เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 17

คราวที่แล้วลงตอนที่16เอาไว้ให้แค่ครึ่งตอนก็เลยมาลงต่อให้บวกกับตอนที่ 17 ค่ะ


“นี่คุณพยาบาลเช้าแล้วนะครับ เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ”ภาคินัยปลุกพยาบาลสาวที่เผลอหลับน้ำลายยืด


พยาบาลสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา


“ฉันง่วง ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอ”

สุชาวีลืมตาขึ้นมาจากนั้นเปลือกตาของเธอก็ปิดลงอีก


“นี่คุณตื่นเถอะ มันเช้าแล้วนะ พวกยามในไร่เมื่อคืนที่ถือปืนเดินสวนกันไปมาเกือบสิบคนก็หายไปแล้วด้วย”


พยาบาลสาวบิดไล่ความขี้เกียจออกไปจากตัวอีกสองที “ที่นี่เขาเฝ้ายามกันเฉพาะกลางคืน กลางวันก็มีนิดหน่อยเป็นปกติ” เธอลุกขึ้นและแอบมองที่ข้างหน้าต่าง

ภาคินัยก็ลอบมองออกไปข้างนอกด้วยหน้าต่างอีกบานหนึ่ง “ปลอดคน ทางสะดวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะครับคุณพยาบาล” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาวเมื่อหันไปอีกทีก็เห็นพยาบาลสาวยืนหลับพิงหน้าต่าง

“เฮ้ย! ยืนหลับเลยเหรอ มีผู้ช่วยโก๊ะๆแบบนี้ แล้วงานนี้จะรอดไหมเนี่ย” เขาไม่อยากจะเชื่อแค่ไม่กี่วินาทีเธอจะหลับได้

หญิงสาวลืมตาขึ้นทันที “นินทาระยะเผาขนเลยนะคะคุณขา ฉันไม่ได้หลับแค่ยืนทำสมาธิเฉยๆ”

“หา....ยืนทำสมาธิ” ภาคินัยทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “ยืนยังไงน้ำลายยืดเชียว”

พยาบาลสาวหน้าแดงจัด “จริงเหรอ” รีบเช็ดคราบน้ำลาย

จากนั้นทั้งภาคินัยและผู้ช่วยสาวก็ลอบออกมาจากทางหลังห้องพยาบาล เขาพบว่ามีคนอีกชุดกำลังเดินตรวจสิ่งผิดปกติภายในไร่ เขาจึงชวนเธออ้อมไปอีกทางเพื่อหลบสายตาเวรยามที่เดินสลับกันไปมาแม้จะไม่หนาแน่นเหมือนตอนกลางคืนก็ตาม

“คุณช่วยบอกผมทีสิ ตกลงที่นี่เขาขุดทองกัน หรือว่าทำไร่กาแฟ ถึงได้มีเวรยามเยอะนัก”

พยาบาลสาวแอบกระซิบ“สงสัยนายหัวจะมีอริมาก หน้าตาหล่อๆแบบนั้นฉันว่าอาจมีปัญหาเรื่องผู้หญิงคงจะฟันไม่เลือกลูกเขาเมียใคร โจทก์เลยเยอะถึงต้องมีเวรยามเฝ้ากันตลอด”


“อันนี้เรื่องจริงใช่ไหม” ภาคินัยกระซิบถามกลับ

“เปล่า เดาเอา”

ภาคินัยสั่นศีรษะก่อนจะลอบเข้าไปทางข้างหลังของบ้าน ทั้งคู่เห็นคนงานที่เริ่มทยอยเข้ามาในไร่กันบ้างแล้ว
“เรามีเวลาน้อยแล้วล่ะ รีบกันเถอะคุณพยาบาล”

“ใคร นั่นใครมาทำอะไรหลังบ้านนายหัว ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” ชายคนหนึ่งน้ำเสียงดุดันส่งภาษาใต้ระรัว ฝีเท้าหนักๆของเขากำลังก้าวเข้ามา

“คุณรีบเข้าไปช่วยแฟนก่อนตรงนี้ฉันรับหน้าเอง”

“ไม่ได้ผมจะทิ้งคุณแบบนี้ได้อย่างไร ผมเป็นคนขอร้องให้คุณมาช่วยแท้ๆ”

“อย่ามาเป็นพระเอกในเวลานี้ได้ไหม คนงานที่นี่รู้จักฉันดีในฐานะพยาพบาลของพวกเขา”


“แต่วันนี้มันไม่ใช่เวรทำงานของคุณไม่ใช่เหรอ เขาจะจับพิรุธคุณเอาได้” ภาคินัยไม่ยอมทิ้งพยาบาลสาวที่อุตสาห์พามาส่ง

“ฉันสวยและฉลาดเอาตัวรอดได้ คุณรีบไปช่วยแฟนคุณเถอะ เดี่ยวนายหัวจับปล้ำไม่รู้ด้วยหมอนั่นหื่นมาก เดี๋ยวถ้าเกิดแฟนคุณเป็นอะไรคุณจะเครียดจนเส้นโลหิตในสมองแตก คราวนี้ฉันก็ไม่ได้นิยายอ่านฟรีตลอดชีพพอดี”พยาบาลสาวไม่พูดเปล่าแต่ดันชายหนุ่มเข้าให้เข้าไปในประตู จากนั้นเธอก็วิ่งออกไปรับหน้าคนที่กำลังจะเดินมาถึง

“ใครวะ ออกมาเดี๋ยวนี้เลยหรือว่าเป็นขโมย ออกมาๆ ไม่อย่างนั้นยิงไส้แตกแน่” ชายร่างสูงใหญ่กำลังเดินเข้ามาและเลี้ยวเข้ามาที่ประตูทางเข้าหลังบ้านนายหัวเมฆา

“ ใจเย็นๆ สิจ้ะ นี่พยาบาลสุชาวีเอง”พยาบาลสาวเดินออกไปพร้อมส่งยิ้มหวาน

“คุณๆ พยาบาลมาทำอะไรตรงนี้ครับ” เขาถามและลดปืนลง


“ฉันมีธุระกับนายหัวเมฆา”

นายปี มองด้วยความสงสัยไม่เคยเห็นคนทั้งคู่จะมีธุระคุยกันมาก่อน เรื่องของห้องพยาบาล และพยาบาลที่จ้างมาพิเศษเพื่อดูและผู้ป่วยในไร่ขึ้นตรงกับเลขาแก้ม

“คุณพยาบาลมีธุระกับนายหัวเหรอครับ เอ...แต่วันนี้ไม่ใช่วันทำงานของคุณพยาบาลนี่ครับ” เขาสังเกตเห็นเธออยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยืน

พยาบาลหัวไวรีบแก้ตัว “ไม่ใช่เวรฉันหรอก แต่ฉันมีธุระจะคุยกับนายหัวเมฆา พอดีว่าฉันจะมาถามนายหัวเรื่องยาที่ให้สั่งซื้อว่าต้องการให้สั่งยาอะไรมาเพิ่มในห้องพยาบาลอีกหรือเปล่า”

นายปียิ้มกว้าง “อย่างนั้นเองเหรอครับ แต่ว่าคุณพยาบาลควรนัดกับเลขาของนายก่อนจะดีกว่า นายหัวไม่ชอบให้ใครบุกมาพบท่านโดยไม่ได้นัดหมาย

พยาบาลสาวสวยยิ้มเจื่อนๆ “ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นต้องขอโทษด้วย ฉันไม่รู้จริงๆ”

“แต่ตอนนี้ผมว่านายหัวไม่มีเวลาพบคุณหรอก สองวันก่อนนายพานางแบบคนหนึ่งมาที่นี่จนถึงวันนี้นายยังไม่ยอมเข้าไปในไร่เลยเอาแต่อยู่ในบ้าน” นายปีลอบยิ้มแบบคิดลึก


พยาบาลสาวหัวเราะแหะๆรู้ทันความคิดนายปี“ไม่อย่างนั้นฉันไม่กวนนายหัวของนายปีดีกว่า ฉันไปถามคุณแก้มเอาก็ได้” พยาบาลสาวรีบร้อนขอตัวแยกจากนายปี ส่วนนายปีการ์ดของนายหัวเมฆาก็มองตามร่างบางนั้นไปอย่างสงสัยเพราะหญิงสาวดูมีพิรุธ

+++++++++++++++++++++++++

“ตกลงคุณจะหายโกรธผมได้หรือยัง” นายหัวเมฆายื่นดอกไม้ไปตรงหน้าพีระดาอีกครั้งก่อนจะส่งตาหวานให้เธอ

“คุณไม่ต้องให้ดอกไม้ฉัน ไม่ต้องทำอาหารให้ทาน ไม่ต้องเสียเวลามาร้องเพลง วิธีง่ายๆที่จะทำให้ฉันหายโกรธคุณก็คือพาฉันไปส่ง ฉันอยากกลับบ้าน”

“เรื่องนั้นผมทำให้แน่ๆ แต่ตอนนี้คุณช่วยบอกผมหน่อยสิว่าคุณให้อภัยผมแล้ว” ด้วยความเคยชินที่อยู่ใกล้สาวสวยที่ไรมือไม้ของเขามันจะต้องอยู่ไม่สุกมือหนาใหญ่นั้นจึงวางแหมะไปที่เอวขอดกิ่วเมื่อเห็นว่าเธอพยายามจะเดินหนี


“นะครับคนสวย”


เธอปัดมือเขาออก “ถอยไปเลย”

“กลัวอะไรกันครับ คืนนั้นเรายังนอนด้วยกันทั้งคืน”

“ฉันรู้ว่าคืนนั้นระหว่างเราไม่มีอะไรกัน และตอนนี้ช่วยถอยออกไปก่อน และขอโทรศัพท์ของฉันคืนด้วย”
นายหัวเมฆายังมองหญิงสาวด้วยสายตาพึงพอใจ มีแววกรุ้มกริ่มอยู่ในนั้น

“คุณรู้ไหมว่าผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยและทันคนเหมือนกับคุณเลย ถ้าคุณไม่รังเกียจคนหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ ฐานะกำลังดี มีที่ดินเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็เราลองมาคบกันดูไหม”

“หา...........อะไรนะ ฉันหูฟาดไปไหมนี่คุณมาชวนฉันเป็นแฟนเอาดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ”

นายหัวหนุ่มหน้าเข้มพยักหน้า


“ใช่ บางทีความรักก็ไม่ต้องการเวลาหรอกคุณ ผมจริงจังนะเรื่องนี้ที่พูด”

“แต่ฉันไม่ถูกใจคุณ เพราะฉันมีคนที่ถูกใจอยู่แล้ว” พีระดาตอบตามจริงไม่อยากยืดเยื้อเพราะท่าทางนายหัวเมฆาจะเป็นพวกปากว่ามือถึง

นายหัวเมฆาเหมือนถูกตบหน้า เขายิ้มน้อยลงกว่าเดิม “ไอ้หมอนั่นที่เป็นข่าวกับคุณหรือเปล่า”เขาถามแบบต้องการคำตอบ

“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามคุณ”

“ต้องใช้แน่ๆ เขาขยับเข้าไปใกล้ๆเธอ ผมว่าผมไม่มีอะไรแพ้ไอ้หมอนั่น เว้นแต่ว่าคุณไม่ชอบของดำ” “ฉันไม่ชอบการจู่โจมของคุณแบบนี้ด้วย ปล่อยนะ”พีระดาผลักอกเขาเต็มแรง

“เมื่อคืนคุณทำให้ผมไม่ได้นอนเลยรู้ไหม ผมคิดถึงกลิ่นกายคุณ คิดถึงผมหอมๆของคุณ” เขายิ่งชิดใกล้เธอ มือของเขาเอื้อมมาจับปลายผมยาวสลวยของเธอไปจูบและสิ่งที่พีระดาไม่คาดคิดก็คือเขากำลังจะจูบเธอ

“ถอยไปนะ ถอยไปห่างๆฉันอย่าทำแบบนี้ ฉันไม่ใช่ของหวานของคุณ”

แต่คนที่กำลังตกหลุมรักอย่างจังไม่ยอมหยุด ด้วยนิสัยที่เคยตัวผู้หญิงทุกคนต่างวิ่งเข้ามาหาเขา ทำให้นายหัวเมฆาเผลอตัวทำอะไรห่ามๆคิดจะจูบหญิงสาวเอาเสียเดี๋ยวนั้น เมื่อริมฝีปากร้อนราวกับเปลวเพลิงกำลังจะทาบทับไปบดขยี้ที่ริมฝีปากอิ่มนุ่ม นายหัวหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในเพลิงรักก็รู้สึกว่าร่างกายอันใหญ่โตแข็งแรงของเขาถูกกระชากอย่างแรงด้วยพลกำลังอันมหาศาลทำให้เขาห่างออกจากร่างบางที่เป็นชนวนจุดไฟปรารถนาจากนั้นนายหัวเมฆาก็รู้สึกแรงกระแทกที่หลังอย่างรุนแรงเมื่อเขาถูกเหวี่ยงกระเด็นไปกระแทกกับตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่

“ไอ้เลว มึงตาย”ภาคินัยที่ร่างสูงใหญ่ทัดเทียมนายหัวเมฆา แต่ด้วยอารมณ์แห่งความโกรธทำให้เขาได้เปรียบตามติดขึ้นไปค่อมบนตัวเจ้าของไร่หนุ่มและชกเข้าที่โหนกแก้มและเบ้าตาของนายหัวเมฆาอย่างแรงหมัดหนักๆของเขาทำให้นายหัวถึงกับตั้งหลักไม่อยู่

“มึงเป็นใครวะ เข้ามาที่นี่ได้ไง” นายหัวเมฆาพยายามจะสลัดคนบุกรุกให้หลุดออกจากตัวแต่เป็นไปได้ยาก

“คุณภาคินัย!” พีระดามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่คิดเลยว่าเขาจะบุกมาถึงนี่เธอแอบพอใจอยู่ลึกๆ เมื่อเห็นว่าคนบ้าบิ่นอย่างภาคินัยที่กำลังโกรธสุดขีดกำลังยกสตูลขึ้นมาเพื่อฟาดไปที่ศีรษะของนายหัวเมฆาพีระดาจึงร้องห้ามปรามเสียงดัง

“อย่านะคะ ภาคินัยวางมันเถอะค่ะ ปล่อยเขาเถอะฉันขอร้อง”

สตูลตัวใหญ่ถูกยกค้างอยู่กลางอากาศ เขามองกลับมาที่หญิงสาว ส่วนนายหัวเมฆาที่ยัง อึ้งๆงงๆเบลอๆอยู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาคิดว่าตัวเองคงหัวแบะไปแล้ว ไอ้หมอนี่เอาพลังช้างสารมาจากไหนไม่รู้

“เฮ้ย ปล่อย” นายหัวเมฆาสลัดภาคินัยได้พ้นตัว และถอยไปติดชิดกำแพง


“ภาคินัยถอยไปยืนเป็นกำแพงบังร่างพีระดาเอาไว้ เขาหันไปมองหน้าเธอ “ทำไมไม่ให้ผมฆ่ามัน มันทำอะไรคุณบ้าง”เขาเพิ่งมองเห็นหน้าเธอชัดๆจึงเห็นว่าที่ลำคอขาวหยวกมีลอย เขียวคล้ำ บางจุดก็เป็นสีม่วงเป็นดวงช้ำทำให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้ เขากำหมัดแน่นและวิ่งเข้าไปหานายหัวเมฆาทันทีเกิดมาเป็นตัวตนจนถึงทุกวันนี้ไม่มีอะไรจะทำให้เขาโกรธได้เท่านี้มาก่อน แจกันที่วางอยู่ตรงโต๊ะใกล้กับที่นายหัวเมฆายืนนั้นถูกหยิบขึ้นมาและฟาดใส่หัวของคนที่ทำร้ายหัวใจเขาทันที

“ไอ้สารเลว มึงสร้างตราบาปให้เธอ”

พีระดาตาค้าง “ภาคินัย นายหัวเมฆา!”

“ฉันไปทำอะไรให้แกวะ” นายหัวหนุ่มคลำศีรษะและพบว่ามือของเขาเปื้อนเลือดแดงสด และมันกำลังไหลย้อยลงมาเต็มหน้าของเขา จากนั้นร่างสูงใหญ่ของนายหัวเมฆาก็ล้มลงกระแทกกับพื้นปูนดังตุ๊บใหญ่ๆ

“ว้าย! นายหัว” พีระดายกมือขึ้นปิดปาก เธอกำลังวิ่งไปดูเขา

“ไปกันเถอะครับ เร็วเข้า” ภาคินัยกึ่งลากกึ่งจูงหญิงสาวให้ตามออกไป

“เดี๋ยวๆ คุณภาคินัยเขาโดนขนาดนั้นจะรอดไหม เราเรียกใครมาช่วยเขาก่อนดีกว่า” พีระดาไม่มีโอกาสอธิบายว่าเป็นการเข้าใจผิดกันและเธอก็ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย นอกจากความพิสดารที่นายหัวเมฆาคิดจะแกล้งเธอ

“ผมไม่สับมันเป็นหมื่นชิ้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว ปล่อยให้เลือดชั่วของมันไหลออกหมดตัวก็ดีแล้ว ตอนนี้ผมจะพาคุณไปแจ้งความ ต่อจากนั้นผมจะพาตำรวจมาลากคอมัน”

“คือว่ามันไม่ใช่...”พีระดาพยายามค้าน “คือเรื่องมัน...”

“ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดี แต่ตอนนี้ห้ามขี้สงสารแบบนางเอก คุณเป็นผู้เสียหายเราต้องเอาไอ้คนเลวไปลงโทษ” เขาไม่พูดเปล่าแต่รีบดึงเธอออกไปที่นั่น


เขาลอบพาเธอหลบออกมาจากหลังบ้าน และมองหาพยาบาลสาวเขาไม่คิดจะทิ้งเธออยู่ที่นี่เพราะเธออุตสาห์ช่วยเขา
“คุณมองหาใคร”

“พยาบาล”

“ดีเลยค่ะ ปล่อยไว้นานนายหัวเมฆาต้องเสียเลือดหมดตัวตายแน่q”

“ไม่ใช่ครับ ใครบอกว่าผมจะช่วยไอ้คนเลวนั่นผมจะตามหาพยาบาลเพราะเธอเป็นคนนำทางมาที่นี่ ผมกลัวว่าทิ้งเธอไว้ที่นี่อาจจะเป็นอันตราย”

“พยาบาลอะไรกันคะ”

“เอาไว้ผมจะอธิบายให้ฟัง” สายตาเขามองไปเห็นพยาบาลสาวกำลังยืนคุยกับผู้หญิงสวยคนหนึ่งซึ่งเธอเป็นเลขาของนายหัวเมฆา และสุชาวีหันหน้ามาทางเขาพอดี ภาคินัยที่จูงมือพีระดาหลอยู่ในมุมอับกวักมือเรียกสุชาวี เขาไม่อยากให้เธอต้องเดือดร้อนเพราะเขาหากถูกจับได้ พยาบาลสาวเห็น

“พยาบาลสาวส่งซิก สั่นหัวไม่ไปด้วยสื่อความหมายให้เขาพาแฟนสาวที่จูงอยู่หนีไปเลย”

แต่ภาคินัยยังเล รู้สึกว่าถ้าเธอต้องเดือนร้อนเพราะเขา เขาคงไม่มีความสุข พยาบาลสาวเห็นดังนั้นจึงโบกมือไล่ เลขาแก้มงงกับอาการของคุณพยาบาล
“คุณพยาบาลเป็นอะไรไปเหรอคะ” เลขาหน้าสวยถาม

พยาบาลสุชาวียิ้มแหะๆ “เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร เมื่อวันก่อนดิฉันไปอบรมมาคุณหมอแนะนำว่าเราไม่ควรอยู่เฉยๆควรขยับร่างกายทุกห้านาที” จากนั้นเธอก็โบกมือไล่ให้ภาคินัยหนีออกไป

เลขาสาวรู้สึกว่าวันนี้พยาบาลสุชาวีดูแปลกๆแต่ก็หัวเราะและเกาศีรษะแบบงงๆ

“เราไปกันเถอะครับ เธอคงเอาตัวรอดได้”

“คุณภาคินัยคะ เราไม่จำเป็นต้องหนีก็ได้” พีระดาพยายามอธิบายอยู่ตลอดเวลา ภาคินัยเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งที่เป็นยามของไร่คนเดียวกับที่เห็นเมื่อคืนนี้ จึงรีบจูงมือพีระดาหนี

“ไปเถอะครับไม่มีเวลาแล้ว เรารีบออกไปก่อนเรื่องอื่นค่อยคุยกันที่หลัง”
++++++++++++++++++++++++++++++


ตอนที่ 17



เสียงโหวกเหวกโวยวายไปทั่วไร่ นั่นเป็นเพราะนายหัวเมฆาเจ้านายใหญ่แห่งไร่กาแฟแสงตะวัน ถูกลอบทำร้ายจนสลบเลือดนองเต็มพื้นห้อง แม่บ้านเป็นคนมาพบเมื่อเธอจะตั้งโต๊ะอาหารเช้าและมาเชิญนายหัวไปทานอาหาร

“ใครก็ได้ตามหมอเร็วเข้านายหัวถูกลอบทำร้าย”

นายปีวิ่งตะโกนบอกคนในไร่เมื่อเห็นเลขาแก้มกับพยาบาลสุชาวียืนคุยกันอยู่จึงรีบวิ่งเข้าไปแจ้งข่าว “คุณแก้มครับ แย่แล้วนายหัวถูกทำร้าย ไม่รู้ฝีมือใครแต่ผู้หญิงที่นายหัวพามาก็หายตัวไปด้วยอาการหนักสลบอยู่กับพื้น ทำอย่างไรดีครับ”


“ตายแล้ว!” เลขาสาวอุทาน นึกเป็นห่วงเจ้านายหนุ่ม

“ตายแล้ว!” พยาบาลสุชาวีจึงต้องทำทีอุทานตาม ทั้งๆที่รู้ดีว่าเป็นฝีมือนักเขียนหนุ่มคนโปรด

“ถ้าอย่างนั้นนายปีรีบไปตามหมอ ตามพยาบาลเร็วเข้า” เลขาสาวสั่งจากนั้นนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าคือพยาบาล



“นี่ไงพยาบาล ไปกันเลยค่ะคุณสุชาวีนายหัวแก้มเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” พูดจบเธอก็กระชากพยาบาลสาวตรงหน้าตามไปเดี๋ยวนั้น

“ตามหมอดีกว่าไหมคะ” สุชาวี รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ แต่คิดอีกทีนายหัวเมฆาอยากไปฉุดแฟนชาวบ้านมาแบบมั่วๆก็สมควรจะโดนแล้ว

“ก็คุณพยาบาลช่วยตรวจดูอาการขั้นพื้นฐานก่อนสิคะ ถ้าหนักหนาสาหัสเกินฝีมือคุณพยาบาลจะรักษาได้เราก็ต้องรีบส่งนายหัวไปโรงพยาบาล”

++++++++++++++++++++++


ภายในห้องนอนของนายหัวในเวลานี้ทั้งพยาบาล เลขา สาวใช้ การ์ดอีกสี่ห้าคนออกันแน่นอยู่ในห้องด้วยความเป็นห่วงทุกคนมีสีหน้าเป็นห่วงนายหัว


“มือหนักเอาการแหะ....” นางพยาบาลสาวพูดเบาๆ จากนั้นก็รีบเช็คอาการของคนเจ็บตามที่ได้เรียนมา

“คุณๆ” เธอตีที่ต้นแขนเขาเบาๆ เป็นการเช็คความรู้สึกของคนเจ็บว่ารู้ตัวอยู่ไหมไม่กี่ทีเขาก็รู้สึกตัวทั้งที่หัวยังโฉกไปด้วยเลือด

แล้วสิ่งที่พยาบาลสาวไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นายหัวหนุ่มลุกขึ้นมานั่งอย่างงงๆและดึงเธอไปกอดทันที คนทั้งห้องอ้าปากข้างมองพุ่งเป้าม่ที่คนทั้งคู่

“อย่าไปนะ พีระดาอย่าไป” นายหัวเมฆาเห็นหน้าพยาบาลคนสวยเป็นพีระดาจึงคว้าเอวเธอไปประชิดและกำลังจะจุมพิต

“ว้าย! คนบ้าไปไกลๆฉันนะ ชีกอแบบนี้ล่ะสิถึงโดนตีหัวแตก” พยาบาลสาวลืมตัวว่านายหัวกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ ทั้งชีวิตพยาบาลไม่เคยถูกคนไข้ลวนลามมาก่อนเธอเลยใช้อาวุธที่มีมาแต่กำเนิดกำปั้นข้างขวาเสยเข้าที่ปลายคางของนายหัวหน้าเข้ม

“นายหัวของแก้ม!” เลขาสาวตกใจเมื่อเห็นว่าคุณพยาบาลชกเจ้านายเธอหมัดเดียว นายหัวเมฆาก็ฟุบลงไปหลับสนิทอยู่ที่พื้นเป็นครั้งที่สอง เลขามองหน้าพยาบาลสุชาวีด้วยอาการตาค้าง

“ขอโทษค่ะคุณแก้ม ดิฉันลืมตัวไปก็นายหัวของคุณกำลังจะลวนลามฉันนี่ค่ะ ฉันเลยต้องป้องกันตัวนิดนึง”

พยาบาลสาวมองคนไข้ที่นอนหลับสนิทอยู่กับพื้น นอกจากจะหัวแตกตอนนี้ที่จมูกกำลังมีเลือดไหลย้อยออกมาเธอยิ้มเจื่อนๆ มีหวังจบงานนี้เขาคงไล่เธอออก หมดกันความหวังที่จะหารายได้พิเศษเพื่อเก็บเงินซื้อรถคันใหม่
+++++++++++++++++++++++++++++++



หลังจากออกมาจากไร่แสงตะวันได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ภาคินัยจะพาเธอหนีเพราะเขาเตรียมการเอาไว้แล้ว ถ้าเป็นเขาคนเดียวรับรองว่าต้องสู้ให้รู้ดำรู้แดงกับนายหัวอย่างน้องก็ตายกันไปข้าง แต่ทว่างานนี้เขาบุกมาคนเดียวถ้าเขาเป็นอะไรไปหญิงสาวข้างกายจะลำบาก เรื่องล้างแค้นให้พีระดาเขาทำแน่ยิ่งเห็นรอยเขียวคล้ำที่ลำคอเธอ ภาคินัยยิ่งนึกแค้นและสงสารหญิงสาว เขาลอบมองยามที่เธอเผลอ แต่พีระดาก็แอบเห็นและรู้ดีว่าเขากำลังคิดอะไร เพราะเป็นใครก็ต้องคิดจึงทำให้พีระดาอยากจะทดสอบอะไรบางอย่าง บางทีถ้าเขาผ่านการทดสอบข้อสำคัญข้อนี้ของเธอไป ความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำให้เธอขุ่นข้องหมองใจเธอยินดีจะลืมมันไปซะ เพราะถึงอย่างไรหญิงสาวก็รู้ใจตัวเองดีว่าเธอไม่เคยเหลือพื้นที่สำหรับหัวใจให้ใครนอกจากเขา ใครจะเชื่อว่าสาวสวยเลือกได้อย่างเธอจะหนักแน่นและจริงจังกับความรักครั้งแรกมากมายขนาดนี้


“ฉันรู้นะคะ ว่าคุณกำลังคิดอะไรคุณไม่อยากถามเหรอว่าที่ฉันหายมาเป็นอาทิตย์มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง” ภาคินัยรับรู้ว่าหญิงสาวกำลังอยากจะบอกอะไร เขาไม่อยากให้เธอเอ่ยมันออกมาเขาไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะรับไม่ได้ แต่ไม่อยากให้พีระดาต้องสะเทือนใจ

“ตอนนี้คุณปลอดภัยคื่อสิ่งที่ผมดีใจที่สุด”เขากุมมือเธอแน่นขณะขับรถไปตามทางอันสลับซับซ้อน

“เขา.....” พีระดาแกล้งสะอื้น ภาคินัยหยุดขับรถทันที

เขาหันไปหาหญิงสาวไม่พูดอะไรแต่ดึงเธอเข้าไปกอดแนบแน่น แน่นที่สุดจนแทบจะเป็นคนๆเดียวกัน “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณผมรับได้ทั้งนั้น” น้ำเสียงหนักแน่น และมั่นคง เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าเขาจ้องเข้าไปในดวงตาคม

“แม้ว่าฉันจะสูญเสียพรหมจรรย์อันมีค่าไปแล้วเหรอคะ” หญิงสาวสวนกลับน้ำเสียงกระชากอารมณ์ราวกับว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ที่แท้เธอแต่งขึ้น

“จะสนใจมันทำไมกับไอ้เยื่อบางๆเพียงไม่กี่เส้น ไม่ใช่มันไม่ดีแต่ไม่มีก็ได้ ผมรักคุณที่คุณเป็นคุณ ตัวตนของคุณ เรื่องอื่นๆผมไม่ใส่ใจ” ในใจเจ็บแค้นอยากกลับไปฆ่านายหัวเมฆาที่มันเหยียบย่ำหัวใจเขา แต่จำต้องเก็บความแค้นเอาไว้ในใจและปลอบใจหญิงสาว
“แต่ฉันสนใจ ฉันกลายเป็นผู้หญิงมือสองคงไม่มีใครต้องการ”


“มีสิ คนตรงหน้าคุณไงที่ต้องการ แต่งงานกับผมนะพีระดา ผมขอโทษในเรื่องที่ผ่านมาที่เคยทำไม่ดีกับคุณแต่ผมรักคุณจริงๆนะ ผมไม่ขอสาบานแต่ยืนยันต่อหน้าคุณว่าผู้ชายคนนี้รักคุณสุดหัวใจ”

พีระดา ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเขาจะเผยความในใจออกมามากมายขนาดนี้ แถมขอเธอแต่งงานอีกด้วยเธอเลยตกตะลึงอึ้งไปอยู่สักพักก่อนจะปรับให้เป็นปรกติ

“นะครับ ที่รักเรื่องอื่นช่างมันขอให้ชาตินี้เรามีกันสองคน อยู่ด้วยกันตลอดไปเท่านี้ ผมต้องการเท่านี้จริงๆ” เขาย้ำ นัยน์ตาคู่คมจ้องมองเข้าไปในดวงตาไหวระริกของหญิงสาว


“คุณอาจจะเสียใจก็ได้ ขอแล้วขอเลยนะคะ แน่ใจเหรอคะว่าจะขอฉันแต่งงาน”


“ตั้งแต่ผมเกิดมาไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน”

พีระดามองหน้าเขาค้างอยู่อย่างนั้น ต่อจากนั้นอีกห้านาทีต่อมา

“ค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ ฉันแต่งแน่” พีระดากอดกลับเขาแน่น หญิงสาวดีใจจนบอกไม่ถูกแม้ว่าเคยโกรธเขาแต่ทว่าเมื่อฟังในสิ่งที่เขาพร่ำบอก สายตาที่มั่นคง เธอชื่อว่าทั้งหมดคือความจริง จะเล่นตัวจะยืดเยื้อไปทำไมในเมื่อเธอยกหัวใจไปให้เขาตั้งนานแล้ว

“ผมดีใจที่สุด” ภาคินัยกอดหญิงสาวแน่นกว่าเดิม จนร่างบางแทบจะหายใจไม่ออก

“โอ้ย! ปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันหายใจไม่ออกแล้วจะไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดเจ้าสาวนะคะ”

“ขอโทษครับ ผมขอโทษผมดีใจมากไปหน่อย” เขาคลายอ้อมกอดลง +++++++++++++++++++++++++++



หลังจากภาคินัยพาพีระดากลับไปถึงกรุงเทพฯเวลาต่อมาอีกไม่นานคนทั้งคู่ก็ก็ประกาศข่าววิวาห์ซึ่งมันเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่หลายวันก็ฝ่ายว่าที่เจ้าสาวเป็นถึงนางแบบน้องใหม่สุดฮ็อตและกำลังมีข่าวฉาวคลุมเคลือว่าเธอท้องหรือไม่ ส่วนฝ่ายชายก็เป็นนักเขียนหนุ่มชื่อดังของยุคนี้ จึงเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง



กองทัพนักข่าวห้อมล้อมพีระดา และภาคินัยจนคนทั้งคู่แทบจะหายใจไม่ออกจากการเบียดเสียดของนักข่าวเพื่อแย่งกันสัมภาษณ์ ในขณะที่ภาคินัยก็ช่วยกันคนรักไม่ให้นักข่าวลุกเข้ามาประชิดตัวเธอมากไปนัก

“น้องพรีมคะ คุณภาคินัยคะ ช่วยตอบหน่อยค่ะว่างานแต่งงานสายฟ้าแลบนี้ น้องพรีมท้องก่อนแต่งหรือเปล่า”มันเป็นคำถามยอดฮิตของพวกนักข่าวที่ชอบถามยามที่คู่รักคนดังแต่งงานกัน บางครั้งพวกเขาควรจะคิดถึงจิตใจคนถามบ้างว่าจะรู้สึกอย่างไรพีระดาคิด แต่เธอไม่สนใจหรอกเพราะเธอกับภาคินัยรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร

พีระดายิ้มหวานส่งให้บรรดานักข่าว“ถ้าพวกพี่อยากรู้ว่างานนี้พรีมท้องก่อนแต่งจริงหรือเปล่า ก็ต้องช่วยกันนับนะคะว่าพรีมจะคลอดออกมาก่อน 9 เดือนไหม”

อาจจะเป็นคำตอบแรงๆ แต่มันก็ชัดเจนดี ภาคินัยลอบยิ้มเขาบอกเธอแล้วว่าเขาจะเป็นคนให้สัมภาษณ์เองและจะขอโทษบรรดานักข่าวในเรื่องที่เขาก่อไว้ที่ให้สัมภาษณ์ไปครั้งที่แล้วว่าพีระดาอาจจะตั้งครรภ์แต่หญิงสาวไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นเพราะความจริงย่อมเปิดเผยตัวของมันเอง

“แต่งงานแล้วจะพาน้องพรีมไปฮันนีมูนที่ไหนคะคุณภาคินัย”

“เมืองไทยนี่แหละครับสวยที่สุด”

“คู่อื่นๆเขาไปฮันนีมูนกันต่างประเทศทั้งนั้น อย่างน้อยที่สุดก็เกาหลีนะคะ” นักข่าวสำนักพิมพ์หัวสีถาม

“นั่นคู่อื่นครับ ส่วนคู่เราขอเที่ยวเมืองไทยให้ครบก่อนจะดีกว่า ผมว่าประเทศไทยก็สวยไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ”

จากนั้นก็ได้ยินเสียงฮือฮาจากบรรดานักข่าว

“แหม...เป็นคู่ที่น่ารักจัง อย่างนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคงจะต้องมาเชิญคุณไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แน่ๆเลย”

“เราสองคนยินดีนะครับถ้าเขาต้องการ”

ต่อจากนั้นนักข่าวก็ถามเรื่องชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว เนื่องจากฝ่ายชายรวยติดอันดับต้นๆมหาเศรษฐีในเมืองไทยชุดของทั้งคู่คงจะสั่งตัดด้วยราคาแพงลิบลิ่วราคาคงจะเฉียดล้าน แต่คนทั้งสองกลับให้สัมภาษณ์ว่าใช้บริการห้องเสื้อไทยด้วยราคาหลักหมื่นเท่านั้น การสัมภาษณ์ดำเนินไปต่ออีกราวๆเกือบสิบห้านาทีกว่าที่คนทั้งคู่จะฝ่าวงล้อมกองทัพนักข่าวออกมาขึ้นรถส่วนตัวได้

ภายในรถคันหรู แอร์เย็นฉ่ำ “เหนื่อยไหมครับที่รัก”

“ไม่หรอกค่ะ”

“เราไปหาอะไรร้อนๆทานกันดีไหมแล้วผมค่อยขับรถไปส่งคุณที่บ้าน”

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ กำลังหิวเลย”พีระดายิ้ม

“อยากทานอะไรครับ”

“ชาบู ดีไหมคะ ร้อนๆดีเรียกพลัง วันนี้รู้สึกเหนื่อยๆหมดแรงค่ะ”

“ดีครับ ถ้าอย่างนั้นไปกันเลย” ภาคินัยขับรถออกไปจากสถานที่จัดงานซึ่งวันนี้พีระดามาเดินแบบที่นี่คนทั้งคู่ไม่ได้เห็นสายตาคู่หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในรถและมองตามรถคนทั้งคู่ไป จากนั้นเจ้าหล่อนก็หันไปคุยกับเพื่อนสาว

“ยัยกุ๊กไก่หล่อนเคยเห็นหม้ายขันหมากไหมย๊ะ”

“หม้ายขันหมาก!” เพื่อนสาวหน้าแอ๊บแบ๊วทำท่างง

“นังพีระดาจะต้องเป็นหม้ายขันหมาก อย่างแน่นอนฉันสาบาน”

“นี่ยัยเขมมิกา เธอยังไม่ตัดใจจากคุณภาคินัยอีกเหรอเขาจะแต่งงานอยู่อีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้าแล้วนะ”

“ถ้าเขมมิกาไม่ได้ ก็ต้องทำลายให้ย่อยยับ นี่คือคติประจำใจของฉัน” นางแบบสาวเหยียดยิ้ม

“ชี ร้ายมาก” เพื่อนสาวลอบกลืนน้ำลาย ++++++++++++++++++++++++++++

ณ ไร่แสงตะวัน



อากาศยามเช้ายามพระอาทิตย์ค่อยๆลอยขึ้นมบนขอบฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง เช้านี้อากาศดีเย็นสบายไม่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนไม่ได้ร้อนอบอ้าว แต่ไม่รู้ทำไมนายหัวเมฆาถึงได้ใจร้อนและอารมณ์ร้ายนัก เอกสารกองโตบนโต๊ะทำงานที่เจ้าตัวไม่ยอมหยิบจับมาหลายวันถูกปัดลงไปจนกระจายเต็มพื้นห้องทำงาน เขายืนขึ้นท้าวเอวสองข้างและเดินไปมองที่หน้าต่างวิวตรงหน้าจะสวยเพียงไรก็ไม่ทำให้เขาใจเย็นได้ เพราะหลังจากที่ฟื้นมาได้เมื่อหลายวันก่อนและต้องรักษาตัวจนอาการดีขึ้นเหลือเพียงรอยแผลที่ศีรษะซึ่งยังไม่แห้งดี นายหัวเมฆาก็ได้ข่าวว่าพีระดาหญิงสาวที่เขาจับมาเพราะความเข้าใจผิดกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในเดือนหน้ากับนายภาคินัย


มันคงจะไม่เป็นอะไรถ้านายหัวเมฆาไม่ได้กำลังตกหลุมรักเธอ ที่สำคัญงานนี้นายหัวเมฆาเหมือนถูกล้วงคองูเห่าเวรยามตั้งมากมายทำอะไรไม่ได้ปล่อยให้คนข้างนอกมาตีหัวเขาแล้วหนี แสดงว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้ยิ่งคิดยิ่งแค้นวันนี้ล่ะเขาจะพักงานในไร่ทั้งหมดและจะสอบสวนคนทั้งไร่จะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันเป็นคนช่วยนายภาคินัย


เขาเดินไปยกหูโทรศัพท์ และกดหาเบอร์เลขาสาว “คุณ แก้มวันนี้สั่งคนงานทั้งไร่ให้หยุดงานผมจะสอบสวนทุกคนด้วยตัวเอง” น้ำเสียงบอกความหงุดหงิดซึ่งอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เลขาหน้าหวานก็เข้าหน้าเจ้านายหนุ่มไม่ติดเลย


“ได้ค่ะ เจ้านายสั่งยังไง ได้อย่างนั้นเลยค่ะ” แต่เวลานี้นายหัวเมฆาไม่มีอารมณ์จะคุยหยอกด้วย เขาตัดสายทันทีจากนั้นก็กระชากโทรศัพท์และปาเข้าผนังจนมันล่วงหล่นมาพังที่พื้นหูโทรศัพท์ไปทาง เครื่องโทรศัพท์ไปอีกทาง

“พีระดา ผมไม่ปล่อยคุณแต่งงานไปกับใครๆง่ายแบบนี้หรอก ผมยังไม่ได้สารภาพรักกับคุณเลย ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังรักใคร แต่คุณคือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรัก”


นายหัวเมฆาสอบสวนคนงานในไร่ตั้งแต่เช้าจดเย็นไม่ยอมกินอะไร ผลที่ได้คือไม่พบความผิดปกติของคนงาน คนอื่นใจนไร่นักแต่นายปีบอกกับเขาว่าวันที่เกิดเหตุมีเรื่องผิดสังเกตคือพยาบาลที่ไม่ได้เข้าเวรในวันนั้นมาที่ไร่และมาป้วนเปี้ยนลับๆล่ออยู่ที่หลังบ้านของเขา พยาบาลคนนี้เป็นพยาบาลใหม่เขาเองก็ไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนหรือบางทีอาจเคยเห็นแต่ก็จำไม่ได้ แต่ที่ทำให้เขารู้สึกโกรธเธอขึ้นมาแม้ว่ายังไม่ได้เรียกตัวมาสอบสวนเรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้คนนอกบุกเข้ามาทำร้ายเขาได้ก็คือ เธอนี่แหละเป็นคนต่อยเขาจนจมูกโด่งที่ภาคภูมิใจแทบจะหักตอนนี้มันยังเขียวๆ และช้ำอยู่เลย

“เลขาแก้ไปตามพยาบาลสุชาวีมาพบผมที่ห้องทำงาน”เขาสั่งในขณะที่สั่งให้ลูกน้องคนอื่นๆไปทำงานของตัวเองตามปกติได้แล้ว

“วันนี้ไม่ใช่เวรของคุณพยาบาลสุชาวี เธอไม่เข้ามาที่นี่หรอกค่ะ วันนี้เธอทำงานอยู่ที่อนามัยคงจะเลิกงานตามเวลาราชการ”

“ถ้าอย่างนั้นโทรไปบอกเธอว่าหลังเลิกงานให้มาพบผมที่นี่ ถ้าเธอไม่มาก็ไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีกเลย”

“ก็ได้ค่ะ นายหัวเดี๋ยวแก้มจะโทรบอกเธอให้” เลขาสาวนึกสงสารพยาบาลคนสวยอยู่ในใจเพราะรู้ดีว่าเจ้านายอารมณ์ร้อนแค่ไหน แต่ถ้ายามเขาอารมณ์ดีก็เป็นเจ้านายที่น่ารักมากทีเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++




อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 มี.ค. 2555, 16:34:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 มี.ค. 2555, 16:34:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 4414





<< ตอนที่16 (เต็มตอนแล้วค่ะ)   ตอนที่ 18 >>
anOO 16 มี.ค. 2555, 19:39:27 น.
จับยัยเขมไปให้นายหัวดีไหมเนี้ย


konhin 16 มี.ค. 2555, 19:40:26 น.
อุปสรรค์เยอะจริงๆ เอาใจช่วย ไหนๆก็เข้าใจกันแล้วนี่นา พยาบาลจะโดนหางเลขหรือเปล่าน้อ


lovemuay 16 มี.ค. 2555, 20:01:20 น.
น่าน สาวเค้าไม่รัก ยังจะไปบังคับเค้าอีก ไม่สนใจพยาบาลบ้างหรือจ๊ะ อิอิ


violette 16 มี.ค. 2555, 22:44:29 น.
แง้ เค้าชอบนายหัวเมฆาง่า สงสัยจะได้คู่กับคุณพยาบาลเป็นแน่ อิอิ


กาซะลองพลัดถิ่น 17 มี.ค. 2555, 00:05:10 น.
อ่านไปหัวเราะไปสนุกมากคะ .....แต่ว่าว่าที่คู่บ่าวสาวจะได้แต่งกันง่าย ๆ ไหมเนี่ยะ อุปสรรคและมารเยอะเหลือเกิน นายหัวน่าจะได้จับคู่กับนางพยาบาลนะคะ ฮาดี


หมูบูลิน 17 มี.ค. 2555, 05:55:02 น.
คุณพยาบาลซวยแล้วไม้ล่ะเนี่ยยย เพราะเห็นแก่นิยายแท้ๆ


Pat 17 มี.ค. 2555, 07:30:18 น.
อีกคู่นึง อิอิ นานหัวไม่เคยเห็นหน้าพยาบาลคนสวย เดี๋ยวก็ได้ถูกใจสาวอีกคน


Pampam 17 มี.ค. 2555, 12:19:17 น.
คุณพยาบาลงานเข้าอีกแล้ว


kaero 19 มี.ค. 2555, 10:54:59 น.
ตัดใจซะนายหัว แล้วไปชอบคุงพยาบาลดีก่า


แพม 19 มี.ค. 2555, 23:12:22 น.
นายหัว-พยาบาล?


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account