ลิขีตรักใต้เงาทราย ภาค ดั่งแสงตะวัน
ฟายาส อับดุล ซาลามาล มกุฎราชกุมารหนุ่ม ผู้รอการราชาภิเษกให้ขึ้นเป็นสุลต่านองค์ต่อไป หน้าที่คือความรับผิดชอบต่อประเทศ เมื่อพี่ชายเลือกที่จะหลีกทาง เขาจำต้องรับหน้าที่ ที่ไม่เคยต้องการ หัวใจที่เรียบง่ายและเย็นชา บอกกับตนเองเสมอ ว่าจะไม่ขอรักใคร แต่แล้ว...เพราะ... เขาเพียงต้องการที่จะพักผ่อนก่อนที่จะต้องรับภาระหน้าที่...ที่สำคัญ แต่แล้วเพราะถูกลอบปลงพระชนม์ จึงทำให้ได้พบกับคนที่เขาสามารถรักได้ด้วยหัวใจ เธอก้าวเข้ามาในชีวิตของเข้า และจากไปพร้อมกับหัวใจทั้งดวง
Tags: ทะเลทราย

ตอน: ตอนที่ ๒

ตอนที่ ๒
ฟายาสมองข้อมือเล็กๆ ที่ตนเองกำอยู่เลื่อนสายตาขึ้นจนสบนัยน์ตาที่กำลังตื่นตกใจ
“คุณเป็นอะไรกับผม”
บางอย่างที่ทอประกายอยู่ในดวงตาสีเงินบอกให้รู้ว่าเขากำลังคิดในสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงได้
“ดิฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ ดิฉันเป็นพยาบาลค่ะ”
ชายหนุ่มปล่อยมือบางแล้วพยายามดันตัวเองขึ้นนั่ง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความสับสนไม่แน่ใจ วิเวียนมองหน้าเขา ริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนต้องการปลอบใจ
“คุณรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉัน...”
“วิ...”
ฟายาสพูดแทรกเข้ามา
“คุณชื่อวิ คุณเรียกตัวเองว่าวิ”
เสียงแหบพร่ายามเมื่อเอ่ยชื่อของหญิงสาวฟังดูเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ แก้มใสแดงระเรื่อเมื่อเผลอจ้องริมฝีปากได้รูปอยู่นาน
“เอ่อ...เดี๋ยววิขอไปตามคุณพรรณก่อนนะคะ”
“ไม่ได้...คุณไปไหนไม่ได้...เรียกเขามาไม่ว่าจะทำวิธีไหนก็ตามแต่คุณห้ามไปไหนเด็ดขาด คุณไปไหนผมไปด้วย”
วิเวียนเม้มปากแน่น เมื่อเจอฤทธิ์เดชของคนเอาแต่ใจ ตอนหลับอยู่ก็น่ารักแต่ทำไมพอลืมตาขึ้นมาถึงได้ทำตัวเป็นเด็กดื้อไปได้นะ

พยาบาลสาวใช้วิธีโทรบอกเจ้าของบ้านแทน ไม่นานนักข้างเตียงของฟายาสก็เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งหมอทั้งพยาบาล เธอเองพอหันหลังจะเดินออกจากห้อง คนบนเตียงก็เรียกไว้พร้อมทั้งแสดงอาการไม่พอใจเมื่อหมอคนหนึ่งบอกให้หญิงสาวช่วยจัดการเรื่องรายงานการตรวจร่างกายในแต่ละวันให้เสร็จก่อนที่พวกเขาจะกลับโรงพยาบาล
คุณพรรณดีใจจนร้องไห้ แต่ก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่าเมื่อได้ยินคำถามของคนไข้หนุ่มว่า...คุณเป็นใคร นางทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง หัวใจห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าจะแจ้งข่าวนี้แก่องค์ชารีฟอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ความจำขาดหายไปเพราะได้รับการกระทบกระเทือน เท่าที่ตรวจดูผมคิดว่าความทรงจำทั้งหมดจะค่อยๆ กลับมาในเวลาไม่นานนัก”
“แต่ว่า...”
คุณพรรณมองหน้าอาจารย์หมอไม่รู้ว่าจะดีใจกับข่าวนี้ดีไหม
“ใจเย็นๆ ค่ะแม่ อาหมอบอกแล้วว่านายท่านจะเป็นแบบนี้ไม่นาน เราอย่าเพิ่งคิดมากเลยค่ะรอดูไปอีกสักพักก็ได้”
อรสาจับมือคุณพรรณมาบีบให้กำลังใจ หันไปมองคนที่เป็นดั่งเจ้าชีวิตของเธอด้วยสายตาครุ่นคิด เมื่อฟายาสฟื้นแล้วพวกเธอจะต้องเดินทางไปคาร์ซาน่า แต่...อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป ทุกอย่างเต็มไปด้วยอันตรายเมื่อจนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด

“ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
คำพูดของฟายาสทำให้ทุกคนในห้องต่างหันมามอง อาการเหมือนเด็กดื้อพาน่าอ่อนใจ แต่วิเวียนกลับรู้สึกเข้าใจว่าคนพูดรู้สึกอย่างไร
“ท่านคงอยากจะทำกายภาพให้เดินได้ก่อน”
“แต่ว่า...”
อรสามีอาการกังวล เพราะเธอต้องกลับไปคาร์ซาน่าตามคำสั่งของคาจาริลญาติสนิทของฟายาส
“ไม่ต้องห่วงค่ะ...ไม่เกินสามเดือนคุณฟายาสจะต้องเดินได้”
วิเวียนให้คำสัญญาอย่างหนักแน่นแม้จะรู้ว่าทางบ้านยังรอเธออยู่ เรื่องการปลูกถ่ายไตของแม่ก็สำคัญ แต่ถ้างานนี้สำเร็จ ก็จะเงินพอที่จะใช้ในการรักษาครั้งนี้ เงินแสนห้าเธอจะหามาจากไหน แล้วค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกล่ะ ชั่วขณะหนึ่งใบหน้าหวานพลันหม่นลง
“เรื่องแม่ของคุณพยาบาล นายท่านสั่งให้พวกเราจัดการให้”
อรสาพูดเหมือนรู้ว่าวิเวียนคิดอะไรอยู่
“ก่อนจะรับใครเข้ามาทำงานเราต้องตรวจทุกอย่างทั้งประวัติและความประพฤติ เรื่องแม่ของคุณเราจะจัดการให้ สบายใจได้”
“แต่ว่า...”
เมื่อเห็นหญิงสาวมีท่าทางอึดอัดใจอรสาจึงจับมือบางขึ้นมาตบเบาๆ แสดงความเห็นใจและปลอบโยนอยู่ในที
“นายท่านเป็นคนสั่ง...เราแค่ทำตามเท่านั้น”

“ผมได้ยินเสียงคุณร้องไห้”
ฟายาสยิ้มด้วยท่าทางขัดเขิน เมื่อหญิงสาวเอ่ยคำขอบคุณออกมาหลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว อรสาเดินทางไปคาร์ซาน่าทันที แต่กลับมีชายร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันมาทำหน้าทีผู้คุ้มกันแทน
“ได้ยินด้วยหรือคะ ขอบคุณค่ะที่ช่วยแต่ค่าใช้จ่าย...”
สายตาเศร้าสร้อยหลุบลงมองมือ ใบหน้านวลร้อนวูบเมื่อมือขาวยื่นมาวางทับมือทั้งสองข้างเอาไว้แล้วบีบเบาๆ
“ไม่เป็นไร เขาบอกว่าผมรวยมาก เรื่องแค่นี้คงไม่มีผลกระทบกับฐานะของผมนักหรอก แต่ถึงยังไงก็ไม่รู้อยู่ดีว่าผมคือใคร ทำไมถึงไม่มีใครยอมบอก”
“คุณมีหน้าที่ที่สำคัญค่ะ หน้าที่ของคุณยิ่งใหญ่และเป็นความหวังของผู้คนมากมาย”
ใบหน้าของฟายาสเปลี่ยนไป เขาพยายามที่จะทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นคำพูดของคนตรงหน้าราวกับเขาเป็นบุคคลสำคัญ ตกลง...เขาคือใครกันนะ
“ใจเย็นๆ นะคะ อีกไม่นานคุณก็จะคิดออกเอง”
หญิงสาวแตะมือเบาๆ บนบ่ากว้าง ชายหนุ่มถูกชายร่างใหญ่พยุงขึ้นนอนคว่ำบนเตียงพิเศษที่ใช้สำหรับทำกายภาพโดยเฉพาะ แผ่นหลังเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อได้ส่วนแม้จะดูออกว่าผู้เป็นเจ้าของผอมลงมากก็ตาม เจ้าตัวออกอาการไม่ชอบใจนักที่จะต้องถูกทำราวกับเป็นคนพิการ แต่เพื่อที่จะได้ช่วยตัวเองได้โดยเร็วก็จะต้องทน
“คุณได้ยินอะไรบ้างคะ”
หญิงสาวเอ่ยปากถาม มือกดทาบไปตามแนวกระดูกสันหลังวันระยะแล้วกดไล่ลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นคอ
“นิยาย เพลง อากาศ ต้นไม้ ดอกไม้ ครอบครัวของคุณ”
วิเวียนเลิกคิ้วเมื่อรู้ว่าเขาได้ยินทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเท่านั้น
“ขาคุณจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิมด้วยการทำกายภาพบำบัด อาจจะทำให้รำคาญสักหน่อยแต่ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปคุณต้องฝึกตามโปรแกรมที่กำหนดไว้”
“ท่าทางน่าเบื่อ”
ฟายาสบ่นเบาๆ เสียงถอนหายใจทำให้พยาบาลสาวอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ ผู้ชายตัวโตทำเหมือนเป็นเด็กก็น่ารักไปอีกแบบ
“ถ้าอยากเดินได้ก็ต้องทนค่ะ หมอจะมาตรวจคุณวันเว้นวัน ส่วนอาหารอาจจะต้องเริ่มจากอาหารอ่อนๆ ไปก่อนเพราะร่างกายของคุณยังต้องปรับตัวอีกสักพัก”
คำพูดของเธอทำให้ฟายาสเบ้หน้า เขาเริ่มเบื่อข้าวต้ม เบื่ออาหารนิ่มๆ เละๆ จะแย่
“ผมอยากกินเนื้อย่าง”
“ไม่ได้ค่ะ”
เสียงดุดังสวนกลับมาทันที หญิงสาวลงมือนวดต่อไปไม่พูดอะไรอีก ห้องทั้งห้องจึงมีแต่ความเงียบ จนกระทั่ง...
มือเรียวหยุดกดกล้ามเนื้อช่วงขาเมื่อได้ยินเสียงกรนเบาๆ เธอหันมาจัดการเตรียมพื้นที่สำหรับตั้งอุปกรณ์ในการทำกายภาพอีกสามชิ้นซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่องทำกายภาพบำบัดที่ควบคุมด้วยไมโครคอนโทรลเลอร์
เครื่องมือราคาแพงที่เธอยังไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วจะต้องใช้เวลาศึกษาการใช้งานเป็นอาทิตย์คงจะเป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยทำงานมา
“คุณขยันจัง”
รอยยิ้มของคนพูดทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรง ผู้ชายคนนี้ยิ้มเปิดเผยและมีเสน่ห์เกินกว่าที่เธอจะรับไหว วิเวียนหลุบตาลง ห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้ไกลเกินกว่าที่จะควบคุม
“ตื่นแล้วหรือคะ หลับไปแปปเดียวเอง”
“ไม่ได้หลับ แค่กำลังสบายที่ถูกนวด มือของคุณเย็นดีผมชอบ”
อยากจะเข้าข้างตัวเองแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันคนละความหมาย เขาชอบสัมผัสจากมือเธอต่างหาก ในอนาคตเขาจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีมีฐานะ มีหน้ามีตาไม่ใช่พยาบาลจนๆ อย่างเธอ
หัวใจมันเจ็บปวดเหมือนถูกแทงด้วยมีดอันคมกริบ ครั้งแรกที่รู้จักความรักก็ต้องเจ็บปวดเสียแล้ว อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก...วิเวียนไม่อยากจะคิดเลย

ร่างกายของฟายาสฟื้นตัวเร็วกว่าที่คิดเพราะเพียงแค่อาทิตย์เดียว เขาสามารถทรงตัวบนราวไม้ด้วยกำลังจากแขนทั้งสองข้าง เสียงสบถเป็นภาษาแปลกๆ ดังขึ้นเสมอยามที่ชายหนุ่มเผลอ
อิมมา...ชายร่างใหญ่ที่มาทำหน้าที่แทนอรสา เป็นเหมือนเครื่องระบายอารมณ์ในยามที่ก้าวขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ กลับทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่จนพยาบาลสาวต้องยอมรับในความอดทนของอีกฝ่าย
รวมทั้งวันนี้เช่นกันที่ไม่ต่างอะไรกับวันก่อน อิมมายืนมองฟายาสตะกายลงจากเตียงมาเการาวเหล็ก ไม่เดินเข้าไปช่วยเพราะรู้ว่าทันทีที่เขาขยับเสียงห้ามจะดังสวนกลับมาทันที แต่พอพยาบาลร่างเล็กเดินเข้ามา เสียงดุก็ดังขึ้น
อิมมาเริ่มจะชินกับสิ่งที่เห็นแล้ว แม้คุณพยาบาลหน้าหวานจะไม่ได้พูดเสียงดังหรือแสดงท่าทางแข็งกร้าวใส่แต่อาการยอมอ่อนข้อให้ของฟายาสนั่นถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะสิ่งที่อิมมาเคยชินคือความเอาแต่ใจของชายหนุ่มมากกว่า
“ทำไมไม่ฟังกันบ้างคะ”
เสียงพูดเบาๆ ทำให้คนเจ็บหยุดการก้าวเท้าแล้วหันไปทำหน้างอใส่
“ผมอยากเพิ่มเวลาให้มากขึ้นอีกสักสองชั่วโมง อยากเดินคล่องๆ จะได้ไม่ต้องให้อิมมาอุ้มไปไหนมาไหนอย่างนี้”
วิเวียนจ้องหน้าคนพูดอย่างไม่เชื่อว่าจะได้ยินเช่นนั้น แค่ทุกวันนี้เธอก็แทบจะไม่เป็นอันทำอะไรเพราะพอเผลอเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นมาเกาะราวรอบเตียงเดินไปเดินมาแล้วส่งเสียงสบถยามที่ไม่สามารถยกขาได้
ความเครียดแผ่ขยายไปทั้งห้องเมื่อคนไข้ที่สุดแสนเอาแต่ใจจ้องตากับพยาบาลสาวที่มักจะถูกเรียกว่าจอมเผด็จการ อิมมาถอนใจเบาๆ กำลังรอเวลาว่าการถกเถียงครั้งนี้ใครจะชนะ ใบหน้าเรียบเฉยซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเพื่อยกอาหารมื้อเที่ยงขึ้นมา
ดวงตาสีอ่อนของคนเจ็บออกแววขุ่นมัว เมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทางเอาอกเอาใจเขาเหมือนก่อน วิเวียนยิ้มหวานรับเธอจับท่อนแขนของเขาไว้แล้วออกแรงดึงให้เขาก้าวขากลับมาที่เตียง มือนุ่มรู้สึกถึงความร้อนจากต้นแขน เนื้อที่เคยเหลวเริ่มแข็งขึ้นและอีกไม่นานก็จะกลับเป็นกล้ามเนื้อแข็งๆ เช่นเดิม
เพราะมัวแต่จดจ่อกับความคิดจึงไม่ทันระวัง ฟายาสยกขาไม่ขึ้นเนื่องจากออกแรงมากเกินไป เมื่อจะยกขาก้าวขึ้นเตียงเลยเซไปอีกทาง วิเวียนเกร็งแขนรับน้ำหนักร่างกายอีกฝ่ายใหญ่โตกว่าจึงพากันล้มคะมำลงบนเตียงทั้งคู่
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
เธอพูดละล่ำละลัก มัวแต่ตรวจดูคนเจ็บจนไม่ได้ตรวจดูสภาพของตนเอง ฟายาสมองกระโปรงสีขาวไล่ลงมาตามขาวนวลเนียน ใจหนึ่งอยากจะดึงกระโปรงที่ถลกขึ้นถึงต้นขาเนียนลงให้ แต่อีกใจกลับตอบสนองต่อภาพที่เห็นด้วยอาการของหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ
ชายหนุ่มหลุบตาลงมองมือที่ยังถูกหญิงสาวจับบีบไว้ เขาอยากจะจูบเธอ...ฟายาสตกใจกับความคิดที่เกิดขึ้นชั่วขณะ จึงรีบดึงมือกลับทันที
“ไม่เป็นไร”
เสียงของเขายังแหบพร่า กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายเหมือนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ แต่ในที่สุดเขาก็ขยับไปนอนอยู่กลางเตียงโดยไม่ต้องให้เธอช่วย
“ผมขอนอนพักสักครึ่งชั่วโมง...คุณไปพักผ่อนบ้างเถอะ รับรองด้วยเกียรติว่าจะไม่ลุกขึ้นมาเต้นรำเด็ดขาดจนกว่าคุณจะมา”
วิเวียนยิ้มเมื่อเห็นประกายตาวาววับ ฟายาสเป็นคนอารมณ์ดีผิดจากที่คิดไว้มาก หน้าตาท่าทางของเขาไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำใครเลย ที่จริงจะว่าไปหน้าตาท่าทางแบบนี้เหมาะที่จะเป็นนักแสดงมากกว่า
“ค่ะ...นอนหลับพักผ่อนนะคะ ไม่ใช่ลุกขึ้นมาเดินอีก”
หญิงสาวเดินไปที่ห้องหนังสือแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสีฟ้าสดใส สายตามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยอาการเหม่อลอย ความคิดมากมายไหลผ่านเข้ามาโดยไม่มีคำตอบใดๆ ที่จะบอกเธอได้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ

เสียงวางถาดเบาๆ ตรงหัวเตียง ทำให้ฟายาสลืมตาขึ้น เขาสบตาอิมมาแล้วถอนใจออกมาเสียงแผ่ว มือที่กำอยู่คลายออก จุดที่เขาได้สัมผัสตัวพยาบาลสาวยังร้อน แม้จะพยายามเพียงใดก็ไม่อาจดับความรู้สึกนั้นลงได้
“อิมมา...ข้าอยากคุยกับบลาส เจ้าโทรหาเขาให้ที”
ภาษาท้องถิ่นดังออกมาสร้างความแปลกใจให้กับองครักษ์ร่างยักษ์ สายตาคู่นี้ที่จำได้ติดตา สายตาของพญาเหยี่ยวเจ้าแห่งทะเลทราย ร่างสูงขยับขึ้นนั่งก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าผู้คุ้มกัน
“นายท่าน”
“เจ้าอย่าพูดมากไปอิมมา ติดต่อพี่ข้าก่อน”
แววตาเมื่อครู่ช่างแตกต่างกับที่เขาเห็นตอนนี้อย่างสิ้นเชิง อิมมาก้มศีรษะรับคำสั่ง นี่ล่ะคือตัวตนที่แท้จริงของมกุฏราชกุมารแห่งคาร์ซาน่า บุคคลที่เขาคุ้นเคย

อิมมาถอยห่างออกมาปล่อยให้ฟายาสคุยกับพี่ชายตามที่ต้องการ เขายกนาฬิกาขึ้นดูเวลาเป็นระยะก่อนจะเดินกลับมายืนข้างๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์ให้
“อรสาอยู่ไหน”
“ไปช่วยงานเกรย์ที่คาร์ซาน่าครับ”
อิมมาตอบเสียงเบา เสียงเดินของพยาบาลหน้าหวานทำให้เขาเลือกที่จะถอยห่างออกมาแล้วยืนเอามือไขว้หลังด้วยท่าทางที่ทำอยู่เป็นประจำ
“เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนรักของบลาสถึงถูกจับตัวไป แล้วฮาริลมาเกี่ยวอะไรด้วย”
อิมมารู้ว่านี่ไม่ใช่คำถาม แต่มันคือคำสั่งให้เขาไปสืบมา ในฟายาสรีบกระโดดขึ้นเตียง เสียงฝีเท้าที่ก้าวมาใกล้บอกให้รู้ว่าพยาบาลสาวกำลังเดินใกล้เข้ามา อิมมาถอยห่างจากเตียงแล้วก้มศีรษะให้เจ้านายเป็นเชิงรับคำสั่ง
วิเวียนมองชายร่างยักษ์ก้มศีรษะให้คนบนเตียงแล้วเดินก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วด้วยความสงสัย แต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันเขาจึงแสร้งเอนตัวแล้วหลับตาลง เพื่อตัดการสนทนาทั้งหมดที่หญิงสาวจะเริ่ม
“ไหนว่าจะพัก โกหกกันนี่คะ”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม รอยยิ้มแกมประจบปรากฏขึ้นในเวลาต่อมา ทำให้วิเวียนแทบจะใจอ่อนกับท่าทางเช่นนั้น
“ไม่มีทาง วิไม่มีทางใจอ่อนกับคุณเด็ดขาด วันนี้ห้ามลุกขึ้นมาเดินอีก วิจะให้อิมมายกเครื่องโยกขึ้นมาวางบนเตียง”
ฟายาสทำหน้าหงิกเมื่อได้ยิน เขาไม่ค่อยชอบเครื่องมือที่หญิงสาวบอก แม้จะเพียงแค่นอนสบายๆ ก็เถอะ แต่การที่ขาทั้งสองต้องขยับอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับการปั่นจักรยานมันน่ารำคาญจะตาย
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มีวันชนะ เพราะในเวลาต่อมา อิมมาก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเจ้าเครื่องมือที่เขาไม่อยากเห็นเอาเลยจริงๆ

วิเวียนเงยหน้าขึ้นมองเครื่องออกกำลังขาเป็นระยะ ใบหน้าหวานซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ได้อย่างมิดชิด เพราะรู้ว่าถ้าคนบนเตียงเห็นเธอยิ้ม เขาจะต้องออกอาการพาลแน่นอน
“ไม่ต้องทำเป็นก้มหน้าหรอก ผมรู้ว่าคุณหัวเราะเยาะผมอยู่”
“เปล่านะคะ...”
หญิงสาวรีบร้องเสียงหลง ฟายาสมีอาการหงุดหงิดจนกระทั่งเห็นสีหน้าไม่สบายใจของหญิงสาวเลยถอนหายใจแล้วหลับตาลง
“อ่านหนังสือไหมคะ อิมมาเตรียมไว้ให้ตั้งหลายเล่ม”
“ไม่ล่ะ...ผมอยากนอน”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอก หากเป็นเด็กตัวเล็กๆ วีเวียนแน่ใจว่าเธอคงได้เห็นเขาทำแก้มป่องด้วยอาการงอนแบบเด็กๆ แน่นอน
“ผู้ชายเขาไม่งอนกันหรอกค่ะ”
“ผมไม่ได้งอน”
ฟายาสหันกลับมาตอบแล้วหันหน้าไปอีกทาง
“คุณไปพักเถอะ ผมก็จะพักเหมือนกัน”
วิธีไล่แบบสุภาพสินะ... วิเวียนคิดในใจ ก่อนจะเดินเข้าไปปรับการทำงานของเครื่องต่ออีก 45 นาที แล้วเดินออกจากห้อง ระหว่างที่สวนทางกับอิมมาสายตาพลันสังเกตเห็นว่าในอ้อมแขนมีหนังสือนับสิบเล่ม แต่ที่สะดุดตาคือโน๊ตบุ๊กขนาดเล็กที่วางอยู่บนสุด

ฟายาสถอนหายใจดังเฮือกด้วยความเบื่อหน่าย พลางบอกให้อิมมายกสิ่งที่กำลังโยกขาทั้งสองข้างของเขาลงจากเตียง คนสนิทไม่คิดที่จะทำตาม แต่กลับเลื่อนโต๊ะมาให้แล้ววางของทั้งหมดลงตรงหน้าผู้เป็นนายแทน
“ผมทำไม่ได้ครับ ถ้าคุณพยาบาลไม่ได้สั่ง ของพวกนี้อรสาเก็บมาจากโรงแรมที่นายท่านพัก นางบอกให้ข้านำมาให้ทันทีที่ความจำของนายท่านกลับมา”
คิ้วเข้มขมวดมุ่น เขาคว้าหนังสือนิตยสารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาเปิดดูไปเรื่อยๆ พอเจอหน้าที่มีรอยพับก็จะหยุดอ่านนานหน่อย แต่ถ้าไม่เจอจุดที่สนใจก็จะเปิดผ่านไป
เสียงเดินของวิเวียนไม่ดังมากนัก แต่เพราะถูกฝึกมาอย่างดีฟายาสจึงปิดหนังสือ ดันโต๊ะออกห่างแล้วทำเป็นนอนหลับในขณะที่อิมมาเองแสร้งทำเป็นอ่านหนังสือที่เอามาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อิมมารบกวนช่วยพาคุณฟายาสไปที่ระเบียงหน่อยนะคะ วันนี้มีอาหารที่พวกคุณคุ้นเคย บางทีอาจจะทำให้เจ้านายของคุณจำอะไรได้บ้าง”
อิมมาก้มศีรษะรับก่อนจะก้าวเข้าไปประคองฟายาส อกกว้างกระเพื่อมเบาๆ เมื่อพยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างเต็มความสามารถ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่จริงเจ้านายอยากจะให้ใครเป็นคนประคอง
“ถ้านายท่านอยากจะให้นางประคอง ข้าจะบอกให้”
“หุบปากของเจ้าซะอิมมา”
ฟายาสดุเสียงเข้มเมื่อถูกรู้ทัน เขาแกล้งใช้ส้นเท้ากระแทกลงไปบนเท้าของคนข้างๆ แล้วทำหน้าตายเมื่อวิเวียนหันมามองเพราะอิมมาเผลอส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ
“มีอะไรคะ”
“เปล่าครับ ผมสะดุดเท้าตัวเอง”
อิมมาตอบ แต่สายตายังรับรู้ว่าตอนนี้คนข้างๆ กำลังกลั้นหัวเราะเอาไว้จนมุมปากกระตุก ฟายาสยังคงฟายาสคนเดิม ยังคงชอบแกล้ง เอาแต่ใจ ยังไงก็ยังงั้นไม่มีเปลี่ยน





tonpalm
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 เม.ย. 2554, 22:29:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 เม.ย. 2554, 22:29:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 3001





<< ตอนที่ ๑   ตอนที่ ๓ >>
หมอนทอง 25 เม.ย. 2554, 07:25:54 น.
มาตามติด


แว่นใส 25 เม.ย. 2554, 08:59:10 น.
เจ้าแผนการซะจริงนะ


SaiParn 25 เม.ย. 2554, 21:53:05 น.
ฟายาส....น่ารักจังค่ะ


Setia 25 เม.ย. 2554, 22:15:07 น.
เจ้าเล่ห์+น่ารักนะเนี่ย จำได้ตั้งนานแล้วแต่แกล้งยังจำไม่ได้อยู่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account