ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต
เมื่อเธอเดินทางตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ โดยปล่อยให้ชะตาลิขิตเส้นทาง จนได้มาเจอเขา ชีวิตเธอกับเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
Tags: ชะตา

ตอน: Rose05

ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต ตอนที่ 5

สองคืนที่เขาได้นอนหลับอย่างสงบในห้องตัวเอง ไม่มีเสียงเคาะประตูมากวนใจ และเธอก็สบายใจ หากก็ยังคิดถึงอ้อมแขนเขาที่กอดเธอไว้ไม่ได้ ทว่าเธอต้องรู้จักหักห้ามใจ เพราะหนทางของเขาและเธอไม่มีวันบรรจบกันได้

วันนี้เธอแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะมีลูกค้าเข้ามาดูที่สวน ‘ปันนาอิน’ เมื่อออกมาจากห้องเห็นเขามองเธอตาค้างก็ต้องก้มลงมองตัวเอง

“มีอะไรผิดปกติเหรอคะ” นวาระขมวดคิ้วแล้วคิดว่าตัวเองแต่งตัวได้ครบไม่มีลืมอะไร

“คุณสวยมากนะ วันนี้พิเศษเหรอ” ซีเซียถามอย่างประหลาดใจ ปกติไม่เห็นเธอใส่เครื่องประดับมากแบบนี้

“อืม ก็มีลูกค้ามา ก็ต้องเตรียมต้อนรับน่ะสิคะ ว่าแต่คุณเถอะ จะอยู่ช่วยฉันรับลูกค้าไหม” นวาระถามขึ้น เมื่อเห็นเขาเริ่มกลมกลืนกับคนงาน ด้วยการโผกผ้าแทนสวมหมวก

“ไม่ดีกว่า ผมชอบงานไร่งานสวน แถม คนงานของคุณยังสอนผมพูดภาษาไทยด้วย สนุกดี คนงานคุณมีน้ำใจนะ ไม่ค่อยเรื่องมาก แต่ก็มีบ้างที่ทำตัววุ่นวาย” ซีเซียวิจารณ์ด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่น้าผลก็ช่วยเขารอดพ้นมาได้ตลอด

“อ๋อ คนเยอะปัญหาก็แยะแบบนั้นแหละค่ะ เพราะงั้นอย่ากังวลไปเลย แต่ถ้าลวนลาม คุณก็มาบอกฉัน จะได้จัดการให้เรียบร้อย” เธอพูดอย่างมุ่งมั่น ก่อนถูกเขาหอมแก้มอย่างเอ็นดู

“ผมเป็นราชองครักษ์ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องให้คุณจัดการหรอกน่า ผมจัดการเองได้” ซีเซียพูดขึ้น ก่อนจะถูกเธอผลัก เพราะบัวเข้ามาเห็นพอดี

“ว่าละ พี่โรสต้องมีอะไรกับอ้ายซีเซียแน่ๆ” บัวพูดล้อขึ้น ทำให้คนฟังงอนเลยทันที

“มีอะหยังก็ไปทำเน้อ แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกไผ พี่กับอ้ายคนนี้เป็นเพื่อนกันเท่านั้นเน้อ” นวาระกระแทกลมหายใจ

“เจ้าๆ เชื่อก็ได้” บัวพูดขำๆ ก่อนจะเข้าไปเอาผ้าในห้องของทั้งสองคนไปให้แม่ซัก

นวาระหันมาเอาเรื่องกับเขาแทน “เนี่ย เห็นไหม คนอื่นเข้าใจผิดกันหมด”

“ช่างประไร ผมเอ็นดูคุณก็เรื่องของผม คนอื่นจะพูดอะไรก็ช่างเถอะน่า ก็มันอดไม่ได้ ก็คุณน่าเอ็นดูนี่ ผมลงไปที่ไร่ก่อนนะ” ซีเซียยังทิ้งท้ายด้วยการก้มลงหอมแก้มเธออีกรอบ แล้วรีบเดินลงบันไดด้านหลังทันที

“เอ็นดู? ตาบ้านี่ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะยะ” นวาระบ่นๆ ไม่ให้เขาได้ยิน เพราะเขาเดินลงเรือนไปแล้ว จึงถอนหายใจยาวๆ จากนั้นก็นั่งลงทอผ้ารอเวลาที่ลูกค้าจะมา

เมื่อลูกค้ามาถึงก็มีคนงานมาเรียกเธอก็ออกไปต้อนรับ ก่อนเจอผู้หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเข้ามา เธอเสื้อผ้าทันสมัยสีสดใส แต่งหน้าจัดพอควร บอกรสนิยมทันที

“สวัสดีเจ้า” นวาระยกมือไหว้อย่างนอบน้อม แต่ถูกมองอย่างดูถูก

“อืม เธอสินะ นวาระ ฉันขอเข้ามาที่นี่ตั้งหลายเดือนแล้ว ต้องให้ลูกค้ารอแบบนี้เสมอเหรอ” แสงดาวใช้อำนาจที่เหนือกว่าพูดกับเจ้าของสวนที่ท่าทางนอบน้อม

“ไม่ค่ะ แต่ฉันได้แจ้งลูกค้าทุกท่านแล้ว ว่าฉันมีธุระต้องจัดการที่ต่างประเทศหลายเดือนแล้วค่ะ และลูกค้าทุกท่านก็รับทราบตามนั้น เพราะทางเรายังคงส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ตลอดเวลา ยกเว้นกรณีพิเศษ อย่างเช่นเยี่ยมชมสวนหรือชมผ้าทอ นอกเหนือจากแบบที่ให้ไปค่ะ ถ้าคุณได้อ่านจดหมายแจ้งลูกค้าอย่างละเอียด ก็จะเข้าใจ” นวาระใจเย็นตอบลูกค้าที่กำลังอารมณ์เสีย

“แต่ยังไงคุ้มแสงคำก็เป็นลูกค้าพิเศษ ตั้งแต่สมัยคุณตาที่ให้ความช่วยเหลือพวกเธอมาตลอด ต้องมีข้อยกเว้นบ้างสิ” แสงดาวให้เหตุผลเข้าข้างตัวเอง

“พอเถอะ ดาว” แสงเดือนคู่แฝดพยายามห้าม

“ทางเราพยายามบริหารจัดการสวนอย่างเป็นระบบ ดังนั้นเงื่อนไขพิเศษๆ ผู้ที่รักษาการแทนจึงไม่กล้าตัดสินใจ และฉันก็อยู่ในสถานที่ที่ตัดการติดต่อค่ะ เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวฉันจะพาไปดูโรงกล้วยไม้นะคะ เชิญทางนี้ค่ะ” นวาระพยายามเชิญลูกค้าให้ไปไกลๆ ก่อนจะระเบิดอารมณ์ใส่ลูกค้า

“ฉันแสงเดือน แล้วนี่ก็แสงดาวค่ะ” คนพูดแต่งตัวสุภาพกว่า เรียบร้อยกว่า แล้วก็สุภาพกว่ามาก แต่หน้าตาเหมือนกัน เพียงแต่งหน้าต่างกัน ก่อนเจ้าตัวจะแนะนำอีก “คุณคงรู้จักพี่ตะวันแล้วใช่ไหมคะ”

“ค่ะ ฉันเคยเจอคุณแสงตะวันแล้วค่ะ เชิญลงจากเรือนดีกว่าค่ะ แล้วไปดูสวนกล้วยไม้กันนะคะ” นวาระพยายามตัดบท นึกรำคาญลูกค้าไม่น่าต้อนรับเท่าไรนัก

แสงเดือนพยายามปรามคู่แฝดไม่ให้พูดมาก แล้วคุยกับเจ้าของสวนให้มากที่สุด “อืม ได้ยินว่าคุณส่งกล้วยไม้ออกนอกด้วยเหรอคะ”

“ค่ะ ก็มีลูกค้าติดต่อมาค่ะ” นวาระพูดไม่มาก พยายามพาไปดูสวน ดูไร่ขนาดสี่ไร่ครึ่งของเธอ ที่มีโรงเก็บกล้วยไม้แช่เย็น เพื่อรอส่งออกนอก จนมาสะดุดที่หนุ่มร่างสูงโพกผ้าก่อนเงยหน้าเปื้อนดินขึ้นมามอง

“นั่นลูกค้าเหรอคะ” แสงเดือนถามขึ้น แต่ดูท่าทางไม่น่าจะเป็นคนงานได้เลย

นวาระหัวเราะนิดๆ ก่อนตอบ “นี่มิสเตอร์คารอฟสกี้ค่ะ เพื่อนของฉันเอง ซีเซียคะ นี่คุณแสงเดือนกับคุณแสงดาว ลูกค้าที่เล่าให้ฟังค่ะ”

ซีเซียยิ้มให้เล็กน้อย เห็นผู้หญิงท่าทางเรียบร้อยยื่นมือออกมา เพื่อจับทักทายก็เช็ดไม้เช็ดมือ ก่อนจะจับมือกับเธอ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมซีเซีย คารอฟสกี้ครับ”

“เสียเวลาจับมือทำไม” แสงดาวพูดกับคู่แฝด แล้วเชิดหน้าอย่างไม่สนใจนัก

“ดาวมีมารยาทหน่อยสิ” แสงเดือนปรามคู่แฝด ก่อนจะมองขอโทษแทน

“ก็แค่ฝรั่งตกยาก ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ฝรั่งดีๆ เขาไม่มีทำไร่ทำสวนหรอก คนมีเงิน เขานั่งแช่แอร์อยู่บนบ้านไม่ดีกว่าเหรอ” แสงดาววิจารณ์อย่างไม่เกรงใจนัก

นวาระไม่ชอบใจแน่นอน ถึงอย่างไรก็ไม่ควรว่าแขกของเธอแบบนั้น ครุ่นคิดแล้วคงต้องหาลูกค้ารายใหม่เพิ่ม แล้วพยายามลดออร์เดอร์จากคุ้มแสงคำเสียแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะทนติดต่องานได้ตลอด

“เราไปทางโน้นดีกว่าค่ะ ฉันจะอธิบายงานให้ฟัง” นวาระพยายามต้อนรับลูกค้าให้ถึงที่สุด

“ไม่เห็นอยากฟังเลย ดูๆ แล้วก็คงพอแล้วล่ะ ที่ดินกว้างขวางดีนะ ดอกไม้ก็สวยดี บริหารจัดการก็พอไหว กลับเลยดีไหม เดือน” แสงดาวพูดๆ แล้วชวนคู่แฝดกลับ

นวาระกลับโล่งใจกว่าที่ลูกค้าเกิดอยากจะกลับซะงั้น

“อะไรกัน ดาว ยังไม่ทันเดินดูทั่วเลย อีกอย่างคุณนวาระคงไม่หวงหรอก ถือว่าได้พักจากงานที่โรงแรมไง” แสงเดือนพยายามรักษามารยาท

“เธอก็รู้ว่าวันนี้ฉันมีนัดดูที่ดินอีกหลายที่ เนี่ยเรียกว่าแทรกคิวให้แล้วนะ ฉันอยากซื้อที่ดินอีกหลายแปลง นี่ก็ไม่มีอะไรมาก ไกลแม่น้ำตั้งเยอะ ไม่น่าห่วงหรอกนะ” แสงดาวพูดตามสายตาที่เห็น

นวาระฟังแล้วขมวดคิ้ว เพราะฟังแล้วแปลกๆ

“งั้นกลับก็ได้” แสงเดือนชวนคู่แฝดกลับ ก่อนที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้

เมื่อนวาระส่งลูกค้ากลับไปแล้วก็ขบคิด ก่อนเรียกบัญชีคำสั่งซื้อจากคุ้มแสงคำมาดู แล้วก็เงยหน้าเมื่อเขาขึ้นมานั่งอยู่ในห้องแสดงผ้า ที่เป็นห้องรับแขกด้วย

“เหงื่อเต็มหน้าเลย ล้างหน้าล้างตาก่อนดีไหมคะ” นวาระพูดขึ้น แล้วเมื่อนึกถึงคำพูดของแสงดาว เธอก็ถอนหายใจ

“มีอะไรเหรอ สีหน้าคุณแย่มากนะ” ซีเซียมองเธอด้วยความเป็นห่วง เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อที่หน้าแทน

“ไม่หรอก แค่รังเกียจผู้หญิงคนที่แต่งตัวเปรี้ยวๆ น่ะ อ๋อ หน้าคุณมีดินเปรอะอยู่ มานั่งตรงนี้สิ เดี๋ยวฉันเช็ดให้” นวาระเห็นว่าเขาไม่ยอมไปล้างหน้า ก็บอกเขาเดินมาใกล้ๆ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้เขา ทำให้ทั้งคู่นั่งใกล้กัน

จันทร์เพ็ญเข้ามาเห็นพอดี ก็กระแอม ทำให้นวาระมองอย่างงุนงง ก่อนจะถอนหายใจ “มีอะหยังเจ้า แม่จั๋น”

ซีเซียจึงขยับถอยออกมาให้ห่างและดูเหมาะสมกว่าเดิม

“บ่ๆ จะมาถามเรื่องคุณแสงดาวน่ะ ได้ยินว่ามากันสองคนหน้าเหมือนกัน คุณแสงเดือนมาด้วยกา” จันทร์เพ็ญนั่งคั่นกลางแล้วคุยกับหลานสาว

“เจ้า แต่แย่มาก พูดจาดูถูกซีเซียอย่างกับอะไรดี หล้าจะบ่ทนละ อดใจเกือบบ่ได้” นวาระพูดขึ้น ก่อนวิจารณ์อีก “ผิดพี่ผิดน้อง คุณแสงตะวันกับคุณแสงเดือนยังดูรับแขกกว่าคุณแสงดาวนัก สมชื่อแท้ๆ อับแสงกว่าพี่กับคู่แฝด”

“ไปพูดอย่างนั้น อย่างใดตาเปิ้นก็มีบุญคุณกับเฮาเน้อ” จันทร์เพ็ญเตือนหลานสาว

“บุญคุณส่วนบุญคุณ แต่จะมานั่งทวงกันข้ามภพข้ามชาติเห็นจะบ่ไหว ถ้ามาร้าย เห็นทีหล้าก็ต้องร้ายไปละ พูดแปลกๆ ต้องไปดูที่ดินอีกหลายแปลง หล้าบ่ค่อยไว้ใจ ถ้าจำเป็นก็คงต้องแตกหัก ราคาค่าดอกก็ขายถูกกว่าที่อื่นจาดนัก มาซื้อผ้าทอมือ บางผืนราคาหลายพัน หล้าก็ลดแล้วลดอีก บ่นแต่ว่าแพงกว่าผ้าไหม อยากได้ผ้าไหมก็ไปซื้อที่อื่นกะ ที่นี่ทำกันมาอย่างนี้ ลูกค้าก็บ่มีไผว่าอะหยัง เฮาก็บ่ได้คิดราคาเกินควร” นวาระได้ทีใส่ไปหลายชุด

“ใจเย็นๆ เน้อ หล้าเน้อ จะยังใด เจ้าสิงห์คำก็มีบุญคุณกับเฮา หมู่เจ้านายบางคนก็เอาใจยากอย่างนี้แหละ” จันทร์เพ็ญพยายามเตือนหลานสาวให้ใจเย็น

“ถ้าคิดบีบซื้อที่ที่นี่ เห็นทีจะเย็นบ่ไหว คราวก่อนพ่อเปิ้นก็มาขอซื้อเฮือนไม้ทั้งหลัง แล้วก็บ่คิดว่าเฮาจะไปอยู่ไหนเนาะ เอาเตอะ หล้าเห็นแก่เจ้าสิงห์คำเน้อ” นวาระยอมลงให้เพื่อนแม่ ก่อนจะมองดูบัญชีแล้วพูดขึ้น “สั่งของเฮาน้อยลงนี่ ผ้าก็บ่มีสั่งแล้ว เอายังใดดี”

“บ่ต้องเอายังใด ขอแค่บ่มารบกวนงานของเฮา ก็พอ” จันทร์เพ็ญก็พอรู้ว่าหลานสาวก็ใช่ว่าจะยอมคนง่ายๆ “แม่ไปก่อนเน้อ แล้วหล้าก็อย่าลืมกินข้าวเน้อ”

“เจ้าๆ เดี๋ยวก็ว่าจะกินละ ดูอีกหน่อยแล้วจะไปละเจ้า อุ๊ยเตี้ยงล่ะ กินหรือยัง” เธอถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“ก็ว่าจะไปกินกับอุ๊ยเนี่ยแหละ หล้าบ่ต้องไปกินที่บ้านแม่ก็ได้ กินนี่แหละดีแล้ว แม่ไปละ” จันทร์เพ็ญลงจากเรือนไป ก่อนไปก็มองทั้งสองคนอย่างสำรวจ

ซีเซียเห็นแบบนั้นก็ถามขึ้น “ป้าเขามองผมทำไมเหรอ”

“คงมองว่าเราอยู่ใกล้กันเกินไปน่ะ คนแก่หัวเก่า คุณก็อย่าคิดมากเลย” นวาระบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก แม้เธอจะเกรงใจผู้หญิง แต่เธอก็ต้องยอมรับความสมัยใหม่เข้ามา

“จริงสิ ผู้หญิงคนเปรี้ยวๆ พูดอะไรเกี่ยวกับผมหรือเปล่า เขามองมาทางผม ท่าทางดูถูกนะ” ซีเซียถามเธอตามตรง

“อย่าไปสนใจเลย เขาก็พูดอย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละ แต่อีกคนที่เรียบร้อยหน่อย เขาไม่คิดแบบนั้นหรอก อย่าคิดมากเลยนะคะ ก็คุณทำตัวน่าดูถูกจริงๆ นี่” นวาระพูดแล้วก็ขำ

“โธ่! คุณไม่คิดแบบนั้นหรอกใช่ไหม” ซีเซียเดาอย่างเข้าใจ

“แน่สิ ใครจะกล้าดูถูกทหารราชองครักษ์ได้ล่ะคะ อย่าไปถือสาเลย ฉันก็ลืมแนะนำว่านอกจากจะเป็นเพื่อนฉัน แล้วคุณทำงานอะไร” นวาระเพิ่งนึกได้

“ไม่ต้องหรอกครับ ปล่อยให้คิดอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ ไปทานมื้อเที่ยงกันเถอะ” เขาพูดเมื่อเห็นเธอปิดแฟ้ม

เขาพอฟังน้ำเสียงน่ารำคาญออก แต่ก็ไม่เก็บมาคิดมาก เขาดูเธอแล้วก็คงไม่พอใจเหมือนกัน แต่ติดที่เป็นลูกค้า จึงต้องทำใจให้เย็นลง แล้วฟังจากคำสนทนากับเพื่อนแม่ที่เธอนับถือ ถึงไม่เข้าใจแต่เชื่อว่า เธอคงไม่พอใจเอามากๆ

แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว...

****************************************


เสียงรถยนต์ดังเข้ามาในยามเย็น คุ้มแสงคำประดับด้วยแสงไฟสว่างไสวสวยงาม แม้จะไม่ได้เกิดและเติบโตในคุ้มแห่งนี้ แต่เขาก็ชอบสถานที่แห่งนี้ทันที ที่ตาเขายกให้ครอบครัวพวกเขาย้ายมาอยู่

แสงตะวันเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก ที่ซึ่งพ่อแม่และน้องสาวทั้งสองนั่งเล่นอยู่

“กลับมาแล้วเหรอ” เจ้าบัวคำทักทายลูกชาย

“ครับ เจ้าแม่” เขาทักทายพ่อแม่แล้วก็น้องสาว ก่อนนั่งลงพักเหนื่อยแล้วถามขึ้น “ไปสวนปันนาอินเป็นยังไงบ้าง”

พวกเขาต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพเสียมาก พักหลังพ่อแม่ค่อยย้ายมาก่อนแล้วพวกเขาค่อยตามมา แต่ก็นับว่าตาของเขาไม่อยากให้วุ่นวายนัก

“ก็ดี สวยดี น่าซื้อมาทำรีสอร์ทนะ” แสงดาวบอกพี่ชาย

“ไม่ได้นะ เจ้าตาสั่งไว้ ห้ามไปยุ่งวุ่นวายกับพวกเขา” แสงเดือนรีบปราม

“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ก็แค่สวนฝ้ายกับสวนกล้วยไม้ เราขอซื้อเขาก็คงอยากจะรีบขาย” แสงดาวยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก

“ไม่ได้ พี่ไม่ให้ไปซื้อที่นั่นเด็ดขาด ก่อนเจ้าตาสิ้นใจ สั่งความไว้หลายอย่าง บ้านนั้นเขาก็สำนึกบุญคุณมาตลอด ท่านว่าน้ำใจคนเมื่อได้มาแล้วอย่าทิ้งขว้างให้เสียไป คราวก่อนคุณพ่อไปขอซื้อบ้านไม้สักอายุร้อยปีของเขา เขาก็แทบจะไม่อยากมองหน้าพวกเราแล้ว เวลาเจ้าแม่ไปซื้อผ้าทอ ก็ถูกเสียจนเกือบได้เปล่า เกิดเป็นคนให้มันรู้จักเกรงใจคนอื่นบ้างนะ” แสงตะวันตักเตือนน้องสาว

“โอ๊ย! อะไรนักหนา นายตะวัน ชอบขุดเรื่องเก่ามาพูดอยู่ได้” อาทิตย์ส่ายหน้าช้าๆ หงุดหงิดนิดๆ แล้วก็เสียเส้นที่ซื้อไม่สำเร็จ

“ตะวันพูดถูกนะ พี่ซัน เขาก็เกรงใจเจ้าพ่อ ถึงได้ยอมขายของถูกให้เรา ก็เอาเถอะ ทีหลังก็อย่าไปยุ่งกับเขาเลย คราวก่อนเอาผ้าผืนนั้นไป คุณหญิงกรุณาขอซื้อไปตั้งเป็นหมื่น” เจ้าบัวคำพูดตามตรง เพราะตอนแรกไม่คิดว่าผ้าฝ้ายทอมือจะราคาแพงแบบนั้น

“ฝีมือเขาดี เขาใช้เทคนิคหลายอย่างลงไป ผมซื้อไปฝากเพื่อน เพื่อนยังถูกใจฝากซื้ออีกหลายผืน” แสงตะวันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม คล้ายกำลังถูกใจเจ้าของงานมากกว่า

“งานดีอะไรนักหนา สู้ผ้าไหมได้เหรอคะ” แสงดาวถามขึ้นอย่างไม่เชื่อนัก

“เขาไม่เอามาเทียบกันหรอก ที่ราคาสูงเพราะมันไม่ใช่แค่ผ้าฝ้ายทอธรรมดา แต่เป็นงานศิลปะแล้ว เพื่อนพี่เอาติดติดโชว์ไว้ที่ห้องรับแขกเลยล่ะ บอกลายสวยดี” แสงตะวันบอกน้องสาว

“ก็แค่ผ้าฝ้าย ตอนนี้นะคะ เอาฝรั่งที่ไหนก็ไม่รู้มาเลี้ยง ใช้ให้ทำงานไร่งานสวนด้วยค่ะ เหงื่องี้ซกเลย น่ารังเกียจจริงๆ เห็นบอกว่าเป็นเพื่อน สงสัยฝรั่งตกยากละมั้งคะ” แสงดาวพูดแล้วชักสีหน้ารังเกียจ

“เธอก็พูดเกินไปนะ ดาว คุณโรสก็บอกว่าเป็นเพื่อนเขา คงไม่ใช่คนงานหรอก” แสงเดือนพยายามแก้แทน

“นี่เธอจะแก้ตัวแทนพวกมันทำไม ทุกวันนี้ก็ทำงานชดใช้บุญคุณเราอยู่นะ นี่ถ้าไม่ได้เจ้าตา มีเหรอจะลืมตาอ้าปากได้ คนละชั้นกันเยอะ” แสงดาวพูดแล้วเชิดหน้า แต่ก็ทำให้พ่อยิ้มพอใจ เพราะยังแค้นเรื่องบ้านไม้สักอายุร้อยปีไม่หาย

“เกิดเป็นคนอย่าดูถูกคนอื่นนัก ยามเราตกอับยังได้คนอื่นช่วยเหลือ ถ้ามัวแต่กดขี่คนอื่นอยู่อย่างนี้ เธอก็ไม่มีวันเจริญหรอก หนูขอตัวก่อนนะคะ ไม่อยากได้พลังด้านลบ” แสงเดือนอารมณ์เสียกระแทกลมหายใจใส่แล้วลุกหนีขึ้นห้อง

“อะไรของยัยเดือนเนี่ย” แสงดาวดูจะไม่รู้ตัวสักนิด

“ก็เพราะเธอทำตัวน่ารำคาญน่ะสิ ผมขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับ เจ้าแม่ คุณพ่อ” แสงตะวันก็ขอตัวเช่นกัน เบื่อจะอบรมน้องสาวคนนี้เต็มที

เมื่อถึงห้องนอน เขาก็จัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย แล้วครุ่นคิดถึงสีหน้าราบเรียบ ไม่สนใจอะไร เขาเคยพบเธอ เพราะเคยคิดอยากสั่งผ้ามาตัดชุด ถึงแม้เขาจะไม่จำเป็นต้องพบเธอ แต่เขาจำได้ว่า ตอนที่เขามาเยี่ยมเจ้าตา เขาเคยพบเธอ เธอยังเด็กและไม่ค่อยสนใจอะไรนอกจากทำงานช่วยแม่

อีกครั้งที่เขาพบเธอก็หกเดือน ก่อนที่เธอจะเดินทางไปจัดการธุระ เมื่อเธอนำผ้าที่จะใช้ตกแต่งตรงส่วนของประชาสัมพันธ์เพื่อต้อนรับลูกค้ามาให้เขา

เสน่ห์แม่หญิงเมืองเหนือก็เปล่งปลั่ง เมื่อเธอสวมชุดพื้นเมืองมาส่งมอบผ้าให้เขาถึงโรงแรม พร้อมกับจดหมายเตือนลูกค้า เรื่องติดต่องานกับเพื่อนแม่ของเธอ

หนุ่มชาวต่างชาติหรือหนุ่มไทยต่างมองเธอที่ล็อบบี้ และบังเอิญเขากำลังเดินส่งลูกค้าคนสำคัญอยู่ จึงได้สังเกตเห็น ตอนแรกเขางุนงง เพราะไม่รู้ว่าทั้งหมดกำลังมองใคร จนลูกค้าชวนเขามองแล้วถามเขา

ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว...และยังไม่มีใคร

เขาครุ่นคิด...

****************************************


เสียงทอผ้าดังเป็นระยะ เมื่อเธอตั้งใจทำงานก็แทบลืมทุกอย่าง แม้แต่ลูกจ้างกิตติมาศักดิ์ที่กำลังวิ่งวุ่นไปทั่วสวนเธอ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องคอยรับแขกเอง แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริการลูกค้า ที่คอยรับสายแล้วรับออร์เดอร์ ขณะเดียวกันก็คอยแจ้งลูกค้า เมื่อสินค้าของเธอส่งเข้าไป เป็นบริการที่ดี เพราะสวนอยู่ห่างไกล

โรงทอผ้าก็มีคนดูแลอย่างเต็มที่ ทำงานได้ตามกำหนดก็พอ จะทำเมื่อไรอย่างไรแล้วแต่ แต่เส้นตายคือเส้นตาย เมื่อสินค้าเสร็จก็รอกำหนดส่ง ไม่มีการส่งก่อน เพราะต้องรู้จักเวลาของแต่ละคน

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนมีคนเดินเข้ามา แล้วบอก “น้องโรสเจ้า คุณแสงตะวันมาขอพบเจ้า”

นวาระยังคงพยายามทอผ้าให้เสร็จ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา “เที่ยงพอดี เอ้อ พี่อ้อเจ้า บอกละอ่อนจัดโต๊ะเผื่อเปิ้นด้วยเน้อ เดี๋ยวชวนคุณแสงตะวันกินมื้อเที่ยงด้วยกัน”

“เจ้า น้องโรส” อ้อที่อายุมากกว่าเกือบสิบปีรับคำ เธอทำหน้าที่ต้อนรับและบริการลูกค้าที่นี่ตั้งแต่เพิ่งเรียนจบ จนตอนนี้พบรัก แต่งงานและมีลูกวัยเรียน ต้องฟ่าฟันอะไรมามาก

เธอสวมชุดธรรมดาไร้เครื่องประดับ แต่ก็ยังนุ่งผ้าถุงทอเองทุกวัน โดยมีหนุ่มผมสีทองชมทุกเช้า และแยกกันไปทำงานที่อยากจะทำกันไป

นวาระยกมือไหว้ลูกค้าอย่างอ่อนน้อม ก่อนผายมือเชิญนั่ง “สวัสดีเจ้า เชิญนั่งก่อนเจ้า วันนี้คุณแสงตะวันมีอะไรให้ช่วยเจ้า”

“สวัสดีครับ คุณโรสไม่พบกันนานเลยนะครับ” แสงตะวันทักทายและมองเธอยิ้มต้อนรับ

“เจ้า ก็ตั้งแต่ตอนที่เอาผ้าไปส่งที่โรงแรมเจ้า” นวาระตอบเรียบง่าย แล้วพยายามหาทางเลี่ยงให้มากที่สุด ไม่ใช่คิดว่าเขาจะมาจีบเธอหรืออะไร แต่เป็นเพราะกลัวว่าเขาจะเหมือนพ่อ แล้วมาตื้อขอซื้อสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เธอมีอยู่มากกว่า

“ใช่ครับ อืม วันนี้ผมเข้ามาเพื่อถามแทนเพื่อนผม พอดีเพื่อนผมกำลังจะตกแต่งโรงแรมของเขาที่ภูเก็ตใหม่ เขาอยากได้บรรยากาศของทุกภูมิภาค แล้วเขาเห็นผ้าเนื้อดีที่คุณทอ ก็เลยถามครับ ผมว่าจะโทรมาก่อน แต่พอดีมาธุระแถวนี้ก็เลยมา เพราะคิดว่าคุณคงอยู่ แต่ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรน่ะครับ” แสงตะวันมองเธอยิ้มให้ตามมารยาท

“งานที่ทอให้คุณแสงตะวัน ข้าเจ้าออกแบบให้เหมาะเจ้า แต่ถ้าจะให้ทำให้ก็ต้องดูก่อนนะเจ้า เพราะว่าตอนนี้ข้าเจ้ามีงานค้างอยู่นัก งานเต็มตลอดสองเดือนเลยเจ้า ออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งเอาไว้ แล้วก็มีกำหนดส่ง อาจจะไม่ทันใจเพื่อนคุณแสงตะวันก็ได้เน้อเจ้า” นวาระบอกตามตรง งานเธอก็แทบล้นมืออยู่แล้ว

“อืม คุณโรสมีงานตัวอย่างไหมล่ะครับ หรืองานที่ยังไม่ได้ขายออกก็ได้ เอาไปให้เขาดู ส่วนของผ้าคงเป็นการตกแต่งครั้งสุดท้าย เขาคงไม่รีบ เขาก็อยากให้โรงแรมเขาออกมาสวยงาม คุณโรสไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” แสงตะวันได้คุยกับเพื่อนแล้ว เพราะรู้ว่างานฝีมือต้องใจเย็น

“งั้นจะให้เอาไปให้ดูที่ไหนเจ้า” นวาระถามขึ้น แล้วคำนวนในใจว่าจะเอาอะไรไปบ้าง

“จะสะดวกไหม ถ้าคุณจะไปพบเพื่อนผมที่ภูเก็ต เขางานยุ่งจริงๆ ครับ เขาอยากจะดูตัวอย่างผ้าสำหรับตัดชุดพนักงานเขาด้วย เพื่อนผมเขาจะเปลี่ยนรูปแบบของเขาเกือบหมดเลย เขาจะจัดหกภาคในโรงแรมเขา ให้มีวัฒนธรรมหลากหลายลงไป โปรเจคใหญ่จริงๆ” แสงตะวันบอกเธอตามตรง

นวาระครุ่นคิดก่อนถอนหายใจ “ฉันจะไปค่ะ” เธอตกลงแล้วนัดช่วงเวลา ก่อนมองเขาจดแล้วคิดจะติดต่อเพื่อนเขาอีกที

“ผมจะนัดเพื่อนให้นะครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีแขก เขาก็คงจัดให้คุณพักที่โรงแรมได้เลย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่คุณอาจเสียค่าเครื่องบินในการเดินทางไปนะครับ” แสงตะวันคิดแทน

“ไม่เป็นไรเจ้า ข้าเจ้าจะจองห้องพักเอง ข้าเจ้าอาจพักผ่อนอีกสักสามสี่วัน ข้าเจ้าคิดจะพาเพื่อนไปเที่ยวเจ้า” นวาระบอกเขาอย่างมีมารยาท ก่อนมองนาฬิกา “อืม คุณคงยังไม่ได้ทานอาหารเที่ยงแม่นก่อเจ้า เชิญทานด้วยกันที่ด้านโน้นเน้อเจ้า”

“งั้นขอรบกวนด้วยครับ” เขาเดินตามเธอไปห้องอาหาร ที่มีชายหนุ่มผมสีทองตาสีฟ้านั่งอยู่

ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าฝ้ายกับกางเกงขาสามส่วน แล้วก็ดูธรรมดาอย่างที่น้องสาวคนหนึ่งเขาเล่า เมื่อเห็นแขกเข้ามา ซีเซียก็ลุกขึ้นยืนทันทีเป็นเชิงต้อนรับ

“นี่คุณซีเซีย คารอฟสกี้ ชาวสตาสเซียเจ้า ซีเซียคะ นี่คุณแสงตะวัน รดาการ เชิญนั่งเถอะเจ้า” นวาระเชิญลูกค้านั่งลง ก่อนนั่งที่หัวโต๊ะ เพราะเธอเป็นเจ้าบ้าน แล้วก็เริ่มตักข้าวสวยให้แสงตะวัน ก่อนจะตักข้าวเหนียวให้ตัวเองกับซีเซีย

“วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ ในสวนมีอะไรหรือเปล่า” นวาระหันไปถามซีเซียเพื่อชวนคุย

“ไม่มีอะไรครับ ก็เหมือนทุกวัน เขาจะให้ผมหัดทอผ้าด้วยล่ะ แต่ผมบอกว่าจะถามคุณก่อน” ซีเซียเล่าความให้ฟังแล้วคุยเป็นเชิงปรึกษา

“ตามสบายเถอะค่ะ ว่าแต่ปั่นด้ายเป็นแล้วเหรอคะ” นวาระถามเขา ก่อนจะหันไปต้อนรับลูกค้า “ซีเซียไม่ค่อยชอบอยู่นิ่งค่ะ เขาชอบทำอะไรหลายอย่าง ก็เลยปล่อยให้ทำไป”

“คุณซีเซียทำงานที่นี่เหรอครับ” แสงตะวันถามขึ้น เพราะเขาก็เข้าใจเหมือนน้องสาว

“เปล่าครับ ผมมาเที่ยวที่นี่ แต่โรสไม่ค่อยมีเวลา ผมก็เลยหาอะไรทำ จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยชอบเที่ยวเท่าไร ก็เลยเรียนรู้งานอยู่ที่นี่สบายกว่า” ซีเซียพูดคุยตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยอัธยาศัยอันดี

“งั้นเพื่อนที่คุณโรสจะพาไปเที่ยวภูเก็ตก็คงเป็นคุณซีเซียสินะครับ” แสงตะวันคาดเดาได้

“ใช่ค่ะ ฉันไม่อยากให้เขาอุดอู้อยู่แต่ในสวนในไร่ อยากให้เขาได้ไปสนุกบ้าง เหมือนที่ฉันได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากบ้านเกิดของเขาค่ะ” นวาระพูดอธิบาย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วงานของคุณป็นยังไงบ้างคะ ยุ่งไหม”

การสนทนาครั้งนี้เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นมารยาทอยู่แล้วถ้ามีชาวต่างชาติอยู่ร่วมโต๊ะด้วย

“งานยุ่งครับ แต่โชคดีที่น้องสาวทั้งสองคนของผม กลับมาจากต่างประเทศแล้วมาช่วยกันทำงาน จึงไม่ค่อยมีอะไรน่าหนักใจเท่าไร อืม คุณก็ได้พบทั้งสองคนแล้วนี่ครับ” แสงตะวันยิ้มให้เธอขณะที่พูด

นวาระเพียงรักษาสีหน้าให้ราบเรียบเข้าไว้ เพราะไม่อยากคิดถึงน้องสาวคนเปรี้ยวของเขามากนัก ก่อนชวนซีเซียคุย “คุณแสงตะวันเป็นเจ้าของโรงแรมห้าดาวเลยนะคะ เขาเป็นลูกค้าของเรามานาน คุณคงจำน้องสาวสองคนของเขาได้ คนที่มาสวนเราคราวก่อนที่เป็นฝาแฝดกันไงคะ”

“อ๋อ” เขาเพียงรับรู้ และยังจำได้ดีว่าน้องสาวคนหนึ่งของผู้ชายคนนี้ทำท่าทางรังเกียจที่นี่อย่างไรบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเขา เพราะเขาเป็นเพียงแขกผู้มาเยือน ส่วนนวาระจะแก้ปัญหายังไง เขาก็สุดจะคาดเดาได้อีกนั่นเอง

เมื่อทานอาหารเสร็จ นวาระก็ทำหน้าที่ส่งลูกค้าลงจากบ้านจนถึงรถ แล้วมองส่งลูกค้า จากนั้นก็หันกลับมามองใต้ถุนบ้านแล้วครุ่นคิด

“มีอะไรเหรอ” เขาถาม เมื่อเห็นเธอมองแล้วครุ่นคิด

“ฉันว่าจะทำพื้นที่นั่งเล่นข้างล่างนี่ดีกว่า เอาไว้รับแขกด้วย รู้สึกไม่ค่อยเป็นส่วนตัวแล้วสิ ที่ตอนนี้มีแขกมาบ้านเยอะขึ้นแล้วแฮะ” นวาระบอกเขาแล้วมองทั่วๆ

“ผมเห็นด้วยนะ อยากให้ผมช่วยไหม” ซีเซียถามขึ้น

“แน่นอน ต้องเทพื้นปูนก่อน แล้วค่อยเอาชุดนั่งเล่นมาตั้ง ติดพัดลมด้วยก็ดี อืม หรือเอายังไงดีคะ” นวาระคิดๆ อยู่ จึงถามความเห็นเขาไปด้วยเลย

“ผมชอบเก้าอี้หวายที่คุณจัดไว้ต้อนรับแขกที่โรงงานนะ มีเบาะรองนั่งสบายดี หรือเก้าอี้ไม้แกะสลักก็สวยนะ” เขาเสนอความเห็น

“พื้นล่ะ เอายังไงดี” นวาระถามเขา เพราะเธอยังไม่มีภาพ

“เทแล้วก็ปูกระเบื้อง หาพรมหรือเสื่อพื้นบ้านมาวางก็สวยดี เอาแบบดูแลง่ายๆ” ซีเซียแนะนำ แม้จะมีพื้นฐานต่างกัน แต่เขาก็เป็นคนง่ายๆ มากกว่าที่คนอื่นคิดนัก

นวาระยืดตัวขึ้นและวางมือทั้งสองข้างที่ไหล่เขา ทำหน้าทะเล้น “งั้นคุณจัดการไปเลยแล้วกันนะ ชี้โบ้ชี้เบ้ไปก็แล้วกัน พยายามเข้า” เธอพูดจบก็ต้องหัวเราะเพราะเขาทำหน้าแปลกใจ

ซีเซียขมวดคิ้วแล้วมองเธออย่างงุนงง “คุณจะให้ผมทำมือทำไม้บอกคนงานเนี่ยนะ”

“แหม ขึ้นไปบ้านโน้นไปหาแม่จัน แม่จันคงชอบ เอาตามนั้นก็แล้วกัน ฉันขอรีบไปดูที่โรงทอผ้าก่อนนะ จะเตรียมผ้าตัวอย่างก่อน” นวาระทิ้งงานไว้ให้เขาแล้วก็เดินไปที่โรงทอผ้าทันที ปล่อยให้เขาคิดแก้ปัญหา

หากเขาก็โล่งใจได้ เพราะจันทร์เพ็ญพูดภาษาอังกฤษได้ เขาจึงเดินไปที่อีกหลังข้างๆ เขาล้างมือล้างเท้าก่อนขึ้นบ้าน คราวก่อนเขาโดนเตือนเรื่องนี้อย่างเอ็นดู จะว่าไปเขาอยู่ที่นี่ได้ก็เพราะญาติผู้ใหญ่เธอไม่มีท่าทางรังเกียจเขา ถึงเขาจะไม่เข้าไปคลุกคลีมากนัก แต่แม่กับยายบ้านนี้ก็ใจดี ต้องรับเขาอย่างดี

“มีอะไรเหรอ ซีเซีย” จันทร์เพ็ญทักทายเมื่อเห็นเพื่อนหลานสาวขึ้นมา

“โรสบอกให้ผมมาหาแม่จันครับ เธอจะจัดส่วนรับรองแขกที่ด้านล่างของบ้าน แต่ก็ต้องเตรียมผ้าตัวอย่างสำหรับลูกค้า ก็เลยให้ผมมาคุยกับแม่จัน เพราะผมคงพูดภาษาไทยไม่ถนัดนัก” ซีเซียพูดท่าทางเรียบร้อย

ถึงเขาจะเคยวางสง่าผ่าเผย เวลาติดตามเจ้าหญิงรัชทายาทไปทุกที่ แต่เมื่ออยู่ที่นี่ เขาพบกับความเรียบง่าย การแต่งตัวตัวสบายๆ ไร้การยึดติดใดๆ แปลกที่ใจสงบกว่าที่อื่น

“อ้าว แล้วปกติเวลาคุยกับคนงานทำยังไงล่ะ” จันทร์เพ็ญยิ้มอย่างเอ็นดู พอเดาได้ลางๆ ว่านี่อาจเป็นอนาคตหลานเขย

“ก็ทำมือทำไม้สื่อสารไปตามเรื่องครับ บางทีเขาก็ทำให้ดูแล้วให้ทำตาม พอคลายเครียดได้แล้วก็สนุกด้วยครับ ซีเซียยิ้มให้เจ้าของบ้านที่กำลังหัวเราะชอบใจ

“ดีแล้ว คนหนุ่มไม่คิดมาก อืม ได้ยินว่าตอนอยู่ที่ประเทศรับราชการเป็นทหารสินะ นี่พักร้อนนานเป็นเดือนๆ ต้นสังกัดไม่ว่าเอาเหรอ” จันทร์เพ็ญได้ช่องก็สัมภาษณ์

“ครับ สตาสเซียเป็นประเทศเล็กๆ ก็จริง แต่สวัสดิการดีครับ ผมเองทำงานมาหลายปีไม่เคยขอพักร้อน พอสะสมมากเข้า ก็ต้องใช้สิทธิพักร้อนบ้างครับ” เขาเล่าความอ้อมค้อม แต่ดูน่าเชื่อถือ เพราะประเทศบางประเทศที่ยุโรป มีหยุดงานครึ่งปีทำงานครึ่งปีอยู่

“อ๋อ นั่นสินะ กลับมาเรื่องปรับปรุง แล้วคุณจะให้ฉันติดต่อผู้รับเหมาให้เหรอ” จันทร์เพ็ญถามขึ้น

“ถ้ามีรายชื่อก็บอกผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลองคุยเป็นภาษาอังกฤษไปก่อน เผื่อเขาฟังรู้เรื่อง” ซีเซียบอกและคิดจะช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด

“ได้สิ” เธอพูด ก่อนจะเรียกหาเด็กเพื่อจัดหาสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการ

ท่าทางเจ้าหนุ่มนี่ก็ใช่ว่าจะเก้งก้างถือตัวจนน่าหมั่นไส้ ตรงข้ามรู้สึกปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ไม่ค้านหัวชนฝา อะไรไม่เสียหายก็ปฏิบัติได้อย่างไม่มีปัญหา แต่บางอย่างก็แอบซ่อนอยู่ในความเรียบง่ายของเจ้าหนุ่มคนนี้

เธอก็อยากจะเห็นยามที่เจ้าหนุ่มคนนี้เจอสถานการณ์ที่ไม่ยอมใครเช่นกัน...

****************************************

สวัสดีค่ะ
มาโพสต์นิยายตามกำหนด
ชีวิตโรสคงมีเรื่องให้ยุ่งอีกเยอะเลยนะคะ
*-* ใครอยากได้ไอค่อนบ้างไหมคะ เสียดายสิทธิอ่ะ
ยังเหลือสิทธิอีกนะคะ รีบๆ มาเอาไปนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายค่า

ป.ล. ใครที่อยากสั่งจองหนังสือ เริ่มได้เลยนะคะ เพราะว่าจะมีเพียงสิบท่านแรกเท่านั้นที่จะของที่โชว์ในเวบ
แล้วต้องใช้เวลาในการเตรียมของ เพราะทำเองกับมือค่ะ ^^ ส่วนท่านอื่นที่สั่งหลังจาก 10 ท่านนี้จะได้ของแถมเล็กๆ น้อยๆ อิอิ

Sirinda
คุณ Auuuu --- เรื่องยังต้องวุ่นอีกมากค่ะ อิอิ
คุณ konhin --- ก๊อกๆๆๆ อิอิ
คุณ หนอนฮับ --- ไม่เชิงผีค่ะ แค่บอกว่าแม่กับตายังดูแลหนูอยู่นะ อิอิ
คุณ wane --- 555+ โอเคค่ะ แต่ยังไม่มีคนมาเอาไอค่อนไปจากเพลิงเลยนี่สิ อิอิ
คุณ ตุ๊งแช่ --- อ่ะแน่นอน พร้อมเป็นเขยแง้ว งิงิ
คุณ anOO --- ยังติดหน้าที่ความรับผิดชอบ แม้จะพร้อมแล้วก็ตามค่ะ
คุณ น้องแสตมป์ --- กอดให้พอชื่นใจ อิอิ
คุณ ใบบัวน่ารัก --- ไม่น่ากลัวหรอกค่ะ อิอิ อินเลิฟแบบหยั่งเชิงกันน่าดูเลยค่า

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- ก็ไม่แน่หรอกค่ะ อาจจะติดใจไส้อั่ว 555+
คุณพี่ chakansi --- แค่กอดก็พอแล้วพี่ เดี๋ยวร้อน (พรุ่งนี้ได้ฤกษ์ส่งไปรษณีย์ค่า อิอิ)

bloggang
คุณ mooda --- คิดว่าไม่เน้นวัฒนธรรมเท่าไรค่ะ แต่อาจจะเน้นไปทางไฮโซผลัดถิ่นมากกว่าค่ะ อิอิ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มี.ค. 2555, 21:03:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มี.ค. 2555, 21:03:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1911





<< Rose04   Rose06 >>
ใบบัวน่ารัก 8 มี.ค. 2555, 21:40:05 น.
มาแล้วมีคนมาสร้างปัญหาให้น้องโรสซะแล้ว
แต่ชุดสาวเหนือคงจะงามนัก มีการชม หอมแก้มด้วย
สั่งหนังสือเล่มไหนหรือคะ สั่งด้วย


Auuuu 8 มี.ค. 2555, 22:33:47 น.
งานเข้าหลายอย่างเลยทีเดียวนะนี่... สู้ๆๆนะโรส


sai 8 มี.ค. 2555, 22:56:07 น.
ซีเซียน่ารักอ่ะ แต่แอบชอบโรสตอนที่ยกให้ซีเซียจัดการโถงรับแขกดูเป็นสาวขี้เล่นดี (แอบนึกถึงพายอีกแล้ว ฮ่าาาา)


pattisa 8 มี.ค. 2555, 23:00:04 น.
หมั่นไส้ยายดาว :Sเเต่ชอบเดือน แปลกเนอะคนอยู่ด้วยกันโดนอบรมมาเหมือนกัน เเต่ทำไมต่างกันสุดขั้วแบบเนี้ย


konhin 8 มี.ค. 2555, 23:30:57 น.
อยากได้คับ ไอคอน ต้องทำยังไงเอ่ย มีเล่นเกมป่ะคะ?

บ้านโน้นนิสัยเสียอ่ะ


น้องแสตมป์ 9 มี.ค. 2555, 07:07:06 น.
แล้วอย่าให้รู้นะยัยแสงดาว ว่าต่อไปหล่อนแอบมาเจ๊าะแจ๊ะ กะซิเซียแฟนฉัน ชริ


ตุ๊งแช่ 9 มี.ค. 2555, 10:16:01 น.
งานนี้คงอลเวง อีกมีทั้งพระรอง (ร้ายหรือเปล่า) และนางร้ายอีก


anOO 9 มี.ค. 2555, 11:31:54 น.
โรสน่าจะแสดงออกว่าซิเซียสำคัญให้แสงตะวันเห็นเนอะ
จะได้เลิกหวังลมๆ แล้งๆ


ร้อยวจี 9 มี.ค. 2555, 13:11:32 น.
เด็ดขาดใช้ได้ค่ะ เรื่องมากนักก็หาลูกค้าใหม่ซะ สนุกค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account