กรรมสิทธิ์หัวใจ
“แล้วทำไมหนูถึงต้องทำตามที่คุณพีต้องการทุกอย่างด้วยเล่า!”

วริณสิตาตะโกนก้อง ราวกับจะร้องเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ร้อนที่สุมในใจ สาวน้อยหารู้ไม่ ว่าการกระทำนั้นทำให้ดวงตาคมปลาบเบิกขึ้นสว่างวาบ

พีรพัฒน์ตวัดต้นแขนเล็กที่จับไว้ในมือให้ถลาเข้ามา กระซิบเย็นเยียบ หน้าเกือบประชิดหน้า

“เพราะเธอ คือ ‘กรรมสิทธิ์’ ของฉันไงล่ะวริณสิตา!”

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 16

ตอนที่ ๑๖

หทัยรักแขวนเสื้อคาร์ดิแกนสีชมพูอ่อนกลับเข้าราวด้วยทีท่าคล้ายเบื่อหน่าย ก่อนจะหันไปทางพนักงานขายเพียงเพื่อจะได้เห็นว่า ยายเด็กหน้าบ้านๆตัวดำเป็นเหนี่ยงที่ปรามาสนั่น ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้เลย!

หทัยรักรู้สึกเหมือนถูกอะไรสักอย่างเสยปลายคางอย่างแรง

วริณสิตาอยู่ในชุดแซกแบบคอวีแขนสั้นสีน้ำตาลอ่อน ตัวชุดพิมพ์ลายดอกไม้เป็นดอกเล็กๆสีน้ำตาลเข้ม และผ้าคาดเอวสีน้ำตาลแบบเดียวกันก็ถูกผูกเข้าเป็นโบว์อยู่ด้านข้าง ส่งให้เห็นช่วงเอวบางที่ค่อดเว้าอย่างสมส่วนของดรุณีแรกรุ่น ถึงแม้ตอนที่ค่อยๆเดินเข้ามาหาจะมีทีท่าเงอะๆงะๆด้วยประสาขัดเขิน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กนี่มันดูดีขึ้น!

“ชุดนี้เป็นแซกผ้าชีฟอง ใส่สบาย ไม่ร้อนนะคะ แล้วก็มีซับใน ไม่บางค่ะ ดีไซน์น่ารักๆแบบนี้ร้านเรามีให้เลือกหลายสีเลย แต่ลองสีน้ำตาลอ่อนๆให้น้องก่อนจะได้เข้ากับผิวค่ะเพราะน้องเขาผิวสีน้ำผึ้ง แต่ปกติแล้วเนี่ยสาวผิวสีนี้ก็สวยเป็นทุนอยู่แล้วนะคะ”

พนักงานขายสาวสาธยายไปตามหน้าที่ ไม่ลืมที่จะใส่ลูกยอเข้าไปตอนท้ายตามกลวิธีส่งเสริมการขายโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยสักนิดว่า ที่จริงแล้วคนฟังไม่ถูกใจกับความจริงข้อนั้นยิ่งยวด! หทัยรักนิ่ง พยายามจะข่มอารมณ์สุดๆ แต่พนักงานขายนั้นไม่รู้อะไรเลย พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าคล้ายไม่ถูกใจก็เลยยิ่งใส่ลูกยอส่งเสริมการขายหนักขึ้นไปใหญ่

“อ่า...หรือถ้าคุณผู้หญิงคิดว่าชุดแบบนี้สำหรับน้องแล้วเรียบไป จะลองเป็นชุดแบบแขนตุ๊กตาก็น่ารักนะคะ จั๊มตรงเอวหรือจับสม๊อกช่วงอกนิดๆก็สวย น้องเขาน่ารักอยู่แล้ว ใส่แบบไหนก็น่า”

“แต่ฉันว่ามันไม่เหมาะ!” หทัยรักสวนพรวดก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้พูดจบเสียด้วยซ้ำ และประโยคนั้นก็ทำเอาพนักงานสาวถึงกับอ้าปากค้างไปตามระเบียบ แต่สาวสวยไม่สนใจ หทัยรักหันไปคว้ากระโปรงสั้นที่อยู่บนราวแขวนใกล้ๆก่อนสะบัดใส่ตัววริณสิตาทันที

“ไปเปลี่ยนเป็นตัวนี้มาซิ!”

สาวน้อยสะดุ้งเล็กๆกับกระโปรงสั้นทั้งไม้แขวนที่ตบปับเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เพราะคำสั่งดุกับน้ำเสียงแข็งๆทำให้ต้องรีบยกมือรับไว้ พยักหน้าแล้วตอบรับ ‘ค่ะ’ เบาๆ ขณะที่สาวสวยเจ้าของคำสั่งกลับไม่ได้สนใจสักนิด หทัยรักหันไปทางพนักงานขาย

“ส่วนเธอ ตามฉันมานี่!” สั่งเสร็จสาวสวยก็ก้าวยาวๆไปจากตรงนั้นทันที พนักงานขายได้แต่ทำหน้าเลี่ยนๆอย่างไม่รู้ว่านี่ (ตู) ทำผิดอะไร ก่อนจะก้าวตามหลังไปและทิ้งวริณสิตาไว้ตรงนั้นเพียงลำพัง

สาวน้อยก้มมองกระโปรงยีนส์ฟอกสีซีดๆที่หทัยรักหยิบให้ เห็นแล้วก็ได้แต่ทำตาปริบๆ

ก็เกิดมาวริณสิตายังไม่เคยใส่กระโปรงอะไรที่นอกเหนือจากกระโปรงนักเรียนสีกรมท่ายาวคลุมเข่าเลย เพราะงั้นนาทีนี้เลยยังนึกไม่ออก ว่าตัวเองจะออกมาสารรูปแบบไหนกับกระโปรงสั้นจุ๊ดตัวนี้ สาวน้อยผ่อนลมหายใจออกไปพรืดใหญ่ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นมามองภาพตัวเองที่สะท้อนในผนังกระจกของร้าน

นี่ก็อีก...ชุดกระโปรงที่แสนสวย ดูดี มีราคาและคนที่มองตอบเธอกลับมานั้นก็สวยน่ารักชนิดปฏิเสธไม่ได้จริงๆ แต่ทว่า...

ขนาดตัวของตัวเองยังรู้สึกราวกับกำลังมองคนแปลกหน้า แล้วเสื้อกระโปรงสวยๆพวกนี้จะเหมาะสมกับคนอย่างเธอหรือ?

ไม่ละ...ไม่เหมาะเลย สาวน้อยตอบตนเอง

ใช่...เพราะเด็กที่มาขออยู่ในความอุปถัมภ์ของคนอื่นอย่างเธอ แค่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืด กับกางเกงขายาวธรรมดาๆตามแบบที่คุ้นชินก็คงดีมากพออยู่แล้ว อย่าได้ริอ่านอยากได้เสื้อผ้าราคาแพงๆให้คุณพีหรือคุณรักเขาต้องเคืองระคายจะดีกว่า

เมื่อคิดได้อย่างนั้น วริณสิตาก็แน่วแน่ว่าจะบอกความคิดความต้องการให้หทัยรักทราบ สาวน้อยจึงก้าวเท้าตามหลังพนักงานขายไปในที่สุด


หทัยรักก้าวยาวๆออกมาก่อนจะหยุดกึกเมื่อคิดว่าห่างพอ และนาทีต่อมาก็หันขวับกลับมา จ้องหน้าพนักงานขายที่เดินตามมาข้างหลัง ริมฝีปากงามแต้มลิปติกสีกลีบกุหลาบนั้นเม้มเข้าหากันจนบางเฉียบ

“นี่! เธอไม่จำเป็นจะต้องทำหน้าที่ของเธอให้มันดีสุดๆอย่างนี้ก็ได้นะ” หทัยรักเปิดฉากแล้วใส่ทันที สีหน้าขัดเคืองเอาเรื่องก็ส่งผลให้พนักงานขายสาวต้องเกิดอาการ ‘เอ๋อรับทาน’ อีกรอบจนได้ เพราะปกติกับลูกค้าถ้าแนะไม่ดีก็โดนด่า แต่ไหงงานนี้ แนะดีสุดชีวิตก็ดันมาโดนด่าอีก อะไรกันนี่อาชีพการให้บริการ!

“เด็กนั่นน่ะเพิ่งจะมาจากบ้านนอก เธอไม่ต้องหาของดีสวยๆงามๆอะไรให้มันมากนักหรอก หน้าตาอย่างนั้นดูท่าจะใจแตกได้ง่ายๆอยู่ แล้วเดี๋ยวใครก็จะมาว่าฉันเอาได้ เพราะงั้นไม่ต้องไปสรรหาชุดดีเลิศอะไรให้เด็กนั่นมากนัก ที่พูดนี่เข้าใจหรือเปล่าฮะ?”

“อ่า...ขะ..เข้าใจค่ะ”

“ดี งั้นเธอก็ไปได้แล้ว ไปหาเสื้อผ้าอะไรก็ได้ที่” จู่ๆคำพูดก็สะดุดกะทันหันเพราะนาทีนั้นสายตาหทัยรักพลันไปเห็น ‘เด็กนั่น’ ยืนอยู่หลังพนักงานขาย เด็ก...คนที่ที่ตัวเองเพิ่งจะบอกไปว่า ‘ดูท่าจะใจแตกได้ง่ายๆ’

ไม่ต้องบอกก็รู้ ทุกเม็ดทุกคำยายเด็กนั่นคงได้ยินชัดแจ๋ว!

พนักงานขายนี่หน้าเหลืออยู่สองนิ้วและรีบกำจัดตัวเองออกจากสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อนั้นอย่างไวในขณะที่คนพูดน่ะหนีไม่ได้ ก็ต้องเจอไปเต็มๆ

นาทีแรกหทัยรักก็หน้าร้อนเห่อ แต่นาทีต่อมาสาวสวยก็เชิดหน้าขึ้น เพราะมันเรื่องอะไรที่คนระดับหทัยรัก วรโชติจะต้องมารู้สึกผิดยามพูดถึงยายเด็กนี่ ไม่มีวันเสียล่ะ! หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างไว้ท่า สีหน้าบ่งชัดไม่พึงพอใจ

“มายืนทื่ออยู่แถวนี้ทำไม ยังไม่ไปเปลี่ยนชุดที่เลือกให้อีก!”

วริณสิตารู้สึกโหวงๆในใจ เมื่อครั้งแรกที่เจอกันแล้วเธอรู้สึกไม่ดีเพราะคำพูดของหทัยรัก แต่เพราะคำขอโทษที่ออกมาจากปากอย่างง่ายดายทำให้ตอนนั้นเธอไม่คิดอะไร...ไม่คิด...และเผลอเชื่ออย่างเต็มใจด้วยว่าคุณหทัยรักคนนี้ไม่ได้ตั้งใจจะพูดจาร้ายๆใส่เธอ แต่เมื่อกี้ สิ่งที่ได้ยินกับหูตัวเองก็บอกได้ชัดว่าไม่ใช่สักนิด!

“นี่! ยังจะมายืนจ้องหน้าฉันอีก”

“ดิฉัน...ไม่อยากได้เสื้อผ้า...ดีๆสวยๆขนาดนี้หรอกค่ะ” วริณสิตาบอก พยายามอย่างมากที่จะบังคับเสียงตัวเองให้ปกติ ไม่แสดงความผิดหวังหรือเสียความรู้สึกกับอะไร แต่ว่าสาวสวยอีกฝ่ายกลับดวงตาวาวโรจน์

“นี่เธอกล้าประชดฉันงั้นเรอะ?!” หทัยรักย่างสามขุมเข้ามา ดวงหน้านั้นแม้สวยผุดผาดอย่างนางฟ้าแต่แววตาที่จับจ้องกลับลุกวาวร้ายกาจ หทัยรักค้อมตัวลงมาให้ตาสบตากับสาวน้อยก่อนกระซิบเย็นเยียบ

“ฉันอยากให้เธอรู้เอาไว้ อย่าได้ริอ่านหรือคิดอาจเอื้อมอะไรเด็ดขาด แม้พีเขาจะบอกว่าจะอุปการะเธออย่างน้องสาว แต่จงคิดให้หนักๆเชียว สำเหนียกตัวเองไว้ให้ดีด้วยว่า ไอ้คนที่ยากจนจนต้องมาขอความอุปการะจากเขาน่ะมันควรจะอยู่ในฐานะอะไร!”

หทัยรักยืดตัวขึ้นมา ใบหน้าเชิดขึ้นอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าและดวงตาโชนแสงก็หรี่ลง

“เอ้า! ไปเลือกเสื้อผ้าของเธอมาได้แล้ว ฉันไม่ได้มีเวลามากมายจะมาเสียให้กับเรื่องไร้สาระหรอกนะ”

และนั่น! ก็เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวอย่างวริณสิตาต้องเผชิญหน้ากับความเสแสร้งของมนุษย์ ในหัวใจจึงอวลไปด้วยความหม่นหมองและผิดหวัง

“เอ๊ะ! เร็วสิ ยังจะยืนทื่ออยู่อีก”

แน่นอน วริณสิตาทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างนอกจากข่มไว้! ข่มความผิดหวัง ข่มความเสียใจ ข่มความรู้สึกชิงชังมากมายกับความไม่จริงใจของหญิงสาว ที่หน้าตาสะสวยราวนางฟ้า ทว่าน่าชิงชังนัก! แล้ววริณสิตาก็ค่อยๆหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องลองเสื้อโดยไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ

หทัยรักพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนเหลือกตาขึ้นฟ้า จริงๆก็ไม่ได้คิดว่าเด็กนั่นจะต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ แต่...

ฮึ! นึกไปนึกมา เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วล่ะ! สาวสวยคิด เพราะเธอเองก็ไม่ถนัดไอ้พวกศิลปะการแสดงสักเท่าไหร่ ในเมื่อได้ยินไปแล้ว ต่อนี้ไปถ้าอยู่กันต่อหน้า เธอก็ไม่ต้องวางท่าและสามารถรังเกียจยายเด็กบ้านนอกนั่นได้ตามความพอใจแล้วน่ะสิ!

คิดได้อย่างนั้นสาวสวยค่อยยิ้มออกมาได้ ทว่าชั่วนาทีที่หทัยรักมองผ่านผนังกระจกออกไปนอกร้านและเห็นคนที่เพิ่งเดินผ่าน รอยยิ้มก็หายวับ เพราะคนที่เพิ่งเดินผ่านไม่ใช่ใครที่ไหน

...คุณอมร วรโชติ...

“คุณพ่อ” หทัยรักร้องคราง เมื่อสะบัดหน้ามองตามอย่างชัดๆ และสิ่งที่ร้ายจนทำให้หัวใจกระตุกวาบและหทัยรักแทบจะกรี๊ดก็คือ คุณอมรไม่ได้เดินคนเดียว! ไม่ได้เดินคนเดียว! แต่มีสาวใหญ่วัยกลางคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยกำลังเดินคู่ด้วย มิหนำซ้ำมีการโอบไหล่อย่างชิดเชื้อ!

นี่มันอะไร!

หทัยรักหน้าร้อนวาบ อารมณ์ปรี๊ดกระฉูดขึ้นทันที ก็นังผู้หญิงคนนี้เป็นใคร บังอาจมาเดินโอบเดินกอดพ่อเธอได้ยังไง! เมื่อหัวใจโดนสุมไฟ หทัยรักก็ไม่รอช้า สาวสวยพุ่งรี่ออกจากร้านตามไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แต่ทว่า...

“รัก!”

แต่ทว่านาทีนั้นหทัยรักก็ได้ยินเสียงทุ้มๆเอ่ยเรียกเธอไว้ก่อน หญิงสาวชะงักและจำต้องสะบัดหน้าหันกลับมามองหาต้นเสียงด้วยอารมณ์ขุ่น ทว่าทันทีที่ได้เห็นว่าคนเรียกเป็นใครหทัยรักก็ต้องชะงักอีก

“จะไปไหนหรือ?”

มันเป็นความคาดไม่ถึงเมื่อพีรพัฒน์กำลังเดินตรงเข้ามาจากอีกด้าน ส่วนพ่อเธอกับผู้หญิงปริศนาคนนั้นก็กำลังไปอีกทาง และเมื่อหทัยรักสะบัดหน้ากลับไปมองอีกครั้ง หลังคุณอมรก็หายไปจากสายตาแล้ว

อ๊าย! ให้มันได้อย่างนี้สิ! หญิงสาวแทบอยากจะกรี๊ด

“คุณจะไปไหนหรือรัก แล้ว...” ทันทีที่คำว่าแล้วหลุดออกจากปาก หทัยรักก็เดาได้ทันทีว่าพีรพัฒน์ต้องกำลังจะถามถึงเด็กนั่น สาวสวยจึงต้องพยายามสงบใจลง เรื่องพ่อต้องปล่อยไปก่อน เพราะกลับบ้านค่อยไปชำระความได้ แต่เรื่องของชายหนุ่มตรงหน้า ถ้าจะทิ้งดื้อๆให้เสียเครดิตคงไม่ดี! หทัยรักสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเมื่อต้องฝืนยิ้มให้และตัดสินใจเดินกลับไปหาพีรพัฒน์ที่หน้าร้าน

“อ้าวพี!” สาวสวยคลี่ยิ้มหวานเมื่อเอ่ยทัก ทว่ายิ้มนั้นยังไม่ทันจะได้หวานเต็มที่ก็มีอันต้องกร่อยลงไปอีก นั่นก็เพราะชายหนุ่มหน้าตี๋ที่อยู่ๆก็มายืนยิ้มเผล่ข้างพีรพัฒน์เฉย

“สวัสดีครับคุณรัก” สมศักดิ์เอ่ยทักอย่างแจ่มใส ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่แจ่มด้วยสักนิด ปกติถ้าไม่จำเป็นหทัยรักก็ไม่ค่อยอยากจะเสวนากับสมศักดิ์อยู่แล้ว ยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยจะดีอย่างนี้ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะ! สาวสวยจึงทำเป็นไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น ทำเอาสมศักดิ์ต้องจ๋อยตามระเบียบ หทัยรักหันกลับไปให้ความสนใจกับพีรพัฒน์

“นี่...พีมาได้ยังไงคะเนี่ย?”
“อ่อ...ผมก็...มาดูหน่อยน่ะเผื่อว่ารักจะมีอะไรให้ผมช่วยบ้างหรือเปล่า ก็พอดีว่าบังเอิญเจอซ้งด้วย เลยชวนมาด้วยกัน”

ฟังพีรพัฒน์ว่าแล้วสมศักดิ์ก็ได้แต่แอบย่นจมูก เพราะคงมีแต่เขาและไอ้ตัวคนพูดเองนั่นแหละที่รู้ดีว่า จริงๆแล้วสมศักดิ์น่ะแค่จะโทร.ไปถามว่าเรื่องที่จะไปวางระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ให้บริษัทของลูกค้าที่เคยนัดไว้ พีรพัฒน์จะไปเองหรือจะให้เขาไป

แต่แค่วินาทีแรกที่มันรับสาย หมอก็เล่นใส่คำถามถึงที่ช้อปปิงของหทัยรักทันที นี่ถ้าไม่ได้อยากเห็นหน้าเด็กในปกครองของไอ้พีมันด้วยละก็ เขาจะไม่ยอมให้มันลากมาง่ายๆเพราะเอาชื่อคนสวยมาล่ออย่างนี้หรอก!

“แล้ววริณสิตาล่ะ” พีรพัฒน์ถาม “ไปไหน ทำไมถึงไม่เห็น”
“อ๋อ! เด็กคนนั้นน่ะหรือคะ เขาก็...”

หทัยรักหรี่ตาไปทางด้านในของร้าน และไม่ทันที่สาวสวยจะได้พูดต่อวริณสิตาก็เดินออกมา เด็กสาวกลับไปอยู่ในเสื้อผ้าโทรมๆชุดเก่าแล้ว และเธอก็ไม่มีเสื้อผ้าชุดใหม่หรืออะไรติดมือมาด้วยเลย หทัยรักเชิดหน้าขึ้นทันที พีรพัฒน์คลี่ยิ้มบางๆ ขณะที่สมศักดิ์ก็ได้โอกาสเช่นกัน

“โฮ้! นั่นเหรอเด็กในปกครองแก น่ารักดีนี่ไอ้พี” หนุ่มตี๋กระซิบเบาๆก่อนฉีกยิ้มให้สาวน้อยจนตาหยี ชายหนุ่มลอบมองหน้าเพื่อนทันที ที่จริงเขาก็รู้อยู่หรอกว่าสมศักดิ์เป็นประเภทมนุษยสัมพันธ์ดี แต่นี่...

“สวัสดีจ้ะ วริณสิตาใช่มั้ย?” สมศักดิ์เปิดฉากทักทายสาวน้อยอย่างแจ่มใสเป็นมิตร แต่คนถูกทักกลับทำหน้างงๆ

“นี่คุณซ้ง วริณสิตา คุณซ้งเป็นเพื่อนของฉัน”
เมื่อได้รับการแนะนำ วริณสิตาก็รีบกระพุ่มมือไหว้
“สวัสดีค่ะคุณซ้ง”
“โหย! คุณเคินอะไร ไม่ต้องๆ เรียกผมพี่ซ้งก็ได้ หนูจิ๊บ”
“คะ?”

เจอแบบนี้สาวน้อยยิ่งงงใหญ่ ก็เพื่อนคุณพีที่หน้าตาใจดีคนนี้รู้จักชื่อเล่นของเธอด้วย ทว่าก็ไม่ทันที่วริณสิตาจะได้ตอบอะไร เสียงหทัยรักก็เอ่ย

“แต่รักว่ามันคงไม่เหมาะหรอกมั้งคะคุณซ้ง” สาวสวยพูด ดวงหน้าสวยผุดผาดผินมาหาวริณสิตา ก่อนเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่คลี่ออกน้อยๆแต่ดูอ่อนหวานปานกับน้ำผึ้งไม่ผิด “เรียกคุณสมศักดิ์เขาว่า ‘คุณ’ นั่นแหละถูกต้องแล้วนะจ๊ะวริณสิตา เพราะคำนี้มันเป็นมารยาททางสังคม อีกอย่าง...คุณสมศักดิ์เขาก็เป็น ‘เพื่อน’ ของคุณพีด้วย เธอเข้าใจใช่มั้ยจ๊ะ”

ในประโยคนั้นเน้นคำบางคำอย่างจงใจราวกับจะย้ำ ถึงสิ่งที่เคยพูดว่าให้สาวน้อยสำเหนียกตัวเองว่าควรอยู่ในฐานะอะไร หรือจะแปลกรายๆก็...

เพื่อนคุณพี อย่าตีเสมอ!

วริณสิตาหน้าร้อนเห่อ แต่แน่แหละ อย่างเธอจะทำอะไรได้

“อ่า...แล้ว แล้วเป็นไงมั่งล่ะหนูจิ๊บ ได้เสื้อใหม่หรือยัง?” สมศักดิ์เปลี่ยนประเด็นทันทีที่เห็นสาวสวยมาดผู้ดีซัดสาวน้อยเสียจ๋อยสนิท แต่ประเด็นใหม่ที่เปลี่ยนนั้น มันเข้าท่าหรือเปล่าหนุ่มตี๋ก็ชักจะไม่แน่ใจ เพราะคนถูกถามได้แต่ก้มหน้าลงไปแล้วตอบเสียงเบา

“ไม่หรอกค่ะ เสื้อผ้าแบบนี้ มันดีเกินไปสำหรับดิฉัน”

“ดีเกินไป?” พีรพัฒน์ทวนคำ คิ้วเข้มนั้นยกสูงขึ้นเป็นวากับสิ่งที่วริณสิตาเอ่ย หทัยรักเลยรีบแทรก สาวสวยคว้าแขนชายหนุ่มไว้ก่อนเอื้อนเอ่ย

“นี่แหละค่ะพี” หทัยรักว่าด้วยสีหน้าจริงจัง “รักก็หนักใจ พาเขามา เลือกเสื้อผ้าสวยๆดีๆให้เขาลองตั้งหลายต่อหลายชุด แต่เขาก็ไม่ถูกใจ บอกว่ามันดีเกินไป สวยเกินไป แล้วก็ไม่เอาอะไรสักอย่าง รักเองก็ไม่รู้จะเอาใจเขายังไงแล้วล่ะค่ะ”

พีรพัฒน์ขมวดคิ้วมุ่นทันที

“ทำไมเธอถึงไม่เลือกเสื้อผ้าอะไรสักชุดล่ะวริณสิตา” เขาถาม มองหน้าวริณสิตาด้วยสายตาที่...อาจจะคิดว่าเธอเริ่มกลายเป็นคนเอาแต่ใจและสร้างปัญหาไปเสียแล้ว สาวน้อยได้แต่พยายามกดความรู้สึกโหวงๆไว้ข้างใน สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆและไม่ตอบคำถามอะไร ท่าทีอย่างนั้นทำให้ผู้ปกครองชักเสียงเข้ม

“วริณสิตา”

“เออน่าๆ ไอ้พี หนูจิ๊บอาจจะยังไม่ค่อยชอบก็ได้ เท่าที่ดูๆร้านนี้มีแต่ชุดกระโปรงสั้นๆ แบบนี้พวกสาวเปรี้ยวๆเขาใส่กัน”

“แหม!” หทัยรักลากเสียงยาวแล้วเหน็บทันที “คุณซ้งเนี่ย รู้เรื่องเสื้อผ้าสาวๆดีจังนะคะ”
โชคร้ายที่ประโยคเหน็บเล็กๆก็นั่นทำเอาสมศักดิ์ติดอ่างทันทีเหมือนกัน

“อ่า...ก็...ก็...ไม่หรอกครับ” หนุ่มตี๋ไม่อยากให้สาวสวยคิดว่าเขาจะไปเชี่ยวชาญเรื่องของสาวๆจึงต้องรีบโบ้ยไปก่อน “คือ...คือ...คือผมก็เห็นมาจากเจ้าสุ่ย”

“อ้อ! คุณสุ่ย น้องสาวคุณซ้งน่ะหรือคะ?”

“อ่า...ครับๆ...เจ้าสุ่ยมันก็เจ้าแม่แฟชั่น”

“ก็ดีสิคะ” หทัยรักหัวเราะเบาๆ ความคิดบางอย่างที่สุดแสนเข้าท่าเกิดขึ้นมาในสมองทันควัน “ถ้างั้นคุณซ้งก็คงจะช่วยเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับ...หนูจิ๊บได้สินะคะ!”

“อ่า...คือๆ...คือ” และมันก็เป็นเช่นนี้เสมอ เมื่อถูกสาวสวยรุกไล่ สมศักดิ์ก็มักประหม่าประจำและหทัยรักก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้น หญิงสาวหันไปหาพีรพัฒน์อีกครั้ง

“ลองตามนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะพี ในเมื่อรักเลือกเสื้อผ้าไม่ถูกใจเด็กในปกครองของคุณ ก็ลองให้คุณซ้งเขาช่วย น่าจะดี บางที...” สาวสวยปรายหางตา “วริณสิตาเขาอาจจะถูกใจบ้างก็ได้!”

...............



ปาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 เม.ย. 2554, 09:25:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 เม.ย. 2554, 09:25:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 3235





<< ตอนที่ 14   ตอนที่ 17 >>
เจ้าหญิงสุเอะ 22 เม.ย. 2554, 00:51:06 น.
คุณพี..เริ่มจะหวงแล้วละซิ


padeedee 23 พ.ค. 2555, 11:44:49 น.
หทัยรัก น่าหมั่นไส้มาก.....


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account