ลำนำรักสายน้ำ
‘หลับตาลงครั้งใด เห็นว่ามีแต่ภาพใครบางคน
ที่กี่ครั้งก็ยังวกวน ดูไม่ชัดเจน
ได้ยินแต่เสียงเรียกของเธอ
ที่ฟังแล้วอบอุ่นและคุ้นในใจ
ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ยิ่งติดอยู่ข้างใน
ยิ่งห้ามเท่าใจเท่าไร ยิ่งใกล้เธอเข้าไปทุกที
ตามหาหัวใจ ที่ลึมไว้กับใครสักคน‘
ธารนธี ตกหลุมรักหฺญิงสาวนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญเต็มดวงของฤดูใบไม้ผลิ เป็นคืนที่ราชาแห่งขุนเขาและเทพีแห่งบุปผาจะประทานพรให้หนุ่มสาวชาวคีรีธาราสมหวังในความรัก
‘หัวใจอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม สักวันหนึ่งร่างกายจะเดินมารวมกับหัวใจ‘
เช่นเดียวกับสายน้ำและดอกบัวงาม
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดู แห่งการเริ่มต้น ดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบาน เพื่อต้อนรับแสงแดดที่อบอุ่นหลังจากที่ต้องจมอยู่ได้พื้นดินเป็นเวลานาน
เช่นเดียวกับความรักของธารนธีและกรกมล

ถึง Dream Girl
นกสีฟ้าของผมจะโบยบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อคุณได้ยินเสียงขลุ่ย โปรดรับรู้ว่ามันคือคำบอกรักของผม ยามคุณดื่มกาแฟ จะรับรู้รสจุมพิตของผม หากคุณเข้าไปในสวนดอกไม้ กลิ่นของมันคือกลิ่นอายความทรงจำของเราสองคน และที่ศาลากลางน้ำ หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับนั่น คือรอยยิ้มที่ผมมอบให้คุณเพียงคนเดียว
จาก อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์
14 กุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว ประเทศ ออสเตรเลีย

‘ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนใด
เริ่มเพาะเหมาะกลางระหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี‘
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดน่ะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม”

Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: เซียมซีเสี่ยงรัก

"ตั้งแต่วันที่รู้ตัวเอง รู้ว่าใจของฉันกำลังรักเธอ
ก็เหมือนใจมันแบ่งครึ่งเป็นสองรัก
ห่างกันไปไกลๆแล้วลึมเธอเลย
กลับปิดทางให้เธอ แล้วทิ้งอะไรทุกอย่าง
แต่อย่างงัยก็มีน้ำตา
ไม่รู้ทำไมต้องรับเธอเข้ามาในหัวใจ
ก่อนนั้นก็ไม่เคยสนใจ
มันแปลกที่ใจมาเป็นแบบนี้"
วัด อุทัยอาทิตยวัน เป็นวัดที่สร้างอยู่กลางน้ำ ก่อนจะเข้าตัวเมืองทุกคนมักจะมาไหว้พระขอพรกันนี่ก่อน กรกมลมองธารนธี หยิบธูป เทียน และดอกบัวยืนส่งมาให้ ส่วนเงินก็ใส่กล่องบริจาคตามกำลังศรัทธา คิ้วเรียวขมวดมุ่น นึกสงสัย ตลอดทางการเดินทาง ชายหนุ่มไม่พูดอะไรสักคำ ไม่ถามด้วยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เหมือนเขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ
ธารนธีพาหญิงสาวเดินไปตามสะพานที่ทำจากไม้ตลอดทางเดินเต็มไปด้วยดอกบัวสายสีแดง บานสะพรั่งเต็มทางเดิน เวลาลมพัดมาจะได้กลิ่นหอมระริน
"ทุกวันเพ็ญเดือนสิบสอง หนุ่มสาวมักจะพากันมาลอยกระทงสายกันที่นี่ เพราะเชื่อกันว่าเทพธิดาแห่งสายน้ำช่วยปกปักษ์รักษาชาวคีรีธาราให้สงบร่มเย็น เป็นแหล่งพักพิงของสิ่งมีชีวิต และเป็นคลังของอาหาร และถือเป็นวิถีชีวิต ชาวคีรีธารามักจะทำการขอขมาเทพธิดาสายน้ำด้วยการทำกระทงสายเพื่อบูชาและแสดงความกตัญญูต่อสายน้ำ” ธารนธีหันมามองกรกมลที่กำลังก้มมองแม่น้ำคชารีอย่างใจลอย
"ตอนกลางคืนแม่น้ำทุกสายในประเทศคีรีธารา ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำสาชล วาริน สุวารี ติชิลา พชิราและแม่น้ำคชารีจะสว่างไสวไปด้วยกระทงดอกบัวนับร้อยนับพันที่ไหลมาจากต้นแม่น้ำสายน้ำเปรียบเหมือนวิถีชีวิต ที่ให้ความอุดมสมบูรณ์และถ่ายทอดประเพณีแต่ละท้องถิ่น ชาวคีรีธาราสำนึกในบุญคุณจัดทำโคมดอกบัวเพื่อแสดงพุทธบูชาและจุดโคมลอยฟ้าบูชาพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์"
"แหม คืนนั้นคงจะสวยมากนะคะคุณธารนธี" แค่เขาพูดกรกมลคิดเห็นภาพเลย งานลอยกระทงของประเทศคีรีธารา
"ครับสวยมากๆ ในคืนนั้น หนุ่มสาวชาวคีรีธาราจะแต่งกายด้วยชุด ประจำชาติ กัน"
"อิจฉาจังเลยนะคะคนที่มีคู่นี่ ฉันลอยกระทงคนเดียวมาตลอด" ใบหน้าเนียนสวยเศร้าหมอง ธารนธีหันมายิ้มหวานให้ เลยถูกกรกมลค้อนควับใส่ จะบอกว่าตัวเองว่าก็ลอยกระทงคนเดียวงั้นสิ เชื่อตายละ คงจะเคยมาลอยกระทงที่นี่ละมั้งถึงได้รู้ดี
"เอาไว้เรามาลอยกระทงด้วยกันตอนวันเพ็ญเดือนสิบสองนะ"ชายหนุ่มชวนเสียงใส นัยน์ตาสีดำขลับเต้นระริกเมื่อถูกกรกมลถลึงตาใส่ (แล้วทำไมเมื่อสามปีก่อนไม่ชวนเธอไปลอยกระทงด้วยละ ปล่อยให้เธอยืนมองน้องๆในร้านควงแขนคนรักไปลอยกระทงกัน ด้วยความอิจฉาตาร้อน)
"คุณชวนฉันลอยกระทงงั้นเหลอ"กรกมลแกล้งถามชายหนุ่มที่กำลังยืนยิ้มหวาน
"คงงั้นหรือว่าคุณไม่อยากลอยกระทงเคียงคู่กับผมละ กรกมล"ใบหน้าคมสันแกล้งกระซิบถามทำให้จมูกโด่งเฉียดแก้มนวลไปนิด กรกมลตกใจสะดุดขาตัวเองร่างบอบบางเซถลาจะล้มดีแต่ทว่าชายหนุ่มคว้าเอวไว้ก่อน
"พูดแค่นี้ทำเป็นตกใจ ไปได้ "เขาว่า ใบหน้าเนียนสวยแดงระเรื่อ ที่ตกใจไม่ใช่เพราะเขาชวนลอยกระทงหรอก แต่เป็นเพราะว่าจมูกโด่งๆของเขาต่างหากละที่เฉียดแก้มของเธอนะ ทำไมต้องใจสั่นด้วยนะเขายังไม่ได้ทันหอมแก้มเลย
ท่าทางแก้มจะนุ่มไม่เบา สักวันหนึ่งเถอะ จะหอมให้ได้ ไม่ใช่แค่แกล้งทำเป็นเฉียดๆๆๆแบบนี้ ธารนธีคิด
"ศาลากลางสระน้ำมีเซียมซีด้วยนะครับ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเนื้อคู่เป็นใครก็ลองไปดู เขาเรียกศาลาเสี่ยงรัก"
"เสี่ยงรัก"
"มีคนเขาพูดกันว่าแม่น"
กรกมลก้มกราบพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่าม ชายหนุ่มบอกว่าเป็นปางประทานพร ให้คนที่มากราบไหว้มีความสุข
"อย่าขอมากนะครับเดี๋ยวพระท่านให้ไม่ได้หมด"
"คุณนี่ ยุ่งจริงๆๆๆ"
กรกมลว่าก่อนจะวางดอกบัวลงเคียงคู่กับธารนธี ดั่ง สายน้ำจะอยู่ เคียงคู่ กับดอกบัว ตราบนานเท่านาน ไอความเย็นจากแม่น้ำคชารีพัดมาทำให้กรกมลรู้สึกสดชื่น ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนแกมทองปลิวสยายตามสายลม
"ธารนธี ของคุณได้เลขอะไร"
"สิบสี่ ของคุณละ" เขาถาม
"เลขเจ็ด"
ธารนธีพาหญิงสาวมาอ่านคำทำนายที่สลักด้วยหินที่อยู่รายล้อมศาลาเสี่ยงรัก กรกมลเห็นหนุ่มสาวหลายคู่กำลังยืนอ่านคำนายกันอยู่
"หมายเลขสิบสี่ "
"คุณมาอ่านอะไรของผมนี่ไปอ่านของคุณสิ"ธารนธีไล่ แต่ไม่จริงจังอะไร
"ไม่เอานะ ฉันอยากรู้ว่า ผู้ชายอย่างคุณจะได้เจอเนื้อคู่แบบไหน ขาว สวย หมวย หรือว่า " เอ มองหน้าเธอทำไมนะ
"อาจจะเป็น ตาโต ผิวสีน้ำผึ้ง "
"คุณ ธารนธี"
"หมายเลขสิบสี่ คนที่หมายปองจะเดินมาหาคุณตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว"
"คุณรอใครหรือคะ"ธารนธีไม่ตอบกรกมลก้มหน้าก้มตาอ่านต่อ "ถ้าเป็นชายจะเจอคู่แท้ที่ตามหากันมานาน ลักษณะเนื้อคู่ ตาโต ผิวสีน้ำผึ้ง เป็นบุตรสาวผู้ดีมีสกุลเก่าแก่ มีการศึกษาดีเด่น ที่สำคัญจะเดินทางมาจากต่างเมือง หรือต่างประเทศ"
"ไม่ต้องอ่านแล้ว" ชายหนุ่มบอกก่อนจะดึงแขนหญิงสาว
"อะไรของคุณ ฉันยังอ่านไม่จบเลยนะคะ"
"ไปอ่านของคุณก็แล้วกันนะ"
"มันไม่แม่นหรือคะ เอ หรือว่า มันแม่นจนคุณไม่กล้าอ่านต่อคะ"กรกมลยื่นหน้าไปถามชายหนุ่มที่ยืนหน้าแดง ท่าทางจะอายมากนะนั่น หญิงสาวยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม ไอ้คำทำนายนี่ก็บ่งบอกว่าเป็นตัวเธอแบบไม่ต้องสงสัยเลยละ อย่าบอกนะว่า เนื้อคู่ของธารนธีคือ เธอ ไม่จริง ไม่จริ๊งๆๆใช่ไหม น้องกุ้งนางไม่เชื่อ
"สิ่งที่ฉันทำลงไป ไม่ควร ฉันเองก็รู้
ห้ามอย่างไร มันอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม
กลับไปวันที่ไม่มีใครให้สบตา
ผิดที่เธอคนเดียว เธอทำให้ความรักเกิด
เพื่ออะไร เมื่อต่าง ต่างก็รู้กันอยู่ ว่าเรา ต้องห้ามจิตใจเอาไว้"
"หมายเลขเจ็ด คนที่ตามหาอยู่ก็คือคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ ไม่ว่าคุณจะหนีไปไกลแค่ไหน เขาก็จะมา ถ้าเป็นหญิง จะได้พบคนที่เป็นเนื้อคู่ ชายลักษณะผิวขาวสูง หน้าตาดี การศึกษาเด่น ชาติตระกูลสูงส่งระดับราชนิกูลก็เป็นไปได้ สุขุมเยือกเย็น มีสัม............."
"ไปกันเถอะ"
"เดี่ยวสิฉันยังอ่านไม่จบเลยนะคะคุณธารนธี"กรกมลร้องโวยวาย จนทำให้หนุ่มสาวหลายคู่หันมามองแต่ธารนธีกลับไม่สนใจคงลากแขนกรกมลให้เดินตาม อะไรมันจะแม่นขนาดนี้ คนเราถ้ามันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ ถ้าใช่ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนสักวันหนึ่งก็กลับมาเจอกันอีก
อาโป สายน้ำ ผู้ชายคนนั้นเป็นคุณใช่ไหม คนที่ฉันตามหาตลอดชีวิต ก็คือคุณงั้นเหลอ กรกมลคิด
วันนี้มีเธอจนล้นในใจ
ก่อนนั้นก็ไม่เคยคิดอะไร
ตอน รอยอดีตแห่งรัก
“ทำไมไม่เคยเกลียดเธอได้สักที
ทั้งๆ ที่จริงก็เนิ่นนาน จะทนให้เธอทำร้าย
สร้างความปวดใจไม่เคยเว้นวัน
เหตุใดยังรักยังแคร์เธก็ไม่รู้เหมือนกัน
ทำไม ไม่ยอมเลิกราจบปัญหาหัวใจไม่ได้เลย
ก็ไม่รู้เหมือนกันมันเจ็บ มันช้ำเพราะรักเธอ"
ธารนธีหันไปมองกรกมลที่กำลังใช้กล้องดิจิตอล ถ่ายภาพต่างๆบนป้อมปราการที่มีชื่อสิงควรรณที่สร้างอยู่บนยอดเขาสูง ตัวกำแพงยาว ห้ากิโลเมตร รายรอบด้วยเชิงเทิน หอสังเกตการณ์ สนามฝึกธนู ลานฝึกทหาร และฐานปืนใหญ่
"นี่คุณธารนธีป้อมสิงควรรณ นี่สร้างขึ้นสมัยไหนเหลอคะ""กรกมลหันมาถามชายหนุ่มหลังจากเห็นเขาคุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไหนๆก็อยากเป็นไกด์ก็จะให้เป็นสมพรปากเลยละ
"อยากรู้ก็หาหนังสือไปอ่านเองสิ"
"อ้าวพูดอย่างนี้ได้งัย คุณเคยมาแล้วไม่ใช่เหลอ"
"สามปีก่อนโน่น "
"มาทำอะไร พาแฟนมาฮันนีมูล หรือหนีตามสาว คีรีธารามาละคะ"
"มาทำงาน ไม่ได้พาใครมาฮันนีมูลหรือว่าหนีตามใครมาอย่างที่คุณคิดก็แล้วกันนะ"
"อุ้ย ................น้องกุ้งนางไม่กล้าคิดหรอกคะถึงพี่อาโปจะพาใครมาหรือว่าหนีตามใครมาน้องกุ้งนางก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าได้นี่คะ"กรกมลแกล้งเรียกชายหนุ่มทำเสียงฉอเลาะออดอ้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกระพริบปริบๆ
พี่อาโปงั้นเหลอ ตลอดการเดินทางหญิงสาวไม่เคยเรียกชื่อเล่นเขาสักคำ เรียกแต่ชื่อจริง คุณ ธารนธี แต่พอได้ยินเสียงหวานๆเรียกอย่านี้ทำให้เขานึกถึงอดีตเมื่อสามปีก่อนไม่ได้ ยายตัวแสบ
ณ ร้านหนังสือ วันหยุดวันอาทิตย์
"เล่มนี้ฉันจองแล้วนะ"เสียงหวานใสแว๊ดดังลั่นร้านหนังสือทันที เมื่อเห็นหนังสือที่ต้องการถูกฉกไปต่อหน้าต่อตา(ไม่ใช่งูนะ)
"เหลอครับ ไม่เห็นมีชื่อเขียนไว้นี่ครับ มีแต่ ชื่อนักเขียนลักษณาวดี คุณชื่อลักษณาวดีหรือครับ ไม่ยักกะใช่นะ"ธารนธีแกล้งพลิกหนังสือ ชื่อ ดั่งดวงหฤทัย ไปมา ริมฝีปากบางแกล้งยิ้มยั่วประสาท คนตัวเล็ก ที่ยืนหน้าเศร้า เหมือนจะร้องไห้ อย่าบอกนะว่าเขาจะซื้อหนังสือเล่มนั้นนะ แง้...............ไม่ยอมนะ เจ้าหลวงรังสิมันตุ์ ของเธอกำลังจะหลุดมือไปแล้ว ธารนธีอยากจะหัวเราะ
"พี่อาโปคะ ขอหนังสือให้น้องกุ้งนางเถอะคะ"เสียงหวานใสเรียกชื่อชายหนุ่ม
"อะไรกันครับ เล่มนี้ผมก็จะซื้อเหมือนกันนะ"ธารนธีแกล้งทำเสียงเข้ม
"จะซื้อ หนังสือดั่งดวงหฤทัยนี่นะคะ " มันช่างไม่เข้ากันเลย นะคะพี่อาโปขา ดั่งดวงหฤทัยกับธารนธีนี่นะ
“ทำไมผมซื้อไม่ได้หรือ”
"ได้คะแต่มันไม่เข้ากันนี่คะ น้องกุ้งนางว่าพี่อาโปไปอ่านหนังสือเพชรพระอุมา หรือไม่ แฮรี่ พอตเตอร์จะเหมาะกว่านะคะ "
"ไม่เอา ผมไม่ชอบ"
"หนังสือนี่มันเป็นหนังสือรักนะคะ "
"แล้วงัย"อีตาบ้าเอ้ย ผู้ชายแบบคุณจะมาอ่านหนังสือดั่งดวงหฤทัยนี่นะเข้ากันที่ไหนที่สำคัญเธอเห็นก่อนนะ แต่หยิบไม่ถึงเพราะว่าเตี้ย
"จรดลึกในความทรงจำ ลึกย้ำรอยสลัก นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น" เสียงทุ้มห้าวพูด ใบหน้าหล่อคมก้มลงมามองหน้ากรกมลที่เงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีดำขลับทอดมองอ่อนหวาน"เธอ มิใช่สายน้ำ แต่เธอก็เย็นฉ่ำชื่นหวาน เธอไม่ใช่ลำธาร แต่เธอก็ไหลผ่านเนื้อหัวใจ"
"ความรักเสลาสลักสวยใส งามใดเล่า เทียบได้งดงามเท่าความรัก"หญิงสาวพูดต่อประโยคของชายหนุ่ม "อย่าบอกนะพี่อาโปเคยอ่านหนังสือดั่งดวงหฤทัย"
"เคยอ่าน "
"แล้วมาแย่งน้องกุ้งนางทำไมละคะ"
"คนหวังดี เห็นตัวเตี้ยหยิบไม่ถึงก็เลยหยิบให้ ทำบุญบูชาโทษจริงๆ"ธารนธีว่าก่อนจะยื่นหนังสือดั่งดวงหฤทัยให้หญิงสาว"นี่ครับหนังสือ"
"ขอบคุณคะ"
"ชอบอ่านหนังสือหรือครับ"
"คะ เวลามาที่ห้างทีไร น้องกุ้งนางมักแวะมาที่ร้านหนังสือประจำ" เอ นี่เธอบอกเขาทำไมนะนี่ เหมือนประมาณว่าถ้าเขาอยากเจอเธอก็ให้มาที่ร้านหนังสือ"พี่อาโปคะ"
"ว่างัยครับ"
"วันหยุดว่างไหมคะ อาทิตย์หน้านะคะ"
"มีอะไรหรือครับ"
"ออ.............คือว่าที่ศูนย์สิริกิตต์มีงานนะคะ"
"งานอะไรหรือครับ"
"เทศกาลงานหนังสือนะคะ"
"เหลอครับ"
"ถ้าว่างไปด้วยกันไหมคะ" เกิดมาไม่เคยชวนผู้ชายไปเที่ยว
"ไม่รู้สิว่าจะว่างหรือเปล่านะ เพราะรู้สึกว่าเพื่อนจะชวนไปงานมอเตอร์โชว์ ที่ไบเทคบางนา"ชายหนุ่มตอบ แบ่งรับแบ่งสู้
กรกมลอยากจะกรี๊ดให้มันดังลั่นห้างสยามพารากอนเกิดมาไม่เคยหน้าเสียแบบนี้มาก่อน พี่วราธิกที่ว่าหล่อกว่าเขายังไม่กล้าปฏิเสธเธอเลยนะ อีตาบ้านี่เป็นใครกันฮะ
"พี่อาโปคะ"
"หึ"
"ขะ ขะ ขอเบอร์โทรศัพท์จะได้ไหมคะ"
"ขอโทษนะครับผมไม่มีเบอร์ส่วนตัว มีแต่เบอร์ออฟฟิศ"โอ้ย...อยากจะตายวันนี้เธอหน้าแตกหมอไม่รับเย็บกี่ครั้งแล้วนี่ คนอะไรไม่มีเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว มีแต่เบอร์ออฟฟิศ ไม่อยากให้ก็บอกกันตรงๆก็ได้ไม่เห็นจะต้องตอบแบบนี้เลย อยากเปลี่ยนบทกันจริง (กรกมลเป็นธารนธี ส่วนธารนธีก็เป็นกรกมล) โมโห คิดว่าเธอจะโทรไปจีบหรืองัยยะอีตาขี้เก็ก แค้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฝากไว้ก่อนเถอะ
"พี่กุ้งนางคะ มีชายหนุ่มหล่อมาถามหานะคะ"อุมาพรเดินมารายงานทันทีที่เห็นหน้า
"ใครเหลอ"
"ไม่รู้คะ แต่ว่าหล่อมากๆผิวขาว เขามาถามหาทุกวันเลยนะคะ"อุมาพรแกล้งตอบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จะมีใครถ้าไม่ใช่อีตาขี้เก็ก ที่ทำให้หน้าเธอแตก
"เขาถามว่าน้องที่ชอบมัดผมเฉียงๆไปไหน ไม่อยู่ หรือครับ" เธอมีชื่อนะยะ ไม่ใช่น้องมัดผมเฉียง
"แล้วงัยละ"
"เหมือนพี่แกจะตกใจมากๆคิดว่าพี่กุ้งนางลาออกจากร้านกาแฟไปแล้ว"
นายทำให้ฉันหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ใครไหนจะกล้าไปสู้หน้าละ ชวนไปงานเทศกาลหนังสือ ก็ไม่ไป ขอเบอร์ก็ไม่ให้เธอเป็นผู้หญิงนะยะ เสียศักดิ์ศรีมากๆเลยมีใครเป็นเหมือนเธอไหมนี่
ใครเคยดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอบ้าง ตอนนี้เหมยลี่(กรกมล)กำลังยืนรอคุณลุง(ธารนธี)อยู่ที่สถานีข้างบน ตอนนี้เวลา หนึ่งทุ่มครึ่งพอดี หญิงสาวสวมชุดเดรสสีชมพูลายดอกเดซี่เล็กๆ ผมยาวสลวยดัดเป็นลอน ใบหน้าเนียนสวยตกแต่งอ่อนๆจากฝีมือของอุมาพรและกาญจนาดูน่ารัก
"คุณ อาโป ชอบผู้หญิงอ่อนหวาน แต่งตัวน่ารัก เซ็กซี่นิดๆ "นั่นเป็นคำพูดของพี่ปิ่นแก้วแม่บ้านบริษัทเดอะแกรนด์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)ลูกน้องของธารนธีมากระซิบบอกว่าเจ้านายชอบผู้หญิงแบบไหน ซึ่งตอนนี้กรกมลกลายมาเป็นหนูน้ำจากสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก เพื่อความรักแล้ว ทำได้ทุกอย่างต่อให้บุกน้ำลุยไฟก็จะทำ ผู้หญิงเวลามีความรักก็อยากสวยทุกคนรวมถึง กรกมล ภัทรโยธินคนนี้ด้วย
"เมื่อไรเหยื่อจะมาสักที สาธุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ้าพี่อาโปเป็นเนื้อคู่ของน้องกุ้งนางจริงๆขอให้โผล่มาตอนนี้เลย"
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอะไรมันจะรวดเร็วขนาดนี้ ร่างสูงโปร่งสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวแขนยาว กางเกงสแลคสีดำ กำลังเดินมาทางที่เธอยืน เขาเดินมากับใคร ร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าตาดี แต่ไม่สน เป้าหมายคือเขา ธารนธี
"สวัสดีคะพี่อาโป"กรกมลข่มความอาย ปรี่เข้าไปทักทายชายหนุ่มทันที มีการแอบเตะร่างกายเขานิดหน่อย ธารนธีหันมามอง สะดุ้งตกใจ ถอยหลังผงะ
"สวัสดี คะ ครับ" ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก กรกมลขมวดคิ้ว เขาเป็นอะไรของเขาทำไมหน้าขาวๆถึงได้แดงระเรื่อแบบนั้น
"ทำไมวันนี้พี่อาโป กลับบ้านค่ำจังเลยละคะ"กรกมลถามเสียงหวาน(อ่อนหวานใช่ไหมคะพี่ปิ่นแก้ว เดี๋ยวจัดให้ ) นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มปัดมาร์คคาร่าสีชมพูอ่อนๆกระพริบตาปริบ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานเจี๊ยบ ทำท่าทางเขินอายนิดๆ
ตอนนี้ธารนธีทำอะไรไม่ถูกแล้ว ใบหน้าขาวเริ่มแดงระเรื่อ ตาสีดำขลับ ไม่กล้ามองหน้ากรกมล
"งานยุ่งนะครับ" เขาตอบเสียงสั่น
"งานเยอะเหลอคะ " พี่ปิ่นบอกว่าให้แสดงความห่วงใยออกไปบ้าง "รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เดี๋ยวไม่สบายเอาได้"
ใครก็ได้เอากรกมลเวอร์ชั่น นี้ไปไกลที ธารนธีรับไม่ได้ เรื่องงานหนักแค่ไหนเขาไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แบบหมดทุกอย่างตามที่ได้มอบหมาย แต่ว่าเรื่องความรักกลายเป็นศูนย์
"ขะ ขอบคุณครับ"
"พี่อาโปคะ"
"มีอะไรอีกละ" ชายหนุ่มถามเสียงสั่น เมื่อร่างบอบบางเดินเข้ามาภายตัวรถไฟฟ้า พร้อมกับเขา กรกมลกำลังทำให้ผู้ชายชื่อธารนธีเป็นบ้า
"พี่อาโปคะ ว้าย" กรกมลร้องลั่นเมื่อถูกชายต่างชาติเบียด ร่างบอบบางเซถลาจะล้มโชคดีที่ ธารนธีคว้าเอวบอบบาง ไว้ทำให้หญิงสาวเซถลาไปซบอกของชายหนุ่ม กลิ่นน้ำหอม สปอตร์แมน พี่อาโปใช้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้เหลอ
"เป็นอะไรหรือเปล่า"เสียงทุ้มห้าวถามร่างบอบบางที่หน้าซบอกเขาอยู่
"ไม่นะคะ ขอบคุณคะ" อกผู้ชายคนนี้ทำไมแข็งแรงอบอุ่นจังเลย กรกมลคิดก่อนค่อยๆหันหน้าหนี ตอนนี้ร่างกายเธอใกล้กับธารนธีจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัว ส่วนชายหนุ่มก็ต้องเก็บอาการ รักษามาด นิ่ง สงบทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ที่แท้จริงแล้ว กำลังหวั่นไหว
"ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"อ้าว พี่อาโปจะลงสถานี นี้หรือคะ"
"ครับ"พูดจบชายหนุ่มรีบเดินหนี ความจริงอยากจะวิ่งหนีด้วยซ้ำ เขากำลังกลัวใจตัวเองมากๆ
กรกมลยืนหน้างง แปลก ปกติ แล้วพี่อาโปจะต้องลงสถานีสยาม อย่างงัยวันนี้ ดันลงสถานี ชิดลมไปได้ นี่เขาอายเธอขนาดนี้เลยเหลอ ที่แท้ก็ขี้อายนี่เอง แสดงว่า ไอ้อาการเชิ่ดๆ มาดนิ่ง ขี้เก็ก ที่แท้ก็เป็นเกราะกำแพงสร้างขึ้นเพื่อกีดกั้นตัวเองนี่เอง
ตัดใจไม่ไหวทิ้งเธอไม่ลง
ไม่รู้ฉันเป็นอะไร
เพียงแค่คิดหัวใจก็สั่นหวั่นไหว
กับเธอคนนี้ฉันก็ไม่เข้าใจ
ไม่รู้ฉันต้องมนต์อะไร
ตัดเธอไปก็ทำไม่ลงสักที






ณัฏฐกมล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 20:56:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 20:56:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1279





<< รักเจ้าเอย   หัวใจฉันเจ็บปวดเพราะรักคุณ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account