กรรมสิทธิ์หัวใจ
“แล้วทำไมหนูถึงต้องทำตามที่คุณพีต้องการทุกอย่างด้วยเล่า!”

วริณสิตาตะโกนก้อง ราวกับจะร้องเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ร้อนที่สุมในใจ สาวน้อยหารู้ไม่ ว่าการกระทำนั้นทำให้ดวงตาคมปลาบเบิกขึ้นสว่างวาบ

พีรพัฒน์ตวัดต้นแขนเล็กที่จับไว้ในมือให้ถลาเข้ามา กระซิบเย็นเยียบ หน้าเกือบประชิดหน้า

“เพราะเธอ คือ ‘กรรมสิทธิ์’ ของฉันไงล่ะวริณสิตา!”

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 36 (1)


สวัสดีค่ะ!

มาแล้วตามที่รับปากไว้ในเรื่องโน้นนะคะ แต่แอบแต่งได้ไม่ครบตอน ก็หวังว่าคนอ่านจะให้อภัยกัน (ปารินพยายามจะรักษาสัญญาเรื่องเวลาอ่ะ บอกไว้ในกระทู้ลำนำเถื่อนว่าจะลงเรื่องสัปดาห์นี้)

อีกเรื่องที่จะแจ้งก็คือ ปารินจะขออนุญาตเก็บนิยายเรื่องกรรมสิทธิ์หัวใจออกไปบางส่วนนะคะเนื่องจากปัญหาการถูกลอก จึงอยากขออนุญาตคนอ่าน ว่าปารินจะลงไปลบไป (อย่างละ 5 ตอนจ้า) อีกอย่างคือปารินมีโครงการที่จะทำนิยายเรื่องนี้ออกมาเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้วย (ส่วนหนังสือเล่ม ขอคิดก่อน)

แต่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ปารินก็ลงไปเรื่อยๆจนจบแน่นอน ตามอ่านกันได้โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองแต่อย่างใด (นานจนกว่ามันจะกลายร่างไปเป็น e book นะจ๊ะ เมื่อถึงตอนนั้นขอคนเขียนได้มีตังค์ซื้อข้าวกินบ้างเล็กน้อย T-T)

เอาล่ะ ชักกลับมาพล่ามได้ยาวๆ (เป็นสัญญาณดีนะเนี่ย) ไปอ่านนิยายกันดีกว่าค่ะ

ปล. แอบดีใจที่คุณ ree กลับมาปรากฏตัวให้คอมเม้นต์อีกครั้งแล้ว

................

ตอนที่ ๓๖

“จิ๊บ!” เสียงเรียกใสๆดังขึ้นแทบจะทันทีทันใดที่วริณสิตาเปิดประตูลงมาจากรถคันใหญ่ และเมื่อหันไปก็ได้เห็นพยุดาดีดตัวพรวดลุกขึ้นมาจากม้าหินอ่อนจนหางเปียกระดอน วริณสิตายิ้มกว้างส่งให้ก่อนหันกลับไปหานายก้าน


“จิ๊บไปก่อนนะจ๊ะลุง” วริณสิตาบอก


“ครับ” คนขับรถวัยหกสิบหกรับคำ “แต่เย็นนี้ลุงจะมารอรับคุณจิ๊บเหมือนเดิมนะครับ บ่ายสามโมงเนี่ยลุงจะมารอเลย” นายก้านพูด แววกังวลยังปรากฏชัดบนสีหน้า เพราะตั้งแต่วานดึกๆที่เกิดเรื่องจนกระทั่งถึงตอนเช้า คนขับรถวัยหกสิบหกก็ยังไม่ได้รับคำสั่งใดจากผู้มีศักดิ์เป็นนายของบ้านสุริยะธาดาเลย


ไม่สิ! จริงๆมันต้องบอกว่า คุณพีเขาไม่ได้พูดอะไรกับใครสักแอ่ะเลยต่างหากถึงจะถูก!


เพราะอย่างนั้นไอ้คนที่เกี่ยวข้องในการต้องรับส่งอยู่ด้วยนี่เลยยังร้อนๆหนาวๆ!


“ถ้าเลิกเร็วหรืออะไร คุณจิ๊บต้องรอลุงนา อ้อ! แล้วอย่าลืมโทร.เข้าบ้านไปหายายศิ”


“จ้าๆ จิ๊บรู้แล้ว” วริณสิตารีบพูด “วันนี้จิ๊บจะรอแน่ๆ ลุงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะจ๊ะ” สาวน้อยบอกอย่างสดใส ยิ้มกว้างราวกับไม่เคยเกิดเรื่องราวอันใดขึ้นสักนิด

นายก้านได้แต่กะพริบตามองปริบๆ และเมื่อเด็กสาวจัดการดันประตูรถให้ปิดก็เป็นอันว่าต้องยุติการสนทนาแค่เท่านั้น


“แหม วันนี้ล่ะสั่งกันเป็นชุดๆเลย ทีเมื่อวานนะ ชิชะ!” เสียงใสๆดังขึ้นมา เมื่อวริณสิตาหันกลับมาก็ได้เห็นว่าพยุดานั้นเดินเข้ามาหาเธออยู่ข้างหลังแล้ว


และแน่ละ! คนบ่นนั่นหน้ามุ่ย มองตามรถยุโรปคันใหญ่ที่แล่นออกไปด้วยสายตาค้อนขวับประหลับๆจนวริณสิตาต้องคลี่ยิ้ม เธอเข้าใจดีว่าพยุดาเป็นห่วงแล้วก็โกรธแทนเธอด้วย แต่เรื่องนี้ลุงก้านไม่ได้เกี่ยว


เมื่อคิดถึงตรงนี้สาวน้อยก็ได้แต่สูดลมหายใจ


“เอาน่าน้อยหน่า เลิกเคืองได้แล้วน้า ดูสิ เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” วริณสิตาว่า ยิ้มแป้นออกมายามวาดมือโอบไหล่พยุดาไว้หวังให้เพื่อนคลายโกรธลง แต่ว่าสาวแว่นผมเปียกลับส่งเสียงโหยยาวเหยียด


“โหย ให้เลิกเคืองเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว!”


“เอ้า!” หนนี้แม่สาวน้อยเลยได้ร้องบ้าง “บ้าตรงไหน” วริณสิตาถาม

พยุดาทำหน้าเบี้ยวคล้ายเจ็บปวดเสียเต็มประดากับคำถามที่เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด

“จิ๊บ! คนบ้านนั้นเขาไม่มารับจนตัวเองต้องไปหลงทางกลางดึกนะ โชคดีขนาดไหนที่ไม่เป็นไร เมื่อคืนอ่ะเราจะบ้าตายเอาให้ได้เลยรู้เปล่า” สาวแว่นพ่นออกมา น้ำตาคลอหน่วยด้วยความอัดอั้นเมื่อนึกถึงความรู้สึกห่วงที่มีเมื่อคืน


วริณสิตาได้แต่คลี่ยิ้ม และโดยไม่บอกกล่าว สาวน้อยก็คว้าตัวเพื่อนซี้เข้ามากอด


“ขอบคุณนะน้อยหน่า ขอบคุณมาก” วริณสิตาพึมพำ “ถ้าไม่ได้น้อยหน่า เมื่อคืนเราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ขอบคุณจริงๆ”

วริณสิตาได้ยินเสียงฟืดฟาดนิดๆอยู่ข้างหูก่อนเสียงอู้อี้ๆน้อยๆจะบอกมา

“แล้วงี้ จะไม่ให้เราโกรธแทนจิ๊บได้ไง”

สาวน้อยหัวเราะ คลายอ้อมกอดออก

“เอาน่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า อีกอย่างน้า เพราะเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่า เราน่ะ...มีเพื่อนที่ดีที่สุดตั้งสองคน”


วริณสิตายิ้ม พยุดาก็ยิ้มด้วย
กับมิตรภาพและความจริงใจนั้น ต่างสัมผัสถึงกันและกันได้แม้ไม่ต้องพูดก็ตาม

“เออ! แล้วการนนท์ล่ะ ไปไหน ทำไมไม่เห็นเลย” วริณสิตาเอ่ยถาม นับเป็นเรื่องผิดปกติมากที่เมื่อมามหาวิทยาลัยแล้วจะไม่เห็นการนนท์รออยู่


“อือ ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ ยังไม่มาเลย” พยุดาบอกก่อนขยายความต่อให้ฟังว่า “ก่อนจิ๊บจะมาเราก็โทร.ไปนะ แต่สมองปลาทองไม่รับสายอ่ะ สงสัยจะโกรธเรารึเปล่าไม่รู้ เมื่อคืนเราแหวๆ ด่าไปเยอะเลย” แต่ว่าสาเหตุที่ทำให้การนนท์ไม่ได้มามหาวิทยาลัยแต่เช้าเหมือนเคยจะเป็นเพราะโกรธสาวแว่นผมเปียหรือเปล่านั้นก็ไม่มีใครตอบได้ ทั้งคู่นั่งคอยกระทั่งได้เวลาต้องไปเข้าเรียน แต่ทว่าจนแล้วจนรอดการนนท์ก็ยังไม่มา ในที่สุดสองสาวจึงต้องไปเข้าชั้นเรียนโดยไม่มีเด็กหนุ่ม


แต่แน่นอนว่าการที่เพื่อนหายไปอย่างไม่บอกกล่าวก็ทำเอาทั้งวริณสิตาและพยุดาไม่มีสมาธิเรียนกันนัก ใจหนึ่งสงสัย ใจหนึ่งก็ห่วงว่าเพื่อนนั้นเป็นอะไร เพราะงั้นทันทีที่อาจารย์ประกาศให้เลิกชั้นเรียนได้สองสาวจึงดิ่งออกจากห้องเล็กเชอร์กันอย่างไว แต่ทว่า...ออกพ้นประตูไปได้ไม่ถึงห้าก้าวเลย สองสาวก็...


“จิ๊บ!”


ทั้งวริณสิตาและพยุดาต่างชะงักก่อนที่จะหันปะกับร่างชะลูดของคนเป็นเพื่อน


“การนนท์!/สมองปลาทอง!” สองสาวร้องเกือบจะพร้อมๆกัน แต่สาวแว่นนั้นเสียงดังกว่า เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสาวเท้าปับๆพุ่งมาหาการนนท์ด้วย


“ทำไมมาสายเนี่ย ฮะ? โทร.ไปก็ไม่รับนะปลาทอง รู้มั้ย คนเขาอุตส่าห์มานั่งรอตั้งกะเจ็ดโมงอ่ะ”


“เหอ อะไรเนี่ยยายแว่น” หนุ่มน้อยเบ้หน้าเหม็นเบื่อทันที “เจอหน้ากันก็แว้ดเลย เมื่อคืนนี้ใส่เราไม่พอรึไง”


เท่านั้นแหละ จมูกสาวแว่นก็บานเพยิบขึ้นน้อยๆเพราะความโกรธ


“เออ ก็ใช่สิ! ที่เคยตกลงกันเรื่องมามหาวิทยาลัยแต่เช้าทุกวันอ่ะ จำไม่ได้แล้วใช่มั้ย” พยุดาว่า เพราะตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าวริณสิตาไม่มีโทรศัพท์ ทั้งเธอและการนนท์ก็ตกลงกันว่าจะมามหาวิทยาลัยแต่เช้าทุกวันเพื่อที่จะรอไม่ให้คลาดกันกับวริณสิตา

ข้อตกลงนั่นดูหนักหน่วงเป็นภาระ แต่แน่นอนว่า เด็กหอในอย่างพยุดาไม่มีปัญหากับการมาเช้าๆเลย


และแน่ละ! กับสมองปลาทองที่คิดจะจีบจิ๊บก็ไม่เคยมีปัญหา! จนมาวันนี้ ที่มันเป็นวันหลังเกิดเรื่อง เธอก็ยิ่งอยากรู้อยากฟังจากปากของไอ้คนที่เธอใช้ให้ไปช่วยจิ๊บสิ แต่นี่ จู่ๆดันหายไปเฉยไม่บอกไม่กล่าว ปล่อยเธอนั่งเหวอรอกันตั้งแต่เช้า จนต้องเข้าเรียนแล้วก็ยังไม่มา แล้วจะไม่ให้โกรธได้ไง!


คนถูกว่าเหมือนจะอ่านความคิดพยุดาได้แล้ว


“เออๆ ขอโทษแล้วกันนะแว่น เราไปธุระมา” การนนท์ว่าเสียงอ่อย “กว่าจะมาถึงมหา’ลัยก็สิบเอ็ดโมงแล้ว ไม่กล้าเข้าไปตอนจะหมดคาบอ่ะ มีหวังโดนอาจารย์ด่าแถมหักคะแนนเละแหงๆ เราก็เลยมาหลบรออยู่ตรงนี้ให้หมดเวลาดีกว่า”


“อ้อ! ความคิดเลิศนี่ยะ” พยุดาประชด “คิดว่าอาจารย์จะไม่รู้ว่านายโดดงั้นสิแต่ขอโทษ วันนี้อาจารย์เขาเช็คชื่อย่ะ เพราะงั้นถึงนายไม่โผล่มาให้เห็นหน้าอาจารย์เขาก็รู้ย่ะ แล้วเขาก็ประกาศหักคะแนนพวกโดดเรียนไปเรียบร้อยแล้วด้วย”


“เฮ้ย! จริงดิ?” เด็กหนุ่มถึงกับร้อง ร้อยวันพันปีอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ไม่เคยเช็คชื่อนักศึกษาที่เข้าเรียนเลยสักทีนั่นเพราะมีร่วมร้อยคน แต่ไหงทำไมวันนี้ดันเช็ควะเนี่ย?!


“แล้วการนนท์ไปธุระอะไรมาล่ะ” หนนี้เสียงอ่อนๆเอ่ยถาม “ถ้าสำคัญมาก ลองบอกอาจารย์ดูมั้ย เราว่าอาจารย์น่าจะฟังนะ”


“เอ่อ...ก็...ก็จริงๆไม่เป็นไรหรอก” คนถูกถามรีบบอกทันที การนนท์ไม่อยากให้วริณสิตามองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เขาคิดจะทำต่อไปต้องไม่สำเร็จแน่ เด็กหนุ่มหัวเราะแฮะๆ รีบบอกแก้เก้อ


“คะแนนนิดหน่อยเอง เดี๋ยวเราไปทำคะแนนเพิ่มตอนสอบเอาก็ได้” แต่ทว่า...


“อ๋อย่ะ! พ่อคนเก่ง เก่งตายแหละ แค่สอบย่อยครั้งที่แล้วยังได้ตั้งสามเต็มสิบ!”

จนแล้วจนรอดก็ยังโดนสาวแว่นคู่กัดแขวะอีกจนได้ หนนี้จมูกการนนท์เลยได้ทีเพยิบบ้าง

“นี่แว่น ถ้าหยุดปากจัดสักวันนี่จะเป็นไรมั้ยฮะ?”

“เป็นย่ะ!”

“ยัย!”

“โอ๊ยๆ! พอแล้วๆ พวกเธอนี่!” วริณสิตาต้องโดดแผล็วเข้าห้ามทัพทันทีที่เพื่อนซี้สองคนตั้งท่าจะเปิดศึก มันเป็นเรื่องประหลาด คู่นี้พูดกันดีๆได้ไม่เคยเกินยี่สิบนาทีแต่วริณสิตาก็ไม่เคยเห็นการนนท์ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนคนไหนมากเท่ากับพยุดาเลย

การนนท์กับพยุดาต่างเชิดหน้าใส่กันก่อนสาวแว่นจะตัดสินใจคล้องแขนวริณสิตา

“ไปเหอะจิ๊บ ไม่ต้องไปสนคนโดดเรียนหรอก ไปกินข้าวกลางวันกันดีกว่า!” ว่าแล้วก็ใช้อภิสิทธิ์เพื่อนผู้หญิงลากวริณสิตามุ่งหน้าไปโรงอาหารโดยไม่หันมาสนใจเพื่อนผู้ชายกันเลย!


การนนท์ได้แต่เดินตามมา


หากถามว่าเข้าใจสาเหตุการงอนตุ๊บปัดตุ๊บป่องของยายแว่นไหมหนุ่มน้อยก็เข้าใจ และเขาก็ยอมรับว่าเมื่อเช้าลืมนึกถึงไปสนิทด้วยว่าพยุดาจะรออยู่ เพราะเขานอนคิดจ่อมจมอยู่ทั้งคืน ว่าเรื่องร้ายๆทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดนั่นปัญหาก็อยู่ที่วริณสิตาไม่มีโทรศัพท์!


ใช่! ไม่มีมือถือแล้วมันจะอยู่ได้ยังไงล่ะ?!


หนุ่มน้อยบอกตัวเองว่าไม่อยากจะคิดหาเหตุให้รู้สึกเหม็นขี้หน้าผู้ปกครองห่วยๆของวริณสิตามากขึ้นหรอก!


แต่คนบ้านสุริยะธาดานั่น รวยก็รวยมหาศาล ทำไมกะอีแค่ซื้อมือถือให้เด็กในอุปการะสักเครื่องก็ไม่ทำ!


เพราะงั้นทันทีที่ตะวันสาง การนนท์ก็ขับรถตระเวรหาร้านมือถือทันที และเขาก็รู้ดีว่ากรรมวิธีที่จะให้คนอย่างวริณสิตายอมมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตนเองน่ะก็คือ...


ต้องซื้อให้เร็ว เสร็จสรรพ แล้วก็บังคับให้แบบมัดมือชก! นั่นเป็นเหตุผลอีกอย่างด้วยที่ทำให้การนนท์ตัดสินใจไปหาซื้อมือถือคนเดียวเดี่ยวๆแบบไม่ถามพยุดา

แต่โชคก็ไม่ช่วยเพราะไม่มีร้านขายมือถือไหนเปิดตั้งแต่ไก่โห่ เพราะงั้นกว่าเขาจะไปถอยมือถือออกมาได้ก็ปาเข้าไปสิบโมง!


ทั้งสามเดินมาถึงโรงอาหาร กระทั่งแยกย้ายกันไปซื้อข้าวมานั่งทานที่โต๊ะคนละจาน มีพิเศษของการนนท์ที่ถือแก้วชานมสองกับถุงกระดาษใส่ขนมอีกหนึ่งถุงใหญ่มาเสริมให้


“เอ้า! ซื้อมาไถ่โทษ” คนพูดหย่อนแก้วชานมพร้อมถุงขนมวางหน้าพยุดา

สาวแว่นชำเลืองด้วยหางตาอย่างไว้ท่าก่อนจะฉวยถุงกระดาษมาเปิดดูแบบเสียมิได้ แต่ทันทีที่เห็นขนมโตเกียวอุ่นๆสุดโปรดอัดอยู่ข้างในดวงตาสาวแว่นก็เป็นประกายวิบๆ ทว่าก็ไม่วาย รักษาฟอร์มเล็กน้อย


“เออ! อย่างงี้สิค่อยน่าให้อภัยหน่อย” สาวแว่นว่าก่อนดึงขนมโตเกียวออกมากินฉลองศรัทธาและเมื่อพยุดาอารมณ์ดีขึ้นบรรยากาศจึงค่อยพัฒนากลับมามีเสียงครึกครื้น เมื่อนั้นการนนท์ก็เห็นเป็นโอกาส


“จิ๊บ!” จู่ๆเด็กหนุ่มก็เรียก คนถูกเรียกที่กำลังฟังสาวแว่นบ่นเรื่องที่เรียนกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องเมื่อกี้ก็ถึงกับหันมา พยุดาก็ด้วย


“หืม?” วริณสิตาเลิกคิ้วขึ้นนิดเป็นเชิงถาม แต่นาทีนั้นเด็กหนุ่มก็โพล่ง


“เราให้!”

แล้ววินาทีต่อมามือถือเครื่องสีดำวาววับก็ถูกยื่นมาตรงหน้าสาวน้อย แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะ...


นิ่งไปเลย!


สาวน้อยได้แต่กะพริบตา แม้แต่พยุดาก็เหมือนกัน คนยื่นให้นั่นชักรู้สึกลางไม่ดี


“เฮ้ย! นี่มันมือถือธรรมดาๆจิ๊บ” หนุ่มน้อยรีบพูด “รับสาย โทร.เข้าโทร.ออก มีกล้อง ต่ออินเตอร์เน็ตได้นิดหน่อยแค่นั้นเอง”

ฟังคนให้บรรยายคุณสมบัติไอ้โทรศัพท์เครื่องดำๆจอกว้างๆ พยุดาก็ถึงกับเอ่ยปากขออนุญาต

“โทษนะ”

สาวแว่นถือวิสาสะรับโทรศัพท์จากมือการนนท์มาดู


แค่แตะนิดเดียว หน้าจอสัมผัสก็แสดงผลสว่างวาบ


พยุดาหายใจเข้าปอดยาวๆ หันมาหาวริณสิตา


“ฮือ ธรรมดา” สาวแว่นพยักหน้า

ก่อนเสริมต่อว่า

“แต่ ‘ธรรมดา’ สำหรับคน ‘ระดับ’ ปลาทองนะ!”
.....................................



ปาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 11:00:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 11:00:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 5953





<< ตอนที่ 35   ตอนที่ 36 (2) >>
Auuuu 3 เม.ย. 2555, 14:03:29 น.
น่ารักนะเนี่ยสมองปลาทองงงงง ;")


panon 3 เม.ย. 2555, 14:51:04 น.
สมองปลาทองอือิอิอิรักสมองปลาทองแล้ววววววววววว


anOO 3 เม.ย. 2555, 17:23:39 น.
นายการนนท์ทำอะไรตัดหน้าผู้ปกครองจิ๊บอีกแล้วนะ เดี๋ยวได้เป็นเรื่องอีก


nunoi 3 เม.ย. 2555, 18:05:49 น.
สมองปลาทองน่ารักจริงๆ แล้วหนูจิ๊บจะรับไหม๊เนี๊ยะ


lovemuay 4 เม.ย. 2555, 06:07:08 น.
+55 เปลี่ยนพระเอกดีมั๊ยเนี่ย อิอิ


wii 4 เม.ย. 2555, 10:01:29 น.
เเหมอ่านเรื่องนี้เเล้วนึกถึงตัวเองเมื่อเดือนก่อน เล่นtextไปหาลูกชายเป็นคุ้งเป็นเเคว เเต่คำตอบที่ใด้กลับมาก็คือ ผมไม่ใช่Alexคร๊าบ Alexเค้าให้โทรศัพท์เครื่องนี้กับผม ผมชื่อTannerคร๊าบ ดีนะที่ไม่ใด้นินทาชาวบ้านไป เพราะวันนั้นไปตัดสินคดีอยู่ทีศาล ไม่งั้นเป็นเรื่องเเน่


wane 4 เม.ย. 2555, 12:03:25 น.
จิ๊บคงไม่กล้ารับแน่ๆ


แพม 5 เม.ย. 2555, 08:47:54 น.
ไอโฟน???


ยี้ก้อยแม้วน้อยกลอยใจ 16 เม.ย. 2555, 20:49:21 น.
อ้าวคุณพีก็ซื้อ อ๊ายยย


SaiParn 24 เม.ย. 2555, 20:32:32 น.
อยากอ่านต่อจัง


ปาริน 26 เม.ย. 2555, 11:30:38 น.
ขอโทษนะคะที่หายหัวไปเลย แฮะๆ แต่จะมาแจ้งว่า

คนแต่งขออนุญาตลาไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 1 เดือนจ้า
แล้วเราจะกลับมา ด้วยสุขภาพจที่ดีขึ้น สัญญาด้วยเกียรติค่ะ


Okuriumi 9 พ.ค. 2555, 15:14:23 น.
แล้วเป็นไงบ้างค่ะ ดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง เป็นกำไรใจให้นะค่คุณ ปาริน


ยี้ก้อยแม้วน้อยกลอยใจ 26 มิ.ย. 2555, 00:34:19 น.
รออยู่นะคะ เรื่องนี้ รออ่านจริง ๆ ค่ะ รีบแต่งต่อนะคะ


ปาริน 2 ก.ค. 2555, 10:47:24 น.
สวัสดีค่ะ

ปารินกลับมาได้สักพักแล้วแหละนะคะ ต้องขอโทษคนอ่านด้วยที่เงียบหายไปแบบนี้

แต่เพราะหายไปนาน งานประจำเลยค่อนข้างวุ่น เคลีร์ยมาเดือนกว่าๆแล้ว

อีกประมาณสองอาทิตย์จะกลับมาลงนิยายกรรมสิทธิ์หัวใจต่อนะคะ

ช่วงนี้ชีวิตก็...ดีขึ้นมั้ง ๕๕๕ เรียกว่ามีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นน่าจะดีกว่า

ก็จะพยายามรักษาตัวรักษาใจให้ดีต่อไปค่ะ

แล้วเจอกันเร็วๆนี้จ้า


sumiya 5 ก.ค. 2555, 21:44:23 น.
เข้ามารอคุณปารินค่ะ:D


SaiParn 28 ก.ค. 2555, 21:03:59 น.
รอ...รอ อยู่เสมอจ๊ะ พร้อมก็กลับมานะ


ปาริน 6 ส.ค. 2555, 16:40:04 น.
สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอโทษและขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆ ที่ยังติดตามนิยายเรื่องนี้อยู่ ผู้เขียนซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีของคนอ่านทุกท่านมาก และสัญญาด้วยเกียรติว่า อย่างไรก็จะแต่งเรื่องนี้จนจบให้จงได้

แม้ตอนนี้ชีวิตของผู้เขียนจะยังรู้สึกเหนื่อยเพราะความขึ้นๆลงๆ ก็อยากจะขอเวลา อีกไม่นาน จะกลับมาแข็งแรง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจให้จงได้

ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับกำลังใจที่น่ารัก

ขอบคุณ เรารักพวกคุณจริงๆค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account