พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก
ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 18
เอาตอนใหม่มาลงค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ทิ้งคอมเมนท์คุยกันและกดไลค์ให้กำลังใจนะคะ
ขอติดคอมเมนท์ตอนที่แล้วไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาตอบทีหลังน้าาาาา ช่วงนี้วุ่นวายและเหนื่อยมากค่ะ =_='
แล้วพบกันตอนหน้า ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ ชอบไม่ชอบบอกกันได้น้าาาาา น้อมรับคำติ-ชม ค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 18: หนึ่งคำรัก
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสีขาวเครื่องบางถูกเปลี่ยนหน้าต่างโปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆเมื่อเจ้าของเครื่องยังหาเว็บไซต์ที่ถูกใจไม่ได้ มุกตาภาถอนหายใจออกมาเนือยๆ เหลือบมองเวลาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว และถ้าเธอนับหนึ่งถึงสิบแล้วชิษวัศยังไม่ยอมโทรมาก็อย่าหวังว่าคืนนี้เธอจะตื่นขึ้นมารับสายของเขาเลย
“หนึ่ง...” ยังไม่ทันจะนับสอง หน้าจอโทรศัพท์มือถือสีขาวก็สว่างวาบขึ้นเป็นรูปภาพซึ่งเธอขอร้องกึ่งบังคับจนได้รูปคู่ระหว่างเธอกับชิษวัศก่อนที่จะกลับมาจากหัวหิน โดยในภาพหญิงสาวนั้นมียิ้มกว้างแต้มเต็มใบหน้าหากชิษวัศกลับยิ้มเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
มุกตาภารอให้โทรศัพท์ส่งเสียงร้องและสั่นไปสักพักหนึ่ง ไม่ยอมที่กดรับสายทันทีเพราะอยากแกล้งให้คนปลายสายได้รอเสียบ้าง เขาจะได้รู้ว่าเธอรอโทรศัพท์จากเขาด้วยความรู้สึกเช่นไร หากพอหญิงสาวจะกดรับเสียงเรียกเข้าก็หยุดลงพร้อมๆกับสายโทรเข้าของชิษวัศที่กลายเป็น ‘Missed call’
“พี่อาร์ม!!” มุกตาภาเรียกชื่อเจ้าของเบอร์ด้วยความหงุดหงิด เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เธอยังเล่นไปไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำแต่อีกฝ่ายดันชิงตัดสายไปเสียก่อน ถ้าชิษวัศไม่โทรกลับมาอีกครั้ง พรุ่งนี้เธอจะไม่พูดกับเขาทั้งวันเลยคอยดู
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมปรากฏรูปและชื่อของชิษวัศขึ้นมาเพื่อบอกว่าคนที่เธอกำลังรอนั้นโทรเข้ามา คราวนี้มุกตาภาคว้าโทรศัพท์มารับสายอย่างรวดเร็วจนคนที่อยู่ที่ด้านหนึ่งของสัญญาณอดที่จะล้อขึ้นมาไม่ได้
“รอบนี้รับเร็วนะครับ เหมือนกำลังรอให้พี่โทรหาอีกครั้งเลยนะ”
มุกตาภาตวัดค้อนให้โทรศัพท์ การที่เขารีบวางในครั้งแรกก่อนจะโทรมาอีกครั้งเพราะต้องการแบบนี้เองสินะ แล้วเธอก็ก้าวพลาดตกหลุมพรางของชิษวัศเสียทั้งตัว
“ก็มุกหลับไปแล้ว ตื่นมารับไม่ทันนี่คะ” หญิงสาวโกหกคำโต ขืนบอกออกไปว่าเธอยังไม่หลับชิษวัศคงได้หาว่าเธออดตาหลับขับตานอนรอโทรศัพท์จากเขาอยู่เป็นแน่
“หนูมุกหลับทั้งๆที่ไฟห้องน้องยังสว่างอยู่เลยเนี่ยนะ”
มุกตาภายันตัวลุงขึ้นพรวดทันทีที่ชิษวัศพูดจบ สมองสั่งการให้ก้าวเดินไปยังหน้าต่างที่อยู่ฝั่งเดียวกับประตูรั้วก่อนจะแง้มเปิดผ้าม่านออกนิดหนึ่ง แล้วก็จริงดังคาดเมื่อดวงตาคู่สวยมองเห็น Lexus LS460L สีดำปราบพร้อมกับเจ้าของของมันที่ยืนพิงประตูด้านคนขับโดยที่สายตาของเขากำลังจ้องมองมายังห้องนอนของเธอ
...มาได้ยังไงเนี่ย!!...
“ขับรถมาสิครับ เหนื่อยมากเลย”
มุกตาภาเผลอย่นจมูกให้คนที่ริอาจอ่านใจเธอได้อย่างแม่นยำเสียหนึ่งที ผิดนัดเธอแล้วยังจะมาทำเสียงอ้อน แบบนี้มันน่านัก!
“ถ้ารู้ว่าขับมาจะเหนื่อยแล้วจะขับมาทำไมคะ”
“หัวใจมันเรียกร้องให้มานี่ครับ”
คราวนี้หญิงสาวอมยิ้มกับคำหวานของชิษวัศ ถึงจะบอกว่าเชื่อใจแต่เธอก็ยอมรับว่าโกรธชิษวัศเหมือนกันที่ผิดนัดแรกของการเป็นแฟนแล้วไปดูแลแฟนเก่าอย่างนี้ กับแค่คำหวานคำสองคำไม่ทำให้เธอหายโกรธได้หรอก
“แล้วพี่อาร์มมาทำไม”
“ขอเข้าไปคุยในบ้านได้ไหม พี่โดนยุงกัดไปทั้งตัวแล้วนะ”
“รู้ว่าจะโดนยุงกัดแล้วก็ยังจะมานะคะ” ถึงจะฟังดูเหมือนไล่แต่ใจจริงมุกตาภานั้นเป็นห่วงอีกฝ่ายมากกว่า เพราะรู้ดีว่าชิษวัศนั้นแพ้ยุงมาก คนปกติถ้าโดนยุงกัดก็จะเป็นแค่ตุ่มแดงๆ แต่พ่อคนผิวบางคนนี้เวลาโดนยุงกัดหรือมดกัดล่ะก็จะกลายเป็นปื้นแดงๆวงใหญ่เชียว
“ก็พี่อยากเห็นหน้านี่ครับ ไม่ได้เหรอ”
“พรุ่งนี้ก็เจอกันนี่คะ พี่อาร์มไม่น่าจะลำบากมาเลย วันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวัน”
“ถ้าหนูมุกจะใจดีเปิดประตูรับพี่เข้าบ้านจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ”
มุกตาภาแง้มผ้าม่านมองดูคนที่ยืนตากยุงรออีกทีก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนังเรือนสวยที่บอกเวลาว่าขณะนี้ได้ล่วงเลยเข้าวันใหม่ไปเรียบร้อย ถ้าเธอเปิดประตูรับชิษวัศเข้ามามันจะดูน่าเกลียดไปหรือไม่เพราะปกติจะมีป้าแม่บ้านกับคุณลุงคนสวนอยู่ด้วยแต่ตอนนี้ทั้งคุณลุงคุณป้าขอลาหยุดเพื่อไปงานแต่งงานของลูกสาวที่ต่างจังหวัดทั้งบ้านจึงเหลือเพียงเพียงเธออยู่แค่คนเดียว
“พี่อาร์ม...นี่ก็ดึกแล้วนะคะ ที่สำคัญมุกอยู่บ้านคนเดียวด้วย มันไม่เหมาะเท่าไหร่นะคะ” หญิงสาวตัดสินใจปฏิเสธอย่างอ้อมๆ
“แต่พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ บอกป้านิ่มไปแล้วด้วยว่าไม่ต้องเก็บอาหารไว้เผื่อพี่ ไอ้เราก็อุตส่าห์ขับรถจะมาขอฝากท้องแต่ก็โดนไล่ให้กลับบ้าน จะมีใครโชคร้ายเหมือนพี่บ้าง” ชิษวัศโอดเสียงอ่อนผ่านสัญญาณโทรศัพท์
“ก็ได้ค่ะ...แต่มุกก็มีแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นนะคะ” และแล้วมุกตาภาก็ยอมใจอ่อนรับคำขอร้องจากชิษวัศจนได้ จะมีครั้งไหนไหมนะที่เธอจะปฏิเสธผู้ชายคนนี้ได้อย่างเด็ดขาด
“แค่นั้นก็พอครับ” ชิษวัศบอกพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะตัดสายสนทนาลง ชายหนุ่มยืนรอเพียงครู่หนึ่งประตูรั้วก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเจ้าของบ้านที่สวมเสื้อคลุมนอนตัวยาว
“คิดถึงมากๆเลยครับ” ประโยคแรกของคำทักทายทำเอามุกตาภาหน้าร้อนวูบ ไม่ได้นึกคิดมาก่อนว่าชิษวัศจะทักทายด้วยคำพูดที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงอย่างนี้
“ถึงจะปากหวานแต่มุกก็ทำให้ได้แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะคะ” แม้หัวใจจะเต้นแรงแต่หญิงสาวก็แสร้งปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้ราบเรียบพร้อมๆกับก้าวนำผู้มาเยือนในยามวิกาลให้เข้ามาในบริเวณตัวบ้าน
“ไม่เป็นไรครับ ขอแค่เป็นฝีมือหนูมุก อะไรก็อร่อยทั้งนั้น” ชิษวัศหยอดคำหวานเสียอีกหนึ่งประโยคก่อนจะทรุดตัวลงนั่นบนโซฟาภายในห้องรับแขกของบ้านคนรัก
มุกตาภาอดไม่ได้ที่จะย่นจมูกใส่คนที่จู่ๆก็ปากหวานอย่างหมั่นไส้ มาอีหรอบนี้แสดงว่าคงพอรู้ตัวว่าทำผิดที่เบี้ยวนัดเธอถึงได้หยอดทั้งคำพูดทั้งสายตาเสียหวานเยิ้มขนาดนี้
“นั่งรออยู่ตรงนั้นเฉยๆเลยนะคะ เดี๋ยวมุกทำมาให้” เจ้าของบ้านสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดแต่มีหรือที่คนอย่างชิษวัศจะยอม ร่างสูงทำท่าว่าจะลุกขึ้นแล้วเดินตามร่างบางเข้าไปในครัว หากก็ต้องชะงักค้างเมื่อคนที่เดินนำไปก่อนรู้ตัวและหันหน้ากลับมาสั่งเสียงเฉียบ
“กลับไปนั่งเดี๋ยวนี้เลยนะพี่อาร์ม นั่งเฉยๆด้วย ห้ามซน ไม่อย่างนั้นมุกจะไม่ต้มบะหมี่มาให้กินแล้วก็ไล่พี่อาร์มกลับบ้าน”
“แต่พี่อยากช่วย” ชิษวัศบอกเสียงอ่อนเมื่อถูกอีกฝ่ายจับไต๋ได้ว่าจะเข้าไปก่อกวนเธอในครัว
“ช่วยนั่งเฉยๆดีกว่าค่ะ พี่อาร์มเข้าครัวทีไรมุกวุ่นวายทุกที”
“รับทราบแล้วครับ” บอกพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตามเดิม ดวงตาคู่คมสีนิลมองร่างบางที่เดินหายเข้าไปในครัวอย่างใช้ความคิด เรื่องที่เขาผิดนัดเธอคือเรื่องหนึ่งที่ชายหนุ่มต้องขอโทษ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ชิษวัศตัดสินใจแล้วว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องบอกมุกตาภาให้ได้ซึ่งก็คือเรื่องภารกิจของคุณปู่แฝด ไม่ต้องเดาล่วงหน้าก็รู้ว่าถ้ามุกตาภารู้เรื่องนี้ขึ้นมาหญิงสาวต้องโกรธเขามากแน่ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องบอกให้เธอรับรู้ไว้และพยายามอธิบายให้เธอเข้าใจว่าการที่เขาเลือกที่จะรักเธอ เหตุผลหลักมันไม่ได้มาจากภารกิจหาหลานสะใภ้นั่นเลย ที่เขารักเธอเป็นเพราะหัวใจดวงนี้มันบอกให้รักเธอ ไม่ได้รักเธอเพราะกลัวที่จะแพ้ในเกมรักเกมนี้
...แต่ยังไงเขาก็แพ้ไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้หนูมุกเข้าใจ รู้จากปากเขาน่ะดีที่สุดแล้ว ดีว่าให้เธอรู้จากคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะยุ่งไปกันใหญ่...
“พี่อาร์ม” เสียงเรียกของเจ้าของบ้านทำเอาแขกในยามวิกาลที่กำลังคิดอะไรเพลินๆสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย ชิษวัศเงยหน้าขึ้นมามองคนรักที่ออกมาจากครัวพร้อมๆกับชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีควันสีขาวๆลอยอยู่ด้านบนส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก
“คิดอะไรอยู่คะ” มุกตาภาถามพร้อมกับวางชามบะหมี่ไว้บนโต๊ะรับแขกตัวกลางด้านหน้าของชิษวัศก่อนที่ร่างบางจะทรุดตัวนั่งบนโซฟาตัวข้างๆกัน
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ชิษวัศสบตาหญิงสาวตรงๆตามด้วยรอยยิ้มประจบ “แต่ขอกินก่อนนะครับ หิวมากเลย”
“แค่มาม่าพี่อาร์มกลับไปให้ป้านิ่มทำให้กินก็ได้นะคะ ไม่เห็นต้องลำบากมาถึงนี่เลย จากโรงพยาบาลมาบ้านมุกไหนจะขับกลับบ้านพี่อาร์มอีกมันคนละทางกันเลยนะคะ เหนื่อยเปล่าๆ”
ชิษวัศที่กำลังกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อยเงยหน้าขึ้นมามองคนที่บ่นเป็นยายแก่ตั้งแต่เขารั้นที่จะเข้ามาขอฝากท้องตอนเลยเที่ยงคืน รู้อยู่ว่าหญิงสาวเป็นห่วง แต่บ่นมากๆเหมือนไม่อยากเจอหน้าอย่างนี้เขาเองก็น้อยใจเป็นเหมือนกัน
“ไม่อยากเจอหน้าพี่หรือครับ” คำเสียงอ่อยๆกับแววตาเศร้าๆทำเอาคนที่บ่นมาตั้งแต่มีแขกมาเยือนบ้านไปต่อไม่เป็นอยู่พักใหญ่ ใครว่าเธอไม่อยากเจอหน้าเขาเล่า ที่พูดไปอย่างนั้นเพราะเป็นห่วงต่างหากไม่ใช่ต้องการจะไล่ให้เขากลับไปอะไรเลย
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” มุกตาภารีบปฏิเสธ
“แต่คำพูดของหนูมุกมันหมายความว่าอย่างนั้นชัดๆ” แต่คนที่จู่ๆเกิดอยากจะขี้งอนขึ้นมากลับไม่ยอมฟัง
“ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย” มุกตาภาปฏิเสธอีกครั้ง ความจริงฝ่ายชิษวัศต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเรื่องราวมันถึงกลับตาลปัตรกลายเป็นเธอที่ต้องเป็นฝ่ายง้องอนเขาไปได้เล่า!
“พี่เข้าใจว่าอย่างนั้นนี่”
“คนแก่ขี้งอน เดี๋ยวมุกก็ไม่รักเลยนะ”
ชิษวัศปรายสายตามองมุกตาภาที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะลุกขึ้นยืนและก้มลงไปล็อคร่างบางให้อยู่ในอ้อมแขนทั้งสองข้าง ริมฝีปากหยักลึกกระซิบเบาๆที่ข้างหูหญิงสาว
“ไม่รักจริงๆหรือครับ” เสียงทุ้มที่กระซิบบางเบาอยู่ข้างหูทำเอาหัวใจดวงน้อยเต็มไม่เป็นส่ำ อยากจะเลี่ยงให้พ้นก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้เธอตกอยู่ภายในพันธนาการของอ้อมแขนกว้างไม่สามารถที่จะต่อต้านได้เลย
“ถ้าพี่อาร์มยังแกล้งกันอยู่อย่างนี้มุกจะไม่รักจริงๆ” หากมุกตาภายังคงยืนยันคำเดิมแม้จะรู้ตัวดีว่าตนเองเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เพราะขืนปล่อยให้ชิษวัศได้ใจไปมากกว่าก็ไม่รู้ว่าเขาจะเจ้าเล่ห์ใส่เธออีกสักกี่มากน้อย
“จะไม่รักจริงๆหรือ” คราวนี้ริมฝีปากหยักลึกที่อยู่ริมใบหูของหญิงสาวเลื่อนมายังพวงแก้มใสก่อนจะประทับรอยลงไปแม้เจ้าของจะเบี่ยงหลบเป็นพัลวันแล้วก็ตาม
“รู้แล้วค่ะรู้แล้ว” สุดท้ายคนที่โดนเอาเปรียบก็ยอมยกธงขาวยอมแพ้ เมื่อเห็นว่าคนเจ้าเล่ห์ทำท่าว่าจะไม่หยุดเพียงแค่แก้มของเธอเป็นแน่
"มุกรักพี่อาร์ม พอใจหรือยังคนเจ้าเล่ห์”
ชิษวัศหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะยอมผละออกจากร่างหอมกรุ่นกลับมานั่งบนโซฟาตัวเดิมตามติดด้วยการจัดการบะหมี่ที่เหลืออยู่อีกครึ่งชาม
“อร่อยหรือเปล่าคะ”
“อร่อยครับ” ตอบพร้อมกับใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่เข้าปากอีกหนึ่งคำ
“แค่บะหมี่ธรรมดาก็อร่อยเหรอคะ”
“ขอแค่ฝีมือหนูมุกอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละครับ อิ่มทั้งท้อง...อิ่มทั้งใจ”
“หยอดคำหวานอีกแล้วนะคะ
ชิษวัศวางตะเกียบไว้บนชามเมื่อจัดการบะหมี่หมดเรียบร้อยก่อนจะหันมายิ้มกว้างใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”
“ว่าแล้ว” มุกตาภาลากเสียงยาว กะไว้อยู่แล้วว่าถ้าชิษวัศได้หยอดคำหวานเรื่อยๆอย่างนี้ต้องมีแผนแน่ แล้วครั้งนี้คงทำเพื่อเป็นใบเบิกทางเรื่องที่เขาผิดนัดเธอวันนี้
“ที่พูดจาหวานๆนี่กะให้มุกหายโกรธเรื่องเมื่อตอนค่ำใช่มั้ย”
“สรุปว่าโกรธใช่ไหมเนี่ย” ชิษวัศจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย มุกตาภาเสหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะไม่อยากให้เขารับรู้ว่าที่แท้ความจริงในใจ...เธอโกรธกับเรื่องราวครั้งนี้จริงๆ
ชายหนุ่มเอื้อมมือทั้งสองมาจับไหล่ของหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาจับบนศีรษะของมุกตาภาเบาๆ รอยยิ้มอ่อนละมุนปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เป็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นของพี่อาร์ม
“ว่ายังไงครับ โกรธพี่ใช่ไหม”
มุกตาภาเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิดซึ่งแทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่เลยเมื่อเจอรอยยิ้มพิฆาตจากชิษวัศ แล้วแบบนี้จะให้เธอทำอย่างไรนอกจากยอมรับไปตรงๆกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ
“นิดหน่อยค่ะ”
“เรื่องเฟลอร์หรือ”
มุกตาภาพยักหน้ารับ หลุบตาลงต่ำเพราะรู้สึกว่าตัวเองแย่มากที่เชื่อใจชิษวัศไม่มากพอ และยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เมื่อตัวเองมีความคิดว่าผู้หญิงที่แสนดีอย่างพี่เฟลอร์กำลังจะแย่งพี่อาร์มไปจากเธอ
“พี่กับเฟลอร์เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นครับ ไม่ว่าอดีตพี่กับเฟลอร์จะเคยเป็นอะไรกัน แต่เวลานี้หนูมุกคือคนรักของพี่...ไม่ใช่เฟลอร์”
แม้ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นจะทำให้มุกตาภาคลายความกังวลลงไปบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ลึกๆในหัวใจเธอยังรู้สึกกลัว เธอกลัวทวิดาร์...ผู้หญิงคนนั้นทั้งสวยทั้งสง่าดูดีกว่าเด็กกะโปโลอย่างเธอหลายเท่านัก
“พี่เฟลอร์สวยออกค่ะ” คำพูดของมุกตาภาทำเอาชิษวัศอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือมาบีบปลายจมูกเชิดรั้นนั่นเบาๆ
“ทำไมพูดเหมือนไม่มั่นใจในตัวเองอย่างนั้น”
“ก็...” หญิงสาวชะงักไปนิด ดวงตากลมโตเหลือบมองใบหน้าคมสันนิดหนึ่ง “พี่อาร์มยอมผิดนัดมุกไปดูแลพี่เฟลอร์”
“หนูมุกเลยงอน” ชายหนุ่มย้อนถามกลับ
“มุกไม่ได้งอน...แค่น้อยใจ” คนขี้น้อยใจสารภาพเสียงเบา
ชิษวัศมองคนที่ก้มหน้าก้มตางุดด้วยแววตาเอ็นดูก่อนจะจับมือที่เล็กกว่ามือตัวเองมากุมหลวมๆทว่ามั่นคงไว้ทั้งสองมือ
“เพราะเฟลอร์ไม่มีญาติอยู่ที่นี่เลยครับ เพื่อนที่สนิทก็มีแค่พี่กับนายอาร์ทเท่านั้น ถ้าหนูมุกเป็นพี่...หนูมุกจะทิ้งให้เพื่อนนอนไม่สบายอยู่โรงพยาบาลคนเดียวหรือ”
เมื่อโดนคำถามอย่างนี้มุกตาภาถึงกับขมวดคิ้วมุ่นอย่างใช้ความคิด สมองประมวลผลตามคำพูดของชิษวัศว่าถ้าหากเปลี่ยนจากเขาเป็นเธอและตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เธอจะทำเช่นไร จะใจร้ายปล่อยให้ทวิดาร์ที่ไม่มีใครนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวได้หรือ...เธอจะใจร้ายได้ขนาดนั้นเชียว
“ไม่ค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ “แต่พี่อาร์มก็น่าจะชวนมุกไปด้วย” หากก็ยังไม่วายตำหนิอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
“เรื่องมันฉุกละหุกน่ะครับ แล้วการนั่งเฝ้าคนป่วยพี่ก็กลัวหนูมุกจะเบื่อ”
“งั้นคราวหน้าพี่อาร์มต้องให้มุกไปเยี่ยมพี่เฟลอร์ด้วย” มุกตาภายื่นคำขาด
“หึงพี่เหรอ” ชิษวัศแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้อาการอย่างนี้ของมุกตาภามันแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าหญิงสาวกำลังหึง อาการที่แต่ก่อนชายหนุ่มมักเบื่อหน่ายทุกครั้งที่เจอผู้หญิงแสดงอาการอย่างนี้ แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่รู้สึกหงุดหงิดใจเหมือนกับคราวที่แล้วๆมาเลย
“ค่ะ...หึง” มุกตาภายอมรับเต็มปากเต็มคำ พร้อมกับยิ้มทะเล้นใส่อีกฝ่าย “เพราะฉะนั้นพี่อาร์มต้องทำตัวน่ารักๆ แล้วก็ดีกับมุกให้มากๆด้วยนะคะ...สัญญา” หญิงสาวยื่นนิ้วก้อยเรียวสวยขึ้นมาตรงหน้าระหว่างตนเองและชิษวัศ
“ครับ...สัญญา” ชิษวัศยื่นนิ้วก้อยของตัวเองมาเกี่ยวกับนิ้วเรียวสวยของอีกฝ่าย โยกไปมาเหมือนครั้งที่เคยทำเมื่อสมัยเด็ก
“หนูมุก”
“คะ?” หญิงสาวรับคำพร้อมกับเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นท่าทีของชิษวัศว่าเหมือนมีอะไรจะพูดกับเธอ
“พี่มีอีกเรื่องนึงอยากจะบอกหนูมุกไว้”
“ค่ะ เรื่องอะไรล่ะคะ” มุกตาภายิ้มรับพร้อมที่จะรับฟังในสิ่งที่ชิษวัศต้องการจะพูด
ชายหนุ่มถอนหายออกยาวเหยียด ใจหนึ่งก็อยากบอกภารกิจของคุณปู่แฝดให้หญิงสาวได้รู้ แต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าถ้าบอกไป มุกตาภาอาจจะโกรธแล้วจะไม่ยอมมองหน้ากันอีกหรือเปล่า...แต่เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะบอก ยังไงเขาก็ต้องบอก เป็นไงเป็นกันสิน่า!
“ถ้าพี่บอกไปสัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธ” ถึงจะบอกตัวเองว่าเป็นไงเป็นกันแต่ชิษวัศก็ยังมีข้อแม้เพื่อกันปัญหาที่จะตามมา
มุกตาภากลอกตาไปมา ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงอย่างใช้ความคิดก่อนจะตอบว่า
“ไม่สัญญาค่ะ แต่มุกจะฟังเหตุผลจากพี่อาร์ม” หญิงสาวเลือกที่จะปฏิเสธคำขอร้องของชิษวัศ เพราะเขาจะพูดจะบอกเรื่องอะไรเธอก็ยังไม่รู้ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ผิดต่อเธอ แล้วจะให้สัญญาว่าจะไม่โกรธได้อย่างไรกัน
“งั้นก็ได้ครับ พี่จะพูดแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลตามที่ขอ ชายหนุ่มจึงบอกกล่าวกันก่อนว่ากำลังจะบอกเล่าเรื่องราว
“ค่ะ” มุกตาภายิ้มกว้างพร้อมกับพยักหน้ารับ
“คือว่าคุณปู่แฝดของพี่ท่านขี้เหงาน่ะครับ เลยคิดเกมให้พวกพี่กับน้องๆเล่นโดยมีกติกาว่า...ก่อนปีใหม่พี่กับน้องๆต้องหาหลานเขยหลานสะใภ้ไปกราบคุณปู่ครับ ถ้าทำไม่ได้พวกพี่จะโดนคุณปู่ถอดจากตำแหน่งผู้บริหาร ต้องชดใช้เงินให้คุณปู่ 20 ล้าน โดนท่านยึดหุ้น 5% จากทุกบริษัทในเครือ อสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นชื่อพี่และน้องทุกคนคุณปู่จะยึดคืนหมดครับ พี่คิดว่าตอนนี้หนูมุกเป็นแฟนของพี่ และในอนาคต...เอ่อ...หนูมุกอาจจะเป็นหลานสะใภ้ของคุณปู่ พี่เลยอยากบอกให้รู้ไว้”
ชิษวัศบอกรายละเอียดทั้งหมดให้มุกตาภารับรู้เกี่ยวกับภารกิจตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ของคุณปู่แฝดรวมทั้งบทลงโทษถ้าบรรดาหลานชายหลานสาวสุดที่รักทำภารกิจไม่สำเร็จที่ไม่ได้บอกก็มีเพียงแค่รางวัลที่ชิษวัศและน้องๆจะได้รับถ้าทำภารกิจสำเร็จว่ามันมากมายขนาดไหน
ชายหนุ่มเหลือบมองร่างบางที่นั่งนิ่งไปตั้งแต่เขาพูดจบอย่างนึกหวั่นใจ เพราะการที่มุกตาภานิ่งเงียบอย่างนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีเลย ชิษวัศยอมให้เธอลุกขึ้นมาโมโหใส่กันมากกว่าที่จะเงียบสนิทไม่พูดไม่จาอย่างนี้ เห็นแล้วมันรู้สึกวังเวงหนาวๆที่สันหลังอย่างไรชอบกล รู้สึกราวกับว่าความเงียบที่เกิดขึ้นคือสัญญาณบ่งบอกว่าพายุลูกใหญ่กำลังมา
“หนูมุก...อย่างเงียบอย่างนี้ได้ไหม” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขอร้องเสียงอ่อน มุกตาภาเงยหน้าขึ้นสบมองดวงตาสีนิลที่ทรงพลังและมีอำนาจ
“พี่อาร์มเลยยอมที่คบมุกใช่ไหม”
“ไม่ใช่!” ชิษวัศรีบปฏิเสธออกมาเสียงดัง “พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น คนอย่างพี่ไม่ใช่ใครก็ได้ที่พี่จะรู้สึกดีหรือยอมเปิดใจให้ หนูมุกก็รู้ไม่ใช่หรือ” ดวงตาสีนิลที่ทรงอำนาจทอดมองดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มด้วยแววตาอ่อนหวาน สายตาที่ต้องการบอกกับหญิงสาวว่าเขามีสายตาอย่างนี้ไว้มองเธอเพียงแค่คนเดียว
“แต่พี่อาร์มก็ไม่อยากที่จะต้องเสียทุกอย่างไป ถ้าไม่ใช่มุก พี่อาร์มก็ต้องหาคนอื่นมาเป็นคนรักอยู่ดี” มุกตาภายังคงเถียง ก็มันจริงไม่ใช่หรอกหรือ...ชิษวัศที่เธอรู้จักไม่มีวันที่ยอมเสียตำแหน่งในหน้าที่การงานที่เขาทั้งรักทั้งทุ่มเทไปแน่
“ถ้าพี่ไม่เจอคนที่ถูกใจ คนที่พี่คิดว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขาจนพี่ทำตามสิ่งที่คุณปู่ต้องการไม่ได้แล้วถูกยึดสมบัติจนไม่เหลือซักสตางค์แดงเดียวพี่ก็ไม่สน! พี่ไม่ใช่คนที่จะหาใครก็ได้มาบอกว่าผู้หญิงคนนี้คือคนรักของพี่เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ถึงหนูมุกจะไม่เชื่อแต่ก็ไม่มีสิทธิจะมาดูถูกความรักของพี่” เมื่อเจออีกฝ่ายรวนเข้าใส่แล้วทำท่าว่าจะไม่ยอมเข้าใจในสิ่งที่ตนเองพูด ชิษวัศก็เริ่มมีอารมณ์โกรธกรุ่นขึ้นมาบ้าง
มุกตาภาสะบัดหน้าใส่อีกฝ่าย ปลายจมูกเชิดรั้นเริ่มแดงขึ้นนิดๆพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่เริ่มมีน้ำใสๆเอ่อคลอ น้ำเสียงที่เคยหวานใสบัดนี้กลับตอบโต้คำพูดของชิษวัศกลับไปด้วยเสียงที่สั่นเทา
“ก็มุกจะคิดของมุกอย่างนี้ ถ้าพี่อาร์มยังยืนยันว่าไม่ใช่ใครก็ได้พี่อาร์มก็บอกมุกมาสิคะว่าทำไมต้องเป็นมุก พี่อาร์มยอมผิดข้อห้ามของตัวเองมาเลือกมุกทำไม!”
“ก็เพราะรักยังไงเล่า!!” คำรักที่หลุดออกจากปากอย่างไม่ได้ตั้งใจนั้นแทบทำให้โลกหยุดหมุน เวลาหยุดเดินไปชั่วครู่ ทั้งผู้พูดและผู้ฟังเองได้แต่นั่งจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีฝ่ายใดเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมา
“เมื่อกี้...พี่อาร์มพูดว่าอะไร” หากก็เป็นมุกตาภาที่ได้สติก่อนที่จะเอ่ยปากถามไปอีกครั้งกับคำพูดที่ชิษวัศหลุดปากไปเมื่อครู่
และเมื่อถูกทัก...ชิษวัศก็เริ่มรู้สึกตัว แม้จะตกลงคบหากันเป็นคนรู้ใจ แต่ก็ยังไม่เคยเลยสักครั้งที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากบอกว่ารัก...ทั้งที่ความจริงแล้วหัวใจดวงนี้มันบอกว่ารักเธอไปแล้วทั้งหัวใจ
“พี่อาร์ม...” มุกตาภาเอื้อมมือมาแตะบริเวณหลังมือของอีกฝ่าย “เมื่อกี้พี่อาร์มพูดว่าอะไร”
ทั้งรอยยิ้ม สายตาและสัมผัสของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับมีประจุไฟฟ้าแล่นอยู่ทั่วร่าง หัวใจที่ไม่ได้เต้นผิดจังหวะมานานกลับเต้นโครมครามอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ ไอ้อาการหน้าร้อนที่คนส่วนใหญ่เรียกว่าเขินกลับเป็นอาการที่ชิษวัศกำลังรู้สึกว่าตัวเองเป็นอาการนั้นอยู่ ณ เวลานี้
“บอกว่า...รักครับ ที่พี่เลือกเพราะว่า...พี่รักหนูมุก”
คำสามคำที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องอยากฟังจากปากคนที่ตนเองรักคือคำสามคำที่หลุดออกมาจากปากของชิษวัศ มุกตาภายิ้มกว้างรับคำเหล่านั้นก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตบริเวณแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ
“ก็แค่นี้”
รอยยิ้มและแววตาของผู้กำชับชนะคือสิ่งที่ชายหนุ่มเห็นได้จากผู้หญิงตรงหน้า รอยสัมผัสที่เธอฝากไว้เมื่อครู่ยังคงติดตรึงอยู่ที่ข้างแก้ม ชิษวัศหรี่ตามองคนรักอย่างใช้ความคิด...อย่าบอกนะว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นมุกตาภาที่แกล้งทำท่าทีว่าโกรธเพื่อที่จะต้อนให้เขาบอกคำรัก!
“แผนของหนูมุกใช่ไหม” เมื่อเห็นอีกฝ่ายรู้ตัวมุกตาภาจึงยิ้มแต่กลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ผิดค่ะ”
“แล้วแผนของใคร”
“คุณปู่พี่อาร์มไงคะ”
“คุณปู่พี่!” ชิษวัศย้อนถามราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“ใช่ค่ะ...แผนของคุณปู่รันกับคุณปู่ริน” มุกตาภาบอกพร้อมกับปล่อยหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นสีหน้าของชิษวัศที่งงเป็นไก่ตาแตกจับต้นชนความกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ แน่ล่ะ...พี่อาร์มของเธอไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่าไอ้เรื่องภารกิจของคุณปู่แฝดน่ะเธอรู้มาหมดแล้ว แถมยังรู้จากปากของคนที่มอบหมายภารกิจนี้เสียด้วย!
...บอกมุกช้าไปแล้วค่ะพี่อาร์ม!!...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พี่อาร์ม...โดนดักซะบ้างงงงงงงงง หึหึหึ
ปล. คำผิดตรงไหนขอโทษไว้ ณ ที่นี้นะคะ -/\-
**ตอบเมนท์จ้าาาา**
คุณ anOO : พี่อาร์มเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ ผู้ชายชอบคิดว่ามันไม่มีอะไรแต่ผู้หญิงชอบคิดมากค่ะ
คุณ nunoi : พี่อาร์มมาง้อแล้วนะคะ
คุณ pattisa : พี่มิ้นท์ร้ายจริงๆค่ะ แต่พี่พีนก็ยังยอมทิ้งหมูหวานไปคบกับเธอ ใจร้ายจริงๆเลย
คุณ violette : แบ่งชนชั้นกันสุดๆไปเลยล่ะค่ะ พี่อาร์ทดูท่าทางว่างานจะเข้ามากกว่าพี่อาร์มซะแล้ว
คุณ teesaparn : ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ช่วงนี้ปอแก้วก็ยุ่งๆ แต่ก็ยังตามอ่านคุณชลอยู่นะคะ อิอิ
คุณ tutas : คิดถึงคุณ tutas เหมือนกันค่ะ ดีใจที่ยังไม่ลืมกันน้าาาา ดีใจที่ชอบนะคะ
คุณ Amata : ไม่เป็นไรจ้า แค่เอากำลังมาวางให้กันก็ปลื้มมากแล้ววววว ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ
ขอติดคอมเมนท์ตอนที่แล้วไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาตอบทีหลังน้าาาาา ช่วงนี้วุ่นวายและเหนื่อยมากค่ะ =_='
แล้วพบกันตอนหน้า ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ ชอบไม่ชอบบอกกันได้น้าาาาา น้อมรับคำติ-ชม ค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 18: หนึ่งคำรัก
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสีขาวเครื่องบางถูกเปลี่ยนหน้าต่างโปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆเมื่อเจ้าของเครื่องยังหาเว็บไซต์ที่ถูกใจไม่ได้ มุกตาภาถอนหายใจออกมาเนือยๆ เหลือบมองเวลาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว และถ้าเธอนับหนึ่งถึงสิบแล้วชิษวัศยังไม่ยอมโทรมาก็อย่าหวังว่าคืนนี้เธอจะตื่นขึ้นมารับสายของเขาเลย
“หนึ่ง...” ยังไม่ทันจะนับสอง หน้าจอโทรศัพท์มือถือสีขาวก็สว่างวาบขึ้นเป็นรูปภาพซึ่งเธอขอร้องกึ่งบังคับจนได้รูปคู่ระหว่างเธอกับชิษวัศก่อนที่จะกลับมาจากหัวหิน โดยในภาพหญิงสาวนั้นมียิ้มกว้างแต้มเต็มใบหน้าหากชิษวัศกลับยิ้มเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
มุกตาภารอให้โทรศัพท์ส่งเสียงร้องและสั่นไปสักพักหนึ่ง ไม่ยอมที่กดรับสายทันทีเพราะอยากแกล้งให้คนปลายสายได้รอเสียบ้าง เขาจะได้รู้ว่าเธอรอโทรศัพท์จากเขาด้วยความรู้สึกเช่นไร หากพอหญิงสาวจะกดรับเสียงเรียกเข้าก็หยุดลงพร้อมๆกับสายโทรเข้าของชิษวัศที่กลายเป็น ‘Missed call’
“พี่อาร์ม!!” มุกตาภาเรียกชื่อเจ้าของเบอร์ด้วยความหงุดหงิด เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เธอยังเล่นไปไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำแต่อีกฝ่ายดันชิงตัดสายไปเสียก่อน ถ้าชิษวัศไม่โทรกลับมาอีกครั้ง พรุ่งนี้เธอจะไม่พูดกับเขาทั้งวันเลยคอยดู
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมปรากฏรูปและชื่อของชิษวัศขึ้นมาเพื่อบอกว่าคนที่เธอกำลังรอนั้นโทรเข้ามา คราวนี้มุกตาภาคว้าโทรศัพท์มารับสายอย่างรวดเร็วจนคนที่อยู่ที่ด้านหนึ่งของสัญญาณอดที่จะล้อขึ้นมาไม่ได้
“รอบนี้รับเร็วนะครับ เหมือนกำลังรอให้พี่โทรหาอีกครั้งเลยนะ”
มุกตาภาตวัดค้อนให้โทรศัพท์ การที่เขารีบวางในครั้งแรกก่อนจะโทรมาอีกครั้งเพราะต้องการแบบนี้เองสินะ แล้วเธอก็ก้าวพลาดตกหลุมพรางของชิษวัศเสียทั้งตัว
“ก็มุกหลับไปแล้ว ตื่นมารับไม่ทันนี่คะ” หญิงสาวโกหกคำโต ขืนบอกออกไปว่าเธอยังไม่หลับชิษวัศคงได้หาว่าเธออดตาหลับขับตานอนรอโทรศัพท์จากเขาอยู่เป็นแน่
“หนูมุกหลับทั้งๆที่ไฟห้องน้องยังสว่างอยู่เลยเนี่ยนะ”
มุกตาภายันตัวลุงขึ้นพรวดทันทีที่ชิษวัศพูดจบ สมองสั่งการให้ก้าวเดินไปยังหน้าต่างที่อยู่ฝั่งเดียวกับประตูรั้วก่อนจะแง้มเปิดผ้าม่านออกนิดหนึ่ง แล้วก็จริงดังคาดเมื่อดวงตาคู่สวยมองเห็น Lexus LS460L สีดำปราบพร้อมกับเจ้าของของมันที่ยืนพิงประตูด้านคนขับโดยที่สายตาของเขากำลังจ้องมองมายังห้องนอนของเธอ
...มาได้ยังไงเนี่ย!!...
“ขับรถมาสิครับ เหนื่อยมากเลย”
มุกตาภาเผลอย่นจมูกให้คนที่ริอาจอ่านใจเธอได้อย่างแม่นยำเสียหนึ่งที ผิดนัดเธอแล้วยังจะมาทำเสียงอ้อน แบบนี้มันน่านัก!
“ถ้ารู้ว่าขับมาจะเหนื่อยแล้วจะขับมาทำไมคะ”
“หัวใจมันเรียกร้องให้มานี่ครับ”
คราวนี้หญิงสาวอมยิ้มกับคำหวานของชิษวัศ ถึงจะบอกว่าเชื่อใจแต่เธอก็ยอมรับว่าโกรธชิษวัศเหมือนกันที่ผิดนัดแรกของการเป็นแฟนแล้วไปดูแลแฟนเก่าอย่างนี้ กับแค่คำหวานคำสองคำไม่ทำให้เธอหายโกรธได้หรอก
“แล้วพี่อาร์มมาทำไม”
“ขอเข้าไปคุยในบ้านได้ไหม พี่โดนยุงกัดไปทั้งตัวแล้วนะ”
“รู้ว่าจะโดนยุงกัดแล้วก็ยังจะมานะคะ” ถึงจะฟังดูเหมือนไล่แต่ใจจริงมุกตาภานั้นเป็นห่วงอีกฝ่ายมากกว่า เพราะรู้ดีว่าชิษวัศนั้นแพ้ยุงมาก คนปกติถ้าโดนยุงกัดก็จะเป็นแค่ตุ่มแดงๆ แต่พ่อคนผิวบางคนนี้เวลาโดนยุงกัดหรือมดกัดล่ะก็จะกลายเป็นปื้นแดงๆวงใหญ่เชียว
“ก็พี่อยากเห็นหน้านี่ครับ ไม่ได้เหรอ”
“พรุ่งนี้ก็เจอกันนี่คะ พี่อาร์มไม่น่าจะลำบากมาเลย วันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวัน”
“ถ้าหนูมุกจะใจดีเปิดประตูรับพี่เข้าบ้านจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ”
มุกตาภาแง้มผ้าม่านมองดูคนที่ยืนตากยุงรออีกทีก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนังเรือนสวยที่บอกเวลาว่าขณะนี้ได้ล่วงเลยเข้าวันใหม่ไปเรียบร้อย ถ้าเธอเปิดประตูรับชิษวัศเข้ามามันจะดูน่าเกลียดไปหรือไม่เพราะปกติจะมีป้าแม่บ้านกับคุณลุงคนสวนอยู่ด้วยแต่ตอนนี้ทั้งคุณลุงคุณป้าขอลาหยุดเพื่อไปงานแต่งงานของลูกสาวที่ต่างจังหวัดทั้งบ้านจึงเหลือเพียงเพียงเธออยู่แค่คนเดียว
“พี่อาร์ม...นี่ก็ดึกแล้วนะคะ ที่สำคัญมุกอยู่บ้านคนเดียวด้วย มันไม่เหมาะเท่าไหร่นะคะ” หญิงสาวตัดสินใจปฏิเสธอย่างอ้อมๆ
“แต่พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ บอกป้านิ่มไปแล้วด้วยว่าไม่ต้องเก็บอาหารไว้เผื่อพี่ ไอ้เราก็อุตส่าห์ขับรถจะมาขอฝากท้องแต่ก็โดนไล่ให้กลับบ้าน จะมีใครโชคร้ายเหมือนพี่บ้าง” ชิษวัศโอดเสียงอ่อนผ่านสัญญาณโทรศัพท์
“ก็ได้ค่ะ...แต่มุกก็มีแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นนะคะ” และแล้วมุกตาภาก็ยอมใจอ่อนรับคำขอร้องจากชิษวัศจนได้ จะมีครั้งไหนไหมนะที่เธอจะปฏิเสธผู้ชายคนนี้ได้อย่างเด็ดขาด
“แค่นั้นก็พอครับ” ชิษวัศบอกพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะตัดสายสนทนาลง ชายหนุ่มยืนรอเพียงครู่หนึ่งประตูรั้วก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเจ้าของบ้านที่สวมเสื้อคลุมนอนตัวยาว
“คิดถึงมากๆเลยครับ” ประโยคแรกของคำทักทายทำเอามุกตาภาหน้าร้อนวูบ ไม่ได้นึกคิดมาก่อนว่าชิษวัศจะทักทายด้วยคำพูดที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงอย่างนี้
“ถึงจะปากหวานแต่มุกก็ทำให้ได้แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะคะ” แม้หัวใจจะเต้นแรงแต่หญิงสาวก็แสร้งปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้ราบเรียบพร้อมๆกับก้าวนำผู้มาเยือนในยามวิกาลให้เข้ามาในบริเวณตัวบ้าน
“ไม่เป็นไรครับ ขอแค่เป็นฝีมือหนูมุก อะไรก็อร่อยทั้งนั้น” ชิษวัศหยอดคำหวานเสียอีกหนึ่งประโยคก่อนจะทรุดตัวลงนั่นบนโซฟาภายในห้องรับแขกของบ้านคนรัก
มุกตาภาอดไม่ได้ที่จะย่นจมูกใส่คนที่จู่ๆก็ปากหวานอย่างหมั่นไส้ มาอีหรอบนี้แสดงว่าคงพอรู้ตัวว่าทำผิดที่เบี้ยวนัดเธอถึงได้หยอดทั้งคำพูดทั้งสายตาเสียหวานเยิ้มขนาดนี้
“นั่งรออยู่ตรงนั้นเฉยๆเลยนะคะ เดี๋ยวมุกทำมาให้” เจ้าของบ้านสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดแต่มีหรือที่คนอย่างชิษวัศจะยอม ร่างสูงทำท่าว่าจะลุกขึ้นแล้วเดินตามร่างบางเข้าไปในครัว หากก็ต้องชะงักค้างเมื่อคนที่เดินนำไปก่อนรู้ตัวและหันหน้ากลับมาสั่งเสียงเฉียบ
“กลับไปนั่งเดี๋ยวนี้เลยนะพี่อาร์ม นั่งเฉยๆด้วย ห้ามซน ไม่อย่างนั้นมุกจะไม่ต้มบะหมี่มาให้กินแล้วก็ไล่พี่อาร์มกลับบ้าน”
“แต่พี่อยากช่วย” ชิษวัศบอกเสียงอ่อนเมื่อถูกอีกฝ่ายจับไต๋ได้ว่าจะเข้าไปก่อกวนเธอในครัว
“ช่วยนั่งเฉยๆดีกว่าค่ะ พี่อาร์มเข้าครัวทีไรมุกวุ่นวายทุกที”
“รับทราบแล้วครับ” บอกพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตามเดิม ดวงตาคู่คมสีนิลมองร่างบางที่เดินหายเข้าไปในครัวอย่างใช้ความคิด เรื่องที่เขาผิดนัดเธอคือเรื่องหนึ่งที่ชายหนุ่มต้องขอโทษ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ชิษวัศตัดสินใจแล้วว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องบอกมุกตาภาให้ได้ซึ่งก็คือเรื่องภารกิจของคุณปู่แฝด ไม่ต้องเดาล่วงหน้าก็รู้ว่าถ้ามุกตาภารู้เรื่องนี้ขึ้นมาหญิงสาวต้องโกรธเขามากแน่ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องบอกให้เธอรับรู้ไว้และพยายามอธิบายให้เธอเข้าใจว่าการที่เขาเลือกที่จะรักเธอ เหตุผลหลักมันไม่ได้มาจากภารกิจหาหลานสะใภ้นั่นเลย ที่เขารักเธอเป็นเพราะหัวใจดวงนี้มันบอกให้รักเธอ ไม่ได้รักเธอเพราะกลัวที่จะแพ้ในเกมรักเกมนี้
...แต่ยังไงเขาก็แพ้ไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้หนูมุกเข้าใจ รู้จากปากเขาน่ะดีที่สุดแล้ว ดีว่าให้เธอรู้จากคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะยุ่งไปกันใหญ่...
“พี่อาร์ม” เสียงเรียกของเจ้าของบ้านทำเอาแขกในยามวิกาลที่กำลังคิดอะไรเพลินๆสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย ชิษวัศเงยหน้าขึ้นมามองคนรักที่ออกมาจากครัวพร้อมๆกับชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีควันสีขาวๆลอยอยู่ด้านบนส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก
“คิดอะไรอยู่คะ” มุกตาภาถามพร้อมกับวางชามบะหมี่ไว้บนโต๊ะรับแขกตัวกลางด้านหน้าของชิษวัศก่อนที่ร่างบางจะทรุดตัวนั่งบนโซฟาตัวข้างๆกัน
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ชิษวัศสบตาหญิงสาวตรงๆตามด้วยรอยยิ้มประจบ “แต่ขอกินก่อนนะครับ หิวมากเลย”
“แค่มาม่าพี่อาร์มกลับไปให้ป้านิ่มทำให้กินก็ได้นะคะ ไม่เห็นต้องลำบากมาถึงนี่เลย จากโรงพยาบาลมาบ้านมุกไหนจะขับกลับบ้านพี่อาร์มอีกมันคนละทางกันเลยนะคะ เหนื่อยเปล่าๆ”
ชิษวัศที่กำลังกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อยเงยหน้าขึ้นมามองคนที่บ่นเป็นยายแก่ตั้งแต่เขารั้นที่จะเข้ามาขอฝากท้องตอนเลยเที่ยงคืน รู้อยู่ว่าหญิงสาวเป็นห่วง แต่บ่นมากๆเหมือนไม่อยากเจอหน้าอย่างนี้เขาเองก็น้อยใจเป็นเหมือนกัน
“ไม่อยากเจอหน้าพี่หรือครับ” คำเสียงอ่อยๆกับแววตาเศร้าๆทำเอาคนที่บ่นมาตั้งแต่มีแขกมาเยือนบ้านไปต่อไม่เป็นอยู่พักใหญ่ ใครว่าเธอไม่อยากเจอหน้าเขาเล่า ที่พูดไปอย่างนั้นเพราะเป็นห่วงต่างหากไม่ใช่ต้องการจะไล่ให้เขากลับไปอะไรเลย
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” มุกตาภารีบปฏิเสธ
“แต่คำพูดของหนูมุกมันหมายความว่าอย่างนั้นชัดๆ” แต่คนที่จู่ๆเกิดอยากจะขี้งอนขึ้นมากลับไม่ยอมฟัง
“ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย” มุกตาภาปฏิเสธอีกครั้ง ความจริงฝ่ายชิษวัศต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเรื่องราวมันถึงกลับตาลปัตรกลายเป็นเธอที่ต้องเป็นฝ่ายง้องอนเขาไปได้เล่า!
“พี่เข้าใจว่าอย่างนั้นนี่”
“คนแก่ขี้งอน เดี๋ยวมุกก็ไม่รักเลยนะ”
ชิษวัศปรายสายตามองมุกตาภาที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะลุกขึ้นยืนและก้มลงไปล็อคร่างบางให้อยู่ในอ้อมแขนทั้งสองข้าง ริมฝีปากหยักลึกกระซิบเบาๆที่ข้างหูหญิงสาว
“ไม่รักจริงๆหรือครับ” เสียงทุ้มที่กระซิบบางเบาอยู่ข้างหูทำเอาหัวใจดวงน้อยเต็มไม่เป็นส่ำ อยากจะเลี่ยงให้พ้นก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้เธอตกอยู่ภายในพันธนาการของอ้อมแขนกว้างไม่สามารถที่จะต่อต้านได้เลย
“ถ้าพี่อาร์มยังแกล้งกันอยู่อย่างนี้มุกจะไม่รักจริงๆ” หากมุกตาภายังคงยืนยันคำเดิมแม้จะรู้ตัวดีว่าตนเองเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เพราะขืนปล่อยให้ชิษวัศได้ใจไปมากกว่าก็ไม่รู้ว่าเขาจะเจ้าเล่ห์ใส่เธออีกสักกี่มากน้อย
“จะไม่รักจริงๆหรือ” คราวนี้ริมฝีปากหยักลึกที่อยู่ริมใบหูของหญิงสาวเลื่อนมายังพวงแก้มใสก่อนจะประทับรอยลงไปแม้เจ้าของจะเบี่ยงหลบเป็นพัลวันแล้วก็ตาม
“รู้แล้วค่ะรู้แล้ว” สุดท้ายคนที่โดนเอาเปรียบก็ยอมยกธงขาวยอมแพ้ เมื่อเห็นว่าคนเจ้าเล่ห์ทำท่าว่าจะไม่หยุดเพียงแค่แก้มของเธอเป็นแน่
"มุกรักพี่อาร์ม พอใจหรือยังคนเจ้าเล่ห์”
ชิษวัศหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะยอมผละออกจากร่างหอมกรุ่นกลับมานั่งบนโซฟาตัวเดิมตามติดด้วยการจัดการบะหมี่ที่เหลืออยู่อีกครึ่งชาม
“อร่อยหรือเปล่าคะ”
“อร่อยครับ” ตอบพร้อมกับใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่เข้าปากอีกหนึ่งคำ
“แค่บะหมี่ธรรมดาก็อร่อยเหรอคะ”
“ขอแค่ฝีมือหนูมุกอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละครับ อิ่มทั้งท้อง...อิ่มทั้งใจ”
“หยอดคำหวานอีกแล้วนะคะ
ชิษวัศวางตะเกียบไว้บนชามเมื่อจัดการบะหมี่หมดเรียบร้อยก่อนจะหันมายิ้มกว้างใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”
“ว่าแล้ว” มุกตาภาลากเสียงยาว กะไว้อยู่แล้วว่าถ้าชิษวัศได้หยอดคำหวานเรื่อยๆอย่างนี้ต้องมีแผนแน่ แล้วครั้งนี้คงทำเพื่อเป็นใบเบิกทางเรื่องที่เขาผิดนัดเธอวันนี้
“ที่พูดจาหวานๆนี่กะให้มุกหายโกรธเรื่องเมื่อตอนค่ำใช่มั้ย”
“สรุปว่าโกรธใช่ไหมเนี่ย” ชิษวัศจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย มุกตาภาเสหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะไม่อยากให้เขารับรู้ว่าที่แท้ความจริงในใจ...เธอโกรธกับเรื่องราวครั้งนี้จริงๆ
ชายหนุ่มเอื้อมมือทั้งสองมาจับไหล่ของหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาจับบนศีรษะของมุกตาภาเบาๆ รอยยิ้มอ่อนละมุนปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เป็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นของพี่อาร์ม
“ว่ายังไงครับ โกรธพี่ใช่ไหม”
มุกตาภาเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิดซึ่งแทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่เลยเมื่อเจอรอยยิ้มพิฆาตจากชิษวัศ แล้วแบบนี้จะให้เธอทำอย่างไรนอกจากยอมรับไปตรงๆกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ
“นิดหน่อยค่ะ”
“เรื่องเฟลอร์หรือ”
มุกตาภาพยักหน้ารับ หลุบตาลงต่ำเพราะรู้สึกว่าตัวเองแย่มากที่เชื่อใจชิษวัศไม่มากพอ และยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เมื่อตัวเองมีความคิดว่าผู้หญิงที่แสนดีอย่างพี่เฟลอร์กำลังจะแย่งพี่อาร์มไปจากเธอ
“พี่กับเฟลอร์เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นครับ ไม่ว่าอดีตพี่กับเฟลอร์จะเคยเป็นอะไรกัน แต่เวลานี้หนูมุกคือคนรักของพี่...ไม่ใช่เฟลอร์”
แม้ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นจะทำให้มุกตาภาคลายความกังวลลงไปบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ลึกๆในหัวใจเธอยังรู้สึกกลัว เธอกลัวทวิดาร์...ผู้หญิงคนนั้นทั้งสวยทั้งสง่าดูดีกว่าเด็กกะโปโลอย่างเธอหลายเท่านัก
“พี่เฟลอร์สวยออกค่ะ” คำพูดของมุกตาภาทำเอาชิษวัศอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือมาบีบปลายจมูกเชิดรั้นนั่นเบาๆ
“ทำไมพูดเหมือนไม่มั่นใจในตัวเองอย่างนั้น”
“ก็...” หญิงสาวชะงักไปนิด ดวงตากลมโตเหลือบมองใบหน้าคมสันนิดหนึ่ง “พี่อาร์มยอมผิดนัดมุกไปดูแลพี่เฟลอร์”
“หนูมุกเลยงอน” ชายหนุ่มย้อนถามกลับ
“มุกไม่ได้งอน...แค่น้อยใจ” คนขี้น้อยใจสารภาพเสียงเบา
ชิษวัศมองคนที่ก้มหน้าก้มตางุดด้วยแววตาเอ็นดูก่อนจะจับมือที่เล็กกว่ามือตัวเองมากุมหลวมๆทว่ามั่นคงไว้ทั้งสองมือ
“เพราะเฟลอร์ไม่มีญาติอยู่ที่นี่เลยครับ เพื่อนที่สนิทก็มีแค่พี่กับนายอาร์ทเท่านั้น ถ้าหนูมุกเป็นพี่...หนูมุกจะทิ้งให้เพื่อนนอนไม่สบายอยู่โรงพยาบาลคนเดียวหรือ”
เมื่อโดนคำถามอย่างนี้มุกตาภาถึงกับขมวดคิ้วมุ่นอย่างใช้ความคิด สมองประมวลผลตามคำพูดของชิษวัศว่าถ้าหากเปลี่ยนจากเขาเป็นเธอและตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เธอจะทำเช่นไร จะใจร้ายปล่อยให้ทวิดาร์ที่ไม่มีใครนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวได้หรือ...เธอจะใจร้ายได้ขนาดนั้นเชียว
“ไม่ค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ “แต่พี่อาร์มก็น่าจะชวนมุกไปด้วย” หากก็ยังไม่วายตำหนิอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
“เรื่องมันฉุกละหุกน่ะครับ แล้วการนั่งเฝ้าคนป่วยพี่ก็กลัวหนูมุกจะเบื่อ”
“งั้นคราวหน้าพี่อาร์มต้องให้มุกไปเยี่ยมพี่เฟลอร์ด้วย” มุกตาภายื่นคำขาด
“หึงพี่เหรอ” ชิษวัศแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้อาการอย่างนี้ของมุกตาภามันแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าหญิงสาวกำลังหึง อาการที่แต่ก่อนชายหนุ่มมักเบื่อหน่ายทุกครั้งที่เจอผู้หญิงแสดงอาการอย่างนี้ แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่รู้สึกหงุดหงิดใจเหมือนกับคราวที่แล้วๆมาเลย
“ค่ะ...หึง” มุกตาภายอมรับเต็มปากเต็มคำ พร้อมกับยิ้มทะเล้นใส่อีกฝ่าย “เพราะฉะนั้นพี่อาร์มต้องทำตัวน่ารักๆ แล้วก็ดีกับมุกให้มากๆด้วยนะคะ...สัญญา” หญิงสาวยื่นนิ้วก้อยเรียวสวยขึ้นมาตรงหน้าระหว่างตนเองและชิษวัศ
“ครับ...สัญญา” ชิษวัศยื่นนิ้วก้อยของตัวเองมาเกี่ยวกับนิ้วเรียวสวยของอีกฝ่าย โยกไปมาเหมือนครั้งที่เคยทำเมื่อสมัยเด็ก
“หนูมุก”
“คะ?” หญิงสาวรับคำพร้อมกับเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นท่าทีของชิษวัศว่าเหมือนมีอะไรจะพูดกับเธอ
“พี่มีอีกเรื่องนึงอยากจะบอกหนูมุกไว้”
“ค่ะ เรื่องอะไรล่ะคะ” มุกตาภายิ้มรับพร้อมที่จะรับฟังในสิ่งที่ชิษวัศต้องการจะพูด
ชายหนุ่มถอนหายออกยาวเหยียด ใจหนึ่งก็อยากบอกภารกิจของคุณปู่แฝดให้หญิงสาวได้รู้ แต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าถ้าบอกไป มุกตาภาอาจจะโกรธแล้วจะไม่ยอมมองหน้ากันอีกหรือเปล่า...แต่เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะบอก ยังไงเขาก็ต้องบอก เป็นไงเป็นกันสิน่า!
“ถ้าพี่บอกไปสัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธ” ถึงจะบอกตัวเองว่าเป็นไงเป็นกันแต่ชิษวัศก็ยังมีข้อแม้เพื่อกันปัญหาที่จะตามมา
มุกตาภากลอกตาไปมา ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงอย่างใช้ความคิดก่อนจะตอบว่า
“ไม่สัญญาค่ะ แต่มุกจะฟังเหตุผลจากพี่อาร์ม” หญิงสาวเลือกที่จะปฏิเสธคำขอร้องของชิษวัศ เพราะเขาจะพูดจะบอกเรื่องอะไรเธอก็ยังไม่รู้ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ผิดต่อเธอ แล้วจะให้สัญญาว่าจะไม่โกรธได้อย่างไรกัน
“งั้นก็ได้ครับ พี่จะพูดแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลตามที่ขอ ชายหนุ่มจึงบอกกล่าวกันก่อนว่ากำลังจะบอกเล่าเรื่องราว
“ค่ะ” มุกตาภายิ้มกว้างพร้อมกับพยักหน้ารับ
“คือว่าคุณปู่แฝดของพี่ท่านขี้เหงาน่ะครับ เลยคิดเกมให้พวกพี่กับน้องๆเล่นโดยมีกติกาว่า...ก่อนปีใหม่พี่กับน้องๆต้องหาหลานเขยหลานสะใภ้ไปกราบคุณปู่ครับ ถ้าทำไม่ได้พวกพี่จะโดนคุณปู่ถอดจากตำแหน่งผู้บริหาร ต้องชดใช้เงินให้คุณปู่ 20 ล้าน โดนท่านยึดหุ้น 5% จากทุกบริษัทในเครือ อสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นชื่อพี่และน้องทุกคนคุณปู่จะยึดคืนหมดครับ พี่คิดว่าตอนนี้หนูมุกเป็นแฟนของพี่ และในอนาคต...เอ่อ...หนูมุกอาจจะเป็นหลานสะใภ้ของคุณปู่ พี่เลยอยากบอกให้รู้ไว้”
ชิษวัศบอกรายละเอียดทั้งหมดให้มุกตาภารับรู้เกี่ยวกับภารกิจตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ของคุณปู่แฝดรวมทั้งบทลงโทษถ้าบรรดาหลานชายหลานสาวสุดที่รักทำภารกิจไม่สำเร็จที่ไม่ได้บอกก็มีเพียงแค่รางวัลที่ชิษวัศและน้องๆจะได้รับถ้าทำภารกิจสำเร็จว่ามันมากมายขนาดไหน
ชายหนุ่มเหลือบมองร่างบางที่นั่งนิ่งไปตั้งแต่เขาพูดจบอย่างนึกหวั่นใจ เพราะการที่มุกตาภานิ่งเงียบอย่างนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีเลย ชิษวัศยอมให้เธอลุกขึ้นมาโมโหใส่กันมากกว่าที่จะเงียบสนิทไม่พูดไม่จาอย่างนี้ เห็นแล้วมันรู้สึกวังเวงหนาวๆที่สันหลังอย่างไรชอบกล รู้สึกราวกับว่าความเงียบที่เกิดขึ้นคือสัญญาณบ่งบอกว่าพายุลูกใหญ่กำลังมา
“หนูมุก...อย่างเงียบอย่างนี้ได้ไหม” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขอร้องเสียงอ่อน มุกตาภาเงยหน้าขึ้นสบมองดวงตาสีนิลที่ทรงพลังและมีอำนาจ
“พี่อาร์มเลยยอมที่คบมุกใช่ไหม”
“ไม่ใช่!” ชิษวัศรีบปฏิเสธออกมาเสียงดัง “พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น คนอย่างพี่ไม่ใช่ใครก็ได้ที่พี่จะรู้สึกดีหรือยอมเปิดใจให้ หนูมุกก็รู้ไม่ใช่หรือ” ดวงตาสีนิลที่ทรงอำนาจทอดมองดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มด้วยแววตาอ่อนหวาน สายตาที่ต้องการบอกกับหญิงสาวว่าเขามีสายตาอย่างนี้ไว้มองเธอเพียงแค่คนเดียว
“แต่พี่อาร์มก็ไม่อยากที่จะต้องเสียทุกอย่างไป ถ้าไม่ใช่มุก พี่อาร์มก็ต้องหาคนอื่นมาเป็นคนรักอยู่ดี” มุกตาภายังคงเถียง ก็มันจริงไม่ใช่หรอกหรือ...ชิษวัศที่เธอรู้จักไม่มีวันที่ยอมเสียตำแหน่งในหน้าที่การงานที่เขาทั้งรักทั้งทุ่มเทไปแน่
“ถ้าพี่ไม่เจอคนที่ถูกใจ คนที่พี่คิดว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขาจนพี่ทำตามสิ่งที่คุณปู่ต้องการไม่ได้แล้วถูกยึดสมบัติจนไม่เหลือซักสตางค์แดงเดียวพี่ก็ไม่สน! พี่ไม่ใช่คนที่จะหาใครก็ได้มาบอกว่าผู้หญิงคนนี้คือคนรักของพี่เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ถึงหนูมุกจะไม่เชื่อแต่ก็ไม่มีสิทธิจะมาดูถูกความรักของพี่” เมื่อเจออีกฝ่ายรวนเข้าใส่แล้วทำท่าว่าจะไม่ยอมเข้าใจในสิ่งที่ตนเองพูด ชิษวัศก็เริ่มมีอารมณ์โกรธกรุ่นขึ้นมาบ้าง
มุกตาภาสะบัดหน้าใส่อีกฝ่าย ปลายจมูกเชิดรั้นเริ่มแดงขึ้นนิดๆพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่เริ่มมีน้ำใสๆเอ่อคลอ น้ำเสียงที่เคยหวานใสบัดนี้กลับตอบโต้คำพูดของชิษวัศกลับไปด้วยเสียงที่สั่นเทา
“ก็มุกจะคิดของมุกอย่างนี้ ถ้าพี่อาร์มยังยืนยันว่าไม่ใช่ใครก็ได้พี่อาร์มก็บอกมุกมาสิคะว่าทำไมต้องเป็นมุก พี่อาร์มยอมผิดข้อห้ามของตัวเองมาเลือกมุกทำไม!”
“ก็เพราะรักยังไงเล่า!!” คำรักที่หลุดออกจากปากอย่างไม่ได้ตั้งใจนั้นแทบทำให้โลกหยุดหมุน เวลาหยุดเดินไปชั่วครู่ ทั้งผู้พูดและผู้ฟังเองได้แต่นั่งจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีฝ่ายใดเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมา
“เมื่อกี้...พี่อาร์มพูดว่าอะไร” หากก็เป็นมุกตาภาที่ได้สติก่อนที่จะเอ่ยปากถามไปอีกครั้งกับคำพูดที่ชิษวัศหลุดปากไปเมื่อครู่
และเมื่อถูกทัก...ชิษวัศก็เริ่มรู้สึกตัว แม้จะตกลงคบหากันเป็นคนรู้ใจ แต่ก็ยังไม่เคยเลยสักครั้งที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากบอกว่ารัก...ทั้งที่ความจริงแล้วหัวใจดวงนี้มันบอกว่ารักเธอไปแล้วทั้งหัวใจ
“พี่อาร์ม...” มุกตาภาเอื้อมมือมาแตะบริเวณหลังมือของอีกฝ่าย “เมื่อกี้พี่อาร์มพูดว่าอะไร”
ทั้งรอยยิ้ม สายตาและสัมผัสของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับมีประจุไฟฟ้าแล่นอยู่ทั่วร่าง หัวใจที่ไม่ได้เต้นผิดจังหวะมานานกลับเต้นโครมครามอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ ไอ้อาการหน้าร้อนที่คนส่วนใหญ่เรียกว่าเขินกลับเป็นอาการที่ชิษวัศกำลังรู้สึกว่าตัวเองเป็นอาการนั้นอยู่ ณ เวลานี้
“บอกว่า...รักครับ ที่พี่เลือกเพราะว่า...พี่รักหนูมุก”
คำสามคำที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องอยากฟังจากปากคนที่ตนเองรักคือคำสามคำที่หลุดออกมาจากปากของชิษวัศ มุกตาภายิ้มกว้างรับคำเหล่านั้นก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตบริเวณแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ
“ก็แค่นี้”
รอยยิ้มและแววตาของผู้กำชับชนะคือสิ่งที่ชายหนุ่มเห็นได้จากผู้หญิงตรงหน้า รอยสัมผัสที่เธอฝากไว้เมื่อครู่ยังคงติดตรึงอยู่ที่ข้างแก้ม ชิษวัศหรี่ตามองคนรักอย่างใช้ความคิด...อย่าบอกนะว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นมุกตาภาที่แกล้งทำท่าทีว่าโกรธเพื่อที่จะต้อนให้เขาบอกคำรัก!
“แผนของหนูมุกใช่ไหม” เมื่อเห็นอีกฝ่ายรู้ตัวมุกตาภาจึงยิ้มแต่กลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ผิดค่ะ”
“แล้วแผนของใคร”
“คุณปู่พี่อาร์มไงคะ”
“คุณปู่พี่!” ชิษวัศย้อนถามราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“ใช่ค่ะ...แผนของคุณปู่รันกับคุณปู่ริน” มุกตาภาบอกพร้อมกับปล่อยหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นสีหน้าของชิษวัศที่งงเป็นไก่ตาแตกจับต้นชนความกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ แน่ล่ะ...พี่อาร์มของเธอไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่าไอ้เรื่องภารกิจของคุณปู่แฝดน่ะเธอรู้มาหมดแล้ว แถมยังรู้จากปากของคนที่มอบหมายภารกิจนี้เสียด้วย!
...บอกมุกช้าไปแล้วค่ะพี่อาร์ม!!...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พี่อาร์ม...โดนดักซะบ้างงงงงงงงง หึหึหึ
ปล. คำผิดตรงไหนขอโทษไว้ ณ ที่นี้นะคะ -/\-
**ตอบเมนท์จ้าาาา**
คุณ anOO : พี่อาร์มเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ ผู้ชายชอบคิดว่ามันไม่มีอะไรแต่ผู้หญิงชอบคิดมากค่ะ
คุณ nunoi : พี่อาร์มมาง้อแล้วนะคะ
คุณ pattisa : พี่มิ้นท์ร้ายจริงๆค่ะ แต่พี่พีนก็ยังยอมทิ้งหมูหวานไปคบกับเธอ ใจร้ายจริงๆเลย
คุณ violette : แบ่งชนชั้นกันสุดๆไปเลยล่ะค่ะ พี่อาร์ทดูท่าทางว่างานจะเข้ามากกว่าพี่อาร์มซะแล้ว
คุณ teesaparn : ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ช่วงนี้ปอแก้วก็ยุ่งๆ แต่ก็ยังตามอ่านคุณชลอยู่นะคะ อิอิ
คุณ tutas : คิดถึงคุณ tutas เหมือนกันค่ะ ดีใจที่ยังไม่ลืมกันน้าาาา ดีใจที่ชอบนะคะ
คุณ Amata : ไม่เป็นไรจ้า แค่เอากำลังมาวางให้กันก็ปลื้มมากแล้ววววว ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.พ. 2555, 14:44:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2555, 14:27:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 2088
<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 17 | เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 19 >> |

nunoi 25 ก.พ. 2555, 15:04:03 น.
อ้าว แล้วคุณปู่แฝด ไปบอกหนูมุกตั้งแต่เมื่อไรเนี๊ยะ
หรือว่าเป็นแผนให้หนูมุกมาเจอพี่อาร์มตั้งแต่แรกค่ะ
อ้าว แล้วคุณปู่แฝด ไปบอกหนูมุกตั้งแต่เมื่อไรเนี๊ยะ
หรือว่าเป็นแผนให้หนูมุกมาเจอพี่อาร์มตั้งแต่แรกค่ะ

anOO 25 ก.พ. 2555, 15:37:40 น.
หนูมุกรู้เรื่องนี้จากคุณปู่ เลยต้องรีบกลับมาหาพี่อาร์ม
ก่อนที่พี่อาร์มจะไปปิ๊งคนอื่นใช่ไหมล่ะ
หนูมุกรู้เรื่องนี้จากคุณปู่ เลยต้องรีบกลับมาหาพี่อาร์ม
ก่อนที่พี่อาร์มจะไปปิ๊งคนอื่นใช่ไหมล่ะ

violette 25 ก.พ. 2555, 22:36:42 น.
555555555
555555555

หมูบูลิน 26 ก.พ. 2555, 00:16:35 น.
คุณปู่นี้แรงใช้ได้เลยค่ะ
คุณปู่นี้แรงใช้ได้เลยค่ะ

teesaparn 27 ก.พ. 2555, 11:52:18 น.
ปู่มีแผนเหมือนกั๋นเนอะ
ปู่มีแผนเหมือนกั๋นเนอะ

Amata 27 ก.พ. 2555, 11:58:36 น.
เอากำลังใจมาแปะไว้ให้ก่อน แล้วจะค่อยๆตามอ่านให้ทันค่ะ ^__^'
เอากำลังใจมาแปะไว้ให้ก่อน แล้วจะค่อยๆตามอ่านให้ทันค่ะ ^__^'

tutas 27 ก.พ. 2555, 14:14:29 น.
ฮ่าๆๆๆๆ พี่อาร์มโดนซ้อนแผน อิอิ
ฮ่าๆๆๆๆ พี่อาร์มโดนซ้อนแผน อิอิ

roseolar 18 มี.ค. 2555, 12:44:18 น.
พีอาร์มบทจะหวานนี่ก็น่ารักไม่เบาเลยน้า
เล่นเอาคนอ่านเขินหน้าแดง กรี๊ดๆอยู่คนเดียวเลย
แต่แอบฮาหนูมุกจริงๆ เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าพี่อาร์มอีกนะเนี่ย
แต่คนที่มาเหนือเมฆต้องยกให้ปู่รันปู่รินต่างหาก ^ ^
พีอาร์มบทจะหวานนี่ก็น่ารักไม่เบาเลยน้า
เล่นเอาคนอ่านเขินหน้าแดง กรี๊ดๆอยู่คนเดียวเลย
แต่แอบฮาหนูมุกจริงๆ เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าพี่อาร์มอีกนะเนี่ย
แต่คนที่มาเหนือเมฆต้องยกให้ปู่รันปู่รินต่างหาก ^ ^