เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร
พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…
แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า
ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++
พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…
แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า
ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 11
สวัสดีคะ แอบมาลงตอนดึกๆอีกแล้ว ต้องขอบคุณน้องนักอ่านที่แอบไปกระซิบหลังไมค์ด้วยค่ะว่าพี่ลงชื่อเพื่อน
พระเอกผิดตอนแรกๆชื่ออัคนี หลังๆเปลี่ยนชื่อเขาเป็นอัคคีเฉยเลย (แบบว่ามึนเป็นประจำเลยยิ่งช่วงนี้งานยุ่งเวลาน้อยด้วย เนื่องจากทั้งงานประจำกับธุรกิจเล็กๆส่วนตัวของตัวเองก็ยุ่งมากเลยค่ะ ลูกน้อยก็กำลังหัดคว่ำๆหงายๆ ไม่ค่อยมีเวลาเลยจริงๆ แต่ก็แอบเจียดเวลามาเขียนนิยายด้วยใจรัก
ได้วันละนิด
ตอนที่ 11
“ไม่มีทางพับความคิดของนายเก็บเข้าลิ้นชักไปได้เลย” พีระดาไม่พูดเปล่าแต่แจกันใบโตในมือของเธอถูกเหวี่ยงเข้าใส่ศีรษะของภาคินัยด้วยความโมโห
ภาคินัยตาไวเขาย่อตัวหลบแจกันดอกไม้ที่ถูกเหวี่ยงมาด้วยความเร็วสูงแต่ว่า
เพล้ง!
“ไม่นะ.... ไม่จริง....ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะ” พีระดาทรุดลงกับพื้นมองเศษแจกันที่แตกกระจายเต็มพื้น
“อัคนีเป็นยังไงบ้างวะ อัคนี อย่าเป็นอะไรไปนะเพื่อน” ภาคินัยก้มลงไปเขย่าร่างอัคนีที่นอนแน่นิ่งตาค้าง
ภาคินัยตั้งสติเขารีบวิ่งไปที่โต๊ะทำงานของบก.สาวและโทรศัพท์ไปเรียกรถพยาบาล
“โอ้....นายอัคนีทำไมถึงได้ซวยขนาดนี้ ทำไมต้องมารับเคราะห์แทนคนอื่นเขา เข้ามาผิดเวลาจริงๆ”
อินทิราปิดปากตาค้างมองภาพอัคนีลงไปนอนดูดาวอยูที่พื้น ศีรษะของเขาแตกเลือดไหลอาบศีรษะและมันเริ่มไหลนองพื้น เลือดสีแดงเข้มจัดบางส่วนกระเซ็น ไปถูกประตูรวมถึงโต๊ะ บก.สาวมีคราบเลือดเป็นจุดๆกระจายเต็มไปหมด
“คุณอัคนีอย่าเป็นอะไรนะฉันขอโทษ” พีระดาจับศีรษะอัคนีเอาไว้พยายามเรียกเขาให้มองหน้าเธออยู่ตลอดเวลา พีระดาไม่คิดเลยว่าเขาจะเปิดประตูเข้ามาพอดีและเป็นจังหวะที่ภาคินัยก้มตัวลงไปแจกันใบโตก็เลยกระแทกศีรษะของอัคนีอย่างเต็มแรงหญิงสาวรู้สึกผิดจนร้องไห้โห +++++++++++++++++++++++++++++++++
เสียงหวอจากรถพยาบาลดังอยู่หน้าสำนักพิมพ์ ในเวลาไม่นานบุรุษพยาบาลสองคนก็พาคนเจ็บขึ้นรถพยาบาลและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
พีระดาและภาคินัยคู่กรณีเดินสลับสวนกันไปมาหน้าห้องไอซียู ความคิดของทั้งคู่ตอนนี้คือห่วงคนข้างในและภาวนาไม่ให้อัคนีเป็นอะไรไป
ทั้งสองเดินสวนกันอีกคนกุมขมับ อีกคนกอดอกเมื่อสบสายตากัน
“เพราะคุณคนเดียว!”
“นายภาคินัยนายนั่นแหละ ถ้านายไม่หลบคุณอัคนีเขาคงไม่ต้องมาเจ็บแทนนาย นายมันตัวซวย”
“นี่คุณ คุณบ้าหรือเปล่าคนดีๆที่ไหนเขายืนรอรับให้แจกันมันมาฟาดหัวเอา ถ้าเพื่อนผมเป็นอะไรไปนะผมเอาเรื่องคุณแน่”
อินทิราที่ตามมาด้วยเพราะรู้ดีว่าอัคนีไม่มีญาติที่ไหนกุมขมับพร้อมสั่นศีรษะแรงๆ
“หยุดกันสักทีทั้งสองคนนั่นแหละ พอกันทั้งคู่เลยเลิกเดินสวนกันไปมา และก็ทะเลาะกันสักที ไม่อย่างนั้นพี่คงเป็นรายต่อไปที่ต้องนอนโรงพยาบาลเพราะเส้นโลหิตในสมองอาจจะแตกได้ ปวดหัวๆๆ”
“โธ่! แต่พี่คะก็นายภาคินัยหาเรื่อง..........”
“หยุด พี่ไม่อยากฟัง”อินทิราส่งสายตาดุน้องสาว
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของผมเองครับพี่อินทิราอย่าไปดุเธอเลย” ภาคินัยสงสารเมื่อเห็นพีระดาหน้าเสีย สีหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ +++++++++++++++++
โทรศัพท์ของพีระดาดังขึ้นมันเป็นเบอร์แปลกที่เธอไม่ได้เม็มเอาไว้ในเครื่องแปลว่าไม่ใช่คนสำคัญ พีระดาคิดว่าคงเป็นนักข่าวเธอเคลียร์สายทิ้ง แต่เบอร์นั้นก็ยังกระหน่ำเธอมาอีกหลายครั้งจนพีระดารำคาญและเห็นว่าภาคินัยกับพี่สาวมองมาที่เธอ
“ฮัลโหล” พีระดารับสาย ตั้งใจว่าถ้าเป็นนักข่าวถามเรื่องการท้องของเธอ เธอจะบอกว่าเธอไม่ได้ท้องให้นักข่าวตั้งตารอดูได้เลยว่าท้องเธอจะใหญ่ขึ้นมาไหม
“นังพรีม อีหน้าด้าน แกรู้ไหมว่าภาคินัยเขาเป็นของฉัน แกคิดจะมาเทียบรัศมีฉันยังไม่พอ ยังเอาผู้ชายของฉันไปกกอีกเหรอนี่”ปลายสายแหวมาจนพีระดาอึ้งเพราะไม่คาดคิด
เขมมิกาโกรธจัดเมื่อเธอรู้ข่าว อันที่จริงเธอกับภาคินัยเคยตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการผูกมัด แต่พอได้ข่าวว่าภาคินัยชายหนุ่มที่เพียบพร้อมและถูกอกถูกใจเธอกำลังจะมีเจ้าของที่แท้จริง เขมมิกาก็เกิดอาการหวงแหน และทนไม่ได้ขึ้นมาทันที
“ใครเนี่ย บ้าหรือเปล่า” พีระดารู้สึกคุ้นหูกับน้ำเสียงแต่ไม่อยากคุยต่อ “
ห้ามวางนะ ฉันขอสั่ง”
“ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วยฉันจะวาง” พีระดากำลังจะเคลียร์สายทิ้ง
“ฉันเขมมิกา ได้ยินไหมนังพรีม”
“ว่าแล้วเชียว เสียงคุ้นๆ” พีระดารู้ดี รุ่นพี่นางแบบคนดังแอบไม่พอใจเธอ ตามงานที่เธอบังเอิญไปเดินแบบงานเดียวกับเขมมิกา เธอมักเห็นเขมมิกาจิกตามาที่เธอบ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่ารายนั้นไม่พอใจเธอด้วยเรื่องอะไรแต่เธอก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพราะไม่อยากจะมีปัญหา
“อึ้งไปเลยซิ คราวนี้แกรู้ยังอีนังพรีมว่าแกกำลังยุ่งกับผู้ชายของใครอยู่”
“จะมากไปแล้วนะคุณเขมมิกา ของอย่างนั้นแถมเงินให้ด้วยยังไม่อยากจะเอามาใช้งานเลย ยิ่งรู้ว่าเป็นของมือสองต่อจากคุณก็ยิ่งไม่อยากใช้” พีระดามองไปที่ภาคินัย ซึ่งเขามองเธออยู่ก่อนแล้วเพราะสนใจตั้งแต่ที่ได้ยินว่าเธอคุยกับเขมมิกา
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ
เขมมิกา กรี๊ดผ่านสายมาจนพีระดาต้องยกโทรศัพท์ออกห่างหู
“เคลียร์กับคนของคุณเดี๋ยวนี้เลย อย่าให้มาราวีฉันอีก” พีระดาส่งโทรศัพท์ให้ภาคินัย
เขารับและพูดกับเขมมิกา พีระดายืนมองภาคินัยต่อว่าปลายสายและย้ำความสัมพันธ์อย่างชัดเจนว่าเธอกับเขาไม่ได้มีอะไรกันไปมากกว่าคนที่เคยเป็นคู่นอน พีระดารู้สึกว่ามันรุนแรงมากแต่เมื่อนึกถึงคำด่าเผ็ดร้อนที่นางแบบรุ่นพี่พ่นใส่เธอก็เห็นว่าเหมาะสมดี
“ผมขอโทษ ผมจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ผมขอพูดตามตรงผมกับเขมมิกาเคยมีอะไรลึกซึ้งต่อกันภายใต้ข้อตกลง แต่นับจากนี้ไปทุกอย่างจะเป็นเพียงอดีตเท่านั้น” เขาตอบชัดเจน สายตามั่นคงและส่งโทรศัพท์คืนให้เธอ
“แล้วมาบอกฉันทำไม ฉันเกี่ยวอะไรด้วยในเมื่อฉันไม่เคยที่จะสนใจว่าคุณกับยัยเขมมิกานั่นจะเคยนอนด้วยกันจริงหรือเปล่า”
“แรง!”
อินทิราส่ายหน้าเมื่อห้ามทัพไม่ไหวเลยเลือกตัดสินใจลุกขึ้นไปหากาแฟสดดื่มแก้เครียด ปล่อยให้คนแรงๆสองคนทะเลาะกันให้ตายไปข้าง
“เรื่องมันบานปลายมาขนาดนี้ คุณยังคิดจะปฏิเสธผมอีกเหรอ”
“ไม่ได้คิด แต่ปฏิเสธไปแล้ว” เธอเชิดหน้าตอบ
“พีระดา!” ถ้าไมติดว่าที่นี่คือโรงพยาบาล เขาจะต้องสอนคนอวดดีให้หลาบจำ
“ถ้าผมเล่นตัวไม่ยอมรับผิดชอบคุณขึ้นมาก็อย่ามาง้อละกัน” ภาคินัยพูดจบก็เดินเลี่ยงไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
พีระดาย่นจมูกใส่ ยืนอยู่อย่างใจเย็น เสียงข้อความดังขึ้นหญิงสาวจึงกดดู
นังพรีมฉันแค่ให้ยืมใช้ แต่แกไม่มีวันแย่งเขาไปจากฉันได้
เมื่อเห็นข้องความพีระดาถอนใจ เมื่อนึกถึงตอนงานเดินแบบงานหนึ่งที่เขมมิกาแกล้งขัดขาเธอเกือบจะทำให้เธอเดินตกเวทีพีระดาเลยเกิดอาการอยากยั่วอารมณ์รุ่นพี่นางแบบด้วยการส่งข้อความกลับไปบ้าง
คงไมใช่เรื่องยากถ้าฉันจะเอาเพราะตอนนี้เขากำลังคุกเข่าขอฉันแต่งงาน
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ นางแบบสาวเขมมิกาโกรธจัดเมื่อได้รับข้อความ เธอปาโทรศัพท์เครื่องแพงใส่กระจกบานใหญ่ ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองหวีดร้องเสียงดัง แปรงแต่งหน้ายี่ห้อดังในมือพร้อมพาเลทอายแชโดว์ล่วงแตกกระจายที่พื้น
“คุณน้องเขมมิกาเป็นอะไรคะ คุณพี่แต่งหน้าให้ไม่ถูกใจเหรอคะ”
“นังพรีม แกจะต้องได้เจอดี มีฉันต้องไม่มีแก”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แพทย์หนุ่มเจ้าของไข้เดินออกมาจากห้องไอซียู ด้วยสีหน้าอิดโรย สีหน้าดูเครียดจัด
“คุณหมอคะ คนไข้เป็นยังไงบ้างคะ อาการเขาหนักมากใช่ไหม เขาจะตายไหมคะ” พีระดาร้อนใจมากเธอเป็นห่วงอัคนีร่างระหงเผลอตัวเขย่าแขนคุณหมอแรงๆ จนหมอหนุ่มเจ้าของไข้ตกใจ
“ใจเย็นๆ ครับคุณ”
“คุณพีระดา หยุดก่อนเถอะครับ” เขาดึงเธอออกห่างจากคุณหมอ พร้อมเตือนให้ตั้งสติ
“คุณหมอกุมศีรษะ สีหน้าเครียดจัด” พีระดายิ่งมั่นใจว่าคนข้างในอาการไม่ดี
“ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย คุณอัคนีฉันขอโทษ” พีระดาปล่อยโห “คุณจะรอดไหมเนี่ย นี่ฉันกำลังจะเป็นฆ่าตกรฆ่าคนตายเหรอนี่”
“ ทำใจดีๆครับ เราทุกคนรู้ว่าคุณไม่ตั้งใจจะทำร้ายนายอัคนี” ภาคินัยดึงร่างบางไปปลอบ
หมอหนุ่มส่ายหน้า
“หือ.....ไม่น่าเลยอัคนี เขาจะตายไหมเนี่ย” พีระดาเผลอกอดคอภาคินัยแน่นและซบไหล่เขาร้องไห้ ยังกับเด็กน้อย ภาคินัยก็เลยปลอบใจเธอด้วยการลูบปลอยผมเบาๆเป็นการให้กำลังใจ
คุณหมอยิ้มแห้งๆ ออกมาสีหน้ามึนงง เมื่อเห็นว่าคนไข้ตีโพย ตีพาย คิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว
“ใจเย็นๆก่อนนะครับ คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าหัวแตก และเย็บไปยี่สิบกว่าเข็ม อาการอื่นๆก็ปกติไม่มีอะรน่าวิตกครับ และก็ไม่มีอาการใดๆส่อให้เห็นเลยว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือน ทำไมจะต้องร้องไห้มากมายขนาดนี้ด้วยครับ” คุณหมอหนุ่มร่ายยาว”
หญิงสาวหยุดร้องไห้ทันทีเมื่อคุณหมอพูดจบ
“อ้าว! แล้วทำไมคุณหมอถึงต้องทำหน้าเครียดด้วยล่ะคะ ดิฉันก็คิดว่าอาการของคุณอัคนีคงจะหนักถึงขั้นโคม่า”
“ถ้าอย่างนั้นหมอต้องขอโทษด้วยนะครับ หากหน้าของหมอมันแสดงอาการให้คุณเข้าใจผิดไป พอดีเมื่อคืนหมอมีผ่าตัดคนไข้หลายรายตลอดทั้งคืน หมอคงเหนื่อยมากและก็กำลังปวดศีรษะอยู่ด้วย”
“อ้าว! แล้วกัน” หญิงสาวตาโตและเมื่อรู้ตัวว่าเธอกับนายภาคินัยยืนชิดแนบสนิทกันขนาดไหน แถมเมื่อตะกี้เธอยังเผลอร้องไห้ซบไหล่เขาอีก พีระดาก็ผลักเขาออกทันทีชนิดไม่ให้ตั้งตัว
“นี่นายอย่ามาฉวยโอกาสนะ นิดๆหน่อยๆก็เอาไม่มีเว้นเลยนะ”
“อะไรกันคุณ ผมไปฉวยโอกาสกับคุณตรงไหน มีแต่คุณนั่นแหละทีมาขอยืมไหล่ไปซบ ยืมอกผมไปเช็ดน้ำตา”
คุณหมอที่ปวดศีรษะอยู่เป็นทุนแล้ว เห็นญาติผู้ป่วยเถียงกันอาการปวดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกดังนั้นจึงรีบขอตัวแยกออกไป
“พยาบาลขอยาแก้ปวดให้หมอสองเม็ดนะครับ” คุณหมอหันไปสั่งพยาบาล
“คุณเนี่ยต่อหน้าต่อตาคุณหมอยังจะมาเถียงฉันอีก”
“ก็คุณนั่นแหละที่เป็นฝ่ายหาเรื่องผมก่อนพีระดา”
ไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงผู้ป่วยออกมาจากห้องไอซียูและย้ายไปที่ห้องพักฟื้นเขายังไม่ได้สติ พีระดาและภาคินัยกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไปด้วยความเป็นห่วง รอจนคนไข้เข้าห้องเรียบร้อยดีแล้วพยาบาลจึงอนุญาตให้คนทั้งคู่เข้าไปเยี่ยมคนไข้ได้เพราะคนไข้รู้สึกตัวแล้ว
“คุณอัคนี! เจ็บมากไหมฉันเสียใจจริงๆค่ะ”
พีระดาเดินไปหาอัคนีร่างบางโผซบลงที่อกเขาและร่ำไห้ เธอค่อยๆหย่อนกายนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณจริงๆ”ดวงตาที่มีรอยช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มา บัดนี้น้ำตาไหลเอ่ออาบแก้มอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดเพราะแผลของเขาหนักเอาการ อย่างน้อยชีวิตนี้เขาก็คงได้ที่ระลึกแผลเป็นจากน้ำมือเธอ
ภาคินัยที่ห่วงเพื่อนเช่นกันและเดินตามหญิงสาวเข้ามาต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจ แม้นจะพยายามเข้าใจว่าเธอกำลังเสียใจแต่ไอ้อาการกอดผู้ชายอื่นต่อหน้าเขาแบบนี้ภาคินัยก็หนีไม่พ้นอาการเจ็บจึ๊ด
“ไม่เป็นไรครับคุณดา อย่าร้องไห้เลยผมรู้ว่าคุณไม่ได้เจตนา” อัคนีลูบไหล่หญิงสาวเบาๆเป็นการปลอบโยน เขาไม่เสียใจเลยที่ต้องมานอนเจ็บแบบนี้อย่างน้อยก็ทำให้เขาได้ใกล้ชิดเธอ กลิ่นน้ำหอมชั้นดีจากกายหญิงสาวลอยเข้าจมูกเขา อัคนีสูดกลิ่นหอมละมุนของมันเอาไว้ลึกๆเงียบๆ ถ้าเขาเจ็บและเธออยู่ใกล้เขา เขายอมเจ็บทุกวันแต่เมื่อมองเห็นภาคินัยท่าทีของอัคนีก็เปลี่ยนไปทัน
“รู้สึกยังไงบ้างอัคนี นายยังเจ็บแผลมากไหม” ภาคินัยเดินเข้าไปดูเพื่อนใกล้ เขามองแผลที่ศีรษะเพื่อน
“ออกไป! ไอ้คนเลวฉันไม่เคยมีเพื่อนแบบแก แกทำกับคุณพีระดาเธอแบบนั้นได้อย่างไร”
“เรื่องอื่นเราค่อยว่ากันที่หลัง ตอนนี้นายรักษาตัวให้หายก่อนเถอะ”
“ฉันคงจะอาการดีขึ้นมาก ถ้าไม่เห็นหน้าของนายวนเวียนอยู่ในห้องนี้”อัคนีไล่อดีตเพื่อนรักอย่างไม่เหลือเยื่อไย
“โอเค..ได้เลยอัคนี ถ้านายต้องการแบบนั้น” ภาคินัยหันหลังกลับออกไปทันที อดน้อยใจอยู่ลึกๆไม่ได้
“อยากทานอะไรคะเดี๋ยวฉันจะป้อนคุณเอง หากใช้ช้อนทานไม่ได้ ฉันใช้อย่างอื่นป้อนให้เอาไหมคะ” พีระดาอาสา และแกล้งยั่วคนที่กำลังจะเดินออกจาห้องไปด้วย เขาหันกลับมามองหน้าเธอด้วยแววตาไม่พอใจแต่พีระดากับเชิดใส่
ขณะที่ภาคินัยกำลังเดินออกไปก็สวนกลับอินทิราที่เดินเข้ามา
“จะไปไหนล่ะภาคินัย อัคนีฟื้นแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ครับ แต่ผมออกไปข้างนอกดีกว่าอยู่ในนี้เดี๋ยวจะขวางคอใคร” ใบหน้าเรียบเฉยพูดจบก็เปิดประตูออกไป
อินทิรามองภาพพีระดาที่กำลังป้อนน้ำให้อัคนี
“ที่แท้ก็พิษรักแรงหึงนี่เอง”อินทิราส่ายหน้า +++++++++++++++
ภาคินัยเดินออกมานอกห้องและต้องแปลกใจเมื่อหญิงสาวสวยที่ดูโดดเด่นจนใครต่อใครต้องเหลียวหลังกับชุดแซกสีเหลืองสดแบบทันสมัย รองเท้าส้นเข็มสีน้ำเงินสูงเกือบสี่นิ้ว แต่งหน้าสวยดูเหมือนดวงตาคู่งามจะตกแต่งมาด้วยเทรนสโมกกี้อาย เกล้าผมทรงสูงกำลังเดินตรงมาหาเขา
“เขมมิกา คุณมาที่นี่ทำไม? ”
ยังไม่ทันจะถามจบฝ่ามือนางแบบก็ฟาดมาที่โหนแก้มของภาคินัย เขาลูบโหนกแก้มแต่ไม่ได้โต้ตอบสายตาแสดงความไม่พอใจ
“คุณเป็นอะไรของคุณเขมมิกา”
“เป็นคนที่กำลังจะถูกทิ้งยังไงล่ะ”
“ทำไมคุณพูดแบบนี้ในเมื่อคุณก็เข้าใจดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าระหว่างเราแม่แค่ความสนุก ไม่ใช่ความรัก”ภาคินัยพูดแรงๆกับหญิงสาวเพราะเคยทำความเข้าใจกันเอาไว้แล้ว เขาไม่เข้าใจว่าตอนนี้เธอจะมาเรียกร้องงี่เง่าอะไรกับเขาอีก
“ไอ้คนบ้า ไอ้คนไม่มีหัวใจ ไอ้เลือดเย็น” หญิงสาวปล่อยโห.......ทรุดลงไปนั่งร้องให้กับพื้นโรงพยาบาลโดยไม่แคร์ใคร
“เขมมิกา คุณเป็นอะไรลุกขึ้นมาก่อนเถอะ”
“ไม่ คุณมันเป็นผู้ชายโง่และห่วยแตกที่สุดในโลกถึงได้ไม่รู้ว่าฉันรักคุณ ฉันบอกว่าฉันจะไม่ผูกมัดคุณแต่จริงๆแล้วมีผู้หญิงคนไหนจะทนได้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะฉันไม่อยากให้คุณทิ้งฉันไปต่างหาก หือ....หือ” เขมมิกาตีโพยตีพายร้องไห้จนลืมสวยไม่เหลือภาพนางแบบดัง
ภาคินัยถอนหายใจแรงๆ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ” หญิงสาวไม่เคยตามราวีเขาสักครั้งเมื่อเขามีข่าวกับผู้หญิงคนไหน แม้บางครี้งเธอจะเจอเขากับผู้หญิงคนอื่นเธอก็ไม่เคยโวยวายหรือตีโพยตีพายด้วยซ้ำไป
“ฉันยอมให้คุณมีผู้หญิงคนอื่นได้ แตฉันยอมที่จะให้คุณเป็นของผู้หญิงคนไหนไปตลอดไม่ได้ ถ้าเขมมิกาไม่ได้อีผู้หญิงหน้าไหนก็ไม่มีทาง” +++++++++++++++++++++++++++++++
อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.พ. 2555, 23:20:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2555, 23:21:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 3938
<< ตอนที่ 10 | ตอนที่ 12 >> |
konhin 27 ก.พ. 2555, 23:36:58 น.
วุ่นวายจริงๆ
วุ่นวายจริงๆ
violette 27 ก.พ. 2555, 23:58:38 น.
เรื่องผู้หญิงนี่อัคนีทำตัวเองนะ ช่วยไม่ได้จริงๆ พระเอกแย่เองนินา
เรื่องผู้หญิงนี่อัคนีทำตัวเองนะ ช่วยไม่ได้จริงๆ พระเอกแย่เองนินา
lovemuay 28 ก.พ. 2555, 06:13:23 น.
คนเจ้าชู้ก็มักจะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงแบบนี้แหละ ถ้าเคลียร์ไม่ได้นางเอกของเราไม่ยอมรับรักง่ายๆหรอกนะจ๊ะ อิอิ
คนเจ้าชู้ก็มักจะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงแบบนี้แหละ ถ้าเคลียร์ไม่ได้นางเอกของเราไม่ยอมรับรักง่ายๆหรอกนะจ๊ะ อิอิ
Pampam 28 ก.พ. 2555, 11:39:55 น.
นายภาคินัยเจอศึกหลายด้านแล้วจะลื่นยังงัยล่ะเนี่ย
นายภาคินัยเจอศึกหลายด้านแล้วจะลื่นยังงัยล่ะเนี่ย
อัปสรา 28 ก.พ. 2555, 11:52:09 น.
ลื่นยังไงต้องรออ่านคราวหน้า
ลื่นยังไงต้องรออ่านคราวหน้า
anOO 28 ก.พ. 2555, 13:11:28 น.
ยัยเขมมิกาต้องเอาคืนหนักแน่ๆ
ยัยเขมมิกาต้องเอาคืนหนักแน่ๆ
wane 29 ก.พ. 2555, 01:45:40 น.
พรีมจะแก้ปัญหายังงัยหล่ะเนี่ย ...โดนศึกรุมหลายด้านแบบนี้
พรีมจะแก้ปัญหายังงัยหล่ะเนี่ย ...โดนศึกรุมหลายด้านแบบนี้
อัปสรา 29 ก.พ. 2555, 08:24:30 น.
ต้องมาลุ้นตอนหน้าค่ะ
ต้องมาลุ้นตอนหน้าค่ะ