ลำนำรักสายน้ำ
‘หลับตาลงครั้งใด เห็นว่ามีแต่ภาพใครบางคน
ที่กี่ครั้งก็ยังวกวน ดูไม่ชัดเจน
ได้ยินแต่เสียงเรียกของเธอ
ที่ฟังแล้วอบอุ่นและคุ้นในใจ
ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ยิ่งติดอยู่ข้างใน
ยิ่งห้ามเท่าใจเท่าไร ยิ่งใกล้เธอเข้าไปทุกที
ตามหาหัวใจ ที่ลึมไว้กับใครสักคน‘
ธารนธี ตกหลุมรักหฺญิงสาวนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญเต็มดวงของฤดูใบไม้ผลิ เป็นคืนที่ราชาแห่งขุนเขาและเทพีแห่งบุปผาจะประทานพรให้หนุ่มสาวชาวคีรีธาราสมหวังในความรัก
‘หัวใจอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม สักวันหนึ่งร่างกายจะเดินมารวมกับหัวใจ‘
เช่นเดียวกับสายน้ำและดอกบัวงาม
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดู แห่งการเริ่มต้น ดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบาน เพื่อต้อนรับแสงแดดที่อบอุ่นหลังจากที่ต้องจมอยู่ได้พื้นดินเป็นเวลานาน
เช่นเดียวกับความรักของธารนธีและกรกมล

ถึง Dream Girl
นกสีฟ้าของผมจะโบยบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อคุณได้ยินเสียงขลุ่ย โปรดรับรู้ว่ามันคือคำบอกรักของผม ยามคุณดื่มกาแฟ จะรับรู้รสจุมพิตของผม หากคุณเข้าไปในสวนดอกไม้ กลิ่นของมันคือกลิ่นอายความทรงจำของเราสองคน และที่ศาลากลางน้ำ หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับนั่น คือรอยยิ้มที่ผมมอบให้คุณเพียงคนเดียว
จาก อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์
14 กุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว ประเทศ ออสเตรเลีย

‘ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนใด
เริ่มเพาะเหมาะกลางระหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี‘
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดน่ะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม”

Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: การเดินทางของหัวใจ

ภาพของฉันและเธอ ทุกสิ่งที่เธอให้ฉัน
ที่ ที่เรานั้นเดินไปด้วยกัน
ปล่อยให้เป็นอดีตใส่กล่องวางทิ้งไว้
ทำเป็นลืมมันไปแต่ทำไมไม่ดีขึ้นเลย
เพราะแค่เพียงหลับตา ก็เห็นภาพเธออยู่อย่างนั้น
ยังไม่มีซักคืน ที่ฉันจะลืมว่ายังคงรักใคร
หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราว ก็ยังพอจะลืมเธอได้
แต่ฉันใช้หัวใจ เก็บความทรงจำเรื่องของเรา “
"กรกมล"ธารนธีเรียกหญิงสาวที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นไม่ไหวติง ใบหน้าเนียนสวยสวยซีด
"เรียกฉันทำไมคะคุณอาโป"
"คุณไม่เป็นไรนะ"
"เป็นอะไร ไม่นี่คะ สบายดี"หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบ ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มมองไปอีกทางไม่อยากจะมองหน้าชายหนุ่มเพราะกลัวว่าใจของเธอจะกลับไปหลงรักเขาอีกครั้ง ทำไมเธอกับเขาต้องกลับมาเจอกกันอีกครั้งนะ
ธารนธีมองหญิงสาวที่ยืนคอตั้ง ใบหน้าเชิดสูงราวกับนางพญา สวยขึ้น สวยจนเขาแทบจะจำไม่ได้
"จะไปไหนเหลอครับ" เขาถาม
"จังหวัดธาราคีรีคะ"เขาก็ยังสุภาพอ่อนโยนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยคิดเลยว่าเขายังจำเธอได้พนักงานร้านกาแฟเล็กๆไม่มีอะไรน่าจะจดจำ นอกจากว่าจะสนใจจริงๆ
"จังหวัดธาราคีรี" ชายหนุ่มทวนคำพูดของหญิงสาว
"ใช่คะจังหวัดธาราคีรีดินแดนแห่งทิศตะวันตก"
"ดีเลยครับ"
"ดีอะไรคะ"หญิงสาวหันมาถามชายหนุ่มที่กำลังยิ้มพราว
"ผมกำลังจะไปจังหวัดธาราคีรีพอดีเลยครับ"
ไม่จริงใช่ไหม ยายหมอดู นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าพรหมลิขิตกันนะ ที่พาคนที่เธอไม่อยากเจอกลับมาเจอกันอีกครั้ง ท่ามกลางความสงบเยือกเย็นแห่งขุนเขาและสายลมหนาว ไม่ใช่ร้านกาแฟเล็กๆๆๆๆ ราชาแห่งขุนเขากับเทพีแห่งบุปผา กำลังเล่นตลกอะไรกับเธอหรือเปล่านะ
"คุณมาทำอะไรที่ประเทศคีรีธาราคะคุณธารนธี" กรกมลถามชายหนุ่มที่เดินเคียงข้าง ขอร้องช่วยไปเดินไกลๆได้ไหม หัวใจที่เคยบอกว่าจะลืมเขาให้ได้แต่กลับเต้นระรัวยามเมื่อเจอหน้าเขาอีกครั้ง นี่เธอกำลังจะตกหลุมรักเขาอีกครั้งละสินะ กรกมลคิด
"มาทำงานนะครับ"เขาตอบเสียงขรึม
"นึกว่าพาใครมาฮันนีมูลซะอีก"กรกมลแอบพูดประชด พลางเหวี่ยงค้อนใส่ชายหนุ่มที่เดินเคียงข้าง (ยิ่งหนี ก็ยิ่งเจอ)
"หึ คุณว่าอะไรนะ"ธารนธีหันมาถามเพราะไม่ได้ฟังที่หญิงสาวพูด
"บริษัทเขาคิดอย่างงัยนะที่ส่งคุณมาที่นี่นะ" คุณหนูไฮโซ
"นั่นสินะ"ถ้าบริษัทไม่ส่งเขามาเกี่ยวกับโปรเจ็กห้างสรรพสินค้าเซ็นธาราละก็ ชายหนุ่มก็คงไม่รู้ว่า กรกมลเดินทางกลับมาจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ต้องขอบคุณบริษัทที่ส่งเขามา ทำให้เขาได้พบกับสาวน้อยที่ชอบมัดผมเฉียงๆอีกครั้งหนึ่งและครั้งนี้ เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอให้หนีเขาไปได้อีกแล้ว การรอคอยที่แสนนานได้สิ้นสุดลงแล้ว
"ต่อให้พยายามสักเท่าไร
แต่ก็ทำได้เพียงแค่ทิ้งเรื่องราวรอบๆกายไป
อยากจะทิ้งเธอไปให้ไกล
แต่ความรักกลับยิ่งฝังลึกในใจขึ้นทุกที
จะทำไงให้ตื่น จากคืนที่ฉันฝัน ว่า..ยังมีเธอ
ทั้งที่ความจริง..ไม่มี
เพราะแค่เพียงหลับตา ก็เห็นภาพเธออยู่อย่างนั้น
ยังไม่มีซักคืน ที่ฉันจะลืม ว่ายังคงรักใคร
หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราว ก็ยังพอจะลืมเธอได้
แต่ฉันใช้หัวใจ เก็บความทรงจำเรื่องของเรา "
กรกมลนั่งอ่านหนังสือ เรื่องดั่งดวงหฤทัย ของลักษณาวดี นักเขียนคนโปรด ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถสักนิดเดียว ช่วยไม่ได้นี่ ไม่ได้อยากมาด้วยนี่ เล่นฉุดเธอขึ้นรถแบบหน้าตาเฉยเลยไม่ถามสักคำว่าเธออยากมาด้วยไหม ผู้ชายบ้า เผด็จการเหลือเกิน
เวลาผ่านไปสามปีนี่ ธารนธีเปลี่ยนไปมากไม่ว่าจะหน้าตาท่าทาง บุคลิกจะบอกว่าสุขุม เนี๊ยบ ขอบอกว่าไม่ใช่แต่เป็นท่าทียียวนกวนประสาทนี่สิ ที่เธอไม่ค่อยได้พบเห็น ปกติจะเจอแต่ท่าทางมาดนิ่งพูดแต่ละคำกลัวว่าแต่ดอกพิกุลร่วง(สงสัย ธารนธีจะกินยาลืมเขย่าขวดละมั้ง)
"คุณธารนธีคะ"
"ครับ"
"ผู้ชายห้าคนที่เราเจอที่สนามบินเขาเป็นใครกันหรือคะ"กรกมลถามชายหนุ่ม ด้วยความสงสัย กับผู้ชายห้าคนที่เดินมาหาธารนธีแล้วโค้งคำนับราวกับว่าชายหนุ่มเป็นบุคคลคนสำคัญ ก่อนที่ผู้ชายเหล่านั้นจะพูดอะไร กรกมลเห็นชายหนุ่มส่ายหน้าราวกับไม่ให้คนเหล่านั้นพูดอะไรออกมา
น่าแปลกธารนธีพูดภาษาคีรีธาราได้คล่องราวกับเป็นเจ้าของประเทศ ไม่ยอมใช้ภาษาอังกฤษ กลัวว่าเธอจะฟังออกงั้นละ ขอบอกนะคะเธออดีตนักเรียนทุนประเทศคีรีธารานะคะ เหมือนว่าเขาจะรู้ทันพาผู้ชายห้าคนไปพูดซะไกล
"เป็นชาวคีรีธารา" เขาตอบเสียงขรึม
"ฉันรู้คะว่าพวกเขาเป็นคนประเทศคีรีธารา แต่แค่สงสัยว่าทำไมพวกเขาต้องโค้งคำนับคุณราวกับคุณเป็นเจ้าชายหรือว่าบุคคลสำคัญของประเทศงั้นละ"
"มันเป็นการทักทายแบบชาวคีรีธารา"
"เชื่อตายละ ชาวคีรีธาราเขาทักทายด้วยการยกมือไหว้เหมือนประเทศไทยไม่ใช่โค้งคำนับแบบผู้ชายห้าคนทำกัน" อดีตนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแย้งขึ้นอย่างหมั่นไส้กับคำพูดของชายหนุ่ม
"รู้ดีจริงๆนะครับเหมือนว่าเคยมางั้นละถึงได้รู้ว่าวัฒนธรรมประเทศคีรีธาราดีซะขนาดนี้"เขาว่า พลางกระตุกริมฝีปากยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ฉันจะเคยมาหรือไม่เคยมามันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณก็แล้วกันนะ"กรกมลว่าพลางค้อนควับใส่ธารนธี แต่ชายหนุ่มทำเป็นไม่สนใจ แต่สมองกลับคิดไปถึงบอดี้การ์ดห้าคนที่จะต้องทำหน้าที่คุ้มครองปกป้องเขาตามคำสั่งของใครบางคน อีกไม่นานฐานะที่แท้จริงของเขาจะต้องถูกเปิดเผยแน่ๆเมื่อถึงเวลานั้นชายหนุ่มได้แต่หวังว่าเรื่องราวจะต้องจบลงได้ด้วยดีได้เแต่หวังไว้แบบนั้น
"นี่บริษัทคุณเขามีรถประจำตำแหน่งให้ด้วยหรือคะ" กรกมลถาม
"ฮะะะะะะะะะะะะะะะ"
"คุณขำอะไรของคุณคะ ฉันถามผิดคำถามหรือคะ" หญิงสาวหันมาถามชายหนุ่มเสียงเขียว ใบหน้าเนียนสวยงอง้ำ
"เปล่า แต่ไม่คิดว่าคุณจะถาม เลยไม่ได้เตรียมคำตอบมาให้ด้วยสิ"
"ธารนธี ชลธารพิทักษ์ คุณกวนประสาทฉันหรือคะ"
"เปล่านี่ครับ"ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้นใส่ จะให้ตอบว่างัยละนี่เป็นรถของเขาเองละ เอาเถอะสักวันหนึ่งเธอก็รู้เองละว่าเขาเป็นใคร
กรกมล ภัทรโยธิน เหมือนกับคุณนั่นละปิดปังความจริงไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร ทายาทวังปทุมวัน ไม่ใช่พนักงานร้านกาแฟ แต่เป็นบุตรสาวเจ้าของร้านกาแฟ บุตรสาวท่านอธิบดีก้องเกียรติกับคุณหญิงบงกชรัศมิ์ ภัทรโยธิน
“ดึงตัวเองกลับมาทุกที
เมื่อฉันรู้สึกดี ทุกวันที่อยู่ใกล้เธอ
เตือนตัวเองว่าคิดให้ดี
กับท่าทีที่พบเจอ เธอคงไม่ได้ตั้งใจ
แต่ละคำที่เธอพูดมา มันคล้ายว่าห่วงใย
เธอคงพูดไปอย่างนั้น แต่ว่าฉันจำขึ้นใจ
รู้บ้างไหมว่าใครบางคน สับสนและไม่แน่ใจ
เธอทำให้ฉันต้องหวั่นไหว
เธอทำให้ใครต้องคิดมากเพราะเธอ "
"ท่าทางคงจะมาบ่อยละสิเนี่ย"หญิงสาวแอบพูดประชดชายหนุ่มเพราะตอนนี้พวกเธอเข้าสู่เมืองหลวงเศรษฐปุระ สัญลักษณ์เป็นป้อมครุฑธามันต์ที่เด่นสง่าอยู่กลางเมือง
"ก็ไม่บ่อยหรอกครับ"เขาตอบก่อนจะขับรถจิ๊ปสีน้ำเงินอ้อมกฤษณาพรนุสาวรีย์จุดเริ่มต้นของการเดินสู่จังหวัดธาราคีรี
"เชื่อตายละ ดูท่าทางคุณแล้วเหมือนคนประเทศคีรีธาราอย่างงัยอย่างงั้น"หญิงสาวตั้งข้อสมมุติฐาน
"อย่างงัยอย่างั้นของคุณหมายถึงอะไร" ชายหนุ่มหันมาถาม
"ตาสีดำ จมูกโด่ง ผิวขาว คำพูดคำจาสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวล แต่แฝงด้วย อ๋อ....."พูดไม่ออกเดี๋ยวหาว่าเธอไปชมเขา
"คุณชมผมหรือครับ น่าปลื้มนะครับ"อีตาบ้าหลงตัวเองจริงๆเธอพูดตามความเป็นจริงนะยะ กรกมลค้อนใส่ หมั่นไส้ท่าทางชายหนุ่มที่ยิ้มหน้าระรื่น เอาอีกแล้ว ไอ้ท่าทางแบบนี้ ขี้เล่น แกล้งแหย่ให้โมโห หยอดคำหวาน กว่าจะถึงจังหวัดธาราคีรีสงสัยกรกมลได้เป็นเบาหวานตายเพราะผู้ชายคนนี้แน่ๆ
ประเทศคีรีธารา มีถนนสายสำคัญสี่สาย คือ สายเหนืออัคนีเทพ ถนนสายฟ้า สายใต้ ถนนแสงพระอาทิตย์ ทินกรมณี สายตะวันออก เหมรัชต์ ถนนแห่งอัญมณี(เงิน) สายตะวันตก คันธนีรา ถนนแห่งสายน้ำ
กรกมลหยิบน้ำดื่ม ผลไม้ ขนมขบเคี้ยวใส่ตะกร้าสีเขียว( ประเทศคีรีธารา มีนโยบาย 7Greens Concept คือท่องเที่ยวสดใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยวแบบหัวใจสีเขียว อะไรก็ต้องเขียวไว้ก่อน)
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอดเหล่ไปยังคนร่างสูงผิวขาวอมชมพูที่ยืนเลือกของอยู่ที่มุมเครื่องดื่มจะเลือกอีกนานไหมนี่กรกมลคิด
"จะเลือกอีกนานไหมคะ "หญิงสาวถามแกมประชด ก่อนจะหยิบของที่อยู่ในมือชายหนุ่มที่ถือไว้มาใส่ตะกร้าอย่างหมั่นไส้
"หมดร้านแล้วเหลอ"ธารนธีหันมาถามกรกมลที่เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ประมาณว่า เขาพูดกับเธองั้นเหลอ เพราะตั้งแต่ขับรถเข้าสู่ถนนคันธนีราชายหนุ่มก็ไม่พูดอะไรสักคำเงียบมาตลอดทางราวกับเป็นใบ้ หงุดหงิด หญิงสาวไม่ตอบคำถามก่อนจะเดินไปที่แคชเชียร์หน้าหวาน นี่ก็อีกคนจะมองอะไรกันหนักหนา เขามากับฉันนะยะ หัดเกรงใจบ้าง
"น้องคะเก็บเงินกับสามีของพี่นะคะ"วางระเบิดลูกเล็กจบก็เดินสะบัดก้นหนีทิ้งภาระหน้าที่ให้กับผู้ชายร่างสูงๆที่ยืนเลือกของนานกว่าผู้หญิงบางคน ซะอีก(ก็หมายถึงตัวเธองัยละ กรกมล)
โอ้ย!!! สะใจจริงๆๆๆ ได้แกล้งใครบางคน ก้ากๆๆอยากจะรู้จังเลยว่าธารนธีจะทำหน้าอย่างงัย คิกๆๆ สามีเลยหรือนี่กรกมลคิด บ้าที่สุดเลยพูดไปได้อย่างงัยนี่ ยายกุ้งนาง ยายบ้า น่าอายไหมนี่เวลาเจอหน้าธารนธีจะทำหน้าแบบไหน ขี้ตู่ว่าเขาเป็นสามี ยิ่งฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแห่งการฮันนีมูลด้วย โฮะ!!ๆๆ
"นี่คุณธารนธี แน่ใจว่าทางที่เรามานะคือเส้นทางไปสู่จังหวัดธาราคีรีนะ"กรกมลถาม
"ทำไมหรือ"
ก็มันช่างแสนยาวไกลและลำบากกว่าที่คาดคิดนะสิ กรกมลคิด แต่ไม่ตอบ ไม่น่าหลงผิดมากับอีตาบ้าขี้เก็กนี่เลย
"ทำไมถนนคันธนีรามันเปลี่ยว แถม วกวนคดเคี้ยว อย่างกับอยู่บนเขาวงกตอย่างงัยอย่างั้นละ"
"ใครบอกละว่าเป็นถนนคันธนีราละ"
"หา..............................."กรกมลร้องลั่นรถ
"ถนนเส้นนี้เป็นทางลัด ไม่มีใครนิยมใช้เพราะว่ามันลำบาก คดเคี้ยว มีโค้งมากมาย"
"แล้วคุณพาฉันมาทำไมทางนี้ หรือว่าคุณแกล้งฉัน" กรกมลถามเสียงดัง
"เปล่า ผมจะแกล้งคุณไปทำไม ผมแค่คิดว่าผู้หญิงแบบคุณน่าจะชอบอะไรที่ตื่นเต้น หวาดเสียว ที่แปลกๆไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาแบบแนวผจญภัย"
กรกมลอยากจะกรี๊ดให้สลบ คารถหรือไม่ก็คว้าคอชายหนุ่มมาตบปากสักสองสามที ให้รู้สึกว่าเธอคือกุลสตรีที่สมควรทะนุถนอม บอบบาง ไม่ใช่สาวแกร่งไฮเปอร์
"เป็นอย่างไรบ้าง"เสียงทุ้มห้าวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงขณะที่ยืนลูบหลังให้หญิงสาวที่อาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ใบหน้าเนียนใสซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก
เฮ้อ ไม่น่าแกล้งเลย สุดท้ายคนที่ซวยก็ตกอยู่ที่ตัวเขาเองละ
"ดื่มน้ำซะ"กรกมลกระชากน้ำแร่จากมือชายหนุ่มอย่างแรง ใบหน้าสวยงอง้ำ ตากลมโตจ้องมองเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ธารนธีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แกล้งชมนกชมไม้ข้างทางแทน
"ภรรยาของคุณน่ารักนะคะ"แคชเชียร์หน้าหวานพูดกับชายหนุ่มที่กำลังจ่ายเงิน
"ภรรยา" คิ้วเข้มขมวดมุ่น
"คะก็ผู้หญิงคนนั้นงัยคะ เธอบอกว่าให้เก็บเงินกับสามีของเธอ"
"อ้อครับเรากำลังไปฮันนีมูลกันที่ ธาราคีรีนะครับ"
"ขอให้มีความสุขนะคะ" กรกมลนะกรกมล แสบมากนะ อยู่ดีๆเขาก็มีภรรยาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ภรรยาหรือ ชายหนุ่มคิด ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ฝากไว้ก่อนเถอะ อีตาไฮโซ ขี้เก็ก ผู้ดีตีนแดง นักเรียนนอกจากต่างประเทศ อย่าให้ถึงคราวของเธอบ้าง จะแกล้งให้เข็ดเลยละ(แค่แอบอ้างเป็นภรรยาของเขายังไม่เข็ดอีกหรือ)ราวกับว่าธารนธีจะรู้ทันความคิดของหญิงสาวที่แอบกร่นด่าเขาผ่านทางสายตา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มนิดๆ
"ผมไม่คิดดอกเบี้ยกับภรรยาสุดที่รักหรอกนะ แต่ถ้าจะดีมีลูกชายกับลูกสาวให้ผมสักคนสองคนก็พอนะ"
"กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อีตาบ้า ธารนธี "เสียงกรกมลดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วหุบเขาชนิดที่ว่านกกาบินหนีแทบไม่ทัน ไม่รักษาแล้วไอ้ภาพพจน์คุณหนูผู้ดี ทีใครทีมันนะกรกมล ชายหนุ่มหัวเราะอย่างชอบใจที่สามารถแกล้งหญิงสาวได้ อยากมาแอบอ้างเป็นภรรยาของเขาเองนี่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะ ใครจะรู้จริงไหม
รู้บ้างไหมที่เธอทำไป ฉันหลงเอาไปละเมอ
ได้โปรดอย่าทำให้รักเธอ
ถ้าเธอไม่เคยสักนิดที่คิดจะจริงจัง







ณัฏฐกมล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 20:56:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 20:56:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1307





<< รอยอดีตแห่งรัก   รักเจ้าเอย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account