Missing Love
(ภาคต่อของพาย) เมื่อเขาทำรักหายไปจนมาเจอเธอ และเธอตั้งใจพลาดความรักเพื่อความสำเร็จ แล้วเขาจะทำให้เธอหันมาสนใจความรักได้อย่างไร
Tags: พาย แจ็คลีน

ตอน: ML019

Missing Love ตอนที่ 19

สายตาหลายคู่ต่างก็มองไปทางทรงธรรม กาเบรียลกับมิคาเอลต่างก็เป็นห่วง แม้ปกติจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่เพราะวันนี้แจ็คลีนจะไปเชียงใหม่กับทรงธรรม

เขาทั้งคู่ไม่ค่อยไว้ใจเรื่องความปลอดภัยเท่าไรนัก แม้แจ็คลีนจะไปพร้อมผู้ติดตามหกคน

“ทานเสร็จแล้วรีบกลับโรงแรม ถึงโรงแรมแล้วโทรหาพ่อด้วย” กาเบรียลโอบไหล่ลูกสาวเอาไว้ข้างหนึ่ง ขณะที่มิคาเอลโอบเอาไว้อีกข้าง

ต่อให้คนอื่นจะเลี้ยงลูกยังไง แต่เขาพอใจจะเลี้ยงลูกแบบนี้ เขาให้ความรักความอบอุ่นเต็มที่กับลูกสาวคนเดียวของเขา และคอยระวังภัยต่างๆ ที่เขายอมปล่อยให้ลูกสาวไปไหนมาไหนคนเดียว ก็เพราะอยู่ในเมืองที่ปลอดภัย และมีคนติดตามที่ปลอดภัยด้วย

“พอที ลูกแค่ไปเที่ยวเชียงใหม่วันสองวันนะ ทีไปดูไบเป็นอาทิตย์ยังไม่เห็นจะห่วงแบบนี้เลย ลูกอายุยี่สิบสามแล้วนะ อย่าให้ต้องย้ำตอนลูกอายุสามสิบล่ะ ลูกเกลียดเราตาย” พายรีบกอดแขนสามีเอาไว้ให้ปล่อยลูกไป

“รู้แล้วน่า ก็นะ ถึงเชียงใหม่จะเป็นเมืองใหญ่ แต่บ้านนายคนนี้ก็อยู่ในป่าในเขานะ” กาเบรียลแก้ตัวที่ห่วงลูกมากเกินเหตุ แม้จริงๆ เขาหวงลูกสาวมากกว่า

“ให้พี่ไปด้วยไหม พี่กับโจยังไม่เคยไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกันเลยนะ” มิคาเอลคิดแล้วเสนอ เพราะระยะหลังน้องสาวทำตัวห่างเหิน และมักไล่เขาไปอยู่กับภรรยามากกว่า

“ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่กับโจที่นี่แหละดีแล้ว แจ็คแค่ไปเที่ยวบ้านคุณธรรมนะคะ ไม่ได้ไปตั้งแคมป์ ไม่ต้องกลัวอันตรายหรอกค่ะ” แจ็คลีนรีบปลดมือพี่ชายออก

“โธ่! แจ็ค” มิคาเอลทำเสียงตัดพ้อที่น้องสาวไม่ให้ไปด้วย

“เอ้อ จะไปด้วยกันก็ได้นะครับ” ทรงธรรมเห็นว่าทั้งพ่อและพี่ชายเธอ ต่างก็ไม่อยากให้เธอไปกับเขาตามลำพัง

“ไม่ต้อง!” พายตัดบท ก่อนจะพูดกับลูกสาว “ลูกรู้นะ ว่าทุกอย่างที่ปลอดภัย แม่จัดการให้หมดแล้ว แม่หมายถึงทุกอย่างที่ลูกต้องใช้ยามจำเป็นน่ะ เพราะงั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย แล้วก็ไปได้แล้ว พรุ่งนี้เจอกัน”

แจ็คลีนรู้ว่า แม่หมายความว่ายังไง เธอเตรียมตัวพร้อมเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องไปไหนเพียงลำพัง เพราะเธอรู้ว่าเธอเป็นใคร อยู่ในฐานะอะไร ดังนั้นต่อให้คิดว่าที่ที่จะไปปลอดภัย เธอก็ไม่หวั่น เพราะเธอได้รับการฝึกอบรมในการเอาตัวรอดมาอย่างดี

“คุณต้องขับรถให้ดีล่ะ” มิคาเอลจ้องทรงธรรมอย่างเข้มงวด เพราะรู้ว่าทรงธรรมจะขับรถไปสนามบินและขึ้นเครื่องไปพร้อมน้องสาวเขา ขณะที่รถของเจ้าตัวให้ผู้ติดตามของแจ็คลีนสองคน ขับไปส่งให้ที่เชียงใหม่ตั้งแต่เช้ามืดแล้ว

“ครับ” ถึงไม่ชอบที่มีคนอายุน้อยกว่า คอยเตือนเขาเรื่องดูแลน้องสาวของเจ้าตัวยังไง เขาก็ต้องยอมไว้ก่อน เพราะรู้ว่าพี่น้องคู่นี้รักกันมากแค่ไหน ก่อนแต่งงาน...แจ็คลีนยังนอนห้องเดียวกันกับพี่ชายอยู่บ้าง

ถ้าเป็นคนอื่นคงเข้าใจว่าพี่น้องคู่นี้มีอะไรมากกว่า ‘พี่น้อง’ แต่เขารู้เพราะรู้จักครอบครัวนี้มาเจ็ดปี ไม่มีท่าทีแบบนั้นสักครั้ง ท่าทีที่มากกว่าพี่น้องของทั้งสองคน

เขาขับรถพาเธอไปสนามบินอย่างเงียบๆ เมื่อรถออกไปสู่ถนนใหญ่ เขาค่อยถอนหายใจ

“คุณพ่อกับพี่มิคก็อย่างนี้ล่ะค่ะ เป็นห่วงฉันอยู่เรื่อย ทำอย่างกับฉันอายุห้าขวบ แต่ที่ฉันปลอดภัยมาจนทุกวันนี้ก็เพราะความห่วงใยของพวกเขานี่แหละค่ะ” แจ็คลีนพูดเหมือนตำหนิ แต่จริงๆ แล้วชื่นชมพ่อกับพี่ชายมากกว่า

เขาหัวเราะนิดๆ อย่างเอ็นดูเธอ เพราะครอบครัวนี้รักกัน ทำให้เขามีศรัทธากับครอบครัวอีกครั้ง เขาจึงไม่คิดตำหนิพ่อและพี่ชายเธอสักนิด

****************************************


เมื่อเครื่องลงแล้ว เขาก็พาเธอไปยังรถที่อรัญขับมารับ ก่อนจะเห็นช่อดอกไม้ที่อรัญเอามาให้ ก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ก่อนจะรู้ตัวว่าต้องส่งให้แจ็คลีน

“เนียนจริงๆ นะคะ” แจ็คลีนอ่านท่าทางคนได้ไม่ยาก แต่ก็รับมาถือเอาไว้

“ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่” ทรงธรรมแอบกระซิบเธอที่ข้างหู ก่อนจะพากันขึ้นรถไปกับอรัญ โดยมีเบเนดิกซ์กับผู้ติดตามอีกสองคนขับตามมา

เธอพักสายตาบนรถ ก่อนจะเอนศีรษะที่ไหล่เขา ขณะที่ทรงธรรมก็ปล่อยให้เธอซบ แต่เธอก็หัวเราะก่อนบอกเขา “ตามปกติคุณน่าจะยกมือขึ้นโอบไหล่ฉันนะคะ”

“ได้เหรอ” ทรงธรรมมองเธอยกมือขึ้นปิดปาก แล้วหัวเราะได้น่ารักก็โล่งใจ ก่อนกระซิบเบาๆ “เวลาอยู่กับคุณ ผมทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ คงเพราะผมรักคุณมากมั้ง”

แจ็คลีนหัวเรานิดๆ ก่อนพูดกับเขา “อาจเพราะคุณยังไม่รู้จักฉันดีพอก็ได้นะคะ”

ทรงธรรมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที รู้สึกได้ว่าเธอทำลายบรรยากาศดีๆ ไป เขาจึงนั่งนิ่ง แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเธอเข้ามากอดแขนเขา ท่าทางอ้อนๆ ของเธอทำให้เขาถอนหายใจยาว

“มีเรื่องบางอย่างที่ฉันอยากบอกคุณ ก่อนเราจะก้าวไปเรื่อยๆ ด้วยกันนะคะ” แจ็คลีนพูดแล้วเว้นวรรคให้เขาทำใจเล็กน้อย “คุณรู้จักคุณแม่ฉันใช่ไหม ฉันบอกไว้ก่อนนะคะ ฉันน่ะลูกสาวคุณแม่นะ เป็นมากกว่าพี่ชายฉันเสียอีก”

ทรงธรรมค่อยถึงบางอ้อ ก่อนจะยกมือขึ้นโอบไหล่เธอ จากนั้นก็ปล่อยให้เธอเงียบดีกว่า ถ้าคิดมากเรื่องพฤติกรรมแปลกๆ ของเธอหลังจากนี้ เขาคงต้องพิจารณาตัวเองแล้ว

เมื่อเธอลดป้อมปราการที่แข็งแกร่งลง เขาจึงพบเธอในอีกแบบที่แตกต่างกัน ภาพพจน์สงบนิ่งที่แสดงออกในฐานะนักธุรกิจหญิงแทบจะหายไป แต่นิสัยจอมบงการคงยากจะหายไปได้ เพราะงั้นเธอจะเป็นจอมบงการขี้เล่นได้ไม่ต่างจากแม่เธอ

เมื่อถึงบ้าน และรถจอดสนิท เธอก็มองรอบๆ บรรยากาศต้นไม้เขียวขรึม ให้ความรู้สึกสดชื่น ก่อนเธอจะเล่าให้เขาฟัง “บ้านคุณแม่ที่แคลิฟอลร์เนียก็แบบนี้ค่ะ ต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด แต่ด้านหนึ่งติดผาหินที่มีทะเล ทุกเช้าถ้าเปิดหน้าต่าง ก็จะได้ยินเสียงคลื่นซัดฝั่งค่ะ”

“ถ้าเป็นที่นี่ คุณคงได้ยินแต่เสียงแมลงแล้วก็ไม้หักตกพื้นเท่านั้นล่ะครับ” เขาลงจากรถก่อน และดูเหมือนคนสนิทเธอจะรู้หน้าที่ และเปิดประตูให้เจ้านายลงรถ

แจ็คลีนเป็นสาวผมสีทองคนที่สอง ที่ได้มายืนอยู่ในไร่ ทำให้คนงานมองกันเป็นตาเดียว โดยเฉพาะเธอมากับเขา...พ่อเลี้ยงหนุ่มสุดโหด และไม่แสดงท่าทีใจดีเหมือนตอนที่อยู่กับเธอ

“ขึ้นบ้านเถอะครับ ย่าผมคงรออยู่ข้างบน” เขายื่นแขนให้เธอกอดอีกครั้ง ทำให้เธอหัวเราะแต่ก็ยอมทำตาม

กิริยาท่าทางเธอดูน่ารัก ไม่ฉูดฉาดเหมือนหญิงสาวปราดเปรียวทั่วไป ไม่ขี้เล่นเกินเหมือนแม่เธอ แต่ทั้งหมดที่เธอมีทำให้เขารู้สึกได้อย่างแรงกล้า ว่าเขาคงไม่อยากถอนสายตาจากเธอ

เมื่อขึ้นชั้นบน แจ็คลีนก็ปลดมือจากแขนเขา ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ได้สวยงามเรียบร้อย ทันทีที่ได้เห็นย่าของเขา ทำเอาคนสูงวัยมองแล้วชอบใจอยู่ลึกๆ เพราะไม่กระโดกกระเดก

ทรงธรรมกลับไม่โสภาด้วย เพราะแก้วกินรีมาอยู่ที่นี่ในเวลาที่เขาไม่ต้องการ “เธอมาที่นี่ได้ยังไง”

“ฉันกับลิซซี่เอาของมาฝากคุณย่าค่ะ ก็เลยรู้ว่าคุณสั่งเชฟอาหารฝรั่งเศสมาทำอาหารให้ที่บ้าน น่าสนุกนะคะ” แก้วกินรีทำงานโรงแรมและรู้จากเชฟที่โรงแรมว่าต้องมาที่นี่ แล้วเมื่อมาถึง เธอก็ได้รู้ว่าเขาตั้งใจมีมื้อค่ำแสนวิเศษ

“นี่เป็นเรื่องภายในบ้านหลังนี้ เธอพาลิซซี่กลับไปเถอะ” ทรงธรรมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เพราะรู้ว่าคนรักเก่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่

“จริงๆ ก็ไม่เป็นไรนะคะ” แจ็คลีนหันไปพูดกับเขาอย่างมีน้ำใจ

“นั่นสิคะ” แก้วกินรีทำเป็นเห็นด้วย

“ถ้าเธออยากทาน ฉันจะออกเงินให้ แต่ต้องไม่ใช่วันนี้ ฉันเตรียมไว้พิเศษสำหรับสามที่เท่านั้น ไม่ได้เผื่อใครไว้ ของที่เธอจะให้ย่าฉัน ให้แล้วก็กลับได้แล้วล่ะ อย่างที่เห็นเราไม่สะดวกต้อนรับแขกในเวลานี้” ทรงธรรมบอกอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะชวย่าเข้าบ้าน “เริ่มเย็นแล้วเข้าบ้านกันเถอะครับ อรัญส่งแขกให้ด้วย”

แก้วกินรีได้แต่กัดฟันแน่น และพาลูกกลับแต่โดยดี ก่อนกลับเขายังพูดให้เจ็บใจอีก

“อย่ามาที่นี่อีก ถ้าไม่จำเป็น เพราะทุกครั้งที่คุณมา สร้างความเสียหายให้กับชีวิตผมเสมอ” ทรงธรรมพูดอย่างเย็นชา ก่อนพาย่าเข้าด้านใน

เธอออกไปพร้อมลูกสาว ด้วยหวังว่าสักวันจะเป็นวันของเธอบ้าง

ยุพาฟังหลานชายพูดเย็นชาแบบนี้ ให้นึกถึงลูกชาย ก่อนจะเตือนหลานชายนิดๆ “ไม่เห็นต้องพูดแบบนั้นกับแม่แก้วเลยนะ แค่ไล่ไปก็พอแล้วล่ะ”

“ผมอยากให้มันชัดเจน คุณย่าก็รู้ว่าตลอดมา แก้วเกาะติดผมอย่างกับอะไรดี” ทรงธรรมอธิบายให้ย่าฟัง ก่อนพยุงย่านั่งที่เก้าอี้ยาวนวมนุ่ม

“ย่ารู้ เอาเถอะๆ แนะนำแม่หนูคนนี้ให้ย่ารู้จักดีกว่านะ” ยุพาหันไปสนใจหญิงสาว ที่หลานชายลงทุนเชิญเชฟมาทำอาหารให้อย่างละเอียด

สวย...หรูและรู้มาว่าร่ำรวยมาก

“นี่แจ็คลีน ธีโอฟาสเต้ครับ แล้วนี่ก็คุณย่าผม ย่ายุพา” ทรงธรรมแนะนำ และไม่รู้ว่าย่าเขาจะพูดว่าอะไร เรพาะเขาเกริ่นไปแล้ว แต่ย่าเขาเงียบ

“สวัสดีอีกครั้งค่ะ” แจ็คลีนยกมือไหว้อีกครั้งและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“แจ็คลีนเป็นลูกครึ่งครับ พ่อเขาเป็นชาวฝรั่งเศส แม่เขาเป็นคนไทยสัญชาติอเมริกัน ป้าของเขาอยู่ที่เมืองไทยนี่แหละครับ” ทรงธรรมพยายามอธิบายเพื่อลดความอึดอัด

“ใครสอนไหว้จ๊ะ ไหว้ได้ดีกว่าคนไทยเสียอีก” ยุพาถามแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

กาลเวลาเปลี่ยน...คนเราก็เปลี่ยน อดีตของลูกชายนั้นรุนแรง แต่คนที่ค้านหัวชนฝาก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เธอไม่รังเกียจชาวต่างชาติแต่อย่างใด จึงต้อนรับผู้หญิงที่ทำให้หลานชายหลงรักได้อย่างผ่อนคลาย

“คุณป้าค่ะ คุณป้าสอนว่าถึงจะอยู่แล้วเติบโตที่เมืองนอก ก็ต้องพยายามไหว้ให้สวยเรียบร้อย แล้วก็ต้องพยายามพูดไทยให้ชัดที่สุด ถึงจะไม่ค่อยชัดเท่าไรนะคะ แต่ก็พยายามแล้วค่ะ” แจ็คลีนพูดติดตลกในตอนท้าย ทำให้ผู้ใหญ่ประทับใจ แต่ก็ไม่ถึงกับหัวเราะ แต่ก็ยิ้มออก

“ชัดกว่าคนไทยบางคนเสียอีก” ยุพาเผลอพูดถึงเธอราวกับเธอเป็นคนต่างชาติทุกครั้ง เพราะผมสีทองของเธอติดตามากกว่าความเป็นไทยที่มีอยู่

“หนูเป็นคนไทยมากพอๆ กับเป็นคนฝรั่งเศส และเป็นคนอเมริกันด้วยค่ะ หนูรักคุณปู่คุณย่าของหนู เพราะหนูควรรักท่าน ทดแทนกับการที่หนูไม่มีตายายให้รัก ท่านเสียชีวิตก่อนหนูเกิดหลายปีค่ะ แต่มีย่าทวดพุ่ม ท่านเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของครอบครัวคุณแม่มานานค่ะ ท่านเอ็นดูเด็กๆ เสมอ ท่านใจดีแล้วก็มักจะยื่นขนมให้อยู่ตลอด ท่านชอบฟังหนูตีขิมช่วงบ่าย พี่มิคจะสีซอ แล้วพี่ไพรจะตีระนาด เล่นเพลงเบาๆ ให้ท่านยามบ่าย หรือไม่คุณป้าก็จะอ่านขุนช้างขุนแผนบ้าง อ่านวรรณคดีไทยบ้าง ให้ท่านคลายเหงา โอ๊ะโอ! ขอโทษค่ะ ฉันเผลอพูดมากอีกแล้ว ฉันคิดถึงท่านน่ะค่ะ” แจ็คลีนเล่าด้วยความรู้สึกจริงๆ

เธอคิดถึงคุณย่าทวดใจดีที่เคยอยู่ที่บ้านหลังนั้น คอยลูบหลังเหลนๆ ลูบผมเหลนๆ และคอยสอดส่องดูไม่ให้เหลนๆ ตกบันได และเธอยังนึกถึงรอยยิ้มใจดีนั้นเสมอ

“คนรับใช้เก่าแก่เหรอ รู้สึกเหมือนได้ฟังเรื่องของย่าทวดแท้ๆ มากกว่านะจ๊ะ” ยุพาฟังน้ำเสียงออก

“ท่านก็เหมือนคุณย่าทวดแท้ๆ ค่ะ ท่านดูแลคุณตา เป็นแม่นมให้จนโต เรื่องจะคล้ายๆ เรื่องสมัยก่อนค่ะ คุณตาเป็นลูกของภรรยาคนท้ายๆ ของคุณตาทวดอีกที เรื่องก็สลับซับซ้อนจนคุณแม่บอกว่า เรื่องไม่ดีไม่ต้องเล่าจะดีกว่าค่ะ แต่ท่านก็คอยดูแลคุณตา จนแก่เฒ่าก็ไม่ไปไหน แต่ท่านก็ไม่ค่อยได้ขึ้นไปบนเรือนใหญ่เท่าไร ท่านชอบทำครัว เข้าวัดมากกว่า พออายุมาก คุณตาก็ไม่ให้ทำงาน แล้วให้เข้าวัดฟังธรรมตามแบบที่ท่านชอบมากกว่าค่ะ” แจ็คลีนเล่าตามที่รู้ ส่วนที่ไม่รู้เธอก็มองมันให้สวยงามเข้าไว้

“หนูทำงานอะไรจ๊ะ” ยุพาฟังคนออกตัวว่าพูดไทยไม่ชัด พูดได้คล่องปรือก็เพลินดี เห็นสายตาจริงใจก็เพียงพอแล้ว กิริยามารยาทดูเป็นผู้ดีไม่กระโดกกระเดก ทั้งยังดูเป็นธรรมชาติไม่ต้องเสแสร้ง

“หนูบริหารบริษัทกิ่งแก้วอินเวสเม้นต์ภาคพื้นยุโรปค่ะ แล้วก็ดูแลโครงการสินค้าน้ำหอมของบริษัทโซลอนจ์ ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลธีโอฟาสเต้ บริษัทของคุณปู่ค่ะ หนูชอบการลงทุนมากค่ะ” แจ็คลีนเล่าตามจริงและไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองยังไง

“ลงทุน อืม เข้าใจแล้วล่ะ ธรรมก็ชอบเรื่องพวกลงทุนมากเหมือนกัน นอกจากเรื่องในปางไม้ เขาก็ใช้เวลาไปกับการลงทุนเนี่ยแหละ เขาขยัน และคิดว่าหนูก็คงขยันด้วยนะ” ยุพาพูดอย่างเอ็นดู และเริ่มเข้าใจแล้วว่าสองคนนี้สนใจอะไรๆ คล้ายๆ กัน

ทรงธรรมค่อยโล่งใจ เมื่อย่าเขากับเธอพูดคุยกันได้เรื่อยๆ และมีหัวเราะด้วยกันบ้าง จนกระทั่งถึงเวลาอาหาร แจ็คลีนก็ทานอาหารและแนะนำรายชื่ออาหารได้เยอะ ขณะที่ย่าเขาก็แนะนำให้เธอชิมอาหารพื้นเมืองของทางภาคเหนือบ้าง และยังชวนมาทานเมื่อมีโอกาสในวันหลัง

เขาโล่งใจ เมื่อทุกอย่างจบลงอย่างดี ก่อนจะชวนเธอไปเดินเล่นและดูที่พักของเขาที่อยู่กลางไร่

“จริงๆ พื้นที่ของผมจะสุดที่ตรงนั้นถัดไปสักห้าร้อยเมตรได้ เมื่อตอนรัฐยกเลิกสัมปทาน ปู่ผมต้องหาพื้นที่เพิ่มเพื่อเริ่มงานค้าไม้ขึ้นใหม่ ผมจึงเริ่มซื้อที่ที่มีโฉนดที่ถูกต้องและตรวจสอบได้ รอบๆ ที่นี่ ผมชอบความเงียบก็เลยสร้างบ้านตรงนี้ ห่างไกลจากความวุ่นวาย” เขาเล่าและกุมมือเธอเดินมาเรื่อยๆ จนถึงบ้านไม้ยกพื้นสูงหลังง่ายๆ ของเขา

“เหมาะแก่การซุ่มทำร้ายด้วยล่ะค่ะ” แจ็คลีนพูดติดตลก และไม่กลัว เพราะมีเบเนดิกซ์เดินตามมาด้วย

“โธ่! ถึงผมจะมีศัตรูอยู่บ้าง แต่ก็มีปืนนะครับ อีกอย่างตอนนี้ผมอยู่คนเดียว ก็เอาง่ายเข้าไว้” ทรงธรรมเล่า ก่อนชวนเธอขึ้นไปบนบ้าน ด้านหน้ามีเฉลียงกว้างให้นั่งนับแขกได้ “ผมชอบนั่งทำงานตรงนี้นะครับ ลมดี ถ้าไม่มียุง”

“ฉันว่ายุงคงดูดเลือดไปหมด ก่อนจะทำงานเสร็จล่ะค่ะ” แจ็คลีนพูดแล้วก็หัวเราะนิดๆ

เขาและเธอต่างก็พูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีคนมาขัดจังหวะ

“พ่อเลี้ยงครับ ไฟไหม้ในสวนครับ” คนงานเข้ามาเรียก

“เดี๋ยวผมมานะครับ คุณรออยู่ที่นี่ก่อน” ทรงธรรมรีบวิ่งลงเรือนไป ปล่อยเธอเอาไว้กับบอดี้การ์ดส่วนตัว

แจ็คลีนมองเขาวิ่งลงเรือนไปก็มองดูรอบๆ ก่อนจะต้องตกใจ เพราะมีใครออกมาจากบ้าน “ขอโทษค่ะ ฉันคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณธรรมคนเดียวเสียอีก”

“ผมเป็นพ่อของเจ้าธรรมครับ พอดีผมมาเยี่ยม แต่ไม่ได้บอกล่วงหน้า” สุรสีห์ยิ้มให้และมองเธออย่างหลงใหลนอกจากดวงตาสีเข้มแล้ว เขามองทุกอย่างที่เป็นเธอ

หญิงสาวผมสีทองสวมชุดกางเกงดูทะมัดทะแมง แต่กิริยาเป็นผู้หญิงเต็มร้อย เพราะดูอ่อนช้อยเวลาเดินเหิน เขาจ้องมองเธอ มาตั้งแต่เธอมาถึงปางไม้ จนต้องแอบอยู่ในห้องลูกชาย เพื่อให้ได้มองเธอใกล้ๆ อีกครั้ง

“ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้” เขาขยับเข้ามาใกล้ เพื่อสัมผัสเธออีกครั้ง

เบเนดิกซ์เข้ามาขวาง แต่กลับถูกผลักไปให้ไกล “นี่คุณทำอะไรน่ะ”

“เฮ้ย!!” สุรสีห์เรียกพวกมาช่วย มีชายฉกรรจ์อีกห้าคนขึ้นบ้านมา และมีอีกจำนวนหนึ่งรออยู่ด้านล่าง

“พาไปเถอะครับ นาย เดี๋ยวไอ้พ่อเลี้ยงธรรมมาจะเป็นเรื่องนะครับ นาย” ลูกน้องคนหนึ่งพูด

เบเนดิกซ์ฟังอย่างนั้น ก็รีบจับมือเจ้านายเอาไว้ คอยระวังแต่กลับมีอีกคนเข้ามาทางด้านหลังรวบตัวเธอไว้ และเมื่อเธอต่อสู้พ้น ก็มีอีกคนกรูเข้ามา คนแล้วคนเล่า

“อีนี่มันอึดชะมัด!” ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้น

แจ็คลีนหามือถือตัวเอง ก็นึกได้ว่ากดอ่านหนังสือพิมพ์บนรถ แล้วไม่ได้ใส่ไว้ในกระเป๋าตามเดิม “เบน! มือถือ”

เบเนดิกซ์ไม่มีเวลาเสียสมาธิ แต่เมื่อได้ยินก็พยายามหาช่องขว้างมือถือตัวเอง แล้วส่งให้ แต่คราวเคราะห์มาถึง เมื่อโทรศัพท์ที่โยนไปไม่ถึงมือแจ็คลีน แต่อยู่ในมือสุรสีห์แทน

“เสียใจ แถวนี้ไม่สัญญาณ” เขาทิ้งมันลงที่ช่องระหว่างพื้นต่างระดับ ก่อนสั่งลูกน้องให้กรูขึ้นมาจับคน

แจ็คลีนพยายามหาทางหลบ แล้วไม่เข้าไปขวางทางคนสนิท แต่พอหันไปมอง เบเนดิกซ์กลับเสียหลักตกบันได แล้วก็โดนพวกข้างล่างรุมอีก ทำให้วุ่นวายไปใหญ่

แจ็คลีนเผลอเล็กน้อย ก็โดนสุรสีห์จับข้อมือเอาไว้แล้วชกเข้าที่ท้อง แม้จะไม่สลบในครั้งแรก แต่เมื่อโดนเข้าสามสี่ที เธอก็สลบไปได้เหมือนกัน แล้วถูกพาลงเรือนไป ก่อนเขาใช้ปืนยิงเบเนดิกซ์

“เก็บมันไปด้วย แล้วทิ้งไว้ที่ชายป่า ไป!” สุรสีห์เอาร่างแจ็คลีนใส่บ่า แล้วพากันหนีไปตามทาง ก่อนที่คนจะรู้สึกตัว

เมื่อทรงธรรมได้ยินเสียงปืน ก็นึกรู้ว่าต้องเกิดเรื่อง มีใครสักคนเผาป่าของเขา เพื่อให้ดึงความสนใจ เขานึกห่วงเธอขึ้นมา ก็รีบสั่งลูกน้อง แล้วไปดูเธอที่บ้านพักก่อน เมื่อไปถึงเขาก็ต้องตกใจ เพราะสภาพบ้านเขาเละเทะ

“แจ็คลีน!” เขาตะโกนเรียกเธอหลายครั้ง

“พ่อเลี้ยงครับ เกิดอะไรขึ้น” อรัญตามแล้วมองขึ้นไปข้างบนเห็นสภาพ

“เห็นแจ็คลีนหรือเบนไหม ให้คนงานออกตามหาเร็วเข้า โทรตามทุกคนที่ตามได้ โทรแจ้งที่บ้านเธอด้วย” ทรงธรรมร้อนใจไปหมด ก่อนจะเห็นคนติดตามเธอวิ่งตามมาอีกสี่คน

“เกิดอะไรขึ้น” ภาษาฝรั่งเศสดังให้ว่อน ก่อนทั้งหมดตรวจสอบพื้นที่แล้วโทรแจ้งเฮนริคทันที

“ให้คนออกตามหาด่วน ไม่มีทางที่คุณหนูจะออกไปเดินเล่นในป่าที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้” เจน่าออกคำสั่งแทนเบเนดิกซ์แทบจะทันทีที่สรุปได้

“รอยเลือดอยู่ตรงนี้ คิดว่าน่าจะเป็นเบเนดิกซ์มากกว่าคุณหนู ภาวนาให้เป็นแบบนั้น” บอดี้การ์ดหญิงอีกคนพูดขึ้น

ทรงธรรมต้องหาคนมีเพิ่ม เมื่อเขาต้องจัดการกับไฟไหม้ป่า แล้วยังต้องตามหาเธอไปพร้อมกัน ตอนนี้โทรศัพท์เขาแทบไหม้ เพราะบ้านเธอโทรมาหลายครั้ง ขณะที่เขาก็ต้องเข้าไปตามหาเธอ

หลายชั่วโมง...กว่าจะเจอเบเนดิกซ์ถูกทำร้ายและโดนยิงนัดหนึ่ง ดีที่กระสุนไม่ทำอะไรเธอได้มาก เท่ากับรอยโดนทำร้าย และนั่นคงเป็นสาเหตุให้เธอสลบ เขารีบสั่งลูกน้องพาเธอส่งโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าเธอจะเสียเลือดมากไปกว่านี้

“อันนา เธอไปกับพวกเขา เพราะเธอเลือดกรุ๊ปเดียวกับเบน ฉันจะตามพวกนี้ไปหาคุณหนู” เจน่าออกคำสั่งชัดเจน ก่อนจะถอนหายใจ เธอชะล่าใจมากเกินไป ทั้งที่ตรวจสอบและศึกษาข้อมูลมาอย่างดี

****************************************


เสียงลมหายใจที่กำลังราดรดหน้า ทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้นในความมืด และสัณชาตญาณของเธอบอกให้เธอขัดขืนทันที เธอผลักคนที่กำลังคร่อมอยู่เหนือร่างเธออย่างแรง จนเขาก็ไม่ทันได้ตั้งตัว

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงผู้ชายดังขึ้นในความมืด

แจ็คลีนพยายามหาโคมไฟ แต่นึกได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านอย่างแน่นอน เธอจึงขยับถอยอัตโนมัติ เพราะเห็นแต่เงาตะคุ่มๆ เท่านั้น แล้วพยายามจับที่เข็มขัด พยายามแก้มันออกในความมืด เพื่อเอาหัวเข็มขัดเท่านั้น

“ใจเย็นๆ ผมแค่อยากรู้จักคุณให้มากขึ้นเท่านั้น” สุรสีห์พยายามกล่อมเธอ

แม้เธอจะหน้าตาไม่เหมือนโซเฟีย แต่เธอทำให้เขานึกถึงคนรักคนเดียวในชีวิตเขา เขาขยับเข้าใกล้ แต่เธอถอยห่าง ท่าทางเธอไม่ไว้ใจเขาเท่าไรนัก

“เราเพิ่งรู้จักกัน เธอคงไม่ไว้ใจฉันเท่าไร เธอสลบไปหลายชั่วโมง คงหิวสินะ” สุรสีห์มองไปยังอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนเปิดไฟในห้องแล้วกวักมือเรียกเธอ

แจ็คลีนรีบเอาใบมีดเล็กๆ นั้นซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะลุกขึ้นยืน “คงไม่ว่าถ้าฉันจะไม่ไว้ใจ คุณทานให้ฉันดูก่อนสิ”

แม่มักเตือนว่าให้ระวังอาหาร เพราะมันมักจะอันตรายเสมอ โดยเฉพาะอาหารที่หน้าตาดี ส่วนอาหารชั้นเลวปลอดภัยกว่ามากนัก

“อ๋อ ได้สิ” สุรสีห์ตักทานอาหารให้เธอดูทุกอย่าง ก่อนจะมองเธอไม่ยอมเข้ามาทานง่ายๆ “น้ำด้วยเหรอ”

แจ็คลีนพยักหน้าอย่างไม่ไว้ใจนัก แต่เมื่อเขาทานแล้วสักพัก เธอก็ค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวังไปนั่งที่โต๊ะชุด ก่อนจะทานอาหารชุดนั้นอย่างเงียบๆ เรียบร้อย อย่างใจเย็น

“คุณไม่ถามเหรอ ว่าผมจับคุณมาเพื่ออะไร” สุรสีห์มองเธอทานอย่างมีมารยาทก็ยิ้มเล็กน้อย เธอแตกต่างจากโซเฟีย และดูเป็นชาวต่างชาติในสังคมชั้นสูง กิริยามารยาทท่าทางหยิ่งผยอง

ไอ้ธรรม...มันชอบผู้หญิงมีระดับมากนะเนี่ย

“ถ้าคุณคิดจะเรียกค่าไถ่ก็คงโทรไปแล้ว กลัวก็แต่ไม่ใช่การเรียกค่าไถ่ ถ้าคุณอยากบอกก็บอกเถอะค่ะ แต่อย่าทำร้ายฉันก็พอ เพราะฉันไม่คิดจะขัดขืน” แจ็คลีนรักษาความสงบ ยามวุ่นวายใจ เธอก็มีสติได้เหมือนแม่ เพราะเธอใช้เวลาเล็กน้อยเมื่อครู่ในการตั้งสติ ทั้งที่ควรร้องไห้

ถ้าเป็นคนอื่นโดนจับไป เธอจะต้องหน้าซีดร้องไห้ แต่เพราะเป็นตัวเธอเอง เธอคิดถึงคำพูดของแม่มากที่สุด นั่นคือต้องตั้งสติและรอคอยความช่วยเหลือ จวนตัวให้หาที่ปลอดภัยแล้วหลบซ่อน

“ผมอยากทำความรู้จักคุณ ผมเห็นคุณเป็นข่าวกับลูกชายผม แล้วเขาก็เก็บภาพถ่ายของคุณไว้ที่หัวโต๊ะข้างเตียง เจ้าลูกคนนี้ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเท่าไร ทำแต่งาน ได้ยินว่าเขาไปพบคุณที่ฝรั่งเศสบ่อยๆ แสดงว่าต้องติดใจคุณมากๆ” สุรสีห์พูดไปเรื่อยๆ ราวกับกำลังทำความรู้จักว่าที่ลูกสะใภ้

“จริงๆ เราคุยกันที่บ้านคุณธรรมก็ได้นะคะ ไม่เห็นต้องมาถึงที่นี่” แจ็คลีนพูดด้วยน้ำเสียงปกติ

“ธรรม อารมณ์ร้อน เห็นผมคุยกับคุณคงหึงหน้ามืดตามัวแน่นอน” สุรสีห์พูดไปอย่างนั้น เขาไม่รู้จักลูกชายดีพอ แต่อยากจะอยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่เห็นในรูปภาพมากกว่า

“คิดว่าคงใช่ค่ะ” แจ็คลีนทำเป็นตามน้ำ แล้วเมื่อเขาคิดจะกุมมือเธอ เธอก็หดมือกลับทันที สายตาไม่ไว้ใจก็ปรากฏอีกครั้ง

“คืนนี้คุณพักผ่อนให้สบายนะครับ พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันใหม่” สุรสีห์คิดว่าได้เวลาถอย เพราะเธอยังไม่ไว้ใจเขาเท่าไรนัก

แจ็คลีนค่อยโล่งใจที่เขาออกไปได้ ก่อนจะเดินสำรวจดูรอบๆ ห้อง ยังดีที่มีห้องน้ำในตัว เป็นบ้านไม้หลังขนาดย่อม เธออยู่ที่นี่เพียงลำพัง มีเหล็กดัดราวกับมีไว้เพื่อขังคน

****************************************


หลังจากรู้เรื่อง ทุกคนก็วิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด แทบจะพร้อมสติแตก มิคาเอลนั่งตั้งสติอยู่พัก โดยมีภรรยาสาวคอยดูแล ขณะที่ไพรด์กับอิกกี้ต่างก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากปลอบผู้หญิงข้างๆ ตัว

“อะไรๆ” กาเบรียลโกรธจนกระแทกมือเข้าที่กำแพง และภรรยาเขาก็ไม่ห้าม

พายขี้เกียจทะเลาะกับสามี เธอหันไปถามเฮนริคมากกว่า “มีสัญญาณไหม”

“ครั้งก่อนเรารออยู่สองวันกว่าจะหาสัญญาณเจอครับ กว่าเพื่อนคุณจะส่งข้อมูลมาก็...” เฮนริคพยายามรายงาน

“หุบปาก!! แล้วไปหาสัญญาณให้เจอ” กาเบรียลเหนื่อยใจและหงุดหงิด ก่อนจะออกคำสั่งอีกอย่าง “ออกรถด้วย”

“ผมไปด้วย” อิคารัสออกเสียง เพราะใจก็เป็นห่วงแจ็คลีนไม่น้อย

“ไม่ต้อง! อยู่ที่นี่แหละ รอฟังข่าว ปารีสกับนอร์ธก็ไม่ต้องไป เฮนริคให้อีฟพาซีอานกับเอลกลับปารีสไปก่อน เดี๋ยวให้คนอื่นขับรถแทน แล้วเตรียมจองโรงแรมด้วย ขอแบบเป็นส่วนตัวหน่อย ถ้าเป็นเรื่องเรียกค่าไถ่ พวกเขาไม่โทรเข้าบ้านแน่ คงโทรเข้ามือถือ” พายสั่งการ ก่อนหยิบข้าวของที่จำเป็นเพื่อนเดินทาง

“ผมว่าขึ้นเครื่องไปเร็วกว่า” มิคาเอลพูดขึ้น

“บ้าหรือไง ตอนนี้จะมีเครื่องบินเหรอ เครื่องเจ็ทก็ไม่ได้แจ้งเรื่องบินเอาไว้ เดินทางลำบาก แม่ขับเองหกชั่วโมงถึง” พายพูดขึ้นขณะคว้ากุญแจรถ ก่อนจะมองทุกคน “ยืนเซ่ออยู่ทำไม ไปขึ้นรถ นายด้วย ปิแอร์”

“ผมจะขับตามไปนะครับ” ปิแอร์บอกเมื่อตั้งสติได้

“อย่า! ให้เฮนริคขับไปดีกว่า ยังขับไหวไหม ไม่ต้องรีบเหมือนฉันหรอกนะ” พายยังมีใจเป็นห่วงปิแอร์ เพราะเบเนดิกซ์หายไป ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากทรงธรรมเข้าเครื่องเธอ “มีอะไร”

“ผมเจอเบเนดิกซ์แล้วครับ เธอถูกซ้อมแล้วก็ถูกยิงหนึ่งนัด อาการสาหัส ผมกำลังจะให้คนพาส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังไม่เจอแจ็คลีน ผมเสียใจ” ทรงธรรมบอกข่าวงอย่างเคร่งเครียด

“ยังไม่ใช่เวลาเสียใจ ไปค้นหาลูกสาวฉันให้เจอ” พายสั่งก่อนตัดสาย แล้วหันมาบอกปิแอร์ “เจอเบนแล้วล่ะ กำลังจะส่งโรงพยาบาล ไปกันเถอะ”

“แม่ครับ ผมขับ” มิคาเอลจะเข้ามาคว้ากุญแจรถจากแม่

“แกขับได้ที่ไหน เคยขับหรือไง ขับรถขึ้นเหนือไม่ใช่เรื่องธรรมดา แล้วสติก็ไม่มี มีแต่อารมณ์ร้อน ไปขึ้นรถ นายด้วย อย่าให้ฉันหัวเสียนะ” พายขู่ทั้งสามีทั้งลูกชาย ก่อนจะบอกโจเซฟีน “เธอด้วย ไปถึงที่นั่น ถ้าเห็นมิคทำท่าทางไม่ดี จัดการด้วย ไม่ใช่ไปฟูมฟายร้องไห้ล่ะ”

“ค่ะๆ” โจเซฟีนรับกอดแขนสามีแล้วลากออกไปขึ้นรถ

พายจับแขนสามีแล้วพาไปขึ้นรถด้วยอีกคน ก่อนเฮนริคจะวิ่งมาทัน “ผมจองโรงแรมให้แล้วนะครับ ไปถึงก็...”

“ไม่ต้อง จะไปที่ปางไม้อภินันท์เลย มีแผนที่แล้วล่ะ” พายเอาแผนที่ที่ทรงธรรมเคยให้เอาไว้ เพราะเจน่าต้องขับรถไปส่งให้ที่ปางไม้ด้วย

พายมองว่าทุกคนพร้อม แต่ปิแอร์ก็โดนจับยัดขึ้นรถครอบครัวขนาดเจ็ดที่นั่งมาด้วย ก่อนจะพยักหน้ากับเฮนริค “ขับรถดีๆ นะ ตามข่าวสัญญาณให้ด้วย”

พายออกรถเร็วจนคนมองตกใจ เธอไม่สนใจว่าจะเจออะไร แต่เพราะนี่เป็นเวลากลางคืน และทางหลวงก็มีแต่รถบรรทุกที่ขับช้ากว่าเธอมาก เธอสับกระปุกเกียร์อย่างเร็วและชำนาญ เพราะยังขับรถแข่งในสนามอยู่บ่อยๆ อาจจะไม่ค่อยได้ขี่จักรยานยนต์ในสนามเท่าไร เพราะมีแต่คนเป็นห่วง

คนที่นั่งมาด้วยต้องหาที่จับไปพร้อมๆ กัน โชคดีที่รถคันนี้แต่งมาอย่างดี เรื่องสะเทือนแทบไม่มีแต่คนในรถก็ต้องคอยระวัง แม้ช่วงแรกจะเป็นทางตรงไปเรื่อยๆ นานๆ ครั้งจะเป็นทางโค้ง แต่อีกครึ่งต่างหากที่น่าเป็นห่วง เพราะเริ่มขึ้นเขาและทางโค้งก็ถี่มากขึ้น

กาเบรียลนั่งด้านข้างคนขับ แม้ไว้ใจฝีมือการขับของภรรยา แต่ภรรยาไม่ได้ไปเชียงใหม่มายี่สิบปีแล้ว เขายังเกรงๆ อยู่ในใจ นอกจากต้องห่วงเรื่องลูกสาว เขาเริ่มห่วงเรื่องคนในรถมาขึ้น เพราะภรรยาเขาแทบไม่เหยียบเบรกเลย

โชคยังดีที่เฮนริคเช็คความเรียบร้อยของรถมาหลายวันแล้ว พี่เขยของพายก็ดูแลพารถเข้าเช็คศูนย์เป็นอย่างดี ลุงของไพรด์ก็จัดการรถได้เป็นอย่างดี ด้วยการสั่งพิเศษทุกอย่างที่แต่งได้ จากเงินที่พายจ่ายอย่างไม่สนใจอะไร นอกจากความปลอดภัยและความแรง

ระยะทางจึงดูไม่ห่างไกลนักในสายตาพาย...

****************************************


สวัสดีค่ะ
กำลังจะกลับมาเดินเรื่องหนังสือต่อนะคะ
มีคนอ่านถามเรื่อยๆ ก็ขอบคุณค่ะ
ส่วนเรื่อง "แผนร้ายในทางรัก" ก็ยังไม่คืบหน้า
งานโดนดองมานานพอสมควร
ไม่รู้ว่า สนพ แห่งนั้นจะเอายังไง
ก็คงต้องรอต่อไป จนกว่าจะรอไม่ได้แล้วนั่นเอง
พอดีเพื่อนชวนทำหน้าแฟนเพจในเฟสบุ๊ค
ก็เลยเอามาประกาศให้เพื่อนๆ นักอ่านทุกท่าน
ได้เข้าไปโพสต์ข้อความเอาไว้ ตามที่นี่นะคะ
http://www.facebook.com/plerngwaree
จะพยายามเข้าไปอัพเดตข้อความเรื่อยๆ
เพราะยังไม่คิดจะสร้างเวบเองค่ะ 555+
ใช้เฟสบุ๊คเป็นสื่อก็แล้วกันค่ะ
ก็อาจจะอัพอะไรสั้นๆ ทุกวันค่ะ
(ยกเว้นวันไหนไม่มีเนต อิอิ)
ขอบคุณที่ติดตามนิยายมาตลอดนะคะ

sirinda
คุณ konhin --- รักคืออะไรหนอ...^^
คุณ sai --- นิยายเพลิงแต่ละเรื่องมักมีตัวละครหนึ่งที่มีปมชีวิตหน่อยๆ ค่ะ อิอิ
คุณ XaWarZd --- กับอองรี...มันเป็นความสับสนค่ะ หุหุ
คุณ ร้อยวจี --- เพิ่งมานะคะ อิอิ ฟริ้ววววววววววววววววว
คุณ ตุ๊งแช่ --- เผ็ดร้อนแรงใช่ไหมคะ อิอิ
คุณ anOO --- อนาคตอีกไม่ไกลแล้วค่ะ อิอิ

dek-d
คุณ novel --- ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^^

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- อีกนานกว่าจะถึงปลายทางค่า อิอิ
คุณพี่ chakansi --- แต่จะสยบได้ไหมน้า อิอิ

bloggang
คุณ Vicky --- ด้วยความยินดีค่ะ
คุณ OnlyU --- ยังอีกเป็นปีเลยมั้งคะ อิอิ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ม.ค. 2555, 23:36:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ม.ค. 2555, 23:36:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1904





<< ML018   ML020 >>
XaWarZd 27 ม.ค. 2555, 01:28:59 น.
อย่าบอกนะว่าอีตาสุรสีย์ชอบแจ็คอ่ะ


konhin 27 ม.ค. 2555, 01:44:08 น.
จับไปทำด๋อยอะไรเนี่ย? เป็นพ่อแบบประสาทๆ


ร้อยวจี 27 ม.ค. 2555, 05:32:03 น.
คุณสุรสีห์เป็นพ่อที่เลวจริงๆ ทำได้แม้กับลูกตัวเอง ยังงี้ต้องให้จัดการขั้นเด็ดขาดดีใจมากค่ะได้อ่านต่อจากเรื่องของมิคาเอลแล้ว


ตุ๊งแช่ 27 ม.ค. 2555, 08:57:30 น.
ชนกันแล้ว พายออกโรงเอง งานนี้พ่อตาก็พ่อตาเถอะ เละแน่ๆ


anOO 27 ม.ค. 2555, 09:31:36 น.
หวังว่านายธรรมจะหาแจ็คเจอก่อนพายนะ ไม่งั้นรักครั้งนี้ล่มแน่
อย่างพ่อนายธรรมเดี๋ยวต้องให้พายจัดการ


FonFonnie 27 ม.ค. 2555, 09:34:22 น.
เย้ ในที่สุดก็ถึงตอนต่อจากภาคมิคแล้ว ดีใจจัง :-)


kaeka 27 ม.ค. 2555, 11:59:18 น.
เป็นพ่อแล้วไหงต้องจับแจ็คมาด้วย ทำอะไรแปลกนะนี่สุรสีห์


หนอนฮับ 27 ม.ค. 2555, 14:09:30 น.
เป็นพ่อภาษาอะไรเนี่ย...เฮ้อ เดี๋ยวเหอะ โดนตะกูลดัง..ถล่มแน่ อีตาสุรสีย์เอ๊ยยยยย แก่แล้วไม่เจียม


ร้อยวจี 28 ม.ค. 2555, 16:27:57 น.
อ่านกี่รอบกี่รอบก็สนุก นางมารร้ายโผล่มาตอนต้นแล้วนายมารร้ายโผล่มาตอนกลางเรื่องอีก แบบนี้ให้พายจัดการขั้นเด็ดขาดซะเลย


Auuuu 28 ม.ค. 2555, 19:19:51 น.
เสร็จแน่ งานนี้เจอพายเองเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account