ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต
เมื่อเธอเดินทางตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ โดยปล่อยให้ชะตาลิขิตเส้นทาง จนได้มาเจอเขา ชีวิตเธอกับเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
Tags: ชะตา

ตอน: Rose04

ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต ตอนที่ 4

นวาระพาเขาเดินผ่านห้องแสดงผ้าที่สวยงามเต็มไปหมด จนเขาอดถามไม่ได้ “นี่ฝีมือคุณเหรอ”

“เปล่า ไม่ทั้งหมดหรอก ของแม่บ้าง ของฉันบ้างน่ะ แต่ส่วนมากของฉัน แม่ชอบกล้วยไม้มากกว่า ฉันทำได้ทั้งสองอย่างแหละ ไว้จะพาดูเรื่อยๆ นะ ส่วนมากฉันจะทอผ้าที่ห้องด้านโน้นน่ะ เดิมทีบ้านหลังนี้มีหกห้องนอน แต่เพราะตอนนั้นเหลือฉันกับแม่ ก็เลยเหลือห้องพักแขกไว้ห้องหนึ่ง แล้วที่เหลือก็เป็นห้องทอผ้า สมัยก่อนชาวบ้านธรรมดาจะทอผ้าที่ใต้ถุนบ้าน แต่เพราะเดี๋ยวนี้ฝุ่นเยอะ ก็เลยย้ายมาข้างบนน่ะ” เธอชี้ไปที่ห้องด้านข้าง ก่อนจะพาเขาเดินไปที่ห้องอาหาร

“บ้านคุณไม่มีห้องรับแขกเหรอ” เขาถามขึ้น

“ก็ห้องแสดงผ้านั่นแหละ นี่มันบ้านคนนะ จะมีทำไมหลายห้องล่ะ” นวาระพูดขณะนั่งที่เก้าอี้ แล้วเริ่มทานอาหารพื้นเมืองของโปรด ส่วนเขาก็มีอาหารง่ายๆ อย่างพวกไก่ทอด ไข่เจียวกับขนมปัง

“พี่โรส น้องซื้อขนมปังมาแล้วเน้อค่า เปิ้นกินข้าวบ่เป็นแม่นก่อ” บัวเข้ามาถาม

“แม่นแล้ว กินด้วยกันบ่” นวาระถามลูกของน้าผล

“บ่เจ้า น้องกินแล้ว เดี๋ยวน้องจะลงไปดูโรงปั่นด้ายเน้อเจ้า วันนี้บ่มีเฮียน ก็เลยว่าจะลงไปช่วยงานหน่อย” บัวบอก เพราะตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง

“อ๋อ อืม พี่ซื้อของมาฝากด้วยนะ เดี๋ยวไว้เมื่อแลงค่อยว่ากันเนาะ” นวาระบอกน้องสาว หลังจากอีกฝ่ายแยกย้ายไป ก่อนจะชวนเขาทานอาหาร “ทานได้ไหมคะ ที่นี่ทำอาหารอย่างคุณไม่ค่อยถนัด มีแต่ของทานง่ายๆ ก็ทานไปก่อนแล้วกันนะคะ มีนมกับกาแฟด้วย แต่ถ้าคุณจะนอนพัก ฉันก็คิดว่าไม่ต้องดื่มกาแฟดีกว่า”

ซีเซียพยักหน้าตาม ก่อนถามขึ้น “เมื่อกี้คุยอะไรกันเหรอ”

“ฉันบอกบัวว่าตอนเย็นฉันจะเอาของฝากให้ค่ะ ฉันคิดว่าจะนอนพักสักหน่อย อ่า นึกขึ้นได้ ก่อนจะเข้านอน เดี๋ยวคุณกับฉันไปด้วยกันหน่อยแล้วกัน ทำไว้ก่อนแก้ดีกว่า ความเชื่อนี่ยังไงก็ทำไว้ก่อนดีกว่านะคะ” นวาระพูดกับเขา แต่เหมือนพูดคนเดียว

“ทำอะไรเหรอ” ซีเซียถามเธออย่างไม่เข้าใจนัก

“อธิบายง่ายๆ ตามวัฒนธรรมของคนไทยภาคเหนือ ถ้าผู้ชายแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง ถือว่ามีความผิด จะต้องทำพิธีขอโทษผีปู่ย่า คือวิญญาณที่ปกป้องครอบครัวน่ะค่ะ มันเป็นธรรมเนียม แล้วเราก็เคยใกล้ชิดกันมากนี่คะ ทำเอาไว้ก็ไม่เสียหลายนะ คุณพอจะทำให้หน่อยได้ไหม” นวาระขอร้องเขา

“อืม ก็คงไม่เสียหายอะไรหรอก ถ้าทำให้คุณสบายใจ” เขาพยักหน้าช้าๆ และทานอาหารเรียบง่ายที่มี

“ถ้าเย็นนี้คุณไม่ว่าอะไร เดี๋ยวฉันจะพาไปทานอาหารที่ในเมืองก็แล้วกันค่ะ” นวาระบอกเขา อยากให้เขาสบายใจขึ้น ดีกว่าทำให้เขารู้สึกเหมือนเธอทิ้งทุ่น

“ถ้าคุณไม่ลำบาก แต่จริงๆ แล้ว ถ้ามีวัตถุดิบ ผมก็พอทำอาหารเป็นนะ หรือจะให้ผมลองทานอาหารพื้นบ้านก็ได้นะครับ ผมปรับตัวง่าย เป็นทหารถ้าไม่รู้จักปรับตัวก็ทำหน้าที่ไม่ได้หรอกนะ” ซีเซียบอกอย่างสบายๆ ไม่มีท่าทีเคร่งเครียดหรือเป็นคนทานยาก

“งั้นไว้วันหลังก็แล้วกัน พอกลับมาอยู่ที่บ้าน ฉันก็อยากจะอยู่นานๆ ค่ะ อืม เดี๋ยวเราเดินดูสวนของฉันสักพัก ก็ค่อยพักผ่อนนะคะ ทางนี้จัดห้องไว้ให้คุณแล้ว คุณเปิดแอร์พักผ่อนได้ตามสบาย ดูสิ อย่างที่แม่จันทร์บอกไว้เลย ร้อนอะไรอย่างนั้น เดี๋ยวเปิดแอร์ให้นะคะ” นวาระหยิบกระดาษเช็ดหน้าให้เขาอย่างเป็นห่วง เพราะอากาศที่นี่ร้อนกว่าที่สตาสเซียมาก

ซีเซียมองเธอเช็ดเหงื่อให้ จึงจับมือเธอเอาไว้ แล้วกุมมือ “ไม่เป็นไร ขอบใจ”

นวาระได้สติ พยายามชักมือกลับ แต่เขากุมไว้เสียแน่น จึงขมวดคิ้วแล้วบอกเขา “ฉันจะไปเปิดแอร์ให้คุณนะคะ ขอมือฉันคืนได้ไหม”

“อ๋อครับ” ซีเซียยิ้มให้เธอ แล้วไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจที่เธอทำท่าทางฉุนใส่เขา

นวาระลุกขึ้นเดินไปหยิบรีโมทต์ ก่อนจะกดเปิดแล้วลดอุณหภูมิให้เขามากที่สุด ทั้งยังเปิดพัดลมให้ด้วย “เปิดให้สุดๆ แล้วนะคะ ฉันคงต้องรื้อเสื้อกันหนาวมาใส่แน่ๆ”

“งั้นก็ลดแค่พออยู่ได้ก็ได้ครับ ไม่ต้องถึงกับลดสุดๆ หรอก ผมพอไหวอยู่” ซีเซียบอกเธอ เพราะมีพัดลมช่วยด้วย ทำให้เย็นขึ้นอีกนิด

“ไม่เป็นไรค่ะ อยากให้สบายตัว ทานกันดีกว่า เดี๋ยวฉันอยากไปตรวจงานสักหน่อย ค่อยเข้านอน” นวาระพูดแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทาน ตอบความตามที่เขาถามแค่พอเข้าใจได้ แต่ละรายละเอียดอีกมาก

เมื่อทานเสร็จ เธอก็เก็บจานชามบนโต๊ะ แล้วยกลงไปข้างล่าง โดยมีเขาช่วย เธอลงไปล้างจาน เพราะคนงานไปทำงานในสวนหมด พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเขาเหงื่อไหลอีกแล้ว จึงหยิบกระดาษเช็ดหน้าให้เขาอีก

“อะไรจะร้อนอย่างนั้นนะ ดูสิ เหงื่อเต็มตัวเลย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำก่อนดีกว่าไหมคะ จริงสิ คุณคงไม่มีเสื้อผ้าใส่สบายๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันมีเสื้อผ้าหลายชุดที่ผู้ชายใส่ได้ จะได้ไม่ต้องร้อน” นวาระบอกแล้วเห็นเขาหน้าอึ้งๆ

เธอจึงหัวเราะอย่างผ่อนคลาย แล้วบอกให้เขาสบายใจ “ที่นี่เราทำเสื้อผ้าส่งออกนอกด้วยค่ะ เป็นเสื้อผ้าฝ้ายเนื้อดี ทอมือละเอียดไม่ระคายผิวหรอก เสื้อผ้าไซด์คนต่างชาติตัวโตมีอยู่ค่ะ ฉันมีโรงงานเล็กๆ อยู่ทางโน้น แต่เสื้อผ้าตัวอย่างบางตัว ฉันซักเก็บไว้ที่นี่ เพื่อดูว่าเหมาะไหม ยังเป็นขั้นทดลองนะคะ แต่ขนาดนี่ใส่ได้แน่ค่ะ”

ซีเซียค่อยสบายใจ แล้วพยักหน้ากับเธอ เมื่อเธอพาเขาไปในห้องลองเสื้อที่เธอจัดไว้ ก่อนถาม “นี่คุณมีห้องนอนเหลือแค่สองห้องแล้วห้องอื่นๆ กลายเป็นห้องทำงานหมดเลยเหรอ ชั้นล่างเอาทำอะไรน่ะ”

“ก็จอดรถ แล้วก็ไม่รู้สิ จะมีห้องนอนไว้เยอะทำไม ในเมื่อมีฉันอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวน่ะ” นวาระตอบอย่างไม่สนใจนัก

เมื่อเธอมองแล้วว่าเธอคงไม่มีครอบครัวแน่แล้ว ที่ทำไปทั้งหมด ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง คิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ ไม่คิดวางแผนไกล และเธอก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ถ้าสักวันในอนาคตจะได้พบใครสักคน เธอก็ค่อยคิดอีกที

“สักวันเมื่อคุณพร้อม อาจมีใครสักคนเข้ามาแล้วใช้ชีวิตร่วมกับคุณก็ได้นะ” ซีเซียพูดขณะหยิบสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังฉาก

“ก็รอไว้จนวันนั้นมาถึง ฉันค่อยคิดอีกที แต่ที่แน่ๆ จะมีผู้ชายสักกี่คนที่ทอดทิ้งทุกอย่างแล้วมาใช้ชีวิตร่วมกับฉันที่นี่ล่ะ เพราะยังไงฉันก็ไม่มีทางย้ายไปอยู่กับเขาแน่ๆ ฉันมีคนในชีวิตอีกหลายชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ คนที่ฝ่าฟันทุกอย่างมาด้วยกันทั้งยามสุขยามทุกข์ เพราะงั้นผู้ชายคนเดียวคงไม่สามารถเอาชนะคนเหล่านี้ไปได้หรอก” นวาระให้เหตุผลเขา

“จริงของคุณนะ แต่เชื่อเถอะ เมื่อผู้ชายคนนั้นมาถึง เขาคงไม่คิดมากหรอกนะ เขาจะต้องเข้าถึงความคิดของคุณได้อย่างแน่นอน ผมเชื่อแบบนั้นเพราะคุณเป็นคนดี” ซีเซียนึกชื่นชมเธออย่างไม่เคยมาก่อน ไม่ใช่เพราะยศถาบรรดาศักดิ์ แต่เพราะนิสัยดีๆ ของเธอมากกว่า

นวาระหัวเราะก่อนจะส่ายหน้า “เอาล่ะ เราลงไปข้างล่างกันเถอะ”

“เมื่อกี้คุณบอกว่าจะให้ผมช่วยทำอะไรบางอย่างไม่ใช่เหรอ” ซีเซียเตือนความจำเธอ

นวาระครุ่นคิด ก่อนส่ายหน้า “พรุ่งนี้ก็คงได้นะ หวังว่าคืนนี้คุณคงนอนหลับสบายไร้กังวลค่ะ”

เขาฟังเธอพูดแปลกๆ แต่เพราะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจะไม่หลับสบาย จึงปล่อยวางไป แล้วออกทัวร์ที่สวนของเธอ เธอชี้ให้เขาดูสวนของเธอ ดูส่วนที่เป็นฝ้ายกับโรงเรียนกล้วยไม้

“ฝ้ายต้องดูแลมาก ตอนฉันยังเด็ก น้ำมาก ทำให้สวนฝ้ายพัง แทบล้มละลาย หันไปพึ่งพาใครก็ไม่ได้ แม่จึงต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงชีพ รับจ้างบ้าง เก็บเงินซื้อเมล็ดพันธุ์บ้าง แล้วเจ้าสิงห์คำก็ให้เงินทุน แต่แม่ปลูกฝ้ายแค่ครึ่ง อีกครึ่งแม่ปลูกกล้วยไม้ แล้วทำให้สวนแห่งนี้อยู่ได้”

“แม่คุณต้องเป็นผู้หญิงเก่งมากนะ ถึงมองเหตุการณ์ต่างๆ ได้แบบนี้” ซีเซียมองสวนที่มีหลังคาเป็นไฟเบอร์ใส เอาไว้กันฝนสำหรับทั้งฝ้ายและกล้วยไม้

“ใช่ค่ะ ท่านมองว่าพืชเพียงอย่างเดียว ไม่อาจเติมเต็มชีวิตให้เดินทางต่อไปได้ ท่านจึงแบ่งความหวังออกเป็นสองส่วนแล้วทำสิ่งที่บรรพบุรุษทำมาเดิม กับสิ่งที่ท่านรักเข้าด้วยกัน” นวาระมองสวนอย่างภูมิใจ

“คุณก็เลยต้องรับผิดชอบทุกอย่างสินะ” ซีเซียคาดเดา

“ฉันช่วยแม่ขุดดินในสวน หว่านเมล็ดฝ้ายด้วยตัวเอง ช่วยแม่ทำกระเช้าใส่กล้วยไม้ ช่วยแม่ทำทุกอย่างในเวลาที่เราไม่มีคนช่วย ชีวิตและการทำงานทำให้ชีวิตฉันแข็งแกร่งขึ้น แล้วฉันก็ภูมิใจ” เธอพูดแล้วยิ้มให้เขา มองทุกอย่างที่มีอย่างภูมิใจ

เขาคาดเดาได้ว่าเธอรู้สึกยังไง เหมือนที่เขาเคยรู้สึกเมื่อได้ทำหน้าที่ราชองครักษ์ สิ่งที่เขาเสียใจคือ เขาผลักไสคนที่เขารักที่สุด เพื่อหน้าที่ความรับผิดชอบ

นวาระมองเขาเคร่งเครียดก็ตบไหล่เขา “อย่าคิดมากสิ เรื่องอดีตคุณแก้ไขไม่ได้แล้วนะ แต่คุณทำวันต่อไปให้ดีขึ้นได้”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมคิดเรื่องอะไร” ซีเซียมองเธอด้วยความประหลาดใจ

“คุณก็คงเหมือนฉัน เราต่างก็หมกหมุ่นอยู่กับงานของเรา และงานของคุณก็เกี่ยวข้องกับปัญหาหัวใจของคุณด้วย คิดว่าคงโยงเรื่องได้ไม่ยาก แดดแรงแล้ว เดี๋ยวคุณจะร้อนมากไปกว่านี้ ยังไม่ต้องไปดูละเอียดหรอก ถ้าคุณไม่หนีเที่ยวก็คงมีอะไรให้ดูอีกเยอะ แต่คุณควรปรับตัวให้เข้ากับอากาศร้อนให้ได้ก่อนนะ” นวาระเห็นแดดแรงแล้ว จึงเปลี่ยนใจไม่ลงไปตรวจสวนอีก ก่อนจะชวนเขาขึ้นบ้าน

เธอกับเขาแยกกันที่หน้าห้อง ห้องเขาอยู่ติดกับห้องเธอ แต่ทั้งคู่ต่างก็อยากจะพักสักครู่ เพราะการเดินทางหลายชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งยังต่อเครื่อง

“สวีตดรีม” เขาพูดก่อนเธอเข้าห้อง

นั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ยอมเดินเข้าห้องไป แล้วทิ้งตัวบนที่นอน ก่อนจะทำตัวให้สบายแล้วนอนหลับพักผ่อน เพราะเขาแค่ทำด้วยความรู้สึกเอ็นดูเธอเท่านั้นเอง

หากพอจะนอน เธอก็ไม่นึกอยากนอนจริงๆ นัก จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องทอผ้า มองด้ายที่วางอยู่แล้วคิดเริ่มงานใหม่ เพราะยังมีออร์เดอร์ค้างอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

เธอเริ่มงานอย่างเงียบๆ ไปเรื่อยๆ แล้วมองแบบร่างที่เธอทำไว้ แล้วทำงานต่อไปเรื่อยๆ และเริ่มทอผ้า หากเพราะพื้นเป็นพื้นไม้ ทำให้มีเสียงดังบ้าง คนที่อยู่บนบ้านอีกคนจึงตื่นขึ้นแล้วเปิดประตูเข้ามาดู

“อ้าว! นอนไม่หลับเหรอคะ หรือว่าฉันทอผ้าเสียงดังเกินไป” นวาระหยุดมือแล้วมองเขาที่เดินเข้ามา

“เปล่าหรอก ผมไม่ค่อยเหนื่อยน่ะ ก็เลยไม่นึกอยากนอน คุณก็คงเหมือนกันสินะ” ซีเซียคาดเดาตามจริง

“ค่ะ ฉันก็ไม่ค่อยอยากนอนเท่าไร ตอนแรกนึกว่าจะเหนื่อย แต่พอเห็นงานแล้วก็มันมือ เพราะไม่ได้ทำเสียนานเลย เกือบหกเดือนค่ะ แต่ก็ทำได้ไม่ยาก” นวาระหันไปทอผ้าต่อ ช่วงเริ่มต้นระมัดระวังเพราะเนื้อผ้ายังไม่แน่นเท่าไรนัก

“ผมชวนคุยไปด้วยได้ไหม” ซีเซียถามขึ้น

นวาระขมวดคิ้ว ก่อนส่ายหน้า “อย่าดีกว่าค่ะ ฉันชอบทำงานเงียบๆ งานสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าคุณเบื่อก็เดินเที่ยวในสวนดีกว่านะคะ”

เขาพยักหน้าช้าๆ ก่อนเดินออกไปจากห้อง สวมเสื้อผ้าสบายๆ แล้วเดินเล่นอยู่ในสวนของเธอ

****************************************


เมื่อมื้อเย็นเริ่มขึ้น เธอก็ชวนเขาไปทานที่บ้านโน้นมากกว่าทานที่นี่ บรรยากาศอบอุ่น จนกระทั่งจันทร์เพ็ญถามขึ้น

“หล้าบอกให้บัวทำขันข้าวไหว้ผีปู่ย่าวันพรุ่งนี้กา”

“เจ้า หล้าจะได้บอกกล่าวปู่ย่าว่าเพื่อนคนนี้เป็นชาวต่างชาติ บางทีก็แตะเนื้อต้องตัวกันแบบที่ไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับคนเฒ่าคนแก่ แต่เป็นเรื่องปกติของคนต่างชาตินะเจ้า จะได้ไม่มีใครเจ็บป่วยไงเจ้า” นวาระอธิบาย ก่อนมองผู้ใหญ่พยักหน้าช้าๆ

เธอแอบถอนหายใจยาว จนกระทั่งทานอาหารเสร็จก็ค่ำมืด จึงชวนเขากลับ ปล่อยให้ผู้ใหญ่บ้านนี้ได้พักผ่อน เมื่อถึงบ้าน เธอก็นั่งขีดๆ เขียนๆ อะไรไปเรื่อยๆ แล้วคิดอะไรต่างๆ นานา

ส่วนเขาก็โทรกลับบ้านเพื่อรายงานตัวตามเรื่อง แล้วติดตามข่าวตามหน้าที่ พอดึกหน่อย เขากับเธอก็แยกกันที่ห้องตัวเอง

ซีเซียพลิกตัวบนเตียงแล้วนึกอย่างแปลกใจ เขาน่าจะหลับสนิทเพราะลงไปคุกฝุ่นอยู่ด้านล่างทั้งวัน แม้จะอากาศร้อน แต่น่าแปลกที่เขานอนไม่หลับ

เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น เขาจึงขมวดคิ้ว พอเสียงเคาะครั้งที่สองดังอีก เขาก็ถาม “ใครครับ”

ไม่มีเสียงตอบ...

ด้วยความเป็นทหาร เขาจึงไม่ค่อยกลัวคนนัก และล้มลงนอนอีกครั้ง ก็มีเสียงเคาะประตูห้องอีก ทีนี้เขาถามแล้วไม่รอช้า เดินไปเปิดประตูเพื่อมองคนนอกห้อง แต่ไม่มีใคร

เขาขมวดคิ้วสงสัย ก่อนเดินไปที่หน้าห้องเธอแล้วเคาะประตู “คุณนอนหรือยัง โรส”

นวาระ ซึ่งนอนได้สักพักก็ลุกขึ้นมาเปิดประตู “มีอะไรเหรอ”

“เมื่อกี้ใครก็ไม่รู้มาเคาะประตูห้องผม คุณหรือเปล่า” เขาถามเธอ และมองเธอส่ายหน้าอย่างประหลาดใจ “ถ้าไม่ใช่คุณแล้วเป็นใคร มีใครขึ้นมาบนนี้เหรอ”

“ไม่มีหรอก ต่างคนก็ไปอยู่บ้านตัวเองสิ คุณ บ้านพักคนงานก็อยู่ใกล้สวน จะมีคนอื่นหรือไง ประตูทุกด้าน ฉันก็ล็อคหมดแล้วล่ะ ล็อคเองกับมือเลยนะ” นวาระบอกแล้วก็ครุ่นคิดตาม เพียงแต่ไม่ได้บอกเขา

“แต่มีคนเคาะประตูห้องผมสามครั้งเลยนะ ครั้งที่สองผมถาม ไม่มีใครตอบ ครั้งที่สามผมถามอีกแล้วเปิดประตูออกไปดู ก็ไม่มีใคร ก็เลยมาหาคุณเนี่ยแหละ” ซีเซียเห็นเธอเพิ่งตื่นจริงๆ ก็ยิ่งงงหนัก

“เอาล่ะ เข้ามาในห้องสิ บางทีห้องฉันอาจจะไม่มีปัญหาก็ได้ เสียงไม้ลั่นละมั้ง บ้านเก่าๆ ก็อย่างนี้แหละ” นวาระตัดสินใจไม่พูดเรื่องความเชื่อของคนพื้นบ้าน

“ไม่ใช่เพราะผมนอนคนเดียวไม่ได้หรอกนะ แต่ไม่เป็นไร ผมจะกลับไปนอนที่ห้อง คิดว่าคงเป็นเสียงไม้ลั่นอย่างที่คุณว่านั่นแหละ” ซีเซียเชื่อตามเธอ เพราะเขาก็ไม่เคยอยู่บ้านไม้เก่าๆ อย่างนี้

“เอาน่า นอนห้องนี้ก็ได้ เดี๋ยวฉันเปิดแอร์ให้ กลับไปปิดแอร์ห้องคุณก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะให้ช่างมาดูห้องคุณหน่อยจะได้ไม่รบกวนคุณ” เธอสรุปแทนเขา เมื่อเห็นเขาพยักหน้าก็เดินไปที่หิ้งพระในห้องทอผ้า ก่อนจะจุดธูปสามดอกไหว้พระ เพื่อบอกผ่านกระไปยังผีปู่ย่าไม่ให้มารบกวนแขก

‘สิ่งใดที่เปิ้นกับหล้ากระทำการไป ที่ไม่ถูกต้องและเหมาะสมขัดกับหลักจารีตประเพณี หล้าขอสุมาลาโทษกับผีปู่ย่าไว้ด้วยเน้อเจ้า พรุ่งนี้เช้าจะรีบถวายกรวยดอกไม้กับขันข้าว’

จากนั้นก็กลับมาที่ห้องนอนตัวเอง เห็นเขาจัดแจงที่นอนบนเก้าอี้นอนเล่นก็หัวเราะ “นอนตรงนั้นแล้วคุณไม่เมื่อยตายเหรอคะ ขนาดฉันยังยัดตัวเองลงเหยียดไม่ได้เลย ขึ้นไปนอนบนเตียงสิ”

“จะดีเหรอ” เขาถาม เพราะอาจไม่เหมาะสมนัก เท่าที่เขาฟังจากที่เธออธิบายเกี่ยวกับธรรมเนียมของชาวไทยภาคเหนือ เขาก็คิดว่าไม่เหมาะสมที่จะร่วมเตียงกับเธอ

“ไม่เป็นไรน่า ขึ้นไปนอนบนเตียงเถอะ” นวาระคิดว่าเลยจุดที่จะต้องเกรงกลัวผีปู่ย่าแล้ว เพราะเธอกับเขาเดินทางด้วยกัน นอนในเต็นท์เดียวกันตลอดการเดินทาง

อะไรๆ ก็เกินจุดนั้นมาแล้ว...เธอก็เชื่อว่าผีปู่ย่าคงเข้าใจ

เมื่อเธอปิดไฟในห้องแล้ว ต่างฝ่ายต่างนอนคนละด้านของเตียง แต่สักพักแทนที่จะเป็นคนละด้าน แต่กลายเป็นเขาขยับมาโอบกอดเธอไว้

“นี่ฉันไม่ได้ชวนคุณมานอนกอดฉันนะ” นวาระกระทุ้งเขานิดๆ ก่อนหันไปมอง

“ลืมตัวน่ะ แต่แบบนี้ก็อบอุ่นดี ไม่ร้อนด้วย” ซีเซียแก้ตัวกับเธอแล้วยิ้มให้ความมืด

นวาระลุกขึ้นนั่ง แล้วหันมาทางเขา ก่อนจะพูดกับเขาให้เข้าใจ “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย แล้วอะไรที่ไม่ควรเริ่มก็คือไม่ควรเริ่ม ถ้าคุณจะบอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นอะดีนารีนหลั่ง ตั้งแต่วันที่เราถูกฝังไว้ในหิมะด้วยกันล่ะก็ เชื่อเถอะมันไม่เคยยืดยาวนักหรอก ตอนนี้เราต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ว่า ฉันมีชีวิตของฉัน และคุณก็มีชีวิตของคุณ เราไม่มีวันจัดการให้มันลงตัวได้หรอก”

ซีเซียลุกขึ้นนั่งด้วยอีกคนก่อนพูดบ้าง “พูดจบหรือยัง”

“อืม” เธอเห็นเขาทำท่าทางเข้มงวดขึ้น ก็อ่อนลง

“ผมไม่คิดว่าเกิดความรู้สึกแบบที่คุณพูดหรอกนะ เพราะถ้าความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น มันต้องมากกว่าที่คุณพูดถึงแน่นอน แล้วให้โอกาสผมหน่อยได้ไหม ให้โอกาสตัวเองด้วย” ซีเซียเผลออธิบายความรู้สึกของเขา

“อย่าบอกว่าคุณเริ่มรักฉันเข้าให้แล้ว ฮ่าๆ” เธอทำเป็นหัวเราะความคิดไร้สาระของตัวเอง

เขากลับไม่หัวเราะ ก่อนจะตัดบท “นอนกันเถอะ”

นวาระไม่เห็นเขาหัวเราะแต่ล้มตัวลงนอน เธอนั่งถอนหายใจ พยายามคิดถึงเรื่องที่ไม่ค่อยอยากทบทวนนัก แล้วเธอก็ถอนหายใจอยู่นาน จนเขาลุกขึ้นจากที่นอนเข้าโอบกอดเธอเอาไว้

“พอทีเถอะ เรื่องคิดมากน่ะ หยุดคิดมากสักครั้ง แล้วมาพักผ่อนกันเถอะ” เขาโอบเธอลงนอน

นวาระถอนหายใจ รู้สึกว่าเขาแตกต่างกับเธอทั้งทางด้านความคิด แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ต่างฝ่ายต่างก็ชอบควบคุมทุกอย่างในชีวิต

“ขอโทษที่พูดไม่ดีกับคุณ แล้วห้ามดุฉันเหมือนที่เคยดุน้องชายด้วย ฉันกลัว” นวาระพูดทิ้งท้าย ทำให้เขาหัวเราะเบาๆ แล้วโอบกอดเธอเอาไว้

‘เดี๋ยวเขาร้อนก็คงเลิกกอดไปเองนั่นแหละ’

****************************************


เช้าเธอลุกขึ้นนั่ง ท่าทางสะลืมสะลือและนั่งขัดสมาธิอยู่พักใหญ่ ท่าทางยังไม่ค่อยอยากตื่นนัก แต่เพราะเธอลุกพรวดขึ้นนั่ง เขาจึงตื่นไปด้วย แล้วมองเธอเมาขี้ตาอย่างเอ็นดู

“ขี้เกียจตื่นเช้า” เธอบ่นอย่างไม่จริงจังเหมือนทุกวันก่อนตั้งสติแล้วนึกได้ จึงหันไปมองเขาที่มองมาทางเธออยู่ “ขอโทษค่ะ ฉันไม่คุ้นกับการมีใครร่วมเตียงด้วยล่ะนะ ถ้าเป็นในเต็นท์ก็ว่าไปอย่าง ถุงนอนก็คนละใบกัน”

“ผมไม่ได้ว่าอะไร มาเถอะ มีอะไรให้ทำบ้างล่ะ” ซีเซียถามขึ้น เพราะคิดว่าเธอคงใช้เวลาอยู่แต่ในห้องทอผ้าแน่นอน

“เดี๋ยวขอฉันออกไปดูก่อนว่ามีคนงานหรือยังนะ” นวาระลุกจากเตียงมองซ้ายขวา ไม่เห็นใครก็เดินให้แน่ใจก่อนบอกเขา “รีบออกไปก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า”

ซีเซียค่อยๆ เดินออกจากห้องเธอ แต่ไม่ทำตัวปกติแบบไม่มีพิรุธ เมื่อเธอกลับมาก็เอาเสื้อผ้าออกไปที่ห้องน้ำ แล้วก็พร้อมเขา เธอกับเขาแปรงฟันพร้อมกัน ก่อนเธอล้างหน้าแล้วเอาเสื้อผ้ากลับมาเปลี่ยนที่ห้อง ขณะที่เขาขออาบน้ำ เพราะแค่ออกจากห้องแอร์ เขาก็มีเหงื่อไหลแล้ว

นวาระเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าถุงสวมเสื้อผ้าฝ้ายแล้วมวยผมง่ายๆ ประดับด้วยดอกเอื้องสีเหลืองสด ก่อนจะเดินไปที่ห้องอาหาร แล้วเห็นบัวจัดโต๊ะ

“วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ บัว” นวาระนั่งที่เก้าอี้

“ยังเจ้า เดี๋ยวจะไปล่ะเจ้า พี่โรสล่ะเจ้า วันนี้จะลงไปในสวนก่อ” บัวถามขึ้น

“ยังเน้อ เอาถ้วยมากินด้วยกันก่อ” นวาระถาม

“กินมากับพ่อแล้วเจ้า แม่เดือดขนาดว่าจะรีบไปไหน แต่น้องมานี่กับพ่อสบายใจกว่าเยอะเลยเจ้า” บัวเล่าแล้วก็หัวเราะนิดๆ

“สบายหูล่ะสิ เมื่อวานซีเซียลงไปป่วนสวนก่อ” นวาระถามขึ้น

“โอ๊ย! ช่วยได้จาดนัก ยกถุงปุ๋ย เติมปุ๋ยอ่ะ แล้วยังช่วยถางหญ้าด้วย แต่เหงื่อย้อยโซะๆ เลย พ่อเลยเอาผ้าขนหนูให้ไปผืนหนึ่ง เห็นเช็ดจนเปียกเลย” บัวเล่าแล้วก็หัวเราะ

“นี่อยู่ด้วยตลอดเลยกา” นวาระถามแล้วก็หัวเราะ

“บ่ๆ พ่อเล่าให้ฟัง พ่อเล่าแล้วก็ใคร่หัวตลอดเลยเจ้า แม่ก็ใคร่หัวด้วย” บัวพูดแล้วก็หัวเราะไปด้วย

“วันนี้คงอยากจะอยู่ดูแม่นก่อ” นวาระถามขึ้นแล้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดู

“พี่โรสอย่าเข้าใจผิดนา อ้ายฝรั่งคนนี้ น้องบ่ได้ฮักเมาเน้อ แล้วก็รอพ่อเล่าดีกว่า พ่อเล่าตลกดี วันนี้น้องมีเรียนด้วย แฟนน้องจะมารับเจ้า” บัวบอกแล้วก็หน้าแดงเมื่อนึกถึงแฟนหนุ่ม

“ตายละ! พ่อแม่บ่ว่าเอากา แอบไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อใดนิ” นวาระคุยกับน้องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขามา เมื่อบัวเห็น เขาก็หัวเราะ เพราะคิดถึงเรื่องที่พ่อเล่าได้ ก่อนจะขอออกไปก่อน

“มีอะไรเหรอ” ซีเซียถามเธออย่างงุนงง

“ฉันว่าตอนนี้ คุณคงกลายเป็นขวัญใจชาวสวนแล้วล่ะ พวกเขาชอบคุณมากนะ” นวาระบอก ขณะยกขันข้าวที่บัวเอามาวางไว้ให้กับกรวยดอกไม้และธูปเทียน จากนั้นก็จูงมือเขา พาลงเรือนไป

เธอพาเขาไปสิ่งก่อสร้างเล็กๆ ก่อขึ้นเป็นบ้านหลังเล็ก มีรูปปั้นคนแก่ชายหญิงพร้อมด้วยบริวาร จากนั้นเธอก็วางถาดใส่อาหารคาวหวาน ก่อนจะบอกให้เขาถอดรองเท้า

“ถอดรองเท้าก่อนนะคะ คืออย่างนี้นะ ที่ฉันเคยบอกคุณเมื่อวานจำได้ไหมคะ เรื่องที่เราต้องขอโทษ ถ้าเราแตะเนื้อต้องตัวกันมาก พร้อมขออนุญาตเอาไว้ก่อนจะได้สบายใจ” เธอไม่อยากอธิบายมาก คนต่างชาติต่างภาษา มีความเชื่อแตกต่างกัน

“ได้ครับ ก็คือให้ผมขอโทษใช่ไหม ผมก็จะภาวนาแล้วคิดอยู่ในใจนะ” ซีเซียทำความเข้าใจแล้วก็ทำตามเธอ แม้เขาจะเป็นคนต่างชาติ นับถือต่างกัน แต่เขาก็ไม่คิดลบหลู่ความเชื่อของคนอื่น

เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่ห้องอาหารอีกรอบ เธอมองเขานั่งลง แล้วก็เริ่มคีบอาหารให้เขา

“ทำไมไม่ให้ผมทานเหมือนคุณบ้างล่ะ ผมก็เบื่ออาหารแบบเดิมๆ เหมือนกันนะ” ซีเซียมองอาหารหนักๆ ของเธอแล้วต้องถาม “ปกติคุณทานหนักแบบนี้ตอนเช้าเหรอ”

“อืม ฉันต้องทำไร่สวนนะคุณ ทานเบามีหวังเป็นลมคาแดด” นวาระบอกเขา

“งั้นให้ผมทานแบบคุณบ้างสิ” ซีเซียเห็นด้วยก่อนจะถามขึ้น

“ได้” นวาระหันไปหยิบจานให้เขา แล้วตักข้าวเหนียวลงให้ ตักกับลงจาน แล้ววางไว้ตรงหน้าเขา “คุณคงเคยทานอาหารไทยมาบ้างนะ ล้างมือแล้วทานเลย ไม่ต้องใช้ช้อนส้อมหรอก ยกเว้นตักซุปน่ะ แต่เช้านี้ไม่มีหรอกนะ”

เขาพยักหน้าแล้วมองสิ่งที่เธอไม่ตักให้เขา ของเหนียวๆ สีแดงๆ เขาจึงถามขึ้น “นั่นอะไรน่ะ”

“อย่าเพิ่งลองเลย เพราะคุณทานของเผ็ดไม่ค่อยได้ นี่น้ำพริกตาแดง เรดอายน่ะ คือทำให้คุณเผ็ดจนร้องไห้ได้เลย แต่ถ้าจะลองก็ทานน้อยๆ ก็แล้วกัน นี่” เธอไม่ห้าม เพราะสายตาเขาอยากลอง จึงตักให้เขาเล็กน้อย แล้วเตือนให้ระวัง

เขาจึงทำตาม แตะเพียงเล็กน้อย ได้กลิ่นแปลกๆ แต่ก็ลองทานดู หากก็ไม่ถูกปากนัก จึงละไว้แค่นั้น “ผมไม่ค่อยชอบนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นสูตรของคนบ้านนี้น่ะ ของคนอื่นอาจจะอร่อยกว่าก็ได้ แต่แม่ฉันสอนให้ทำตามสูตรนี้แหละ ทานอย่างอื่นไปก็แล้วกัน ปลาแดดเดียว ทางเหนือเรียกปลาบ้วง ไข่เจียว บ้านฉันเขาชอบทำแบบนี้เวลาทานนะ เอาข้าวเหนียวแผ่เป็นข้าวปั้น วางปลาหรือไข่ลงไป แล้วปั้น จากนั้นก็จิ้มน้ำพริกทาน เนี่ยเรียกว่า บ่ายข้าว” เธอเล่าไปเรื่อยๆ ท่าทางผ่อนคลาย ทำให้เขามองไม่วางตา

“ไม่เคยเห็นคุณแต่งตัวแบบนี้ สวยจังเลยนะ” ซีเซียพูดชมเธอตามตรง

“นี่แต่งแบบชาวบ้าน ถ้าเชื้อเจ้าจะแต่งอีกแบบ แต่ก็นะ เจ้าไม่ค่อยมีแล้วล่ะ อ๋อ เจ้าก็คือราชนิกูลน่ะ เมืองไทยมีเจ้านายฝ่ายเหนือด้วย คือปกครองเมืองทางเหนือน่ะ แต่สมัยนี้เจ้าทางเหนือก็คล้ายคนธรรมดาแล้วล่ะ แล้วก็เหลือน้อยเต็มที คนก็ยังนับถืออยู่ ฉันก็ยังนับถืออยู่ เจ้าสิงคำเคยให้ความช่วยเหลือครอบครัวฉันน่ะ” นวาระเล่าความ

“เจ้าสิงห์คำเป็นใคร” เขาถามเพราะกำลังงง

“เจ้าสิงห์คำเป็นลูกชายของเจ้าแสงคำ แล้วเจ้าสิงห์คำก็เป็นพ่อของเจ้าบัวคำ เจ้าสิงห์คำน่ะเสียไปแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือแต่เจ้าบัวคำ แต่ลูกของเจ้าบัวคำไม่ได้เป็นเจ้านะ เพราะศักดิ์เจ้าจะสืบต่อโดยผู้ชายค่ะ” เธออธิบายความเป็นมา

“อ๋อ ครอบครัวเขาคือผู้มีพระคุณกับคุณนั่นเอง” ซีเซียสรุปได้

“อีกสองสามวันก็จะมีคุณแสงดาวมาเยี่ยมชมสวนด้วยค่ะ คุ้มแสงคำเป็นลูกค้าสั่งซื้อกล้วยไม้จำนวนมากมานานแล้วค่ะ เขามีโรงแรมเป็นกิจการของทางฝั่งเจ้าบัวคำนะคะ คุณแสงดาวนี่ก็เพิ่งกลับจากนอกค่ะ” นวาระเล่าความให้ฟัง

“อ๋อครับ แล้ววันนี้คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหม” ซีเซียถามขึ้น

เขากลายเป็นชาวไร่ชาวสวนไปกับเธอ เพราะช่วงที่เดินทางไปกับเธอ เขาก็ช่วยเธอทำงานในไร่ในสวนบ้าน ช่วยหาของในป่าบ้าง เมื่อมาอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ต้องหาหนังสืออ่านให้วุ่นวาย เมื่อสามารถหางานในสวนของเธอได้

“ฉันไม่มีเงินจ้างคุณหรอกนะคะ แต่ถ้าคุณอยากทำแล้วไม่อยากร้อน ก็ไปที่โรงกล้วยไม้ คิดว่าคงมีที่ให้ซ่อมแซมบ้างนะคะ งานช่างค่ะ บางทีก็ใส่ปุ๋ย เมื่อคืนฉันนั่งอ่านบัญชี มีออร์เดอร์อยู่พอสมควรค่ะ” นวาระบอกแล้วก็ยิ้มให้

“ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างผมหรอก ผมไม่ชอบอยู่เฉยๆ เมื่อก่อนผมก็อ่านหนังสือบ้าง แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรทำ พ่อผมไม่อยากให้ผมคิดมาก ก็เลยไม่ให้ตามข่าว แล้วผมคิดว่าการทำงานในสวนของคุณก็ดีกว่าไม่ทำอะไร เพราะช่วยให้หลับได้สนิท” เขาพูดขึ้น เพราะเมื่อคืนเขาก็หลับเป็นตาย เพราะตากแดดทั้งวัน

“ยังไงก็ระวังแดดบ้างนะคะ คุณมาจากประเทศที่หนาวเกือบทั้งปี เจอแดดแรงไม่ค่อยดีหรอก” นวาระเตือนเขา

“แดดบ้านผมก็แรงนะ แต่อากาศเย็นก็ไม่ค่อยรู้สึกกัน ไม่ต้องห่วง ผมกลัวมะเร็งผิวหนังอยู่บ้าง ทาครีมกันแดดรอไว้แล้วล่ะ” ซีเซียบอกเธอ โดยไม่กลัวเธอจะว่าเขารักสวยรักงาม

“ดีแล้วค่ะ ป้องกันไว้ดีกว่า วันนี้ฉันจะลงไปช่วงบ่าย ฉันต้องตรวจบัญชีกับแม่จันหน่อยนะคะ” นวาระบอก และเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน

เขาสวมหมวกฟางกันแดด กางแกงฝ้ายทอมือก็สวมใส่เย็นสบาย เพราะมีช่องให้ลมผ่าน และไม่ร้อนอย่างที่คิด เขาจึงสวมเสื้อผ้าฝ้ายแขนยาว ตามที่เธอเลือกมาให้ โดยช่วยคนงานทำงานที่โรงกล้วยไม้

****************************************

สวัสดีค่ะ หนีเที่ยวไปเมื่อ พฤ ที่แล้ว แต่กลับมาโพสต์นิยายต่อแล้วนะคะ
เมื่อวานไปเที่ยววัดป่ามาค่ะ สงบมาก อยากไปปฏิบัติธรรม โย่ววววววว
(แต่จะทำได้ไหมเนี่ย 555+ เพราะพยายามสร้างอารมณ์เพื่อนิยายเรื่องใหม่ งิงิ)
ยังไงก็ดุูแลสุขภาพด้วยนะคะ โดยเฉพาะชาวภาคเหนือที่ต้องสู้กับฝุ่นอย่างแรง
ขอบคุณที่ติดตามนิยายค่า

Sirinda
คุณ sai --- 555+ >,< เรียบร้อยแล้วค่า คริคริ
คุณ anOO --- อาจจะไม่ผิดผี (มั้ง)ค่ะ อิอิ
คุณ konhin --- ส่วนลึกเจ้าตัวคงรู้ว่า
นางเอกไม่โวยวาย พระเอกติดใจตามมาซะงั้น
คุณ น้องแสตมป์ --- หุหุ ผิดแล้ว...ผิดผีค่ะ ^^
คุณ pattisa --- จริงๆ ไม่รู้ว่าท้องถิ่นที่อื่นนี่ยังไงนะคะ แต่แถวบ้านนี่แค่ถูกเนื้อต้องตัวก็ผิดแล้วค่ะ 555+
คุณ ร้อยวจี --- รักค่ะ...เดี๋ยวไม่แฮปปี้ค่ะ
คุณ Auuuu --- ผิดผีแว้วค่า อิอิ
คุณ ใบบัวน่ารัก --- ม่ายบอก เป็นปริศนาค่ะ อิอิ ก็ไม่ถึงกับผีเม้ยหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวดูก่อนว่าจะแก้ยังไงดีไหม ไม่เเข้าใจประโยคไหนลองบอกออมาค่ะ จะได้รู้ว่าควรแก้ยังไง
คุณ ตุ๊งแช่ --- เสียอ่ะแน่นอน 555+ ละลายไม่ยากหรอกค่ะ ผู้ชายดีๆ ผู้หญิงก็พร้อมจะรักได้ โฮะๆๆๆ
คุณหนอนฮับ --- ใช่แล้วค่ะ ชาวไทยชนะเลิศ อิอิ

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่ชอบนะคะ เครียดตายเลยเนอะ
คุณพี่ chakansi --- แฮ่ๆ เป็นปริศนาที่รอหลักฐานงิงิ

bloggang
คุณ *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* --- ขอบคุณค่ะ (แต่ยังไม่ถึงวันเกิด อิอิ)
คุณ mooda --- ฉากที่เมืองไทยแล้วค่ะ ผิดผีของแถวบ้านนี่ เห็นแม่บอกว่า แค่ถูกเนื้อต้องตัวกันก็ใช่แล้วค่ะ แต่คู่นี้เขาไปไกลกว่านั้นเยอะค่ะ 555+



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 มี.ค. 2555, 21:40:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 มี.ค. 2555, 21:40:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 2089





<< Rose03   Rose05 >>
เพลิงวารี 5 มี.ค. 2555, 21:46:42 น.
พอดีโพสต์นิยายเสร็จแล้วก็เพิ่งรู้ว่ามีสิทธิให้ไอค่อน 3 ไอค่อน จากคุณยักษ์ใหญ่ใจดี ใครต้องการก็โพสต์ข้อความเอาไว้นะคะ เดี๋ยวจับฉลากแล้วจะได้โพสต์บอกคุณยักษ์อีกทีค่ะ


Auuuu 5 มี.ค. 2555, 22:16:23 น.
ไอ๊หย่ะะะะะ >/////< เขินประเด็นผิดผี
รอลุ้นต่อไปว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร


konhin 5 มี.ค. 2555, 22:20:57 น.
มีเคาะประตูด้วยอ่ะ เฮ้ย น่ากลัว


หนอนฮับ 5 มี.ค. 2555, 23:53:59 น.
อุ๋ย...มีเรื่องผี๋ๆ ด้วย อิอิ


wane 6 มี.ค. 2555, 03:41:56 น.
อยากได้ไอค่อนค๊าาาา


ตุ๊งแช่ 6 มี.ค. 2555, 10:02:38 น.
มาเตรียมตัวเป็นลูกเขย คนเหนือใช่ไหมนี่ ซิเซีย


wane 6 มี.ค. 2555, 13:04:26 น.
คุณเพลิงวารี ...ตกลง wane ได้ไอคอนจากการจับสลากแล้ว ..เลยแวะมาขอสละสิทธิ์จากตรงนี้ค๊า ...ขอบคุณค๊า


anOO 6 มี.ค. 2555, 16:41:23 น.
พระเอกเราน่าจะพร้อมลุยนะ แต่ของแบบนี้ต้องดูกันยาวๆๆๆ


น้องแสตมป์ 6 มี.ค. 2555, 18:17:36 น.
อืม กอดกันอีกล่ะ ชอบๆ


เพลิงวารี 6 มี.ค. 2555, 18:21:38 น.
ได้ค่ะ คุณ wane / มีคนอื่นอีกไหมคะ ที่อยากได้ไอค่อน ^^


ใบบัวน่ารัก 6 มี.ค. 2555, 21:03:38 น.
เรื่องนี้ห้ามผิดผี ลำบากใจมากไหมคะ
มีบางอย่างในเรื่องซะแล้วจะน่ากลัวไหม
มีฉากอินเลิฟไหมน้า ร้อนจังหน้าร้อนแล้วหรือเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account