สุดฝั่งฝัน
ความฝันของเขาคือการได้พบกับน้องชายที่พลัดพราก หากเมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้ง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มดุจท้องทะเลลึกของเด็กชายตัวน้อยในอดีต บัดนี้กลับระอุไปด้วยเพลิงแค้น สุดปลายทางความฝันของเขาจะเป็นเช่นไร จะมีทางหรือไม่ที่จะได้น้องชายคนเดิมกลับมา
Tags: ซึ้ง ดราม่าเล็ก ๆ

ตอน: ตอนที่ 4

4...

นิโคลัสกลับจากแฮมไชร์เกือบห้าทุ่ม เมื่อมาถึงคฤหาสน์ประจำตระกูล แทนที่ชายหนุ่มจะเตรียมตัวพักผ่อน เขากลับเปลี่ยนรถอีกคันและขับออกไปข้างนอกอีก

ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าไปยังบ้านของโรเจอร์ เมื่อน้าชายยังชักช้าไม่ยอมลงมือ เขาคงต้องช่วยกระตุ้นสักหน่อย

“ไปหาอะไรสนุก ๆ ทำกันดีกว่าครับ” นิโคลัสเอ่ยปากชวนทันทีเมื่อโรเจอร์เปิดประตูรับ

“นิคจะชวนน้าไปไหน” โรเจอร์ถามอย่างสงสัย ปกติเขาเป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจหลานรัก

“เถอะครับ เดี๋ยวก็รู้เอง” นิโคลัสส่งยิ้มน่าเอ็นดู ยิ้มที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นมารดาไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งชายหนุ่มรู้ดีว่าจะทำให้โรเจอร์ใจอ่อนแน่นอน

นิโคลัสเดินนำหน้าน้าชายเข้าไปในบ่อนพนันแห่งหนึ่ง โดยมีทั้งแบรนดอนและไซม่อนเดินตามหลัง ภายในบ่อนตกแต่งอย่างหรูหราเพราะผู้ที่มาใช้บริการนั้นล้วนแล้วแต่เป็นพวกคนในตระกูลใหญ่ไฮโซทั้งนั้น โรเจอร์มองไปทั่วอย่างตื่นตา สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับบ่อนพนันในความคิดของเขาเลย เพราะมันทั้งสะอาด ดูดี พนักงานทั้งหมดหน้าตารูปร่างดี แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ไม่เห็นมีใครดูเหมือนพวกอันธพาลน่ากลัวเลยสักคน ผู้หญิงที่นั่งเป็นเพื่อนนักพนันก็ต่างกับโสเภณีราคาถูก ทุกคนสวยน่ารัก และแม้จะแต่งตัวค่อนข้างจะเปิดเผยเนื้อหนังแต่ก็ดูมีรสนิยมสูง

“เราไปเล่นโต๊ะนั้นกันดีกว่า เขาเล่นดัมมี่กัน น้าเล่นเป็นใช่ไหมครับ”

“เป็นน่ะเป็น แต่น้าไม่ได้เตรียมเงินมาด้วยน่ะสิ” โรเจอร์เคยเล่นไพ่มาก่อน แต่ก็เล่นกันสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ เท่านั้น เขาจึงรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย

“อย่าห่วงเลยครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ เราเล่นสนุก ๆ แค่เกมส์สองเกมส์ก็พอ”

“แต่...” โรเจอร์ยังลังเล

“เถอะน่า น้าอย่าซีเรียสสิครับ เราแค่มาหาอะไรทำกันสนุก ๆ ประสาคนโสด ที่ผ่านมาน้าเอาแต่ทำงานแล้วก็กลับบ้าน ผมเป็นหลานก็อดห่วงไม่ได้ อยากให้น้าได้ออกมาเที่ยวพักผ่อนคลายเครียดบ้าง”

นิโคลัสพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงใจ โรเจอร์ฟังแล้วก็รู้สึกเต็มตื้นจนน้ำตาซึม ตั้งแต่พี่สาวตายจากไปก็แทบไม่มีใครมาแสดงความเป็นห่วงเขาแบบนี้เลย แม้แต่แอนดรูว์เองก็ตาม เขารู้ว่าหลานชายคนโตก็รักและเป็นห่วงเขาไม่น้อย แต่แอนดรูว์มักจะไม่ค่อยแสดงออก ไม่เหมือนนิคกี้ หลานชายคนนี้ช่างประจบ น่าเอ็นดู ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการลำเอียงขึ้นมา

“เอาก็เอา ลองสักเกมส์ก็ได้”

นิโคลัสลอบยิ้มอย่างสมใจ ก่อนที่จะพยักหน้าให้แบรนดอนกับไซม่อนดำเนินการตามแผน ชายหนุ่มพาน้าชายเข้าไปแนะนำยังวงไพ่วงหนึ่ง ทุกคนในโต๊ะดูจะยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ ทำให้โรเจอร์คลายความกังวล

“อ้าว ไม่เล่นด้วยกันเหรอ นิค” โรเจอร์รีบถามเมื่อเห็นนิโคลัสแยกไปนั่งอยู่ห่าง ๆ ไม่ไกลนัก แต่ก็ไม่ได้เข้าไปนั่งในวงไพ่ร่วมกับตนเอง

“ไม่ล่ะครับ ผมเล่นเบื่อแล้ว ผมคอยเชียร์น้าอยู่ตรงนี้ดีกว่า โชคดีนะครับ”

โรเจอร์หันกลับไปยังวงไพ่เมื่อพนักงานเริ่มทำการแจกไพ่ ไม่นานเขาก็มัวสนใจกับไพ่ตรงหน้า ผ่านไปสองสามเกมส์เขาเล่นได้ตลอดจนลืมไปแล้วว่าตั้งใจจะเล่นเพียงเกมส์เดียว หากต่อมาเขาก็เริ่มเล่นเสีย ตอนนี้เขารู้สึกร้อนขึ้นมาทันที เขาเล่นเสียติดกันมาห้าเกมส์แล้ว เขาตั้งใจจะเล่นเอาเงินคืน เพราะรู้สึกเกรงใจหลานชาย เงินที่เสียไปนั้นเป็นเงินก้อนโต ซึ่งเทียบเท่ากับเงินเดือนทั้งปีของเขาเลยทีเดียว

“พักก่อนไหมครับ” นิโคลัสเข้ามาถาม แสดงความเป็นห่วง

“ดีเหมือนกัน” โรเจอร์ปาดเหงื่อที่ขมับ ก่อนจะเดินตามหลานชายไปนั่งลงยังโซฟาบุนวมนุ่มน่าสบายซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกสบายขึ้นเลย

แบรนดอนรินเหล้าใส่ในแก้วคริสตัลใสแล้วส่งให้เจ้านายอย่างรู้หน้าที่

“สักแก้วนะครับ จะได้รู้สึกดีขึ้น” นิโคลัสส่งเหล้าต่อให้โรเจอร์ เขารับไปดื่มเข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะนิ่วหน้าเพราะรู้สึกร้อนวาบขึ้นมา นิโคลัสยิ้มเพราะเหล้านี่ดีกรีค่อนข้างที่จะแรงสำหรับคนคออ่อนอย่างโรเจอร์ ชายหนุ่มหันไปพยักหน้าส่งสัญญาณกับไซม่อน ลูกน้องคนสนิทผงกศีรษะรับรู้ก่อนจะเดินผละไป

สักพักไซม่อนก็เดินกลับมาพร้อมกับสาวสวยคนหนึ่ง เธอมองไปที่โรเจอร์พร้อมกับยิ้มให้ โรเจอร์ยิ้มตอบ ดวงตาของหนุ่มใหญ่มีแววอ่อนหวานจนเห็นได้ชัด นิโคลัสที่ลอบสังเกตอยู่กระตุกยิ้มอย่างสมใจอีกครั้ง เขาแนะนำหญิงสาวซึ่งมีนามว่าลิลลี่ให้รู้จักกับโรเจอร์ ทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอ และเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว โรเจอร์คุยเพลินกระทั่งลิลลี่ลุกขึ้นขอตัวกลับก่อน

“เธอดูน่ารักมาก ไม่ควรที่จะต้องมาทำงานที่นี่เลย” โรเจอร์ปรารภกับหลานชาย

“ทำไงได้ล่ะครับ ที่นี่รายได้ดีกว่าที่อื่น เธอมีภาระต้องดูแลแม่ที่ป่วยอยู่” นิโคลัสตอบด้วยสีหน้าเห็นใจเช่นกัน

“น่าสงสารจริง” ผู้เป็นน้าพึมพำ

“วันนี้ดึกมากแล้ว เรากลับกันเถอะครับ เดี๋ยวไว้ผมจะพาน้ามาคุยกับลิลลี่อีกวันหลัง”

โรเจอร์หน้าแดงที่ถูกหลานชายจับได้ว่าเขาเกิดถูกอกถูกใจลิลลี่เข้าให้แล้ว เขาไม่เคยมีความรักแบบจริงจังมาก่อน แต่เกิดจะมาหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งตั้งแต่แรกพบเอาตอนอายุสี่สิบกว่าแบบนี้

จากนั้นนิโคลัสก็มาส่งโรเจอร์ที่บ้าน ก่อนที่เขาจะลากลับ ผู้เป็นน้าก็พูดขึ้นอย่างอึกอัก

“เรื่องเงิน...” โรเจอร์เอ่ยถึงเรื่องเงินที่เสียไปในวงไพ่ รู้ดีว่าคงไม่สามารถหามาใช้คืนหลานชายได้ทั้งหมด

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ เงินแค่เล็กน้อย ไม่ต้องคืนผมหรอกครับ”


เมื่อร่ำลาน้าชายเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่นิโคลัสจะกลับบ้านเสียที วันนี้ดูท่าแผนการที่เตรียมไว้จะได้ผลเป็นอย่างดี

“ลิลลี่ทำงานได้ดีมาก เดี๋ยวนายจัดการให้รางวัลพิเศษเธอด้วยนะไซม่อน”

“ครับคุณนิค” ไซม่อนตอบมาจากที่นั่งด้านหน้าซึ่งเขานั่งคู่กับแบรนดอนที่เป็นผู้ขับรถ

นิโคลัสยิ้มกับตัวเอง อีกไม่นานหรอกแอนดรูว์ นายจะถูกน้าไซม่อนทรยศ มันคงจะเจ็บปวดเป็นบ้า นอกจากนั้นแล้วธุรกิจประจำตระกูลที่เจ้าปีศาจเอ็ดเวิร์ดสร้างเอาไว้จะต้องย่อยยับ แต่นั่นยังน้อยไปกับสิ่งที่ทั้งนายและพ่อของนายเคยทำไว้กับฉัน นายจะต้องสูญเสียผู้หญิงที่นายรักให้กับฉัน เหมือนกับที่พ่อของนายได้เคยทำลายความรักระหว่างพ่อกับแม่ฉัน ชายหนุ่มหมายมาดอยู่ในใจด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว

นิโคลัสกลับถึงบ้านเกือบเช้า ชายหนุ่มเข้านอนเพียงแค่สองชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตามปกติ ช่วงนี้เขาไม่ได้เจอหน้าชาร์ลีเลย แต่ก็ไม่แปลกนักหรอก พี่ชายบุญธรรมของเขาคงตั้งใจหลบหน้า หากก็ช่างเถอะ เขาจะปล่อยชาร์ลีไปก่อน เพราะตอนนี้เขามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำ

ชายหนุ่มตั้งใจขับรถไปที่ศูนย์คุ้มครองเด็กมาสเดน เพื่อที่จะสานต่อแผนการในการทำลายล้างแอนดรูว์ หากระหว่างทางเขากลับเห็นเกเบรียลลากำลังเดินเข้าไปในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง นิโคลัสรีบเบนรถเพื่อเข้าเทียบจอดริมทางเท้าไม่ไกลนัก ก่อนจะเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้านหนังสือ

ใบหน้าหล่อเหลาละมุนลงเมื่อเห็นหนังสือมากมายเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ เขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือหลายประเภท หากนานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้เข้ามาเดินในร้านหนังสือแบบนี้ ชายหนุ่มมองหาเกเบรียลลา ก่อนจะพบว่าเธอยืนเลือกหนังสืออยู่ในล็อคถัดไป

วันนี้หญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวเข้ารูปสีชมพูอ่อนกับกางเกงขายาวสีครีม ชุดที่แสนจะเรียบร้อย หากกลับช่วยเน้นรูปร่างที่สูงโปร่งให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น นิโคลัสยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วจึงค่อย ๆ เดินตรงไปหาหญิงสาวอย่างเงียบกริบ เขาเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังของเธอแล้วก้มลงพูดใกล้ๆ กับใบหูบอบบาง

“สวัสดีครับคุณหมอ”

เกเบรียลลาสะดุ้งจนเกือบจะทำหนังสือหลุดมือ หญิงสาวรีบหันไปด้านหลัง ก่อนจะพบว่าคนที่ทำให้เธอตกใจนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนิโคลัสที่กำลังยืนยิ้มเผล่อยู่นั่นเอง หญิงสาวรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าวเมื่อเห็นว่าเธอยืนใกล้กับเขามากเพียงใด

“คุณเกรแฮม”

“เรียกผมว่านิคเถอะครับ”

เกเบรียลลามองใบหน้าคมคายนั้นอย่างระแวง แต่เมื่อพบกับรอยยิ้มประจบเข้าเธอก็อดยิ้มตอบไม่ได้ นิโคลัสยิ้มเหมือนแอนดรูว์ไม่มีผิด หากดูเหมือนเด็กหนุ่มขี้เล่นมากกว่า

“ก็ได้ค่ะ คุณนิคมาทำอะไรที่นี่คะ”

นิโคลัสหัวเราะก่อนจะตอบ “ผมก็มาเลือกซื้อหนังสือบ้างน่ะสิครับ ทำไม หน้าอย่างผมนี่มาเดินในร้านหนังสือไม่ได้เหรอครับ” คำตอบมีแววยียวนอย่างเปิดเผย หากจิตแพทย์อย่างเกเบรียลลาสามารถรับมือได้อย่างสบาย เพราะเธอเพียงยิ้มเล็กน้อย

“ได้ค่ะ เพียงแต่ฉันนึกว่าคุณชายอย่างคุณไม่น่าจะต้องมาเดินเลือกหนังสือเอง แค่อยากได้เรื่องไหนก็สั่ง ๆ เอา เดี๋ยวก็มีคนจัดไปถวายให้”

นิโคลัสหัวเราะอีกครั้ง เขารู้ตัวดีว่าโดนแขวะเข้าให้แล้ว แต่ให้หญิงสาวคิดว่าเขาเป็นพวกคุณชายเหลาะแหละไม่ได้เรื่องก็ดีเหมือนกัน

“โธ่ ถึงผมจะดูเป็นคุณชาย แต่ผมก็ใจดีนะคุณ คุณมาเลือกหนังสือให้เด็ก ๆ ที่ศูนย์เหรอครับ มา ผมช่วยเลือกนะ” พูดจบชายหนุ่มก็หยิบหนังสือแทบทุกเล่มในชั้นจนเต็มอ้อมแขนแข็งแรง

อย่างนี้เรียกว่าเลือกตรงไหน คุณชายเธอเล่นเหมาหมดชัด ๆ เกเบรียลลาแอบค่อนอยู่ในใจ เธอเผลอย่นจมูกใส่คนตัวสูงอย่างหมั่นไส้ และชายหนุ่มก็หันมาเห็นพอดี

“มีอะไรเหรอครับ” เขาถามด้วยใบหน้าใสซื่อ

“เปล่าค่ะ” เกเบรียลลารีบส่ายหน้า อยากจะอวดรวยซื้อหนังสือหมดร้านก็ตามใจ ดีซะอีก เด็ก ๆ จะได้หนังสือใหม่เยอะ ๆ หญิงสาวคิดในใจ

ชายหนุ่มทำหน้าไม่เชื่อ เกเบรียลลาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ฉันไปจ่ายเงินก่อนนะ” หญิงสาวถือหนังสือสองเล่มเดินลิ่วไปทางเคาน์เตอร์จ่ายเงิน

“อ้าวคุณ! รอกันด้วยสิ” นิโคลัสรีบเดินตาม แต่หนังสือตั้งสูงในอ้อมแขนทำให้เขาเดินไม่ถนัดนัก

เกเบรียลลาจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกจากร้านโดยไม่รอคนอวดรวยที่ยังจ่ายเงินไม่เสร็จ เพราะเล่นเหมาหนังสือเกือบหมดชั้น หญิงสาวเดินไปยังรถยนต์ของตัวเองพร้อมกับยิ้ม รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งคุณชายขี้อวดคนนั้น เธอเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ แต่ถูกคว้าหมับที่ข้อมือบาง หญิงสาวสะบัดข้อมือ แต่นิโคลัสยังไม่ยอมปล่อย

“เอ๊ะ! คุณ” เกเบรียลลาขึ้นเสียง ชักจะโกรธขึ้นมาจริง ๆ เขามีสิทธิ์อะไรมาจับมือเธอแบบนี้

“อย่าเพิ่งทิ้งกันสิครับ ผมยังจ่ายเงินไม่เสร็จเลย”

“เรื่องของคุณสิ ฉันจ่ายเสร็จแล้วนี่” หญิงสาวลอยหน้าตอบพร้อมกับพยายามบิดข้อมือออก แต่ชายหนุ่มยังคงจับเอาไว้แน่น

“คุณนี่ใจร้ายชะมัดเลย” ว่าไม่ว่าเปล่า นิโคลัสยังลากเอาคนตัวเล็กกว่าเข้าไปร้านหนังสือเพื่อจ่ายเงินต่อ

“นี่คุณ ปล่อยนะ!” เกเบรียลลาทุบต้นแขนชายหนุ่มเต็มแรง

“โอ๊ย! เจ็บนะคุณ ตัวเล็กแค่นี้ ทำไมมือหนักเป็นบ้า”

“สม ก็อยากไม่ปล่อยทำไมล่ะ” หญิงสาวยังทุบต้นแขนนิโคลัสต่ออีกหลายครั้ง ชายหนุ่มแกล้งร้องเสียงดังขึ้นจนคนอื่น ๆ ในร้านหนังสือหันมามองกันทั้งร้าน เขาจึงรีบโอบร่างบางเข้ามาชิดตัว

“ไม่มีอะไรครับ แฟนผมค้าโกรธที่ไม่ยอมซื้อบิกินี่ชุดใหม่ให้” พูดจบเขาก็หันไปพูดกับคนที่โดนตู่ว่าเป็นแฟนซึ่งกำลังยืนอ้าปากค้างอย่างโกรธจัดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แถมยังทำตาปรอยอีกด้วย

“ที่รักจ๋า อย่าโกรธเลยนะ ชุดนั้นมันเซ็กซี่จะตาย เดี๋ยวผมอดใจไม่ไหวล่ะก็ แย่เลยนะ” คนอื่น ๆ ได้ฟังต่างอมยิ้มกันเป็นแถวและหันไปเลือกหนังสือต่ออย่างหมดความสนใจ

“นี่คุณ จะบ้าเหรอ ใครเป็นแฟนคุณ ทุเรศ” หญิงสาวตวาดแว้ด

“สงสัยจะยังไม่หายโกรธ” นิโคลัสหันไปพูดกับพนักงานคิดเงินที่ยังอมยิ้มไม่เลิก

หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเกเบรียลลา เขาชวนหญิงสาวไปหาอะไรทานที่ร้านคอฟฟี่ช้อปซึ่งอยู่ติดกับร้านหนังสือ

“คุณอยากทานก็ไปทานคนเดียวสิ ฉันต้องไปทำงาน” หญิงสาวข่มใจ พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด

“ใจร้าย มือหนัก แถมยังใจดำอีก ผมหิวจะตาย ไปนั่งเป็นเพื่อนหน่อยก็ไม่ได้” ชายหนุ่มทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็ก ๆ ถ้าเป็นเวลาอื่นเกเบรียลลาคงหัวเราะไปแล้ว หากตอนนี้หญิงสาวได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเหลืออด

“เอ๊ะ! ก็ฉันบอกว่าต้องรีบไปทำงาน”

“งั้นเดี๋ยวผมโทรไปบอกท่าน ผอ. ให้ ท่านไม่ว่าอะไรหรอก” พูดจบชายหนุ่มก็ลากเกเบรียลลาเข้าไปในร้านค้อฟฟี่ช้อปจนได้

หญิงสาวนั่งลงพร้อมกับถอนหายใจ เอาเถอะ แค่นั่งเฉย ๆ ให้คุณชายจอมเอาแต่ใจกินให้เสร็จ ๆ ซะ เธอจะได้รีบไปเสียที เกเบรียลลาพยายามไม่สนใจผู้ชายตรงหน้า เธอเมินมองไปยังด้านนอกร้าน

นิโคลัสมองแล้วก็ยิ้ม ปกติผู้หญิงคนนี้ก็สวยมากอยู่แล้ว หากเวลาโกรธเธอยิ่งดูมีชีวิตชีวา ใบหน้าคมสวยนั้นแดงก่ำ หญิงสาวกัดริมฝีปากจนแดงช้ำอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มเผลอมองริมฝีปากได้รูปนั้นอย่างลืมตัวอยู่นาน จนกระทั่งพนักงานนำอาหารและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ

“ชาร้อนกับสตรอเบอร์รี่มิลค์เค้กครับ” นิโคลัสเลื่อนแก้วชากับจานขนมเค้กไปตรงหน้าหญิงสาวที่ยังเมินมองออกไปข้างนอก เกเบรียลลาหันกลับมาพร้อมกับขมวดคิ้วเรียว

“ก็เมื่อกี้ผมถามว่าคุณจะทานอะไร คุณก็ไม่ยอมตอบ ผมเลยถือวิสาสะสั่งให้ ไม่แน่ใจว่าคุณหมออย่างคุณจะดื่มกาแฟรึเปล่า ผมเลยสั่งชาแทน”

“ไหนว่าหิว” เกเบรียลลาพยักเพยิดไปทางถ้วยกาแฟของชายหนุ่ม

เขาก้มลงมองก่อนจะหัวเราะ “ก็นี่แหละครับ อาหารเช้าของผม”

เกเบรียลลาจิบชาก่อนจะเอ่ยขึ้น “ทานแค่นี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ อย่างน้อยเพิ่มขนมปังอีกแผ่นนึงก็ยังดี” เธอเตือนเขาด้วยความเคยชินตามประสาคนเป็นหมอ เพราะเมื่อก่อนแอนดรูว์ก็ดื่มแต่กาแฟตอนเช้าเหมือนกัน เมื่อนึกคู่หมั้นหนุ่มเธอจึงเพิ่งนึกได้ว่าเขากำลังอยากเจอน้องชาย หญิงสาวตักเค้กเข้าปากไปอีกคำแล้วเริ่มชวนคุย

“คุณมีพี่ชายบ้างรึเปล่าคะ” ถามคำถามแรกเพื่อหยั่งเชิง
นิโคลัสฟังแล้วก็ยิ้มเพราะรู้ทันว่าทำไมเกเบรียลลาถึงได้ถามแบบนี้ แอนดรูว์คงจะเล่าให้หญิงสาวฟังแล้วเป็นแน่

“คุณทราบได้ยังไงกันว่าผมมีพี่ชาย บางคนเค้ายังไม่รู้เลยนะ แน่ะ แอบสนใจผมเหมือนกันใช่มั้ยเนี่ย” ชายหนุ่มถามทีเล่นทีจริงจนคนฟังอ่อนใจ พยายามนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ

“เขาชื่ออะไรคะ” เธอเพียงแค่ถามเพื่อให้มั่นใจว่าเขาคือนิคน้อยของแอนดรูว์จริง ๆ

“คุณไม่รู้จักเขาหรอก” นิโคลัสทำท่าไม่สนใจเพื่อยั่วหญิงสาวเล่น

“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่รู้จัก” คุณหมอสาวชักเริ่มของขึ้น ผู้ชายอะไรไม่รู้ ท่ามากจริง ๆ

นิโคลัสทำท่าประหลาดใจสุด ๆ “หา! นี่คุณรู้จักชาร์ลีด้วยเรอะ แปลกแฮะ ปกติเขาจะคบแต่กับพวกผู้หญิงอกโต ๆ บึ้ม ๆ แต่อย่างคุณนี่...” ชายหนุ่มลดสายตาต่ำลงไปจากใบหน้าของเกเบรียลลาอย่างมีความหมาย หญิงสาวจึงรีบยกมือขึ้นกอดอก

“จะบ้าเหรอคุณ ฉันหมายถึงแอนดรูว์ เคลย์ตัน ตะหากล่ะ” เกเบรียลลารีบพูดออกมาเสียงดัง ชายหนุ่มหัวเราะที่แกล้งหญิงสาวได้สำเร็จ

“อ้าว ก็ผมไม่รู้นี่ว่าคุณหมายถึงพี่ชายคนไหน”

“เขาอยากเจอคุณมากเลยนะคะ” เกเบรียลลาพูดต่อโดยพยายามไม่สนใจว่ากำลังถูกยั่ว

นิโคลัสเลิกคิ้ว “เขาบอกคุณอย่างนั้นเหรอ”

เกเบรียลลายิ้มออก ดูเหมือนนิโคลัสจะเริ่มพูดรู้เรื่องขึ้นมาบ้างแล้ว “ใช่ค่ะ วันนั้นที่ศูนย์ เขาเรียกคุณด้วยนะ แต่คุณคงไม่ได้ยิน”

“งั้นเหรอครับ ก็คงใช่” แอนดรูว์คงบอกคู่หมั้นไปอย่างนั้น ยังทำตัวเป็นคนดีอยู่เสมอเลยนะ นิโคลัสคิดในใจอย่างไม่สบอารมณ์

“ทำไมคุณไม่ลองไปพบพี่ชายคุณล่ะคะ ได้ยินมาว่าคุณไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว”

“แล้วทำไมเราจะต้องเจอกันด้วยล่ะ” นิโคลัสถามกลับอย่างกวน ๆ หญิงสาวฟังแล้วก็ได้แต่งงงัน

“อ้าว แล้วคุณไม่อยากเจอพี่ชายตัวเองเหรอ”

“ทำไมจะต้องอยากเจอ ในเมื่อผมไม่เคยรู้สึกว่าเขาเป็นพี่ชายเลย ฝากคุณบอกเขาตามนี้ด้วยแล้วกัน” ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นโกรธ เขาพูดเสียงเข้มจนเกเบรียลลาตกใจ นิโคลัสหยิบเงินวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นคว้าถุงหนังสือแล้วเดินออกไปจากร้าน

เกเบรียลลาทั้งตกใจทั้งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ชายหนุ่มก็มีท่าทางเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน หญิงสาวรีบวิ่งตามนิโคลัสออกไป

“เดี๋ยวสิคะ นี่ฉันงงไปหมดแล้วนะ ทำไม...” หญิงสาวพูดยังไม่ทันจบ นิโคลัสก็สวนขึ้นมา

“ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะผมเกลียดแอนดรูว์ เคลย์ตันไง เข้าใจรึยัง” ชายหนุ่มพูดจบก็ก้าวขึ้นรถ แต่เกเบรียลลารีบจับประตูเอาไว้

“ไม่เข้าใจ ทำไมคุณต้องเกลียดเขาล่ะคะ เขาทำอะไรให้คุณโกรธนักหนา” หญิงสาวไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคนนิสัยดีอย่างแอนดรูว์จะทำอะไรให้นิโคลัสเกลียดได้ถึงขนาดนี้

ชายหนุ่มกระชากประตูปิดก่อนที่จะเปิดกระจกมาพูดกับเกเบรียลลาอีก “นี่คุณอยากให้ผมพบกับเขามากขนาดนี้เลยเหรอ”

“ใช่ค่ะ เขาอยากพบคุณจริง ๆ นะ” เกเบรียลลาตอบเสียงอ่อน

นิโคลัสลอบยิ้ม ก่อนจะหันกลับมาทำหน้าเคร่งต่อ “งั้นก็ได้ ผมจะยอมไปพบกับแอนดรูว์ ถ้าพรุ่งนี้คุณยอมไปดินเน่อร์กับผม”

“อะไรนะ” เกเบรียลลาถามเสียงสูง

“คุณได้ยินแล้วนี่” นิโคลัสพูดพร้อมกับยักไหล่ด้วยท่าทางสบาย ๆ

หญิงสาวนิ่งไป เธอเพิ่งเคยพบกับนิโคลัสเพียงแค่สองสามหนเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนนิสัยใจคอยังไง เท่าที่ได้สัมผัส นิโคลัสเป็นคนมีหลายบุคลิกมากจนคาดเดาไม่ถูกเลย

“ว่าไงล่ะ” นิโคลัสเร่ง เขาสตาร์ทรถ ราวกับว่าถ้าหญิงสาวไม่ตอบตกลงตอนนี้ก็เป็นอันจบ

“ก็ได้ค่ะ” เกเบรียลลาตอบอย่างเสียไม่ได้ ทีตอนนี้มาทำเป็นรีบ ก่อนหน้านี้ยังเลือกหนังสือ ดื่มกาแฟเอื่อยเฉื่อยอยู่เลย

ชายหนุ่มยิ้ม “ดี ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมจะส่งชุดมาให้ตอนเช้า แล้วจะส่งคนไปรับคุณที่บ้านตอนสองทุ่ม อย่าลืมนัดเราล่ะ” พูดจบเขาก็เคลื่อนรถออกไปเลย

“นี่ ทำไมฉันต้องแต่งชุดของคุณ” หญิงสาวตะโกนตามหลัง แต่ชายหนุ่มออกรถไปไกลแล้ว เธอจึงได้แต่ยืนโมโหคุณชายจอมเอาแต่ใจอยู่คนเดียว

เกเบรียลลามองท้ายรถของนิโคลัสจนกระทั่งลับตาไป หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ นี่เธอลงทุนเพื่อแอนดรูว์มากเกินไปหรือเปล่านะ แต่เมื่อนึกถึงแววตาหม่นเศร้าของคู่หมั้นหนุ่มในวันนั้นแล้ว เธอก็อยากจะช่วยให้เขาได้พบกับน้องชายจริง ๆ

“คนบ้าแบบนั้นเป็นน้องชายของแอนดรูว์ได้ยังไงนะ” หญิงสาวบ่นอุบขณะเดินตรงไปยังรถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่หน้าร้านหนังสือ เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถ หญิงสาวมองกลับเข้าไปในร้าน พนักงานในร้านมองหน้าเธอแล้วก็อมยิ้มอย่างมีเลศนัย หญิงสาวหน้าร้อนซู่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้นิโคลัสพูดอะไรเอาไว้

“คนบ้า คนทุเรศ คนลามก” หญิงสาวได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว เมื่อไม่สามารถจะทำอะไรผู้ชายปากเสียคนนั้นได้ เธอรีบเคลื่อนรถและขับไปยังศูนย์คุ้มครองเด็กทันที

หลังจากแยกกับเกเบรียลลา ชายหนุ่มขับรถไปยังบริษัทของบิดาที่ตอนนี้เขาเป็นคนดูแล ลูกน้องคนสนิททั้งสองเข้ามาดูแลความเรียบร้อยตามปกติตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อไปถึงห้องเขาก็ส่งกุญแจรถให้ไซม่อน

“เดี๋ยวช่วยไปขนหนังสือที่ท้ายรถ แล้วเอาไปส่งให้ที่ศูนย์คุ้มครองเด็กมาสเดนด้วยนะ”

“ครับ” ไซม่อนรับกุญแจมาอย่างแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไร

“แบรนดอน เดี๋ยวช่วยเรียกคุณนายแบรดชอว์มาพบฉันที” นิโคลัสหันไปสั่งงานแบรนดอนต่อ

“คุณนิคต้องการเสื้อผ้าผู้หญิงเหรอครับ” แบรนดอนถาม เมื่อเช้าเจ้านายคงไปพบคุณหมอสลีเฟิร์ทมาแน่ เมื่อกี้ก็เพิ่งสั่งให้ไซม่อนเอาหนังสือไปให้ที่ศูนย์ เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะคุณนิคเคยบริจาคหนังสือให้เด็ก ๆ มามากมาย แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเป็นผู้ไปซื้อด้วยตัวเอง

“ใช่ ต้องการด่วนด้วย” นิโคลัสตอบแล้วก็หยิบแฟ้มบนโต๊ะมาอ่านรายละเอียด เมื่อแบรนดอนเห็นว่าเจ้านายหันไปสนใจกับงานแล้ว เขาจึงเดินออกไปจากห้องทำงานของนิโคลัสเพื่อโทรศัพท์ไปหาคุณนายแบรดชอว์ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าสตรีชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ

..............................................................



ปุญณิศา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ม.ค. 2555, 21:55:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ม.ค. 2555, 21:55:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1340





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
Auuuu 21 ก.พ. 2555, 01:14:36 น.
ไอ๊หย่ะะะ ต้องมีเรื่องเข้าใจอะไรบางอย่างผิดแน่ๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account