชยตรงหน้าคลี่คลายทุกอย่างได้อย่างที่บอกไว้ เขาไม่รู้ไม่เข้าใจหรอกว่าเมื่อกี้เธอพูดอะไรออกไปบ้าง แต่ยังไงก็ตามมันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ กับครั้งแรกที่กลายเป็นเหมือนคนถูกปกป้องจาก...ผู้หญิง
ตาคู่คมมองสำรวจร่างบางระหงทางด้านหลังอย่างละเอียดอีกครั้งขณะเดินตามเธอออกไป ไล่ตั้งแต่ช่วงไหล่บอบบาง เรื่อยลงมาถึงเอวคอดกิ่วที่รับกันได้อย่างเหมาะเจาะกับสะโพกผายงามงอนที่เคลื่อนไหวเย้ายวนไปตามจังหวะการก้าวเดิน จากที่เห็นผู้หญิงที่เดินอยู่ข้างหน้าเขามีรูปร่างสูงโปร่งอยู่ในระดับคางเขาพอดี สัดส่วนด้านหลังก็เย้ายวนใจผู้ชายเหลือเกิน ทำให้อยากจะสำรวจด้านหน้านัก คิดดังนั้นมาเฟียหนุ่มจึงเร่งก้าวขาขึ้นไปเดินขนาบข้าง ก่อนจะเหลือบมองช่วงอกภายใต้เสื้อเข้ารูป แล้วก็ถึงกับหลับตาพ่นลมออกจากปาก
ให้ตายสิวะ ยัยเฉิ่มสุดเชยนี่...สะโพกกลม นมโต ตรงสเป็คเขาสุด ๆ
++++++++++
“ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณเดือดร้อน คุณจะให้ฉันไปส่งที่ไหนคะ”
เมื่อเดินมาถึงรอสปอร์ตสีแดงเพลิงคันหรู ลียาก็พูดขึ้นกับร่างสูงที่หยุดยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับหันหน้าไปหาเมื่อเห็นว่าเขายังคงเงียบไม่ยอมตอบคำถาม
ฟรานเชสโก้มองใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแว่นสายตากรอบใหญ่เกือบครึ่งหน้าอย่างไม่ชอบใจนัก เช่นเดียวกับดวงตาคมกริบดั่งพยัคสีบรั่นดีคู่นั้นที่ทอประกายหงุดหงิด
ผิวผ่อง หุ่นน่าฟัด แต่บ้าชะมัดทำไมถึงได้หน้าตาเฉิ่มเชยชวนให้หมดอารมณ์อย่างนี้วะ
“ที่เดิม” มาเฟียหนุ่มตอบกลับเสียงห้วนสั้น ก่อนจะเดินไปทางฝั่งข้างคนขับ แล้วตวัดสายตาไปมองร่างบางของสาวเฉิ่มที่ทำให้ตัวเองหงุดหงิดเสียอารมณ์อีกครั้ง ลียาเข้าใจความหมายรีบปลดล๊อคประตูรถอย่างเอาใจถือเป็นการขอโทษที่ทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อน
ฟรานเชสโก้เข้าไปนั่ง ปรับเบาะเอนลงไปจนสุด จากนั้นก็กอดอกปิดเปลือกตาลงปล่อยให้อีกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองไปเงียบ ๆ แต่แม้ดวงตาจะปิดสนิทหากภาพสะโพกผายที่ไหวไปตามจังหวะการเดินของคนขับรถเฉิ่มเชยข้าง ๆ กลับลอยไปลอยมาอยู่ในหัว
เวร...เขาไม่น่ามองเลยให้ตาย เจอสะโพกแบบของยัยเฉิ่มเชยนี่ทีไรเขาไม่เคยห้ามตัวเองไม่ให้กระโจนใส่ได้เลยจริง ๆ
ลียาเหลือบมองผู้โดยสารกิติมาศักดิ์หลังจากนั่งประจำที่คนขับ เธอเห็นคิ้วเข้มสีน้ำตาลแก่ขนเกือบดำนั่นขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิดใจ ก็สมควรจะหงิดหงุดนั่นแหละอยู่ ๆ มาเจอเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองสักนิด เมื่อเห็นเขาดูไม่อยากจะทำความรู้จักกับเธอสักเท่าไหร่ ความคิดที่ว่าจะแนะนำตัวเองตามมารยาทที่พึงกระทำเป็นอันต้องล้มเลิก
ก็ดี ปล่อยผ่านไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องมาคอยตอบแทนบุณคุณ
หญิงสาวคิดในใจขณะเคลื่อนรถสปอร์ตคู่ใจออกจากออกปราบสู่ถนนใหญ่ เพื่อไปส่งชายแปลกหน้าที่นอนเหยียดยาวอยู่เบาะข้าง ๆ ที่บังกะโลที่พักของเขา แม้ว่าอีกใจหนึ่งจะรู้สึกกังวลเรื่องที่เขาอาจจะถูกพิพัตรหมายหัว แต่จากที่เห็นฝีมือขนาดนั้นเขาคงไม่ถูกพิพัตรทำอะไรได้ง่าย ๆ เมื่อคิดได้อย่างนี้ก็เบาใจ เพราะไม่อยากจะให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเขาต้องมาซวยเพราะเรื่องส่วนตัวของตัวเอง
เกือบครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นรถสปอร์ตสีแดงเพลิงก็พาเจ้าของและแขกพิเศษมาถึงหน้าบังกะโลเติมรักเลียบหาดป่าตอง เมื่อจอดรถสนิทลียาก็หันไปมองคนข้าง ๆ ที่ยังกอดอกหลับตาอยู่ จะเรียกหรือจะเอื้อมมือไปปลุก หญิงสาวชั่งใจอยู่สักครู่ก็ตัดสินใจว่าไม่ควรแตะต้องตัวเขาจะดีที่สุด เพราะดุท่าทางจะมือไวขืนแตะไปแล้วเขามือกระตุกชักปืนที่เหน็บเอวอยู่มาเป่าสมองเธอล่ะไม่คุ่มแน่
“คุณคะ ถึงที่พักแล้วค่ะ” จะเรียกชื่อก็ยังไม่รู้จัก แต่พอเรียกแค่คุณ ๆ เขาก็ไม่หือไม่อือ เมื่อไม่รู้จะทำยังไงหลังจากเรียกไปแล้วรอไปนาทีกว่าก็ไม่เห็นว่าเขาจะลืมตาหรือขานรับ ลียาเลยจำต้องเอื้อมมือไปแตะท่อนแขนแกร่งที่กอดอกตัวเองไว้หลวม ๆ นั้นเบา ๆ พลางเรียกซ้ำ
“คุณคะถึงแล้วค่ะ ว๊าย!!” ว่าแล้วไหมล่ะ ลียาหลับตาปี๋คร่ำครวญในใจ เมื่อเพียงแค่แตะแขนเขาเบา ๆ เท่านั้น รวดเร็วดั่งสายลมเธอก็ถูกเขากระชากมือข้างที่เอื้อมไปอย่างแรก จนตอนนี้เธอปลิวมาหน้าชนกับอกเขาดังปึกจนเจ็บจมูกกับรอบดวงตาไปหมดแล้ว เพราะแว่นตาที่ใส่พอไปกระแทกกับอกแข็ง ๆ กรอบแว่นก็กระแทกใบหน้าเธอกลับ...แต่ก็ยังดีที่ไม่โดนเป่ากบาล
มือเรียวยกขึ้นดึงแว่นตาออกก่อนจะนวดรอบ ๆ ดวงตาแล้วลูบปลายจมูกตัวเองป้อย ๆ ทั้งลูบทั้งจับทั้งดึงเพื่อเช็คดูว่าดั้งหักหรือเปล่า นี่ดีนะที่จมุกของแท้แม่ให้มาถ้าไปเสริมเติมแต่งมาล่ะก็ป่านนี้มันคงเบี้ยวหรือไม่ก็หักงอไปแล้วแหง ๆ
ฟรานเชสโก้ชะงักไปทันทีที่สภาพ ‘ ยัยเฉิ่มเชย ’ หายไปแล้วแทนที่ด้วย ‘ สาวสวยนัยต์ตาเซ็กซี่ ’ ที่แม้แต่ราวนางฟ้าวิคทอเรียนางแบบชุดชั้นในสุดฮ๊อตก็ยังเทียบไม่ได้ ใช่ เทียบไม่ได้แน่ ๆ ยิ่งเมื่อรวมกับหุ่นสะโพกกลมนมโตสุดเย้ายวนชวนฝันก่อนหน้านี้ด้วยล่ะก็
อา...อย่างนี้ค่อยหายหงุดหงิดหน่อย ที่...ไม่เสียของ
ตาคู่คมสีบรั่นดีฉายประกายพึงใจ เค้าความหงุดหงิดที่หุ่นสาวในฝันแต่มีใบหน้าชวนให้หมดอารมณ์ก่อนหน้านี้ไม่มีเหลือ แต่ฟรานเชสโก้ก็พึงใจอยู่ได้ไม่นานเมื่อร่างระหงที่ซบอยู่กับอกเขาดันตัวออกห่างทันทีที่ตั้งสติได้ แล้วคว้าแว่นตากรอบใหญ่มาใส่ตามเดิม จากนั้นสาวสวยนัยต์ตาเซ็กซี่ก็อันตธานหายวับไปต่อหน้าต่อตามาเฟียหนุ่มหลงเหลือสภาพแม่สาวเฉิ่มสุดเชยตามเดิม
ฟรานเชสโก้สบถกับตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะถามเสียงห้วน “ไม่เกะกะหรือไงไอ้แว่นเฉิ่ม ๆ เชย ๆ นี่น่ะ” แต่สำหรับเขามันเกะกะมาก ๆ เลยเชียวล่ะ เห็นแล้วมันหมดอารมณ์จริง ๆ ให้ตาย
“ถึงแล้วค่ะ” ลียาไม่ตอบคำถามแต่บอกให้เขารู้อีกครั้งว่าตอนนี้ได้มาถึงที่พักของเขาแล้ว ก่อนจะเปิดกระเป๋าใบโตควานหาบางอย่างแล้วยื่นให้อีกฝ่าย “นี่นามบัตรฉัน เผื่อว่ามีใครมาตามรังควานหรือทำอะไรคุณให้รีบติดต่อฉันนะคะ แล้วฉันจะจัดการให้” ถึงจะเคยคิดไปก่อนหน้านี้ว่าส่งเขาแล้วก็ไม่ต้องติดหนี้บุญคุณกันอีก แต่ทว่าถ้าหากพิพัตรไม่ยอมรามือซึ่งเธอค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะไม่ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นผู้ชายตรงหน้าเธอก็จะต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวเธอเอง ดังนั้นเธอก็ควรต้องรับผิดชอบ
“ลียา...คุณเป็นตำรวจ?” เอ่ยถามหลังจากกวาดสายตาอ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษบนกระดาษสีครีมแผ่นเล็ก ๆ ในมือแล้ว
โอเค ปิดสนิทล่ะโอกาสและความอยาก สายตาสีบรั่นดีกวาดมองไล่ตั้งแต่ลำคอหยุดชะงักที่หน้าอกอวบอิ่มที่ดูจะอิ่มมากเกินจนล้นนั่นชั่วครู่ แล้วไล่ต่ำลงไปยังยังเอวคอดจนถึงสะโพกผาย ฟรานเชสโก้หลับตาลงเป่าลมหายใจออกจากปากแรง ๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปมากกว่านั้น เพราะตำรวจสำหรับเขาถือว่าเป็นสิ่งที่น่ารำคาญและควรหลีกเลี่ยงให้ไกลเป็นอันดับต้น ๆ
แต่...หุ่นยัยเฉิ่มนี่มันน่า...
“ค่ะ” เสียงตอบกลับเริ่มกระด้างเมื่อเห็นสายตาที่กวาดมองตัวเองทั้งตัว คิดไปว่าเขาคงไม่อยากจะเชื่อว่าท่าทางอย่างเธอจะเป็นตำรวจได้ “เอาเป็นว่าถ้าคุณเดือดร้อนอะไรก็ติดต่อฉันได้เลยนะคะ...ฉันลียา ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” อุตส่าห์แน่นนำตัวเองย้ำแล้วถ้าเขาไม่แนะนำกลับก็มารยาทแย่เต็มทนล่ะ จริง ๆ ไม่ได้อยากจะรู้จักหรืออะไรเพียงแค่คิดว่ารู้ไว้ก็ไม่เสียหายเผื่อเจอจะได้ทักถูก
“โอเค ถ้าสามีคุณมาตามรังควานแล้วผมจัดการไม่ได้จะติดต่อไปแล้วกัน” ลืมไปเลยว่ายัยเฉิ่มเชยหุ่นน่าฟัดนี่มีสามีแล้ว...งั้นปิดตาย เห็นทีตอนนี้คงต้องลาแล้วลาลับ ถึงจะหุ่นน่าฟัดเวลาถอดแว่นแล้วเซ็กซี่ชวนฝันขนาดไหนก็เถอะ “ขอบคุณที่มาส่งคุณตำรวจ”
ฟรานเชสโก้เก็บนามบัตรแผ่นเล็ก ๆ ใส่กระเป๋ากางเกง ยกมือทำท่าลาแล้วเปิดประตูรถเดินเข้าไปในบังกะโล ปล่อยให้ลียามองตามอย่างขุ่นเคืองนิด ๆ ที่สุดท้ายฝรั่งตัวเท่าตึกนี่ก็มารยาทแย่จริง ๆ
เอาเถอะ ก็หวังว่าจะไม่ต้องเจอะเจอกันอีก ถ้าเขาถูกพิพัตรตามรังความก็ภาวนาให้เขาจัดการได้ก็แล้วกัน
........................................................................................
เรื่องนี้จะค่อย ๆ อัพนะคะ
หลัก ๆ จะอัพอีกเรื่องเพราะแค่รีไรท์น่ะคะ
เรื่องกรงรักแดนเถื่อน ขอฝากด้วยนะคะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ม.ค. 2555, 13:29:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ม.ค. 2555, 13:29:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 3423
<< ตอนที่ 1...มาเฟียตกอับ | ตอนที่ 3...โชคชะตาฟ้าลิขิต >> |

เจ้าหญิงสุเอะ 14 ม.ค. 2555, 00:07:15 น.
ชอบค่ะ
ชอบค่ะ

หมูอ้วน 14 ม.ค. 2555, 07:11:41 น.
อ่านสองตอนรวดเลยค่ะ สนุกดี
อ่านสองตอนรวดเลยค่ะ สนุกดี