พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 17

เอาตอนใหม่มาลงให้แล้วค่ะ

ติดตามได้เลยจ้า

----------------------------------------------------------------------------------------------




ตอนที่ 17: เรื่องรักครั้งเก่า






หลังจากกลับมาจากหัวหิน ชิษวัศได้ทำตามคำพูดของตัวเองทุกคำ ชายหนุ่มพาเธอมาประกาศตัวกับอารัทธ์ว่ากำลังคบหาดูใจกัน มุกตาภายังจำได้ว่าตอนนั้นชิษวัศเขินมากเพียงใดเมื่อถูกอารัทธ์ย้อนว่า ‘ไหนบอกว่าจะไม่กินเด็กยังไงล่ะวะไอ้อาร์ม’

หญิงสาวอมยิ้มกับตัวเองน้อยๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ดวงตาคู่สวยมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ภายในห้างสรรพสินค้าหรูอย่างมีความสุข หลายคนชอบพูดกันว่าเวลาคนเรามีความรัก ทุกสิ่งรอบตัวล้วนสวยงามจะมองไปทางไหนก็เหมือนจะเป็นสีชมพูไปเสียหมด แต่ก่อนเธอไม่เชื่อเลยกับคำพูดเหล่านั้นแต่ตอนนี้เธอเชื่อ...เพราะเธอ...กำลังรู้สึกไม่ต่างจากคำพูดพวกนั้นเลย

มุกตาภาเหลือบมองนาฬิกาเรือนสวยที่ข้อมือของตัวเอง วันนี้ชิษวัศให้เธอลางานได้ครึ่งวันก่อนจะบอกให้เธอไปแต่งตัวสวยๆเพราะค่ำนี้ชิษวัศออกปากนัดเธอให้มาดินเนอร์หรูที่ภัตตาคารของโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ แต่กว่าจะถึงเวลานัดหญิงสาวมีเวลาอยู่มากโขที่จะเดินเลือกซื้อของ เธอจึงตัดสินใจมาก่อนเวลาเพื่อช้อปปิ้งให้สบายอารมณ์ เพราะนานทีปีหนที่คนอย่างพี่อาร์มจะปล่อยให้เธอเลิกงานก่อนเวลา

...ถึงจะเป็นแฟน แต่พี่อาร์มก็ยังใช้งานเธอเหมือนเดิม ใจร้ายจริงๆ...

“น้องมุก”

เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้มุกตาภาหันหลังมามอง แล้วใบหน้าสวยหวานก็แย้มยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครคือคนที่เธอเจอ

“พี่อาร์ท หมูหวาน มาด้วยกันได้ยังไงคะ” แม้เธอจะรู้ว่าอารัทธ์นั้นตามจีบเพื่อนของเธออยู่และดูเหมือนว่าเขาจะจริงจังมาก แต่นิชิตาก็ยังปิดประตูแน่นสนิททุกบานไม่ปล่อยให้อารัทธ์เข้าไปในหัวใจได้เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงมาอยู่ด้วยกัน

“มาเดทน่ะครับ...โอ๊ย!” เสียงร้องที่ดังมาหลังประโยคเพราะคนที่มาด้วยกันเหวี่ยงข้อมือฟาดไปที่ท่อนแขนของอารัทธ์เต็มแรง

“หมูหวานจะมาหาอะไรกิน แล้วพอดีมีตัวอะไรก็ไม่รู้เกาะติดมา” นิชิตาหรี่ตามองมายังตัวที่เกาะมาด้วย มุกตาภาปล่อยหัวเราะพรืดออกมา มองหนุ่มสาวที่กำลังต่อล้อต่อเถียงด้วยรอยยิ้ม

“แต่หมูหวานก็ยอมให้พี่อาร์ทตามเกาะมานี่นา...” มุกตาภาแกล้งแซวเพื่อนสาวก่อนจะหลิ่วตาให้อารัทธ์ “สู้ๆนะคะพี่อาร์ท หมูหวานอาจจะไม่ได้หวานสมชื่อ แต่เพื่อนมุกคนนี้บทจะน่ารักก็น่ารักมากๆเลยนะคะ”

“มุก!” นิชิตาเรียกชื่อเพื่อนเสียงหลง “พูดอะไรน่ะ หมูหวานกับนายนี่ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย แล้วก็ไม่มีวันเป็นด้วย!”

“คุณอาจารย์เขินอีกแล้ว” อารัทธ์พูดด้วยสีหน้าตั้งใจยียวนกวนประสาทอีกฝ่ายเห็นๆ แล้วก็ได้ผลดีเสียด้วยเมื่อนิชิตาหันมาพูดเสียงเขียวแถมยังทำตาดุใส่อีกต่างหาก

“ฉันไม่ได้เขิน!” ก่อนจะหันมาจัดการคิดบัญชีกับเพื่อนสาวคนสนิทต่อ “แล้วมุกนี่ยังไงนะ สรุปว่าจะอยู่ข้างนายอารัทธ์นี่ใช่มั้ย สรุปว่าไม่มีใครอยู่ข้างหมูหวานเลยใช่มั้ย” นิชิตาทำเสียงขึ้นจมูก สะบัดหน้างอน หากมุกตาภากับอารัทธ์กลับหันมามองหน้ากันด้วยใบหน้ายิ้มๆ

“มุกจะไปอยู่ข้างพี่อาร์ทได้ยังไง มุกก็ต้องอยู่ข้างหมูหวานสิ อย่างอนมุกเลยนะ นะ นะ” มุกตาภาง้อเพื่อนสาว ด้วยรอยยิ้มอย่างที่เคยทำอยู่เป็นประจำเมื่อนิชิตาเกิดอาการงอน

“นั้นสิครับคุณอาจารย์ อย่างอนเลยนะครับ ถึงเวลางอนคุณจะน่ารักแต่ผมชอบเวลาคุณยิ้มมากกว่า” อารัทธ์ช่วยพูดอีกเสียง แต่ดูเหมือนคำพูดของอารัทธ์จะยิ่งทำให้นิชิตาโมโหมากขึ้น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่อาจแยกแยะได้ว่าที่โมโหเพราะไม่พอใจหรือโมโหเพราะหัวใจตัวเองหวั่นไหวไปกับคำพูดของอารัทธ์กันแน่

“นายอารัทธ์!” นิชิตาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงต่ำด้วยความโมโห หากอารัทธ์กลับยิ้มร่าเหมือนอย่างที่เคยทำอยู่ทุกครั้ง แล้วดูเหมือนสงครามขนาดย่อมกำลังจะเกิดถ้าไม่มีเสียงโทรศัพท์ของมุกตาภาดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน

“ค่ะพี่อาร์ม” ทันทีที่รับสาย นิชิตากับอารัทธ์ก็พุ่งเป้าความสนใจมายังมุกตาภาเป็นตาเดียว

“พี่ขอโทษนะครับ” คำขอโทษที่ดังออกมาจากปลายสายส่งผลให้คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเล็กน้อย พอจะเดาออกว่าชิษวัศต้องการขอโทษเธอเรื่องอะไร

“พี่อาร์มมาไม่ได้แล้วใช่ไหม”

“ขอโทษจริงๆนะครับ”

“มีงานด่วนเหรอคะ” มุกตาภาถามกลับแต่อีกฝ่ายกลับเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะปฏิเสธกลับมา

“เปล่าหรอกครับ...” เว้นวรรคไปนิดหนึ่งก่อนจะพูดจนจบประโยคว่า “...พอดีเฟลอร์เข้าโรงพยาบาล...”

“เพราะพี่เฟลอร์อยู่คนเดียว พี่อาร์มเลยจะไปอยู่เป็นเพื่อนใช่ไหม” ถามไปเพราะรู้ดีว่าทวิดาร์นั้นไม่มีญาติสนิทอยู่ที่เมืองไทยเลยสักคน และเพื่อนที่สนิทก็มีเพียงแค่ชิษวัศกับอารัทธ์ แต่ทำไมต้องเป็นชิษวัศ...เธอไม่เข้าใจ

...อย่าฟุ้งซ่านไปหน่อยเลยมุกตาภา! ถึงพี่เฟลอร์จะเป็นแฟนเก่า แต่เธอก็ต้องเชื่อใช่พี่อาร์มไม่ใช่หรือ จะไปหวั่นไหวทำไมกัน...

“หนูมุกไม่โกรธใช่ไหม”

“ไม่หรอกค่ะ มุกไม่โกรธ ฝากบอกพี่เฟลอร์ด้วยนะคะว่าขอให้หายไวๆ”

“แล้วพี่จะโทรหานะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” ปฏิเสธไปก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองนัก บอกไปอย่างนี้มันแสดงให้เห็นอยู่ชัดๆว่าแท้ที่จริงแล้วเธอนั้นโกรธแต่แกล้งทำปากหนักบอกว่าไม่โกรธ

“ไม่ครับ พี่จะโทร”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำเบาๆเมื่อปลายสายยังคงยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดไป
มุกตาภาหันมาส่งยิ้มบางๆให้กับอีกสองคนที่มองมายังเธออย่างสงสัยกับบทสนทนาเมื่อครู่ระหว่างเธอกับชิษวัศ หญิงสาวคิดว่าทั้งนิชิตาและอารัทธ์คงพอเดาเหตุการณ์ออกว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นไรเมื่อทั้งนิชิตาและอารัทธ์ก็ส่งยิ้มคล้ายกับจะให้กำลังใจมาให้เธอเช่นกัน

“มุก...”

“ไปกินข้าวกับหมูหวานก็ได้” นิชิตาชิงพูดขึ้นมาก่อนที่มุกตาภาจะทันได้พูดอะไร “มื้อนี้มีเจ้ามือเลี้ยง มุกอยากกินอะไรกินได้เลย ใช่ไหมคะคุณอารัทธ์” ท้ายประโยคหันมาหาคนที่เป็น ‘เจ้ามือ’ เพื่อบอกให้ทราบมากกว่าที่จะขอคำยินยอม

“ใช่ๆ ใช่แน่นอน” อารัทธ์รีบรับคำเมื่อถูกกระทุ้งด้วยศอกหนักๆของอาจารย์สาว “น้องมุกจะกินอะไร เดี๋ยวมือนี้พี่เลี้ยงเองครับ ไม่อั้นเลย” อารัทธ์บอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง แถมยังทำท่าตบบริเวณกระเป๋ากางเกงของตัวเองเพื่อยืนยันอีกต่างหากว่ามื้อนี้...เจ้ามือเลี้ยงไม่อั้น

“เห็นไหม มีเจ้ามื้อเลี้ยงแล้ว เพราะงั้นเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่าเนอะ” นิชิตาหันมายิ้มกว้างให้เพื่อนสาว เพราะเป็นเพื่อนกันมานานทำให้แค่มองตาก็รู้แล้วว่าตอนนี้เพื่อนเธอกำลังเสียใจแต่ไม่ได้แสดงอาการเหล่านั้นออกมาเท่านั้นเอง

“ขอบคุณนะหมูหวาน” มุกตาภาบีบมือเพื่อนเบาๆก่อนจะหันมายังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อนสนิท “ขอบคุณนะคะพี่อาร์ท”

อารัทธ์ยิ้มรับหากนิชิตากลับขัดขึ้นมากลางปล้อง

“ไม่ต้องขอบคุณหมูหวานหรอก ส่วนอีตานี่ยิ่งไม่ต้องขอบคุณเข้าไปใหญ่” ไม่พูดเปล่าเพราะสาวเจ้ายังสะบัดหน้าใส่อีกต่างหาก โทษฐานเป็นเพื่อนสนิทของชิษวัศ และวันนี้ชิษวัศทำให้เพื่อนของเธอเสียใจ เพราะฉะนั้นอารัทธ์ก็รับผิดชอบเหมือนกัน!

...กับอีตาบ้านี่...ไม่ต้องมีเหตุผลประกอบการตัดสินใจอย่างนี้ล่ะเหมาะที่สุดแล้ว!...

หากมุกตาภากลับส่ายหน้าแสดงอาการว่าไม่เห็นด้วย ถึงนิชิตาจะไม่ค่อยชอบหน้าอารัทธ์เท่าไรนัก แต่ครั้งนี้...อารัทธ์ก็เป็นคนหนึ่งที่อาสาเข้ามาช่วยปลอบใจเธอ เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ขอบคุณ’ มันก็เหมาะสมที่สุดแล้ว

“ได้ยังไงล่ะหมูหวาน อย่างน้อยพี่อาร์ทก็เป็นคนเลี้ยงนะ”

“โอ๊ย...” นิชิตาร้องเสียงยาว “คนอย่างคุณอารัทธ์เลี้ยงข้าวแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก เทียบกับเอาไปเลี้ยงสาวๆในสต็อคยังไม่ได้หนึ่งในสิบส่วนด้วยซ้ำมั้ง” ท้ายประโยคยังไม่วายเหน็บแนมจนมุกตาภาต้องรีบกระทุ้งสีข้างเพื่อนเชิงห้ามปรามพร้อมกับเรียกชื่ออาจารย์สาวเสียงต่ำ

“หมูหวาน”

“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องมุก” คนที่โดนทั้งเหน็บทั้งแนมบอกมุกตาภาด้วยรอยยิ้ม “พี่ชินแล้วล่ะครับ ถ้าวันไหนไม่โดนแขวะพี่รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปในชีวิต” ถึงถ้อยคำจะบอกมุกตาภาแต่สายตากลับมองตรงไปยังสาวหมวยร่างเล็กอีกคนมากกว่า

“อันนี้พี่อาร์ทคงต้องถามเพื่อนมุกเองนะคะว่าจะยอม ‘แขวะ’ พี่อาร์ทไปตลอดชีวิตหรือเปล่า” มุกตาภาช่วยชงให้คนที่ตั้งท่ารอตบจัดการ

“ว่าไงครับคุณอาจารย์ ยอมที่จะ ‘แขวะ’ ผมไปทั้งชีวิตหรือเปล่า”

คนที่โดนรุมหันมาสะบัดค้อนสองทีซ้อน ไปๆมาๆมุกตาภาก็จะไปอยู่ข้างอารัทธ์ไม่ใช่เธอใช่ไหม

“สรุปว่าจะยืนคุยกันอยู่ตรงนี้ไม่กินข้าวใช่ไหม อิ่มทิพย์กันหรือไง”

การเปลี่ยนหัวข้อของการสนทนาขึ้นมาดื้อๆของนิชิตาทำเอามุกตาภาหัวเราะออกมาเบาๆ มาท่าทีอย่างนี้
แสดงว่าเพื่อนของเธอเริ่มใจอ่อนขึ้นมาบ้างแล้ว การไม่ตอบไม่คำถามอาจหมายความว่ายอมรับหรือปฏิเสธได้ในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง แต่ในความหมายของนิชิตา การไม่ยอมตอบคำถามและเปลี่ยนเรื่องไปเลยนั้นหมายความว่าเกินครึ่งหนึ่งคือคำตอบรับ

“ใครว่า...มุกหิวจะตายอยู่แล้ว” มุกตาภายิ้มกว้าง กางแขนไปเกี่ยวแขนของเพื่อนสาวก่อนจะหันมาหาเสียงสนับสนุน “ใช่ไหมคะพี่อาร์ท”

“ครับ หิวมากเลยครับ มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง น้องมุกกับคุณอาจารย์จะกินอะไรได้หมดเลยครับ” อารัทธ์พูดด้วยน้ำเสียงแข็งขัน พอใจแล้วกับสิ่งที่ได้รับ อย่างน้อย...คำถามที่เขาถามไปเมื่อครู่ นิชิตาก็เลือกที่จะไม่ปฏิเสธมัน แม้เธอจะเลี่ยงไม่ตอบแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ สำหรับตอนนี้...เพียงเท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว

อารัทธ์เผยรอยยิ้มขึ้นมาน้อยๆ มองตามร่างเล็กๆของนิชิตาที่มีมุกตาภาเกาะแขนไว้ข้างหนึ่งด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและมีความรักบรรจุไว้อยู่ในดวงตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมโดยหารู้ไม่ว่ากำลังมีดวงตาอีกคู่หนึ่งเช่นกันที่มองมายังตัวเอง

“มีอะไรหรือเปล่าครับมิ้นท์”

นิษศินีสะดุ้งน้อยๆเมื่อมือของคู่หมั้นแตะเบาๆที่บ่า

“เหมือนเห็นคนรู้จักน่ะค่ะ”

“แล้วทำไมทำหน้าสงสัยอย่างนั้นล่ะครับ” พีรัชถามอีกครั้งเมื่อเห็นคิ้วของคนรักขมวดชิดราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง

“มิ้นท์เห็นเขามากับยัยหมูหวาน” คำตอบของนิษศินีก็ทำให้พีรัชสงสัยขึ้นมาบ้างเช่นกัน

“หมูหวานเหรอครับ มิ้นท์มองผิดหรือเปล่า” ชายหนุ่มแย้งขึ้นเพราะคนที่นิษศินีรู้จัก ไม่น่าที่จะมารู้จักกับนิชิตาได้เลย เขารู้ดีว่าพี่น้องสองคนนี้แตกต่างราวกับแม่เหล็กคนละขั้ว คนรอบตัวของนิษศินีคือคนที่นิชิตาปฏิเสธไม่ยอมทำความรู้จักหรือสนิทสนมมาโดยตลอดและคนรอบตัวของนิชิตาก็คือคนที่นิษศินีไม่ยอมพาตัวเองเข้าไปเฉียดเช่นกัน

“นั่นสิคะ เพราะคนอย่างเขาไม่มีทางที่จะมาเดินตามยัยหมูหวานต้อยๆอย่างนั้นหรอก” สำเนียงเชิดๆกับน้ำคำดูถูกที่มักจะมีทุกครั้งยามที่พูดถึงนิชิตา ยัยเด็กกะโหลกกะลากวนประสาท ถือว่าตัวเรียนเก่งเป็นครูบาอาจารย์เข้าหน่อยแล้วทำเป็นหยิ่ง ทั้งที่ความจริงเป็นแค่หลานนอกคอกที่คุณพ่อและคุณย่าของเธอชุบเลี้ยงไว้เท่านั้น ผู้หญิงที่ไม่ได้สะสวยแถมมีแต่ตัวอย่างนิชิตาไม่มีทางเสียหรอกที่จะทำให้คนอย่างอารัทธ์คอยเดินตามได้...ไม่มีทาง!













มื้อเย็นที่ค่อนไปทางมื้อค่ำจบลงเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนเดินออกมาจากร้านไอศกรีมโดยมีอารัทธ์เป็นเจ้ามือจ่ายค่าอาหารทั้งหมด แม้นิชิตาจะคะยั้นคะยอให้มุกตาภาเข้าร้านแพนเค้กต่อแต่เพื่อนสาวกลับปฏิเสธเพราะแค่นี้ก็อิ่มมากพอแล้ว ขืนไปต่อที่ร้านแพนเค้กไอ้ที่กินมาตั้งแต่ต้นคงได้ออกมากันพอดี

“ไม่กินอะไรต่อแน่นะมุก” คนที่อยากให้อารัทธ์เลี้ยงจนกระเป๋าฉีกถามเสียงอ่อนเพราะต้องการเสียงสนับสนุนและคนกินเป็นเพื่อน

“แค่นี้มุกก็อิ่มจะตายแล้ว แต่ถ้าหมูหวานยังไม่อิ่มก็ไปกินกับพี่อาร์ทต่อก็ได้นี่” ก่อนจะหันมาถามอารัทธ์ด้วยรอยยิ้มตามเคย “ใช่ไหมคะพี่อาร์ท”

“ครับ” อารัทธ์ยิ้มร่ารับ “ถ้าคุณอาจารย์ไม่อิ่มไปกินกับผมต่อก็ได้ครับ”

“ฉันอิ่มแล้ว” นิชิตาตัดบทว่าอิ่มขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อเห็นว่าวันนี้มุกตาภาเอนเอียงไปเข้าข้างอารัทธ์แล้วร้อยเปอร์เซ็นเต็ม รอให้มุกตาภากลับมาเป็นพวกเธอก่อนเถอะ หล่อนจะรวนให้เสียศูนย์เลยคอยดู!

“อิ่มแน่นะครับ” อารัทธ์ถามย้ำด้วยน้ำเสียงล้อเลียนเมื่อตานี้ตนเองเป็นฝ่ายชนะเมื่อมีมุกตาภายอมเป็นกองหนุน

“แน่!”

“ยัยหมูหวาน!”

มุกตาภาคือคนแรกที่หันไปตามเสียงเรียก ตามติดด้วยอารัทธ์และเจ้าของชื่อซึ่งหันมาเป็นคนสุดท้าย เป็นไปได้นิชิตาอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้เสียด้วยซ้ำ กรุงเทพฯมีห้างสรรพสินค้าตั้งหลายห้างทำไมถึงต้องมาบังเอิญเจอกับนิษศินีในสถานการณ์ที่มีอารัทธ์อยู่ข้างๆอย่างนี้ด้วย!

...อยากจะบ้าตาย!!...

“มิ้นท์” อารัทธ์เอ่ยชื่อผู้มาใหม่เบาๆ แม้จะเลิกรากันไปแล้วหลายปี แต่ชายหนุ่มยังจดจำสาวสวยร่างบางระหงคนนี้ได้ดี “มาทำอะไรครับ”

“มิ้นท์น่าจะถามอาร์ทมากกว่านะคะ” นิษศินีถามพร้อมรอยยิ้มที่ดูอย่างไรก็เป็นรอยยิ้มที่ปั้นแต่งมากกว่ารอยยิ้มที่มาจากความรู้สึกจริงๆ “ว่าอาร์ทมาทำอะไรกับน้องสาว...ของมิ้นท์” นิษศินีจงใจเน้นคำว่า ‘น้องสาว’ ช้าๆชัดๆ

“น้องสาว...เหรอครับ” อารัทธ์ย้อนถามกลับ ดวงตาเรียวเล็กมีแววสงสัยไม่ปิดบัง หากก็เป็นนิชิตาที่พูดแทรกขึ้นมาก่อนที่นิษศินีจะทำเรื่องให้มันยุ่งยากไปกว่านี้

“พี่มิ้นท์...ลูกพี่ลูกน้องฉันค่ะ ส่วนผู้ชายที่ยืนข้างๆ...” นิชิตาปรายตามองมายังพี่สาวที่กำลังถลึงตามองมายังตัวเองนิดหนึ่งก่อนยกมุมปากยิ้มเยาะ “คุณพีรัช... ‘คู่หมั้น’ ของพี่มิ้นท์ค่ะ”

อาจารย์สาวจัดการแนะนำพีรัชให้อารัทธ์รู้จักอย่างเสร็จสรรพ รู้ดีว่านิษศินีคงไม่แนะนำว่าพีรัชเป็นคู่หมั้นตนเองแน่ ถึงพี่สาวเธอจะรักพีรัชแต่นิชิตารู้ดีว่าในใจของนิษศินีนั้นยังมีอารัทธ์อยู่ในใจเสมอ และพี่สาวของเธอก็รอคอยให้ผู้ชายคนนี้ย้อนกลับมา ทั้งๆที่รู้ดีแก่ใจว่ามันเป็นความหวังที่ลมๆแล้งๆก็ตาม

“มิ้นท์หมั้นแล้วหรือ ทำไมไม่เห็นเชิญผมเลย แต่ก็ยินดีด้วยนะครับ” อารัทธ์ยิ้มแสดงความยินดีอย่างจริงใจพร้อมกับยื่นมือไปแสดงความยินดีกับพีรัชโดยไม่ได้รู้เลยว่านิษศินีกำลังทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแค่ไหน ผิดกับนิชิตาที่ยืนกลั้นยิ้มกลั้นหัวเราะแทบตาย

“แล้วอาร์ทมาทำอะไรกับยัยหมูหวานคะ คงไม่ใช่ว่าคบกันอยู่หรอกนะคะ”

นิชิตาเบิกตากว้างอย่างตกใจกับคำถามของพี่สาว ลืมไปเสียสนิทว่านิษศินีต้องถามคำถามนี้แน่

“พี่อาร์ทกับหมูหวานมากินข้าวกับมุกค่ะพี่มิ้นท์” เป็นมุกตาภาที่ออกโรงตอบคำถามแทน เพราะขืนให้อารัทธ์ตอบ นิชิตาคงต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่

“ฉันถามอาร์ท ไม่ได้ถามเธอ”

มุกตาภาถอนหายใจออกยาว ชินเสียแล้วกับสรรพนามที่นิษศินีใช้ แต่กับอารัทธ์ชายหนุ่มคงไม่ค่อยคุ้นชินกับคำพูดที่รู้สึกได้ว่าแบ่งชนชั้นออกอย่างชัดเจนมากนัก เพราะคำพูดของนิษศินีกำลังสร้างความไม่พอใจให้กับชายหนุ่มเป็นริ้วรอยจางๆ

“ถ้าผมคบอยู่ แล้วมันมีปัญหาอะไรหรือครับ” อารัทธ์ถามกลับ แววตาที่มักขี้เล่นเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นทันที

“ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ ถ้าอาร์ทรับได้ว่าจะมีคนรักที่มีแต่ตัว ไม่มีอะไรเลย...แม้แต่...พ่อกับแม่”

“พี่มิ้นท์!”

“มิ้นท์!”

ทั้งพีรัชและมุกตาภาอุทานชื่อของนิษศินีเสียงดังด้วยความรู้สึกที่คงไม่ต่างกันมากนัก เมื่อนิษศินีได้พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้ โดยเฉพาะเรื่องบิดาและมารดาของนิชิตา หากคนที่โดนพาดพิงกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดนั้นแม้แต่น้อย ถ้าจะพูดให้ถูก...นิชิตาชินชาไปเสียแล้วกับคำว่าร้ายเหล่านั้น เพราะเธอได้ยินได้ฟังมาเกือบทั้งชีวิตที่เธอยังคงมีลมหายใจ

“ไม่เป็นอะไรหรอกมุก หมูหวานไม่รู้สึกเจ็บปวดมานานแล้ว ต่อให้พี่มิ้นท์จะพูดอีกกี่ครั้ง หมูหวานก็ไม่ตายหรอก” นิชิตาเชิดหน้าท้าทาย เด็กหญิงหมูหวานที่มักเป็นลูกไล่ของนิษศินีนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว จะมีก็แต่นิชิตาที่จะไม่ยอมให้ใครมารังแก

“แล้วเรื่องคุณอารัทธ์...ถ้าหมูหวานจะคบกับเขาแล้วพี่มิ้นท์มีปัญหาอะไรหรือคะ” ทั้งท่าทางและแววตาของนิชิตานั้นแข็งกร้าว ไม่มีท่าทีเกรงกลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“อ้อ...” นิษศินีลากเสียงยาว ดวงตาเรียวสวยนั้นแสดงอาการดูแคลนชัดเจน “แสดงว่ายอมรับแล้วสินะ”

“หมูหวานจะคบกับใครมันก็เรื่องของหมูหวาน ไม่เกี่ยวกับพี่มิ้นท์”

“จากหลานนอกคอกกลายเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแค่นี้ริอาจปีกกล้าขาแข็งกับฉันแล้วเหรอ ฉันจะฟ้องคุณย่า!” คนเป็นพี่สาวขู่แต่นิชิตากลับยกมุมปากทั้งสองข้างขึ้นยิ้มอย่างท้าทาย

“เชิญพี่มิ้นท์ขี่ม้าสามศอกไปฟ้องคุณยายเลยนะคะ แต่หาเหตุผลที่จะฟ้องให้ดีล่ะ ไม่ใช่มีเหตุผลแค่ว่า..." นิชิตาเว้นวรรคนิดหนึ่ง ดวงตาคู่เรียวเล็กภายใต้กรอบแว่นสายตาจ้องมองคนเป็นพี่สาวอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะต่อประโยคที่พูดค้างไว้จนจบซึ่งมีคำหนึ่งคำที่จี้ใจดำนิษศินีเต็มๆ

“...พี่มิ้นท์อิจฉา”

“ยัยหมูหวาน!!” นิษศินีแผดเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มที่จะหันมามองอย่างสนใจ

“พอเถอะมิ้นท์ คนมองกันใหญ่แล้ว ไม่อายหรือ” พีรัชกระตุกแขนคู่หมั้นสาวให้ไปชิดกับตัวเองพร้อมกับกล่าวเตือนเสียงต่ำ

นิษศินีหันมามองคนที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวตาขวาง ไม่เคยคับแค้นใจครั้งใดมากเท่าครั้งนี้ และแน่นอนว่านิชิ
ตาต้องชดใช้ที่หาญกล้ามาต่อปากต่อคำกับเธอในครั้งนี้

“เตรียมกลับไปตอบคำถามคุณย่าให้ดีๆก็แล้วกัน” พูดจบก็สะบัดหน้าหมุนตัวเดินจากไปโดยมีพีรัชก้าวยาวๆตามหลัง นิชิตามองร่างทั้งสองคนที่ค่อยๆห่างออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียดที่เรื่องปวดหัวจบลง

“ไม่เป็นอะไรนะหมูหวาน” มุกตาภายื่นมือมาแตะไหล่เพื่อนสาวเบาๆ

“ไม่เป็นไร ขอบคุณมากนะมุก”

“ขับรถกลับบ้านไหวมั้ยคุณอาจารย์” อารัทธ์ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นหน้าตาของหญิงสาวนั้นไม่สู้ดี แม้จะมีสิ่งที่อยากจะถามมากมายแต่ชายหนุ่มกลับเลือกที่จะรอให้นิชิตาเป็นฝ่ายยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวของเธอเอง

“ไหว” นิชิตาตอบคำถามนั้นสั้นๆก่อนจะตัดสินใจตั้งคำถามถามกลับ “คุณไม่มีอะไรจะถามฉันเหรอ”

“ไม่ครับ แต่ผมจะรอจนกว่าคุณพร้อมที่จะเล่าให้ผมฟัง”

“ขอบคุณ” นิชิตาเอ่ยคำขอบคุณเสียงเบา หากอารัทธ์กลับได้ยินชัดเต็มหัวใจ

“ถ้าอย่างนั้นมุกกลับก่อนนะหมูหวาน” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเข้าที่เข้าทางมุกตาภาจึงออกปากขอตัวกลับบ้าน

“แล้วมุกไม่เป็นอะไรนะ” เพราะมัวแต่คิดเรื่องของตัวเอง นิชิตาจึงเกือบลืมไปสนิทว่ามุกตาภานั้นโดนชิษวัศปฏิเสธเพราะต้องคอยไปพยาบาลแฟนเก่า

“หือ? มุกน่ะเหรอ” มุกตาภาแกล้งไม่เข้าใจเพราะไม่อยากที่จะพูดและคิดถึงเรื่องที่ชิษวัศผิดนัดเธอ

“เรื่องพี่อาร์ม...ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” น้ำเสียงของนิชิตานั้นแสดงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

“มุกไม่เป็นอะไร หมูหวานกลับบ้านเถอะ วันนี้เจออะไรมามากแล้ว” มุกตาภายิ้มกว้างเพื่อแสดงให้เพื่อนเห็นว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไร และไม่ได้เสียใจที่ชิษวัศผิดนัด แม้ใจจริงจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตาม

“มีอะไรโทรหาหมูหวานได้นะมุก”

“รู้แล้วค่ะอาจารย์ กลับได้แล้ว” น้ำเสียงหวานล้อเลียนพร้อมกับดันร่างของนิชิตาให้เดินไปก่อนจะหันมาทางอารัทธ์ “ฝากหมูหวานด้วยนะคะ”

“ครับ” อารัทธ์รับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะเดินเคียงข้างไปกับอาจารย์สาว มุกตาภามองภาพของคนทั้งคู่ที่ค่อยๆไกลออกไปด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยในวันที่มีปัญหานิชิตาก็ยังมีคนให้คอยอยู่เคียงข้าง แล้วเธอเล่า...ถ้าในวันที่เธอมีปัญหาคนที่เธออยากให้อยู่เคียงข้างเขาจะอยู่เคียงข้างเธอไหม

“ฟุ้งซ่านไปแล้วมุกตาภา เธอต้องเชื่อใจพี่อาร์มสิ ต้องเชื่อใจ” ย้ำกับตัวเองพร้อมกับสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความคิดไร้สาระนั้นออกไปให้พ้น ทวิดาร์เป็นเพียงแค่อดีต เธอต่างหากที่เป็นปัจจุบันของชิษวัศ เพราะฉะนั้นเธอต้องมั่นใจและเชื่อใจในความรักของพี่อาร์ม และเชื่อใจ...ในความรักของตัวเธอเองว่ามันจะเป็นสายใจที่ร้อยหัวใจของชิษวัศไว้กับเธอตลอดไป













หนังสือพิมพ์ธุรกิจถูกพับเก็บและวางไว้ที่เดิมเมื่อชิษวัศอ่านจบเป็นรอบที่สาม ดวงตาสีนิลคู่คมเหลือบมองคนป่วยที่นอนให้น้ำเกลือเพราะอาหารเป็นพิษก่อนจะหลุบต่ำมามองเวลาจากนาฬิกาข้อมือของตนเอง

“อาร์มจะกลับเลยก็ได้นะ แค่นี้เฟลอร์ก็เกรงใจมากแล้ว” ทวิดาร์บอกเสียงอ่อน เมื่อเห็นว่าชิษวัศดูกระสับกระส่ายกังวลกับเวลามากกว่าปกติ

“ไม่เป็นไร ผมอยู่ต่อได้ ที่สำคัญเฟลอร์ก็ไม่มีใครด้วย” ชายหนุ่มปฏิเสธ การที่ทวิดาร์กลับมาทำงานที่ประเทศไทยคนเดียวโดยที่ครอบครัวยังคงอยู่ที่อเมริกาคือสาเหตุหนึ่งที่ชิษวัศทิ้งให้อดีตแฟนสาวอยู่โรงพยาบาลคนเดียวในยามป่วยไม่ลง อย่างน้อยตอนนี้ทวิดาร์ก็เปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นเพื่อน อะไรที่เขาพอช่วยเหลือเธอได้เขาก็ไม่ลังเลทีจะช่วยเหลือ

“แล้วอาร์มจะไม่มีปัญหากับน้องมุกเหรอ” ทวิดาร์ลองหยั่งเชิงถาม ความจริงเธอจะโทรขอความช่วยเหลือจากอารัทธ์ก็ได้แต่ความคิดร้ายๆกลับบอกให้เธอกดโทรศัพท์หาชิษวัศแทน

“หนูมุกคงเข้าใจ”

“แต่เฟลอร์เป็นแฟนเก่าอาร์มนะ”

“แต่หนูมุกคือปัจจุบันของผม” ชิษวัศบอกเสียงเรียบ “ส่วนเฟลอร์คือเพื่อนที่ผมไม่อยากเสียไป” ชิษวัศเน้นคำว่า ‘เพื่อน’ ชัดเป็นพิเศษเพื่อตั้งใจจะบอกให้ทวิดาร์รู้ว่าถ้าเธอคิดจะคุ้ยถ่านไฟเก่าให้มันคุขึ้นมาอีกครั้ง แม้ความเป็นเพื่อนเขาก็จะไม่เหลือคำนั้นไว้สำหรับเธอ

“ถ้างั้นอาร์มกลับเถอะค่ะ เฟลอร์ไม่เป็นอะไรแล้ว” เมื่อเห็นว่าท่าทางไม่ค่อยดี ทวิดาร์จึงออกปากให้ชิษวัศกลับไป

“พักผ่อนเยอะๆนะครับ” ชิษวัศลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวออกจากห้องสีเหลี่ยมสีขาวที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยา

ทวิดาร์ปรายตามองประตูที่เพิ่งปิดสนิทลง รอยยิ้มนิดหนึ่งปรากฏอยู่ที่มุมปาก ถึงชิษวัศจะบอกว่ามุกตาภาคงเข้าใจ แต่เธอมั่นใจว่าสาวน้อยคนนั้นต้องคิดไม่ตกเป็นแน่ที่ชิษวัศผิดนัดไปดูแลแฟนเก่า ถึงการกระทำภายนอกจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรและไม่โกรธ แต่ในใจลึกๆทวิดาร์รู้ว่ามุกตาภาเองก็ยังไม่มั่นใจและกลัวว่าระหว่างเธอและชิษวัศจะเกิดเหตุการณ์ถ่านไฟเก่าคุขึ้นมา ต่อไปคงต้องรอดูว่ามุกตาภาเชื่อใจชิษวัศมากแค่ไหน สายสัมพันธ์ที่มีมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัยมันจะเหนียวแน่นแค่ไหนกันเชียว

...แสดงให้พี่เฟลอร์ดูหน่อยนะคะน้องมุก ว่าสายใยระหว่างน้องมุกและอาร์ม...มันถักทอเชื่อมโยงกันไว้เหนียวแน่นแค่ไหนกัน...


----------------------------------------------------------------------------------------------

กว่าจะยอมรับหัวใจตัวเองก็ลำบากแล้ว ดูพี่อาร์มทำ...เฮ้อ...ยอมรับว่าเป็นพระเอกที่ปอแก้วยังขัดใจเลยค่ะ แบบว่า...จะใจดีกับทุกคนมากไปไหมเนี่ยยยยยย และเฟลอร์ก็เริ่มจะร้ายลึกแล้วค่ะ ปัญหาเริ่มมาแว้วววววว...

แต่...แต่อีกครั้ง...อย่าเพิ่งเบื่อพี่อาร์มกันก่อนนะค้าาาาาาาาา (ขอร้องล่ะค่ะ ^/\^) เดี๋ยวตอนหน้าพี่อาร์มจะไปง้อออออ...แน่นอนค่าาาาา ส่วนเรื่องของหมูหวานก็ยังยุ่งไม่แพ้กันค่ะ T^T เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคู่ (และคนเขียนตาดำๆคนนี้ด้วยนะค้าาาาา)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทิ้งคอมเมนท์ทักทายกันหรือกดไลค์เพื่อให้กำลังใจนะคะ ^^ ตอนนี้ปอแก้วกำลังอยู่ในช่วงงานเข้า ปัญหารุมเร้า เลยเขียนพี่อาร์มได้ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร (ตัวเองยังรำคาญตัวเองเลยค่ะ) ถ้าตอนไหนมาช้าขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ (ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนค่ะ ตอนนี้อ่อนล้าจริงๆ T^T)

บ่นพอละค่ะ...(เดี๋ยวเพื่อนๆจะเบื่อซะก่อน แหะๆๆ)

ปล. ตอนหน้ามาดูพี่อาร์ม 'ง้อ' กันนะค้าาาาาาา กับในตอน "หนึ่งคำรัก"



ตอบคอมเมนท์กันค่ะ...

คุณ nunoi : แต่ตอนนี้กลับมาไม่ค่อยน่ารักแล้วใช่ไหมคะ (ให้อภัยพี่อาร์มด้วยนะค้าาาาา)

คุณ roseolar : ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ คู่พี่อาร์มกับหนูมุกเรียบร้อยไปหนึ่ง แต่พอตอนนี้ทำท่าว่าจะมีปัญหาเพราะมือที่สามซะแล้ว (ชีวิตรักช่างลำบากดีแท้) ส่วนคู่พี่อาร์ทกับหมูหวาน ปอแก้วอยากให้หมูหวานมาเป็นหมูในอวยรักของพี่อาร์ทเหมือนกันค่ะ แต่คงต้องผ่านอุปสรรคของทั้งพี่มิ้นท์และพี่พีนอดีตคนรักเก่าของทั้งคู่ด้วยน่ะสิคะ หนทางของคุู่นี้ก็ลำบากเช่นกัน ช่วยติดตามต่อด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆเลยค่ะ ปอแก้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ^^

คุณ WallyValent : ผู้หญิงของชิษวัศใครก็อย่าคิดจะมาแตะ 555 ปล. บอกให้ไปเปิดศึกกับหนูมุกเองไง ไม่รู้ป่านนี้พี่อาร์มจามไปถึงไหนแล้ว เอาชื่อเค้ามาใช้เนี่ย 55555

คุณ violette : ตอนหน้าน่ารักและปากหวานได้มากกว่านี้อีกค่ะ อิอิอิ ส่วนพี่อาร์ท...พี่แกไม่มีทีท่าที่จะหวั่นเกรงต่อสิ่งใดเลยค่ะ แน่วแน่กับคุณอาจารย์มากๆ!!

คุณ pattisa : ได้ทีแล้วเอาใหญ่จริงๆค่ะ ไม่กงไม่เก๊กมันแล้ว 5555

คุณ anOO : ตอนนี้พี่อาร์ทคงต้องมาปรึกษาพี่อาร์มแล้วล่ะค่ะ ชีวิตรักจะได้สดใสสดชื่นบ้างอะไรบ้าง ดีใจมากเลยค่ะที่คุณ anOO ชมว่าพี่อาร์มน่ารัก แต่พออ่านตอนนี้ไม่รู้ว่าจะขอเก็บคำว่าน่ารักคืนหรือเปล่านะคะ T T แต่ปอแก้วรับรองว่าพี่อาร์มน่ารัก (และเจ้าเล่ห์) ได้มากกว่านี้จริงๆค่ะ

คุณ mookisme : พี่อาร์มน่ารักใช่ม้าาาา?? ตอนหน้าน่ารักได้อีกนะ 55 ตอนนี้ขัดใจกับทวิดาร์ไปก่อนละกัน :)






ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.พ. 2555, 09:02:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.พ. 2555, 14:59:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1888





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 16   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 18 >>
anOO 18 ก.พ. 2555, 13:24:14 น.
พี่อาร์มยังน่ารักอยู่ค่ะ
บางครั้งผู้ชายก็มักลืมคิดไปว่าแฟนเก่าที่กลับมาเป็นเพื่อนกัน
แฟนคนปัจจุบันจะทำใจยอมรับยากสักหน่อย แต่ตอนนี้ประทับใจพี่อาร์ทมากกว่า


nunoi 18 ก.พ. 2555, 13:55:16 น.
พี่อาร์ม รีบมาง้อหนูมุก เร็วๆ นะคะ


pattisa 18 ก.พ. 2555, 21:19:48 น.
อั่ยย่ะ อยากจะตบให้เลือดกบปากยัยมิ้นท์ สวยเเต่รูปจูบไม่หอมจิงๆ ขอให้นายพีรัชทิ้ง


violette 18 ก.พ. 2555, 22:50:14 น.
สู้ๆนะคะ คุณปอแก้ว รอดูว่านายอาร์มกับอิจาอาร์ทจะทำยังไงต่อ (ชื่อเรียกก็แบ่งชนชั้นสุดๆ ฮ่าๆๆๆ


teesaparn 21 ก.พ. 2555, 11:49:37 น.
หายไปเสียนานเลย ปิ๊กมาส่งกำลังใจ๋หื้อแล้วเจ้า รอผ่ออ้ายอาร์มตวย^^


tutas 25 ก.พ. 2555, 16:17:53 น.
ไม่ได้อ่านมาตั้งนานมานั่งอ่านทีเดียวรวดเลยค่ะ ชอบพี่อาร์ทจังเลย ^__^


Amata 27 ก.พ. 2555, 11:56:17 น.
ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ ติดไว้ก่อนนะคะ ^__^'


roseolar 18 มี.ค. 2555, 12:36:50 น.
อร๊ายยยย ^////^
ตกหลุมรักพี่อาร์ทจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วววววว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account