เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 4
รถยนต์คันหรูแล่นผ่านถนนสายหลักของใจกลางกรุงเทพมหานครไปอย่างช้าๆ พี่หนุ่มคนขับรถประจำตระกูลอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองสาวสวยที่เบาะนั่งด้านหลัง สายตาของเธอเหม่อลอยแถมยังมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่ตลอดเวลาจนน่าสงสาร ยิ่งเห็นรอยแดงปื้นใหญ่บนดวงหน้างาม และรอยช้ำที่มุมปากของหญิงสาวแล้วยิ่งใจหาย
“คุณแพรไม่เป็นไรแน่นะครับ” หนุ่มเอ่ยถามอย่างห่วงใย “ให้พี่แวะโรงพยาบาลก่อนไหมครับ”
“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ”
แพรธาราปฏิเสธเสียงแผ่ว พลางยกมือปาดน้ำตาที่เริ่มไหลรินให้จางหาย แต่เจ้ากรรมที่น้ำตาก็ยังไม่ยอมหยุดไหล
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ แพรไม่เป็นไรจริง ๆ” แพรธาราปฏิเสธ “พาแพรกลับบ้านนะดีแล้วค่ะ”
“แต่ถ้าคุณท่านเห็น”
หนุ่มเอ่ยด้วยท่าทีลังเล ทราบดีว่าคุณสิทธิพงศ์รักหลานสาวคนนี้มาก เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอก็เพราะคุณท่านท่านนี้ล่ะที่คอยควบคุมบงการ แล้วถ้าท่านเห็นสภาพฟกช้ำของหลานรักนี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าบ้านใครจะแตกกันแน่ ระหว่างบ้านของมหาสมุทรหรือบ้านของแพรธารา แต่ที่แน่ ๆร้อนเป็นไฟทั้งคู่แน่
“คุณพ่อกับคุณแม่คงไม่พูดมาก ส่วนคุณปู่...”
แพรธารานิ่งไปชั่วครู่
“แพรก็แค่หลบท่านสักวันสองวัน”
“แล้วคุณท่านจะไม่สงสัยหรือครับ”
หนุ่มย้ำถาม พลางชะลอรถให้ช้าลงเมื่อเห็นปากทางเข้าหมู่บ้านอยู่ข้างหน้า
“แพรมีวิธีของแพรค่ะ” แพรธารายืนยัน “แพรไม่อยากตอบคำถามใครมาก ต่อให้เป็นคุณหมอหรือคุณพยาบาลก็ตาม”
หนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ทราบดีว่าแพรธารามีจิตใจดีและอ่อนโยน มักห่วงใยเอาใจใส่ผู้อื่นอยู่เสมอ แต่เมื่อไรก็ตามที่เธอตัดสินใจแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนแน่นนอนซึ่งนิสัยแบบนี้เธอรับมาจากคุณปู่สิทธิพงศ์ของเธอเต็ม ๆ
“ได้ครับ งั้นพี่เลี้ยวเข้าหมู่บ้านเลยนะครับ”
“ค่ะ”
แพรธาราตอบ พลางหลับตาแล้วเอนหลังพิงเบาะนั่งนิ่งๆเพื่อสงบใจให้ผ่อนคลายลง
“ถึงแล้วครับ...คุณแพร”
หนุ่มเรียกเบา ๆ เมื่อรถเคลื่อนเข้ามาจอดในลานจอดรถของคฤหาสน์สิริวัฒนากุล
“ขอบคุณนะคะพี่หนุ่ม”
แพรธาราบอกเสียงอ่อน รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวเหลือเกินทั้งที่เธอก็มาถึงบ้านแล้ว บ้านที่อบอุ่นเสมอยามที่เธออ้างว้าง แต่วันนี้ความลังเลสงสัยทำให้หัวใจของเธอบอบช้ำเกินกว่าความอบอุ่นใดจะเยียวยาได้ แม้จะเชื่อมั่นว่าไม่มีทางที่เธอจะจำเรื่องเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งที่เห็นในหนังสือและคำพูดถากถางของกัญญารัตน์ทำให้เธอสับสนจนแทบไม่มีแรงแม้จะก้าวเดิน
“คุณแพรเดินไหวนะครับ”
หนุ่มเอ่ยถาม เมื่อเห็นร่างบางเซเล็กน้อย
“ค่ะ ไหวค่ะ”
แพรธาราตอบเสียงค่อย พลางหันมาฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย
“คุณแพร....คุณแพรกลับมาแล้วรึค่ะ”
สำอางรีบวิ่งออกมารับเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์เคลื่อนเข้ามาในคฤหาสน์ แต่พอเห็นใบหน้าของแพรธาราชัด ๆ กลับทำเอาสำอางใจหายวาบ ยกมือทาบอกอุทานอย่างตกใจ
“คุณพระคุณเจ้าช่วย....คุณแพร...เกิดอะไรขึ้นค่ะเนี่ย”
“ก็แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ”
แพรธาราบอกเสียงอ่อน ยกมือแตะรอยแดงบนแก้มเล็กน้อย
“แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ไปเอายามาทาให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
แพรธารารีบคว้าข้อมือของแม่บ้านสาวใหญ่ไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละไป
“แพรไม่เป็นไรหรอกค่ะ...แค่อยากพักผ่อน” แพรธาราบอก “อาจจะนอนเลย...เย็นนี้ช่วยบอกคุณปู่ว่าแพรเพลียก็เลยเข้านอนเร็วนะคะ”
“แต่ว่า...”
“นะคะ”
“ก็ได้ค่ะ”
สำอางจำต้องรับปากเมื่อสบกับแววตาอ้อนวอนขอร้องของคุณหนูคนสวย
“ขอบคุณค่ะ”
แพรธารายิ้มบางๆ ก่อนจะผละเดินหนีขึ้นบันได้กว้างไปที่ห้องพักของตนเองทันที
“ไอ้หนุ่ม”
สำอางหันไปเล่นงานน้องชายทันที เมื่อร่างของนายสาวลับตาไป
“ซวยจนได้”
“บ่นอะไร....แกมานี่เลยนะ”
สำอางเรียกขานน้องชายเสียงเครียด เมื่อเห็นว่าหนุ่มทำท่าจะหลบไปนอกบ้าน
“อะไรล่ะพี่”
“อะไรงั้นหรอ” สำอางจ้องตาดุ “เกิดอะไรขึ้นกับคุณแพร ... ทำไมแก้มบวมปากแตกแบบนี้”
“เฮอ...”
“ยัง...ยังจะมาอมพะนำ ทำเป็นถอนหายใจอีกนะแก” สำอางดุ “แกอยากโดนคุณท่านเล่นงานใช่ไหม”
“โธ่พี่...”
หนุ่มรีบยกนิ้วจุ๊ปากตัวเองเป็นสัญญาณบอกให้พี่สาวเบาๆหน่อย
“ทำไม...ฉันพูดผิดรึไง”
“ไม่ผิดหรอก” หนุ่มบอกเสียงค่อย “แต่พี่ก็เห็นว่าคุณแพรไม่อยากให้พูดมาก เดี๋ยวเกิดพวกท่านๆกลับมาได้ยินก็แย่สิพี่”
“แล้วแกคิดว่าที่คุณแพรหลบหน้าท่านแบบนี้แล้วช่วยได้รึไง”สำอางย้อน “เล่ามาเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
หนุ่มมองหน้าพี่สาวนิ่งพลางถอนหายใจแรง ๆ อยู่หลายที ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ไปถึงอาคารรีเจนท์ของมหาสมุทร แล้วแพรธาราบุกไปขอพบมหาสมุทรถึงในห้อง ส่วนตัวเขาก็ต้องไปคอยที่ห้องพักคนขับรถ
“ที่เล่ามานี่จะบอกว่าแกไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยหรือฮะ”
“ใจเย็นๆก่อนพี่”
หนุ่มรีบห้ามเมื่อเห็นพี่สาวเริ่มเสียงดังอีกครั้ง
“ฉันไม่เห็นก็จริง แต่ได้ยินคุณเลขาเล่าว่าเมียคนใหม่ของคุณมาร์คมาอาละวาด” หนุ่มบอก “เขาก็คงทำร้ายคุณแพรด้วย เพราะอย่างคุณมาร์คคงไม่ใจร้ายลงไม้ลงมือกับคุณแพรหรอก”
“เออ...จริงของแก” สำอางเปรย “ก็คุณมาร์คทั้งรักทั้งถนอมคุณแพรอย่างกับอะไร”
“แต่ดูท่างานนี้คุณแพรจะโกรธคุณมาร์คเอามากๆเลยนะพี่”
“โถ...คุณมาร์ค”
สำอางครางเรียกชื่อชายหนุ่มที่นางรู้จักคุ้นเคยมาแรมปีอย่างเห็นใจ
“พี่สำอาง”
เสียงใสดังมาจากข้างหลัง จนแม่บ้านสาวใหญ่สะดุ้งเฮือก
“คุยอะไรกันค่ะ”
“โธ่ ...คุณพิณ ทำแบบนี้พี่ตกอกตกใจหมด”
“ทำไมต้องตกใจด้วย” พิณสุดาถามสีหน้าทะเล้น “แอบคุยเรื่องความลับกันหรอ”
“เอ่อ...”
“หึ...”
พิณสุดาเลิกคิ้วมองสองพี่น้องที่ทำงานกับบ้านของเธอมาเกือบสิบปีอย่างแปลกใจ ยิ่งเห็นสองพี่น้องอึกอักแล้วยิ่งงุนงง เพราะตามปกติสองพี่น้องก็ไม่ใช่คนชอบนินทาเจ้านาย และนี่คือเหตุผลทีทำให้ทั้งคู่เปรียบเหมือนญาติสนิทที่คุ้นเคยกันดี
“คือพี่...”สำอางถอนใจเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจเอ่ยปาก “เรื่องคุณแพรน่ะค่ะ”
“พี่แพร...พี่แพรทำไมคะ”
“คุณแพรอ่านนิตยสารที่คุณพิณให้พี่เอาไปทิ้ง แต่พี่ลืมก็เลย...”
“อะไรนะคะ”
พิณสุดาอุทานเสียงลั่น
“เบาสิคะคุณพิณ เกิดคุณท่านและคุณ ๆ กลับมาพี่จะแย่เอานะคะ”
“ก็พี่สำอางไม่น่าลืมเลยนี่” พิณสุดาตำหนิกลาย ๆ “แล้วพอพี่แพรเห็น....พี่แพรว่าไงบ้าง”
“ไม่ได้ว่าหรอกครับ แค่ให้พี่ขับรถพาไปหาคุณมาร์คที่ทำงาน”
“หะ...”
“ไม่ใช่แค่นั้นครับ” หนุ่มรีบเสริม “มีหนักกว่านั้นอีกครับ”
พิณสุดามองหน้าหนุ่มทีมองหน้าสำอางทีแล้วได้แต่ส่ายหน้า นึกเดาว่าเรื่องคงใหญ่น่าดู จึงรีบจูงทั้งสองพี่น้องให้ไปเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้เธอฟังในห้องทำงานชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องเก็บเสียงและสามารถล็อกกลอนได้อย่างดี
“นี่แปลว่าพี่แพรเจอยายกัญญารัตน์นั่นอาละวาดใส่มา”
พิณสุดาเอ่ยถามหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของหนุ่มจบ
“น่าจะเป็นแบบนั้นครับ” หนุ่มสันนิษฐาน “ดูคุณแพรเสียใจมาก...คงจะทะเลาะกับคุณมาร์คด้วย แต่ที่เจ็บน่าจะเป็นฝีมือภรรยาคุณมาร์คมากกว่าครับ”
“พิณต้องขึ้นไปดูพี่แพรหน่อยแล้ว”
พิณสุดาบอกพลางลุกขึ้นก้าวเดินไปที่ประตูห้อง แต่ไม่วายหันกลับมากำชับสองพี่น้องคนสนิท
“เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนนะคะพี่...พิณไม่อยากให้รู้ถึงหูคุณปู่”
“พี่ทราบค่ะ” สำอางรับปาก “พี่กับไอ้หนุ่มจะไม่พูดเลยค่ะ”
“ครับ...ผมสัญญาครับคุณพิณ”
“ดีค่ะ...ขอบคุณมาก”
พิณสุดายิ้มโล่งอก ก่อนเปิดประตูไม้หนาหนักแล้วเดินออกจากห้องไป
“ก๊อกๆๆๆ”
“ใคร...”
“พิณเองค่ะพี่แพร”
แพรธาราครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนก้าวเดินไปเปิดประตูห้องนอนที่เธอลงกลอนใส่กุญแจทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง
“พี่แพร...”
พิณสุดาครางเสียงแผ่ว เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นใบหน้าแดงช้ำของพี่สาวชัดเจน
“นี่ยายนั่นทำขนาดนี้เลยหรอ ...อย่างนี้ต้องจัดการ”
“พอเถอะพิณ” แพรธาราห้าม “เขาไม่ผิดหรอก...คนที่ผิดคือพี่มาร์คต่างหาก”
“พี่มาร์คเนี่ยนะ”
“ใช่...ถ้าเขาไม่ให้สัมภาษณ์น่าเกลียดแบบนั้น” แพรธารากล่าวเสียงเครียด “พี่ก็คงไม่ต้องไปหาเขาจนทำให้เมียเขาเข้าใจพี่ผิดแบบนี้”
“แต่ทำร้ายกันแบบนี้มันเกินไปนะ” พิณสุดาเถียง “ครอบครัวเรากับครอบครัวพี่มาร์คสนิทกัน ใคร ๆ ก็ทราบ...จะมาหึงหวงแบบนี้ก็ไม่ถูก”
“พิณ...”
แพรธาราลังเลชั่วอึดใจ ก่อนตัดสินใจเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาในหัวใจ
“เรื่องแต่งงาน...มันไม่จริงใช่ไหม พี่เชื่อไม่ลงว่าตัวเองจะจำไม่ได้ว่าเคยแต่งงาน เรื่องใหญ่อย่างนี้พี่จะลืมได้เหรอ”
“พี่แพร...”
พิณสุดากุมมือพี่สาวพลางบีบเบา ๆ สงสารพี่สาวนักแต่ก็ไม่อาจพูดสิ่งที่แอบซ่อนในใจ ไม่อาจบอกพี่สาวได้ว่าเรื่องใหญ่กว่านี้พี่สาวก็ลืม...ลืมจนหมดสิ้นทีเดียว
“พี่พยายามนะ...พยายามคิด ไม่อยากปรักปรำเขา” แพรธาราสารภาพ “แต่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นแล้วคุณพ่อคุณแม่จะไม่พูดถึง”
พิณสุดาจนทุกคำพูด อยากจะแกล้งทำตลกให้พี่สาวไม่เครียด แต่เวลานี้รู้สึกเหมือนสมองของเธอก็ตันไปหมดเช่นกัน
“ทำไมเงียบล่ะพิณ หรือพิณเชื่อ” แพรธาราคาดคั้น “พิณคิดว่าพี่แอบแต่งงานกับพี่มาร์คโดยไม่บอกที่บ้านเรา ไม่บอกแม้กระทั่งคุณปู่”
“หึ...” พิณสุดาดีดนิ้วในใจอย่างคนเพิ่งพบทางออก “อย่างคุณปู่ถึงพี่แพรไม่บอก ท่านก็ต้องรู้อยู่ดี เคยปิดเรื่องอะไรท่านได้บ้าง”
“พิณ...” แพรธาราถลึงตาดุน้องสาว “พี่อุตส่าห์ปรับทุกข์ด้วย แต่เรานะ...วัน ๆ เอาแต่ทะเล้น ชอบแซวคุณปู่อยู่เรื่อย”
“แหม...นี่แค่แอบนินทาลับหลังเท่านั้นเองค่ะ”
พิณสุดาเถียง ก่อนจะพยายามโน้มน้าวใจพี่สาว
“เอาล่ะ พิณไม่อยากพูดมาก แต่พิณไม่อยากให้พี่แพรโกรธพี่มาร์คหรอกนะ”
“ไม่ให้โกรธ ทั้งที่เขากำลังทำให้ครอบครัวเราเสียหายนะ”
“พิณยืนยันนะว่าเรื่องนี้ไม่มีใครเสียหายแน่ ต่อให้หนังสือเล่มนี้ขายดีจนต้องพิมพ์ซ้ำเลยด้วย”
“ทำไมพูดเหมือนพี่มาร์คเลย หรือมีอะไรที่พี่ไม่รู้”
“ไม่มีสักหน่อย พิณเห็นหนังสือแนวปาปารัซซี่มีเยอะ ข่าวบางอย่างมั่วแบบที่เขาว่านั่งเทียนเขียน เอาเข้าจริงก็จับต้นชนปลายแทบไม่ได้สักตัว”
“แต่หนังสือเล่มนั้น...”
“หนังสือเล่มนั้นจะเขียนว่ายังไง...พี่แพรไม่ต้องกังวล พิณกล้ายืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ครอบครัวเราเสียหน้าแน่ ต่อให้คุณปู่อ่านก็ยังหัวเราะเยาะจนหนวดกระดิกเลยล่ะ”
“ยายพิณ...”
แพรธาราเรียกชื่อน้องสาวเสียงเขียว ก่อนจะหยิกหมับที่แขนน้องสาวอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยอมรับว่าคำพูดล้อเล่นของน้องช่วยให้เธอคลายกังวลได้มาก รู้สึกอุ่นใจขึ้นว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ไม่มีใครต้องเสียหายหรือเสียชื่อเพราะเธอเป็นต้นเหตุแน่นอน
*****************
ตอนนี้สบาย ๆ ค่ะ ตอนหน้าจะค่อย ๆ เริ่มบอกเหตุผลที่แพรจำไม่ได้นะคะ และเรื่องก็จะเข้าจุดเดือดขึ้นและก็ลงค่ะ อิอิ
“คุณแพรไม่เป็นไรแน่นะครับ” หนุ่มเอ่ยถามอย่างห่วงใย “ให้พี่แวะโรงพยาบาลก่อนไหมครับ”
“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ”
แพรธาราปฏิเสธเสียงแผ่ว พลางยกมือปาดน้ำตาที่เริ่มไหลรินให้จางหาย แต่เจ้ากรรมที่น้ำตาก็ยังไม่ยอมหยุดไหล
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ แพรไม่เป็นไรจริง ๆ” แพรธาราปฏิเสธ “พาแพรกลับบ้านนะดีแล้วค่ะ”
“แต่ถ้าคุณท่านเห็น”
หนุ่มเอ่ยด้วยท่าทีลังเล ทราบดีว่าคุณสิทธิพงศ์รักหลานสาวคนนี้มาก เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอก็เพราะคุณท่านท่านนี้ล่ะที่คอยควบคุมบงการ แล้วถ้าท่านเห็นสภาพฟกช้ำของหลานรักนี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าบ้านใครจะแตกกันแน่ ระหว่างบ้านของมหาสมุทรหรือบ้านของแพรธารา แต่ที่แน่ ๆร้อนเป็นไฟทั้งคู่แน่
“คุณพ่อกับคุณแม่คงไม่พูดมาก ส่วนคุณปู่...”
แพรธารานิ่งไปชั่วครู่
“แพรก็แค่หลบท่านสักวันสองวัน”
“แล้วคุณท่านจะไม่สงสัยหรือครับ”
หนุ่มย้ำถาม พลางชะลอรถให้ช้าลงเมื่อเห็นปากทางเข้าหมู่บ้านอยู่ข้างหน้า
“แพรมีวิธีของแพรค่ะ” แพรธารายืนยัน “แพรไม่อยากตอบคำถามใครมาก ต่อให้เป็นคุณหมอหรือคุณพยาบาลก็ตาม”
หนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ทราบดีว่าแพรธารามีจิตใจดีและอ่อนโยน มักห่วงใยเอาใจใส่ผู้อื่นอยู่เสมอ แต่เมื่อไรก็ตามที่เธอตัดสินใจแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนแน่นนอนซึ่งนิสัยแบบนี้เธอรับมาจากคุณปู่สิทธิพงศ์ของเธอเต็ม ๆ
“ได้ครับ งั้นพี่เลี้ยวเข้าหมู่บ้านเลยนะครับ”
“ค่ะ”
แพรธาราตอบ พลางหลับตาแล้วเอนหลังพิงเบาะนั่งนิ่งๆเพื่อสงบใจให้ผ่อนคลายลง
“ถึงแล้วครับ...คุณแพร”
หนุ่มเรียกเบา ๆ เมื่อรถเคลื่อนเข้ามาจอดในลานจอดรถของคฤหาสน์สิริวัฒนากุล
“ขอบคุณนะคะพี่หนุ่ม”
แพรธาราบอกเสียงอ่อน รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวเหลือเกินทั้งที่เธอก็มาถึงบ้านแล้ว บ้านที่อบอุ่นเสมอยามที่เธออ้างว้าง แต่วันนี้ความลังเลสงสัยทำให้หัวใจของเธอบอบช้ำเกินกว่าความอบอุ่นใดจะเยียวยาได้ แม้จะเชื่อมั่นว่าไม่มีทางที่เธอจะจำเรื่องเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งที่เห็นในหนังสือและคำพูดถากถางของกัญญารัตน์ทำให้เธอสับสนจนแทบไม่มีแรงแม้จะก้าวเดิน
“คุณแพรเดินไหวนะครับ”
หนุ่มเอ่ยถาม เมื่อเห็นร่างบางเซเล็กน้อย
“ค่ะ ไหวค่ะ”
แพรธาราตอบเสียงค่อย พลางหันมาฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย
“คุณแพร....คุณแพรกลับมาแล้วรึค่ะ”
สำอางรีบวิ่งออกมารับเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์เคลื่อนเข้ามาในคฤหาสน์ แต่พอเห็นใบหน้าของแพรธาราชัด ๆ กลับทำเอาสำอางใจหายวาบ ยกมือทาบอกอุทานอย่างตกใจ
“คุณพระคุณเจ้าช่วย....คุณแพร...เกิดอะไรขึ้นค่ะเนี่ย”
“ก็แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ”
แพรธาราบอกเสียงอ่อน ยกมือแตะรอยแดงบนแก้มเล็กน้อย
“แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ไปเอายามาทาให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
แพรธารารีบคว้าข้อมือของแม่บ้านสาวใหญ่ไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละไป
“แพรไม่เป็นไรหรอกค่ะ...แค่อยากพักผ่อน” แพรธาราบอก “อาจจะนอนเลย...เย็นนี้ช่วยบอกคุณปู่ว่าแพรเพลียก็เลยเข้านอนเร็วนะคะ”
“แต่ว่า...”
“นะคะ”
“ก็ได้ค่ะ”
สำอางจำต้องรับปากเมื่อสบกับแววตาอ้อนวอนขอร้องของคุณหนูคนสวย
“ขอบคุณค่ะ”
แพรธารายิ้มบางๆ ก่อนจะผละเดินหนีขึ้นบันได้กว้างไปที่ห้องพักของตนเองทันที
“ไอ้หนุ่ม”
สำอางหันไปเล่นงานน้องชายทันที เมื่อร่างของนายสาวลับตาไป
“ซวยจนได้”
“บ่นอะไร....แกมานี่เลยนะ”
สำอางเรียกขานน้องชายเสียงเครียด เมื่อเห็นว่าหนุ่มทำท่าจะหลบไปนอกบ้าน
“อะไรล่ะพี่”
“อะไรงั้นหรอ” สำอางจ้องตาดุ “เกิดอะไรขึ้นกับคุณแพร ... ทำไมแก้มบวมปากแตกแบบนี้”
“เฮอ...”
“ยัง...ยังจะมาอมพะนำ ทำเป็นถอนหายใจอีกนะแก” สำอางดุ “แกอยากโดนคุณท่านเล่นงานใช่ไหม”
“โธ่พี่...”
หนุ่มรีบยกนิ้วจุ๊ปากตัวเองเป็นสัญญาณบอกให้พี่สาวเบาๆหน่อย
“ทำไม...ฉันพูดผิดรึไง”
“ไม่ผิดหรอก” หนุ่มบอกเสียงค่อย “แต่พี่ก็เห็นว่าคุณแพรไม่อยากให้พูดมาก เดี๋ยวเกิดพวกท่านๆกลับมาได้ยินก็แย่สิพี่”
“แล้วแกคิดว่าที่คุณแพรหลบหน้าท่านแบบนี้แล้วช่วยได้รึไง”สำอางย้อน “เล่ามาเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
หนุ่มมองหน้าพี่สาวนิ่งพลางถอนหายใจแรง ๆ อยู่หลายที ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ไปถึงอาคารรีเจนท์ของมหาสมุทร แล้วแพรธาราบุกไปขอพบมหาสมุทรถึงในห้อง ส่วนตัวเขาก็ต้องไปคอยที่ห้องพักคนขับรถ
“ที่เล่ามานี่จะบอกว่าแกไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยหรือฮะ”
“ใจเย็นๆก่อนพี่”
หนุ่มรีบห้ามเมื่อเห็นพี่สาวเริ่มเสียงดังอีกครั้ง
“ฉันไม่เห็นก็จริง แต่ได้ยินคุณเลขาเล่าว่าเมียคนใหม่ของคุณมาร์คมาอาละวาด” หนุ่มบอก “เขาก็คงทำร้ายคุณแพรด้วย เพราะอย่างคุณมาร์คคงไม่ใจร้ายลงไม้ลงมือกับคุณแพรหรอก”
“เออ...จริงของแก” สำอางเปรย “ก็คุณมาร์คทั้งรักทั้งถนอมคุณแพรอย่างกับอะไร”
“แต่ดูท่างานนี้คุณแพรจะโกรธคุณมาร์คเอามากๆเลยนะพี่”
“โถ...คุณมาร์ค”
สำอางครางเรียกชื่อชายหนุ่มที่นางรู้จักคุ้นเคยมาแรมปีอย่างเห็นใจ
“พี่สำอาง”
เสียงใสดังมาจากข้างหลัง จนแม่บ้านสาวใหญ่สะดุ้งเฮือก
“คุยอะไรกันค่ะ”
“โธ่ ...คุณพิณ ทำแบบนี้พี่ตกอกตกใจหมด”
“ทำไมต้องตกใจด้วย” พิณสุดาถามสีหน้าทะเล้น “แอบคุยเรื่องความลับกันหรอ”
“เอ่อ...”
“หึ...”
พิณสุดาเลิกคิ้วมองสองพี่น้องที่ทำงานกับบ้านของเธอมาเกือบสิบปีอย่างแปลกใจ ยิ่งเห็นสองพี่น้องอึกอักแล้วยิ่งงุนงง เพราะตามปกติสองพี่น้องก็ไม่ใช่คนชอบนินทาเจ้านาย และนี่คือเหตุผลทีทำให้ทั้งคู่เปรียบเหมือนญาติสนิทที่คุ้นเคยกันดี
“คือพี่...”สำอางถอนใจเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจเอ่ยปาก “เรื่องคุณแพรน่ะค่ะ”
“พี่แพร...พี่แพรทำไมคะ”
“คุณแพรอ่านนิตยสารที่คุณพิณให้พี่เอาไปทิ้ง แต่พี่ลืมก็เลย...”
“อะไรนะคะ”
พิณสุดาอุทานเสียงลั่น
“เบาสิคะคุณพิณ เกิดคุณท่านและคุณ ๆ กลับมาพี่จะแย่เอานะคะ”
“ก็พี่สำอางไม่น่าลืมเลยนี่” พิณสุดาตำหนิกลาย ๆ “แล้วพอพี่แพรเห็น....พี่แพรว่าไงบ้าง”
“ไม่ได้ว่าหรอกครับ แค่ให้พี่ขับรถพาไปหาคุณมาร์คที่ทำงาน”
“หะ...”
“ไม่ใช่แค่นั้นครับ” หนุ่มรีบเสริม “มีหนักกว่านั้นอีกครับ”
พิณสุดามองหน้าหนุ่มทีมองหน้าสำอางทีแล้วได้แต่ส่ายหน้า นึกเดาว่าเรื่องคงใหญ่น่าดู จึงรีบจูงทั้งสองพี่น้องให้ไปเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้เธอฟังในห้องทำงานชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องเก็บเสียงและสามารถล็อกกลอนได้อย่างดี
“นี่แปลว่าพี่แพรเจอยายกัญญารัตน์นั่นอาละวาดใส่มา”
พิณสุดาเอ่ยถามหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของหนุ่มจบ
“น่าจะเป็นแบบนั้นครับ” หนุ่มสันนิษฐาน “ดูคุณแพรเสียใจมาก...คงจะทะเลาะกับคุณมาร์คด้วย แต่ที่เจ็บน่าจะเป็นฝีมือภรรยาคุณมาร์คมากกว่าครับ”
“พิณต้องขึ้นไปดูพี่แพรหน่อยแล้ว”
พิณสุดาบอกพลางลุกขึ้นก้าวเดินไปที่ประตูห้อง แต่ไม่วายหันกลับมากำชับสองพี่น้องคนสนิท
“เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนนะคะพี่...พิณไม่อยากให้รู้ถึงหูคุณปู่”
“พี่ทราบค่ะ” สำอางรับปาก “พี่กับไอ้หนุ่มจะไม่พูดเลยค่ะ”
“ครับ...ผมสัญญาครับคุณพิณ”
“ดีค่ะ...ขอบคุณมาก”
พิณสุดายิ้มโล่งอก ก่อนเปิดประตูไม้หนาหนักแล้วเดินออกจากห้องไป
“ก๊อกๆๆๆ”
“ใคร...”
“พิณเองค่ะพี่แพร”
แพรธาราครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนก้าวเดินไปเปิดประตูห้องนอนที่เธอลงกลอนใส่กุญแจทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง
“พี่แพร...”
พิณสุดาครางเสียงแผ่ว เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นใบหน้าแดงช้ำของพี่สาวชัดเจน
“นี่ยายนั่นทำขนาดนี้เลยหรอ ...อย่างนี้ต้องจัดการ”
“พอเถอะพิณ” แพรธาราห้าม “เขาไม่ผิดหรอก...คนที่ผิดคือพี่มาร์คต่างหาก”
“พี่มาร์คเนี่ยนะ”
“ใช่...ถ้าเขาไม่ให้สัมภาษณ์น่าเกลียดแบบนั้น” แพรธารากล่าวเสียงเครียด “พี่ก็คงไม่ต้องไปหาเขาจนทำให้เมียเขาเข้าใจพี่ผิดแบบนี้”
“แต่ทำร้ายกันแบบนี้มันเกินไปนะ” พิณสุดาเถียง “ครอบครัวเรากับครอบครัวพี่มาร์คสนิทกัน ใคร ๆ ก็ทราบ...จะมาหึงหวงแบบนี้ก็ไม่ถูก”
“พิณ...”
แพรธาราลังเลชั่วอึดใจ ก่อนตัดสินใจเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาในหัวใจ
“เรื่องแต่งงาน...มันไม่จริงใช่ไหม พี่เชื่อไม่ลงว่าตัวเองจะจำไม่ได้ว่าเคยแต่งงาน เรื่องใหญ่อย่างนี้พี่จะลืมได้เหรอ”
“พี่แพร...”
พิณสุดากุมมือพี่สาวพลางบีบเบา ๆ สงสารพี่สาวนักแต่ก็ไม่อาจพูดสิ่งที่แอบซ่อนในใจ ไม่อาจบอกพี่สาวได้ว่าเรื่องใหญ่กว่านี้พี่สาวก็ลืม...ลืมจนหมดสิ้นทีเดียว
“พี่พยายามนะ...พยายามคิด ไม่อยากปรักปรำเขา” แพรธาราสารภาพ “แต่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นแล้วคุณพ่อคุณแม่จะไม่พูดถึง”
พิณสุดาจนทุกคำพูด อยากจะแกล้งทำตลกให้พี่สาวไม่เครียด แต่เวลานี้รู้สึกเหมือนสมองของเธอก็ตันไปหมดเช่นกัน
“ทำไมเงียบล่ะพิณ หรือพิณเชื่อ” แพรธาราคาดคั้น “พิณคิดว่าพี่แอบแต่งงานกับพี่มาร์คโดยไม่บอกที่บ้านเรา ไม่บอกแม้กระทั่งคุณปู่”
“หึ...” พิณสุดาดีดนิ้วในใจอย่างคนเพิ่งพบทางออก “อย่างคุณปู่ถึงพี่แพรไม่บอก ท่านก็ต้องรู้อยู่ดี เคยปิดเรื่องอะไรท่านได้บ้าง”
“พิณ...” แพรธาราถลึงตาดุน้องสาว “พี่อุตส่าห์ปรับทุกข์ด้วย แต่เรานะ...วัน ๆ เอาแต่ทะเล้น ชอบแซวคุณปู่อยู่เรื่อย”
“แหม...นี่แค่แอบนินทาลับหลังเท่านั้นเองค่ะ”
พิณสุดาเถียง ก่อนจะพยายามโน้มน้าวใจพี่สาว
“เอาล่ะ พิณไม่อยากพูดมาก แต่พิณไม่อยากให้พี่แพรโกรธพี่มาร์คหรอกนะ”
“ไม่ให้โกรธ ทั้งที่เขากำลังทำให้ครอบครัวเราเสียหายนะ”
“พิณยืนยันนะว่าเรื่องนี้ไม่มีใครเสียหายแน่ ต่อให้หนังสือเล่มนี้ขายดีจนต้องพิมพ์ซ้ำเลยด้วย”
“ทำไมพูดเหมือนพี่มาร์คเลย หรือมีอะไรที่พี่ไม่รู้”
“ไม่มีสักหน่อย พิณเห็นหนังสือแนวปาปารัซซี่มีเยอะ ข่าวบางอย่างมั่วแบบที่เขาว่านั่งเทียนเขียน เอาเข้าจริงก็จับต้นชนปลายแทบไม่ได้สักตัว”
“แต่หนังสือเล่มนั้น...”
“หนังสือเล่มนั้นจะเขียนว่ายังไง...พี่แพรไม่ต้องกังวล พิณกล้ายืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ครอบครัวเราเสียหน้าแน่ ต่อให้คุณปู่อ่านก็ยังหัวเราะเยาะจนหนวดกระดิกเลยล่ะ”
“ยายพิณ...”
แพรธาราเรียกชื่อน้องสาวเสียงเขียว ก่อนจะหยิกหมับที่แขนน้องสาวอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยอมรับว่าคำพูดล้อเล่นของน้องช่วยให้เธอคลายกังวลได้มาก รู้สึกอุ่นใจขึ้นว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ไม่มีใครต้องเสียหายหรือเสียชื่อเพราะเธอเป็นต้นเหตุแน่นอน
*****************
ตอนนี้สบาย ๆ ค่ะ ตอนหน้าจะค่อย ๆ เริ่มบอกเหตุผลที่แพรจำไม่ได้นะคะ และเรื่องก็จะเข้าจุดเดือดขึ้นและก็ลงค่ะ อิอิ
พิมดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.พ. 2555, 11:16:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.พ. 2555, 11:16:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1364
<< ตอนที่ 3 | ตอนที่ 5 >> |
Auuuu 5 ก.พ. 2555, 11:34:42 น.
ไอ๊หย่ะะะะะ ท่าทางจะมีเรื่องไม่ธรรมดาเกิดขึ้นแน่ๆเลย
ไอ๊หย่ะะะะะ ท่าทางจะมีเรื่องไม่ธรรมดาเกิดขึ้นแน่ๆเลย
anOO 5 ก.พ. 2555, 18:23:58 น.
คงต้องรอตอนหน้าอย่างเดียวแล้ว ลุ้นจังว่าเรื่องมันจะเป็นแบบไหน
คงต้องรอตอนหน้าอย่างเดียวแล้ว ลุ้นจังว่าเรื่องมันจะเป็นแบบไหน
panon 6 ก.พ. 2555, 10:16:34 น.
ตามลุ้นๆๆๆๆๆๆ
ตามลุ้นๆๆๆๆๆๆ