อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 26

ตอนที่ 26

“นี่แก ฉันว่างานนี้ไม่หมูซะแล้วสิ”อาริตาบอกกับเพื่อนสาวที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่ ตะวันฉายเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนอย่างสงสัย

“อะไรของหล่อนย่ะ”

“ก็คุณตฤณของแกน่ะแหละ เคี้ยวยากไม่ใช่เล่น...”อาริตาเดินกลับมานั่งข้างตะวันฉายที่ปิดนิตยสารในมือทันที พร้อมรอฟังการวิเคราะห์ของเพื่อน

“...หล่อ แต่ไม่โง่ ไม่หลงตัวเอง ไม่เอาแต่ใจ วางตัวดี แม้จะพูดถนอมน้ำใจไม่เป็นก็เถอะ”

“นั่นแหละดี ผู้ชายแบบนี้น่ะหายาก แกก็เห็นแต่ละคนที่ฉันเคยควงมา ถ้าไม่โง่ก็หยิ่ง ทำอะไรก็ไม่เป็นซักอย่าง หึ!พวกดีแต่ปาก” ตะวันฉายแค่นเสียงเมื่อพูดถึงเหล่าหนุ่มๆที่เธอเคยควงด้วย ยิ่งพอมาเทียบกับตฤณแล้ว พวกนั้นดูไร้สมองไปโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ตอนที่คบกับคนเหล่านั้นเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“ก็ไม่ได้ว่าเขาไม่ดี ตรงกันข้าม ดีมากเสียด้วย แต่ที่ฉันกังวลก็คือ ฉลาดแบบนี้เขาคงไม่หลงมาติดกับแกง่ายๆหรอกนะ ตะวัน”

“ถ้าแกหมายถึงเรื่องวันนี้ล่ะก็นะ ฉันยอมรับว่ามันผิดแผน ถ้าไม่ได้แกฉันคงชวด แต่รับรองได้เลยว่าฉันจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สอง ฉันจะต้องไปกับเขาสองต่อสองให้ได้ จากนั้นก็...”ร่างเพรียวยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงแผนการที่วางเอาไว้ อาริตามองเพื่อนอย่างกลุ้มใจดูท่าว่าคราวนี้ ผู้ชายคนนี้จะทำให้เพื่อนของเธอกลายเป็นคนขาดความรอบคอบไปเสียสิ้น แต่พูดอะไรไปตอนนี้อีกฝ่ายคงจะไม่ฟังเธอ

“เอาเถอะ พูดไปก็เท่านั้น แกมันพวกเชื่อตัวเองมากกว่าใครอยู่แล้วนี่ ว่าแต่ฉันแปลกใจจริงๆที่แกยอมทุ่มเททุกอย่างขนาดนี้ มานั่งรอ นั่งอ้อนวอนเขาเนี่ย ถามจริงเถอะ แกรักเขาจริงๆหรือว่าอยากจะเอาชนะแม่ดาวมฤตยูนั่น”

ตะวันฉายนิ่งไปเมื่อเจอกับคำถามของเพื่อน ร่างเพรียวหวนคิดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่แรกพบจนมาถึงตอนนี้ อาจจะดูเร็วไปที่จะบอกว่ารัก แต่ในความรู้สึกของเธอตอนนี้ ตฤณคือผู้ชายคนแรกที่เธออยากจะเรียกว่าคนรักได้เต็มปาก ไม่ใช่แค่คู่ควงหรือคู่นอนอย่างที่ผ่านๆมา เธออาจจะพบเขาช้ากว่านังน้องนอกคอกนั่น แต่เธอมั่นใจว่าเธอจะทำให้เขามีความสุขได้มากกว่ามัน ไม่ว่าจะทางด้านร่างกายหรือว่าทรัพย์สมบัติ!

“เร็วเกินไปที่ฉันใช้คำว่ารักกับใครสักคน แต่ที่แน่ๆ แกรู้แค่ว่าตอนนี้ฉันชอบเขามากกว่าคนอื่นทั้งหมดก็พอ”

“แหม ตอบแบบนางเอก ถ้าเป็นนางร้ายล่ะก็ต้องบอกว่ารักไปแล้วล่ะ”อาริตาค่อนขอด ก่อนทั้งคู่จะลุกขึ้นพร้อมส่งยิ้มหวานปานน้ำผึ้งไปให้ร่างสูงที่เดินมาจากด้านหลังร้าน

“เชิญครับ เดี๋ยวเพื่อนผมเขาจะไปเจอเราที่ร้านอาหารเลย”


“แล้วนี่เพื่อนคุณตฤณเขาจะมาถูกเหรอคะ”ตะวันฉายถามร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านข้าง ขณะนี้พวกเธอทั้งสามมาถึงร้านอาหารกึ่งผับที่ซึ่งเป็นร้านประจำอีกร้าน(ที่ไม่ใช่ร้านเหล้า)ของทั้งเธอและอาริตาได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเพื่อนชายหนุ่ม

‘หรือจะโกหกเรา’

ร่างเพรียวคิดพลางมองชายหนุ่มที่นั่งหน้าเครียด มองมือถือในมืออย่างพยายามจับพิรุธ เช่นเดียวกันเพื่อนสาวที่คงคิดแบบเดียวกันเพราะเวลานี้อาริตาหันมายิ้มให้เธอ ก่อนจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

“เอ หรือว่าเพื่อนคุณจะมาไม่ถูกก็เลยไม่มาแล้วรึเปล่าคะ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณต้องไปเที่ยวกับพวกเราต่อเป็นการลงโทษที่ทำให้สุภาพสตรีต้องหิวท้องรอแบบนี้”ตฤณถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง สงสัยว่าคนที่เขารอคงจะติดธุระจริงๆ งานนี้คงต้องพึ่งดวงของตัวเองเสียแล้ว เขามองสองสาวเพื่อนรักที่เริ่มคุยกันถึงที่ที่จะไปต่อหลังจากอาหารเย็นมื้อนี้แล้วก็ได้แต่ปลง มือหนายกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดเพื่อเป็นการทำใจก่อนที่จะต้องตอบตกลง แต่ก่อนที่จะต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมนั้น เสียงใครบางคนก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขาเสียก่อน

“ไม่ทราบกว่ากำลังว่างแผนจะลากเพื่อนฉันไปปู้ยี่ปู้ยำที่ไหนกันเหรอ อาริตา ตะวันฉาย”

อาริตาอ้าปากค้างมองผู้มาใหม่อย่างตกตะลึง ส่วนตะวันฉายถึงกับผุดลุกจากที่นั่งด้วยความคาดไม่ถึงว่าคนที่ตฤณเรียกมาจะเป็นคนที่เธอและอาริตาไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไหร่ แม้ว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้อีกฝ่ายจะเพิ่งเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนร่วมรุ่นมาเป็นว่าที่น้องเขยเธอแล้วก็ตามที! ส่วนอาริตาไม่ต้องพูดถึงแพ้ทางหมอนี่ยับเยินมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว

“ว่าไงล่ะ”พัดยศถามพร้อมกับปลดกระดุมที่คอเสื้อ แล้วถอดเนกไทออกเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ตฤณเป่าปากอย่างโล่งใจที่ ‘ตัวช่วย’ ของเขามาต่อลมหายใจให้ได้ทันเวลาพอดี

“แหม ไม่เคยมองฉันกับริตาเป็นคนดีบ้างเลยนะพัดยศ เราแค่จะชวนคุณตฤณไปฟังเพลงแล้วก็ดริ้งค์กันเล็กน้อยก็เท่านั้น” ตะวันฉายบอกกับว่าที่น้องเขยยิ้มๆ หลังจากที่ตั้งสติกับการปรากฏตัวแบบเหนือความคาดหมายของอีกฝ่ายได้แล้ว พัดยศเลิกคิ้วมองรอยยิ้มเคลือบยาพิษที่ทำให้ชีวิตเขาเกือบพังพินาศมาแล้วครั้งหนึ่ง ผู้หญิงที่ทำร้ายได้กระทั่งน้องสาวแท้ๆที่แสนดีของตัวเองเนี่ยนะที่จะให้เขาเชื่อคำพูดเจ้าหล่อนอีก

“ก็อยากจะทำอยู่ แต่จากประสบการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นเพราะเธอที่ผ่านมา มันทำให้ทำใจได้อยาก โดยเฉพาะไอ้วิธีท็อปฮิตที่เคยโดนมากับตัว อย่างอะไรน้า...อ่อ!ชวนไปเลี้ยงขอบคุณบ้าง เลี้ยงปลอบใจบ้าง อะไรเงี้ย”คนที่เคยโดนเล่นงานบอกพร้อมกับส่งสายตาเย็นชาไปให้ ร่างเพรียวที่หน้าเสียไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเชิดได้อีกครั้งพร้อมกับเดินออกมาประชันหน้ากับเขา

“อันนี้มันก็ต้องโทษคนที่โดนหลอกล่ะนะ อยากโง่เองทำไม”

“นั่นสิ ตอนนั้นโง่ แต่ตอนนี้คิดว่าคงไม่มีอีกแล้วล่ะ...”พัดยศจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง ตะวันฉายเองก็ไม่ยอมหลบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปาก “...โทษทีนะ แต่เธอช่วยนั่งทางโน้นได้ไหม ฉันอยากนั่งกับเพื่อนของฉันน่ะ”

“อย่าเรื่องมากสิพัดยศ นั่งตรงข้ามกับคุณตฤณก็คุยกันได้เหมือนกัน”ตะวันฉายกัดฟันบอกกับร่างสูงที่ทำท่ายียวนอยู่เบื้องหน้าอย่างหงุดหงิด พัดยศยักไหล่ไม่สนใจ เขาเดินเข้ามานั่งข้างชายหนุ่มสวมแว่นที่นั่งเงียบแต่แววตาพราวระริกอย่างถูกใจ ปล่อยให้คนที่โดนแย่งที่เดินกะฟัดกะเฟียดไปนั่งข้างเพื่อนสาวของตัวเอง

“มาทันเวลาพอดีเลยครับคุณพัด”ตฤณเอียงตัวเข้าไปกระซิบกับเพื่อนคนล่าสุดของตนอย่างอารมณ์ดี ส่วนคนที่โดนเรียกให้มาเป็นไม้กันหมานั้นได้แต่ส่ายหัวไปมาพร้อมกระซิบตอบ

“โชคดีไปนะครับที่ผมว่าง ไม่งั้นคุณคงโดน ‘กิน’ แน่วันนี้!”

“โธ่!อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมยิ่งใจคอไม่ค่อยดีอยู่”

“แหม คุณตฤณดูสนิทกับพัดยศจังเลยนะคะ สมแล้วกับที่มีคนรักคนเดียวกัน”อาริตาพูดทำลายความเงียบแทนเพื่อนที่นั่งกอดอกหน้างออยู่ด้านข้าง แต่ดูท่าสิ่งที่พูดออกมาคงจะไม่ถูกหูคนที่มีคนรักคนเดียวกันซักเท่าไหร่เพราะพัดยศหันมาจ้องเธอเขม็ง ส่วนตฤณเองก็ตีหน้าเรียบแต่แววตาไม่ค่อยพอใจ

“ฉันว่าเธอควรจะเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่นะริตา ฉันกับคุณตฤณไม่ได้มีคนรักคนเดียวกัน ถ้าจะพูดก็ควรจะใช้คำว่า ‘เคย’ กับฉัน มันเป็นการให้เกียรติน้องดาวแล้วก็คู่หมั้นฉัน จำไว้ก็ดี ไม่ใช่เด็กแล้วที่จะได้พูดไม่คิด”

“โอเค แล้วฉันจะจำไว้ ว่าแต่ขอแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะกับงานหมั้น...” หญิงสาวชูแก้วน้ำส้มน้ำมือขึ้นยื่นไปด้านหน้าชายหนุ่มเป็นเชิงขอชนแก้ว พัดยศยกแก้วน้ำเปล่าของตนขึ้นชนกับอีกฝ่ายพร้อมกับค้อมหัวรับคำพูดแสดงความยินดีนั้น
“...พอดีมันกะทันหันไปหน่อย เลยตัดชุดไม่ทัน”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจว่าเธอน่ะไม่ค่อย ‘ว่าง’ เท่าไหร่”ชายหนุ่มเน้นคำว่าว่างอย่างรู้กันว่ามันหมายถึงอะไร “อีกอย่างไม่มีเธอ งานหมั้นฉันก็เริ่มได้”

“ตะวัน! ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”อาริตาที่หมดความอดทนกับคำพูดจิกกัดของร่างสูงบอก ก่อนคว้ากระเป๋าแล้วเดินฉับๆไปทางห้องน้ำทันที ตะวันฉายมองตามไปอย่างเป็นห่วงก่อนจะหันมาส่งสายตาอาฆาตให้พัดยศที่นั่งทานอาหารอย่างสบายใจ ร่างเพรียวตวัดสายตาไปทางชายในฝันที่ทานอาหารไปคุยกับพัดยศไปด้วยอย่างสนุกสนาน ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยอย่างแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ระหว่างนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของตฤณก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูพอเห็นว่าใครโทรมาเท่านั้นเขาก็รีบขอตัวออกไปรับสายอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ตะวันฉายมองตามไปอย่างไม่พอใจมากกว่าเดิม ส่วมพัดยศได้แต่อมยิ้ม


“ครับ น้องดาว”

“พี่ตฤณ ยุ่งอยู่รึเปล่า”มีความเกรงใจอยู่น้ำเสียงของหญิงสาวจนเขาจับได้ ชายหนุ่มตัดสินใจถามแทนที่จะตอบ

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“คือ อีกสามวัน ทางนี้เขาจะมีงานเปิดตัวโรงแรมน่ะ แล้วเจ้าของเขาชวนให้อยู่ร่วมงานเลี้ยงก่อน ดาวก็เลยอยากจะชวนพี่ตฤณมาด้วย”ดาวเหนือบอก ก่อนจะเป็นฝ่ายตัดสินใจเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับของตฤณ

“ถ้าพี่ตฤณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ ดาวขอโทษด้วยที่ชวนกะทันหันแบบนี้”แล้วก็วางสายไป ชายหนุ่มที่อ้าปากเตรียมจะตอบถึงกับอึ้งเมื่อเจอบทงอนของเธอเข้าไป ตฤณไม่รู้จะขำหรือว่าโกรธคนขี้ใจน้อยดี เขาต่อสายกลับไปยังในทันที ยอมรับว่ารู้สึกหวาดๆอยู่เหมือนกันกลัวอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับโทรศัพท์ แต่ดูเหมือนเบื้องบนคงจะยังเห็นใจเขาอยู่เมื่อดาวเหนือรับโทรศัพท์ เขารีบพูดตามที่ใจสั่งอย่างรวดเร็ว

“พี่คิดถึงน้องดาว เพราะฉะนั้นจองโต๊ะเผื่อพี่ด้วยนะ”

“ดาวไม่บังคับนะ ถ้าพี่ตฤณไม่อยากมา”ดาวเหนือพูดเสียงเรียบ แต่ตฤณรู้ดีว่าเธอคงยังน้อยใจอยู่

“โธ่!น้องดาวนี่ ขี้น้อยใจเหมือนกันนะ พี่บอกไปเมื่อกี้เองว่าคิดถึง อยากไปหาใจจะขาด”

“แต่ตอนที่ดาวชวนเมื่อกี้ไม่เห็นพูดอะไรเลย เอาแต่เงียบ”

“พี่กำลังคิดอยู่ว่าวันนั้นพี่มีนัดอะไรสำคัญรึเปล่าก็เท่านั้นเอง น้องดาวใจร้อนเกินไป”ชายหนุ่มดุอย่างไม่จริงจังก่อนจะย้ำ

“ตกลงว่าพี่ไปแน่ๆครับ คิดถึงแฟนใจจะขาด อีกอย่างพี่ไม่ค่อยอยากอยู่ที่นี่เท่าไหร่”

“ทำไมเหรอ”

“ไว้เจอกันแล้วเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง จะได้ช่วยกันหาทางแก้”ชายหนุ่มตัดบทก่อนจะถามเรื่องงานเลี้ยง

“โรงแรมนั้นชื่ออะไรนะครับ พี่จะได้ขับรถไปถูก”

“อ๋อ The Oceania น่ะ ก็ที่เคยมานั่นแหละพี่ตฤณ มาถึงแล้วโทรมาก็ได้ เดี๋ยวดาวออกไปยืนรอ ว่าแต่ไม่ต้องเอาสูทมานะ ธีมของงานคือสบายๆริมทะเล”

“The Oceania ชื่อเพราะดีนะ ว่าแต่น้องดาวจะใส่บิกินี่รึเปล่า พี่จะได้เอากล้องไป”ชายหนุ่มแหย่เล่น ก่อนจะหัวเราะก๊ากกับคำตอบที่ได้รับ

“ขอโทษด้วยที่ทำให้ผิดหวังนะ ดาวไม่ใส่หรอกบิกินี่น่ะ ถ้าให้ใส่ผ้าถุงก็พอไหว ชิลเหมือนกัน”

หลังจากนั้นทั้งคู่คุยกันอยู่อีกพักก่อนที่ดาวเหนือจะวางสายไปเพราะต้องไปห้ามทัพระหว่างตรีทิพย์และวีกิจที่เริ่มจะเสียงดังมากขึ้น ส่วนตฤณก็กลับไปยังโต๊ะของตนด้วยความสบายใจที่ได้คุยกับคนรักอีกทั้งยังมีกันชนเกรดเออย่างพัดยศคอยช่วยเหลืออยู่อีกด้วยโดยไม่รู้ว่ามีใครอีกคนได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับดาวเหนือด้วย

อาริตาเดินออกมาจากที่ซ่อนหลังจากยืนฟังชายในฝันของเพื่อนคุยโทรศัพท์อยู่นานสองนานโดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ตัว อันที่จริงก็เกือบจะชวดไปแล้วเหมือนกันถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเขาพูดชื่อน้องสาวตัวแสบของเพื่อน หญิงสาวยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินอะไรดีๆเข้าให้ ดูท่างานนี้ตะวันฉายคงต้องมีของสัมมนาคุณให้เธอเสียหน่อยแล้ว

หญิงสาวเดินกลับไปยังโต๊ะด้วยความร่าเริงผิดกับขาไป จนตะวันฉายที่โดนแขวะอยู่คนเดียวมานานต้องกระซิบถามด้วยความหงุดหงิด

“ไปไหนมายะ นึกว่าตกส้วมตายไปแล้ว!”

“เอาน่า ตอนนี้นั่งเฉยไปก่อน กลับไปแล้วฉันมีเรื่องดีจะเล่าให้ฟัง”หญิงสาวกระซิบกลับก่อนจะหันไปฉีกยิ้มกล้างใส่หน้าของพัดยศที่หรี่ตามองมาทางเธอทั้งคู่อย่างไม่ไว้ใจ ส่วนตฤณก็ได้แต่นั่งมองเงียบๆ ตะวันฉายยอมถอยก่อนจะคาดโทษเพื่อนในใจค่าที่ปล่อยให้เธอโดนพัดยศค่อนขอดอยู่คนเดียวนานสองนาน และอาหารมื้อนี้ก็จบลงด้วยการที่ทั้งอาริตาและตะวันฉายโดนพัดยศแขวะตลอดเวลา

“ไม่ไปฟังเพลงกับพวกเราต่อจริงเหรอคะ คุณตฤณ”ก่อนจะแยกย้ายกลับ ตะวันฉายถอามชายในฝันของตนอีกครั้ง หวังว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ แต่แล้วก็ต้องค้อนขวับเมื่อคนที่ตอบเป็นว่าที่น้องเขยตัวดี ส่วนเขาได้แต่ยืนยิ้มเฉย

“เธอนี่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง คุณตฤณบอกว่าไม่ไปก็ตื้ออยู่ได้ ทำไม ต่อมตื้อมันกำเริบรึไง ส่งให้หมอตัดทิ้งดีไหมจะได้เลิกสร้างความรำคาญให้ชาวบ้านเขาซักที”

“มันจะมากไปแล้วนะพัดยศ!”ตะวันฉายตวาดอย่างกราดเรี้ยว ดวงตาคู่สวยขวางอย่างน่ากลัว แต่ใช้ไม่ได้ผลกับพัดยศ อาริตาที่เห็นว่าหากปล่อยเอาไว้มีหวังได้ขึ้นโรงพักแทนที่จะได้กลับไปวางแผนการต่อไปเป็นแน่ รีบดันเพื่อนขึ้นรถแล้วหันมาบอกลาชายหนุ่มทั้งสอง ก่อนจะขึ้นรถขับออกไปด้วยความรวดเร็ว

พัดยศมองตามรถสปอร์ตคันงามไป เขาหันกลับมาหาตฤณที่ถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะบ่น

“ไงล่ะคุณตฤณ ผมว่าผมเคยเตือนแล้วนะว่าให้อยู่ห่างๆยัยอสรพิษลิ้นสองแฉกอย่างยายตะวันฉายนี่ แล้วนี่ยังแท๊กทีมกับยายอาริตาตัวดีอีก”

“โธ่!คุณพัด ผมน่ะไม่ได้วิ่งเข้าไปหาเขานี่ เขามาหาผมเองแถมยังติดสินบนลูกจ้างตัวดีของผมอีก กลับไปว่าจะไปตัดเงินเดือนเสียให้เข็ด มีอย่างที่ไหนขายเจ้านายตัวเองซะงั้น”

“ยังดีนะที่วันนี้ผมไม่ติดธุระที่ไหน ไม่งั้นผมว่างานงอกแน่”

“ต้องขอบคุณจริงๆครับ ที่มาช่วยผม”

“ผมยินดี ยังไงเราก็ต้องเป็นญาติกันในอนาคต แล้วอีกอย่างผมไม่อยากให้น้องสาวที่น่ารักคนนั้นของผมต้องเสียเพราะตะวันฉายอีกแล้ว คุณก็รู้ใช่ไหม”พัดยศบอกอย่างจริงจัง ตฤณพยักหน้าไม่พูดอะไรเพราะเขาเองก็คิดเช่นเดียวกัน

“เอาเถอะ ว่าแต่คุณจะไปไหนต่อรึเปล่า”

“ไม่ครับ”

“งั้นก็ดีเลย ไปหาอะไรกินกัน ต้องมานั่งร่วมโต๊ะกับแม่สองแสบนี่ กินอะไรก็ไม่อร่อย คุณรีบกลับไหม”

“ไม่รีบครับ ดีเลย งั้นให้ผมเลี้ยงตอบแทนความช่วยเหลือของคุณวันนี้แล้วกัน”

“ตกลง งั้นคุณเลือกร้าน”

“ได้เลยครับ ร้านนี้ผมการันตีเลย เพราะว่างๆผมชอบไปกับเพื่อน”ตฤณบอกก่อนจะขึ้นรถแล้วขับนำออกไป ตามด้วยรถยุโรปของพัดยศ


ทางด้านสองสาวที่พอแยกจากตฤณและพัดยศด้วยไม่ดีนั้นก็พากันกลับมาตั้งหลักที่คอนโดหรูของอาริตา ตะวันฉายทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาสีแดงกลางห้องอย่างหงุดหงิด อกสวยกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงอารมณ์ อาริตาเดินไปหยิบแก้วบรั่นดีออกมาสองใบพร้อมด้วยขวดแก้วขนาดใหญ่ที่ภายในบรรจุบรั่นดีชั้นดีเอาไว้ หญิงสาวจัดการเทแล้วยกของตัวเองขึ้นดื่มก่อนจะส่งอีกแก้วให้เพื่อนที่รับไปวางบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะกรีดร้องออกมา

“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด ไอ้บ้าพัดยศ ไอ้ทุเรศ เพราะมันคนเดียวแผนฉันถึงได้พังไม่เป็นท่าแบบนี้!!”

“โอ๊ย! เงียบหน่อยสิยะ เดี๋ยวข้างห้องก็มาด่าฉันพอดี แล้วก็นะ ใช่ว่าจะมีแต่หล่อนที่เจ็บใจ ฉันเองก็เหมือนกัน ไม่ได้ยินเหรอไงว่าไอ้บ้านั่นมันหลอกด่าฉันกี่ครั้งแล้วตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวน่ะ”อาริตาพูดอย่างโมโห มือเรียวยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มรวดเดียวหมดหวังจะให้มันดับอารมณ์โกรธ

หญิงสาวกำลังจะเทเหล้าเติมลงไปอีกครั้ง แต่ก็โดนคนทีร้องกรี๊ดอยู่เมื่อครู่กระชากไปทั้งขวดทั้งแก้วแล้วเทเติมให้ตัวเองแทน อาริตามองตามก่อนจะตัดสินใจหยิบแก้วของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแทน ทั้งคู่เงียบไป ต่างฝ่ายต่างก็ใช้ความคิดไปต่างๆนานา แล้วจู่ๆอาริตาก็ร้องขึ้นมา

“จริงด้วย!”

“อะไรของแกริตา เมื่อกี้ยังว่าฉันอยู่ตอนนี้มาโวยวายเอง ไร้สาระ!”ตะวันฉายมองค้อนเพื่อน เมื่อครู่เธอกำลังนึกหาทางกำจัดพัดยศที่เข้ามาขวางทางเธออยู่พอดี อาริตาไม่สนใจสายตาของเพื่อน รีบวางแก้วในมือลงแล้วกระโดดเข้ามาหา รอยยิ้มสมใจประดับอยู่บนหน้า

“ แกจำตอนที่ฉันไปเข้าห้องน้ำรอบแรกได้ไหม ที่ไอ้บ้าพัดยศมันพูดกัดจนฉันทนไม่ไหวน่ะ”หญิงสาวขยายความเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังจำไม่ได้ ตะวันฉายพยายามนึกตามก่อนจะพยักหน้า แต่ก็ยังไม่เข้าว่าเพื่อนถามไปทำไม

“จำได้แล้ว ทำไม”

“นังน้องดาวตกของแกมันโทรมาหาคุณตฤณล่ะ”

“จริงเหรอ แล้วแกไปรู้ได้ไง”

“เอ้า! ก็เขาไปคุยกันแถวหน้าห้องน้ำ ฉันได้ยินพอดีเลยยืนฟังต่อ แล้วก็นะ คิดถูกจริงๆที่แอบฟัง”อาริตายิ้มกริ่ม ก่อนจะรีบบอกเรื่องที่ได้ยินมาให้เพื่อนฟัง เมื่อฟังจบตะวันฉายก็เงียบไปก่อนจะรำพึงออกมา

“โรงแรม The Oceania งั้นเหรอ”

“ใช่ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นของคุณพีชญา ลูกสาวของเพื่อนพ่อฉันเองแหละ”

“แกพอจะหาทางไปร่วมงานนั้นได้ไหม”

“อืม ยากอยู่นะ เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเอง แล้วก็ไม่ค่อยถูกชะตาด้วยเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวจะลองถามพ่อให้ บางทีพ่อฉันอาจจะได้บัตรเชิญ ว่าแต่แกจะไปทำไม”อาริตาถาม ตะวันฉายคลี่ยิ้มก่อนจะตอบเสียงหวาน แต่อันตราย

“ก็ไปประกาศให้นังดาวมันรู้ไงว่าฉัน...เอาจริง!”

“เริ่ดมากเลยเพื่อนมันต้องอย่างนี้สิถึงจะเป็นแก ที่เห็นวันนี้รู้สึกขัดหูขัดตา”อาริตาปรบมือชอบใจ ตะวันฉายยิ้มรับคำชมก่อนจะย้ำ

“แกเองก็อย่าลืมถามพ่อแกว่าได้บัตรเชิญไหม ถ้าไม่จะได้หาทางอื่น”

“จ้า”หญิงสาวลากเสียงก่อนจะชะงักเพราะรู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ของตนเองกำลังสั่น อาริตาคว้าขึ้นมาดูก่อนจะหันไปบอกเพื่อน

“พ่อโทรมาล่ะ เดี๋ยวมานะยะ”ตะวันฉายพยักหน้ารับรู้ก่อนจะสนใจแฟชั่นโชว์ในโทรทัศน์ต่อไป ไม่นานหลังจากนั้นเพื่อนรักของเธอก็เดินกลับมาอย่างเบิกบาน พร้อมคำถามคำถามหนึ่งที่ทำให้เธอต้องยิ้มกว้าง

“พ่อฉันให้ไปงานเปิดตัวโรงแรมที่กระบี่แทนหน่อย โรงแรมที่มีชื่อว่า...The Oceania ไม่ทราบว่าคุณเพื่อนพอจะว่างไปด้วยกันไหม”
----------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่ะ มาเสิร์ฟแล้ว ร้อนๆจากเตา คราวนี้หายไปไม่นานเนอะๆ(จริงเร้อ) สำหรับ

ตอนนี้ไม่ค่อยมีน้องดาวซักเท่าไหร่ มีแต่นางมารร้ายเต็มตอนเลย สำหรับแฟนคลับน้อง

ดาวอาจจะเคืองข้าพเจ้าเอาได้ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ตอนหน้าเจอน้องดาวแน่พร้อมด้วยพี่

ตฤณโชว์หวาน กับความหวานของอีกคู่ ก่อนจะช้ำใจกันต่อ เอาล่ะคะ เจอกันตอนหน้า

ติชมได้ค่ะ



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2555, 22:43:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2555, 22:43:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1909





<< ตอนที่ 25   ตอนที่ 27 >>
Setia 20 ม.ค. 2555, 23:34:25 น.
ยัยนี่นี่ร้ายจริงๆ


กาซะลองพลัดถิ่น 21 ม.ค. 2555, 01:53:15 น.
กลัวแต่นายตฤณจะพลาดท่าให้ยัยตะวันฉายเข้าสักวันหนึ่ง ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าสงสารดาวเหนืออ่ะ .....


ใบบัวน่ารัก 21 ม.ค. 2555, 08:23:39 น.
ได้มาเพราะแย่ง
ดาวตบมันไปแลยนะ


anOO 21 ม.ค. 2555, 16:11:22 น.
โชคเข้าข้างยัยตะวันตัวร้ายตลอดเลย
หวังว่ายัยดาวกับพี่ตฤนจะหนักแน่นพอนะ


aom 26 ม.ค. 2555, 08:02:33 น.
รอตอนต่อไปนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account