ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต
เมื่อเธอเดินทางตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ โดยปล่อยให้ชะตาลิขิตเส้นทาง จนได้มาเจอเขา ชีวิตเธอกับเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
Tags: ชะตา

ตอน: Rose02

ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต ตอนที่ 2

หญิงสาวลุกขึ้นนั่งหลังจากนาฬิกาปลุกดังลั่นห้อง เธอพกมาด้วยและจะใช้กรณีที่อยู่ในที่พักดีๆ เท่านั้น เพราะกลัวว่าจะตื่นสายแล้วไม่ได้ทำตามเป้าที่วางเอาไว้ เธอต้องการให้การเดินทางดำเนินต่อไป โดยใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า

เธอออกมาเจอพ่อบ้านพอดี จึงฝากบอกลาเจ้าของบ้าน แล้วรีบวิ่งออกมาพร้อมข้าวของของตัวเองที่จำเป็น ก่อนจะทำการเสี่ยงทายได้การเดินเท้า เธอก็ออกเดินทันที แต่ถูกดึงเป้เอาไว้

เธอขมวดคิ้วแล้วหันกลับไปจะเอาเรื่อง เมื่อเห็นเขาก็ทำหน้าเซ็ง “คุณคงไม่ได้จะไปกับฉันใช่ไหม ถนนออกกว้าง ทำไมคุณไม่ลงใต้ไปซะล่ะ”

ซีเซียส่ายหน้า ขณะที่เขาก็ถือของหนักพอควร เขาใช้เวลาแทบทั้งคืนครุ่นคิด และแทบไม่ได้นอนเลย เพราะต้องจัดของให้มั่นใจว่าไม่ลืมอะไร

“คุณจะไปกับฉันให้ได้ใช่ไหมเนี่ย” เธอถามให้แน่ใจอีกครั้ง

“อืม ผมมารอคุณนานแล้วนะ แล้วนี่จะออกเดินทางยังไง” ซีเซียถามน้ำเสียงราบเรียบ ไม่อยากฟังเธอทำท่าทางพยศอีก

“ก็เดินไปจนเที่ยง พักทานอาหารแล้วค่อยเสี่ยงทายต่อ” นวาระพูดแล้วกระชับเป้ ก่อนจะออกเดิน แตเขาก็ฉุดเป้เธออีกรอบ “อะไรอีกล่ะคะ ถ้ามีปัญหา คุณเดินทางคนเดียวเลย”

“ผมไม่มีปัญหา แค่อยากถามว่าคุณเอาอะไรพกติดมาทานมื้อเที่ยงด้วยเหรอ” เขาถามให้แน่ใจอีกครั้ง

“ฉันมีคาราเมลกับช็อกโกแลต แล้วก็ขนมปังจากในครัว แล้วก็หมูอบแห้งอีกหน่อย คุณล่ะ” นวาระถามเขา แล้วเห็นเขาพยักหน้า ก็ออกเดินต่อ

ซีเซียเดินตามเธอไปเรื่อยๆ ตามถนนสายหลัก ก่อนเธอหยุดตรงทางแยก เพื่อดูว่าควรไปทางไหน เธอกางแผนที่ออกมาแล้วชี้ไปทางทิศเหนือมากกว่าเส้นทางลงใต้ ก่อนจะเดินนำหน้าเขาไปอีกครั้ง พอใกล้เที่ยงก็เจอแต่ต้นไม้ พวกเขากำลังเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ

เธอหยิบอาหารออกมาแล้วจัดหมูอบแห้งลงในขนมปัง ก่อนเงยหน้ามองเขา “คุณไม่ได้เตรียมของกินมาเหรอ”

“เตรียมมา แต่ยังไม่หิว” ซีเซียตอบ เขากำลังคิดหลายเรื่อง

“ไม่หิวก็ควรกินนะ คุณ เพราะเราไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีอะไรไหม จะมีที่ให้หยุดหรือเปล่า ลงเขาลูกนี้ไปก็ไม่รู้จะเจออะไรอีก ยังมีเขาลูกต่อๆ ไปรออยู่” นวาระพูดกับเขาไปเรื่อยๆ ก่อนจะตบขอนไม้ข้างๆ เธอ ชวนเขานั่งลง “ว่าแต่คุณไม่ต้องทำงานเหรอ ถึงมาได้เลยแบบนี้ ไม่ต้องยื่นลางานก่อนหรือยังไง”

“พ่อผมจัดการได้แหละ ครอบครัวผมทำงานรับใช้ราชวงศ์มานาน มีข้อยกเว้นเยอะ แต่ก็ชอบทำตามกฎมากกว่า เพื่อเป็นแบบอย่าง” เขาอธิบายให้เธอฟัง

“ก็ดี” นวาระพูดแค่นั้นก็ก้มหน้าก้มตาจัดการแซนวิชของตัวเองต่อ

เขามองบรรยากาศโดยรอบแล้วยิ่งเศร้ากว่าเดิม ก่อนหันไปมองยัยจอมยุ่งที่กำลังกางแผนที่มาดู จึงถาม “คุณจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือ แล้วคิดไหมว่าจุดหมายคือที่ไหน”

“ไม่อ่ะ แต่ฉันดูแล้ว จะมีหมู่บ้านอยู่ถัดไปอีกสองวัน ถามชาวบ้านแล้ว เขาว่าถ้าเราเดินไปตามจุดนี้ ก็จะมีกระท่อมหรือถ้ำนี่แหละ คุณคงสงสัยว่าฉันรู้ได้ยังไง ฉันก็เอาบทสนทนาไปด้วยแหละ นี่ไง” นวาระหยิบสมุดจดคำถามเป็นภาษารัสเซียออกมา เป็นคำถามจำเป็นที่เธอคาดว่าจะต้องถามชาวบ้านแน่ๆ

ซีเซียถึงเพิ่งเข้าใจ แล้วก็ถอนหายใจ เมื่อเขายังไม่ได้เตรียมใจที่จะมาใช้ชีวิตแบบนี้ แต่เขาก็เชื่อใจพ่อเขาพอสมควร ที่จะเดินทางมากับเธอโดยไม่รู้อนาคต

หวังว่าอะไรดีๆ จะผ่านเข้ามา...

ตกเย็นก็ยังเดินไปไม่ถึงหมู่บ้าน อากาศก็หนาวมากขึ้น เขาหันไปมองเธอที่ทำท่าทางหนาวกว่าเขามาก จึงถามเธอ “จะเอายังไงดีล่ะ”

“นั่นสิ เอายังไงดี หมู่บ้านต่อไปก็อีกไกลเลยอีกตั้งวันกว่าๆ คุณว่าแถวนี้จะมีถ้ำหรือกระท่อมตัดฟืนไหมนะ” นวาระถามเขา โดยไม่ได้วางแผนอะไรในการเดินทาง ไม่มีแผนสำรองสำหรับการปล่อยให้ชะตากำหนดทุกอย่าง

“นี่คุณ! ไหนว่าถามข้อมูลมาหมดแล้วไงครับ” ซีเซียถามสุภาพ แต่ชักเหลือทนกับแม่สาวเพี้ยนคนนี้เสียแล้ว

“นี่คุณ! กฎก็คือถามได้แต่ฉันก็ไม่ใช่นักเดินทางมืออาชีพ จะได้ถามแล้วคิดออกว่าอะไรอยู่ตรงไหน ก็คนตัดฟืนขายเขาบอกว่าขึ้นมาทางนี้ไปเรื่อยๆ สักแปดชั่วโมงยังไงก็เจอนี่นะ ขอนึกก่อนได้ไหม” นวาระพยายามระลึกว่าคนตัดฟืนที่เธอเจอเมื่อเช้า ตอนเข้าไปขออาหารในครัวพูดอะไรบ้าง ก่อนนึกได้

“ฉันนึกออกแล้ว เราต้องเดินไปจนถึงเนินหินนั่น แล้วจะมีถ้ำเล็กๆ อยู่ พวกเขาใช้ที่นั่นพักบ่อยๆ แต่ตอนนี้อากาศหนาวมาก พวกเขาจึงตัดฟืนจนพอแล้วหยุดพัก เรารีบเดินกันเถอะ” เธอดึงแขนเขาไปตามทางที่เธอชี้ เธอมองแผนที่ที่คนตัดฟืนเขียนมาให้ ก่อนโดนเขาแย่งไป

“เขาเขียนเป็นภาษารัสเซีย คุณต้องเดินเบี่ยงไปทางทิศตะวันตก ซึ่งก็คือทางนั้น” ซีเซียเปลี่ยนเป็นคนลากเธอแทน แล้วดึงเธอไปตามแผนที่ที่คนรัสเซียเขียนขึ้น “ทีหลังอ่านไม่ออกก็ถามผมสิ”

“ขอบคุณ” นวาระพยายามรั้งแขนตัวเองกลับมา ก่อนจะเดินตามเขาไป

“จริงๆ เขาก็บอกอยู่แล้วว่านั่นเป็นถ้ำนะ คุณน่าจะพกพจนานุกรมรัสเซียด้วย” ซีเซียส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะถอนหายใจ เมื่อเธอหยิบมันออก

“ถึงมีฉันก็อ่านไม่ค่อยได้หรอก ภาษาอังกฤษ ภาษาเขียนฉันก็แย่พอกันนั่นแหละ” นวาระยอมรับ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่ากระท่อนกระแท่นมาตลอด

“งั้นคุณก็ควรดีใจที่ผมมาด้วย เพราะอย่างน้อย ผมก็อ่านออกเขียนได้ดีทั้งอังกฤษแล้วก็รัสเซีย” ซีเซียส่ายหน้าช้าๆ แล้วพยายามทำใจ เพราะเขาตัดสินใจเดินตามเธอมาแล้ว พอหันไปมองดวงตาเป็นประกายแป๋วแหววก็ต้องใจอ่อน “เอาล่ะ รีบๆ เดินเถอะ”

นวาระฟังเขาพูดแล้วเริ่มซาบซึ้งขึ้นมาจริงๆ คิดอีกที ถ้าเธอมาคนเดียวคงงมน่าดูชมกว่าจะเจอถ้ำ แต่ยังไงก็ดี เธอไม่คิดจะพึ่งพาใครตลอดไปแน่นอน

เมื่อถึงถ้ำเล็กๆ เธอก็จัดการกางเต็นท์ทำให้เขายิ่งงงหนัก “ทำอะไรน่ะ”

“ก็กางไว้กันลมน่ะสิ ถึงจะอยู่ในถ้ำ แต่ลมก็แรงนะ ฉันเคยเจอหนาวมากๆ แล้วก็ไม่อยากเจออีก คุณนอนเต็นท์เดียวกับฉันก็ได้ ถึงจะเล็กแต่ก็พอยัดได้สองคนล่ะ” เธอแนะนำ ก่อนมองเขาเดินเข้ามาช่วย แล้วยังช่วยก่อกองไฟอีก

ค่ำมืดเธอหยิบขนมปังแถวออกมาแล้วตัดแบ่งให้เขา “ถ้าเราไปถึงหมู่บ้านหน้า เราก็จะมีขนมปังมากกว่านี้ แต่ฉันพกข้าวสารมาด้วย ข้าวจะอยู่ท้องกว่าขนมปัง แต่ฉันกลัวว่ามันจะหมดเสียก่อนน่ะสิ” นวาระพูดขึ้น แม้เขาจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม

“ถามจริงๆ ในกระเป๋ามีอะไรแน่” ซีเซียชักสงสัยแล้วว่าในกระเป๋ามีอะไร

“ก็มีทุกอย่างที่จำเป็น ทุกเส้นทางที่ฉันเดิน ถ้ามีโรงแรม ฉันจะขอให้เพื่อนที่อยู่ในยุโรปส่งข้าวไปทิ้งไว้ให้แล้วไปรับน่ะ ฉันจะบอกล่วงหน้าสักอาทิตย์ เพราะว่าฉันจะกะเส้นทางประมาณอาทิตย์ละครั้ง เมื่อขึ้นเหนือครบเจ็ดวันแล้วฉันก็จะเสี่ยงทายเส้นทางใหม่” นวาระอธิบายให้เขาฟัง

“คุณจะล้มเลิกเมื่อไร หมายถึงคุณต้องเดินทางจนครบหกเดือนเลยเหรอ” ซีเซียถามขึ้น

“ก็ต้องดูว่าเกิดเหตุร้ายแรงไหม ฉันจะแจ้งโรงแรมที่อยู่ในหมู่บ้านหน้าเสมอ เพื่อให้ที่บ้านสามารถทิ้งข้อความเอาไว้ได้ หากมีเรื่องร้ายแรง หรือถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงกับฉัน ซึ่งฉันหวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยนะคะ” เธอพยายามพูดภาษาอังกฤษ

โชคดีที่เธอมีกิจการเล็กๆ ทำตามมีตามเกิด และลูกค้าเป็นชาวต่างประเทศเยอะ เธอจึงพูดคล่อง แต่เรื่องอ่านนั้นต้องเปิดพจนานุกรมหลายเล่มกันเลยทีเดียว

“ผมรู้สึกเป็นห่วงวิธีเที่ยวของคุณจริงๆ แต่ช่างเถอะ ผมมีปัญหาส่วนตัว และพ่อของผมก็คิดว่า ถ้าผมได้เดินทางไกลๆ ออกไปสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ผมคงกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม” ซีเซียชวนเธอคุย เมื่อเธอเงียบ

“ดีแล้วสำหรับคุณ” นวาระพยายามไม่สนิทกับเขา แม้จะเดินทางด้วยกัน

เมื่อกลับเมืองไทย เธอก็จะเก็บตัวอยู่ในห้องทอผ้าหรือไม่ก็โรงกล้วยไม้ แหล่งรายได้ของเธอ จากนั้นก็สละเวลาเพื่อปฏิบัติธรรมและรักษาชีวิตโสดไปเรื่อยๆ แค่นี้เธอก็ไม่ต้องใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วคิดมากอีกแล้ว

ความเงียบดำเนินต่อไป และเพราะเดินเท้ามาทั้งวัน เธอก็เหนื่อยล้าแล้วลุกขึ้นหยิบของออกมา จากนั้นก็ใช้พลัวขุดรอบเป็นวง ก่อนจะเทผงสีเหลืองลงไป

“ทำอะไรน่ะ” ซีเซียถามเธอ

“ก็เอาผงกำมะถันใส่ไว้ ฉันไม่รู้หรอกว่าจะมีสัตว์มีพิษหรือเปล่า โดยเฉพาะเรามีที่อุ่นๆ สำหรับมัน เพราะงั้นเพื่อกันไม่ให้พวกมันเข้าใกล้เรา ฉันต้องป้องกันเอาไว้ก่อนนั่นแหละ” เธอตอบ จากนั้นก็หยิบก้อนสีดำออกมาจากกระเป๋าเธออีก ก่อนจะใส่มันลงไปในกองเพลิง

“อะไรอีก” เขาถามเมื่อเห็นเธฮทำอะไรต่อมิอะไรอยู่ตลอดเวลา

“ถ่านอัด อยู่ได้สามชั่วโมง อีกสองชั่วโมงครึ่ง ฉันจะตื่นขึ้นมาเติมอีก คงไม่รบกวนคุณหรอกนะ ฉันกลัวอากาศหนาวแล้วสบายใจกว่าถ้ามีถ่านอัดแบบนี้อยู่ข้างๆ” นวาระพูดโดยไม่สนใจว่าเขาจะว่าเธอไร้สาระแค่ไหน แต่เธอก็รอดตายด้วยสิ่งของที่เพื่อนทยอยส่งมาให้เธอทีละนิด

“ถ้าหมดแล้วคุณจะทำยังไง” เขาถามขึ้นอย่างสงสัย

“ไม่รู้สิ หมดก็คงต้องหาทางรอดเอาล่ะนะ ฉันง่วงแล้วขอไปนอนก่อนนะ” นวาระบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนเข้าเต็นท์ที่ติดตั้งไว้ในถ้ำ

ไม่ว่าจะดูไร้ประโยชน์แค่ไหน...เธอก็ขอทำไว้ก่อนและไม่ขอประมาท เพราะอยู่ในประเทศที่ไม่คุ้นเคยด้วย

ชะตากรรมชักนำเธอมาที่ประเทศนี้ เธอเอาตัวรอดมาได้สามเดือนแล้ว แต่ก็อีกนั่นแหละ เธอไม่รู้ว่าชะตากรรมจะพัดพาเธอไปทางไหนอีก เพราะงั้นขอทำให้ติดเป็นนิสัยก่อนค่อยว่ากันทีหลัง

เมื่อเธอหันมาจะปิดเต็นท์ เขาก็ยื่นมือเข้ามา ก่อนบอก “ผมไม่มีอะไรทำ ขอนอนด้วยแล้วกัน”

“เข้ามาค่ะ” เธอชวน ก่อนจะยัดตัวเองลงในถุงนอนที่ตัวเองเตรียมมา

ขณะที่เขาก็ยัดตัวเองในถุงนอนของเขา ก่อนจะมองเธอห่มผ้าทับถุงนอนของทั้งเขาและเธอ

“ขอบคุณ” ซีเซียบอกเธอ เขามองเธอทำทุกอย่างอย่างละเอียด แสดงว่าเป็นคนที่อยู่ในระเบียบอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่เธอจะมาอยู่ในประเทศที่ไม่คุ้นเคย

“ฝันดีค่ะ” นวาระพลิกตัวหันหลังให้เขา ก่อนจะพยายามหลับให้สบาย

เธอไม่เพียงแค่กางเต็นท์ยังขึงผ้ากันลมเอาไว้ ป้องกันไม่ให้กองไฟดับมอดก่อนจะตื่นมาเติมถ่าน ถึงจะเป็นคนที่ไม่มีสติ แต่เธอก็คอยระวังความปลอดภัยของตนเอง

“เคยบังเอิญเจอใครเข้าหาตอนกลางคืนบ้างหรือเปล่า” ซีเซียถามขึ้นเมื่อคิดทบทวนไปมา

“เคย ตอนไปขอพักในโรงนา แต่ฉันกางเต็นท์เอาไว้ แล้วหลบไปนอนที่อื่นน่ะ ฉันสังเกตสายตาผู้ชายหื่นๆ ออก แต่เพราะคืนนั้นมันไม่มีทางเลือก บ้านแต่ละหลังอยู่ไกล แล้วคนก็ไม่น่าไว้ใจ ฉันหลบไปนอนแล้วกองฟางสุ่มป้องกันตัวเองเอาไว้ ไม่ลืมจะโรยผงกำมะถันด้วย” เธอเล่าให้ฟัง ก่อนหาวเสียงดังให้เขารู้ว่าเธอง่วงแล้ว

เขาและเธอต่างก็นอนหลับพักเอาแรง และยังไม่รู้ว่าต้องเดินไปไกลอีกแค่ไหน

รุ่งเช้าเขาก็มั่นใจว่าเดินทางกับเธอไม่ง่ายนัก และเธอมีตารางเวลาที่ตรงเป๊ะ ทุกสองชั่วโมงครึ่ง เธอตื่นขึ้นแล้วเติมฟืนกับถ่านตลอด เขารู้สึกได้ แต่ทำเป็นหลับสนิท เขาอาจสงสัยว่าทำไมเธอถึงขนไม้ตลอดเวลา และนำมาวางข้างๆ กองไฟ ตอนนี้เขารู้แล้ว เธอต้องการให้ไม้แห้งและเป็นเชื้อไฟตลอดทั้งคืน

คิดดูให้ดี เธอก็เป็นผู้หญิงที่ละเอียดอ่อน และวางแผนอยู่ตลอด ยกเว้นบางเรื่องที่เธอจะไม่วางแผนเลย

การเดินทางครั้งนี้เริ่มน่าสนใจ โดยเฉพาะเธอไม่บ่นให้เขาฟังว่าเดินทางลำบากแค่ไหน และดูจะรำคาญถ้าเขาคอยถามว่าทำไมเธอไม่บ่น

บางทีพ่อเขาน่าจะพูดถูก ผู้หญิงตัวคนเดียวเดินทางลำพังและดูเหมือนประมาท หากระมัดระวังอยู่ตลอด มุมมองที่แตกต่างออกมาอย่างชัดเจน

****************************************


หลังจากเดินทางถึงหมู่บ้านที่เธอกำหนดเอาไว้ว่าจะขอพัก นวาระพาเขาเดินทางไปทั่ว เพื่อของานแล้วก็พักคืนนี้ แต่เดินไปหลายบ้านก็ไม่มีคนรับ

ซีเซียปล่อยเธออยู่พัก ก่อนตัดสินใจเข้าแทรกแซง “ผมจะจ่ายเงินให้คุณ ถ้าคุณอนุญาตให้เราใช้โรงนาของคุณพัก เพื่อนผมเขาชอบการผจญภัย แล้วเขาก็อยากใช้ชีวิตคลุกฝุ่น ถ้าคุณจะกรุณา ผม ซีเซีย มิคาอิล คารอฟสกี้ นี่บัตรประจำตัวประชาชนและบัตรข้าราชการของผม”

นวาระเห็นเขาแสดงบัตรให้เจ้าของบ้านดู ก็ได้แต่ถอนหายใจ หากเธอก็ไม่ขัด แต่ก็ไม่ผิดหลัก เพราะเธอยังไม่ได้เสี่ยงทายเรื่องที่อยู่ที่กิน แต่เพราะดีกว่าไปโรงแรม เธอจึงเลือกจะลองเดินหาที่พักแบบนี้ไปก่อน

เมื่อเจ้าของบ้านตกลง เขาก็หันมาทางเธอ “เขาให้คุณพักที่โรงนาได้ ผมต้องแสดงบัตรประชาชนให้เขาดูน่ะ เขาจะไม่มาวุ่นวายกับเรา ยกเว้นมื้อเย็น ผมเสนอว่าเราจะกวาดหิมะตรงทางเดินให้เขา แล้วก็ผ่าฟืนกองนั้นให้เสร็จ”

“เขาพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ” นวาระฟังไม่ทัน เพราะเจ้าของบ้านกับเขาพูดเร็วจนเธอฟังไม่ทัน

“ก็อย่างนั้นแหละ” ซีเซียคิดว่าโกหกน่าจะดีกว่า เพราะขี้เกียจทะเลาะกับเธอ

เธอเดินตามเจ้าของบ้านไปยังโรงนา ก่อนมองแล้วเริ่มจัดสถานที่ และให้แน่ใจว่าไม่ทำให้เกิดไฟไหม้ ถ้าจะจุดไฟเอาไว้ ก่อนจะหันไปเห็นเตาผิงเก่าๆ จึงหันไปบอกเขา “ขอใช้เตาผิงเก่าๆ นั่นได้ไหมคะ เรื่องฟืนเดี๋ยวฉันหาเองค่ะ”

ซีเซียหันไปบอกเจ้าของบ้าน ก่อนเสนอเงินเพิ่มให้อีกเล็กน้อย แล้วหันมาพยักหน้ากับเธอ “เขาอนุญาต คุณใช้ได้เลย แต่แน่ใจนะ เพราะเขาไม่มีปล่องควันให้”

“ค่ะ แค่คืนเดียวเอง พรุ่งนี้เราออกไปซื้อหาเสบียงแล้วเดินทางต่อ อีกสามวัน ก็จะเปลี่ยนเส้นทางเดินแล้วค่ะ” นวาระบอกเขา ก่อนมองเขาคุยกับเจ้าของบ้าน

“จะตั้งเต็นท์ไหม” เขาถาม และมองเธอเอาเป้ลงจากหลัง ทั้งที่เขาพยายามจะช่วยเธอถือของ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ต้องการความช่วยเหลือเท่าไรนัก

“ค่ะ กันลมอีกชั้นดีกว่า มีเตาผิงเก่าก็ค่อยยังชั่ว แล้วนี่ก็กุญแจนะคะ เห็นมีห้องน้ำข้างนอกด้วย ก็ยังดีค่ะ แต่ฉันมีกระดาษชำระติดมาด้วย สบายกว่าพักในถ้ำในป่าเป็นไหนๆ นะคะ” นวาระพูดอย่างโล่งใจ

เพราะเมื่อวานต้องนอนค้างในป่า แล้วต้องขึงผ้าโดยรอบ พยายามให้ลมผ่านมาน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ยังสงสัยว่า ช่วงก่อนที่มีฝนบ้าง เธอใช้ชีวิตยังไง หากคงไม่มีประโยชน์จะถาม เมื่อเธอคุยจำกัด แล้วมักจะก้มหน้าก้มตาเดินไปเรื่อยๆ อย่างเงียบๆ

จากนั้นเธอก็ออกไปทำงานที่เขาตกลงเอาไว้อย่างแข็งขัน โดยมีเขาช่วย ซีเซียสูดลมหายใจยาว แล้วมองรอบๆ โดยช่วยเธอตักหิมะออกจากทางเดิน ก่อนจะเดินเข้าโรงนาแล้วเริ่มตัดฟืน โดยมีเขาช่วย เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็เอาฟืนไปเติมในบ้าน

นวาระกลับมาที่โรงนาแล้วหยุดพัก ก่อนมองหาถังน้ำเพื่อต้มน้ำ แล้วจะได้เอาน้ำไปอาบในห้องน้ำเล็กที่เป็นเพียงห้องน้ำธรรมดา เธอไม่มีทางเลือกนัก เพราะรู้ว่าห้องอาบน้ำคงอยู่ในบ้านมากกว่าอยู่นอกบ้านแบบนั้น

เขากลับมาพร้อมถ้วยซุป แล้วมองเธอต้มน้ำอยู่ ก่อนบอก “เจ้าของบ้านแบ่งสตูว์เนื้อแกะมาให้น่ะ จะได้ทานกับขนมปัง เมื่อเช้าซื้อมาบ้างแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ค่ะ” เธอตอบ ก่อนยกน้ำร้อนใส่ถังน้ำใบเก่าที่เธอหาได้ แล้วนำถังน้ำอีกใบมาส่งบนเตาเก่าๆ นั้น “ฉันต้มน้ำไว้ให้แล้วนะคะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนนะ ค่อยมากินข้าวทีหลัง”

เขาพยักหน้าช้าๆ แล้วหากองฝางที่มัดเป็นก้อนมาทำเป็นโต๊ะง่ายๆ วางถ้วยสตูว์ลงไป จากนั้นก็เติมฟืนลงไป แล้วก็ย้อนกลับเข้าไปในบ้าน คว้านมที่ภรรยาเจ้าของบ้านบอกให้เอามาด้วยมาที่โรงนา

จะว่าไปแล้วบรรยากาศแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เรียบง่ายไม่ต้องคิดมาก ทิ้งความรู้สึกยุ่งยากไปได้มาก แต่ใจเขาก็ยังเผลอคิดถึงผู้หญิงในหัวใจ

เขารักผู้หญิงคนนั้น...คนที่อยู่ในเจ้าหญิงรัชทายาท เมื่อทุกอย่างเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ได้แต่ปล่อยวาง แม้จะวุ่นวายใจอยู่มาก ยามที่เห็นเธอแต่งงานกับคนอื่น

ถ้าจะคิดให้ดี ถ้าเพียงคิดว่าเธอเป็นเจ้าหญิงรัชทายาท ความเจ็บปวดก็ลดทอนไปได้มาก แต่เมื่อคิดถึงหญิงสาวในอ้อมแขนเขา คนที่เขาพยายามลืมไปว่าเธอเป็นใคร

ผู้หญิงคนหนึ่งที่เติบโตมาพร้อมเขา ความใกล้ชิด การอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก ทุกวันหยุดยาวเขาจะได้มีโอกาสติดตามไปในฐานะองค์รักษ์เสมอ แม้ยังเด็ก แต่พ่อเขาสอนเสมอให้คอยพิทักษ์ดูแลเจ้าหญิงรัชทายาทดังชีวิต

ไม่เคยมีอนาคตในความสัมพันธ์ หัวใจเขาก็ได้แต่เจ็บปวด ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อพบว่าเธอก็คิดไม่แตกต่างจากเขา สองเดือนก่อนงานอภิเษกสมรสเป็นช่วงเวลาที่เขาเจ็บปวดมากที่สุด เมื่อเขาต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับความรู้สึกส่วนตัว

ผู้หญิงที่เขารักเป็นคนไม่ธรรมดา เธอเป็นรัชทายาทพระองค์เดียวของราชวงศ์ และเป็นราชินีในอนาคตของคนทั้งประเทศ เขาจะเห็นแก่ตัวเก็บเธอเอาไว้คนเดียวได้อย่างไร แล้วยังความปลอดภัยของพ่อแม่เขาอีก ถ้าเขาทำอะไรไร้ความรับผิดชอบต่อประเทศและราชวงศ์ เขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนกบฏต่อประเทศชาติและวงศ์ตระกูล

“เป็นอะไร” นวาระเข้ามาพร้อมผ้าคลุมเต็วตัว

ซีเซียขมวดคิ้วมองเธอย่างเข้มงวดก่อนส่ายหน้า แม่คนนี้ก็ไร้เสน่ห์ของผู้หญิงอย่างสิ้นเชิง อย่างกับผ้าห่มเคลื่อนที่ คลุมไปหมด มีดวงตากลมตัวคู่เดียวโผล่ออกมา

“ผมไปอาบน้ำก่อนล่ะ คุณหิวก็ทานไปก่อนเลย” ซีเซียตัดบท ก่อนหยิบเสื้อผ้าหนาๆ แล้วหิ้วถังใส่น้ำออกไป

“รอน้ำอีกถังก่อนสิ คุณน่ะตัวโตจะตาย อาบแค่ถังเดียวพอเหรอ นี่ไม่ใช่ในป่านะ อาบน้ำเยอะๆ ก็ได้ เรายังต้องนอนเต็นท์เดียวกันอีกนะ” นวาระพูดสื่อความหมาย

“ทนเหม็นกันมาก็สองสามคืนแล้ว อีกอย่างคืนนี้ผมจะนอนนอกเต็นท์เอง” ซีเซียบอกแล้วหยิบน้ำในถังใบใหญ่ออกไป

‘มาประเทศหนาวๆ แบบนี้ได้ยังไงกันนะ ทั้งที่กลัวหนาวซะอย่างนี้’ เขาคิดแล้วส่ายหน้า

เมื่อจัดการตัวเองเสร็จแล้ว เขาก็มาเห็นเธอนั่งกอดอกพิงกองฟางใกล้ๆ หลับไปแล้วเหลืออาหารจานหนึ่งของเขากับขนมปังก้อนไว้ให้ เขาก็ไม่หวังให้เธอรอ

สองสามวันมานี้ เขาก็พอรู้แล้วว่าเธอทำตามตารางเวลาแค่ไหน ดูตึงเครียดกว่าที่เขาคิดนัก แต่ก็ทำให้เขาเดินทางได้สะดวกมาขึ้น เพราะเธอไม่อิดออดเหมือนผู้หญิงทั่วไป ไม่บ่นเรื่องการเดินทาง ไม่พูดจาหาเรื่องเขา หรือคิดจะผูกสัมพันธ์กับเขา มากกว่าแค่เพื่อนร่วมทาง ที่พร้อมจะแยกทางกัน เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง

“ง่วงก็เข้าไปนอนในเต็นท์เถอะ” เขาปลุกเธอเบาๆ

นวาระเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะมองรอบๆ แล้วนึกได้ว่าตอนนี้มีเขาเป็นเพื่อนร่วมทาง จึงควักเอากุญแจออกมา “คุณล็อกประตูทางเข้าด้วยนะ ฉันเห็นอีกด้านล็อกแล้วล่ะ แล้วไม่มีทางเข้าออกอื่นอีก เพื่อความปลอดภัย ลูกกุญแจนี่คุณเก็บไว้นะ เผื่อว่าอยากเข้าห้องน้ำ ถ่านนี่ถ้าคุณจะนอนก็เอาใส่ในเตาด้วย แล้วตั้งนาฬิกาปลุกให้ฉัน ฉันจะตื่นมาใส่เพิ่มเอง”

ซีเซียขี้เกียจพูดกับเธออีก จึงรับกุญแจมาแล้วรับคำ ก่อนจะนั่งทานอาหารไป แล้วมองแสงไฟในเตาผิงเก่าๆ อย่างเลื่อนลอย แม้จะอยากลืมผู้หญิงคนแรกที่รักแค่ไหน ดูเหมือนจะลืมยากเหลือเกิน

รักครั้งแรก...ลืมยาก

“นี่คุณ คุณจะเข้ามานอนในเต็นท์ไหม” นวาระถามให้แน่ใจ แต่ก็เอาถุงนอนออกมาให้

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวผมนอนข้างนอกได้ เอาถุงนอนวางไว้นั่นแหละ ได้กองฟางก็สบายหน่อย ไม่หนาวเท่าไร” ซีเซียบอกเพื่อนร่วมทาง

“อย่านอนดึกนักนะ พรุ่งนี้ต้องไปหาข้อมูลอีก เรายังต้องเดินต่อไปอีกสามวัน แล้วค่อยเสี่ยงทายอีกทีว่าจะไปทิศไหน ตะวันออกหรือตะวันตก ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เธอพูดเปิดประเด็นแค่นั้น ก็รีบปิดประเด็นเพราะหาวหวอดๆ แล้วก็เข้าเต็นท์เพื่อนอนหลับพักผ่อน

ซีเซียส่ายหน้า ก่อนจะทานอาหารให้หมดแล้วมองกองเพลิงไปเรื่อยๆ ครุ่นคิดอย่างหาทางออกไม่เจอ เขาก็ยังไม่รู้จะเอายังไงกับความรู้สึกดี แต่เขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จะได้ทำเป็นลืมได้ ทว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะราชองครักษ์ยังมีอยู่ ทั้งยังเกียรติยศของตระกูลเขา ที่เป็นราชองค์รักษ์มาหลายชั่วอายุคน

ตั้งแต่เด็ก เขาก็ถูกปลูกฝังความคิดที่จะพิทักษ์รักษาคนของราชวงศ์มาตลอด เขาจึงรู้สึกขัดแย้ง ที่ปล่อยตัวปล่อยใจในวันนั้น ช่วงเวลาที่แสนอบอุ่น เต็มไปด้วยความรัก และมีค่ำคืนที่แสนวิเศษ

เขาถอนหายใจอีกครั้ง เขารีบทานอาหารให้หมด แล้วนั่งพักอีกครู่ ก่อนจะทำตามคำสั่งของยัยตัวยุ่ง แล้วค่อยเข้านอน โดยพยายามคิดถึงแต่พฤติกรรมสุดเพี้ยนของยายตัวแสบเท่านั้น

เขาต้องพยายามดึงตัวเองออกจากความเจ็บปวดให้เร็วที่สุด เพื่อกลับไปทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ โดยไม่นำความรู้สึกส่วนตัวมาทำลายทุกอย่าง

ต่อไปนี้เขาจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อหน้าที่เท่านั้น...

****************************************


เดือนกว่าที่เขาติดตามเธอไปแทบจะทุกที่ ขาดการติดต่อจากสังคมเดิมๆ แล้วอยู่ในสถานการณ์สุดเพี้ยน แต่ก็ไม่เลวร้ายนัก เมื่อเธอก็ไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบเสียทีเดียว

เขานั่งอยู่ในกระท่อมบนเขาสูง แม้เขากับเธอจะไม่เคยเดินขึ้นเขาสูงแบบนี้ แต่ก็มาจนถึงกระท่อมท่อนซุงแข็งแรง เมื่อกระท่อมหลังนี้อยู่บนเขาที่มีหิมะสูง โชคดีที่แถบนี้เขาพอรู้จักคนบ้าง จึงขอมาพักค้างคืนที่กระท่อมบนเขา และแน่นอนว่าเขากับเธอเดินเท้ามา

“ฉันไม่อยากจะพูดให้เป็นลางหรอกนะคะ แต่ว่าบ้านหลังนี้แข็งแรงดีใช่ไหม” นวาระเห็นหิมะสูง เนินเขาสูงชัน บอกไม่ถูกเลยว่ามาที่นี่แล้วน่ากลัวแค่ไหน

“เราเคยพักในถ้ำ กางเต็นท์ในที่ที่ลมแรง แล้วคุณจะมากลัวอะไรกับกระท่อมหลังนี้ มันแข็งแรงมากนะ ดูขนาดท่อนซุงสิ ต่อให้หิมะถล่ม เราก็น่าจะรอดไปได้วันสองวันล่ะน่า ผมบอกคนข้างล่างเอาไว้ ถ้าเกิดหิมะถล่มให้ส่งคนขึ้นมาค้นหาเราทันที” ซีเซียบอกอย่างรอบคอบ

“ขอบคุณค่ะ” นวาระพูดขอบคุณในความรอบคอบของเขา ก่อนจะนั่งลงแล้วเริ่มก่อกองไฟ ยังดีที่หน้าต่างเป็นไม้แข็งแรง ไม่ใช่กระจก อีกด้านเป็นกำแพงไม้แข็งแรงอีกเช่นกัน ดูจากด้านนอกน่าจะตั้งชันรับกับเนินเขา

“คนสมัยก่อนเวลาขึ้นมาตัดฟืน เขาก็ต้องคิดถึงสภาพอากาศเอาไว้ จึงสร้างบ้านที่แข็งแรงแบบนี้ คนรุ่นต่อๆ มา เขาก็ดูแลคอยเสริมให้แข็งแรงขึ้น คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมเช็คแล้วไม่น่าจะมีพายุหิมะนะ” เขาบอกให้เธอสบายใจมากขึ้น

“ขอบคุณค่ะ” นวาระพูด ก่อนเดินไปห้องน้ำเล็กๆ ที่นี่ไม่มีน้ำประปา ต้องเอาหิมะมาละลาย เธอคว้าถังได้ก็ตักเอาหิมะมาจัดการให้เรียบร้อย

“คืนนี้ไม่ต้องอาบน้ำหรอก พรุ่งนี้ค่อยลงไปอาบข้างล่าง ไว้จะสอนเล่นสกีอีกนะ” เขาพูดขึ้น เพราะวันนี้เขาสอนเธอเล่นสกีแทบทั้งวัน ก่อนเดินมาถึงที่นี่

“ขอบคุณค่ะ แต่จริงๆ นะ พอกลับไปบ้านฉัน ก็ไม่มีสกีให้เล่นหรอกค่ะ แต่อยากให้คุณผ่อนคลายบ้าง ตั้งแต่รับโทรศัพท์ที่โรงแรม ดูคุณเครียดไป อย่าคิดมากน่า ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ” นวาระพูดขณะถังน้ำดื่มออกมา

“ดีที่คุณยอมทิ้งของบางส่วนไว้ที่โรงแรม ไม่งั้นเราคงไม่มีน้ำดื่มสะอาดๆ แน่” ซีเซียพยายามไม่พูดเรื่องเครียดของเขา แล้วคุยเรื่องเฉพาะหน้าแทน

“ก็นะ แต่ยังดีที่คุณยอมให้ฉันเอาถ่านมาด้วย แต่แบกน้ำมาคนละสองถังเล็กนี่ก็หนักเอาการเลยนะเนี่ย ชักง่วงแล้วสิ” เธอพูดแล้วรีบจัดที่นอนทันที “ขอนอนก่อนค่อยตื่นมากินนะคะ”

ซีเซียมองเธอล้มลงนอนในชุดอ้วนๆ นั่นแล้วก็ส่ายหน้า หล่อนกลัวหนาวแต่กลับมาที่นี่ เพราะกลัวผิดคำพูดมากกว่า เขาได้แต่ถอนหายใจ ก่อนมองหาฟืนแห้งๆ ที่ด้านล่าง มองความแข็งแรงของบ้านหลังนี้ ที่แม้แต่หลังคาก็แข็งแรง

เขามองเธอนอนขดอยู่ข้างๆ จึงดึงกระเป๋ามานั่งพิง สักพักเขาก็ผล็อยหลับไป

ความมืดเข้ามาปกคลุม ก่อนทำให้ทั้งห้องหนาว แล้วแม่คนขี้หนาวก็สะดุ้ง ทั้งหนาวทั้งรู้สึกหนัก เพราะเขาฟุบใส่เธอที่นอนอยู่ข้างใต้ “นี่คุณ”

ซีเซียสะดุ้งเลี้ยวซ้ายแลขวา ก่อนจะถอนหายใจ “ผมเผลอหลับไปเหรอเนี่ย”

“ใช่ นานจนไฟดับเลยล่ะ” นวาระบิดขี้เกียจในความมืด ก่อนจุดไฟแล้วเติมเชื้อฟืน

“ขอโทษ ผมไม่คิดว่าจะหลับน่ะ ก็เลยไม่ได้เติมถ่านลงไปก่อน” เขาบอกอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไรหรอก ทหารก็เหนื่อยเป็นนะคะ เดี๋ยวหาอะไรทานรองท้องหน่อยแล้วค่อยนอนอีกทีดีกว่า อากาศหนาวแบบนี้ เราต้องมีไขมันสะสมมากหน่อย” นวาระพูด ก่อนตั้งหม้อเหนือกองไฟ ต้มน้ำดื่ม แล้วก็เอาเนื้อแกะอบแห้งลงไป ควักเครื่องปรุงออกมาแล้วเติมนมให้ข้น

“คุณนี่ปรับตัวเก่งนะ” ซีเซียมองเธอทำอย่างคล่อง

“ก็ฉันต้องเอาตัวให้รอดในโลกใบนี้นี่” เธอพูดขณะคนสตูว์ทำง่ายๆ ก่อนจะเอาขนมปังมาหั่นแบ่ง

“คุณไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น หรือว่าคุณไม่ชอบผู้ชายกันแน่” เขาสังเกตมาพักใหญ่

“ทั้งสองอย่าง ฉันชอบพึ่งพาตัวเอง แล้วก็ไม่อยากทำตัวอ่อนแอ จนต้องชอบผู้ชาย ก็เลยพยายามทำเองทุกอย่างที่พอทำได้น่ะ อย่ากังวลเลย นี่ฉันก็รอดมาได้ห้าเดือนแล้วนะ อีกเดือนเดียวฉันก็จะได้กลับบ้าน คงไม่ต้องพึ่งพาใครแล้วล่ะ” นวาระถอนหายใจแล้วยิ้มอย่างมีความสุข เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจอกันที่เธอจะยิ้มแบบนี้

‘บางทีแม่นี่ก็น่ารักดี’ ซีเซียคิดแล้วเผลอยิ้มนิดๆ ก่อนชวนคุย “ตลอดมาคุณคุยแต่เรื่องแม่ แล้วพ่อคุณล่ะ ท่านไปไหนเหรอ”

นวาระหยุดมือแล้วจ้องเขาอย่างสำรวจ ก่อนถอนหายใจ “ฉันไม่มีพ่อหรอก เขาทิ้งฉันกับแม่ไปตั้งแต่ฉันอายุห้าขวบ ถึงจะเจอหน้ากันก็ไม่ใช่พ่อ แค่คนที่ผ่านมาเท่านั้นแหละ”

“ถ้าคุณอยากคุย อยากระบายก็เล่าให้ผมฟังก็ได้นะ ยังไงเราก็มีเวลาอีกด้วยกันอีกพักใหญ่” เขาพูดเมื่อเห็นเธอดูเครียดลง

“แล้วทำไมคุณไม่เล่าเรื่องของคุณบ้างล่ะ ฉันไม่ใช่คนขี้บ่น จะได้คอยพูดๆ ให้คุณฟังอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าอยากฟังเรื่องของฉัน คุณก็ควรจะแบ่งเรื่องของคุณมาบ้าง ฉันไม่ชอบเอาเปรียบใครด้วยการเอาความทุกข์ของฉันไปโยนให้คุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ” นวาระบอกเขาแล้วยักไหล่ คิดว่าเขาคงไม่เล่าเรื่องของเขาแล้วเลิกยุ่งเรื่องของเธอไปเอง แต่ผิดคาด

“ผมอกหักน่ะ คนที่ผมรักแต่งงานกับคนอื่น ที่ผมหงุดหงิดใส่คุณตั้งแต่ครั้งแรก เพราะช่วงนั้นผมไม่รู้จะจัดการความรู้สึกยังไงให้สงบราบเรียบ ผมพยายามแสดงท่าทีสงบ” ซีเซียเล่าให้เธอฟัง แล้วมองเธอมีสีหน้าประหลาดใจ “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ อืม ผมรู้ว่าคุณคงประหลาดใจ แต่ผมเคยคิดว่าการเดินทางอาจช่วยได้มากกว่าการพูด สุดท้ายเมื่อไม่ได้พูด ผมกลับเจ็บปวดลึกกว่าเดิม”

“อืม แค่คิดว่าผู้หญิงที่คุณพูดถึงคงไม่ใช่เจ้าหญิงรัชทายาทของคุณหรอกนะ” นวาระพยายามเดาให้ไม่ใช่ไว้ก่อน

ซีเซียยกมือขึ้นจับมุมปาก...ท่าทางเขาดูออกง่ายอย่างนั้นเหรอ...

“ไม่ใช่ใช่ไหม ต้องไม่ใช่แน่ๆ” เธอไม่อยากสงสัยในเรื่องนั้น แต่ท่าทางเขาบอกออกชัด “โอเค ฉันว่าเราเปลี่ยนเรื่องกันดีกว่า”

“ไม่เป็นไร คุณรู้ได้ยังไง อ่านหนังสือพิมพ์เหรอ” ซีเซียถามขึ้นอย่างสงสัย

นวาระทำหน้าเซ็งก่อนบอก “ฉันไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ อ่านภาษารัสเซียออกที่ไหนล่ะ แค่เดาท่าทางทรมานๆ ของคุณก็เท่านั้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าหญิงล่ะนะ เสียใจด้วย แต่คนหน้าตาดีอย่างคุณ หน้าที่การงานก็ดี คงได้พบคนดีๆ สักวันหนึ่ง”

เขาฟังเธอปลอบแล้วเผลอยิ้ม ก่อนนึกขึ้นได้ “ผมเล่าเรื่องของผม แล้วเรื่องของคุณล่ะ”

นวาระถอนหายใจ “ฉันไม่เคยอกหัก ฉันรักงานแล้วก็แม่ ป้าที่เป็นเพื่อนแม่ แล้วก็ยายที่เป็นแม่ของเพื่อนแม่ ครอบครัวฉันแทบไม่เหลือใครนอกจากผู้หญิง ฉันก็เลยไม่ค่อยได้พึ่งผู้ชายก็เท่านั้นแหละ ฉันชอบงานของฉัน ก็แค่นั้นแหละ”

“เรื่องของพ่อแม่คุณล่ะ คงมีเรื่องในใจคุณมากนะ คุณถึงรักแม่มาก” ซีเซียถามขึ้น ถึงครอบครัวเขาไม่อบอุ่น แต่ก็ยังมีองค์ประกอบในครอบครัวครบ

“ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นะ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน อีกอย่างผู้ชายคนนั้นก็ไม่มีส่วนในชีวิตฉันอีกแล้ว” นวาระมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้นจนเขาประหลาดใจ

“โอเค แต่ถ้าคุณอยากระบายออกก็คุยกับผมได้นะ ยังไงคืนนี้เราก็คงไปไหนไม่ได้ ดีกว่าอยู่เงียบๆ ไม่มีเรื่องจะคุย” ซีเซียดูเธอเครีงเครียดกับเรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจคุณ แต่มีประโยชน์อะไรจะพูดถึงเรื่องเก่าๆ ส่วนเรื่องของแม่ แม่ฉันเป็นผู้หญิงที่อดทน เมื่อก่อนครอบครัวทวดร่ำรวย มีที่ดินอยู่หกสิบไร่ ต่อมาแบ่งให้ลูกห้าคน แล้วครอบครัวก็ห่างหายไปเรื่อยๆ จนครอบครัวตาฉัน ท่านก็จนลงมากแล้วล่ะ เหลือแต่ที่ดินที่ท่านไม่ยอมขาย แม่ฉันทำงานหนัก ฉันก็ทำงานตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ” นวาระเล่าคร่าวๆ ผ่านเรื่องของพ่อแม่ไปเฉย เพราะไม่อยากพูดถึง

“มือคุณถึงหยาบสินะ” เขาเคยช่วยเธอ จึงรู้ว่ามือเธอหยาบกว่าคนทั่วไป

“ใช่ แต่มันเป็นผลจากการทำงาน ซึ่งฉันภูมิใจ ฉันดีใจที่ฉันเลือกทำงานหนัก แทนที่จะมัวดูแลผิวพรรณเพื่อผู้ชาย ผู้ชายที่ดี เขาไม่ดูแค่มือผู้หญิงหรอก” นวาระหงุดหงิดขึ้นมา เมื่อเขาพูดแบบนั้น จึงเลือกจะทานอย่างเงียบๆ

ซีเซียถอนหายใจยาว แต่เพราะเขารับมือกับเจ้าหญิงรัชทายาท ที่เอาแต่ใจมากกว่านี้ร้อยเท่า เขาจึงรู้ว่าเธอกำลังพยศ “ผมพูดอะไรผิดเหรอ”

“เปล่าหรอก ทานเถอะ นี่หน้าต่างเปิดไม่ได้ใช่ไหม เปิดคงหนาวนะ” นวาระพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย

“ผมไม่ได้ตำหนิเรื่องมือคุณหรอกนะ ผมเพียงแต่จะบอก ผมรู้ว่าคุณทำงานหนัก แล้วก็ชื่นชมที่คุณสู้ชีวิตจนถึงทุกวันนี้” ซีเซียบอกชัด

“ไม่เป็นไรหรอก บางทีฉันก็นิสัยเสีย เวลาที่ใครมองว่าฉันทำงานหนักแต่ไม่รู้จักใช้ชีวิตน่ะ ก็เลยหงุดหงิดนิดหน่อย” นวาระพูดขึ้น ก่อนหยิบน้ำดื่มส่งให้เขา

ความเงียบกลายเป็นเพื่อนของเขาทั้งคู่...

****************************************

สวัสดีค่ะ เสาร์หรรษา
มาพร้อมตอบเม้นเก่าใหม่
Missing Love - ตอบในกระทู้นะคะ
ใครมีเฟสบุ๊คเชิญมาทักทายแอดเพื่อนได้ที่นี่นะคะ
http://www.facebook.com/plerngwaree
อาจจะได้อ่านเวลาบีเกิดอาการอยากจะบ่น 555+
แต่เป็นคนไม่ค่อยเครียดนานค่ะ ได้ระบายก็หายแล้ว งิงิงิ
ขอบคุณที่ติดตตามนิยายนะคะ

sirinda
คุณ ใบบัวน่ารัก --- >,< มาวันจันทร์กับ พฤ เหมือนเดิม งิงิ ยกเว้นวันพิเศษๆ เช่นวันสงกรานต์ 555+ค่า
คุณ ร้อยวจี --- ลองเขียนแล้วคิดๆ ว่าคนแบบนี้จะเป็นยังไงน่ะค่ะ อิอิ
คุณ ตุ๊งแช่ --- นางเอกชิลแค่ตอนเที่ยวค่ะ ต้องเป็นหลังการท่องเที่ยวค่ะ ที่นางเอกจะปรับตัวได้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะนางเอกมีปมชีวิตอยู่ค่ะ ชื่อนางเอกแปลว่ากุหลาบค่ะ คนอ่านอาจสังเกตว่าทำไมมีแต่นางเอกชื่กขึ้นตนด้วย น. 555+เรื่องนี้ไม่ได้ตั้งใจนะคะ จริงๆ ตั้งใจให้เป็นกุหลาบค่ะ คือโรส แล้วบังเอิญชื่อจริงก็ต้องหาว่ากุหลาบในคำไทยมีอะไรอีกบ้าง ก็มาได้ชื่อนี้ค่ะ ส่วน น. เยอะ เพราะบีเองชื่อจริงก็ขึ้นต้นด้วย น. งิงิ
คุณ หนอนฮับ --- เสี่ยงทายตามโชคชะตาค่ะ แต่สายตาชาววิทย์เรียกว่าหลักความเป็นไปได้ โฮะๆๆๆ

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- เปลี่ยนชีวิตซีเซียไปเลยค่ะ 555+
คุณพี่ chakansi --- ชอบของนอกเหรอ พี่ จัดไปแต่เอาใจของไทย (พี่ชาย) ดีกว่านะคะ ไทยชนะเลิศ โฮะๆๆๆ

bloggang
คุณ mimny --- แปลกเล็กน้อยค่ะ (มั้ง) ^^
คุณ mooda --- ดีใจจังเลยค่ะที่ได้อ่านเม้นของคุณอีก อิอิ แล้วก็มานั่งคิดทบทวนว่ากี่ปีแล้วที่ได้เป็นคนอยากเขียน โย่ คิดถึงนะคะ




เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.พ. 2555, 21:15:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.พ. 2555, 21:15:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 2083





<< Rose01   Rose03 >>
ร้อยวจี 25 ก.พ. 2555, 21:43:47 น.
สุดท้ายจะคิดถึงกันหรือเปล่าเอ่ย แปลกดีค่ะ


pattisa 26 ก.พ. 2555, 00:40:02 น.
เรื่องนี้น่าสนใจค่ะ แหวกเเนวดี :D


ใบบัวน่ารัก 26 ก.พ. 2555, 08:11:00 น.
หนาวมาก เดินเท้าด้วย
ทำมาย ไม่อยู่ประเทศละเดือน
จะได้เที่ยวเยอะๆ หรือว่ากลัวม่ายเจอซีเซีย
เป็นกำลังใจให้นะ ...หนาวแทน


Auuuu 26 ก.พ. 2555, 14:03:59 น.
อ่านแล้วรู้สึกหนาวตาม :"D


anOO 26 ก.พ. 2555, 19:19:46 น.
อีกเดือนหนึ่งก็ต้องจากกันแล้วสิ...นางเอกเราเจ๋งจริงๆ
จะมีใครกล้าบ้าบิ่นทำแบบนี้ไหมเนี้ย


ตุ๊งแช่ 27 ก.พ. 2555, 09:56:05 น.
จะมีสานสัมพันธ์หลังครบกำหนดไหมนี่


sai 27 ก.พ. 2555, 10:34:08 น.
หนาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account