เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 10
เมื่ออยู่กันตามลำพังความระแวงและหวาดกลัวก็เข้าเกาะกุมจิตใจ แพรธาราเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อหาทางหนี ไม่ใช่ว่าไว้ใจเขามากกว่าสุทัศน์แต่เชื่อแทบหมดใจว่าเธอคงไม่รอดเงื้อมือสุทัศน์แน่หากยังคงตามเขาไป
“เพิ่งนึกกลัวหรือครับ” เสียงถามคล้ายเยาะหยัน “แอบมาพลอดรักกันจนค่ำมืด แล้วยังไงครับ...พอเขาจะเอาจริงเลยเกิดอาการกลัวเปลี่ยนใจไม่ยอมตามหรือไงครับ”
“คุณ...กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้”
“พี่ก็แค่พูดในฐานะคนที่รู้จักครอบครัวของแพรดีว่ารัก...ว่าห่วงชื่อเสียงขนาดไหน”
“รู้จักครอบครัวของฉัน...”
แพรธาราครางอย่างแปลกใจ เผลอขยับเข้าใกล้เขาอย่างลืมตัว ก่อนจะอุทานอย่างตกใจเมื่อแสงจันทร์ที่รอดผ่านหน้าต่างสะท้อนให้เห็นใบหน้าคมชัดขึ้น
“พี่มาร์ค...”
แพรธารายกมือขึ้นปิดริมฝีปากอย่างคาดไม่ถึง อับอายเหลือเกินที่เขามาเห็นสภาพและเหตุการณ์อัปยศครั้งนี้ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดเยาะหยันของเขาก็โกรธกรุ่นจนลืมนึกถึงคำขอบคุณที่ตั้งใจจะมอบให้หนุ่มแปลกหน้าที่มีพระคุณไปสิ้น
“หึ...แต่ถึงพี่จะรู้จักครอบครัวของแพรก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกแพร” แพรธาราย้อนเสียงหนัก “แพรมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันหรือพี่คิด...คิดว่าเราเคยแต่งงานกันจริงถึงมีสิทธิ์มาว่าร้ายแพรแบบนี้”
“ใช่...พี่ไม่มีสิทธิ์” มหาสมุทรตอบรับเสียงขมขื่น “แค่เศษเสี้ยวของความรักก็ยังไม่มีสิทธิ์ แต่พี่อยากให้แพรคิดถึงครอบครัวบ้างว่าจะอับอายเสียหน้าแค่ไหนถ้าเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีก”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น แต่ก็นึกคำพูดจะเถียงกลับไม่ออก
“หรือคิดว่าโลกเปลี่ยนจะทำอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงถึงจารีตของไทยแล้ว”
“พี่...พี่กำลังดูถูกแพร...พูดเหมือนแพรไม่มีศักดิ์ศรี” สาวสวยแย้งเสียงเครือ “รู้ไว้นะคะถึงแพรจะไม่ใช่อดีตคุณหมออย่างพี่ แต่พี่ก็มีจริยธรรมมีศีลธรรมในใจค่ะ...และแพรก็ไม่ขออยู่ใกล้คนจิตใจสกปรกอย่างพี่แม้แต่วินาทีเดียว”
แพรธาราผลักร่างสูงตรงหน้าอย่างแรง วิ่งพรวดออกจากห้องลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่พยายามกักเก็บหลั่งไหลด้วยความเสียใจอับอายที่ถูกดูถูกใส่ร้ายในเรื่องไม่จริง
“แพร...เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน”
มหาสมุทรที่รู้สึกตัวว่าพูดจารุนแรงเกินไปรีบวิ่งตามมาคว้าแขนสาวสวยได้ทันตรงสนามหน้าบ้าน
“กลับเข้าบ้านเถอะแพร...ฝนเริ่มตกแล้ว...ดูจากก้อนเมฆอีกเดี๋ยวคงหนักแน่”
“อย่ามายุ่งกับแพร แพรบอกแล้วว่าไม่อยากอยู่ใกล้คนจิตใจร้ายกาจอย่างพี่”
แพรธาราตวาดเสียงดัง สะบัดแขนจากการเกาะกุมสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อยนะ แพรจะกลับบ้าน”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
มหาสมุทรร้องบอกกลางสายฝนที่เริ่มตกหนักขึ้น จนแทบไม่ได้ยินเสียงตอบโต้กัน
“ไม่ แพรจะกลับเอง แพรบอกแล้วว่าไม่ขอยุ่งกับผู้ชายหยาบคาย...ว่าร้ายแพรแบบพี่”
“พี่ขอโทษ” มหาสมุทรสำนึกตัว รู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ในตัวสาวตรงหน้าอีกแล้ว “พี่ผิดเองที่พูดจาไม่คิดแบบนั้น กลับเข้าบ้านก่อนเถอะนะ...ตอนนี้ฝนตกหนักมันอันตรายมากที่แพรจะออกไปข้างนอกคนเดียว”
“ไม่...แพรไม่....”
เสียงปฏิเสธยังไม่ทันจบประโยค ร่างสูงก็โอบกึ่งลากกึ่งจูงรั้งร่างบางให้ตามเข้าไปในบ้าน ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะพร่ำปฏิเสธหรือดิ้นรนขัดขืนแค่ไหน
“ปล่อยแพรนะ แพรบอกแล้วว่าจะกลับบ้าน...แพรไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับพี่”
“แพรอยากกลับบ้านพี่ก็ไม่ห้าม แต่รอให้ฝนหยุดตกก่อนแล้วพี่จะเป็นคนไปส่งเอง” มหาสมุทรอธิบาย “ออกไปตอนนี้ถนนลื่นอันตรายมาก แล้วแพรก็ไม่มีรถถึงออกไปหารถตอนนี้ก็คงไม่ได้หรอกครับ”
ดอกเตอร์สาวสะบัดหน้าถอนใจเฮือกเมื่อทุกคำพูดของเขาล้วนเป็นความจริง แต่เหตุการณ์ที่สุทัศน์สร้างเรื่องไว้ ทำให้เธออับอายจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาอีก ถึงจะโกรธที่เขาดูถูกแต่เธอก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เขาเห็นมันชวนให้ใครเข้าใจผิดได้ทั้งนั้น
“นะครับ...คนดี พี่คงจะรู้สึกผิดมากถ้าปล่อยแพรไปเสี่ยงตอนนี้” มหาสมุทรวิงวอนเสียงอ่อน “พี่ขอโทษที่มีหลายเรื่องทำให้เราเข้าใจผิดกัน แต่พี่อยากขอร้องให้เราเหมือนวันวาน...อยากให้เราเป็นพี่น้องที่คุ้นเคยกันเหมือนก่อนจะได้ไหมครับ”
“แพร...”
“ขอบคุณนะครับ” มหาสมุทรรีบรวบรัดทันที เมื่อสายตาคู่สวยช้อนขึ้นมองเขาอย่างครุ่นคิด “เสื้อแพรเปียกโชกเลย ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่านะครับ”
ประสบการณ์เมื่อครู่ทำให้แพรธาราไม่กล้าไว้ใจใครง่าย ๆ อีก ไม่ว่าคนรักหรือคนสนิทของครอบครัว สาวสวยจึงส่ายหน้าน้อย ๆ ขยับตัวถอยห่าง มือนุ่มขยับจับสาบเสื้อเมื่อสำนึกได้ว่าสุทัศน์ทำกระดุมเสื้อของเธอขาดไปหลายเม็ด
“เปียกทั้งตัวแบบนี้ไม่อาบน้ำได้ยังไง เสื้อก็ขาดยังไงก็ต้องหาเสื้อเปลี่ยน”
มหาสมุทรแย้ง พลางจูงรั้งสาวสวยไปที่ห้องนอนชั้นบนติดกับห้องเกิดเหตุ แพรธาราขืนตัวไม่ยอมตามชายหนุ่มเข้าไปในห้องนั้น อดีตแพทย์มือดีก็ไม่ได้บังคับเพียงแต่เปิดประตูห้องทิ้งไว้ เข้าห้องไปสักครู่ชายหนุ่มก็เดินกลับมาพร้อมชุดกระโปรงสีเขียวหยกในมือ
“นี่ไงหาตั้งนานกว่าจะเจอ ชุดเก่า...น่าจะยังใส่ได้นะครับ”
“ชุดเก่า”
สาวสวยเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ แต่นั่นทำให้มหาสมุทรรู้สึกตัวรีบกลบเกลื่อนเอ่ยถึงเรื่องยาแล้วขอตัวผละไปชั้นล่างที่ตู้ยาทันที จนแพรธาราได้แต่มองตามไปอย่างงง ๆ
“ฮัดเช้ย...” มือนุ่มขยี้จมูกเล็กน้อย “โธ่...จามทำไม แบบนี้ก็ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อตามที่เขาแนะน่ะสิ แล้วจะไว้ใจเขาได้หรือนี่”
ร่างบางหันรีหันขวางอย่างชั่งใจ ลองหมุนลูกบิดประตูไปมาก็เห็นว่าตัวลูกบิดและตัวล็อกยังใช้ได้ แต่ก็ยังไม่วางใจกลัวเขาจะไขกุญแจเข้ามาได้ สุดท้ายจึงลากตู้หัวเตียงมาปิดทับขวางประตูให้แน่นหนาขึ้นกว่าเดิมอีก
เสียงเคาะประตูเบา ๆ หน้าห้องทำเอาแพรธาราสะดุ้ง หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูแต่ก็ยังไม่ยอมเลื่อนตู้
“มีอะไรคะ”
“พี่เอายาแก้ไข้กับแก้หวัดมาให้ครับ” มหาสมุทรร้องบอก “เปิดประตูหน่อยได้ไหมครับ”
“วางไว้หน้าห้องก็ได้ค่ะ แพรยังแต่งตัวไม่เสร็จ...เสร็จแล้วเดี๋ยวจะออกไปค่ะ”
“งั้นพี่คอยนะครับ ไม่อยากทิ้งยาไว้ที่พื้น” มหาสมุทรแย้ง “และก็กลัวคนไม่ชอบทานยาเบี้ยวด้วยครับ”
สาวสวยย่นจมูกอย่างขัดใจที่โดนจี้ใจดำ จึงแกล้งปล่อยให้อีกฝ่ายยืนรออยู่สักพักก่อนจะยอมเปิดประตูออกไปหา
“ไหนล่ะคะยา”
“ตู้หัวเตียงมันไม่หนักเท่าไหร่หรอก” มหาสมุทรที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทัก “พี่ว่าต้องโต๊ะเครื่องแป้งจะดีกว่า”
“นี่...”
อดีตแพทย์หนุ่มยิ้มขำ รู้ว่าแพรธาราคงกลัวและหวาดระแวง อยากบอกหญิงสาวเหลือเกินว่าเชื่อใจเขาได้ แต่ก็รู้ดีว่าสิทธิ์ของเขาไม่ได้หลงเหลือให้หญิงสาวมั่นใจได้อีก
“ยาครับ” มหาสมุทรยื่นถาดยาและแก้วน้ำให้เมื่อสบกับดวงตาขุ่น “ทานสิครับ”
“จอมบงการ” แพรธารากระแหนะกระแหน แต่ก็ยอมทานยาที่เขาเตรียมมาให้ “คงไม่ใช่ยานอนหลับหรือยามอมให้แพรไม่รู้ตัวนะคะ”
“ก็อยากทำอยู่เหมือนกันครับ แต่ฉุกเฉินแบบนี้หาไม่ทัน”
“พี่มาร์ค”
มหาสมุทรหัวเราะเสียงลั่น เมื่อสาวสวยขึ้นเสียงใส่เขาเหมือนสมัยที่หญิงสาวยังเป็นเด็กเวลาถูกเขาขัดใจ
“พี่ล้อเล่นครับ ไม่อยากโดนยายพิณต่อยแล้วจับโยนเข้าคุกหรอกครับ”
คำตอบนี้มีผลให้ได้ค้อนวงใหญ่เป็นรางวัล แพรธาราสังเกตเห็นแผลที่มุมปากของเขาจึงอาสาจะทำแผลให้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เลือดไม่ซึมแล้ว”
“มุมปากเลือดไม่ซึมแล้ว แต่แก้มของพี่บวมมาก” แพรธาราแย้ง “แพรว่าประคบหน่อยจะดีกว่านะคะ พรุ่งนี้แก้มจะได้ไม่บวม”
“เอ่อ...”
“มาเถอะค่ะ”
แพรธาราขยับเข้าดึงเขาให้ตามมาที่ห้องรับแขกชั้นล่าง แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ความรู้สึกหวาดกลัวปนระแวงหายไป แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจเป็นเพราะเขาแสดงให้เห็นว่าห่วงใยและจริงใจกับเธอจริง ๆ
ไม่มีคำพูดหรือท่าทีขัดขืนมหาสมุทรนั่งนิ่งยินยอมให้แพรธาราใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบที่แก้มของเขา หากดอกเตอร์สาวต้องพยายามไม่สนใจสายตาอ่อนโยนที่เขาลอบมองเธออยู่ตลอดเวลาที่มือนุ่มค่อย ๆ ถ่าย ๆ น้ำหนักลงบนแก้มสากไรเครา
“เจ็บหรือไงคะ ถึงมองตาไม่กระพริบแบบนี้”
“เอ่อ...ขอโทษครับ” มหาสมุทรรีบเบนสายตาทันที “พี่คิดเรื่องอื่นเพลิน ๆ นะครับ เลยเสียมารยาทไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ เสร็จพอดี”
ดอกเตอร์สาวละมือก่อนจะขยับถอยห่างพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่าแต่ระหว่างที่เธอประคบแก้มให้เขา เธอกลับรู้สึกว่าเหตุการณ์ตรงนี้เป็นเหมือนเงาลางเลือนซ้อนทับภาพฝันราวกับเธอเคยใกล้ชิดกับเขามาก่อน แต่ให้คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกและไม่อยากเชื่อด้วยว่าตัวเองจะเคยแต่งงานกับเขามาก่อน
ญาติสนิทและสมาชิกทุกคนในครอบครัวสิริวัฒนากุลต่างมาประชุมที่ห้องรับแขกกันพร้อมหน้าตามคำสั่งแกมขอร้องของคุณสิทธิพงศ์ประมุขของตระกูล ต่างคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อทราบต้นเหตุที่หลานสาวสุดที่รักของตระกูลหายไป
“มันกล้ามาก”
สิทธิพงศ์ตบโต๊ะฉาด หลังสุทัศน์เล่าเรื่องที่มหาสมุทรมาดักทำร้ายเขา และฉุดแพรธาราไปต่อหน้าต่อตา
“แบบนี้ต้องแจ้งความ”
“อย่าเพิ่งเลยครับคุณพ่อ” สินธรแย้ง “ผมว่าเราไม่ควรด่วนสรุปนะครับ”
“นี่คุณพ่อคิดว่าผมโกหกหรือครับ”
สุทัศน์โพล่งขึ้นอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็พยายามซ่อนอาการไว้
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” สินธรปฏิเสธ “เพียงแต่พ่อรู้จักมาร์คมานาน เขาเป็นคนจริงใจและเปิดเผย อีกอย่างเรื่องดักฉุดกันนี่ถ้ามาร์คอยากทำคงทำไปนานแล้ว พ่อว่าอาจมีการเข้าใจผิดกันก็ได้”
“ใช่จ๊ะ แม่ก็คิดเหมือนคุณพ่อ...เรื่องเมื่อคืนน่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะจ๊ะ”
สุทัศน์แอบตีหน้าเซ็งที่ยุไม่ขึ้น แต่ยังไม่ทันได้หาเหตุมาแย้งรถยนต์คันหรูก็แล่นมาจอดที่หน้าคฤหาสน์เสียก่อน
“พี่แพร”
พิณสุดาไวกว่าเพื่อน ร่างบางรีบวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ก่อนจะผวาไปกอดพี่สาวอย่างห่วงใย ลูบหลังลูบไหล่สำรวจว่าพี่สาวไม่ได้บาดเจ็บใด ๆ
“โอ๊ย...ขอบคุณคุณพระคุณเจ้านะเนี่ยที่พี่แพรกลับมาปลอดภัย พิณห่วงจะแย่แล้ว...จะไปแจ้งความก็ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง” พิณสุดาบอก “แถมมีเรื่องเล่าน่าตื่นเต้นจนเหลือเชื่อให้ฟังฆ่าเวลาอีก”
“เรื่องอะไร...”
“นี่ไงครับนายคนที่ดักทำร้ายผมและฉุดแพรไป”
สุทัศน์ใส่ร้ายทันทีที่เห็น เขาเพิ่งรู้ว่าไอ้หนุ่มที่ยำเขาจนเกือบเละเมื่อคืนเป็นอดีตสามีของคนรัก โชคดีที่น้องสาวเอานิตยสารที่มหาสมุทรลงปกมาอ่าน เขาเลยคิดแผนนี้ขึ้นมาเอาคืนมันเสียเลย
“นี่มันคงล่วงเกินแพรแล้วใช่ไหม มันคงคอยเวลานี้มานานที่จะแย่งแพรไปจากแซม”
“แบบนี้ต้องแจ้งความดำเนินคดีให้หลาบจำ...อย่าให้ดิ้นหลุดได้ทีเดียว”
ญาติผู้หญิงของคุณลลิตาเสนอทันทีด้วยรู้จักคุ้นเคยกับมารดาของสุทัศน์มานาน และชายหนุ่มก็เอาอกเอาใจเก่งด้วยก็ยิ่งอยากสนับสนุนให้ได้กับแพรธารา
“ไม่ค่ะ พี่มาร์คไม่ได้ทำอะไรแพรและแพรก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะรักษาเกียรติของตัวเอง”
แพรธาราแย้งเสียงเข้ม ไม่ชอบใจที่สุทัศน์ใส่ร้ายมหาสมุทรเพราะทุกคำที่เขากล่าวหาก็เท่ากับประจานตัวเธอไปด้วย
“แพรขอล่ะนะคะ...ขอให้เรื่องวันนี้จบแค่นี้นะคะ ส่วนแพรก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่มาร์คอีก”
“แต่หนูแพร...” ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแย้ง “ถ้าปล่อยไปแบบนี้หนูจะเสียชื่อนะ คนจะเอาไปนินทาได้”
“แพรขอยืนยันว่าแพรกับพี่มาร์คไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลย พี่มาร์คมาช่วยแพรไม่ให้ถูกคนทำร้าย” สาวสวยปลายตามองตัวต้นเหตุเล็กน้อย “แต่บังเอิญฝนตกหนัก...อันตรายเกินกว่าจะขับรถ เราจึงต้องรอให้ฝนหยุดถึงขับกลับมานี่ล่ะค่ะ”
“เอาล่ะ ๆ”
ประมุขของตระกูลตัดบท หลังฟังหลายฝ่ายเสนอความคิดเห็น ในส่วนตัวท่านก็ไม่อยากเชื่อว่ามหาสมุทรจะกล้าทำเรื่องร้าย ๆ แบบนี้ แล้วยิ่งหลานสาวที่ไม่รู้สึกผูกพันกับชายหนุ่มสักนิดออกตัวเองว่าทุกอย่างเป็นปกติ ท่านก็ไม่อยากเอาความให้ชื่อเสียงฉาวไปกว่านี้
“ถ้าแพรบอกว่าไม่มีอะไร ปู่ก็เชื่อ แต่ถ้าคราวหน้ามี...คงรู้นะว่าฉันจะไม่นิ่งเฉยอีก”
“ครับ แต่ถ้ามีคนไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ และถ้าผมผ่านมาเห็นอีกก็คงจะไม่นิ่งเฉยเช่นกันครับ”
สิทธิพงศ์ไม่ได้ตอบรับ หากสายตาของพญาอินทรีย์บอกท่านว่าเรื่องที่หลานสาวหายตัวไปทั้งคืนคงไม่ใช่เรื่องธรรมดา และไม่ว่าจะอดีตหลานเขยหรือว่าที่หลานเขยก็ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้น
“แพรขอตัวไปพักก่อนนะคะคุณปู่”
“ไปเถอะ...ปู่ก็จะไปพักเหมือนกัน” สิทธิพงศ์อนุญาต ก่อนหันมาบอกญาติ ๆ “พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะนะ ขอบใจมากที่มาอยู่เป็นเพื่อนเป็นคู่คิดให้ฉัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่เป็นไรครับ”
ญาติ ๆ ต่างขานรับเป็นเสียงเดียวกัน ก่อนจะยกมือไหว้ประมุขใหญ่เมื่อท่านเคลื่อนเก้าอี้ไฟฟ้ากลับเข้าคฤหาสน์เพื่อไปพักผ่อน
หากหนึ่งในผู้บริหารอย่างพิณสุดาไม่เคยปล่อยความสงสัยให้รอดสายตา การกระทำของพี่สาวบ่งบอกว่าเรื่องเมื่อคืนมีปัญหา การกระทำของพี่สาวผิดจากวิสัยที่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรแพรธาราก็มักกล่าวหามหาสมุทรตลอด แต่ครั้งนี้กลับปกป้อง แล้วสายตาที่ใช้มองสุทัศน์ที่หญิงสาวปลื้มนักหนากลับมีร่องรอยแห่งความโกรธกรุ่น สาวสวยจึงเข้ามารั้งแขนของอดีตนายแพทย์หนุ่มก่อนที่เขาจะขึ้นรถกลับ
“เดี๋ยวค่ะพี่มาร์ค พิณมีเรื่องอยากคุยด้วยค่ะ”
“อะไรกัน...เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อใจพี่ขนาดต้องแอบมาซักฟอกพี่ลับหลังคุณปู่เลยเหรอ” มหาสมุทรแซว “อ้อ...หรือเป็นแผนของเธอกับคุณปู่ที่จะจับตัวพี่ไปขู่บังคับให้สารภาพความผิด”
“พี่มาร์คคะ” พิณสุดาเรียกหนุ่มคุ้นเคยเสียงเขียว “เดี๋ยวนี้ปากคอนะ...เจ้าเล่ห์ร้ายแบบนักธุรกิจเชียว แต่อย่าลืมนะคะว่าหมัดของพิณก็แรงตามอายุเหมือนกันนะคะ”
“โอ้...พี่เพิ่งบอกแพรไปว่ากลัวโดนเราต่อยแล้วจับโยนเข้าคุก ไม่นึกว่าปากตัวเองจะดีขนาดเป็นเรื่องจริง”
พิณสุดาตวัดค้อนใส่คนปากดี พลางลากจูงร่างสูงให้เดินตามไปที่ศาลากลางสวน แอบหมั่นไส้คนตัวโตนักเห็นสายตาก็รู้ว่ายังรักพี่สาวของเธอหมดหัวใจ แต่ไม่วายทำตัวเป็นสุภาพบุรุษจนน่าสมน้ำหน้า
“นั่งนี่เลย” พิณสุดาฉุดแขนแกร่งให้ร่างสูงทรุดนั่งข้าง ๆ “บอกพิณมาให้หมดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”
“แพรบอกว่าไงก็ตามนั้น”
“อย่ามาอมพะนำให้มากเรื่องนะคะพี่มาร์ค” พิณสุดาดุ “พิณรู้จักพวกพี่ดีทั้งคู่ ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือตอนนี้พิณก็มองท่าทางและสายตาของพวกพี่ออก”
“สายตาเศร้าหรือเกลียดล่ะ...”
“อย่านอกเรื่องนะคะ พิณเห็นอยู่ว่าพี่แพรออกรับแทนพี่ทั้งที่ไม่เคยทำ” พิณสุดาตั้งข้อสังเกต “แล้วก็มองนายแซมนั่นด้วยสายตาเปลี่ยนไป มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ”
มหาสมุทรถอนหายในเสียงหนัก ยิ่งพิณสุดาเอาแต่จ้องเขาตาไม่กระพริบก็ยิ่งอึดอัดและไม่สบายใจ ครุ่นคิดอยู่นานว่าควรจะเล่าเรื่องนี้ดีไหม หากลึก ๆ ในใจก็ห่วงแพรธารา สุดท้ายจึงจำยอมเล่าเหตุการณ์ที่สุทัศน์ลวงแพรธาราไปที่บ้านอุ่นรักของเขา แล้วพยายามจะใช้กำลังบังคับล่วงเกิน เขาบังเอิญผ่านไปเห็นเหตุการณ์จึงช่วยไว้
“เลวมาก” พิณสุดาแค้นหนัก “แต่พิณสงสัยว่านายนั่นรู้จักบ้านพักของพี่ได้ยังไง”
“น้องนีเป็นแฟนเพื่อนพี่...นายพล..พิณจำได้ไหม”
“อ้อ...จำได้ นายหนุ่มเจ้าชู้จอมสำราญ” พิณสุดาเปรย “แล้ว...”
“พี่คิดว่าน้องนีคงเป็นน้องของนายนั่น ได้ยินเจ้าพลเรียกว่าคุณแซม” มหาสมุทรอธิบาย “เจ้าพลมาขอกุญแจบ้านพักไปให้พี่แฟนสารภาพรักคนรัก”
พิณสุดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ความจริงเธอไม่ค่อยรู้เรื่องครอบครัวของคนรักพี่สาวนัก เพราะแพรธาราไม่เคยกลับเมืองไทยเลย จึงยังไม่ได้แนะนำครอบครัวของคนรักให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ แต่เพราะมารดาของสุทัศน์เข้ามาทักทายไหว้ผู้ใหญ่ฝ่ายของเธอก่อน ความสัมพันธ์จึงเหมือนใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
“ใช้สารภาพรัก...รู้สึกพฤติกรรมจะตรงข้ามสิ้นเชิง” พิณสุดาบ่น “แต่พิณก็ยังสงสัยว่าเหตุการณ์เกิดตอนหัวค่ำ ทำไมช่วยเสร็จแล้วพี่มาร์คไม่พาพี่แพรกลับล่ะคะ”
“ฝนตกหนักมาก...พี่เชื่อว่าตกขนาดนั้นถนนคงลื่นแน่” มหาสมุทรตอบเสียงเครียดโดยไม่รู้ตัว “พิณรู้ใช่ไหมว่าพี่ต้องสูญเสียอะไรไปบ้างเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น พี่บอกตามตรงว่าพี่กลัว...กลัวจะเกิดเรื่องร้ายแล้วพี่จะช่วยแพรไม่ได้เหมือนครั้งก่อน”
“โธ่...พี่มาร์ค”
พิณสุดาครางเรียกชื่อชายหนุ่มอย่างอ่อนใจ รับรู้ได้ง่ายดายว่าหนุ่มตรงหน้ายังคงรักพี่สาวของเธอหมดหัวใจ
“พี่อยากให้พิณคอยดูแลแพรด้วย พี่เชื่อว่านายนั่นคงต้องหาโอกาสอีกแน่”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พิณจะคอยเฝ้าอย่างดีเลย” พิณสุดารับปากเป็นมั่นเหมาะ “รับรองจะปกป้องจากเจ้าวายร้ายหน้าเนื้อใจเสือทุกกระเบียดนิ้ว”
“ได้ยินแบบนี้พี่ก็โล่งใจ พี่คงต้องไปก่อน...ไม่อยากให้ใครเห็นว่าพี่มานั่งคุยกับพิณ” มหาสมุทรลุกยืนสีหน้านิ่ง “กลัวว่าพิณจะโดนดุเสียเปล่า ๆ”
“หือ...ประเมินพิณต่ำไปไหม อย่างพิณนี่นะจะมีใครกล้าดุ”
“นั่นสิ...คุณหนูคนเก่งคู่หูจอมห้าวของยายแมร์ ใครเห็นก็ต้องยอมอ่อนข้อให้ทุกราย”
มหาสมุทรสัพยอกอย่างอารมณ์ดี คลายใจคลายกังวลไปมากที่พิณสุดารับปากจะคอยดูแลแพรธาราอย่างใกล้ชิด แม้ไม่มีสิทธิ์ปกป้องแต่ความห่วงใยไม่เคยจางหายจากหัวใจ
********************
“เพิ่งนึกกลัวหรือครับ” เสียงถามคล้ายเยาะหยัน “แอบมาพลอดรักกันจนค่ำมืด แล้วยังไงครับ...พอเขาจะเอาจริงเลยเกิดอาการกลัวเปลี่ยนใจไม่ยอมตามหรือไงครับ”
“คุณ...กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้”
“พี่ก็แค่พูดในฐานะคนที่รู้จักครอบครัวของแพรดีว่ารัก...ว่าห่วงชื่อเสียงขนาดไหน”
“รู้จักครอบครัวของฉัน...”
แพรธาราครางอย่างแปลกใจ เผลอขยับเข้าใกล้เขาอย่างลืมตัว ก่อนจะอุทานอย่างตกใจเมื่อแสงจันทร์ที่รอดผ่านหน้าต่างสะท้อนให้เห็นใบหน้าคมชัดขึ้น
“พี่มาร์ค...”
แพรธารายกมือขึ้นปิดริมฝีปากอย่างคาดไม่ถึง อับอายเหลือเกินที่เขามาเห็นสภาพและเหตุการณ์อัปยศครั้งนี้ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดเยาะหยันของเขาก็โกรธกรุ่นจนลืมนึกถึงคำขอบคุณที่ตั้งใจจะมอบให้หนุ่มแปลกหน้าที่มีพระคุณไปสิ้น
“หึ...แต่ถึงพี่จะรู้จักครอบครัวของแพรก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกแพร” แพรธาราย้อนเสียงหนัก “แพรมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันหรือพี่คิด...คิดว่าเราเคยแต่งงานกันจริงถึงมีสิทธิ์มาว่าร้ายแพรแบบนี้”
“ใช่...พี่ไม่มีสิทธิ์” มหาสมุทรตอบรับเสียงขมขื่น “แค่เศษเสี้ยวของความรักก็ยังไม่มีสิทธิ์ แต่พี่อยากให้แพรคิดถึงครอบครัวบ้างว่าจะอับอายเสียหน้าแค่ไหนถ้าเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีก”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น แต่ก็นึกคำพูดจะเถียงกลับไม่ออก
“หรือคิดว่าโลกเปลี่ยนจะทำอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงถึงจารีตของไทยแล้ว”
“พี่...พี่กำลังดูถูกแพร...พูดเหมือนแพรไม่มีศักดิ์ศรี” สาวสวยแย้งเสียงเครือ “รู้ไว้นะคะถึงแพรจะไม่ใช่อดีตคุณหมออย่างพี่ แต่พี่ก็มีจริยธรรมมีศีลธรรมในใจค่ะ...และแพรก็ไม่ขออยู่ใกล้คนจิตใจสกปรกอย่างพี่แม้แต่วินาทีเดียว”
แพรธาราผลักร่างสูงตรงหน้าอย่างแรง วิ่งพรวดออกจากห้องลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่พยายามกักเก็บหลั่งไหลด้วยความเสียใจอับอายที่ถูกดูถูกใส่ร้ายในเรื่องไม่จริง
“แพร...เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน”
มหาสมุทรที่รู้สึกตัวว่าพูดจารุนแรงเกินไปรีบวิ่งตามมาคว้าแขนสาวสวยได้ทันตรงสนามหน้าบ้าน
“กลับเข้าบ้านเถอะแพร...ฝนเริ่มตกแล้ว...ดูจากก้อนเมฆอีกเดี๋ยวคงหนักแน่”
“อย่ามายุ่งกับแพร แพรบอกแล้วว่าไม่อยากอยู่ใกล้คนจิตใจร้ายกาจอย่างพี่”
แพรธาราตวาดเสียงดัง สะบัดแขนจากการเกาะกุมสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อยนะ แพรจะกลับบ้าน”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
มหาสมุทรร้องบอกกลางสายฝนที่เริ่มตกหนักขึ้น จนแทบไม่ได้ยินเสียงตอบโต้กัน
“ไม่ แพรจะกลับเอง แพรบอกแล้วว่าไม่ขอยุ่งกับผู้ชายหยาบคาย...ว่าร้ายแพรแบบพี่”
“พี่ขอโทษ” มหาสมุทรสำนึกตัว รู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ในตัวสาวตรงหน้าอีกแล้ว “พี่ผิดเองที่พูดจาไม่คิดแบบนั้น กลับเข้าบ้านก่อนเถอะนะ...ตอนนี้ฝนตกหนักมันอันตรายมากที่แพรจะออกไปข้างนอกคนเดียว”
“ไม่...แพรไม่....”
เสียงปฏิเสธยังไม่ทันจบประโยค ร่างสูงก็โอบกึ่งลากกึ่งจูงรั้งร่างบางให้ตามเข้าไปในบ้าน ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะพร่ำปฏิเสธหรือดิ้นรนขัดขืนแค่ไหน
“ปล่อยแพรนะ แพรบอกแล้วว่าจะกลับบ้าน...แพรไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับพี่”
“แพรอยากกลับบ้านพี่ก็ไม่ห้าม แต่รอให้ฝนหยุดตกก่อนแล้วพี่จะเป็นคนไปส่งเอง” มหาสมุทรอธิบาย “ออกไปตอนนี้ถนนลื่นอันตรายมาก แล้วแพรก็ไม่มีรถถึงออกไปหารถตอนนี้ก็คงไม่ได้หรอกครับ”
ดอกเตอร์สาวสะบัดหน้าถอนใจเฮือกเมื่อทุกคำพูดของเขาล้วนเป็นความจริง แต่เหตุการณ์ที่สุทัศน์สร้างเรื่องไว้ ทำให้เธออับอายจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาอีก ถึงจะโกรธที่เขาดูถูกแต่เธอก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เขาเห็นมันชวนให้ใครเข้าใจผิดได้ทั้งนั้น
“นะครับ...คนดี พี่คงจะรู้สึกผิดมากถ้าปล่อยแพรไปเสี่ยงตอนนี้” มหาสมุทรวิงวอนเสียงอ่อน “พี่ขอโทษที่มีหลายเรื่องทำให้เราเข้าใจผิดกัน แต่พี่อยากขอร้องให้เราเหมือนวันวาน...อยากให้เราเป็นพี่น้องที่คุ้นเคยกันเหมือนก่อนจะได้ไหมครับ”
“แพร...”
“ขอบคุณนะครับ” มหาสมุทรรีบรวบรัดทันที เมื่อสายตาคู่สวยช้อนขึ้นมองเขาอย่างครุ่นคิด “เสื้อแพรเปียกโชกเลย ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่านะครับ”
ประสบการณ์เมื่อครู่ทำให้แพรธาราไม่กล้าไว้ใจใครง่าย ๆ อีก ไม่ว่าคนรักหรือคนสนิทของครอบครัว สาวสวยจึงส่ายหน้าน้อย ๆ ขยับตัวถอยห่าง มือนุ่มขยับจับสาบเสื้อเมื่อสำนึกได้ว่าสุทัศน์ทำกระดุมเสื้อของเธอขาดไปหลายเม็ด
“เปียกทั้งตัวแบบนี้ไม่อาบน้ำได้ยังไง เสื้อก็ขาดยังไงก็ต้องหาเสื้อเปลี่ยน”
มหาสมุทรแย้ง พลางจูงรั้งสาวสวยไปที่ห้องนอนชั้นบนติดกับห้องเกิดเหตุ แพรธาราขืนตัวไม่ยอมตามชายหนุ่มเข้าไปในห้องนั้น อดีตแพทย์มือดีก็ไม่ได้บังคับเพียงแต่เปิดประตูห้องทิ้งไว้ เข้าห้องไปสักครู่ชายหนุ่มก็เดินกลับมาพร้อมชุดกระโปรงสีเขียวหยกในมือ
“นี่ไงหาตั้งนานกว่าจะเจอ ชุดเก่า...น่าจะยังใส่ได้นะครับ”
“ชุดเก่า”
สาวสวยเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ แต่นั่นทำให้มหาสมุทรรู้สึกตัวรีบกลบเกลื่อนเอ่ยถึงเรื่องยาแล้วขอตัวผละไปชั้นล่างที่ตู้ยาทันที จนแพรธาราได้แต่มองตามไปอย่างงง ๆ
“ฮัดเช้ย...” มือนุ่มขยี้จมูกเล็กน้อย “โธ่...จามทำไม แบบนี้ก็ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อตามที่เขาแนะน่ะสิ แล้วจะไว้ใจเขาได้หรือนี่”
ร่างบางหันรีหันขวางอย่างชั่งใจ ลองหมุนลูกบิดประตูไปมาก็เห็นว่าตัวลูกบิดและตัวล็อกยังใช้ได้ แต่ก็ยังไม่วางใจกลัวเขาจะไขกุญแจเข้ามาได้ สุดท้ายจึงลากตู้หัวเตียงมาปิดทับขวางประตูให้แน่นหนาขึ้นกว่าเดิมอีก
เสียงเคาะประตูเบา ๆ หน้าห้องทำเอาแพรธาราสะดุ้ง หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูแต่ก็ยังไม่ยอมเลื่อนตู้
“มีอะไรคะ”
“พี่เอายาแก้ไข้กับแก้หวัดมาให้ครับ” มหาสมุทรร้องบอก “เปิดประตูหน่อยได้ไหมครับ”
“วางไว้หน้าห้องก็ได้ค่ะ แพรยังแต่งตัวไม่เสร็จ...เสร็จแล้วเดี๋ยวจะออกไปค่ะ”
“งั้นพี่คอยนะครับ ไม่อยากทิ้งยาไว้ที่พื้น” มหาสมุทรแย้ง “และก็กลัวคนไม่ชอบทานยาเบี้ยวด้วยครับ”
สาวสวยย่นจมูกอย่างขัดใจที่โดนจี้ใจดำ จึงแกล้งปล่อยให้อีกฝ่ายยืนรออยู่สักพักก่อนจะยอมเปิดประตูออกไปหา
“ไหนล่ะคะยา”
“ตู้หัวเตียงมันไม่หนักเท่าไหร่หรอก” มหาสมุทรที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทัก “พี่ว่าต้องโต๊ะเครื่องแป้งจะดีกว่า”
“นี่...”
อดีตแพทย์หนุ่มยิ้มขำ รู้ว่าแพรธาราคงกลัวและหวาดระแวง อยากบอกหญิงสาวเหลือเกินว่าเชื่อใจเขาได้ แต่ก็รู้ดีว่าสิทธิ์ของเขาไม่ได้หลงเหลือให้หญิงสาวมั่นใจได้อีก
“ยาครับ” มหาสมุทรยื่นถาดยาและแก้วน้ำให้เมื่อสบกับดวงตาขุ่น “ทานสิครับ”
“จอมบงการ” แพรธารากระแหนะกระแหน แต่ก็ยอมทานยาที่เขาเตรียมมาให้ “คงไม่ใช่ยานอนหลับหรือยามอมให้แพรไม่รู้ตัวนะคะ”
“ก็อยากทำอยู่เหมือนกันครับ แต่ฉุกเฉินแบบนี้หาไม่ทัน”
“พี่มาร์ค”
มหาสมุทรหัวเราะเสียงลั่น เมื่อสาวสวยขึ้นเสียงใส่เขาเหมือนสมัยที่หญิงสาวยังเป็นเด็กเวลาถูกเขาขัดใจ
“พี่ล้อเล่นครับ ไม่อยากโดนยายพิณต่อยแล้วจับโยนเข้าคุกหรอกครับ”
คำตอบนี้มีผลให้ได้ค้อนวงใหญ่เป็นรางวัล แพรธาราสังเกตเห็นแผลที่มุมปากของเขาจึงอาสาจะทำแผลให้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เลือดไม่ซึมแล้ว”
“มุมปากเลือดไม่ซึมแล้ว แต่แก้มของพี่บวมมาก” แพรธาราแย้ง “แพรว่าประคบหน่อยจะดีกว่านะคะ พรุ่งนี้แก้มจะได้ไม่บวม”
“เอ่อ...”
“มาเถอะค่ะ”
แพรธาราขยับเข้าดึงเขาให้ตามมาที่ห้องรับแขกชั้นล่าง แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ความรู้สึกหวาดกลัวปนระแวงหายไป แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจเป็นเพราะเขาแสดงให้เห็นว่าห่วงใยและจริงใจกับเธอจริง ๆ
ไม่มีคำพูดหรือท่าทีขัดขืนมหาสมุทรนั่งนิ่งยินยอมให้แพรธาราใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบที่แก้มของเขา หากดอกเตอร์สาวต้องพยายามไม่สนใจสายตาอ่อนโยนที่เขาลอบมองเธออยู่ตลอดเวลาที่มือนุ่มค่อย ๆ ถ่าย ๆ น้ำหนักลงบนแก้มสากไรเครา
“เจ็บหรือไงคะ ถึงมองตาไม่กระพริบแบบนี้”
“เอ่อ...ขอโทษครับ” มหาสมุทรรีบเบนสายตาทันที “พี่คิดเรื่องอื่นเพลิน ๆ นะครับ เลยเสียมารยาทไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ เสร็จพอดี”
ดอกเตอร์สาวละมือก่อนจะขยับถอยห่างพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่าแต่ระหว่างที่เธอประคบแก้มให้เขา เธอกลับรู้สึกว่าเหตุการณ์ตรงนี้เป็นเหมือนเงาลางเลือนซ้อนทับภาพฝันราวกับเธอเคยใกล้ชิดกับเขามาก่อน แต่ให้คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกและไม่อยากเชื่อด้วยว่าตัวเองจะเคยแต่งงานกับเขามาก่อน
ญาติสนิทและสมาชิกทุกคนในครอบครัวสิริวัฒนากุลต่างมาประชุมที่ห้องรับแขกกันพร้อมหน้าตามคำสั่งแกมขอร้องของคุณสิทธิพงศ์ประมุขของตระกูล ต่างคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อทราบต้นเหตุที่หลานสาวสุดที่รักของตระกูลหายไป
“มันกล้ามาก”
สิทธิพงศ์ตบโต๊ะฉาด หลังสุทัศน์เล่าเรื่องที่มหาสมุทรมาดักทำร้ายเขา และฉุดแพรธาราไปต่อหน้าต่อตา
“แบบนี้ต้องแจ้งความ”
“อย่าเพิ่งเลยครับคุณพ่อ” สินธรแย้ง “ผมว่าเราไม่ควรด่วนสรุปนะครับ”
“นี่คุณพ่อคิดว่าผมโกหกหรือครับ”
สุทัศน์โพล่งขึ้นอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็พยายามซ่อนอาการไว้
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” สินธรปฏิเสธ “เพียงแต่พ่อรู้จักมาร์คมานาน เขาเป็นคนจริงใจและเปิดเผย อีกอย่างเรื่องดักฉุดกันนี่ถ้ามาร์คอยากทำคงทำไปนานแล้ว พ่อว่าอาจมีการเข้าใจผิดกันก็ได้”
“ใช่จ๊ะ แม่ก็คิดเหมือนคุณพ่อ...เรื่องเมื่อคืนน่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะจ๊ะ”
สุทัศน์แอบตีหน้าเซ็งที่ยุไม่ขึ้น แต่ยังไม่ทันได้หาเหตุมาแย้งรถยนต์คันหรูก็แล่นมาจอดที่หน้าคฤหาสน์เสียก่อน
“พี่แพร”
พิณสุดาไวกว่าเพื่อน ร่างบางรีบวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ก่อนจะผวาไปกอดพี่สาวอย่างห่วงใย ลูบหลังลูบไหล่สำรวจว่าพี่สาวไม่ได้บาดเจ็บใด ๆ
“โอ๊ย...ขอบคุณคุณพระคุณเจ้านะเนี่ยที่พี่แพรกลับมาปลอดภัย พิณห่วงจะแย่แล้ว...จะไปแจ้งความก็ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง” พิณสุดาบอก “แถมมีเรื่องเล่าน่าตื่นเต้นจนเหลือเชื่อให้ฟังฆ่าเวลาอีก”
“เรื่องอะไร...”
“นี่ไงครับนายคนที่ดักทำร้ายผมและฉุดแพรไป”
สุทัศน์ใส่ร้ายทันทีที่เห็น เขาเพิ่งรู้ว่าไอ้หนุ่มที่ยำเขาจนเกือบเละเมื่อคืนเป็นอดีตสามีของคนรัก โชคดีที่น้องสาวเอานิตยสารที่มหาสมุทรลงปกมาอ่าน เขาเลยคิดแผนนี้ขึ้นมาเอาคืนมันเสียเลย
“นี่มันคงล่วงเกินแพรแล้วใช่ไหม มันคงคอยเวลานี้มานานที่จะแย่งแพรไปจากแซม”
“แบบนี้ต้องแจ้งความดำเนินคดีให้หลาบจำ...อย่าให้ดิ้นหลุดได้ทีเดียว”
ญาติผู้หญิงของคุณลลิตาเสนอทันทีด้วยรู้จักคุ้นเคยกับมารดาของสุทัศน์มานาน และชายหนุ่มก็เอาอกเอาใจเก่งด้วยก็ยิ่งอยากสนับสนุนให้ได้กับแพรธารา
“ไม่ค่ะ พี่มาร์คไม่ได้ทำอะไรแพรและแพรก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะรักษาเกียรติของตัวเอง”
แพรธาราแย้งเสียงเข้ม ไม่ชอบใจที่สุทัศน์ใส่ร้ายมหาสมุทรเพราะทุกคำที่เขากล่าวหาก็เท่ากับประจานตัวเธอไปด้วย
“แพรขอล่ะนะคะ...ขอให้เรื่องวันนี้จบแค่นี้นะคะ ส่วนแพรก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่มาร์คอีก”
“แต่หนูแพร...” ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแย้ง “ถ้าปล่อยไปแบบนี้หนูจะเสียชื่อนะ คนจะเอาไปนินทาได้”
“แพรขอยืนยันว่าแพรกับพี่มาร์คไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลย พี่มาร์คมาช่วยแพรไม่ให้ถูกคนทำร้าย” สาวสวยปลายตามองตัวต้นเหตุเล็กน้อย “แต่บังเอิญฝนตกหนัก...อันตรายเกินกว่าจะขับรถ เราจึงต้องรอให้ฝนหยุดถึงขับกลับมานี่ล่ะค่ะ”
“เอาล่ะ ๆ”
ประมุขของตระกูลตัดบท หลังฟังหลายฝ่ายเสนอความคิดเห็น ในส่วนตัวท่านก็ไม่อยากเชื่อว่ามหาสมุทรจะกล้าทำเรื่องร้าย ๆ แบบนี้ แล้วยิ่งหลานสาวที่ไม่รู้สึกผูกพันกับชายหนุ่มสักนิดออกตัวเองว่าทุกอย่างเป็นปกติ ท่านก็ไม่อยากเอาความให้ชื่อเสียงฉาวไปกว่านี้
“ถ้าแพรบอกว่าไม่มีอะไร ปู่ก็เชื่อ แต่ถ้าคราวหน้ามี...คงรู้นะว่าฉันจะไม่นิ่งเฉยอีก”
“ครับ แต่ถ้ามีคนไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ และถ้าผมผ่านมาเห็นอีกก็คงจะไม่นิ่งเฉยเช่นกันครับ”
สิทธิพงศ์ไม่ได้ตอบรับ หากสายตาของพญาอินทรีย์บอกท่านว่าเรื่องที่หลานสาวหายตัวไปทั้งคืนคงไม่ใช่เรื่องธรรมดา และไม่ว่าจะอดีตหลานเขยหรือว่าที่หลานเขยก็ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้น
“แพรขอตัวไปพักก่อนนะคะคุณปู่”
“ไปเถอะ...ปู่ก็จะไปพักเหมือนกัน” สิทธิพงศ์อนุญาต ก่อนหันมาบอกญาติ ๆ “พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะนะ ขอบใจมากที่มาอยู่เป็นเพื่อนเป็นคู่คิดให้ฉัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่เป็นไรครับ”
ญาติ ๆ ต่างขานรับเป็นเสียงเดียวกัน ก่อนจะยกมือไหว้ประมุขใหญ่เมื่อท่านเคลื่อนเก้าอี้ไฟฟ้ากลับเข้าคฤหาสน์เพื่อไปพักผ่อน
หากหนึ่งในผู้บริหารอย่างพิณสุดาไม่เคยปล่อยความสงสัยให้รอดสายตา การกระทำของพี่สาวบ่งบอกว่าเรื่องเมื่อคืนมีปัญหา การกระทำของพี่สาวผิดจากวิสัยที่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรแพรธาราก็มักกล่าวหามหาสมุทรตลอด แต่ครั้งนี้กลับปกป้อง แล้วสายตาที่ใช้มองสุทัศน์ที่หญิงสาวปลื้มนักหนากลับมีร่องรอยแห่งความโกรธกรุ่น สาวสวยจึงเข้ามารั้งแขนของอดีตนายแพทย์หนุ่มก่อนที่เขาจะขึ้นรถกลับ
“เดี๋ยวค่ะพี่มาร์ค พิณมีเรื่องอยากคุยด้วยค่ะ”
“อะไรกัน...เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อใจพี่ขนาดต้องแอบมาซักฟอกพี่ลับหลังคุณปู่เลยเหรอ” มหาสมุทรแซว “อ้อ...หรือเป็นแผนของเธอกับคุณปู่ที่จะจับตัวพี่ไปขู่บังคับให้สารภาพความผิด”
“พี่มาร์คคะ” พิณสุดาเรียกหนุ่มคุ้นเคยเสียงเขียว “เดี๋ยวนี้ปากคอนะ...เจ้าเล่ห์ร้ายแบบนักธุรกิจเชียว แต่อย่าลืมนะคะว่าหมัดของพิณก็แรงตามอายุเหมือนกันนะคะ”
“โอ้...พี่เพิ่งบอกแพรไปว่ากลัวโดนเราต่อยแล้วจับโยนเข้าคุก ไม่นึกว่าปากตัวเองจะดีขนาดเป็นเรื่องจริง”
พิณสุดาตวัดค้อนใส่คนปากดี พลางลากจูงร่างสูงให้เดินตามไปที่ศาลากลางสวน แอบหมั่นไส้คนตัวโตนักเห็นสายตาก็รู้ว่ายังรักพี่สาวของเธอหมดหัวใจ แต่ไม่วายทำตัวเป็นสุภาพบุรุษจนน่าสมน้ำหน้า
“นั่งนี่เลย” พิณสุดาฉุดแขนแกร่งให้ร่างสูงทรุดนั่งข้าง ๆ “บอกพิณมาให้หมดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”
“แพรบอกว่าไงก็ตามนั้น”
“อย่ามาอมพะนำให้มากเรื่องนะคะพี่มาร์ค” พิณสุดาดุ “พิณรู้จักพวกพี่ดีทั้งคู่ ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือตอนนี้พิณก็มองท่าทางและสายตาของพวกพี่ออก”
“สายตาเศร้าหรือเกลียดล่ะ...”
“อย่านอกเรื่องนะคะ พิณเห็นอยู่ว่าพี่แพรออกรับแทนพี่ทั้งที่ไม่เคยทำ” พิณสุดาตั้งข้อสังเกต “แล้วก็มองนายแซมนั่นด้วยสายตาเปลี่ยนไป มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ”
มหาสมุทรถอนหายในเสียงหนัก ยิ่งพิณสุดาเอาแต่จ้องเขาตาไม่กระพริบก็ยิ่งอึดอัดและไม่สบายใจ ครุ่นคิดอยู่นานว่าควรจะเล่าเรื่องนี้ดีไหม หากลึก ๆ ในใจก็ห่วงแพรธารา สุดท้ายจึงจำยอมเล่าเหตุการณ์ที่สุทัศน์ลวงแพรธาราไปที่บ้านอุ่นรักของเขา แล้วพยายามจะใช้กำลังบังคับล่วงเกิน เขาบังเอิญผ่านไปเห็นเหตุการณ์จึงช่วยไว้
“เลวมาก” พิณสุดาแค้นหนัก “แต่พิณสงสัยว่านายนั่นรู้จักบ้านพักของพี่ได้ยังไง”
“น้องนีเป็นแฟนเพื่อนพี่...นายพล..พิณจำได้ไหม”
“อ้อ...จำได้ นายหนุ่มเจ้าชู้จอมสำราญ” พิณสุดาเปรย “แล้ว...”
“พี่คิดว่าน้องนีคงเป็นน้องของนายนั่น ได้ยินเจ้าพลเรียกว่าคุณแซม” มหาสมุทรอธิบาย “เจ้าพลมาขอกุญแจบ้านพักไปให้พี่แฟนสารภาพรักคนรัก”
พิณสุดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ความจริงเธอไม่ค่อยรู้เรื่องครอบครัวของคนรักพี่สาวนัก เพราะแพรธาราไม่เคยกลับเมืองไทยเลย จึงยังไม่ได้แนะนำครอบครัวของคนรักให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ แต่เพราะมารดาของสุทัศน์เข้ามาทักทายไหว้ผู้ใหญ่ฝ่ายของเธอก่อน ความสัมพันธ์จึงเหมือนใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
“ใช้สารภาพรัก...รู้สึกพฤติกรรมจะตรงข้ามสิ้นเชิง” พิณสุดาบ่น “แต่พิณก็ยังสงสัยว่าเหตุการณ์เกิดตอนหัวค่ำ ทำไมช่วยเสร็จแล้วพี่มาร์คไม่พาพี่แพรกลับล่ะคะ”
“ฝนตกหนักมาก...พี่เชื่อว่าตกขนาดนั้นถนนคงลื่นแน่” มหาสมุทรตอบเสียงเครียดโดยไม่รู้ตัว “พิณรู้ใช่ไหมว่าพี่ต้องสูญเสียอะไรไปบ้างเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น พี่บอกตามตรงว่าพี่กลัว...กลัวจะเกิดเรื่องร้ายแล้วพี่จะช่วยแพรไม่ได้เหมือนครั้งก่อน”
“โธ่...พี่มาร์ค”
พิณสุดาครางเรียกชื่อชายหนุ่มอย่างอ่อนใจ รับรู้ได้ง่ายดายว่าหนุ่มตรงหน้ายังคงรักพี่สาวของเธอหมดหัวใจ
“พี่อยากให้พิณคอยดูแลแพรด้วย พี่เชื่อว่านายนั่นคงต้องหาโอกาสอีกแน่”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พิณจะคอยเฝ้าอย่างดีเลย” พิณสุดารับปากเป็นมั่นเหมาะ “รับรองจะปกป้องจากเจ้าวายร้ายหน้าเนื้อใจเสือทุกกระเบียดนิ้ว”
“ได้ยินแบบนี้พี่ก็โล่งใจ พี่คงต้องไปก่อน...ไม่อยากให้ใครเห็นว่าพี่มานั่งคุยกับพิณ” มหาสมุทรลุกยืนสีหน้านิ่ง “กลัวว่าพิณจะโดนดุเสียเปล่า ๆ”
“หือ...ประเมินพิณต่ำไปไหม อย่างพิณนี่นะจะมีใครกล้าดุ”
“นั่นสิ...คุณหนูคนเก่งคู่หูจอมห้าวของยายแมร์ ใครเห็นก็ต้องยอมอ่อนข้อให้ทุกราย”
มหาสมุทรสัพยอกอย่างอารมณ์ดี คลายใจคลายกังวลไปมากที่พิณสุดารับปากจะคอยดูแลแพรธาราอย่างใกล้ชิด แม้ไม่มีสิทธิ์ปกป้องแต่ความห่วงใยไม่เคยจางหายจากหัวใจ
********************

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 มี.ค. 2555, 22:25:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 มี.ค. 2555, 22:25:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 1494
<< ตอนที่ 9 | ตอนที่ 11 >> |

sai 19 มี.ค. 2555, 22:35:01 น.
ทำไมแพรไม่เล่าความจริง อย่างงี้นายแซมก็ยิ่งได้ใจล่ะซิเนี่ย
ทำไมแพรไม่เล่าความจริง อย่างงี้นายแซมก็ยิ่งได้ใจล่ะซิเนี่ย

Auuuu 19 มี.ค. 2555, 22:41:22 น.
พอเดาได้ลางๆว่าเกิดอุบัติเหตุ เฮ้อออ
พี่มาร์ครักแพรมากๆเลย เวลาผ่านไปไหนก็ยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง...
อ๊ากกก อยากให้นางเอกจำได้เร็วๆจัง สงสารพี่มาร์คมากๆๆ
พอเดาได้ลางๆว่าเกิดอุบัติเหตุ เฮ้อออ
พี่มาร์ครักแพรมากๆเลย เวลาผ่านไปไหนก็ยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง...
อ๊ากกก อยากให้นางเอกจำได้เร็วๆจัง สงสารพี่มาร์คมากๆๆ

panon 20 มี.ค. 2555, 10:58:02 น.
แต่ทำไมมากไม่ต่อสู้หน่อยล่ะตจ่อสู้เพื่อให้ได้คนรักกลับคืนมันต้องมีไรสักอย่างที่มาร์คถึงได้ยอมแบบเนี่ยขัดใจอิอิอิ
แต่ทำไมมากไม่ต่อสู้หน่อยล่ะตจ่อสู้เพื่อให้ได้คนรักกลับคืนมันต้องมีไรสักอย่างที่มาร์คถึงได้ยอมแบบเนี่ยขัดใจอิอิอิ

anOO 20 มี.ค. 2555, 15:16:09 น.
เริ่มเข้าใจสาเหตุที่ความทรงจำแพรหายไปแล้ว
เริ่มเข้าใจสาเหตุที่ความทรงจำแพรหายไปแล้ว