ม่านพรหม
เมขลา น้องสาวคนเล็กของผู้การจิรวัติ เธอผู้มีซิกเซ้นส์ สัมผัสพิเศษ สามารถยั่งรู้อนาคตของคนอื่นได้บ้าง..เมขลา ต้องพบกับภัยคุกคามจาก กฤษณะ อดีตคนรักของลูกค้า เพราะเธอไปดูว่า กฤษณะไม่ใช่เนื้อคู่ของเธอคนนั้น...จากเรื่องสนุก ๆ ที่ได้รู้อนาคตคนอื่น เมขลา เริ่มเครียด และเขาก็ค่อย ๆ ทำให้เธอรู้ว่า..คนเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าได้นั้น ไม่ได้เกิดจาก รู้ดวงชะตา..
Tags: นายรถไฟ กับยายซิกเซ้นส์

ตอน: 6.“ทำไมคุณไม่ตัดสินใจเลือกใครสักคนด้วยความรู้สึกของตัวคุณเอง "

ม่านพรหม
6.

ความโกลาหลเกิดขึ้น..ในทันที..

“นี่นายจะทำอะไรน่ะ” วิจิตรศราเสียงแหวเข้าใส่..กฤษณะมองหน้าเมขลาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อจนกระทั่งเมขลาต้องถอยออกห่างจากเขา สามสาวสวมเสื้อคนละสีนั้นขยับไปเกาะกันสีหน้านั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก อุสาตัวสั่น สายตาก็มองหามีดหรือไม้อะไรที่พอจะช่วยเจ้านายตัวเองได้..

“พวกคุณทำอะไรกัน ผมอยากรู้ว่า เป็นบ้าอะไรกัน” เสียงเขาเขาแทบจะเรียกว่าตะคอก

“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย”

“ผมมีเหตุผลที่จะยุ่งแล้วกัน..บ้าบอคอแตก” เสียงของเขาดังยิ่งขึ้น..

“นายนั่นแหละบ้าบอคอแตก”

“วิ” เมขลาร้องปรามเพราะเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บช้ำของเขา เธอก็รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา.. ที่เขาไม่พอใจจนออกนอกหน้าอย่างนี้ มันต้องมีเหตุผลเพียงพอแน่ ๆ แต่เธอไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร..

“ถามจริง ๆ เถอะ..ถามจริง ๆ” เขาหันไปหาหญิงสาวเสื้อสีแดง สีเขียว แต่ว่าดวงตาของเขานั้นจิกไปหาคนใส่เสื้อสีชมพู.. “ทำไมคุณไม่ตัดสินใจเลือกใครสักคนด้วยความรู้สึกของตัวคุณเอง ถ้าเค้าบอกว่า ว่าคนที่เป็นเนื้อคู่ของคุณเป็นใคร คุณก็เลือกผู้ชายคนนั้นอย่างนั้นเหรอ..แล้วความรู้สึกของตัวคุณเองล่ะ คุณไม่รู้หรือไงว่าใครดีกว่าใคร และคุณอยากอยู่กับใครไปตลอดชีวิต”..

“ฉันก็แค่อยากได้ความมั่นใจ”

“เขาบอกให้คุณไปตาย คุณจะไปไหม ถ้าเขาบอกว่าทั้งสองคนมันไม่ใช่เนื้อคู่คุณทั้งคู่ คุณจะเชื่อไหมล่ะ ถามจริง ๆ คุณจะเชื่อไหม หรือคุณพร้อมจะแคนเซิ้ลผู้ชายสองคนนั่นออกไปจากชีวิตคุณทันที.. ไหน ๆ ก็ถามแล้วนะ ผมอยากจะรู้ว่า ก่อนหน้านั้นน่ะ คุณทำอย่างไรถึงทำให้ผู้ชายสองคนไม่มาเจอกัน ไม่รู้ว่าคุณมีเขาทั้งสองคนพร้อมกัน....”

“นี่..” วิจิตรศราจับแขนของเขาเพราะรู้สึกว่าอารมณ์ของเขานั้นเพริดไปแล้ว..สามสาวนั่นเกาะกันสั่นงันงก..และพอเห็นว่ากฤษณะหันไปหาวิจิตรศรากับเมขลาที่ยืนนิ่ง..สามสาวก็รีบสะกิดกันออกจากร้าน..
“จะรีบไปไหนล่ะ อยู่ฟังผม ด่าให้จบก่อนไหม..ผู้หญิงอย่างพวกคุณน่ะ..ใช้สมองใช้ความรู้สึกตัดสินใจเองไม่ได้ แบบนี้เขาเรียกว่าสวยแต่รูป..ใครได้ไปเป็นแม่ของลูกมีแต่จะซวย..”

“ไอ้บ้า ไอ้ปากหมา”..คนใส่เสื้อสีเขียวตะโกนด่ากลับมา..แต่ว่าเพื่อนเห็นว่า เรื่องจะบานปลายใหญ่โตจึงรีบรั้งไปขึ้นรถเสียก่อน..คนที่อยู่ภายนอกร้านเริ่มเดินมามุงดูด้วยความอยากรู้...

“นายหยุดบ้าได้หรือยัง..แล้วก็ออกไปจากร้านนี้เลย”

“ไม่ออกไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“ฉันจะแจ้งความ”

“โทรเลย แจ้งเลย..”

“นายทำอย่างนี้นายต้องการอะไร” เมขลาเชิดหน้าต่อปากต่อคำกับเขา..

“ผมต้องการให้คุณเลิกดูหมอดูไปตลอดชีวิต”

“ทำไม”

“วิชาของคุณมันมั่ว..มั่ว รู้ไหมว่ามันมั่ว เดามั่ว ๆ ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน”

“ใครเดือนร้อน..ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้สักคน”


“ผมนี่ไง ผมเดือดร้อน”

“นายเดือดร้อน..ตอนไหน”

“ตอนนี้ไง..คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงต้องเป็นโสด..”

“จะไปรู้นายเหรอ”..

“ก็เพราะไอ้คำทำนายมั่ว ๆ ของคุณไง..ผมนี่แหละ แฟนเก่าของอีน้องหมวย”

“หมวยไหน”

“ก็อีคนที่ทิ้งผู้ชายไทยจน ๆ ไปกับฝรั่งที่มาจากอิตาลี..ตามคำทำนายของคุณ รู้จักไหม”
วิจิตรศราตาเหลือกด้วยความตกใจเพราะตอนลงบันไดมาเธอได้ยินสามสาวที่วิ่งหนีไปคุยกันถึงเรื่องนี้..เป็นเพราะอย่างนี้ เขาถึงได้สติแตก เมขลาเป่าลมหายใจออกจากปาก..สั่นหัวเบา ๆ..

“วันนี้ ถ้าผมไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้..หนึ่งในสองของไอ้ผู้ชายหน้าโง่ของนังคนนั้นมันต้องมีสักคนตกที่นั่งเดียวกับผมเพราะคำทำนายของคุณ..เขาผิดอะไร ผมผิดอะไร ผมอยากรู้ว่าผมผิดอะไร”

เมขลายกมือขึ้นมากอดอกด้วยรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมา..ใช่ที่ผ่านมาเธอไม่เคยนึกเลยว่า การทำนายทายทักของเธอนั้นจะมีอีกคนที่เสียผลประโยชน์..ไม่เคยเลย..และเขาก็เป็นคนแรกที่อุทธรณ์ผลเสียจากการดูดวงแบบใช้การสัมผัสของเธอ...

เมื่อเจอคำถามของเขา เมขลาหายใจเข้าออกอย่างติด ๆ ขัด ๆ ร้านที่กว้างขวางดูคับแคบลงจนกระทั่งเมขลารู้สึกว่าใบหน้าของเขานั้นอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงคืบ ดวงตาขี้เล่นของเขา บัดนี้เหมือนดวงตาของยักษาที่กำลังโมโหโกรธา ปากที่แสยะยิ้มบาง ๆ นั้นบัดนี้ฟันกรามของเขานั้นกดกันอย่างข่มอารมณ์..

“นายไม่ผิดหรอก..” วิจิตรศราทำลายความเงียบในอึดใจนั้น..

“แล้วใครผิด..”

“ไม่มีใครผิด”

“มี..คนผิดคือคนที่ทำนายทายทัก เพราะฉะนั้น ผมขอ ต่อไปอย่าให้ใช้ไอ้ศาสตร์อะไรนี่ บอกอนาคตกับใครเขาอีกเลย..ผมขอได้ไหม”

เมขลาสูดลมหายใจเข้าปอด เรื่องที่เธอทำนายทายทักมันไม่ได้มีแต่โทษ ประโยชน์ของมันก็มี บางคนทนทำงานต่อไปได้..เพราะรู้ว่างานเก่ามันจะพาอนาคตที่สดใสมาให้..บางคนหลบเลี่ยงเคราะห์กรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นได้เพราะระมัดระวังตัว หนักก็กลายเป็นเบา..และบางคนที่ไม่เชื่อคำทำนายของเธอ เชื่อมั่นว่าความรู้สึกตัวเอง ..สุดท้ายคนที่ไม่ใช่เนื้อคู่กัน ก็ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ..

“ผมขอได้ไหม อย่าดูหมอดูมั่วๆ แบบนี้อีก” กฤษณะถามย้ำอีกครั้ง..เมขลาสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความมั่นใจ..ก่อนจะตอบแบบอวดดื้อถือดีว่า..

“ไม่..”

ดวงตาของกฤษณะแข็งกร้าวขึ้นมา..

“ข้อดีของมันก็มี..”

“อะไรบ้างล่ะ..มันมีข้อดีตรงไหน..”

“ก็...ลดการเสียเวลาไง..”

“เหรอ..งั้นคุณช่วยดูให้ผมหน่อยสิ..ว่าเนื้อคู่ของผมเป็นใคร..ผมจะได้รีบไปหาเขาเสียเดียวนี้เลย” ว่าแล้วกฤษณะก็หงายสมือทั้งสองข้างของตัวเองแล้วยื่นไปหาเมขลา..หญิงสาวปรายตามองมือหนาของเขาก่อนจะเชิดหน้าขึ้นประหนึ่งว่ามือนั้นเป็นสิ่งปฏิกูล..กฤษณะจึงต้องขยับตัวเพื่อให้มือทั้งสองข้างไปใกล้เมขลาอีกนิด แต่เมขลาก็ถอยหนี ทีนี้เองเขาจึงเป็นฝ่ายฉวยมือทั้งสองข้างของเมขลามากุมไว้เสียเอง..

“ปล่อยนะ”

“ไม่..คุณต้องดูว่า เนื้อคู่ของผมเป็นใคร”

“ไม่ดู..”

“นี่นายปล่อยมือเพื่อนฉันนะ” วิจิตรศราเต้นอยู่ข้าง ๆ แต่ว่ามือของกฤษณะก็แข็งเกินกว่าที่เมขลาจะดิ้นหลุด..อุสานั้นก็อยากจะเข้ามาช่วยแต่ว่าก็กล้า ๆ กลัว ๆ ..วิจิตรศราเห็นว่ากฤษณะชักจะบ้าไปใหญ่แล้ว หญิงสาวจึงบันดาลโทสะทุบตีเขาเป็นพัลวัน.แต่ว่ากำลังจะกำปั้นขอเธอนั้นก็หาทำให้ผิวของเขาระคายเคือง..

“คุณต้องดูให้ผม..”

“ไม่..ไม่ดู..”

“ถ้าไม่ดูให้ผม ก็ต้องเลิกดูให้คนอื่นด้วย”

“ไม่..ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย”

“ก็ผมไม่อยากเสียเวลา..ผมอยากรู้ว่าเนื้อคู่ผมอยู่ตรงไหน..ผมอยากเจอคนของผมบ้าง เร็ว ๆ “

“ไม่..ปล่อยมือฉันนะ..ฉันบอกให้ปล่อย..”

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย” วิจิตรศราเสียงดัง คนที่ออกันอยู่ที่หน้าร้านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงกับเด็ก ๆ จึงไม่มีใครเข้ามาช่วย เพราะส่วนหนึ่ง กฤษณะเองก็ไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแต่เขาต้องการให้ หมอเมขลาดูดวงให้เท่านั้น..ดังนั้นเสียงของวิจิตรศราจึงไม่มีผลอะไร จนกระทั่งที่หน้าร้านปรากฏเงาของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเมขลาเหลือบตาไปเห็นพอดี..

“พี่กล้วย ช่วยด้วย..”...




เดชาพงษ์พี่ชายคนรองของเมขลาเดินอาด ๆ เข้ามาในร้าน เขาเป็นคนตัวใหญ่ สูงถึงร้อยแปดสิบห้า
เซ็นติเมตร ช่วงไหล่ของเขากว้าง หน้าตาของเขาคมคาย ผมทรงรากไทรยาวระต้นคอ ใบหน้าของเขายามที่
ไม่ยิ้มนั้นดุดันอยู่ไม่น้อย และเสียงเรียกชื่อเขาของเมขลา ทำให้กฤษณะต้องปล่อยมือนุ่มนิ่มนั้นทันที..ด้วยถ้าผู้ชายคนนี้เป็นคนรักของเมขลา เขาเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายผิด

“มีอะไรกัน” เสียงของเขาดังลั่นร้าน..

“ไอ้..” วิจิตรศราตั้งท่าจะฟ้องดีแต่ว่ากฤษณะโพล่งขึ้นมาว่า..

“ไม่มีอะไร..” ว่าแล้วกฤษณะที่รู้ว่าตัวเองผิดและเสียเปรียบ..ก็เดินเฉียดเขาออกไปจากร้านอย่างง่ายๆ
..วิจิตรศรากับเมขลามองหน้ากันด้วยความงุนงง..

“มีอะไรกัน” เดชาพงษ์ยังไม่เลิกสงสัยทั้งที่จริง ๆ เขาก็พอเดาออกว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากอะไร?


และเมื่ออยู่กันตามลำพังในร้านอาหารตามสั่งที่อยู่เลยจากร้านของวิจิตรศราไปเพียงห้าคูหา เมขลาก็จำต้องเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นให้พี่ชายได้รับรู้...

“เค้าก็พูดถูกนี่”

“พี่กล้วยอ่ะ ไม่เข้าข้างกันเลยนะ” เมขลาที่ใจเย็นลงแล้วเริ่มออดอ้อนพี่ชายตามที่เคยคุ้น

“เรื่องดูเนื้อคงเนื้อคู่อะไรนี่..พี่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว คนเรานะหนูนา..ถ้ามันจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่านะ มันไม่ใช่แค่มีใครมาบอกว่าใช่เนื้อคู่ไม่ใช่เนื้อคู่..”

“ก็แล้วทำไม คนที่ไม่ใช่เนื้อคู่เขาถึงต้องมีอันเป็นไปล่ะ”

“ใครบ้างล่ะ”

“ก็..” เมขลานึกถึงเคสของมัทนาแฟนสาวของนายกฤษณะ แต่ว่า เจ้าหล่อนไปจากแฟนเก่าก็เพราะคำทำนายของเธอจริง ๆ แต่ว่าตอนนั้นเธอไม่รู้ว่า เจ้าหล่อนมีนายกฤษณะ เธอเห็นเพียงแต่ว่า เนื้อคู่ คู่แท้ของเขาเป็นคนต่างชาติ..เธอไม่รู้หรอกว่า ก่อนหน้านั้นแต่ละคนมีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร..ฉุกคิดถึงตรงนี้ เมขลาก็รู้สึกผิดขึ้นมา..นายกฤษณะพูดถูก หากว่าเธอไม่ดูดวงให้แฟนของเขา มัทนาก็คงยังไม่ไปง่าย ๆ แบบนี้..แต่อีกนั่นแหละ ก็เขาเป็นเนื้อคู่กัน อีตาฝรั่งนั่นถึงได้ดั้นด้นมาเมืองไทย หญิงไทยมีไม่รู้กี่สิบล้านคนแล้วทำไม ฝรั่งนั่นต้องมาเจาะจงเจอยายหมวยนั่นด้วยเล่า ก็เขาเนื้อคู่กัน เพียงแต่เธอนั้นเป็นสื่อกลาง
เป็นคนมองเห็น......การมองเห็นของเธอ การเป็นสื่อกลางของเธอ ทำให้ลดการเสียเวลาลง...
สีหน้าของเมขลาเต็มไปด้วยความสับสนซึ่งไม่พ้นสายตาของพี่ชายที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามไปได้

“เป็นอะไร..”

“ปวดหัวนิดหน่อย”

“ก็ทำอย่างที่นายนั่นแนะนำ เลิกดูดวงถาวร”

“ก็เท่ากับกลัวนายนั่น”

“หาเหตุของมันให้เจอ”

“ก็รู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากการที่หนูนาไปดูดวง..แต่ว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายสร้างความเสียหายให้ใคร”

“แล้วที่เขามาร้องทุกข์นั่นล่ะ เขาเดือดร้อนใช่ไหม.. ตั้งสติให้ดี ๆ นะหนูนา..เซ้นส์ที่หนูนาได้มา มันไม่ใช่ของจีรังยั่งยืนหรอก..มันไม่ใช่ของแท้ ไม่ใช่ศาสตร์ที่จะทำให้คนพ้นทุกข์ได้อย่างถาวรเหมือนธรรมของพระพุทธเจ้า..เราไปเล่นกับมัน เราก็ต้องเจอแบบนี้แหละ..”

“แล้วมันมาจากไหน..มาได้อย่างไร..”

“น่าจะเป็นของจากชาติที่แล้ว..”

พอพี่ชายตั้งท่าจะอรรถาธิบายเมขลาก็นั่งตัวตรงยกมือกอดอกสีหน้านั้นพร้อมฟัง

“เท่าที่พี่ได้อ่านหนังสือของครูบาอาจารย์มา..บางท่านก็ว่า มันเกิดจากการ อภิญญา 5 ผสมกับการอธิษฐานจิตในชาติปางก่อน..”

เมขลาขมวดคิ้ว ด้วยหญิงสาวก็สงสัยว่า ทำไมตัวเองถึงได้รู้มีญาณหยั่งรู้บางสิ่งบางอย่างในอนาคตของคนอื่นได้..แต่ว่าก็ไม่ได้คิดจะรู้อย่างลึกซึ้งจริงจัง..ที่คิด ๆ ไว้ ก็คือ อยากรักษา สิ่งนี้ไว้และอยากให้มันกล้าแข็งขึ้น ซึ่งเธอก็ใช้วิธีสำรวมกาย ไม่ไปในที่อโคจร รักษาศีล และฝึกสมาธิแบบกำหนดภาวนาพุท-โธ ตามแบบที่ได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งพอใจนิ่ง เธอมองเห็นอนาคตของคนอื่นจากการสัมผัสมือได้ชัดเจนขึ้น แต่ถ้ารู้เห็นมากเกินไป นานเกินไป เธอจะรู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย เหมือนกับว่าพลังหรือแบตเตอรี่ที่ชาร์ตไว้หมด แต่ถ้าปล่อยใจตัวเองให้ลุ่มหลงไปกับแสงสีเสียงความสนุกสนานแบบคนรุ่นเดียวกัน บางครั้งเธอก็มองไม่เห็นอะไรเลย แต่จะปฏิเสธเพื่อน ๆ ที่เร่มาแบมือให้ช่วยทำนายทายทัก เมขลาก็ทำไม่ได้ ดังนั้นเมขลาจึงต้องพลอยประพฤติตัวให้อยู่ในศีลในธรรมโดยอัตโนมัติ..สำรวมกาย วาจา และใจ จนตอนหลังๆ เมขลารู้สึกว่าตัวเองไม่อยากพูด อยากอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากจะคุยโม้โอ้อวดและรู้สึกว่าการที่วิจิตรศราเอาเรื่องของเธอไปโอ้อวดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรดีใจได้ปลื้ม..เพราะเมื่อเธอได้ชื่อเสียงมา สิ่งที่เธอเสียไปคือความเป็นคนธรรมดาของเธอ...

“อภิญญา 5”

“อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึง ปัญญา ความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน อันได้แก่ มีฤทธิ์เดชสามารถหายตัว เหาะเหินเดินอากาศได้ มีตาทิพย์ มีหูทิพย์ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้ ระลึกชาติได้..อย่างของน้อง น่าจะเกิดจากการฝึกกรรมฐานจนได้ตาทิพย์จึงสามารถมองเห็นอนาคตได้ หรือมันอาจจะเกิดจากการอธิษฐานจิตไว้เมื่อบำเพ็ญภาวนาในชาติปางก่อน ว่าขอให้ได้รู้อนาคต แล้วมันก็สะสมติดตัวข้ามภพข้ามชาติมา”

“แต่หนูนาไม่สามารถมองเห็นอนาคตตัวเอง”

“ก็อาจจะขอเห็นอนาคตคนอื่นมาละมั้ง คนเราเกิดมาแล้วนับภพนับชาติไม่ถ้วนนะหนูนา..เราไม่รู้หรอกว่า เราอธิษฐานอะไรกันไว้บ้าง ผูกจิตไว้อะไรบ้าง ไว้กับใครบ้าง..เนื้อคู่เราอาจจะไม่ได้มีคนเดียวก็ได้ เพียงแต่ตอนนั้นมันถึงจังหวะของคนนี้เท่านั้นเอง”

“ตกลงพี่กล้วยเชื่อเรื่องเนื้อคู่..”

“ใช่ พี่เชื่อ..พระพุทธเจ้าพูดถึง บุพเพสันนิวาส คือการทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน..มาชาตินี้
ถึงได้มาเจอกัน แต่ว่าพี่ก็ไม่ได้อยากรู้หรอกว่าเนื้อคู่ของพี่ในชาตินี้คือใคร พี่รู้แค่ว่า ถ้ามันจะมามันก็มาเอง
หรือถ้ามันไม่มา ไม่มี ก็แสดงว่าชาติก่อน ๆ พี่อาจจะบำเพ็ญเน็กขัมมะบารมีไว้พอสมควร”

“มันคือ”

“อาจจะเคยออกบวช แล้วก็ไม่ได้ครองคู่ครองเรือนกับใครมาเนิ่นนาน หลายภพหลายชาติ..”

จังหวะที่พี่ชายกำลังคุยพลางใช้ปลายนิ้วชี้ที่จับแต่พู่กันเคาะโต๊ะอาหารเบา ๆ ไปด้วยนั้นเมขลาก็ฉวย โอกาสนั้นเอื้อมมือซ้ายของตนไปวางทาบไว้ที่หลังมือ เดชาพงษ์ไม่ได้ชักมือหนี..เมขลาจึงหลับตาพริ้ม
เพียงอึดใจเมขลาก็ลืมตาขึ้น..ยิ้มบาง ๆ

“พี่ไม่อยากรู้คำทำนาย”

เมขลายิ้มอย่างเป็นต่อก่อนจะพูดว่า “ไม่มีใครไม่อยากรู้อนาคตของตัวเองหรอกค่ะ”

“ถูก..งั้นพี่เปลี่ยนเป็น พี่ไม่อยากใส่ใจกับมัน..คนไทยเกือบทุกคนเคยผ่านการดูหมอ นั่งอยู่ในวงหมอดู เคยเดินผ่านหมอดู ห้าในสิบอยากรู้แล้วก็เข้าไปดู แต่อีกห้าในสิบก็คิดว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ชีวิตเราเราลิขิตมันเอง พี่ก็คงเป็นแบบหลัง ”

“เมื่อปีแล้ว หนูนาดูให้พี่ต้นกล้า..สุดท้ายมันก็เป็นไปตามนั้น ส่วนของพี่..เอาแบบอ้อม ๆ นะคะ..หนูนาถามคำเดียวว่า ทำไมพี่ถึงต้องกลับไปทำงานที่นครสวรรค์ ทั้งที่ก็มีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าในอาชีพมากกว่าหากพี่อยู่ที่อื่น"

“พี่อยากอยู่ใกล้ ๆ พ่อกับแม่”

“แต่พี่ก็ไม่ได้อยู่บ้าน”

“พี่รักนครสวรรค์ อยู่แล้วไม่อยากไปไหน เหมือนสาวเมืองนนท์”

เมขลายิ้มชื่นเมื่อพี่ชายปล่อยมุกตลก..เป็นตลกหน้าตายที่คนต้องมีภูมิถึงจะยิ้มขำขึ้นมาได้..

“เค้าเป็นคนนครสวรรค์ เกิดที่นครสวรรค์ เป็นคนไทยเชื้อสายจีน” เมขลาเริ่มเผยคำทำนายที่มันวาบขึ้นมา..

“ไม่ต้อง”

“เขากำลังจะกลับมาจากต่างประเทศ”

ตอนนั้นขนแขนของเดชาพงษ์ลุกเกลียวขึ้นมาอย่างยากระงับ แต่เขาก็ทำได้เพียงยกแขนที่พันแขนเสื้อเหนือศอกไปกอดอก..

“ที่พี่กลับไปอยู่บ้านก็เพราะพี่ต้องกลับไปรอเขา..บอกแค่นี้แหละ เพราะบอกไปพี่ก็ไม่เชื่อ..”
เดชาพงษ์ถอนหายใจเบา ๆ..

“ครั้งที่แล้ว พี่ต้นกล้า ท้าว่าถ้าเป็นจริงจะให้โทรศัพท์หนูนาหนึ่งเครื่อง ใช้จนจะพังแล้ว แต่ว่าครั้งนี้ขอเป็นแลบท็อปได้ป่ะ สองหมื่น”

“เอาเงินไปเลยไหม” เดชาพงษ์นั้นเป็นคนไม่ค่อยแต่งตัว เสื้อผ้านั้นแทบไม่ได้ซื้อหามาเปลี่ยน เคยใส่เสื้อยืดที่ได้มาฟรี ก็ใส่จนเปื่อยจนขาด มีเสื้อเชิ้ตก็แค่เพียงซักให้สะอาด กางเกงยีนส์หรือก็มีนับตัวได้ พี่ชายกับน้องสาวเห็นดังนั้น จึงต้องเป็นฝ่ายหามาหา จิรวัติพี่ชายคนโต นายทหารเรือนั้น สังคมจัดเสื้อผ้าทันสมัย
พอเบื่อจึงโละมาครั้งละเป็นกระเป๋า ส่วนเมขลานั้น แม้เงินทองจะยังไม่คล่องมือ แต่ว่าหญิงสาวก็เอาเงินที่พี่ชายแบ่งปันให้มาใช้ในตอนเรียนหนังสือนั้น ดูแลซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายไปให้อยู่เสมอ..

และถ้ารู้ว่าพี่ชายขายรูปได้ เมขลาก็รีบชวนไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อบังคับให้พี่ชายจับจ่ายเสื้อผ้าไปใส่ไม่ให้ดูมีสง่าราศี..ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เดชาพงษ์ก็ไม่ขัดข้อง เงินทองที่มีอยู่ในบัญชีนั้น เขาบอกให้เมขลารู้รหัสเอทีเอ็มด้วยซ้ำ เพราะเขาคิดว่า หากเป็นอะไรไปกะทันหัน จะได้สามารถเอาเงินออกมาจัดงานศพให้เขาได้ในทันที..

“เครื่องเก่ามันยังใช้การได้ดี แล้วเรื่องนี้มันก็อีกนาน..แต่มันก็ไม่นานเกินรอ”

เดชาพงษ์ยอมรับกับตัวเองว่า การถูกทำนายทายทักจากคนที่ ‘รู้อนาคต’ อย่างผ่านการพิสูจน์มาแล้วหลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ หน ทำให้จิตใจที่เคยนิ่ง ๆ มีแต่งานและเพื่อน ๆ ไม่เป็นปกติ แต่เขาก็ไม่อยากซักถามอะไรให้น้องสาวต้องหัวเราะเยาะเอาได้..

และเขาก็เพิ่งเข้าใจว่า การ “รู้” อนาคตเพียงเล็กน้อยมันทำให้ฐานของใจเคลื่อนจากที่เคยเป็นอยู่..และคนวัยเขา คนที่งานพร้อมแล้ว เงินในกระเป๋าพร้อมแล้ว เรื่องอะไรจะสำคัญไปกว่าเรื่องของการมีครอบครัวสร้างอนาคตร่วมกันให้มั่นคง..แต่ถ้ามันยังไม่เจอคนที่อยากอยู่ด้วยทุกวัน หรือทำหัวใจของเขาหวั่นไหวได้อย่างรุนแรง เขาก็พอใจที่อยู่เป็นโสดไปแบบนี้..มันอาจจะเหงา ๆ บ้าง แต่เมื่อใจทุ่มเทไปกับงานจิตรกรรมไทยที่ต้องสืบสานให้ถึงชั้นลูกชั้นหลาน ตัวเขามีความสุขกับชีวิตไม่น้อย..แต่ถ้าชีวิตในภายหน้าจะเป็นไปอย่างที่หนูนาทำนายไว้ เขาเองก็อยากจะรู้ว่า คนอย่างเขา จะหนี ลิขิตจากพระพรหมได้หรือไม่..

“แล้วเมื่อกี้ ทำไมไม่ยอมทำนายให้นายคนนั้น”

พอพี่ชายซักถามกลับมาแบบนี้ใบหน้าที่คลี่บานปานดอกบัวรับแสงพระอาทิตย์ยามเช้าก็เฉาลงในทันที..

“ก็..โอ้ย อย่าไปพูดถึงมันเลย..” หัวคิ้วที่หนาของเมขลาขมวดเข้าหากัน ตอนที่นายกฤษณะจับมือของเธอ ความรู้สึกแรกนั่นก็คือเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ แล่นปราดเข้าสู่ร่างกาย..มันอุ่น ๆ..มันหวิว ๆ วาบ ๆ ในหัวใจ เธอไม่เคยสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวใครแล้วเป็นแบบนี้..

“มองไม่เห็นอะไรเลย”

“อาจจะใช้เวลาไม่นาน”

“แล้วเมื่อกี้หนูนาจับพี่นานไหม”

เดชาพงษ์ส่ายหัว..

“พี่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม”

“พี่เป็นชาวพุทธ พี่เชื่อเรื่องกรรม เชื่อเรื่องการกระทำ กรรมในอดีตของเรา ชักนำให้เรามาเป็นแบบนี้ แต่ว่า การได้รู้ได้ยินได้ฟังพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้คนเราขีดสิ้นชีวิตของเราได้..พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้เราบูชาสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ให้เชื่อว่าการกระทำของเราจะมีผลต่ออนาคตของเรา พรหมลิขิต อาจจะหมายถึงพระพรหมข้างบนบันดาลให้เราต้องเป็นไป ..แต่ทางธรรมเรียกว่า บุพเพสันนิวาส คือ เคยเป็นผัวเป็นเมียกันมา เคยทำบุญทำกรรมร่วมกันมา ถึงได้มาเจอกัน..แต่คนเราจะ
อยู่ด้วยกันนั้น ไม่ใช่แค่กรรมในอดีตหรอก อาจจะเกิดจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชาตินี้ด้วย..คนบางคนชาติที่แล้วอาจจะทำให้เราพอใจได้ แต่ว่า ชาติที่เราพลัดพรากกันไป มันก็อาจจะทำให้อุปนิสัยในชาตินี้ของ
เขาเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน..”

“ยาวไป หนูงง”

“พี่ก็งง ๆ..” พอดีกับอาหารที่สั่งไว้ถูกเด็กในร้านลำเลียงมาขึ้นโต๊ะ..
เดชาพงษ์ตักไข่เจียวให้น้องสาว..

“ใครได้พี่พงษ์ไป..ชีวิตจะมีแต่ความสุข”

“คงมีคนกลัวจะสำลักความสุขละมั้งพี่ถึงไม่มีใครเข้ามาในชีวิตเลย”

“เลือกมากละซิ”

“ก็รู้สึกเฉย ๆ”

“ก็คนไม่ใช่เนื้อคู่กัน..เห็นกันก็มองผ่านไป..”

“คิดได้เอง”

“ก็ตั้งแต่ดูหมอมา ใจมันก็ครุ่นคิดไปทางนี้เยอะค่ะ..อย่างพี่ต้นกล้า..กับพี่แพรว..อยู่กันละทิศละทางถึงเวลาก็ยังต้องเจอกัน คนเก่า ๆ ของพี่ต้นกล้าน้อยเสียเมื่อไหร่ เมื่อมันไม่ใช่ก็ต้องไป ส่วนพี่แพรวเค้าเกิดมาเพื่อคู่กัน เขาก็ต้องลงเอยกันในที่สุด..อย่างวิจิตรศรากับพี่ศุภนิมิตร..ถึงเวลาเขาก็เจอกัน..”

“เขาคบหากันแบบแฟนแล้วเหรอ” เมขลานั้นโทรคุยกับพี่ชายทั้งสองคนอยู่เป็นประจำ บางเรื่องจึงได้พลั้งเล่าให้ได้รับรู้ในขณะนั้นไปบ้าง

“ยังค่ะ แต่เขาเป็นเนื้อคู่กัน จะหนีกันไปพ้นได้อย่างไร”

“มั่นใจ”

“ยายวิไม่เคยชอบใครอย่างจริงจังสักคน ผู้ชายผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่รายนี้เห็นวันแรกก็ไข้ขึ้นเลย”

“งั้นคนที่มาไข้ขึ้นกับพี่..ก็ต้องเป็นเนื้อคู่พี่”

“ไหนว่าไม่มีใครเข้ามาในชีวิต”

“มีบ้าง แต่ว่า ใจมันเฉย ๆ”

“ก็มันยังไม่ใช่นี่..ถ้าใช่นะ มันก็ต้องมีเหตุให้มาผูกพันกันจนได้แหละ”

“จะโยงเข้ามาหาคำว่า พรหมลิขิตใช่ไหม”

“ภาษาของคนในโลกที่เต็มไปด้วยโลกีย์เค้าเรียกแบบนี้นี่ค่ะ”

“แล้วเราเอง..มีเหตุให้ต้องผูกพันกับใครบ้างหรือยัง”

นึกถึงชีวิตรักของตัวเองแล้วเมขลาก็ต้องส่ายหน้าอย่างปลง ๆ

“การที่ไม่รู้ อนาคตของตัวเองเลย หนูนาคิดว่าดีไหม”

เมขลานิ่งคิด..ก่อนจะตอบว่า “ก็ดีค่ะ..ใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสินใจ ถูกผิดกจะได้ไม่โทษใคร”
และพอตอบไปแบบนี้เมขลาก็นึกถึงกฤษณะขึ้นมา ‘ทำไมคุณไม่ตัดสินใจเลือกใครสักคนด้วยความรู้สึกของตัวคุณเอง คุณไม่รู้หรือไงว่าใครดีกว่าใคร และคุณอยากอยู่กับใครไปตลอดชีวิต’




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2555, 08:49:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2555, 08:49:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 2643





<< 5. "มาย เนม อิส กิสสะนะ"   ึ7.“ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปซิวะ..จีบผู้หญิงมันก็ต้องมีลูกล่อลูกชน” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 20 ม.ค. 2555, 08:51:29 น.
ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้..นครสวรรค์จัดงานตรุษจีนไ้ด้ยิ่งใหญ่อลังการนะครับ ...เสาร์ อาทิตย์นี้มาเยี่ยมเืยือนกันได้นะครับ..วันแห่ มังกร คือ คืนที่ 25 กับ กลางวัน วันที่ 26 นะครับ ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ ใครเม้นท์ ใครไลน์ ขอให้รวย ๆ ยิ่งขึ้น ๆ นะครับ จุ๊บ ๆ


มุกมาดา 20 ม.ค. 2555, 08:53:58 น.
คนแรก...ออนปุ๊บได้อ่านปั๊บ...ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ แล้วจะมาเวิ้นเว้อใหม่ อิ อิ


จุฬามณีเฟื่องนคร 20 ม.ค. 2555, 08:59:55 น.
คุณเวียง..เป็นกำลังใจมากมายครับ.


มุกมาดา 20 ม.ค. 2555, 09:04:15 น.
555 กฤษณะเนี่ย ปากร้ายใช่ย่อยนะคะ อิอิ ชอบ อ่านแล้วมันส์...รู้สึกนางเอกจะเริ่มมีอาการไฟสปาร์คกับพระเอกบ้างแล้ว


แว่นใส 20 ม.ค. 2555, 09:10:29 น.
เนื้อคู่ตัวเองอยู่ไม่ไกลไง


innam 20 ม.ค. 2555, 09:17:09 น.
ตามเป็นกำลังใจ


thanya 20 ม.ค. 2555, 10:16:04 น.
ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้ เช่นกันจ้า เนื้อเรื่องเริ่มเข็มข้นแล้วสิ มาลุ้นกันว่า หนูนากับ นายนะ จะเป็นอย่างไร


Sansanook 20 ม.ค. 2555, 10:58:54 น.
อ้าวคุณเฟื่อง ไปรับจ๊อบ ททท.นครสวรรค์แล้วเหรอค่ะ อิอิ แต่อยากดูแห่มังกรมากๆจริงๆ ชอบตอนนี้นะ แทรกธรรมะเข้ามาได้สวยค่ะ


morisa 20 ม.ค. 2555, 13:05:36 น.
กฤษณะพูดถูก "ทำไมคุณไม่ตัดสินใจเลือกใครสักคนด้วยความรู้สึกของตัวคุณเอง คุณไม่รู้หรือไงว่าใครดีกว่าใคร และคุณอยากอยู่กับใครไปตลอดชีวิต"

นิยายเฟื่องก็ยังคงเป็นสไตล์ที่สอดแทรกธรรมะได้อย่างแนบเนียนเสมอนะ


anOO 20 ม.ค. 2555, 14:45:17 น.
แล้วแบบนี้ นายคะน้ายังจะมาตามจีบเมอยู่รึป่าวล่ะ


Niceday 20 ม.ค. 2555, 14:50:06 น.
ชอบจัง อยากไปดูดวงกับหมอเมขลาบ้าง


ปิลันธน์ 20 ม.ค. 2555, 18:10:33 น.
เปิดมาเจอ สะดุดกับชื่อตอน ก็เลยแวะอ่าน ปรากฏว่าทำให้อยากจะย้อนไปอ่านตั้งแต่บทแรกเลยค่ะ^^......


loveleklek 20 ม.ค. 2555, 23:21:37 น.
อ่านแล้วอยากรู้ต่อ มาต่อเร็วๆ เน้อ


minafiba 21 ม.ค. 2555, 00:25:36 น.
^_^


nutcha 21 ม.ค. 2555, 00:40:56 น.
เห็นด้วยกับนะค่ะ


กาซะลองพลัดถิ่น 21 ม.ค. 2555, 01:46:13 น.
เป็นนินจามาตั้งนาน พอเจอคำว่า ใครเมนท์ ใครไลน์ ขอให้รวย ๆ .....เลยทั้งกด ทั้งเมนท์เลยคะ ...
ซินเจีย ยู่อี้ ซินนี่ฮวดไช้ ไรเตอร์ด้วยนะคะ ขอให้รวย ๆ นิยายได้พิมพ์ทุก ๆ เรื่อง ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นะคะ


Zephyr 21 ม.ค. 2555, 10:35:12 น.
เห็นด้วยกะพี่คะน้าเลยนะ เลือกด้วยหัวใจและความรู้สึก
ดูดวงมันก็ช่วยให้ความมั่นใจ แต่นะ คนเดือดร้อยจากมันก็มี
อ่านแล้วก็แบบ เห็นใจพี่คะน้า สงสารหนูนาอ่ะ แต่ว่าเรื่องนี้ ถ้าหนูนาไม่ดูดวง แล้วยายหมวยนั่นบ้าทำตาม มันก็จะไม่เป็นยังงี้ แสดงว่ายายนั่นไม่จริงใจกะพี่คะน้าสินะ ไม่ใช้หัวใจและความรู้สึก โลเลอ่ะ
หนูนาดูให้พี่คะน้าไม่ได้ เพราะเนื่อคู่พี่คะน้า คือ หนูนาไงล่ะจ้ะ หึหึ


ภาม 22 ม.ค. 2555, 22:32:03 น.
อ่านแล้ว ซอบหลายแท้เด้


OPUS 14 มี.ค. 2555, 12:06:59 น.
รู้ล่ะว่าทำไมแต่ละเรื่องของคุณเฟื่องจะต้องมีนครสวรรค์เข้ามาเกี่ยวด้วย เพราะคงเป็นบ้านเกิดของคนเขียนนี่เองใช่ไหมค่ะ


จุฬามณีเฟื่องนคร 30 พ.ค. 2555, 20:26:31 น.
ถุกต้องเลยครับ สำนึกรักบ้านเกิดของแท้เหลา..


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account