ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต
เมื่อเธอเดินทางตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ โดยปล่อยให้ชะตาลิขิตเส้นทาง จนได้มาเจอเขา ชีวิตเธอกับเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
Tags: ชะตา

ตอน: Rose09

ปล่อยหัวใจให้ชะตาลิขิต ตอนที่ 9

ตอนนี้เธอมีแต่เรื่องกลุ้ม ดีไม่ค่อยแพ้ท้องท่าไร จึงยังอยู่ได้อย่างสงบ แต่จันทร์เพ็ญก็มาทวงคำตอบทุกวัน ทั้งยังให้รีบบอกซีเซีย เพราะกลัวว่าเธอจะไม่บอกเขา แล้วปัญหาก็จะแก้ยากมากขึ้น

หากนวาระกลับคิดตรงข้าม ยิ่งบอกปัญหา ยิ่งแก้ยากหนักเข้าไปอีก เพราะเขาอาจตัดสินใจได้หลายรูปแบบ เธอก็ไม่อยากเจอแบบไหน นอกจากให้ลูกอยู่กับเธอ แต่ก็ไม่ต้องการให้เขาเสียสละทุกอย่างแล้วมาอยู่กับเธอที่นี่ ข้อนี้เธอมั่นใจอยู่แปดสิบเปอเซ็นต์ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะเขาก็มีผู้หญิงที่เขารักอยู่แล้ว

“นั่งเฉยก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเน้อ น้องต้องตัดสินใจแล้วเน้อ ว่าจะเอาจะใด” จันทร์เพ็ญไม่อยากปล่อยเวลาให้นานไป ถ้าเขากลับประเทศเมื่อไรจะเป็นปัญหามากกว่าเดิม

“แม่อยากให้เขามาเอาลูกไปกา ถึงได้อยากบอกเขานัก” นวาระถามตรงๆ เพราะแน่ใจว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นมากกว่า

จันทร์เพ็ญยังนึกว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่มากกว่า เมื่อได้ฟังอย่างนั้นก็นิ่งอึ้ง ก่อนจะคิดแล้วพูดขึ้น “เขาทำอย่างนั้นบ่ได้หรอก ตามกฎหมายแล้ว ยังใดลูกก็อยู่ในตัวน้อง เขาจะเอาไปได้จะใด ยังไงก็ต้องบอกก่อน แล้วจะเกิดอะหยังขึ้นค่อยแก้ปัญหา อีกอย่างเปิ้นก็บ่ใช่คนเลวร้าย ถ้าเฮาบ่ได้บอก เฮาเนี่ยแหละคนร้าย เพราะเฮาพยายามกีดกัน บ่ให้เปิ้นได้รู้เรื่องลูกเปิ้นด้วยเน้อ นอกเสียจากว่าน้องจะบ่แน่ใจว่าเปิ้นเป็นพ่อของลูก”

“แม่จั๋น” นวาระตะลึง แต่ดูท่าทางผู้ใหญ่ฝ่ายเธอก็ไม่แน่ใจนัก ก่อนจะบอกให้มั่นใจ “น้องบ่เคยมีอะหยังกับคนอื่นนอกจากซีเซีย แล้วจะท้องกับคนอื่นได้อย่างใด”

“ก็แม่บ่รู้เน้อ ลองถามดู แต่อย่าเพิ่งบอกอุ๊ยเน้อ เดี๋ยวอุ๊ยจะโกรธ น้องก็รู้เน้อ อุ๊ยหัวเก่าจะตาย” จันทร์เพ็ญถอนหายใจ ลูบผมหลานสาวปลอบใจ “เอาล่ะ โทรไปหาเปิ้น บอกเปิ้นเรื่องนี้แล้วพูดกันให้รู้เรื่องเน้อ”

“เจ้า” นวาระต้องรับคำในที่สุด

เมื่อจันทร์เพ็ญออกไป เธอก็โทรไปที่โรงแรมที่เขาฝากหมายเลขเอาไว้ ก่อนแจ้งชื่อคนที่ต้องการติดต่อ ทางโรงแรมต่อเข้าไปที่ห้องพักของเขา แต่ปลายสายกลับเป็นผู้หญิงตอบกลับมา

“ท่านคารอฟสกี้ไม่อยู่ ต้องการฝากข้อความเอาไว้ไหมคะ” ปลายสายตอบกลับมาเป็นภาษาสากล

“ค่ะ ฝากเขาโทรกลับหาโรสด้วยค่ะ เขามีหมายเลขอยู่แล้ว ธุระด่วนค่ะ ขอบคุณมาก” นวาระทำได้เพียงฝากบอกเอาไว้ เพราะตอนนี้เขายังอยู่ที่กรุงเทพ...กับเจ้าหญิงของเขา

“โรส?” มาเรียทวนคำ เพราะตอนนี้มาอยู่ที่ห้องเขาเพื่อคุยกัน และเก็บอยู่ในห้องนี้ เพียงแต่อยู่ในห้องน้ำ เธอไม่อยากให้ผู้หญิงอื่นได้คุยกับเขา

“ค่ะ โรส ดิฉันเป็นเพื่อนเขา มีธุระต้องการคุยกับเขาจริงๆ” นวาระย้ำคำพูดของตัวเองอีกครั้ง

“ฉันจะบอกให้นะคะ” มาเรียพูดแค่นั้นแล้วไม่คิดจะบอกเขา...

ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะบอกเขา คิดว่าถ้ามีเรื่องคอขาดบาดตาย ก็คงมาพบเองนั่นแหละ ฟังสำเนียงแล้วไม่น่าใช่ชาวต่างชาติ เพราะภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน

ซีเซียออกจากห้องน้ำ แล้วมองมาเรียที่มาอยู่ในห้องเขา ก่อนจะถาม “ใครโทรมา เจ้าหญิงหรือเปล่า ทำไมเธอไม่ไปอยู่คอยรับใช้เจ้าหญิงล่ะ”

“ก็อยากคุยด้วยน่ะ ไม่ได้เจอกันนาน เธอก็พยายามหลบหน้าฉัน ฉันก็อยากคุยกับเธอ” มาเรียยิ้มให้

“แล้วเมื่อกี้ใครโทรมา” ซีเซียถามขึ้น

“ไม่รู้สิ โทรผิดน่ะ สงสัยคงบอกเบอร์ห้องผิด” มาเรียแก้ตัวไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใส่ใจนัก ถ้าเป็นธุระสำคัญก็คงพยายามโทรมาอีกนั่นแหละ

“อืม เธอกลับไปที่ห้องเจ้าหญิงเถอะ ต้องเตรียมตัวออกไปข้างนอกอีกนะ” ซีเซียเช็ดผมเรียบร้อยก็หาเสื้อผ้ามาสวม แต่กลับถูกกอดจากด้านหลัง “อะไรของเธอ!”

เขาพยายามแกะมือออกแล้วถอยหลัง มองอย่างเข้มงวด

“เจ้าหญิงแต่งงานไปแล้ว เธอก็ไม่มีใครแล้วไม่ใช่เหรอ” มาเรียถามขึ้น และยังหวังว่าจะได้เป็นคู่ใจของเขา เพราะฐานะทางสังคมและชีวิตการทำงานของเธอก็ลงตัวกับเขา

“มีสิ ฉันยังมีครอบครัวให้ดูแลอยู่ แล้วฉันยังไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร อย่างน้อยก็ไม่ใช่วันนี้เวลานี้ เพราะฉะนั้นเธอก็ออกไปได้แล้ว และอย่าเข้ามาในห้องนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ฉันชอบความเป็นส่วนตัว แล้วไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้ามาวุ่นวาย ถ้าฉันชอบใคร ฉันจะเข้าหาเอง” ซีเซียพูดตัดบทชัดเจน

มาเรียกำมือแน่นอย่างโกรธเคืองที่เขาทำให้เธอเสียหน้า แต่ผู้ชายตระกูลนี้ขึ้นชื่อเรื่องหยิ่งอยู่แล้ว เรื่องตำหนิท่าทางผู้หญิงสมัยใหม่ก็เป็นเรื่องปกติอีกด้วย เพราะเป็นพวกหัวเก่าหัวอนุรักษ์ ผู้หญิงที่จะถูกใจเขาต้องเป็นผู้หญิงธรรมดาอยู่กับบ้านมากกว่า

ถ้าเธอเป็นได้แบบนั้น คงผูกใจเขาได้ แต่ความแตกต่างก็มีอยู่ เพราะซีเซียมองเจ้าหญิงรัชทายาทในแบบที่แตกต่างออกไป แล้วเธอจะคว้าใจเขาได้ไหม...ยังเป็นเรื่องยากอยู่

***************************************


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าหญิงรัชทายาทอยู่ในห้องด้วย เมื่อเธอกำลังตามหาหัวหน้าราชองครักษ์ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน มาเรียจะเข้าไปรับสาย แต่คาทริน่าเร็วกว่า จึงรับสายแทน

“มีอะไร” เธอพูดเป็นภาษารัสเซียทำให้ปลายสายนิ่งอึ้ง ก่อนจะพูดตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ “อ๋อ โอนสายเข้ามาเลย”

“สวัสดีค่ะ ฉันขอพูดกับคุณคารอฟสกี้ค่ะ ฉันมีธุระจะคุยกับเขา ไม่ทราบเขาอยู่ไหมคะ” นวาระพูดอย่างเป็นทางการ เพราะฝากข้อความไว้คราวก่อนแล้วเขาก็ยังไม่โทรกลับ แล้วโทรหาเขาหลายครั้งก็ไม่ค่อยเจอเขาเท่าไรนัก

“ไม่อยู่ นั่นใคร” คาทริน่าถามสิ่งที่อยากจะรู้

“ฉันโรส เพื่อนของเขาค่ะ คุณเป็นใครคะ ครั้งก่อนฉันฝากข้อความไว้ ไม่ทราบเขาได้รับหรือเปล่า” นวาระจำน้ำเสียงไม่ได้ จึงไม่รู้ว่าคนละคนกัน

“ฉันไม่เคยรับโทรศัพท์เขา นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้คุยกับเธอ” คาทริน่าหันไปมองราชเลขาฯ ทันที เพราะถ้าจะมีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้ามารับโทรศัพท์ในห้องนี้ ก็คงต้องเป็นมาเรียคนเดียวเท่านั้น

“ขอโทษค่ะ ฉันเป็นเพื่อนเขาค่ะ แล้วก็มีธุระด่วนมากที่จะคุยกับเขา อืม ขอฝากข้อความให้เขาอีกสักครั้งได้ไหมคะ” นวาระพูด โดยไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร

“เธอควรจะบอกก่อนว่า เธอเป็นใครแล้วสนิทกับเขาแค่ไหน ฉันไม่รับฝากข้อความให้ทุกคนหรอกนะ” คาทริน่าไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นใคร แต่ให้อีกฝ่ายบอกเอง

“ฉันเป็นเพื่อนชาวไทยของเขา ช่วงที่เขาอยู่ที่นี่ เขาพักที่บ้านฉันค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเหรอคะ จึงถามละเอียดแบบนี้” นวาระถามฉะฉาน แม้สำเนียงจะกระท่อนกระแท่น แต่เธอก็ยังพูดได้ใจความดีอยู่

“ฉันเป็นหัวหน้าเขา เธอมีธุระสำคัญอะไร บอกมาก่อนแล้วฉันจะบอกเขาให้” คาทริน่าถามเพื่อสืบ

“อืม เป็นธุระเรื่องส่วนตัวค่ะ ฉันต้องบอกเขาเอง เสียใจด้วยนะคะ ฉันบอกผ่านคุณไม่ได้” นวาระเริ่มสงสัยปลายสาย ที่ถามซอกแซกมากเกินไปแล้ว

“เธอคงเป็นเพื่อนที่อยู่ที่เชียงใหม่ใช่ไหม งั้นอีกสองวันเจ้าหญิงรัชทายาทจะเสด็จเชียงใหม่ เธอมาขอพบซีเซียที่โรงแรมโกลเด้นไลต์ เก้าโมงเช้านะ อย่าสายแม้แต่นาทีเดียว เธอชื่ออะไรแน่บอกให้ชัด” คาทริน่าเรียกปากกามาจากราชเลขาฯ แล้วจดชื่อนามสกุลจริงของนวาระ ก่อนจะตัดสาย

มาเรียมองเจ้าหญิงจัดการทุกอย่างได้อย่างสงบเรียบร้อย ก่อนถูกจ้องมองอย่างดุดัน

“เธอไม่บอกซีเซียว่ามีผู้หญิงโทรหาเขาอย่างนั้นเหรอ” คาทริน่าถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

มาเรียได้แต่ก้มหน้าลงเป็นการยอมรับ

“เธอเป็นถึงคุณหญิงที่มีฐานะทางสังคมสูง แต่ทำแบบนี้ ไม่รู้หรือไงว่าซีเซียไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ ถ้าเธอต้องการครอบครองเขาให้ได้ ต้องทำตัวให้มีสาระมากกว่านี้” คาทริน่ารู้ความในใจของผู้ติดตามมานานแล้ว ในเมื่อตอนนี้มีผู้หญิงอีกคนที่อาจนำเขาไปจากเธอ เธอต้องหาผู้หญิงอีกคนผูกมัดใจเขาเอาไว้ เพื่อให้เขาอยู่เคียงข้างเธอต่อไป

มาเรียมองเจ้าหญิงอย่างตกใจ ที่อ่านความคิดเธอได้ทะลุปรุโปร่ง “เจ้าหญิงทรงทราบหรือเพคะ”

“เธอคิดว่าฉันโง่นักเหรอถึงมองไม่ออก นึกว่าฉันเป็นเพียงหุ่นเชิดให้นักการเมืองเท่านั้นเหรอ ถ้าเธออยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ แล้วสักวันเขายอมแต่งงานกับเธอแล้วล่ะก็ เก็บท่าทางอยากได้เขาจนตัวสั่นเอาไว้ แล้วทำตามที่ฉันแนะนำ ฉันรู้นะว่าเธอชอบเขาจริงๆ แต่แน่ใจหรือยังว่าเธออยากจะแต่งงานกับเขา ถึงฉันจะชอบเธอมาก แต่ฉันรักเขาแล้วอยากให้เขาได้พบกับผู้หญิงที่ดูแลเขาอย่างจริงจัง ที่สำคัญเขาจะต้องอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลฉันตลอดไป เข้าใจไหม ไปทบทวนให้ดี” คาทริน่าสั่งสอนราชเลขาฯ อย่างสุขุมรอบคอบ

ถ้าเธอเพียงเป็นเจ้าหญิงโง่ๆ ให้คนอื่นมาบงการ เธอคงไม่สามารถยืนอยู่ได้ เพราะแม้แต่สามียังถูกเธอบงการอยู่ โดยไม่รู้ตัว การจะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ต้องใช้ความอดทนสูง แม้บางครั้งเธอจะเหมือนเจ้าหญิงที่เอาแต่ใจ หากใครจะเห็นเบื้องลึกของเธอได้ทะลุเท่าเขา...ซีเซีย

***************************************


โรงแรมโกลเด้นไลต์เดิมคือโรงแรมแสงคำ ซึ่งเป็นโรงแรมของคุ้มแสงคำ ที่ตอนนี้แสงตะวันเป็นเจ้าของ เขาต้องแปลกใจเมื่อเห็นนวาระมาที่โรงแรมเขาในวันนี้

“สวัสดีครับ คุณโรสมาได้ยังไงครับ” แสงตะวันทักทาย โดยมีน้องสาวอยู่สองข้าง

“คือฉันมีนัดกับซีเซียค่ะ” นวาระบอกแสงตะวันหลังจากทักทายทั้งสามคน

“วันนี้เรายุ่งมากเลยนะ ขอตัวก่อน” แสงดาวตัดบททันที

“ซีเซียมาที่นี่เหรอครับ” แสงตะวันถามขึ้น เพราะเขามารอรับเจ้าหญิงรัชทายาทที่มาพักที่โรงแรมเขา

“ค่ะ เขานัดฉันมาพบที่นี่ค่ะ ตอนเก้าโมง ฉันมาเช็คก่อนว่าเขาเข้าพักหรือยัง” นวาระรู้ว่าเพิ่งจะแปดโมง อาจยังไม่เข้าพัก

“อ๋อ ครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” แสงตะวันถามขึ้น เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าหญิงรัชทายาทจะมาถึง

“พี่ตะวันคะ เราต้องเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับเจ้าหญิงรัชทายาทที่อาจมาถึงได้ทุกเมื่อนะคะ ธุระของคุณโรสเอาไว้ก่อนดีกว่าไหมคะ” แสงเดือนเตือนพี่ชาย “ขอโทษจริงๆ นะคะ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับโรงแรมเราตอนนี้จริงๆ”

“มีเรื่องที่ฉันยังไม่ได้บอกค่ะ คือ ซีเซียจะมาพร้อมเจ้าหญิงรัชทายาท เขาเป็นหัวหน้าราชองครักษ์ประจำพระองค์เจ้าหญิงค่ะ ฉันนัดเขาเอาไว้ คงได้พบทีหลัง” นวาระบอกให้ทั้งสามพี่น้องรู้ และพูดภาษากลางเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายกว่า

“อะไรนะ! ผู้ชายต่างชาติที่ถางหญ้าให้คุณน่ะเหรอ” แสงดาวฟังแล้วตกตะลึง

“ใช่ค่ะ พอดีฉันมีธุระต้องคุยกับเขา ก็เลยมาก่อนล่วงหน้า แต่ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะหลบไปรออีกทาง ตอนเก้าโมงค่อยมาพบก็ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” นวาระรู้แล้วว่าเขายังไม่ถึงโรงแรม

“เดี๋ยวสิครับ ยังไงถ้าคุณเสร็จธุระแล้ว ผมเชิญทานอาหารเที่ยงด้วยกันนะครับ” แสงตะวันชักชวน

“พี่คงไม่มีเวลาหรอก ต้องเตรียมอะไรอีกเยอะ เย็นนี้มีงานเลี้ยงขันโตกด้วย ต้องเตรียมการอีกหลายอย่างนะคะ” แสงดาวรีบขัดคอ เพราะสังเกตมานานแล้วว่าพี่ชายแปลกๆ ไป

แสงตะวันมองน้องสาวอย่างปรามๆ ก่อนจะต้องฟังเธอตัดบท “ไม่เป็นไรค่ะ คือฉันก็ไม่ว่างเหมือนกัน มีเรื่องต้องคุยกับซีเซียเยอะ เพราะเขาจะตามเสด็จกลับประเทศเลย”

“ได้ยินว่าวันนี้พระสวามีเจ้าหญิงรัชทายาทจะมาด้วยนะคะ จะมีเวลาคุยกันเหรอ” แสงเดือนถามขึ้น

“มีเวลาแค่ไหนก็คุยกันแค่นั้นค่ะ หัวหน้าเขานัดมาให้แล้ว ฉันก็จะคุยให้เสร็จเรื่องไป พอเขากลับไปจะได้ไม่มีเรื่องค้างคากันอีก ขอตัวก่อนนะคะ” นวาระรีบตัดบทถอยห่าง เพราะไม่อยากทนมองสีหน้าของน้องสาวเขา

แต่แสงตะวันหันไปมองหน้าน้องสาวทั้งสอง ที่พยายามขัดขวางเขาเป็นเชิงดุ ก่อนเดินตามนวาระไป แล้วคว้าแขนเธอเอาไว้ “ผมขอโทษแทนน้องสาวผมด้วย บางทีพวกเขาก็บ้างานพอๆ กับผม”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไปทำงานเถอะค่ะ ไว้วันหลังก็แล้วกันค่ะ” นวาระไม่แน่ใจในสิ่งที่พูดเท่าไรนัก เพราะตอนนี้เธอมีลูกในท้องอีกคน ชายหนุ่มคนไหนก็คงไม่ต้องการยุ่งกับผู้หญิง ที่ตั้งท้องลูกของผู้ชายคนอื่น ทั้งยังไม่มีใครต้องการหรอก

“ผมจะรอนะครับ คุณก็รอเขาดีๆ นะครับ” แสงตะวันคิดว่าเธอคงตัดบทจบความสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่ามีอะไรมากกว่านั้น

นวาระพูดขอบคุณแล้วขอตัวไปนั่งหลบๆ ที่ล็อบบี้อีกด้าน เมื่อถึงเวลาเจ้าหญิงรัชทายาทเสด็จ ก็ได้แต่มองอยู่ห่างๆ หากก็ไม่เห็นเขาในขบวนเสด็จ ก็ได้แต่ขมวดคิ้ว

พอเก้าโมง เธอก็ติดต่อที่ล็อบบี้เพื่อถามหาเขา แต่กลับถูกเชิญไปอีกห้อง ห้องชั้นบนสุดที่วิวสวยที่สุดและดีที่สุด เธอเข้าไปอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะถูกเตือนเรื่องวิธีการแสดงความเคารพการพบเจ้าหญิงรัชทายาท ทำให้เธอขมวดคิ้วสงสัย

“ทำไมฉันต้องเข้าเฝ้าเจ้าหญิงด้วยล่ะค่ะ คือว่าฉันแค่มาพบกับคุณคารอฟสกี้ตามนัดเท่านั้น” นวาระถามเป็นภาษาสากลอย่างงุนงง

“เจ้าหญิงทรงโปรดให้เข้าเฝ้าก็เข้าเฝ้าเถอะ” มาเรียบอกเสียงห้วนๆ แต่ก็ยิ้มนิดๆ เพราะตนเองนั้นสวยโดดเด่นกว่ามาก

ถ้าเทียบกันแล้ว นวาระถือว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาธรรมดา ไม่จัดว่าสวยมาก แต่ก็พอแต่งหน้าแต่งตาออกงานได้ พอเทียบกับราชเลขาฯ ของเจ้าหญิง เธอก็ต้องหน้าตาธรรมดาสุดๆ อยู่แล้ว

นวาระแสดงความเคารพ เมื่อถูกเรียกให้เข้าเฝ้า จากนั้นก็ยืนรอให้เจ้าหญิงพูดก่อน และยังงุนงงอยู่ว่าทำไมต้องมาเข้าเฝ้าเจ้าหญิงรัชทายาท แต่ก็สมกับที่ซีเซียหลงรัก เมื่อเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นหญิงสาวผิวขาวผมสีทองสวย กับดวงตาสีฟ้าสดใส ท่าทางสง่างาม

“เราให้เธอเข้าพบก็เพราะซีเซียไม่อยู่ วันนี้ช่วงบ่าย เราจะไปดูศิลปะของเชียงใหม่ เขาต้องเดินทางล่วงหน้าไปดูความปลอดภัยให้ก่อน เธอคงมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ” คาทริน่าบอกความอย่างสงบ

“เพคะ” นวาระได้แต่รับคำ

“ขอบใจเธอมากที่ดูแลซีเซียอย่างดีระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่ แต่เขาฝากบอกว่าหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ เขาไม่อาจละทิ้งหน้าที่และพบกับเธอได้ ซีเซียเป็นคนที่จริงจังกับหน้าที่ เขาไม่มีทางปล่อยให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับเรื่องงานได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงฝากบอกให้เธอรู้ว่า เขาไม่มีธุระกับเธออีก เราหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ” คาทริน่าตัดความสัมพันธ์ให้จบลงอย่างง่ายดาย

นวาระขมวดคิ้วข้องใจ เพราะทุกอย่างไม่ได้มาจากปากเขา เธอจึงไม่จำเป็นต้องเชื่อ

“ซีเซียเป็นคนรู้จักความรับผิดชอบ ตระกูลเขาดูแลความปลอดภัยของราชวงศ์เรามาหลายชั่วอายุคน ไม่ว่าเธอกับเขาจะเคยมีธุระอะไรกัน เขาก็จะยังคงเลือกงานของเขาอยู่ดี เขาซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ความรับผิดชอบมากกว่าสิ่งอื่นใด นั่นเป็นสิ่งที่เราก็ได้เรียนรู้จากตระกูลเขา หวังว่าเธอจะไม่ตามตื้อเขา ให้เขาลำบากใจหรอกนะ เข้าใจไหม” คาทริน่าพูดชัดเจน

นวาระฟังแล้วก็เข้าใจทันที เธอรู้ว่าเขากับเจ้าหญิงมีความสัมพันธ์ทางใจ บางทีเจ้าหญิงอาจหึงหวงและเข้าใจผิดเรื่องของเธอก็ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เธอจะอธิบาย หากก็พอรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างที่เจ้าหญิงบอกจริงๆ เธอจึงรับคำเท่านั้น

“ถ้าไม่มีอะไรอีก เราอยากให้เธอรับน้ำใจจากเรา มาเรียมอบเครื่องประดับให้ผู้หญิงคนนี้แล้วพาออกไปได้แล้ว” ตาทริน่าตัดบท แล้วมองอีกฝ่ายแสดงความเคารพ

นวาระรู้สึกแย่กว่าที่คิดเอาไว้มาก ได้แต่รับของที่ถูกยัดเยียดใส่มือ เดินออกมาจากห้องนั้น โดยมีคนพามาส่งถึงลิฟต์ ลงมาด้านล่างอย่างงุนงง

เธอถอนหายใจอย่างแรง เรียกความเชื่อมั่นของตัวเองให้ได้ ก่อนตัดสินใจเก็บเรื่องของเขาไว้ พับเก็บแบบลืมนึกถึงให้ได้

ต่อไปชีวิตเธอกับลูกจะมีกันเพียงลำพัง เหมือนที่เธอกับแม่เคยมีร่วมกัน แตกต่างกันตรงที่พ่อของลูกไม่ใช่คนนิสัยเลวร้าย แต่เขามีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ซึ่งเธอก็เข้าใจ

แปลกที่น้ำตาไหล...

เธอรู้สึกเหมือนส่วนเกินในชีวิตเขา แม้เขาจะไม่เคยรับรู้ความรู้สึกนี้ แต่คงง่ายเข้าถ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าหญิงพูดเป็นสิ่งที่เขาพูด เพราะทำให้เธอใช้ชีวิตต่อไปได้ง่ายขึ้น

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า คุณโรส” แสงตะวันเห็นเธอเดินออกมาจากลิฟต์ ก่อนจะหยุดที่ลานจอดรถแล้วทำท่าทางเหมือนจะเป็นลมก็เดินตามมาดู

“เปล่าค่ะ” นวาระพยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แต่เขากลับประคองแล้วช่วยเช็ดให้

“ซีเซียตัดความสัมพันธ์กับคุณเหรอ” แสงตะวันคาดเดาไปตามเรื่อง

“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้พบเขา แต่เขาฝากคนบอกไว้ ที่ฉันร้องไห้คงเพราะรู้สึกโล่งใจมากกว่า ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ฉันต้องแก้ให้ได้หลังจากนี้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” นวาระหยิบผ้าเช็ดหน้ามาจากเขา ก่อนจะพูดอีกที “ฉันจะซักแล้วเอามาคืนให้นะคะ หรือว่าจะให้ฉันซื้อผืนใหม่ให้คะ”

“ไม่ต้องหรอกครับ” แสงตะวันมองเธอยิ้ม ก็พอรู้ว่าเธอไม่ได้เศร้าใจนัก “ว่าแต่คุณเถอะ พอจะบอกผมได้ไหมว่าเรื่องอะไร ไหนคุณบอกว่าคุณกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกันเฉยๆ ไงครับ”

“ฉันไม่สะดวกคุยที่นี่ค่ะ ไว้วันหลังนะคะ” นวาระตัดบท เพราะมีเรื่องอีกมากที่เขายังไม่รู้

“งั้นพอจะให้เกียรติทานมื้อเที่ยงกับผมได้ไหมครับ” แสงตะวันถามแล้วลืมมองนาฬิกา

“คุณตะวันคะ นี่เพิ่งจะสิบโมงเองนะคะ คุณจะทานเที่ยงแล้วเหรอ” นวาระถามแล้วก็หัวเราะนิดๆ

“อ่ะ นั่นสิ” แสงตะวันหัวเราะตาม

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะ ฉันเลี้ยงกาแฟคุณก็แล้วกัน นั่งที่สวนหย่อมก็คงไม่เป็นไรจริงไหมคะ” นวาระบอก ก่อนเห็นเขาพยักหน้า จากนั้นเขาก็โทรไปสั่งกาแฟออกมาทานเป็นเพื่อนเธอที่สวนหย่อม

“แต่ผมเลี้ยงดีกว่า กาแฟโรงแรมผมแพงนะ ผมยังไม่ค่อยกล้าทานเท่าไร” แสงตะวันพูดติดตลก

“งั้นฉันก็ไม่ขัดศรัทธาค่ะ” นวาระตอบรับ เพราะตอนนี้เธอไม่อยากสู้รบกับอะไรทั้งนั้น แต่แทนที่จะสั่งกาแฟ เธอกลับสั่งเพียงน้ำอุ่นเท่านั้น

“พอจะบอกได้ไหมว่าคุณกับเขามีเรื่องอะไรกันเหรอครับ” แสงตะวันเห็นเธอผ่อนคลายท่าที

“มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขา บอกคุณตามตรงอย่างไม่ปิดบังนะคะ เพราะความประมาทของฉันกับเขา เราเผลอมีอะไรกันค่ะ แล้วฉันก็ท้องลูกของเขาอยู่ตอนนี้” นวาระพูดตามตรง โดยไม่ปิดบังเขา

แสงตะวันตะลึงงัน มองเธอแปลกๆ “แต่คุณบอกว่าคุณโล่งใจ”

“ใช่ค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของใครหรอกนะคะ เขาก็ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบอะไรหรอกค่ะ ฉันต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองมากกว่าค่ะ พอจบกันแบบนี้ อะไรๆ ก็โล่งไปหมด ฉันสบายใจมากกว่า ไม่ต้องคิดถึงปัญหาในอนาคตอีก” นวาระโล่งใจกว่าเดิมที่ได้ระบายความให้เขาฟัง

“เขาปฏิเสธเหรอครับ” แสงตะวันถามอย่างงุนงง

“เปล่าค่ะ เขาไม่รู้เรื่องเลยต่างหาก ฉันเคยบอกคุณว่าเขาเป็นผู้ชายที่ฉันสนิทที่สุดใช่ไหมคะ ตอนนี้ก็ยังใช่อยู่ค่ะ แต่ดีแล้วที่เขาไม่รู้เรื่องนี้ เขาเป็นคนดี ปัญหาจะมีอีกมากถ้าเขารู้เรื่องนี้ พอเขาฝากคนมาบอกว่าเขายุ่ง แล้วต้องทำหน้าที่ ฉันก็คิดว่าถูกแล้วที่เขาไม่รู้เรื่องนี้ เขาจะได้ทำหน้าที่ของเขาต่อไป โดยไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันกับลูกไงคะ” นวาระอธิบายแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก

“คุณไม่โกรธเขาเลยเหรอ ที่เขาไม่ให้โอกาสคุณพูดด้วยซ้ำ” แสงตะวันกลับโกรธแทนเธอ

“ไม่ค่ะ อย่างที่บอก เราเป็นเพื่อนกัน ที่ฉันงงมีเรื่องเดียว แค่ครั้งเดียวทำให้ฉันท้องได้ ชะตาคงลิขิตเอาไว้แล้ว ครั้งเดียวที่ฉันเผลอใจ ฉันต้องรับผลที่ตามมา แต่คิดในแง่ดี ฉันไม่ต้องลำบากมีสามี ก็มีลูกไว้คอยดูแลกิจการต่างๆ ที่มีอยู่ เห็นไหมคะ สุขหรือทุกข์อยู่ที่วิธีมองโลกต่างหาก แม่พูดถูก” นวาระคิดบอกได้มากขึ้น เมื่อผ่านเหตุการณ์ที่ไร้การควบคุม

แสงตะวันมองหญิงสาวคนนี้อย่างไม่เข้าใจเท่าไรนัก ดูเหมือนการมีคนรักจะกลายเป็นภาระหนักสำหรับเธอมากกว่าปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่

นวาระถอนหายใจอย่างโล่งอก ปัญหาก็คือ...เธอจะอธิบายให้แม่จันทร์เพ็ญเข้าใจได้ยังมากกว่า ยิ่งตอนนี้ยายคำเที่ยงก็รู้เรื่องนี้แล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เธอพบอีก เพราะโกรธที่เกิดเรื่องแบบนี้

ช่างมันเถอะ...

***************************************


หลายวันที่จันทร์เพ็ญเห็นแม่ยังคงโกรธหลานสาวอยู่ก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นก็น่าสงสารหลานสาว ที่ขยันแวะเวียนมาดูว่ายายหายโกรธหรือยัง

“แม่จะโกรธหลานมันอย่างใดก็ขอให้คิดถึงว่า มันดูแลเอาใจใส่หมู่เฮานักขนาด ขนาดหลานแท้ๆ ยังบ่เคยมาดูมาแลแม่สักวัน ถึงอย่างใดมันก็เกิดเรื่องมาแล้ว จะอับอายอะหยังนักหนา โรสมันดูแลเฮาเหลือหลานแท้ๆ ก่อนเน้อ” จันทร์เพ็ญเตือนสติแม่ที่ทำท่าทางปั้นปึ่งใส่หลานสาวนอกไส้

“ก็มันทำงามหน้านักเน้อ ปล่อยให้ท้องกับไอ้บ่าวฝรั่งแล้วมันก็หนีไปแล้ว” คำเที่ยงแย้งลูกสาว

“อีแม่ อีหล้ามันก็บ่ได้คิดว่ามันจะท้อง ถ้ามันรู้ มันจะปล่อยให้ท้องกา จะให้มันไปทำแท้งก็ยากเน้อ คนอย่างมันจะทำบาปหนักอย่างนั้นได้จะใด คิดให้ดีๆ เน้อ คนเฒ่าพูดบ่รู้เรื่อง หล้าไปดีกว่า” จันทร์เพ็ญลุกขึ้นแล้วลงเรือน

“อีหล้าจะไปไหน” คำเที่ยงถามลูกสาวของตน

“จะไปดูอีหล้าโรสน่ะกะ มันลงไปโรงกล้วยไม้แล้ว เห็นว่ามันจะไปช่วยคนตัดกล้วยไม้ คนงานบ่พอ ละอ่อนมันล้มมันยังรู้จักลุกขึ้นมา เฮาเป็นคนใหญ่จะกระทืบมันซ้ำได้จะใด คิดดูเน้อ ลูกอ้ายศรชัยมันบ่เคยมาดูแล แถมอ้ายศรชัยลูกแท้ๆ ของแม่ มันยังไล่แม่ออกจากบ้าน อีหล้าโรสมันเป็นใคร มันรับเอาเฮาแม่ลูกไว้ นับถือเฮาเสมออุ๊ยกับแม่แท้ๆ มัน หล้าบ่พูดกับแม่ละ” จันทร์เพ็ญเตือนสติแม่ ก่อนจะลงเรือนไปหาหลานสาวที่กำลังช่วนคนงานตัดกล้วยไม้

“เฮ้อ” จันทร์เพ็ญมาถึงก็ถอนหายใจ

“เป็นอะหยังแม่” นวาระถามแม่ที่กำลังหนักใจ

“แม่รำคาญแท้ๆ อุ๊ยของเฮานั่นแหละ ซ้ำเฒ่าซ้ำดื้อ มาแม่ช่วย” จันทร์เพ็ญเดินไปหยิบกรรไกรมาช่วยตัด

“แม่ก็นะ จะไปโกรธอุ๊ยทำไม อุ๊ยก็เฒ่าแล้ว อย่าไปถือเปิ้นเน้อ” นวาระบอกแม่และยังคงช่วยตัด

“คิดว่าตัวเองบ่เคยทำผิดเลยเนาะ น่าจะคิดได้ว่าตัวเองก็เลยทำผิดพลาด ชีวิตแม่นะ ถ้าบ่ได้เพื่อนที่ดีที่สุดอย่างแม่เอื้องของน้อง ชาตินี้ก็อย่าหวังจะได้ลืมตาอ้าปาก มีบ้านหลังใหญ่โต มีคนคอยช่วยดูแลบ้านอย่างตอนนี้หรอก” จันทร์เพ็ญบ่นไปตามเรื่อง

“นินทาพ่อแม่ระวังเน้อ” คำเที่ยงมายืนอยู่หลังลูกสาวกับหลานสาว

“บ่ได้นินทา พูดความจริง” จันทร์เพ็ญไม่ยอมแพ้แม่ตัวเอง

“พอเลยเน้อ บ่เอาล่ะ แม่กับอุ๊ยนี่นา” นวาระพูดขณะตัดกล้วยไม้ พอใกล้เสร็จก็เข้าไปดูในห้องเย็น เพื่อเก็บรักษา

คำเที่ยงเดินตามหลานสาวมากกว่าลูกสาว ก่อนจะเห็นกำลังช่วยยกกล่องกล้วยไม้ใบใหญ่ “อีหล้าๆ จะไปยกเน้อ ให้คนอื่นยกเอา”

นวาระหันไปมองแล้วทำหน้างงๆ ก่อนบอก “น้องยกได้”

คำเที่ยงเข้ามากระซิบ “บ่ได้ๆ ตัวเองกำลังท้องเน้อ จะมายกของหนักก้มๆ เงยๆ นักๆ บ่ได้”

“บ่เป็นหยังหรอก อุ๊ย” นวาระบอก

“ก็หยังมาดื้อจะอย่างนี้ พอละๆ ให้เด็กมันทำไป” คำเที่ยงจูงมือหลานสาวออกไปจากโรงเก็บกล้วยไม้ พาไปที่บ้าน “เดินบันไดดีๆ ระวังหน่อย แล้วอุ๊ยบ่ให้ไปเอาออกเน้อ ละอ่อนมันบ่รู้เรื่องกับคนใหญ่เน้อ”

“ใครบอกอุ๊ยอย่างนั้น หล้าบ่คิดจะทำแบบนั้น อีกอย่างตอนนี้คนงานก็รู้หมดแล้วเน้อ น้องบอกเอง จะได้บ่ต้องมาคอยซุบซิบถามกัน บ่มีเรื่องจะปิด” นวาระบอกตามตรง

“อีหล้านี่ทำอะหยังบ่ระวังเลย เขาจะเอาไปเล่าหัวเน้อ” คำเที่ยงดุหลานสาวอย่างไม่จริงจังนัก

“เขามีปาก เขาก็พูดไปได้ ยิ่งปิดก็ยิ่งพูด น้องก็บ่คิดจะปิด เพราะอย่างใด ลูกก็ต้องเกิดออกมา ก็ต้องอยู่ต้องอาศัยอยู่ที่นี่ จะปิดไปก็บ่ได้อะหยัง คำเปิ้นก็ว่า น้ำคำบ่เท่าใด...น้ำใจคนต่างหาก เฮาบ่ต้องไปเดือดร้อนกับคำคน คนก็เงียบปากไปเอง อุ๊ยเจ้า หล้าขอโทษอุ๊ยเน้อ หล้าบ่เคยต้องการให้เกิดแบบนี้ แต่พอเกิดขึ้นแล้ว หล้าก็จะยอมรับผลกรรมของหล้าเอง บ่ต้องกังวลไปเน้อ” นวาระถือโอกาสกราบขอโทษผู้ใหญ่ไปในตัว

“หล้าเอ๊ย แม่จั๋นของหล้าพูดถูก หล้ากับแม่ฮับเอาเฮาแม่ลูกมาดูแล ทั้งที่บ่ใช่ญาติ แบ่งเงินให้ใช้ แบ่งของดีๆ ให้กิน ทรัพย์สมบัติติดตัวบ่เคยมีมา ที่มีทุกวันนี้เป็นแม่เอื้องเมตตาทั้งนั้น แล้วอุ๊ยจะมาคิดเล็กคิดน้อยนานไปได้อย่างใด” คำเที่ยงลูบผมหลานสาวอย่างเอ็นดู

เมื่อนึกย้อนกลับไป ตอนมีสมบัติติดตัว ลูกชายก็เอาไปหมด พอไม่มีอะไรเหลือ ก็เรียกลูกสาวคนเล็กมารับแล้วบ่นไล่ให้พาไปเลี้ยง ลูกสาวคนเล็กเพิ่งตกงานเพราะถูกเจ้านายลวนลาม ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเช่าห้อง ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร มีแต่เพื่อนของลูกสาวเท่านั้นที่ชวนกลับมาอยู่ที่นี่

สองแม่ลูกก็หอบผ้าหอบผ่อน กลับมาอยู่เมืองเชียงใหม่อีกครั้ง แม่เอื้องก็ใจดีให้คนไปรับมาอยู่ที่สวน ช่วยกันทำงาน แล้วพอบ้านนี้เกิดอุปสรรคแทบล้ม ต่างก็ช่วยเหลือกันจนยืนหยัดได้ถึงเดี๋ยวนี้

“นึกถึงตอนที่นี่เกือบสูญสิ้นทุกอย่าง ต้องช่วยกันทุกทางหาเงินมาตั้งต้นใหม่ อุ๊ยกับแม่จั๋นก็ช่วยกันปลูกฝ้ายขึ้นมาใหม่ แม่เอื้องก็ยอมไปทำงานที่คุ้ม เพื่อหาเงินมาจ่าย หมู่เฮาช่วยเหลือกันมานักต่อนักแล้วเน้อ ต่อไปก็ต้องดูแลกันต่อไปเน้อ” คำเที่ยงลูบผมหลายสาว

“หล้าจะบ่ไปไหน จะบ่ทอดทิ้งแม่กับอุ๊ยเน้อเจ้า อุ๊ยบ่ต้องกังวลเน้อ” นวาระให้คำสัญญา และมั่นใจว่าเธอจะไม่มีทางทอดทิ้งที่นี่ไปไหน

หนทางข้างหน้ามีแต่จะสบายใจ ถ้าใจเราไม่ทุกข์ ทุกข์ก็ไม่เกิด ถ้าใจเราเป็นสุข ต่อให้คนอื่นมองว่าทุกข์แค่ไหน ใจเราก็สงบลงได้...

ทั้งหมดอยู่ที่...ใจ...ทั้งสิ้น

***************************************

ปัญหา...ปัญหา...แล้วก็...ปัญหา
เอาปัญหามาให้โรสกับซีเซียแก้ทั้งเรื่องเลยเชียว อิอิ
เรื่องนี้แนวปัญหาให้ขบกันเยอะ...ดราม่าค่ะ
ส่วนเรื่องหน้า...จะพยายามคอมมาดี้ให้ได้ T^T
พระนางจะลอยมาเพียบ (มั้ง) คะ
พยายามทำใจให้สว่างก่อน หงิหงิ
อาทิตย์นี้พิเศษมา จ, พ, ศ / อาทิตย์หน้ามา จ, พฤ เหมือนเดิมนะคะ
อีกทีก็สงกรานต์ 13-15 ใครอยู่บ้านก็รออ่านนิยายค่ะ อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ

Sirinda
คุณ ตุ๊งแช่ --- ท้องสามเดือน กลับไปสามเดือน แล้วก็ต้องกลับมาให้ไวค่ะ ไม่งั้นลูกจะเรียกคนอื่นว่าพ่อแล้ว 555+
คุณ anOO --- อยากบอกแต่ไม่ได้บอกค่า ^^"
คุณ pattisa --- >,< ฝีมือล้วนๆ ค่ะ 555+
คุณ sai --- ต้องวุ่นวายอีกนานแสนค่ะ
คุณ น้องแสตมป์ --- ไม่ปิดแต่ก็ยังไม่รู็ใจตัวเองอยู่ดีค่า 555+
คุณ ใบบัวน่ารัก --- ใช่จริงๆ ค่ะ คุณใบบัวฯ พอดีดูซีรี่ย์เรื่องหนึ่งแล้วชอบค่ะ เขาไม่ได้บอกชัดว่าพระนางมีอะไรกัน แต่ผลก็คือมีลูกกันค่ะ ชอบๆ / สามีของเจ้าหญิงนี่อายุน่าจะประมาณ 35-36 นะคะ แต่ทำงานเครียดมากกว่าค่ะ เลยทำให้ไม่ค่อยมีกิจกรรมกันเท่าไหร่ ^^"
คุณ konhin --- ถูกต้องนะคะ จะบอกแต่ไม่ได้บอก อิอิ / เจ้าหญิงก็รักซีเซียค่ะ ส่วนซีเซียก็รู้จักนิสัยเจ้าหญิง แล้วก็ไม่แน่ใจตัวเองเมหือนกันค่ะ
คุณ Auuuu --- ^^ ท้องโตด้วยค่ะ อิอิ
คุณ yayee62 --- ก็แก้ปัญหากันต่อไปค่า โฮะๆๆๆ
คุณ maplezaa --- ท้องงงงงงงงงงงงง อ่ะแน่นอนค่ะ อุอุ / โรสก็ต้องแก้ปัญหาให้ตกค่า ^^

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- หมอดูคือจิตแพทย์ของคนชอบดูดวงนะคะ อิอิ

dek-d
คุณ popo --- ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า ^^



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มี.ค. 2555, 01:21:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มี.ค. 2555, 01:21:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 2017





<< Rose08   Rose10 >>
Auuuu 28 มี.ค. 2555, 01:34:23 น.
เอิ่ม... อยากบอกแต่ไม่ได้บอก (_ _)


konhin 28 มี.ค. 2555, 01:35:57 น.
เกลียดยัยเจ้าหญิงอ่ะ เห็นแก่ตัวสุดๆ แต่ซีเซียไม่รู้ก็ดี ก็จะบอกได้ว่ารักโรสที่ตัวโรสจริงๆหรือเปล่า เดาว่านายตะวันถ้าไม่เก็บเงียบกริบก็กระชากคอเสื้อซีเซียเพื่อบอกเลย(อย่างหลังเท่กว่า)


หมูบูลิน 28 มี.ค. 2555, 02:49:04 น.
แล้วซีเซียจะรู้ป่ะเนี่ย เห้ออออ


ตุ๊งแช่ 28 มี.ค. 2555, 09:30:32 น.
ถ้างั้นซีเซียต้องกลับมาก่อนลูกคลอดใช่ไหมนี่ รอนับเดือนคลอดดีกว่า อิอิ


ใบบัวน่ารัก 28 มี.ค. 2555, 13:03:54 น.
เครียสมาก ดราม่ามากๆ
เจ้าหญิงนี่ก็แรงตัวแม่จริง เจ้าคิดแรง...
โรสไม่ต้องบอกทุกคนหมด ก็ได้เรื่องท้อง
แม่ก็อีก ไม่ต้องให้รับ ผิดชอบหรอกเรื่องเยอะ
หนักใจโรสเปล่าๆ
หาก เค้ารักกันก็ต้องกลับมา อย่าไปพลาดท่า
เสียทีใครเข้าหละ โรสจะเสียใจ ใบบัวด้วย


maplezaa 28 มี.ค. 2555, 13:06:28 น.
แหมมมม ยัยองค์หญิงนี่ ถึงไม่ได้ก็ขอเก็บไว้ใกล้ตัวเลยน่ะค่ะ ชิชิ หมั่นไส้ ยิ่งยัยคุณหญิงนั้นอีก คิดเหรอย่ะว่า ซีเซียจะเอาหล่อน

สงสารโรส แต่ก็ชอบอ่ะ ที่บอกทุกคนอย่างไม่ปิดบัง ชอบแนวคิดม๊วกกก


anOO 28 มี.ค. 2555, 16:58:25 น.
ทำไมซิเซียไม่โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบของโรสบ้างน๊า
ไม่งั้นป่านนี้ก็รู้เรื่องไปแล้ว ไม่ต้องบอกผ่านคนอื่นด้วย กว่าจะได้รู้ความจริงคงอีกนาน


Pat 29 มี.ค. 2555, 07:24:21 น.
โรสคิดในด้านบวกบวกบวกอย่างนี้ มีชีวิตอยู่ได้สบายๆแล้วค่ะ นางเอกของไรเตอร์ค่อนข้างแหวกแนว(เกือบ)ทุกคนเลย อิอิ


หนอนฮับ 30 มี.ค. 2555, 01:14:11 น.
กรี๊ดดดด...สางสารโรสจัง กระซิกๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account