ม่านพรหม
เมขลา น้องสาวคนเล็กของผู้การจิรวัติ เธอผู้มีซิกเซ้นส์ สัมผัสพิเศษ สามารถยั่งรู้อนาคตของคนอื่นได้บ้าง..เมขลา ต้องพบกับภัยคุกคามจาก กฤษณะ อดีตคนรักของลูกค้า เพราะเธอไปดูว่า กฤษณะไม่ใช่เนื้อคู่ของเธอคนนั้น...จากเรื่องสนุก ๆ ที่ได้รู้อนาคตคนอื่น เมขลา เริ่มเครียด และเขาก็ค่อย ๆ ทำให้เธอรู้ว่า..คนเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าได้นั้น ไม่ได้เกิดจาก รู้ดวงชะตา..
Tags: นายรถไฟ กับยายซิกเซ้นส์

ตอน: 8.2 "คนชอบกันก็ต้องคิดถึงกัน พอคิดถึงมันก็ห้ามตัวเองไม่ได้"

พอวิจิตรศราออกจากบ้านไปพร้อมกับศุภนิมิตร เมขลาผู้ไม่นิยมการตื่นสายก็ลงมาจากชั้นบน หญิงสาวช่วยดูแลความสะอาดของร้าน ระหว่างรอให้อุสากับดอกอ้อมาทำงาน โดยสายตาของเมขลาก็อดที่จะเหลือบมองไปทางหน้าบ้านไม่ได้..

เมื่อวานเขามากดออดแต่เช้า แต่วันนี้...เขาไปไหน ไปเรียนหนังสือหรือเปล่า เพราะเมื่อคืนเขาก็ดื่มไปไม่ใช่น้อย จะลุกไหวไหม หรือว่าจะลากยัยเด็กแก่แดดที่ตามมาทีหลัง นั่นขึ้นเตียงอย่างที่วิจิตรศราว่าไว้.. จนหมดแรงไม่ไปเรียนหนังสือ

..แต่ว่าเมื่อคืน....แล้วตอนตีสามกว่า ๆ เธอก็ยังได้ข้อความจากเขา..ซึ่งลงชื่อว่า คะน้า ใจความว่า ‘หลับฝันดีนะครับ’ก็แสดงว่าเขาอาจจะนอนคนเดียวถึงได้มีอารมณ์คิดถึงเธอ..ส่วนยัยเด็กนั่นดูจะชอบเขาแค่ฝ่ายเดียว..ส่วนเขาก็คงยังจะลืมแฟนเก่าไม่ได้ ถึงยังทำปั้นปึ่งใส่เธอผู้เป็นส่วนหนึ่งทำให้แฟนเขาจากไป..

หรือว่าเขายังโกรธที่วิจิตรศราเอาหนังสือเรียนของเขาไปทิ้งถังขยะ..แล้วถ้าโกรธ เขาจะไปนั่งเก๊กอยู่ข้าง ๆ โต๊ะของเธอทำไม..

ปั้นปึ่ง หรือ จีบ..เมขลาขมวดคิ้ว..นึกถึงข้อความ ต่อว่าแบบงอน ๆ ของเขา แล้วเมขลาก็ยิ้มกริ่ม
‘คนใจร้าย’ เขาไม่ได้โกรธเธอนี่..เพียงแต่อยากจะบอกให้รู้ว่าเขาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน..

นึกถึงเขา ด้วยความรู้สึกสับสนพลางปัดกวาดเช็ดถูอุปกรณ์ทำมาหากินของวิจิตรศราจนกระทั่งอุสากับดอกอ้อมาถึง..เมขลาที่ยังสงสัยว่า หนึ่งในสองคนนี้ ต้องมีใครสักคนหนึ่งเป็นสายลับให้นายกฤษณะก็เดินไปทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้..

“อุสา ดอกอ้อมาหาพี่หน่อย”

ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า..

“มีโทรศัพท์มือถือคนละกี่เครื่อง..”

“หนูมีเรื่องเดียว” อุสารีบบอก

“หนูก็เครื่องเดียว” ดอกอ้อเริ่มใจคอไม่ดี..

“ขอยืมหน่อยได้ไหม..ทั้งสองเครื่องเลย”

“จะเอาไปทำอะไร” ดอกอ้อรีบถาม..เพราะในเครื่องมีเบอร์ของพี่กฤษณะเพื่อนพี่อาวุธ แถม
ข้อความเมื่อวานก็ยังไม่ได้ลบออกด้วย..

“ถ้าไม่อยากให้ดู ก็สารภาพมาว่าใครเป็นสายสืบให้นายกฤษณะ”

“ไม่ใช่หนูแน่ ๆ” อุสารีบยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนพร้อมกับที่รีบดึงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงส่งให้เมขลา ส่วนดอกอ้อนั้นด้วยเห็นว่าจนมุมแน่นอน กับตอนนี้วิจิตรศราไม่อยู่ตรงนี้ ถ้ารีบสารภาพไปและขอร้องให้เมขลาช่วยปิดเป็นความลับให้ มันก็น่าจะดีกว่าถูกจับได้เสียก่อน

“เอ่อ อ้อเองค่ะพี่..”

“แล้วรู้จักเขาได้อย่างไร”

“พี่เค้าเป็นเพื่อนกับพี่อาวุธ แม่พี่อาวุธเป็นพี่สาวของป้าเอียดที่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าบ้านนี่เอง..พี่อาวุธเป็นญาติของหนู...เค้ามากินก๋วยเตี๋ยวที่นี่แล้วก็เห็นว่าพี่หนูนาอยู่ที่นี่เค้าก็เลย..”

“บอกอะไรเค้าไปบ้าง”

“ก็..บอกว่าพี่ยังไม่มีแฟน ทำงานที่ไหน คนที่ไหน..แค่นั้นเอง”

เมขลาถอนหายใจเบา ๆ ดอกอ้อยิ้มแหย ๆ ก่อนจะบอกว่า “พี่เค้าก็น่ารักดีนะคะ”

“น่ารักบ้าอะไร..” เมขลารีบแหวเข้าใส่

“ใช่ น่ากลัวจะตาย..” อุสารีบประจบเพราะมั่นใจว่า เมขลาไม่มีวันสนใจคนห่าม ๆ อย่างนั้นแน่นอน

“พี่หนูนา อย่าบอกกับคุณวินะคะ ไม่งั้น คุณวิไล่อ้อออกแน่ ๆ” ดอกอ้อรีบปกป้องตัวเอง..เมขลาเชิดหน้าบึ้งตึงทำท่าครุ่นคิด..ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า

“ได้ แต่อ้อก็ต้องช่วยพี่เหมือนกัน”

“ช่วยอย่างไง”

“อย่าเพิ่งบอกกับนายนั่นว่าพี่รู้ว่าเธอเป็นสายสืบแล้ว แล้วถ้าเขาถามอะไรถึงพี่ ก็มาเล่าให้พี่ฟังด้วย..ได้หรือเปล่า”

“ได้ค่ะ..”

“งั้นก็แยกย้ายกันออกทำงาน อุสาปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วยนะ...คุณวิรู้เข้าดอกอ้อซวยแน่ ๆ”



วันนั้นทั้งวันดอกอ้อรู้สึกว่าเมขลาดูเหม่อลอยและก็ลอบมองไปทางหน้าร้านบ่อย ๆ และด้วยอยากให้เมขลากับกฤษณะเป็นแฟนกัน ดอกอ้อจึงใช้เวลาพักในช่วงเย็นของตน เดินออกจากร้านหามุมสงบ ๆ ต่อสายถึงกฤษณะเสียเอง..

“คุณวิไม่อยู่..พี่เมอยู่คนเดียว นั่งอยู่ข้างล่างเนี่ย อ่านหนังสือนิยายอยู่ พี่จะเข้ามาไหม..รีบมานะ..เดี๋ยวคุณวิกลับมาละ วุ่นวายปวดหัว..ขอติ๊บค่าส่งข่าวด้วยนะ ร้อยหนึ่ง โอเคเปล่า..ขอบคุณค่ะ..”

ดอกอ้อวางสายแล้วเข้าร้านเสริมสวย เพื่อให้เพื่อนที่เป็นลูกจ้างอยู่ในร้านช่วยไดร์ผมให้ในราคาพิเศษ..และพอเดินกลับมาที่ร้านนางฟ้าคาเฟ่..ดอกอ้อก็เห็นกฤษณะจอดรถชิดริมฟุตบาท เขามองเห็นดอกอ้อ ดอกอ้อจึงชูนิ้วชี้ขึ้นให้เขารู้ว่า เธอต้องการเงินหนึ่งร้อยบาทเดี๋ยวนี้ เขาพยักหน้ารับทราบ ลงจากรถพร้อมถุงใส่น้ำพริกปลาทอดกับผักต้มที่แม่ทำให้เพิ่มเดินไปหาดอกอ้อก่อนจะส่งเงินแบงก์ร้อยเข้ามือแล้วก็เดินมุ่งไปทางร้านนางฟ้า โดยมีดอกอ้อเดินตามเข้าไปอย่างห่าง ๆ..

พอเท้าแตะพื้นที่หน้าร้าน อุสาก็เงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวตกใจ ก่อนจะหันไปหาเมขลาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะตัวที่อยู่ใกล้ ๆ กับชั้นหนังสือ..

“คุณหนูนาอยู่ไหมครับ” เขาชอบชื่อนี้มาก และตั้งใจว่าจะเรียกให้ติดปาก เพราะชื่อนี้มันดูเข้ากับชื่อคะน้าของเขาเหลือเกิน

..ต้นคะน้า ปลูกอยู่ในแปลงแล้วก็มีหนูนาวิ่งไปวิ่งมารอบ ๆ เจ้าของเผลอก็แทะกินให้ต้นมันแหว่ง ๆ

เมขลาได้ยินแล้วว่าเขาถามถึงตัวเอง แต่หญิงสาวก็แสร้งทำเป็นอ่านหนังสือเพลิน ปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนกับที่เขาทำไว้เมื่อคืนนี้..

“พี่หนูนา” อุสาร้องบอกเบา ๆ

“พี่อ่านหนังสือ..” เมขลาตอบแล้วก็ไล่สายตากวาดตัวอักษรบนเนื้อกระดาษถนอมสายตา หัวเราะไปกับความสุขที่นักเขียนวาดจินตนาการลงไว้..จนกระทั่งรู้สึกว่า เก้าอี้ตรงกันข้ามด้านหน้า มีเขา คนที่เธอก็ตอบใจตัวเองไม่ได้ว่า อยากเจอหรือไม่อยากเจอหน้า..มาทรุดตัวลงนั่ง..และเขาก็นั่งอยู่อย่างนั้น ไม่พูดไม่จาอะไร เมขลาจึงต้องนั่งอ่านหนังสือต่อไป ทั้งที่ความรู้สึกเริ่มไม่ซึบซาบอรรถรสเสียแล้ว..

“ขอน้ำเปล่าพี่แก้วหนึ่งนะน้อง” กฤษณะร้องบอกอุสาเบาๆ และตอนนั้นดอกอ้อก็เดินเข้าร้านมาพอดี ดอกอ้อเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์ โดยทำเหมือนไม่รู้จักกฤษณะเช่นเคย..อุสาเอาน้ำใส่แก้ววางบนจานลองแล้วเดิน
ออกมาวางไว้ให้..

“รับแต่น้ำเปล่าเหรอค่ะ”

“ครับ..”

อุสาเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์ เพราะที่หน้าร้านมีเด็กสาวมัธยมเดินเข้ามากันกลุ่มใหญ่ ทั้งดอกอ้อและอุสาจึงสนใจแต่ลูกค้า โดยไม่ได้เห็นว่าตอนนั้นเมขลาปรายตาขึ้นมองกฤษณะ และกฤษณะเองก็รอจ้องสบตาหวานคมกล้าของสาวเจ้า..

และเมื่อเห็นดวงตาสื่อความในใจของเขา เมขลาก็ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาของเขาเสียเอง..

“กินข้าวเย็นหรือยังครับ” เมื่อได้ช่องกฤษณะจึงเป็นฝ่ายเริ่มต้น

“ยัง..”

“ผมเอาน้ำพริกเผา ผักต้ม ปลาทอดมาฝากครับ” ว่าแล้วเขาก็เลื่อนถุงใส่กล่องน้ำพริก ใส่ปลา และผักต้มไปให้เมขลาที่วางหนังสือลงข้างตัว..ซึ่งกล่องนี้มันจะเป็นข้ออ้างทำให้เขากลับมาที่นี่ได้อีกรอบ

เมขลาปั้นหน้านิ่งๆ ชักสีหน้าครุ่นคิด..ถ้ารับของของเขาไว้ ถ้าคุยกับเขาดี..ก็เหมือนทอดสะพานให้เขา..

“ผมกลับไปเยี่ยมแม่กับพ่อมา… พ่อแม่ผมอยู่แถว ๆ คลองหนึ่งครับ พ่อขับรถให้มหาวิทยาลัย แม่เป็นแม่บ้านในมหาวิทยาลัย ผมเป็นลูกชายคนเดียว..ผมไม่ได้อยู่กับพ่อแม่หรอกครับ พักที่แฟลตรถไฟแถว สวนรถไฟ อยู่คนเดียว..มีรถมอเตอร์ไซด์คู่ชีพ วันเสาร์ อาทิตย์ เป็นวันหยุด แต่ผมได้ทุนจากการรถไฟไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฯ แล้ววันนี้เลิกเร็ว ผมก็เลยกลับบ้านไปหาแม่...แม่ผมชอบตำน้ำพริก..ผมก็เลยคิดว่าเอามาฝากคุณสักหน่อยก็น่าจะดี..” เขาเล่ายืดยาว โดยที่เมขลาก็แสร้งคว้าหนังสือขึ้นมาอ่านอีกรอบทำเหมือนไม่สนใจเรื่องของเขาทั้งที่สมองนั้นจดจำคำพูดและน้ำเสียงของเขาได้ครบถ้วน..

“คุณจะกินเลยไหม ผมจะได้เข้าครัวไปตักข้าวมาให้” พอเขาพูดแบบนี้เมขลาที่อยากจะยิ้ม..ต้องปรายตามองเขา..ก่อนจะพูดว่า..

“ไม่ต้องหรอก”

“อย่าทิ้งนะครับ..กินฝีมือแม่ผมหน่อยนะ” เขาทำเสียงออดอ้อนและเมขลาก็รู้สึกผิดขึ้นมา ด้วยคิดว่า ถ้าเขากลับไปเธอจะยกอาหารกล่องนี้ให้ดอกอ้อกับอุสาได้กินกัน..

“มันอาจจะดูไม่มีราคาหรือดูบ้าน ๆ เกินไป แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมจริงใจ..” เมขลาไอแค็ก ๆ ทันที..

“เป็นอะไรครับ..”

“ขอบคุณค่ะ..ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ว่าแล้วเมขลาก็ลุกขึ้นถือหนังสือรีบเดินขึ้นชั้นบนไป...และกฤษณะก็เดาไว้ว่า เมขลาคงจะไม่ลงมาง่าย ๆ ซึ่งเขาเองก็ยังไม่พร้อมจะนั่งอยู่ที่นี่นานกว่านี้เช่นกัน..



ด้วยวิจิตรศราโทรมาบอกว่าจะกินข้าวเย็นมาจากข้างนอกเลย เมขลาจึงต้องกินข้าวเย็นตามลำพัง เพราะอุสากินไปแล้ว ส่วนดอกอ้อก็ว่าจะหิ้วท้องไว้ไปกินกับแฟนหลังเลิกงาน

เมขลามองน้ำพริก ปลาช่อนแดดเดียวทอด ผักต้มอันได้แก่ มะเขือ ถั่วฝักยาว ถั่วพลู ผักกวางตุ้งในกล่องน้ำลายนั้นสอทีเดียว แต่ว่านึกถึงหน้าคนที่ถือมาฝากแล้ว เมขลาก็ยั้งใจไว้ด้วยกลัวความรู้สึกของตนเอง..กินของเขาก็เท่ากับรับไมตรีเขาไว้..แต่ถ้าไม่กิน ก็เท่ากับว่าเธอคิดมากเกินไป..และด้วยคุ้นเคยกับอาหารพวกนี้ น้ำลายจึงสอ ท้องก็ร้องขอให้มือต้องตักน้ำพริกมาวางบนข้าวสวยที่ร้อนระอุ..

พอน้ำพริกแตะปลายลิ้น เมขลาก็รู้สึกว่าน้ำลายในปากแตกซ่าน..ขณะที่เคี้ยวข้าวคลุกน้ำพริกแนมปลาทอดไป..เมขลาก็นึกถึงคนที่หิ้วอาหารชุดนี้มาให้..ถ้าตอนนั้นเขาเข้ามาตักข้าวสวยออกไปให้เธอ..อะไรมันจะเกิดอะไรตามมา..



วิจิตรศราลงมาจากรถของศุภมิตรพร้อมกับถุงใส่ของพะรุงพะรัง อุสารีบออกไปรับถือตามมาวางไว้บนโต๊ะ หลังจากยืนส่งศุภนิมิตรจนเขาขับรถลับตาไปแล้ว วิจิตรศราก็เดินเข้าบ้าน..

“เมล่ะ”

เมขลาเดินออกมาจากในครัวพอดี..

“เป็นอย่างไรบ้างวิ”

“ได้ของกินกลับมาเพี๊ยบเลย..” วิจิตรศราทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้พลางรื้อของออกมา เมขลาจึงนั่งลงตามไปด้วย..

“บ้านพี่เค้าน่าอยู่ดี..บ้านหลังใหม่สวยมาก..แล้วนี่ก็ผักที่พ่อเขาปลูก..พ่อเขาตัดมาให้..” เมขลาเห็น
ว่ามีถุงใส่หัวปลี แตงกวา ฟักทอง ผักกาดขาว กะเพรา แมงลัก โหระพา ตะไคร้ กล้วยอีกสองหวี มะยมสดอีกสองถุงหิ้วขนาด 6 คูณ 14 นิ้ว มะเฟืองผลเหลืองอ๋อยในถุงขนาดใหญ่

“โหทำไมมันเยอะแยะอย่างนี้”

“ก็..ของบ้านพี่เขาทั้งนั้นเลย” สีหน้าของวิจิตรศรานั้นบ่งบอกให้รู้เลยว่า วันนี้ความสัมพันธ์กับพี่ศุภมิตรคืบหน้าแน่ ๆ..แต่ว่าเมขลาก็ไม่อยากซักไซ้วิจิตรศราต่อหน้าลูกน้อง และก่อนหน้านั้นเมขลาก็กำชับสองสาวไว้ด้วยว่า อย่าบอกกับวิจิตรศราเด็ดขาดว่าวันนี้กฤษณะมาที่ร้านพร้อมของฝากที่เธอจัดการเรียบร้อยไปแล้ว..

“เมล่ะ..วันนี้เป็นไงมั่ง..นายนั่นมาหรือเปล่า”

“ทำไมวิ คิดว่าเขาจะต้องมา”

“ก็..วิดูออกหรอกว่าเขาชอบเม..คนชอบกันก็ต้องคิดถึงกัน พอคิดถึงมันก็ห้ามตัวเองไม่ได้ มันก็ต้องมาหา..เห็นหน้าสบตากันนิดหน่อย ได้หยอกบ้างล้อบ้างก็มีความสุขแล้ว..” ยิ่งวิจิตรศราบรรยายอารมณ์คนมีความรัก เมลขาก็ปั้นหน้าให้เป็นปกติได้ยากเต็มที..แต่เมขลาก็แกล้งสวนหมดไปว่า..

“กูรู..เรื่องความรัก”

“ก็กำลังอินเลิฟก็เข้าใจอารมณ์บ้างอะไรบ้าง..แล้วตกลงเค้ามาหรือเปล่า” ไม่ใช่ถามแค่เมขลาแต่ว่าวิจิตรศราส่งสายตาวาว ๆ ไปหาดอกอ้อกับอุสาด้วย..และด้วยไม่อยากโกหกเพื่อน กับไม่อยากให้ดอกอ้อกับอุสาลำบากใจไปด้วย เมขลาจึงอ้อมแอ้มว่า

“มาเดี๋ยวเดียว..”

“ทำไมเดี๋ยวเดียว”

“ก็..วิไม่อยู่ทะเลาะกับเขามั้ง”

“หน้าตาเมดูมีความสุข คิดอะไรกับเค้าหรือเปล่าเนี่ย”

“บ้า..แล้ว”

“อย่านะ..อย่ามาตายน้ำตื้น”

“ตื้นอย่างไร”

“ก็ดูดวงเรื่องเนื้อคู่ให้คนนั้นคนนี้ไปทั่วหมด แล้วแต่ละคนที่ให้เมดู ก็ได้ลงเอยกับคนที่ดี ๆ และคู่ควรทั้งนั้นเลย..แต่นี่..วิรู้สึกว่า หมาวัดกับดอกฟ้า”

“เขาทำงานรถไฟนะ”

“นั่นแหละที่วิเห็นว่ายิ่งน่ากลัวที่สุด..โบราณเขาก็สอนลูกสอนหลาน..”

“ไม่ต้องมาย้ำเลย”

“อย่าบอกนะว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ”

“วินี่..อะไรกัน..มาถึงก็พูดเองเออเองเสียหมด”

“แล้วเขาพูดถึงเรื่องหนังสือเรียนอีกเปล่า..เอาเรื่องนั้นมาอ้างอะไรไหม”

“เขาไปบ้านแม่เขา แล้วแม่เขาก็ตำน้ำพริก เขาก็เลยเอามาฝาก..อร่อยดีแช่ไว้ในตู้เย็นเผื่อใครจะกินต่อ” พูดแค่นั้นเมขลาก็ลุกขึ้น เพราะอยากให้ดอกอ้อกับอุสาได้รายงานเรื่องทั้งหมดให้วิจิตรศราได้รับรู้..และพอเท้าข้างซ้ายแตะที่บันได..เมขลาก็ได้ยินวิจิตรศราพูดว่า..

“หนังสือเรียนของเขาอยู่ในห้องวิ..บอกให้เขากลับมาเอาไปด้วยล่ะ..สอบไม่ผ่านขึ้นมาจะมาว่าวิได้”

“แล้วเมื่อวานแกล้งเขาทำไม”

“ก็..อยากแกล้ง..สนุกจะตาย”..พอวิจิตรศรายอมรับง่าย ๆ เมขลาจึงค้อนให้วงใหญ่ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไปโดยมีคำถามในใจว่า เธอจะบอกข่าวนี้กับเขาอย่างไรดี..



หลังอาบน้ำเรียบร้อยเมขลาที่อยู่ใสชุดนอนซึ่งเป็นเสื้อกางเกงสีชมพูลายการ์ตูนตัวเก่งก็นั่งมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ใจหนึ่งก็อยากให้มันมีสัญญาณแจ้งว่ามีข้อความจากนายคะน้า เช่นถามเธอว่า..น้ำพริกอร่อยไหม..แต่ว่าโทรศัพท์มันก็นิ่งเงียบ..ครั้นจะโทรกลับไปบอกกับเขาเรื่องหนังสือเรียนเมขลาก็เห็นว่า ยังไม่ควร..

ยังไม่ควรทอดสะพาน..เพราะเขาเองไม่ใช่ผู้ชายในสเป็คของเธอ..แต่เขาก็ทำให้จิตใจของเธอปั่นป่วนได้..เธอจะชอบเขาไม่ได้..เพราะเขาเป็นพวกผู้ชายต้องห้าม..รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ

เมขลาคว้าโทรศัพท์แล้วเดินกลับไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอน..และพอจะล้มตัวลงนอน..เมขลาก็นึกได้ว่า คนที่จะแจ้งข่าวให้เขาได้รับรู้ก็คือดอกอ้อ..

“อ้อเหรอนอนหรือยัง” เมขลากดโทรศัพท์หาดอกอ้อในทันที..

“เพิ่งถึงบ้านเองพี่..พี่หนูนามีอะไรรึ”

“โทรไปบอกนายกฤษณะหน่อยสิ..บอกเขาว่า หนังสือเรียนของเค้า คุณวิเก็บไว้ไม่ได้ทิ้งขยะอย่างที่บอก”

“โทรบอกแล้ว”

“เร็วไปไหม”

“ก็..บังเอิญได้ยินก็เลย..”

“แล้วเขาจะเข้ามาเอาเมื่อไหร่”

“ไม่มีกำหนด”

เมขลาลอบถอนหายใจเบา ๆ

“งั้นก็แค่นี้นะ..อ้อ..แล้วบอกเขาไปหรือเปล่าเรื่องที่พี่รู้ว่าเธอเป็นสายให้เขา”

“ไม่ได้บอกหรอกพี่..”

“ไม่บอกก็ดีแล้ว..แล้วก็ไม่ต้องส่งข่าวอะไรของฉันให้เขารับรู้ล่ะ..”

“แต่อ้อบอกไปแล้วว่าพี่กินน้ำพริกอย่างเอร็ดอร่อย..”

“..เธอนี่..”

“ก็พี่เขาถามอ้อนี่..แล้วมันก็เป็นเรื่องจริงด้วย..”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.พ. 2555, 10:22:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.พ. 2555, 10:22:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 2588





<< 8.1 สั้น ๆ ครับ ช่วงตีบตัน..กลัวลืมกันอ่ะ..   9.จันทร์เจ้าฉาย >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 10 ก.พ. 2555, 10:25:40 น.
ทริป>>>> กระชับมิตร ย้อนรอย นวนิยาย "ราชนาวีที่รัก" ของ เฟื่องนคร วันที่ 11 มีนาคม นะครับ //วันเดียว// ฐานทัพเรือสัตหีบ เกาะแสมสาร แหลมปู่เจ้า วัดสัตหีบ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หมู่บ้านแสมสาร พิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เกาะและทะเลไทย..เริ่มต้นที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. ///สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ข้อความส่วนตัวครับ..หรือไม่ก็ที่ f_nakhon@hotmail.com


จุฬามณีเฟื่องนคร 10 ก.พ. 2555, 10:27:03 น.
งานนี้ คุณโมริสา อรอร ไปด้วยนะครับ ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงไป ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยครับ..//เรื่องที่รถออกเร็วตอนตี่สี่ที่อนุสาวรีย์ชัย ถ้าท่านใด ไม่สะดวก มีบ้านคนรู้จักย่านนั้นให้พักค้างก่อนออกเดินทางครับ แล้วก็เดินทางกลับถึงกทม.ก่อนสองทุ่มแน่นอนครับ...


จุฬามณีเฟื่องนคร 10 ก.พ. 2555, 10:28:00 น.
สามารถชวนเพื่อนสนิทไปด้วยได้ครับ ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นสมาชิกเว็บสิรินดาเท่านั้น..แต่ถ้าเพื่อนไม่ชอบอ่านหนังสือ ปัญหาคือเพื่อนจะรำคาญ เพราะเวลาคนอ่านหนังสือนิยายมาเจอกัน ก็จะคุยกันแต่นิยายนิยายนิยาย..(จากประสบการณ์ตรงครับ)...


มุกมาดา 10 ก.พ. 2555, 10:46:18 น.
มาอ่านสองตอนรวด อยากให้กฤษณะตักข้าวให้กินบ้าง ไรบ้าง อิ อิ


จุฬามณีเฟื่องนคร 10 ก.พ. 2555, 10:58:08 น.
พอม่านพรหมจะคลอด เราก็ค่อย ไปขึ้นรถไฟเที่ยวกันเนอะ ผมเล็งโปรแกรม หนึ่งวันของการรถไฟไว้แล้ว น่าสนใจทีเดียว ไปเช้าเย็นกลับ ตั้งต้นที่หัวลำโพง.. 55555555555


มุกมาดา 10 ก.พ. 2555, 11:05:59 น.
แวะมาบอกว่าเวียงแก้ว ก็ไปทริปครั้งนี้เหมือนกันค่ะ ^____^ แล้วเจอกันค่ะ


Zephyr 10 ก.พ. 2555, 11:55:57 น.
อยากินนำ้พริกบ้าง พี่คะน้าเอามาให้เค้าบ้างสิ อ่านแล้วหิวเลยนะ
ยายวิยังแรงดีนะ เธอยังคงรักษาความน่าหมั่นไส้ไว้ได้จริงๆ
รักดอกอ้อจังเลยตอนนี้ อิอิ แต่เหมือนนกสองหัวเลยอ่า แต่เอาเถอะถ้าทำให้เค้ารักกันได้ จะให้อภัย ^^


คิมหันตุ์ 10 ก.พ. 2555, 14:04:51 น.
หิวข้าวเลย


anOO 10 ก.พ. 2555, 15:14:02 น.
ยัยวิคงแกล้งแหย่ยเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วแอบเชียร์อยู่รึป่าว


แว่นใส 10 ก.พ. 2555, 17:25:52 น.
ระวังเพื่อนจัดการนะ


Niceday 10 ก.พ. 2555, 19:23:39 น.
นายคะน้าก็น่ารักดี อิอิ อยากมีหนุ่มเอาน้ำพริกมาฝากบ้าง


pseudolife 10 ก.พ. 2555, 21:10:23 น.
หิวน้ำพริกเลย


Orathai 10 ก.พ. 2555, 21:42:34 น.
นายคะน้าเนี่ยเจ้าเล่ห์ผสมท่ามากนะคะ แต่ก็น่ารักดี


fiendfiend 10 ก.พ. 2555, 22:31:36 น.
"ต้นคะน้า ปลูกอยู่ในแปลงแล้วก็มีหนูนาวิ่งไปวิ่งมารอบๆ" ชอบอ่ะ คิดได้ไงค่ะ


nutcha 10 ก.พ. 2555, 22:32:49 น.
วันนี้เราก็กินข้าวกับน้ำพริกเผากะไข่ต้ม หนูนาเริ่มหวั่นไหวแล้ว


loveleklek 10 ก.พ. 2555, 23:08:53 น.
ข้าวคลุกน้ำพริก น้ำลายไหล


ปิลันธน์ 11 ก.พ. 2555, 01:12:42 น.
กฤษณะ ฮากระจายบอกเล่าประวัติตัวเองละเอียดยิบ><
แต่พอดีว่าเพิ่งทานข้าวมาอิ่มแปร้ ฉากบรรยายสาระพัดอาหารจึงไม่มีผลต่อต่อมหิว...อิอิ^^


XaWarZd 21 ก.พ. 2555, 23:17:07 น.
อ่านแล้วหิวขึ้นมาทันทีเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account