เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 9


ตอนที่ 1-8 แก้ใหม่ไปแล้วค่ะแต่ยังไม่มีเวลามาลงแก้ไขให้ที่เว็บนี้เลย(แหม..จะงงไหมเนี่ย) แต่ไปอ่านได้ที่เว็บนิยาย และอินเลิฟนะคะ ชื่อตัวละครจะใช้ชื่อจริงไปเลยเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เดี๋ยว่างเมื่อไหร่จะมาอัพแก้ตอนที่ 1-8 ให้ใหม่

ตอนที่ 9


ภาคินัยมองหน้าหญิงสาว “ต่อจากนี้ผมจะเรียกคุณว่าพีระดา เพราะผมไม่อยากจะจดจำผู้หญิงใจร้ายที่ชื่อพรีมอีก เอาล่ะในเมื่อเราสองคนก็ต่างทำให้อีกฝ่ายเคยเสียใจมาแล้วคนละครั้งๆเท่าๆกัน ต่อไปนี้ถือว่าเราหายกันตกลงไหม”


“ไม่ตกลง!” หญิงสาวสวนทันควัน


“ถ้าอย่างนั้นคุณจะให้ผมชดเชยอย่างไร คุณถึงจะหายโกรธเกลียดผม เผื่อบางทีเราอาจจะคุยดีๆกันได้”

หญิงสาวนิ่งไม่ตอบ


“บอกผมสิพีระดา” เขาเน้นชื่อจริงของเธอ “และผมจะทำตามที่คุณขอร้อง”

“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่พาฉันกลับไปส่งที่คอนโด และต่อไปนี้อย่าเอาหน้ามาให้ฉันเห็นอีกก็พอ”

“ข้อนี้คงทำไม่ได้” ภาคินัยตอบ
“หมายความว่ายังไง ไหนบอกว่าจะทำตามที่ฉันขอร้อง” พีระดากระแทกเสียงใส่


“มีบางข้อที่ผมคิดว่าทำไม่ได้ จึงขอยกเว้นโดยไม่ต้องขออนุญาติคุณ”


หญิงสาวอยากจะกรีดร้อง “คุณมันบ้า!”


“ในเมื่อความจริงแล้วผมก็ชอบคุณ คุณเองก็เคยแอบชอบผม แปลว่าหัวใจเราตรงกันทำไมเราไม่ลองคบกันดูล่ะ ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด” เขาเดินเข้ามาหาเธอ


“ไม่ ตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อคุณมันมีแค่ความเกลียดชังเท่านั้น” คนดื้อรั้นลอยหน้าลอยตาเถียง


“จากสายตาของคุณผมไม่เชื่อเลย” คนผ่านผู้หญิงมามากกล่าว


“ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ที่ฉันพูดคือเรื่องจริง อย่าคิดว่าตัวเองหน้าตาดีแล้วฉันจะต้องหัวปรักหัวปรำหลงรักคุณเพราะตอนนี้ฉันตาสว่างแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นขอพิสูจน์หน่อย” คนปากว่ามือถึงกล่าวจบก็ดึงร่างบางมาแนบอกและกดจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากนุ่มอย่างรวดเร็ว เขาจู่โจมเธอไม่ปล่อยให้มีเวลาตั้งตัว


เธอพยายามผลักดันเขาออกแต่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เมื่อเขาช้อนร่างของเธอขึ้นและอุ้มหญิงสาวจนตัวลอยไปวางไว้บนเตียงใหญ่ใจกลางห้องนอน

“คนบ้าปล่อยฉัน” เธอลุกขึ้นทันทีเมื่อหลังแตะที่นอนนุ่ม แต่ถูกร่างใหญ่ทาบทับไว้และพรหมจูบไปทั่วใบหน้า
แสงแฟลชทีถูกกดระรัวมันแวบขึ้นคนตาดีอย่างภาคินัยรีบหันไปมองที่หน้าต่างกว้าง และพบว่าบนต้นไม้ใหญ่มีเงาตะคุ่มกำลังกระโดดลงจากต้นไม้

“ใคร! ” เสียงเขาดัง และรีบปล่อยมือจากหญิงสาววิ่งไปที่หน้าต่าง เงาตะคุ่มๆนั่นวิ่งหนีไปทางชายหาด

“ระยำ!” เขาสบถ เขาเชื่อในซิกเซ้นของตัวเอง

“อะไร เกิดอะไรขึ้น” พีระดารีบกระชับเสื้อผ้าให้เข้าที่ ใบหน้าสวยนั้นตระหนกคิดเหมือนกับที่ภาคินัยคิดเอาไว้
“ปาปารัสซี่!” ภาคินัยหันมาบอกเธอ

“ไม่นะ ไม่ๆๆๆๆ ถ้าเป็นจริงฉันต้องตายแน่ๆ” พีระดารู้สึกอื้ออึงไปหมดเมื่อนึกว่าภาพช็อตเด็ดเมื่อคู่หากขึ้นไปอยู่บนหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งมันจะดังขนาดไหน แต่เธอคงไม่อยากจะดังแบบนี้


“ไม่ผิดแน่ ตอนจอดรถยนต์เติมน้ำมันผมก็คิดว่ามีรถตามเรามาห่างๆ แต่แล้วมันก็หายไปก็เลยคิดว่าอาจจะคิดมาก ไม่คิดเลยว่ามันจะตามมาถึงทีนี่” ก็หญิงสาวฮอตฮิตขนาดนี้ภาพเด็ดของเธอคงทำเงินให้พวกปาปารัสซี่ได้เป็นกอบเป็นกำทีเดียว

“คุณรู้ไหมว่าทำให้ชีวิตฉันพัง หากภาพแบบนั้นหลุดออกไป”
“ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะถูกตามขนาดนี้” ก็เขาเป็นนักเขียนถึงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครเคยสะกดรอยตาม
“แค่คำว่าขอโทษมันไม่พอหรอก ชดเชยสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ไหม ฉันจะเอาหน้าไว้ที่ไหนหากภาพกอดจูบกับผู้ชายบนเตียงหลุดออกไป ใครเขาจะเชื่อว่าฉันถูกปล้ำจูบไม่ได้เต็มใจ”
“ผมรู้ดีว่าคำขอโทษมันไม่พอจะชดเชยกับชื่อเสียงที่คุณจะเสีย”
“รู้แล้วก็ดี ถอยไปฉันจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไม่อยากอยู่ใกล้ความซวย” เธอเดินชนไหล่เขา

ภาคินัยหน้าแดงจัด “ถ้าคุณกลัวมากว่าจะเสียชื่อเสียง ก็ทำให้มันกลายเป็นเรื่องจริงไปเลยละกัน” เขากระชากแขนเธอกลับเข้าหาตัว
“จะทำอะไร ปล่อยฉัน” พีระดาตบใบหน้าคมจนเต็มแรง
“ผมจะบอกอะไรให้เวลาผมเขียนนิยายนะ บทไหนนางเอกได้ตบหน้าพระเอก บทนั้นนางเอกโดนปล้ำทุกทีไป”
“บ้านี่มันเรื่องจริงไม่ใช่นิยายนะ อย่ามามั่วไอ้คนหื่นกาม”
เธอก็ได้พูดแค่นั้นเมื่อภาคินัยไม่คิดจะเถียงอะไรกับเธออีกในค่ำคืนนี้เขาบอกกับตัวเองว่า ไม่อยากเสียเวลาอะไรกับเธออีกมากกว่าพาเธอขึ้นไปอยู่บนเตียงของเขาซะ ภาคินัยใช้มือขวารั้งร่างเธอมาหาเขา มือซ้ายปิดหน้าต่าง ร่างบางที่กำลังผละหนีนั้นเมื่อมือซ้ายเขาปิดหน้าต่างเสร็จก็พร้อมแล้วที่จะอุ้มเธอกลับไปบนที่นอนก่อนจะโน้มตัวตามลงไปหา
“คนบ้า บอกให้ปล่อย” พีระดาทุบเขา ทำทุกอย่างให้เขาปล่อย
“ในเมื่อกามเทพเล่นกลให้กับความรักของเรา คราวนี้ล่ะผมจะแผลงสอนรักให้คู่ของเราเอง คืนนี้คุณจะเป็นของผม พรุ่งนี้สาธารณะชนจะรับรู้ว่าคุณคือผู้หญิงของผม”
“คุณมันบ้าไปแล้ว ฉันไม่ยอมหรอก”
“ไม่ยอมก็ต้องยอมเพราะคุณหมดทางเลือก”ภาคินัยปล้ำจูบเธอสักพัก เขาเห็นน้ำตาของเธอทำให้เขาหยุดทุกการกระทำ
“หยุดทำไมล่ะ ปล้ำซิ ปล้ำเลย ทำอะไรก็ได้ให้คุณสาแก่ใจที่สุด หือ.....หือ” พีระดาปล่อยโฮ
ภาคินัยตกใจมากเมื่อเห็นหญิงสาวร้องไห้โฮขนาดนั้น เขาแค่โมโหในความดื้อดึงเจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่ยอมฟังอะไรของเธอเท่านั้น ที่จริงไม่ได้มีเจตนาจะขืนใจเธอเลยแค่อารมณ์มันพาไป แต่ตั้งใจว่าหากภาพนั้นหลุดออกไปจนทำให้หญิงสาวเสียหายเขายินดีจะรับผิดชอบในตัวเธอ

“ผมขอโทษ ผมไม่ได้คิดจะหักหาญน้ำใจคุณจริงๆ ”
“ฉันไม่เชื่อ เอาสินี่ใช่ไหมที่อยากเห็น ต้องการมากนักอยากจะทำอะไรก็ทำเลย” พีระดากกระชากชุดสวยสายเดี่ยวที่เธอใส่สายเดี่ยวข้างขวาขาดออกมาเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน”
“บ้าน่าอย่าทำอะไรแบบนี้” ภาคินัยกระชากมือเธอออกเพราะหญิงสาวทำท่าว่าจะกระชากสายเดี่ยวอีกข้างให้ขาด
“ทำไมล่ะ อยากข่มขืนฉันนักไม่ใช่เหรอ เอาเลยสิอยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ ฉันมันไม่ทางสู้ได้อีกแล้ว” เธอมองหน้าเขาน้ำตาใสๆพรั่งพรูขึ้นและล่วงหล่นอาบแก้มเป็นทางยาว
ภาคินัยบอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไรแต่เขายอมใจเธอจริงๆ “ลุกขึ้นผมจะพาคุณไปส่งที่คอนโด”
ภาคินัยลุกขึ้นจากเตียงและหันหลังให้เธอ “ผมจะไปสั่งแม่บ้านให้ไปหาชุดมาให้คุณเปลี่ยน”
พีระดาลอบยิ้มออกมาเมื่อเห็นเขาเดินออกไป “นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็ทำได้แค่เนี้ย” หญิงสาวเหยียดยิ้มให้กับชัยชนะของตัวเองแต่เธอไม่รู้หรอกว่านี่มันแค่ยกที่หนึ่งเท่านั้น

คืนนั้นภาคินัยพาพีระดากลับไปส่งที่คอนโดแม้ว่าจะเป็นเวลาเกือบจะตีสองแล้วก็ตามระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกันทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันสักคำมีเพียงลมหายใจของอีกฝั่งเท่านั้นที่ทำให้ทั้งคู่ได้รู้ว่าตนไม่ได้นั่งรถมาคนเดียว เมื่อส่งเธอที่หน้าคอนโดแล้วภาคินัยก็ขับรถออกไปจากคอนโดทันที

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ริมชายหาดส่วนตัวอันเงียบสงบภาคินัยเดินไปตามแนวหาดทรายนุ่มละเอียด เขามองดวงตะวันที่โผล่ขึ้นเหนือขอบฟ้า ประกายสีทองของมันกระทบกับท้องน้ำดูแปลกกว่าทุกวันที่เคยเห็น คงเหมือนหัวใจเขาที่วันนี้เปลี่ยนไปความเหงา ความหดหู่มันไม่เคยเกาะกินหัวใจเขามาก่อน แต่ทำไมวันนี้เขาถึงสัมผัสมันได้ นี่เขาเป็นอะไรถึงได้เป็นเอามากขนาดนี้แค่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งปฏิเสธอย่างไม่ไยดีเท่านั้นเอง

“จะอะไรกันหนักกันหนาแค่ผู้หญิงเขาไม่รัก ผู้หญิงมีอีกมากไม่ได้ไร้เท่าใบพุทรา” ภาคินัยเตะกล่องนมที่ใครไม่รู้เอามาทิ้งบนหาดทรายระบายอารมณ์และมันบังเอิญไปตกใส่หัวของเจ้าเด็กส่งหนังสือพิมพ์

“โอ๊ย! พี่ชายวันนี้ไปกินรังแตนที่ไหนมาครับเนี่ย ถึงได้อารมณ์เสียแต่เช้า”

ภาคินัยเงยหน้าขึ้นไปมองผลงานของตัวเองตามเสียงร้องของเด็กผู้ชายวัยประมาณสิบสอง

“อ้าว! ป๋องพี่ขอโทษที” ภาคินัยรีบเดินเข้าไปหาเด็กชายและขอโทษเป็นการใหญ่ เขาเอามือลูบคลำศีรษะเด็กชายที่ค่อนข้างคุ้นเคย เพราะมาส่งหนังสือพิมพ์ให้ทุกวัน

“เจ็บมากไหม” แต่เขาคิดว่าคงไม่มากเพราะกล่องนมเป็นแค่กล่องกระดาษเท่านั้น

“โอ๊ย! เจ็บมากเลยครับลูกพี่ ไม่รู้ต้องเย็บกี่เข็ม” เด็กชายแกล้งล้มไปชักดิ้นชักงอ

ภาคินัยหัวเราะเสียงดัง “ไอ้เจ้าเล่ห์”เขาควักไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและหยิบแบงค์สีแดงออกมาหนึ่งใบ”

“พอจะหายเจ็บไหมเจ้าป๋อง”ภาคินัยอมยิ้ม รู้ทันเจ้าป๋องเขาให้ทริปเด็กส่งหนังสือพิมพ์คนนี้อยู่บ่อยๆ

“หายเลยครับคุณภาคินัย” เด็กชายลุกขึ้นมาไหว้สวยงามก่อนจะรับธนบัตรสีแดงเข้ากระเป๋าไป

“อ้อ! นี่ครับคุณภาคินัย หนังสือพิมพ์ ข่าวสดๆ ใหม่ๆ เสริฟท์ถึงมือคุณแล้วครับ” เด็กชายส่งหนังสือพิมพ์ให้ ภาคินัยรับเอาไว้
“ขอบใจมากป๋อง”

“ไปล่ะครับ”เด็กชายกึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อไปส่งหนังสือพิมพ์ที่บ้านหลังอื่นต่อ
“หนังสือพิมพ์!” ภาคินัยรีบเปิดออกดูและพบว่าไม่มีข่าวของหญิงสาวอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์เลย เป็นไปได้อย่างไร ภาพแรงๆขนาดนั้นไม่มีทางพลาดที่จะเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่ง เขาเปิดหน้าอื่นก็ไม่มี หรือว่า

ภาคินัยยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหาใครบางคน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โทรศัพท์มือถือของพีระดาดังสนั่นหวั่นไหว ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียงลงเพราะปลายสายกระหน่ำโทรมาเป็นสิบสาย


“ใครนะโทรมาอยู่ได้” พีระดางัวเงีย มือเรียวควานหาโทรศัพท์
“ฮัลโหล”

“นี่คุณน้องขายังไม่ตื่นอีกเหรอนี่ แล้วนี่อยู่ที่ไหน ไอ้หนุ่มในรูปเป็นใคร ไปถึงไหนกันแล้ว บอกคุณพี่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เสียงสาวประเภทสองรัวมาในโทรศัพท์ไม่ใช่ใครที่ไหนก็พี่แอนนี่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั่นเอง

“อะไรกันแต่เช้าคะพี่แอนนี่ ง่วงจะแย่อยู่แล้ว”

“ตื่นๆ ตื่นขึ้นมาคุยกับพี่เดี๋ยวนี้คุณน้องขา รู้ไหมว่าปาปารัซซี่ถ่ายภาพคุณน้องได้ หลักฐานคาเตียงขนาดนั้นบอกมานะมันเกิดอะไรขึ้น”

“อะไรนะ!” พีระดาลุกขึ้น ตาสว่างทันที “เรื่องมันเร็วขนาดรู้กันทั้งประเทศแล้วเหรอ”
“ยังหรอกค่ะคุณน้อง ดีนะที่เส้นสายของพี่แอนนี่มันเยอะนังชะนีเพื่อนซี้มันโทรมาบอกเสียก่อนว่ามีปาปารัซซี่คนหนึ่งจะขายภาพคุณน้องให้มัน ทีนี้มันเห็นว่าคุณน้องเป็นเด็กในสังกัดคุณพี่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีที่พี่เคยช่วยนังชะนีคนนี้เอาไว้ มันเลยรีบคาบข่าวคุณน้องมาบอกพี่”

“จริงเหรอคะ แปลว่ายังไม่มีข่าวออกมา โล่งไปที” พีระดาถอนหายใจโล่งอก

“นี่คุณน้องอย่าเพิ่งตีปีกผับๆคิดว่ารอดตัวแล้ว ถ้าเกิดไอ้หมอนั่นมันเอาข่าวไปขายคนอื่นทำยังไง ก็รู้นี่ว่าตอนนี้คุณน้องกำลังฮอตฮิตติดลมบน พี่ก็ได้แต่เอาเงินให้นายนั่นไปก้อนหนึ่งหวังจะปิดข่าว”

“ถ้าอย่างนั้นก็คงจบเรื่องแล้วมั้งคะ ง่วงจังขอนอนต่อนะคะ” พีระดากำลังจะวางสายแต่เสียงห้ามอันแสบแก้วหูทำให้เธอไม่สามารถจะทำอย่างนั้นได้

“อะไรอีกคะ พี่แอนนี่”

“นี่คุณน้องยังไม่ได้บอกพี่เลยว่าไอ้หนุ่มในรูปเป็นใครกัน แต่คุ้นๆนะ แล้วทำอีท่าไหนถึงมีภาพหลุดออกมา มันเสียภาพลักษณ์นะคะคุณน้อง ทำอะไรระวังหน่อยสิคะ”

“มันไม่มีอะไรมากกว่ารูปที่พี่แอนนี่เห็นค่ะ เท่านั้นจริงๆ” พีระดาพูดแค่นั้นก็ตัดสายล้มตัวลงนอน พยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก แม้ว่าสมองเธอไม่สามารถลืมเลือนเหตุการณ์เมื่อคืนได้เลย ++++++++++++++++++++++++++
ภาคินัยรู้เรื่องทั้งหมดด้วยเส้นสายที่ใหญ่โตของเขาซึ่งมีพวกพ้องในวงการสื่อและสิ่งพิมพ์มากมายทำให้รู้ว่า นางแบบสาวพรีม พีระดา มีภาพหลุดกับชายหนุ่มคาเตียง ถูกปาปารัซซี่รายหนึ่งแอบถ่ายเอาไว้ได้ แต่ผู้จัดการของนางแบบสาวจัดการปิดปากหมอนั่นด้วยเงินก้อนโตเพื่อไม่ให้ขายภาพนั้นออกสู่สายตาสาธรณะชน
ภาคนัยคิดว่าพีระดาคงจะขอร้องให้ผู้จัดการส่วนตัวเธอช่วยกลบข่าวให้

“ดีล่ะ งานนี้ผมจะจับคุณ จะจับให้มั่นคั้นให้ตาย” ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายภาคินัยไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงคนไหนมาผูกมัดเขาเอาไว้ได้สักราย แต่คราวนี้เขาต่างหากที่ตัดสินใจทำอะไรที่เหนือความคาดหมาย

ภาคินัยติดต่อไปที่สำนักพิมพ์ข่าวดาราฉบับหนึ่งซึ่งเพื่อนสนิทของเขาเป็นนักข่าวดังอยู่ที่นั่นให้ช่วยเหลือเรื่องบางอย่างที่จะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

++++++++++++++++++++++++++
สามวันผ่านไป

วันนี้พีระดาตืนแต่เช้านางแบบสาวลงมาตักบาตรที่หน้าคอนโด คืนนี้เธอมีงานเดินแบบพีระดาคิดว่าสายๆจะเข้าไปหาพี่อินทิราที่สำนักพิมพ์ก่อนและเธอก็นัดอัคคีไว้ที่นั่นด้วย อัคคีเป็นห่วงเธอเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเขาพยายามจะมาหาเธอที่คอนโดหลายครั้งแต่เธอขอร้องไม่ให้เขามาและบอกว่าคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆแต่อัคคีมีท่าทีว่าไม่เชื่อแถมยังบอกว่าเจอตัวภาคินัยเมื่อไหร่เขาจะเอาเลือดหัวนายคนนั้นออก

หลังจากพระสงฆ์ให้ศิลให้พรเสร็จพีระดาก็กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ยังไม่ทันจะเสร็จด้วยซ้ำเธอก็ต้องตกใจเมื่อกองทัพนักข่าวนับไม่ถ้วนว่ากี่สำนักพิมพ์จอดรถและนักข่าวทั้งหลายก็วิ่งกรูเข้ามาหาเธอ

“อะไรกันเนี่ย แค่ฉันจะใส่บาตรก็ตกเป็นข่าวด้วยเหรอ” พีระดาหน้าเหรอหรางงมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองขาคิดว่าจะถอยหลังหนีแต่ไม่ทันแล้วเมื่อนางแบบสาวคนสวยถูกห้อมล้อมไปด้วยนักข่าวนับร้อยชีวิต แฟลชจากกล้องถ่ายรูปวอบแวบอยู่ลอบๆตัว
“อะไรกันคะ เกิดอะไรกันขึ้นๆ พี่ๆมารุมล้อมพรีมทำไมคะ” พีระดางงมองไปรอบๆตัวไม่มีทางหนีที่ไล่ให้หนีรอดเลย

“คุณน้องพรีมอ่านข่าวเช้านี้หรือยังคะ” นักข่าวสาวจากสำนักพิมพ์หัวสีถาม
“ยังเลยค่ะ ข่าวอะไรคะ” พีระดาตอบตามจริง งงกับเหตุการณที่เกิดขึ้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.พ. 2555, 23:06:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.พ. 2555, 23:06:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 4594





<< ตอนที่ 8   ตอนที่ 10 >>
อัปสรา 23 ก.พ. 2555, 23:14:22 น.
เอาลิงค์มาฝาก เว็บอินเลิฟ ที่ลงตอน
1-8 ที่แก้ใหม่เอาไว้ค่ะ
http://www.inlove-book.com/n_novel_detail.php?ide=7696


Pampam 23 ก.พ. 2555, 23:21:27 น.
น้องพรีมมาแล้ว ไรเตอร์อย่าหายไปนานๆอีกนะคะอยากอ่านต่อค่ะ


อัปสรา 23 ก.พ. 2555, 23:29:45 น.
รับทราบค่ะ มีคนนอนดึกเหมือนกันเลย


kaero 24 ก.พ. 2555, 14:53:07 น.
รอตอนต่อไปคุงนก


lovemuay 24 ก.พ. 2555, 15:03:00 น.
แหม~ทุกทีมีแต่สาวอยากผูกมัด รอบนี้อยากผูกมัดสาวเจ้าเองสินะ อิอิ


อัปสรา 24 ก.พ. 2555, 15:04:44 น.
เดี๋ยวมาต่อให้นะ


shotang 31 ม.ค. 2556, 19:24:13 น.
เอาแล้วง่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account