ลิขีตรักใต้เงาทราย ภาค ดั่งแสงตะวัน
ฟายาส อับดุล ซาลามาล มกุฎราชกุมารหนุ่ม ผู้รอการราชาภิเษกให้ขึ้นเป็นสุลต่านองค์ต่อไป หน้าที่คือความรับผิดชอบต่อประเทศ เมื่อพี่ชายเลือกที่จะหลีกทาง เขาจำต้องรับหน้าที่ ที่ไม่เคยต้องการ หัวใจที่เรียบง่ายและเย็นชา บอกกับตนเองเสมอ ว่าจะไม่ขอรักใคร แต่แล้ว...เพราะ... เขาเพียงต้องการที่จะพักผ่อนก่อนที่จะต้องรับภาระหน้าที่...ที่สำคัญ แต่แล้วเพราะถูกลอบปลงพระชนม์ จึงทำให้ได้พบกับคนที่เขาสามารถรักได้ด้วยหัวใจ เธอก้าวเข้ามาในชีวิตของเข้า และจากไปพร้อมกับหัวใจทั้งดวง
Tags: ทะเลทราย

ตอน: ตอนที่ ๓

ตอนที่ ๓
‘ตัวติดกัน’ ประโยคนี้ใช้ได้สำหรับการบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่ว่าวิเวียนจะไปอยู่จุดไหนของบ้านทุกคนก็จะเห็นฟายาสนั่งแหมะใกล้ๆ หรือไม่ก็นั่งติดชิดใกล้จนแทบจะแย่งอากาศกันหายใจเลยทีเดียว
ยิ่งช่วงหลังชายหนุ่มเริ่มใช้ไม้พยุงแบบสั่งทำพิเศษถนัด ก็ยิ่งตามหญิงสาวไปทุกที่ ตกหนักที่คุณพยาบาลเพราะเหมือนมีลูกชายตัวโตเสียอย่างนั้น
วิเวียนนั่งมองใบหน้าหงิกงอของฟายาสยิ้มๆ เมื่อเขาขอนอนหนุนตักแต่ถูกปฏิเสธ นับวันเขายิ่งทำตัวสนิทจนเธอกลัว หัวใจดวงน้อยจะเป็นเช่นไรถ้าวันที่เขาต้องกลับประเทศ กลับบ้านเกิด กลับไปทำหน้าที่ที่สำคัญ แล้วเธอล่ะ...
“ขอนอนหนุนตักหน่อยไม่ได้หรือยังไง ผมไม่ได้ปล้ำคุณเสียเมื่อไหร่”
คนตัวโตทำหน้าหงิก มือดึงต้นหญ้าที่โผล่พ้นขอบผ้าใบจนมันกระจายไปทั่ว หญิงสาวถอนใจ วันนี้อากาศดีจนอดไม่ได้ที่จะชวนเขาออกมาเดินที่สนามหญ้า แต่พอแม่บ้านยกจานผลไม้กับขนมมาวางไว้ให้ ก่อนจะปูผ้าใบให้นั่งกันสบายๆ คนเจ้าเล่ห์ก็เริ่มเกเรขึ้นมาทันที
“นอนกินได้ที่ไหน เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกค่ะ”
พยาบาลสาวค้อนควับ มีอย่างที่ไหนร่ำร้องจะนอนกิน คนดีๆ ที่ไหนเขาทำกัน
“นอนเฉยๆ ก็ได้ นะ...”
คราวนี้ใช้วิธีอ้อน...วิเวียนทำคิ้วขมวด มองอาการยิ้มประจบแล้วก็อ่อนใจ
“หมอนตั้งหลายใบ ทำไมต้องหนุนตักด้วย”
ไม่มีคำตอบจากริมฝีปากได้รูป แต่...หมอนที่กองอยู่ถูกโยนออกไปชนิดที่คนโยนไม่ได้มองด้วยซ้ำว่ามันไปตกอยู่ตรงไหนบ้าง พอเขวี้ยงหมดก็หันมาแบมือให้ดูทำหน้าตาไร้เดียงสาจนน่าให้รางวัล
“ไม่มีหมอนแล้ว”
ริมฝีปากอิ่มเผยอค้าง ให้ตาย...นี่เธอมาเจอคนประเภทไหนกันเนี่ย เวลาดีๆ ก็น่ารักอยู่หรอกแต่เวลาแบบนี้เหมือนพวกเศรษฐีเอาแต่ใจ
“ถึงไม่มีก็ไม่ให้หนุนค่ะ”
หญิงสาวทำท่าจะลุกขึ้นยืน จังหวะที่กำลังดันตัวขึ้นข้อมือก็ถูกยึดจากอุ้งมือแข็งแกร่ง ฟายาสออกแรงดึงแล้วกางแขนออกรับหญิงสาวเอาไว้ อ้อมกอดรัดแน่นเกินความจำเป็นใบหน้าเข้มก้มต่ำจนจมูกแทบจะชนกับแก้มใส เล่นเอาพยาบาลหน้าหวานถึงกับตะลึงจนพูดไม่ออก
“นายท่าน คุณหมอมาแล้วครับ”
เสียงอิมมาทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกัน ฟายาสทำหน้าไม่พอใจ เขาไม่ชอบหมอคนนี้เลยเพราะเวลามาตรวจทีไรชอบนั่งคุยกับวิเวียนทีละนานๆ เขาเองเป็นคนป่วยกลับไม่ถามสักคำว่าเป็นอะไร ดีขึ้นบ้างไหม ตรวจๆ แล้วก็เรียกหญิงสาวไปคุย
“บอกให้รอไปก่อนไม่ได้หรือไง”
ชายหนุ่มบ่นพึมพำ ยกมือขึ้นให้อิมมาดึงพอยืนได้มั่นคงก็ใช้ไม้เท้าสอดเข้ารักแร้ทั้งสองด้านแล้วเดินหน้ามุ่ยไปทางห้องของตน ริมฝีปากได้รูปแอบเบ้เล็กน้อยเมื่อไปถึงห้องแล้วพบคุณหมอนั่งยิ้มอยู่ประจำที่ที่เคยนั่ง
“สวัสดีครับ”
คิ้วเข้มเลิกขึ้น วันนี้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแน่ๆ เพราะหมอหนุ่มหน้าหวานไม่เคยทักเขามาก่อน ทุกครั้งจะก้มหน้าก้มตาตรวจ เวลาโดนจ้องก็ทำหลบหน้าหลบตาเหมือนกลัวโดนกัด
“วันนี้ผมคงจะคุยกับคุณได้ เพราะคนของคุณบอกกับผมว่าความทรงจำที่หายไปเริ่มกลับมาบางส่วนแล้ว”
‘อิมมานี่ยุ่งชะมัด’
ฟายาสบ่นในใจ
“คุณหมอต้องการคุยอะไรกับผม”
หมอมานพยิ้มเมื่อได้ยินคำถาม
“วิบอกผมว่า ตอนที่คุณหลับอยู่...คุณได้ยินเสียงของเธอ”
“ใช่”
ตอบเหมือนคนขี้เกียจ อิมมารู้ว่าตอนนี้เจ้านายของตนกำลังแสดงอาการกวนอารมณ์อีกฝ่ายอยู่ เขาแอบซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ รู้ว่าที่ฟายาสเป็นแบบนี้เพราะอะไร
“ไม่ทราบว่าได้ยินตลอดเวลาเลยหรือเปล่าครับ”
“เปล่า...มันเหมือนผมฝันมากกว่า”
หมอมานพจดข้อมูลลงในสมุดบันทึกเล่มหนาแล้วเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ทราบความจำของคุณเริ่มกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
คราวนี้ฟายาสนิ่งไปนาน เขาพอจะนึกอะไรออกตั้งแต่ช่วงสองอาทิตย์แรก แต่มันไม่เด่นชัดจนกระทั่งวันที่เขาได้ยินเสียงของพยาบาลของตนดังอยู่ด้านล่างตรงใกล้ๆ กับห้อง ด้วยความเบื่อและไม่รู้จะทำอะไรเลยพยายามฝืนตะกายฝาไปเพียงเพื่อจะได้เห็นว่าเธออะไรอยู่
แต่พอยืนอยู่ตรงระเบียงขาทั้งสองข้างกลับสั่นระริก วูบหนึ่งเกิดความกลัวขึ้นมา แล้วหลังจากที่เขารู้สึกว่าตนเองหน้ามืด ภาพเหตุการณ์บางอย่างก็ไหลบ่าเข้ามาในสมองราวกับพายุทรายที่รุนแรง
ฟายาสเห็นภาพตนเองกำลังเดินขึ้นสะพาน แสงบางอย่างสะท้อนกับแสงแดด และ...ภาพที่ร่วงจากสะพานลงมากระแทกกับผืนน้ำ เขาจำทุกอย่างได้หมดแล้ว แต่...เลือกที่จะไม่ตอบตามความเป็นจริง
“ไม่นานมานี่เอง มันค่อยๆ กลับมาทีละนิด ตอนนี้ผมแค่จำได้ว่าเป็นใครเท่านั้นเอง”
“แล้วขาของคุณตอนนี้ดีขึ้นไหม แขนขาที่อ่อนล้าเพราะนอนมานานอาจทำให้คุณหงุดหงิด แต่ไม่นานมันจะดีขึ้น”
หมอมานพพูดเสียงนุ่ม ชั่วขณะหนึ่งฟายาสคิดว่าได้เห็นอะไรบางอย่างในสายตาของหมอหนุ่ม แต่เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร
“ถ้าคุณดีขึ้น ทางโรงพยาบาลพร้อมที่จะจัดการเอกสารและข้อมูลการรักษาเพื่อให้คุณนำไปให้หมอประจำตัวที่ประเทศของคุณรักษาในขั้นต่อไปได้ตามที่ต้องการ ส่วนเรื่องพยาบาล...”
“ผมจะจ้างเธอต่อ”
ฟายาสพูดขัดขึ้นมา เขาดึงไม้เท้ามายึดไว้แล้วลุกขึ้นยืนตัวตรงด้วยความลืมตัว หมอมานพมองสิ่งที่ตนเห็นแล้วนึกสงสัย เพราะท่าทางของคนป่วยดูคล่องแคล่วจนไม่น่าเชื่อ
“ถ้าหมอไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว ผมเหนื่อย ผมอยากจะพัก”
ไล่...จะพูดแบบนั้นก็คงไม่ผิด สำหรับการกระทำที่แสดงออกมา ฟายาสเอนหลังพิงหัวเตียงแล้วหลับตาลง ตัดการสนทนาทั้งหมดแต่แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นมาแล้วหันไปมองหน้าหมอมานพเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่รบกวน วิคงกำลังรอส่งรายงานอยู่ข้างล่าง ขอตัวเลยก็แล้วกัน”
อิมมาไม่เข้าใจว่าคุณหมอกับเจ้านายคุยอะไรกันเพราะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แต่ท่าทางและแววตาของชายหนุ่มตอนนี้...ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“อิมมา เชิญคุณวิขึ้นมาบนนี้ เดี๋ยวนี้”
ฟายาสสั่งชายร่างยักษ์เสียงดังก่อนจะหันไปยิ้มกับคนตรงหน้า
“จะส่งก็ส่งกันที่นี่ก็ได้ ผมไม่คิดมาก”
ชายหนุ่มพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดาที่หมอกับพยาบาลจะคุยเรื่องอาการเจ็บป่วยต่อหน้าคนไข้ หมอมานพไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จำใจนั่งรอวิเวียนอยู่ที่เดิม

วิเวียนนั่งมองหน้าตาบึ้งตึงของคนตรงหน้า ใบหน้าหวานไม่มีรอยยิ้มให้ชื่นใจเช่นทุกวัน เพราะการกระทำที่แสนเอาแต่ใจอย่างน่าเกลียด มีอย่างที่ไหนเธอกำลังคุยกับคุณหมอเรื่องรายละเลียดในใบรายงาน ดันถามขึ้นมาได้ว่าเสร็จหรือยังง่วงนอน พอหมอมานพลากลับไปแทนที่เขาจะนอนกลับคว้าหนังสือที่หัวเตียงมาอ่าน
มือเรียวแย่งหนังสือมาถือไว้ ริมฝีปากเม้มแน่น นัยน์ตาวาววับด้วยความโกรธ ในขณะที่อีกฝ่ายกลับทำท่าไม่รู้ไม่ชี้หยิบหนังสือเล่มใหม่ขึ้นมาอ่าน วิเวียนดึงหนังสือเล่มใหม่มาวางรวมกับเล่มเก่า ทำเช่นนี้จนกระทั่งหนังสือที่หัวเตียงหมดเกลี้ยง
ใจหนึ่งอยากจะยิ้มประจบ แต่ฟายาสไม่แน่ใจว่าคราวนี้พยาบาลประจำตัวเขาจะยิ้มตอบหรือเอาหนังสือในมือเขวี้ยงใส่
“ทำไมถึงทำแบบนี้ คุณอยากจะกลับบ้านแต่กลับทำตัวเป็นคนเจ้าปัญหา”
“ผมต้องการเปลี่ยนหมอใหม่”
ฟายาสย้ำเสียงหนัก ความรู้สึกเหนื่อยใจเกิดขึ้นจนวิเวียนอยากจะร้องกรี้ดออกมา
“งั้นเปลี่ยนพยาบาลด้วยเลยดีไหมคะ วิจะได้จัดการให้ทีเดียวเลย”
ริมฝีปากได้รูปกระตุก หญิงสาวยังรู้จักเขาน้อยไป ฟายาสคิดในใจ
“ได้ แต่คุณคงต้องหาเงินเพื่อเดินทางไปรับแม่กับมาเอง เพราะเมื่อไหร่ที่สัญญาการจ้างงานสิ้นสุดลง การรักษาของแม่คุณก็สิ้นสุดลงเช่นกัน”
“คุณ...ใจร้ายที่สุด”
วิเวียนกัดฟันแน่น เธอหลงรักผู้ชายคนนี้ได้ยังไงกันนะไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ
“ผมเป็นคนแบบนี้ล่ะ”
ฟายาสพูดเสียงสะบัด เขาล้มตัวลงนอน ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นขึ้นอีก 5 องศาฯ แล้วดึงผ้าห่มคลุมโปง เก็บรีโมทไว้ใต้หมอนไม่สนใจว่าคนขี้หนาวจะทนได้หรือไม่
“เสื้อคลุมครับคุณพยาบาล”
ภาษาอังกฤษสำเนียงแปลกๆ ของอิมมาแฝงความอ่อนโยนเอาไว้ วิเวียนรับเสื้อคลุมตัวหนามากอดไว้ ขยับริมฝีปากเป็นคำว่าขอบคุณแล้วเดินไปนั่งตรงที่ประจำของเธอ สังเกตเห็นนัยน์ตาคู่นั้นแอบมองออกมาจากผ้าห่มเป็นระยะแต่ทำเป็นไม่สนใจ คนนิสัยไม่ดีต้องดัดนิสัย...

“ผมขอโทษ”
ฟายาสทำเสียงออด พลางส่งสายตาปรามไปยังอิมมาเมื่อเห็นคนสนิทก้มหน้าแต่ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเพราะพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ เขาง้อวิเวียนมาเป็นอาทิตย์ จนวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปคาร์ซาน่าแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังเฉยเมยทำทุกอย่างตามหน้าที่เท่านั้น
เวลายกอาหารมาในห้องเขาต้องนั่งคนเดียวบนเตียงแต่อิมมากลับได้ร่วมโต๊ะ พูดคุย หัวเราะกับหญิงสาวจนน่าหมั่นไส้
“คุณจะมาขอโทษดิฉันเรื่องอะไรคะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ”
“แต่คุณโกรธผม”
ฟายาสทำหน้าเหมือนเด็กที่รู้ตัวว่าตนเองทำความผิด วิเวียนมองแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง กลัวว่าจะเผลอใจอ่อน ยอมยกโทษให้ง่ายๆ คนอะไรตัวก็โตออกอาการงอแงเป็นเด็กๆ ไปได้
วันแรกที่หญิงสาวไม่พูดด้วย ฟายาสปัดอาหารทิ้ง ไม่ยอมทำกายภาพ ไม่ยอมกินยา พอหญิงสาวทำเฉยไม่กินก็ไม่ต้องกิน ไม่ยอมทำกายภาพก็ไม่ต้องทำ คืนนั้นเขาคงนอนคิดทั้งคืนเพราะตอนเช้าใบหน้าเข้มมีอาการสะลึมสะลือ และทันทีที่เห็นหน้าเธอ รอยยิ้มประจบก็เผยออกมาทันที
คิดว่าจะยกโทษให้ง่ายๆ เหรอ...ยาก...
วิเวียนคิดในใจ แม้จะทำสีหน้าเรียบเฉย แต่บ่อยครั้งที่แอบยิ้มกับลีลาการง้อของผู้ชายตัวโตหน้าเข้ม

เชอรี่สีแดงลูกโตเย็นฉ่ำบรรจุอยู่ในชามแก้วใบใหญ่ถูกนำมาวางตรงหน้า แต่วิเวียนกลับนั่งอ่านนิยายต่อไปหลีกเลี่ยงที่จะสบนัยน์ตาคู่นั้น
ฟายาสพินิจใบหน้านวลผ่านแผขนตาดกหนา ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตล้วนแต่เต็มไปด้วยมารยา ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นใครก็ยิ่งพยายามใช้มารยาหญิงหลอกล่อ แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่แสดงอาการอะไรออกมา แม้แต่ตอนที่บอกว่าความจริงแล้วเขาเป็นใคร
ว่าที่ผู้สืบทอดคาร์ซาน่าเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ทางเพศ มีความน่าหลงใหลในความเป็นสุภาพบุรุษที่ร่าเริงไม่เคร่งเครียดแบบพี่ชาย ยิ้มง่าย และ...มีนัยน์ตาที่ชวนให้หัวใจละลาย
แม้อำนาจที่อยู่ในมือจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ไม่มีใครทำเป็นเมินเฉยต่อเขาเช่นนี้มาก่อน แววตาบางอย่างบอกถึงอันตราย เธอน่าจะรู้ว่าไม่ควรทำท่าเมินเฉยใส่ว่าที่กษัตริย์คนต่อไปของคาร์ซาน่า
ความไม่พอใจในดวงตาทอแสงวาวโรจน์ หัวใจของวิเวียนเต้นแรงเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นพอดี นี่เธอลืมไปได้อย่างไรกันว่าฟายาสมีนิสัยชอบเอาชนะและไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถ้าเผลอทำอะไรขัดใจล่ะก็ พ่อคุณได้อาละวาดจนราบเป็นหน้ากลอง
“ยังไม่หิวค่ะ อีกสักพักค่อยทานแล้วกัน”
รอยยิ้มบาดใจเผยออกมาทันที ถึงจะรู้ว่าเธอไม่เต็มใจที่จะตอบนักก็ตาม แต่ก็ดีกว่าได้ความเงียบเป็นคำตอบ
ฟายาสใช้ปลายนิ้วแตะหลังมือนุ่มลากไล้ไปมาช้าๆ ตั้งใจก่อกวนไม่ให้อีกฝ่ายมือสมาธิกับการอ่าน ความร้อนไหลผ่านปลายนิ้วสู่ผิวเนื้อ หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงพยายามไม่ให้หนังสือในมือหล่น รู้ว่ากำลังถูกแกล้งอีกแล้ว
“อย่าทำแบบนี้คนไทยเขาถือ ไม่ใช่ญาติหรือคนรักมันไม่เหมาะสมค่ะ”
“งั้นคุณก็เป็นคนรักของผมสิ”
ภาษาไทยที่พูดออกมาชัดถ้อยชัดคำไม่แสดงถึงความลังเล ทำให้วิเวียนเผยอปากขึ้นด้วยความตกใจ เธอปิดหนังสือแล้วจ้องตาคนพูดเหมือนเห็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก
“คุณเป็นถึง เอ่อ...เรื่องนี้ไม่ควรพูดเล่น มันสำคัญมากเกิน...”
“เพราะผมซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองไงวิเวียน”
ฟายาสพูดแทรกขึ้นมา ยกมือขึ้นจับบ่าทั้งสองข้างของหญิงสาวแล้วเกร็งมือยึดไว้เมื่อเธอพยายามที่จะลุกหนี ใช้เรียวแรงที่มากกว่ารั้งร่างบางเข้ามากอด นัยน์ตาวาววับเมื่อรับรู้ถึงอาการสะท้านของร่างในอ้อมแขน จึงซุกหน้ากับซอกคอหอมกรุ่นแล้วกระซิบบอกความรู้สึกด้วยความลืมตัว
“ผมชอบคุณ”
“คุณไม่เข้าใจ มันเป็นไปไม่ได้”
วิเวียนพูดเสียงสั่น หัวใจปวดร้าวเมื่อคิดถึงความรู้สึกของตนที่ไม่มีวันที่จะเป็นจริง ตราบใดที่ยังจำอะไรไม่ได้เขาย่อมทำทุกอย่างตามความรู้สึกของตนเองได้ แต่ถ้าวันที่เขากลับไปยืนในจุดที่เขาเป็น ทุกอย่าง...จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้
“หากเป็นความต้องการของผม ใครก็ขัดไม่ได้”

อิมมายืนตัวตรงอยู่ข้างประตู แม้ใบหน้าจะหันไปอีกทางแต่สายตากลับจับจ้องใบหน้าของเจ้านายด้วยความเป็นห่วง
ฟายาสยังคงนั่งนิ่ง เขาทำใจไม่ได้ที่คำบอกรักครั้งแรกในชีวิตถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี สีหน้าขรึมอารมณ์หงุดหงิดสับสนเมื่อคิดว่าวิเวียนไม่ใช่หญิงสาวสมบูรณ์แบบ เธอไม่ได้สวยสดงดงาม ไม่ได้น่าหลงใหลแล้วตกลงมันเกิดอะไรกันแน่
เป็นครั้งแรกที่เขารู้จักคำว่าหวง การกระทำอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อเห็นหมอคนนั้นคุยกับเธอ ความไม่พอใจความรู้สึกเหมือนว่า...เธอเป็นสมบัติส่วนตัว ไม่อยากให้ใครมายุ่งเกี่ยวเป็นอะไรที่แปลกใหม่
“อิมมา ไปพานางมา”
“นายท่าน”
อิมมามองผู้เป็นนายเมื่อได้ยินคำสั่ง
“ข้าบอกให้เจ้าไปพานางมา”
ฟายาสตวาดเป็นภาษาจาเรนเสียงดังลั่น แล้วก้มหน้าลงบีบมือตัวเองระงับความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น อิมมารู้ว่าจะต้องไปพาใครมาแต่เขาไม่อยากเสี่ยงที่จะส่งหญิงสาวให้ในเวลานี้
“นายท่าน ข้า...”
“ไปพานางมา ข้าต้องการคุยกับนาง...เท่านั้น”
อิมมาก้มศีรษะรับคำสั่งแล้วเดินออกไปตามหาคนที่ฟายาสพูดถึง

ร่างบนเตียงนอนนิ่ง เสียงลมหายใจทอดยาวสม่ำเสมอทำให้ร่างบางที่เดินเข้ามาถอนหายใจเบาๆ โชคดีที่เธอให้อิมมายกอาหารเข้ามาก่อน โดยมีข้อต่อรองว่าถ้าอยากเจอเธอต้องทานข้าวทานยาให้เรียบร้อยก่อน
ยานอนหลับที่ถูกเพิ่มเข้ามาในแก้วใบจิ๋วออกฤทธิ์ในเวลาอันรวดเร็วกว่าที่คิดไว้ วิเวียนยื่นหน้าไปมองคนป่วยพลางยิ้มออกมา แต่...
ฟายาสกระชากคนเจ้าเล่ห์จนล้มลงมาในอ้อมกอด รีบพลิกตัวขึ้นนอนทับร่างหอมกรุ่นเอาไว้แล้วยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก เมื่อเห็นใบหน้าตื่นตกใจของเธอ
“ยังไงคุณก็ยังไม่ทันผมอยู่ดี”
“ปล่อยค่ะ...เดี๋ยวอิมมาเข้ามา”
วิเวียนพยายามดิ้นหนี โดยไม่ทันคิดว่าจะเป็นการยั่วยุให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะขึ้นมา ริมฝีปากนุ่มถูกปิดทับ ปลายลิ้นอุ่นสอดเข้าเกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นนุ่มชุ่มชื้นอย่างจัดเจน ร่างบางดิ้นรนได้เพียงไม่นานก็อ่อนระทวย
เกิดมายังไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้ จนกระทั่งฟายาสยอมถอนริมฝีปากออกด้วยท่าทางเสียดาย เธอถึงมีโอกาสได้เห็นนัยน์ตาวาวโรจน์ดุจกองเพลิง เสียงพึมพำเป็นภาษาที่หญิงสาวไม่เข้าใจดังขึ้น แม้จะไม่เข้าใจความหมายแต่น้ำเสียงแหบพร่าฟังแล้วทำให้เลือดในกายร้อนผ่าวขึ้นมา
แก้มนุ่มถูกยึดครองด้วยฝ่ามือหนาหนัก เขาตรึงมือไว้แน่นเมื่อก้มลงจูบเธออีกครั้ง กลีบปากนุ่มถูกขบเม้มเบาๆ ยั่วยวนชวนให้เคลิ้บเคลิม ใบหน้างามแหงนเงยขึ้นเมื่อความร้อนของริมฝีปากกระด้างลากไล้ลงมาตามลำคอและหยุดที่แอ่งชีพจร
เขารับรู้ถึงความตื่นเต้นและอารมณ์ที่แตกกระเจิงจากประสบการณ์ยามเมื่อชิมผิวเนื้อนุ่มด้วยเรียวลิ้นที่ชุ่มชื้นและริมฝีปากร้อนรุม อารมณ์หวามเกิดขึ้นมาและไม่สามารถดับลงได้ง่ายดายนัก ความต้องการครอบครองเป็นเจ้าของสั่งให้ก้าวต่อไป
เสียงสะอื้นดังขึ้น ไม่ใช่เพราะแรงปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าแต่เป็นเพราะความรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่สามารถต้านทานเขาได้ วิเวียนปล่อยให้มือที่ดันบ่ากว้างตกลง ไม่ต่อต้านใดๆ อีกรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสู้กับผู้ชายตรงหน้า เพราะถึงอย่างไรหัวใจของเธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ถ้าเขาเรียกร้องขึ้นมาจริงๆ เธอคง...
“ขอโทษ...”
ฟายาสครางเสียงสั่นเมื่อเลื่อนริมฝีปากขึ้นมาจูบแก้มนวลแต่กลับสัมผัสความเปียกชุ่มแทน อารมณ์หวานหดหายไปทันที
“ผมชอบคุณจริงๆ นะวิเวียน”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า
“ฟายาส มันเป็นไปไม่ได้ วิไม่อยากเป็นเพียงผู้หญิงของใคร วิทำใจให้ใช้สามีร่วมกับคนอื่นไม่ได้”
น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลริน เธอเป็นได้แค่เพียงเมียเก็บเพราะ...ผู้หญิงที่จะก้าวขึ้นไปยืนเคียงคู่กับว่าที่กษัตริย์ของคาร์ซาน่าจะต้องมีทุกอย่างที่เหมาะสมและคู่ควร
“คุณจะเป็นคนรักเพียงคนเดียว...”
ฟายาสพูดไม่ทันริมฝีปากก็ถูกปิดทับด้วยมือนุ่ม เขากุมมือข้างนั้นไว้แล้วบรรจงจูบด้วยความรู้สึก วิเวียนส่ายหน้า เม้มริมฝีปากแน่นรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจูบที่กลางหัวใจของเธอ
“เมื่อไหร่ที่ความจำของคุณกลับคืนมา วิจะเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเท่านั้น”
“ไม่มีทาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ยังยืนยันว่าผมต้องการคุณ”







tonpalm
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 เม.ย. 2554, 11:51:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 เม.ย. 2554, 11:51:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 3497





<< ตอนที่ ๒   ตอนที่ ๔ >>
หมอนทอง 25 เม.ย. 2554, 12:59:56 น.
รุกเลยค่า รุกเลย คนอ่านรอเจาะกำแพงแอบดูอยู่ค่า


แว่นใส 25 เม.ย. 2554, 13:22:21 น.
รุกตลอดเวลาเลยน๊า


หมูบูลิน 25 เม.ย. 2554, 21:07:52 น.
ลุ้นค่ะๆ


หนอนฮับ 25 เม.ย. 2554, 21:13:37 น.
ป้าขาาาาาาา
จุ๊บๆ


SaiParn 25 เม.ย. 2554, 22:06:07 น.
พี่ปู...แบบนี้ต้องให้ฟายาสใส่เกียร์เดินหน้าลุยเลยยยยยยยย อิอิ


Setia 25 เม.ย. 2554, 22:20:48 น.
นั่นแหละ ต้องแบบนั้นแหละ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account