เลือดรักทระนง
เด็กหญิงคนหนึ่งซ฿งถือกำเนิดมาจากโจร ปล้นฆ่า และเลือดอีกส่วนมาจากแม่ที่ไม่ยอมรับในความเป้นลูกของเธอ กระถินยังยืนหยัดที่จะอยู่อย่างทระนงในศักดิ์ศรีและค่าแห่งความเป้นคน ด้วยความรัก และซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณ
Tags: ศักดิ์ศรี คือสิ่งที่ต้องรักษา

ตอน: คนคด

ที่ประเทศอังกฤษ
บัดนี้รามเรียนปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด เขามีเพื่อนชาวอังกฤษมาก และรามยังเข้ากลุ่มเพื่อนนักเรียนจากเอเชีย ทำให้เขารู้จักคนอย่างกว้างขวาง
สาวไทยที่มาเรียนในอังกฤษได้พบกับหนุ่มรูปงามคนนี้จากสโมสรนักเรียนไทย หรือเรียกว่าคลับ ฟอร์มสยาม รามเนื้อหอมมากในบรรดานักเรียนไทยด้วยกัน หนำซ้ำยังสร้างชื่อให้กับคนไทยด้วยการเรียนในระดับแถวหน้า
เขาอยู่ในชมรมขี่ม้า และเขาร่วมทีมโปโลของมหาวิทยาลัย
วันนี้ชายหนุ่มผู้มีความสูงไม่แพ้ฝรั่งคนไหน เดินกลับเข้าที่พัก เข้าไปดูตู้จดหมายถึงเดือนหนึ่งจะมีจดหมายจากหลายทีส่งมาหาเขา วันนี้เขาได้รับหลายฉบับ แต่ฉบับหนึ่งทำให้รามรู้สึกแปลกตากับลายมือสวยคม เส้นหนัก
ภาพวันวานหวนกลับมาในห้วงนึกใครหนอเขียนหนังสือหนังเหมือนผู้ชาย แต่ลายเส้นคมสวย
ดินสอหัก แล้วโดนใช้อย่างไม่เว้นให้
“พี่ราม เหลาดินสอให้หน่อย”
รามรู้สึกตื่นเต้นกว่าทุกครั้งที่ได้รับจดหมายมาตลอดหลายปี วันนี้เขาอาจจะได้อ่าน...จดหมายจากกระถิน
ชายหนุ่มสาวเท้าเร็วขึ้นเพื่อไปให้ถึงห้องพักส่วนตัว เวลานั้นนักเรียนญี่ปุ่นซึ่งมาเรียนรุ่นเดียวกัน เปิดประตูออกมาพอดี เขาทักราม
“ราโม กลับมาแต่วัน”สำเนียงคนญี่ปุ่นมักแบ่งการเรียกชื่อคนต่างชาติเป็นสองเสียงอยู่บ่อยๆ อย่างรามชุนอิจิ ออกเสียเป็นราโม พูดเร็วๆฟังเป็นราโม่ แต่อย่างน้อยรามพอใจมากกว่าจะได้ยินคำว่าราเม็ง
“คุณยังถึงก่อนผมนะชุนอิจิคุง การเมืองวุ่นวายดีมั้ย”
“วุ่นวายไม่ดี”ชุนอิจิตอบตามซื่อ รามจึงยิ้มในสีหน้าอย่างเข้าใจ เพราะคนไทยมีคำเล่นหยอกเย้า แต่คนญี่ปุ่นจะพูดอะไรเป็นจริงมากกว่า ดังนั้นเพื่อนคุยกับเพื่อนด้วยกันยังต้องอธิบายกันบ้าง
“คุณกำลังไปไหนหรือชุนคุง”
“ผมมีนัดกับเร บราวน์เอาไว้”
“ครับรามรับรู้แค่นั้นแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป ก่อนที่จะปิดห้องเรียบร้อยรามอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมชุนอิจิชาวญี่ปุ่น จึงสนิทสนมกับเพื่อนชาวเยอรมันคนนั้นมากนัก”
ในห้องพักของรามเรียบง่าย สะอาด และเป็นระเบียบ ตามนิสัยของเขา เมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้ว รามวางสัมภาระที่ถือมาคือกระเป๋าใบหนึ่งและจดหมายอีกปึก เขาวางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือมุมห้องติดกับเตียงนอน ชายหนุ่มเลือกจดหมายที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงออกมาเปิดผลึกออกอ่านก่อน
กระดาษออกเหลืองตามวัสดุที่ใช้ เส้นปากกาซึ่งเขียนมาจากปากกาคอแร้ง ซึ่งจุ่มหมึกเขียนอีกที หากไม่ระวังจะหยุดเป็นดอกดวง หรือสกปรกง่าย แต่ว่าจดหมายฉบับนี้เขียนหนังสือสวยไม่มีที่ติ แต่คำขึ้นต้นทำให้เขาห่อเหี่ยวไปนิด ก่อนหัวเราะออกมาในที่สุด
สวัสดีค่ะพี่ราม...ที่นับถือยิ่ง
กระถินต้องบอกก่อนนะคะว่าโดนบังคับให้เขียนมารายงานจากนี้ทุกอาทิตย์ค่ะ กระถินมิได้มีเจตนาจะเขียนจดหมายมาหาผู้ชายก่อน แม้ผู้ชายคนนั้นจะมีแม่นมคนเดียวกันกับกระถินก็ตาม ต้องทำความเข้าใจกับพี่รามเสียก่อนค่ะ
“เจ้าเด็กประหลาด...อ่านจดหมายของเธอสองบรรทัด แต่ฉันเห็นหน้าเอาเรื่องอย่างไม่ยอมแพ้ใครของเธอเลยนะกระถิน”
สืบเนื่องมาจากคุณลุงให้กระถินรับหน้าที่เป็นเลขาอย่างลับๆ กระถินไม่ทราบค่ะว่าทำไมต้องเป็นอย่างลับ ทั้งที่ท่านเรียกใช้เสียงดังลั่นบ้าน คงไม่ได้ลับสักเท่าใดนัก
“เจ้ากระถิน...”รามยิ้มไม่หุบ หายเหงา ราวกับเด็กหญิงมานั่งใกล้แล้วเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง เด็กหญิงหรือ ตอนจากกันกระถินอายุเท่าไหร่นะเขาไม่ได้จำ รู้แต่เรียนเก่งอยู่ชั้นเดียวกับพี่สาว
เมื่อคิดถึงสร้อยสน รามตัดใจอ่านจดหมายต่อ
คุณลุงท่านกำชับกระถินก่อนให้ทำหน้าที่เป็นเลขาเขียนจดหมายมาถึงพี่รามแทนท่าน ท่านบอกว่า พี่รามเขียนจดหมายมาหาท่านสั้นมากก็จริง แต่หากกระถินจะตอบกลับต้องให้ได้สองหน้ากระดาษ ไม่เช่นนั้นท่านจะหักเบี้ยเลี้ยงอันน้อยนิดของกระถินให้เหลือเพียงสิบสตางค์ค่ะพี่ราม ดังนั้นตัวหนังสือที่รายงานมาถึงพี่รามนี้อาจจะนึกรวมไปได้ว่ากระถินทำเพื่อเบี้ยเลี้ยงก็เป็นได้อยู่เหมือนกันนะคะ
รามสุขใจเหลือเกินกับตัวหนังสือที่ทำให้เห็นหน้าคนพูด ทำให้นึกถึงคืนวันเก่าๆ เด็กหญิงนักสู้ และจอมฉวยโอกาส กำลังมานั่งสนทนากับเขาตามประสาพี่น้อง ในจดหมายนั้นไม่มีข่าวที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจสักนิดเดียว
หน้าที่รับจ้างเขียนจดหมายเพื่อเบี้ยเลี้ยงฟังดูเหมือนจำใจเสียนัก หากว่าถ้อยคำที่แฝงมาในจดหมายทำให้ชายผู้อยู่ไกลบ้าน อบอุ่นใจราวกับมีคนรู้ใจได้มาอยู่เคียงข้างกระนั้น!
สร้อยสนบอกกระถินหลังจากเลิกเรียนว่าเธอมีธุระ กระถินจึงกลับเข้าวังนารายณ์ไปก่อน อย่างไม่มีความสงสัยใดๆ
สร้อยสนยิ้มอย่างสมใจ เธอแอบไปหานิธิที่บ้านท้ายสวนตามที่นัดกันไว้ บัดนี้นิธิเป็นนิสิตแพทย์ ปีที่สอง เขาได้หยุด และอาของเขาไม่อยู่บ้าน ทั้งสองส่งจดหมายถึงกัน และวันนี้สร้อยสนรีบมาหาฝ่ายชาย
นิธิยิ้มกว้างต้อนรับสร้อยสน อย่างสุดแสนคิดถึง
“คุณสร้อย คิดถึงเหลือเกิน”เขารวบร่างอรชรเข้าไปสวมกอด ระดมจูบไม่เลือกที่
“อุ๊ย บาสิคะนิธิ เดี๋ยวสร้อยช้ำตายพอดี”
“ผมคิดถึงคุณสร้อย คิดถึงเหลือเกิน”เขาค้อมกายอุ้มร่างอีกฝ่ายปลิวติดวงแขน สร้อยสนยิ้มรับกับการกระทำของนิธิ
“สร้อยชอบจังเลยค่ะที่โดนอุ้มอย่างนี้”
นิธิวางร่างสร้อยสนลงบนที่นอน เขาแกะกระดุมเสื้ออีกฝ่าย เนินอกสวยปรากฏอย่างเชิญชวนให้ชายหนุ่มได้แตะต้องด้วยรอยจูบบางเบา
สร้อยสนปลดกระโปรงนักเรียนออกจากร่างกาย และชั้นในสุดท้ายออกพ้น เขาเอามือลูบเบาๆ บนเนินหนั่น หญิงสาวแนบหน้าซุกหมอน เรียวขาสวย ค่อยๆ แยกออก และหลับตาพริ้ม เนื้ออ่อนด้านในสีชมพูอ่อนบริสุทธิ์ฉ่ำน้ำเคลือบใส มองแทบไม่เห็นกลีบใน เป็นการฟ้องว่าเธอพร้อมมากแล้ว
นิธิจุมพิตลงบนหน้าอกอวบขาว ยอดอกสีชมพู ลงมาที่เอวคอดกิ่ว สะโพกผายสล้าง นิ้วมือชายหนุ่มลวนลามหญิงสาว ครางฮือชายหนุ่มจูบบนกลีบปากซึ่งเปิดรอคอย เขาสอดลิ้นร้อยสนตวัดลิ้นตอบรับอย่างชำนาญ นิ้วมือเร่งแรง จนสร้อยสนปัดออก นิธิจึงรู้ว่าสิ่งใดที่หญิงสาวต้องการมากกว่า
“คุณสร้อย ผมรักคุณ”
นิธิ ซบร่างบนร่างของหญิงสาวครู่หนึ่ง จึงพลิกกายลงนอนกอดอีกฝ่าย สร้อยสนหันไปซบอกชายหนุ่ม ซึ่งมีความสัมพันธ์กันมานานเกินปี
“สร้อยอยากไปอยู่กับนิธิใกล้ๆจังเลยค่ะ สร้อยไม่อยากคิดถึงนิธิอย่างนี้”
“หมายความว่าอย่างไรครับ”
“สร้อยอยากนอนใกล้ๆนิธิทุกวันค่ะ”
“ผมเรียนอีกไม่กี่ปีก็จบแล้ว ผมจะเป็นหมอ ผมเลี้ยงคุณสร้อยได้นะครับ”
“รักสร้อยเพียงคนเดียวนะคะนิธิ”
แทนคำตอบ นิธิเริ่มบทรักครั้งใหม่ สร้อยสนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาวาววาม หนุ่มสาวทั้งสองจมอยู่ในห้วงแห่งความรักอย่างที่อยากลืมเวลาที่สั้นลงไปทุกขณะ การเหลือเวลาน้อย ทำให้ต้องเร่งตักตวงความปรารถนาอันเร้นลับให้มากที่สุดตามที่หัวใจเรียกร้องและต้องการเติมให้เต็ม

ที่วังนารายณ์
เด็กสาววัยสิบเจ็ดปีรัดผมเปียยาว กำลังเก็บกวาดใบไม้ที่หล่นเกลื่อนมากกว่าต้นอื่น คุณพระศานต์เดินออกกำลังกายตามแพทย์สั่ง เพราะหมู่นี้ท่านหายใจติดขัดบ่อย หลวงแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเพราะโรคหัวใจไม่สู้ดีนัก ควรออกกำลังการและงดงานหนัก ดังนั้น งานที่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ลับสุดยอของท่าน จึงตกเป็นของเลขา ที่ท่านกำลังมองความขยันขันแข็งด้วยสายตาที่มีแต่ความเอ็นดูไม่เสื่อมคลาย
“ทำอะไรเจ้าซน”
“อุ๊ย คุณท่าน กระถินเก็บใบไม้เจ้าค่ะ”กระถินตอบแล้วพิงไม้กวาดไว้โคนต้น ทำท่าเหมือนจะเข้ามาประคองคุณพระ แต่ท่านรีบห้าม พลางตัดพ้อว่า
“อย่าได้เห็นฉันเป็นตาแก่อายุร้อยปีเป็นเด็ดขาดเชียวเจ้าซน”
“ไม่ได้เห็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่ดูคุณท่านอายุเกือบเก้าสิบเก้าแล้วเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“แกนี่ เคยละการเถียงสักครั้งมั้ย”
กระถินยิ้มหวาน ก่อนดื้อแพ่งเข้าไปประคองท่านให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้จนได้ คุณพระจึงต่อว่าอีกฝ่าย
“แกจะทำให้หลวงแพทย์มากล่าวหาฉันว่าขี้เกียจออกกำลังกาย เพราะเมื่อฉันเดิน แกมาจับฉันนั่ง”
“คุณท่านบอกคุณลุงหมอได้เลยเจ้าค่ะว่าเดินลงจากตึกมีบันได้เวียนมาแล้ว ยังมีบันไดชัน และมาถึงในสวนคุณลุงเดินมาไกลมากแล้วสมควรจะพักได้เจ้าค่ะ”
“เจ้าคนหัวหมอ แกมันฉลาดเรื่องเอาชนะคน แล้วนี่จะเรียนต่ออะไรอีกบ้าง
“จะเรียน ม.แปด เจ้าค่ะ”
“ข้อนั้นฉันรู้ ฉันหมายถึงแกไม่เรียนมหาวิทยาลัยหรอกหรือ”
“พอดีพี่รามกลับจากเมืองนอกให้พี่รามตัดสินใจค่ะ เพราะเวลานั้นพี่รามเป็นเจ้าของสมบัติแล้วกระถินต้องไปกินเบี้ยเลี้ยงอีก จากวันล่ะสิบสตางค์ กระถินจะขึ้นค่าแรงเป็นสิบสองสตางค์คุณลุงเห็นดีด้วยมั้ยเจ้าคะ”
คุณพระหัวเราะดังลั่นๆ แล้วกุมหน้าอก กระถินห่วงนักรีบถลันเข้าไปใกล้ พอดีกับที่พุดกรองแทรกเข้ามาเสียก่อน นางห้ามทันควัน
“ออกไป ฉันเอายามาให้คุณพี่แล้ว”
กระถินจึงปล่อยหน้าที่ประคับประคองดูแลเป็นของ...แม่ที่กระถินไม่ได้เรียกและไม่ได้ใกล้ชิด ถ้าคุณพระไม่อยู่
คุณพระศานต์ เลิศพานิชทานยาร้อนจากที่นางละมุดถือมา และพุดกรองรับต่อมาป้อนคุณพระ จากนั้นจึงนั่งใกล้ ไม่ให้คุณพระได้สนทนากับกระถินตามลำพัง
กระถินจึงหยิบไม้กวาดมากวาดใบไม้ต่อ นางละมุดทำเชิดหน้าถือดีว่าบัดนี้คุณผู้หญิงพุดกรองยังกดหัวกระถินได้เหมือนเดิม ตัวนางเป็นข้า ข้างพุดกรองจึงเหมือนกับได้ชนะกระถินไปด้วย
จากท่าทางเหมือนกิ้งก่าได้ทองของนางละมุด ทำให้กระถินหมั่นเขี้ยวนัก จึงจงใจกวาดใบไม้กระเด็นไปโดนอีกฝ่าย นางละมุดฟ้องร้องนายทันที
“ตายแล้วคุณกระถินแกล้งละมุด”
“ฉันไม่ได้แกล้งแก แต่ฉันกำลังเตือนว่า เป็นขี้ข้าบ้านเขาอย่าเอาแต่ทำเหมือนหมาเฝ้านายไม่รู้จักทำอะไรนั่งแต่กระดิกหาง ฉันกวาดใบไม้ แกก็ต้องมาเก็บใส่เข่งเอาไปเผา”
นางละมุดมองพุดกรองหวังให้ช่วย พุดกรองอยากช่วย แต่พระศานต์ เลิศพานิช เอ่ยออกมาเสียก่อนว่า
“ถูกของกระถินแล้วนะ กระถินเป็นนายแกยังทำงาน แล้วแกมานั่งเฝ้าดูนายทำงานได้หรือนางละมุด”
นางละมุดจึงต้องก้มหน้ารับงานอย่างไม่ปรารถนานัก นางจำเก็บใบไม้ที่กระถินกวาดไปสุมรวมกัน ลงในเข่ง
คุณพระถามด้วยความสงสัยว่า
“ทำไมต้นนี้ล่วงมากนักเล่า”



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2554, 10:38:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2554, 10:39:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 3115





<< รู้เดียงสาเกินไป   คนคด2 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account