ลำนำรักสายน้ำ
‘หลับตาลงครั้งใด เห็นว่ามีแต่ภาพใครบางคน
ที่กี่ครั้งก็ยังวกวน ดูไม่ชัดเจน
ได้ยินแต่เสียงเรียกของเธอ
ที่ฟังแล้วอบอุ่นและคุ้นในใจ
ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ยิ่งติดอยู่ข้างใน
ยิ่งห้ามเท่าใจเท่าไร ยิ่งใกล้เธอเข้าไปทุกที
ตามหาหัวใจ ที่ลึมไว้กับใครสักคน‘
ธารนธี ตกหลุมรักหฺญิงสาวนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญเต็มดวงของฤดูใบไม้ผลิ เป็นคืนที่ราชาแห่งขุนเขาและเทพีแห่งบุปผาจะประทานพรให้หนุ่มสาวชาวคีรีธาราสมหวังในความรัก
‘หัวใจอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม สักวันหนึ่งร่างกายจะเดินมารวมกับหัวใจ‘
เช่นเดียวกับสายน้ำและดอกบัวงาม
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดู แห่งการเริ่มต้น ดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบาน เพื่อต้อนรับแสงแดดที่อบอุ่นหลังจากที่ต้องจมอยู่ได้พื้นดินเป็นเวลานาน
เช่นเดียวกับความรักของธารนธีและกรกมล

ถึง Dream Girl
นกสีฟ้าของผมจะโบยบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อคุณได้ยินเสียงขลุ่ย โปรดรับรู้ว่ามันคือคำบอกรักของผม ยามคุณดื่มกาแฟ จะรับรู้รสจุมพิตของผม หากคุณเข้าไปในสวนดอกไม้ กลิ่นของมันคือกลิ่นอายความทรงจำของเราสองคน และที่ศาลากลางน้ำ หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับนั่น คือรอยยิ้มที่ผมมอบให้คุณเพียงคนเดียว
จาก อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์
14 กุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว ประเทศ ออสเตรเลีย

‘ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนใด
เริ่มเพาะเหมาะกลางระหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี‘
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดน่ะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม”

Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: หัวใจฉันเจ็บปวดเพราะรักคุณ

"ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไร
ก็แค่บังเอิญเธอเจอกับใครคนนั้น
วันที่เธอรักฉันไม่พอ
ไม่มีใครทำผิดต่อใคร
และถ้าบังเอิญเธออยากจะไปจากฉัน ก็อย่าร้อง
ไม่ต้องมีน้ำตา ไม่ได้ว่าอะไร
ถ้าต้องการก็ไป ให้ขัดใจเธอสักครั้ง ฉันก็ยังไม่เคย
ความปวดร้าวครั้งนี้ฉันยินดีจะรับ
ยอมเป็นคนที่เสียใจ"
ในที่สุด กรกมล ก็รู้ว่า เขาชื่อ อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์ ทำงานอยู่บริษัท เดอะ แกรนด์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ชั้น เจ็ด และ เก้า เป็นบริษัททำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บ้านจัดสรร คอนโด สิ่งก่อสร้าง อยากรู้ไหมว่าเธอรู้ได้งัย ก็เสื้อที่ธารนธีสวมใส่งัยละ มีชื่อบริษัทบ่งบอกไว้(โง่มาตั้งนาน ให้อุมาพรกับกาญจนา สืบไม่ได้เรื่องได้ราวเลย) เรื่องก็มีอยู่ว่า
"พี่ปิ่นคะ ที่บริษัทพี่ปิ่นมีหนุ่มๆหล่อๆหน้าดีเหลืออยู่บ้างไหมคะ ติดต่อให้น้องกุ้งนางสักคนสิคะ"กรกมลแกล้งถามแม่บ้านที่ชื่อปิ่นแก้ว ที่เป็นลูกค้าประจำของร้านกาแฟ แถมอยู่บริษัทเดียวกับเป้าหมายของเธอ
"มีสิ คนหนึ่ง หน้าตาดี เพิ่งเรียนจบมาจากนอก ชื่อคุณอาโป "
"อาโป หรือคะ ใช่ผู้ ชายผิวขาว สูงๆ"
"นั่นละ คุณอาโป แกชอบเข้าร้านกาแฟวันละสามสี่รอบ ไม่รู้ว่ากาแฟที่บริษัทไม่อร่อยหรืองัยถึงไม่ยอมดื่ม"
"คุณอาโปของพี่ปิ่นนี่อายุเท่าไร"
" 26 ปี จบปริญญาโทมาจากประเทศออสเตรเลีย ด้าน สถาปนิก นิสัยดี พูดจาสุภาพ คุณอาโป แกเป็นคนง่ายๆไม่เรื่องมาก ที่สำคัญไม่ถือตัว" คงจะจริงดังที่ปิ่นแก้วพูด ไม่งั้นเขาจะมาพูดคุยกับพนักงานร้านกาแฟต่ำต้อยแบบเธอทำไหม ระดับผู้บริหารแบบเขาไม่น่าจะลดตัวลงมาเสวนาด้วย
"พี่ปิ่นคะคุณอาโปนี่มีแฟนหรือยังคะ"
"ไม่น่าจะมีนะ แต่ก็ไม่แน่ ระดับนั่นแล้วจะมีผู้หญิงที่ไหนปล่อยให้หลุดมือไปได้ แถมคุณอาโปยังเป็นลูกท่านทูตด้วย" ลูกชายท่านทูตอีกหรือนี่อะไรจะเฟอร์เฟ็คร์ขนาดนั้นนะ ชาติตระกูลดี
"นั่นสิเนอะ ระดับนั่นแล้ว จะมีใครปล่อยให้หลุดมือไปได้"
"แต่พี่ไม่เคยเห็นแก คุยโทรศัพท์กับผู้หญิงที่ไหนเลย ขนาดสาวๆในบริษัทชวนไปทานข้าวก็ยังไม่ไปด้วยเลย"
"เจ้านายพี่ปิ่นเป็นเกย์หรือเปล่า"
"ไม่น่าจะเป็น นะ คุณอาโปช่างเลือกจะตายไป แต่เอ๊ะ ...................ตอนปีใหม่มีสาวที่ไหนไม่รู้ให้ของขวัญคุณอาโป มา สาวๆที่บริษัทแซวกันใหญ่ คุณอาโปเขินหน้าแดง มาก หรือว่าจะเป็นเราละ"
ปิ่นแก้วหันมามองกรกมลที่ยืนยื้มแห้งๆใช่แล้วเป็นเธอเองละให้ของขวัญวันปีใหม่กับธารนธี ให้แบบไม่รู้จักชื่อกันเลยละ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน
"สวัสดีปีใหม่ครับ"เสียงทุ้มห้าวเอ่ยทักหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่ตรงเคาร์เตอร์
"คะ คะ" โฮ้ย ....................ใครบังอาจเหยียบขา เธอนี่ กรกมลหันไปมองก็พบอุมาพรที่กำลังแอบหยิกเอวเธอ ส่วนกาญจนาก็เหยียบขายายเด็กสองคนนี่คิดจะทำอะไร
"พี่คะปีใหม่ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนหรือคะ"อุมาพรเริ่ม ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆ นัยน์ตาสีดำขลับทอดมองไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนหน้าหงิกงอเป็นจวักตักข้าว
"ยังไม่รู้เลยครับว่าจะไปไหน"
"ถ้างั้นก็ชวนพี่กุ้งนางไปเที่ยวสิคะ พี่แกว่างตลอด "ยายเด็กบ้าพูดอะไรออกไปนี่ เธออายนะนี่
"ปีใหม่ไม่ไปเที่ยวไหนหรือครับ"
"อ๋อ.......คือ..........ว่า "กรกมลไม่รู้ว่าจะตอบชายหนุ่มอย่างไรดีเพราะว่าเธอไม่ได้วางโปรแกรมอะไรไว้ พูดกับเขาบ้างสิ อย่าทำเป็นหยิ่ง กาญจนาแอบกระซิบเตือนก่อนจะหยิกแขนเบาๆ"คือว่าจะไปไหว้พระเก้าวัดนะคะ"
"เหลอครับน่าสนใจนะครับ"
อุมาพรกับกาญจนากลอกตาไปมา พี่กุ้งนางนี่ไม่ไหวเลยเรื่องผู้ชาย
"สนใจจะไปด้วยกันไหมคะ" ไหว้พระเก้าวัด ทำบุญร่วมชาติ ความคิดไม่เลวนะคะพี่กุ้งนาง ชวนผู้ชายไปวัดน้องอุ้มไม่อยากจะคิด
ไม่มีความโรแมนติคเลย กาญจนาตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เฮ้ย เขามีแต่ชวนกันไปดูหนัง ฟังเพลง ทานข้าวในบรรยากาศที่แสนโรแมนติค ที่หนุ่มสาวเขาทำกัน นี่อะไรชวนกันไปไหว้พระ เอาเถอะพี่แกแก่แล้ว(อนุโมธนาบุญกับพี่ทั้งสองให้สมหวังครองคู่กันจนถือไม้เท้าทองกระบองยอดเพชร)
"วันไหนดีละครับ" ชายหนุ่มถาม
"พี่ว่างวันไหนพี่กุ้งนางก็ว่างวันนั้นละคะ"อุมาพรรีบตอบแทน เพราะกรกมลยืนนิ่งเป็นใบ้ไม่ยอมพูด มีผู้ชายหน้าตาดีมาจีบทำเป็นเล่นตัวนะ ทำไมเขาไม่มาจีบน้องอุ้มนะจะรีบคว้าไว้เลย ยัยเด็กบ้าเธอไม่ใช่ร้านเซเว่นนะที่จะได้เปิด24ชั่วโมง "จริงไหมพี่กุ้งนาง"
"คะ คะ" โฮ้ย หยิกทำไมเจ็บนะเฟ้ย
"พี่มีเบอร์พี่กุ้งนางหรือยังคะ"
"ไม่มีครับ"
"พี่กุ้งนางเขียนเบอร์ให้พี่เขาไปสิคะ"กาญจนาหันมาบอก
"คือว่าจำเบอร์ไม่ได้"กรกมลพูดใบหน้าแดงก่อนจะเดินหนีไปหลังร้าน อุมาพรกับกาญจนายืนหัวเราะกัน
"พี่กุ้งนางแกเป็นคนขี้อายนะคะ"
คนเดียวในใจชัดเจนคือเธอ
ท่าทางมันคงจะเผลอรักเธอหมดใจ
เกินกว่าคนๆ หนึ่งที่คุ้นเคย
เกินกว่าคนที่คุยกันไปงั้นๆ
มันยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งหวั่นๆ
ใจฉันมันคิดเกินกว่าที่เคย
มันเกิดอะไรกับหัวใจ ควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
"ตัวเอง"
"มีอะไรหรือครับ"
"เค้าให้"กรกมลยื่นกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีฟ้าให้ชายหนุ่มตรงหน้า
"ไม่เป็นไรครับ"
"คือว่า"
"ขอบคุณครับ"ธารนธียืนมือไปรับของขวัญปีใหม่ที่หญิงสาวมีน้ำใจมอบให้
"ขอตัวก่อนคะ" อายจนอยากจะหมุดหน้าหนี เกิดมาไม่เคยให้ของขวัญผู้ชาย(ยกเว้นพี่ชาย เพื่อนชาย เพื่อนร่วมงานนะ) ที่หน้าตาดีแบบนี้มาก่อน กรกมลเดินหนีไปหลังร้าน ใบหน้าแดงระเรื่อ ธารนธีแอบอมยิ้มท่าทางจะอายมากๆปกติก็เห็น เฮฮากับน้องๆ
"สวัสดี ปีใหม่นะครับ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ"ธารนธีพูดก่อนจะยื่นของขวัญมาให้ตรงหน้าหญิงสาว "ผมให้"
"ขะ ขอบคุณคะ"หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่ม เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายซื้อของขวัญปีใหม่ให้เลย นี่คงจะเป็นผู้ชายคนแรก กรกมลยิ้มอย่างอ่อนหวานให้ชายหนุ่ม หัวใจที่เคยแห้งแล้ง อ้างว้าง กลับรู้สึกเหมือนว่ามีหยาดฝนมาชโลมหัวใจให้เย็นฉุ่มฉ่ำ ปลาบปลื้ม ปิติยินดี (ใครไม่เคยได้รับของขวัญมาก่อน แล้วมาได้ ที่สำคัญจากผู้ชายหน้าตาดีคงจะรู้สึก เหมือนเธอ)
"สวัสดีปีใหม่คะ ขอหั้ยมีความสุขมากๆนะคะ คิดสิ่งใดก็ให้สมปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือความรัก เงินเดือนและโบนัสเพิ่มขึ้นเยอะๆ สุขภาพแข็งแรงอย่าได้มีโรคภัยมาเบียดเบียน
Merry Christmas @ Happy New Years
นี่เป็นการ์ดที่กรกมลเขียนขึ้นให้ชายหนุ่ม ลายมือสวยงามเป็นระเบียบ ธารนธีหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน คนเราพูดคุยกันโดยไม่รู้จักชื่อกัน แต่ก็มีความรู้สึกดีๆให้กันได้ เช่นเดียวกับเขาที่รู้สึกดีๆกับสาวร้านกาแฟที่ชื่อกรกมล หรือกุ้งนาง
"ตัวเองกลับมาจากสิงคโปร์เมื่อไรคะ" เสียงหวานใสถามชายหนุ่มที่สวมเสื้อโปโลสีฟ้ากับกางเกงสแลคสีดำยืนรอลิฟต์อยู่ ธารนธีหันมามองก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ สาวน้อยมัดผมเฉียง
"เพิ่งกลับมาสองวันก่อนนะครับ" นี่แสดงว่าเธอสนใจเรื่องราวของเขาแล้วใช่ไหม ถึงได้รู้ว่าเขาไปไหน ทำอะไร ที่ไหน
"เหลอคะ มิน่าละสามวันนี้ไม่เห็นหน้าตัวเองเลย"
"รู้ได้อย่างไรละครับว่าผมไปสิงคโปร์"
"น้องกุ้งนางก็ถามพี่แม่บ้านว่า พี่อาโปไม่สบายหรือคะไม่เห็นหน้าเลย พี่แม่บ้าน บอกว่า คุณอาโป ไปสิงคโปร์สองสามวันเดี่ยวก็กลับ คิดถึงละสิท่า อ๋อ..............คือว่า" กรกมลอายหน้าแดง สาวน้อยคนนี้ ใสซื่อจริง ๆ พูดจาตรงไปตรงมาไม่มีจริตมารยา รู้สึกแบบไหนก็พูดแบบนั้น
“มีความจริงอยู่ในความรักมากมาย
ที่ผ่านมาฉันใช้เวลาเพื่อหาความหมาย
แต่ไม่นานก็พึ่งรู้ว่าทุกครั้งที่มีเธอใกล้”

"อาโป สาวร้านกาแฟถามหานะ" ปภังกรเดินมาบอกเพื่อนที่กำลังนั่งเขียนแบบของรีสอร์ท ใบหน้าขาวๆเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนที่ยิ้มกว้าง
"คนไหนละ"
"มีหลายคนเหลอ ผู้หญิงตัวเล็กๆนะ ขอโทษนะคะพี่อาโปมาทำงานหรือเปล่าคะ "
"แล้วนายตอบว่างัย"
"มาครับ อยู่ข้างบน เดี๋ยวผมตามลงมาให้ อยากเห็นหน้ามันหรือครับ" ปภังกรถามยิ้มๆๆหญิงสาวสะดุ้งตกใจหน้าแดง มองๆไปก็น่ารักดี "อย่าบอกนะว่าเป็นสาวน้อยที่ให้ของขวัญปีใหม่นายนะอาโป"
" ใช่แล้วจะทำไมละเพื่อน "เขาถามก่อนจะลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องทำงาน ทิ้งให้ปภังกรมองตามไปอย่างไม่เข้าใจ คนนี้นะหรือ ที่ทำให้ สาวๆใน บริษัทอกหักกันไปเป็นแถวๆ เจ้าชายสายน้ำกำลังมีความรักกับสาวน้อยพนักงานร้านกาแฟ สนุกละงานนี้
“มีทางเดินให้เราเดินเคียง
และมีเสียงของเธอกับฉัน
มีทางเดินให้เราเดินร่วมเคียงและมีเสียงเธอกับฉัน”
ตอน สัมผัสของหัวใจ
"เห็นต้นรักหักโค่นโคนสะบัด
เป็นรอยตัดรักขาดให้หวาดไหว
เหมือนตัดรักตัดสวาทขาดอาลัย
ด้วยเห็นใจเจ้าเจ้าเสียแล้วนะแก้วตา"
"ตัวเองสงกรานต์ปีนี้ไปเที่ยวไหนหรือคะ"กรกมลปรี่ไปถามธารนธีทันทีที่เห็นหน้า เพราะว่า ไม่เห็นหน้าเขามาตั้งหลายวัน ชายหนุ่มไม่อยู่เดินทางไปประเทศอินโดนิเซีย(แอบไปถามเจ้านายของเขาโดยตรงเลยละคะ)
"ยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหนดี อาจจะไปหัวหินก็ได้นะครับ"
"หัวหินหรือคะ"
"ก็ยังไม่แน่นะครับ"
"ตัวเองชอบทะเลหรือว่าภูเขาคะ"
"ผมชอบภูเขามากกว่า"
"เหมือนน้องกุ้งนางเลย ภูเขาหมายถึงความเข้มแข็ง ส่วนทะเลให้ความรู้สึกสดใส สนุกสนาน "
"ผมนึกว่าคุณชอบทะเลซะอีกนะ"
“ไม่ชอบ เค้าชอบภูเขา “หญิงสาวพูดยิ้มๆ แลเห็นเขี้ยวทั้งสองข้าง “เที่ยวให้สนุกนะคะ สงกรานต์ปีนี้นะ”
"เช่นเดียวกันครับ"ชายหนุ่มยิ้มอ่อนหวาน ให้ เบอร์โทรให้ไปเขาก็ไม่เคยโทรมาสักครั้ง(ผมไม่กล้าโทรไป ผมอายเขา อุมาพรกระซิบบอกหลังจากแอบไปถามชายหนุ่ม)
ดอกกุหลาบ ราชินี สีส้มอ่อน
หมู่ภมร ตอมไต่ ชวนหลง ไหล
ภาพตรงหน้าทำให้ธารนธีเกิดอาการโกรธ ทั้งหึงทั้งหวง อยากจะจับร่างหญิงสาวมาเขย่าเพื่อมาถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้กับเขา
ชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งกายด้วยชุดสูทสีเทา กำลังใช้มือแตะพวงแก้มของกรกมลที่ยืนตะลึงตาค้าง เขาไม่เคยเกิดอาการอยากจะฆ่าคนมาก่อนเลย นอกจากวันนี้ ปภังกร อังศุธร ภพสรร และกานดิศมองหน้าเพื่อนชายที่กำลังหน้าแดง ควันออกจากหู
"ไอ้หมอนั่นเป็นใคร" ธารนธีหันมาถามเพื่อนเสียงเข้ม
"เขาชื่อ รวีวิชญ์ พัฒนาการสกุล เป็นลูกชายรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เป็นนักเรียนนอกที่จบมาจากอเมริกานะ"ปภังกรตอบแทนเพื่อนทุกคนที่นั่งหน้าสลอน"ที่สำคัญ นายรวีวิชญ์ เป็นหลานชายของหม่อมราชวงศ์ รวินทร์ เพื่อนของคุณปู่ของ กรกมล ภัทรโยธิน "
เรื่องราวของกรกมลถูกชายหนุ่มสี่คนสืบมาหมดแล้ว ว่าเป็นใคร มา จากไหน โดยที่ธารนธีไม่รู้สักนิดเดียวที่ทำไปก็เพราะหวังดีกับเพื่อนหรอกนะ
"ที่สำคัญ หมอนั่นนะหลงรัก คุณกรกมล ด้วยนะ ได้ข่าวว่าตระกูลทั้งสองจะเกี่ยวดองกันด้วยนะ"ใส่ไฟไปนิดหนึ่งขอโทษนะ แม่น้ำแห่งเยอรมันนี
"ไม่มีทางและก็ไม่มีวันหรอก"ฝันไปเถอะว่าจะได้ผู้หญิงที่เขาหมายตาไว้มาตลอดห้าปีไปครอง
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ละครับ เจ้าชาย หลงรักเขามาห้าปีแล้วทำไมไม่บอกความจริงกับเขาไปสักทีละ "
"ยังไม่ถึงเวลา" ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อนๆด้วยหัวใจที่เจ็บปวดอย่างแรง เมื่อไหร่บททดสอบของเขาจะจบลงสักทีนะ
"แล้วเมื่อไรจะถึงละเวลานะ ระวังนะพะยะค่ะจะถูกหมาแมวที่ไหนแย่งไปก่อน ทำเป็นมดแดงแฝงผลมะม่วงอยู่ได้"ปภังกรพูดจาประชดประชันชายหนุ่มที่กำลังยกแก้วไวน์สีแดงขึ้นจิบ กรกมล ภัทรโยธิน หญิงสาวที่ไม่ธรรมดา ผ้าขี้ริ้วห่อทอง เพื่อนเขานี่ก็ตาถึงจริงๆเลยนะไปคว้าเพชรมาได้
งานนี้ สงสารแต่รวีวิชญ์ พัฒนาการสกุล นั่นละ จะโดนสั่งประหารหรือเปล่านะที่บังอาจไปยุ่งกับว่าที่พระคู่หมั้นของเจ้าชายสายน้ำ ไม่อยากคิดเลย
ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เจ้าติงว่าอยู่ที่ไหน
ชายอื่น รักไคร่ เจ้าลองใจเพื่อศักดิ์ศรี
"พี่อาโปคะ"กรกมลเรียกชายหนุ่มที่เดินหน้าราบเรียบ บึ้งตึง ไม่ยอมหยุดทักทายเธอ คิ้วเรียวขมวดมุ่น สงสัยเขาเป็นอะไรของเขานะ เลือดจะไปลมจะมาหรือยังนะ อากาศเดือนเมษายนมันร้อนขนาดทำให้ผู้ชายเป็นบ้าเลยหรืองัย หนอยอีตาบ้า ไม่ทักก็ไม่ทัก ไม่ง้อเหมือนกัน
"คนหนึ่งหน้าตาดี แต่งกายเนี๊ยบตั้งศีรษะจรดปลายเท้า อีกคนแต่งตัวมาดเซอร์จะไปด้วยกันได้เหลอ" เสียงพูดคุยกันทำนองประชดแดกดันใครสักคน ทำให้กรกมลที่กำลังชงกาแฟอยู่เงยหน้าขึ้นมามอง ผู้หญิงสองนี้สวยมากๆๆคนหนึ่งเธอเคยเห็นเดินเคียงคู่กับธารนธี
"นั่นนะสิ เขาเป็นใคร ระดับนั้นแล้วเขาจะมาสนใจทำไมกับแค่ผู้หญิงต่ำๆ ไร้การศึกษา ที่หาความเหมาะสมที่คู่ควรกับเขาสักอย่างก็ไม่มี"
"นั่นนะสิเนอะน้องลิลลี่"
"นี่พี่เชอรี่รู้ไหมว่าหนูนะสงสารพี่เขามากเลยนะ ที่บริษัทมีแต่คนนินทาว่าพี่เขาตาบอด ตาต่ำ ไปหลงชอบผู้หญิงแบบนั้นได้งัย หน้าตาก็แย่ดูไม่ได้"
"กระต่ายหมายจันทร์นะคะน้องลิลลี่ หรือไม่ก็หมาเห่าเครื่องบิน"
กรกมลอยากจะเอากาแฟสาดหน้าสองสาวที่สวยแต่ปากเสีย หวังว่าแม่สาวสองคนนี่ไม่ใช่แฟนคลับของธารนธีหรอกนะ หน้าตาก็ดี ทำไมปากคอเราะร้ายจริงๆ ผู้ชายอย่างธารนธีคงจะเอาไปเป็นแฟนหรอกนะ
น่าเบื่อ กิ่งทองใบตำแย ผีเน่ากับโลงผุ ตัวเองดีตายเลย แต่งหน้าราวกับไปเล่นงิ้ว เปลี่ยนผู้ชายเป็นว่าเล่น ดูชุดที่ใส่สิหวาบหวิวยั่วเสือ สิงห์ กระทิง จริงๆ
เรื่องราวยังคงดำเนินไปเรื่อยๆแม่สองสาวก็ขยันมาหาเรื่องพูดจาประชดประชัน ได้แทบทุกเวลา พอๆกับรวีวิชญ์ ที่ขยันเข้ามาป้วนเปี้ยวแถวร้านกาแฟไม่หยุดไม่หย่อน บางทีก็มาเจอกับธารนธีสองหนุ่มมองหน้ากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ โดยที่กรกมลไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ากำลังทำให้คนบางคนคลั่งเจียนตาย
เวลานี้ กรกมลพยายามไม่คิดอะไรมากมาย ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป เวลาเจอหน้าธารนธีตรงไหน เธอกับเขาก็ทำเมินมองไม่เห็นหน้ากัน จากที่เคยพูดจาดีกันกลับกลายหมางเมิน เหมือนไม่รู้จักกัน
“ต้นเหตุของความเสียใจ
ก็คือความจริงที่สองเราไม่พูดกัน
ไม่เคยจะมองตากัน ได้แต่คิด
และทำอะไรไปตามต้องการ โดยไม่สนใคร
ต้นเหตุของรอยน้ำตา
ไม่เคยเยียวยารักษาด้วยความเข้าใจ
มันเป็นเพราะความไม่รู้
ไม่เคยดูให้ลึกลงไปข้างในหัวใจ
ได้แต่ทนเก็บไว้ ผิดอะไรไม่เคยคิดถาม “
ชายหนุ่มกับหญิงสาวเล่นสงครามประสาทกันมาเป็นเดือนไม่ มีใครยอมพูด ยิ่งกรกมลแล้วด้วย ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีไปง้อผู้ชายหรอกนะ เธอไม่ผิดอะไรนี่ มีแต่ แฟนคลับเขานั่นละมาหาเรื่องไม่เคยเว้นวัน
"ถึงฉันจะเป็นแค่พนักงานร้านกาแฟอย่าได้คิดมาดูถูกกันนะ คุณธารนธี ฉันจะทำให้คุณรู้ว่าผู้หญิงอย่างฉันมีดี กว่า แฟนคลับของคุณ ร้อยเท่าแน่ๆ
ฉันจะทำให้ผู้ชายแบบคุณรู้สำนึกว่าอย่ามาคิดล้อเล่นกับจิตใจของฉัน "
กรกมลคิดอย่างคับแค้นในใจกับท่าทีของชายหนุ่ม ทำเป็นเมินเฉย ไม่ยอมมองตากัน อะไรก็ไม่เท่าว่าควงยายหน้างิ้วมาเย้ยถึงร้านนี่สิ ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ
"ฝากไปบอกเขาด้วยนะครับว่า ผมมีแฟนแล้วอย่าได้มายุ่งกับผมอีก"เสียงทุ้มห้าวพูดขึ้นขณะที่กรกมลกำลังเดินไปทางมุมตึก ร่างบางแน่นิ่ง ตัวชาวาบ ธารนธีกำลังพูดกับใครอยู่ และหมายถึงใคร
"คะ พี่จะไปบอกให้"
"ผมไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับผมอีก ผมรำคาญ" เขาหมายถึงเธอเหลอ ที่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเขานะ
"คะ"
"และอีกอย่างอย่าให้พี่ปิ่นเอาความลับเกี่ยวกับผมไปเล่าให้เขาฟังอีกผมไม่ชอบ" ตายละนี่เธอทำให้พี่ปิ่นแก้วเดือดร้อนหรือนี่
"คะคุณอาโป"
"และที่สำคัญผมไม่อยากให้ใครบางคนเข้าใจผมผิดด้วยและย้ำผมไม่เคยรักเขาสักนิดไม่เคยแม้ที่จะคิดว่าจะรัก"

“เมื่อไรจะเข้าใจ เมื่อไรจะรักกัน
หากเราทั้งสองไม่ยอมเปิดใจ
ให้คำว่ารักเดินทางมาเจอกัน
เมื่อไรจะเข้าใจ ได้ไหมคนดี
ช่วยพังทลายกำแพงที่มี
ให้ใจของเรามีวันที่ดี ที่สวยงาม
ถ้าหากว่าเราพูดกัน ก็คงไม่ทำให้สองเราต้องร้องไห้
และคงไม่เป็นเช่นนี้ คงจะมีทุกวันที่ดีให้กันและกัน
อยากให้เป็นอย่างนั้นพอจะทำให้กันได้ไหม
เมื่อไรจะเข้าใจ เมื่อไรจะรักกัน
หากเราทั้งสองไม่ยอมเปิดใจ
ให้คำว่ารักเดินทางมาเจอกัน
เมื่อไรจะเข้าใจ ได้ไหมคนดี
ช่วยพังทลายกำแพงที่มี
ให้ใจของเรามีวันที่ดี ที่สวยงาม
อยากจะลบลืมภาพเก่าเก่า
อยากจะทำให้เรานั้นเข้าใจกันสักครั้ง
เมื่อไรจะเข้าใจ เมื่อไรจะรักกัน
หากเราทั้งสองไม่ยอมเปิดใจ
ให้คำว่ารักเดินทางมาเจอกัน
เมื่อไรจะเข้าใจ ได้ไหมคนดี
ช่วยพังทลายกำแพงที่มี
ให้ใจของเรามีวันที่ดี ที่สวยงาม”
หยาดน้ำตาลไหลรินออกมาจากตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม ทำไมมันเจ็บปวดแบบนี้ คำพูดของชายหนุ่มมันเฉือนหัวใจของหญิงสาวอย่างแรง มิน่าละหมู่นี้ถึงได้หมางเมินเพราะกลัวว่าคนสำคัญมาเห็นนี่เอง
"ไม่เคย คิดจะรักกันเลยงั้นเหลอ แล้วที่ผ่านมา ฉันมันบ้าคิดไปเองอย่างงั้นเหลออาโป ว่าคุณมีใจให้ฉัน ที่แท้ คุณก็เป็นผู้ชายแบบนี้เองหรือ ทำไมคุณไม่มาพูดกับฉันเองละ ทำไมจะต้องฝากพี่ปิ่นมาบอกด้วยละคะ "กรกมลปล่อยน้ำตาไหลอาบแก้ม ร่างบางค่อยทรุดลงกับพื้น ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเจ็บได้ขนาดนี้ คำพูดบาดใจ ไม่เคยคิดที่จะรัก เพราะว่าเธอเป็นพนักงานร้านกาแฟงั้นเหลอ พนักงานร้านกาแฟมันต่ำต้อยไม่คู่ควรกับบุตรชายท่านทูตงั้นสินะ
"ฉันนึกว่าคุณจะแตกต่างกับผู้ชายทั่วไป ที่มองคนที่หัวใจ ไม่ใช่มองจากภายนอก ถ้าคุณมีแฟนแล้วคุณเข้ามาในชีวิตฉันทำไม มาทำดี พูดจาคอยเป็นห่วงเป็นใยฉันทำไม"
กรกมลหยิบของขวัญวันปีใหม่ที่ให้ธารนธีขึ้นมาดู เป็นแก้วกาแฟ สองใบรูปลายหมี ที่เขาซื้อให้ กับสมุดบันทึกสีฟ้าใสก่อนจะเขียนเรื่องราวของธารนธีลงไป ท่ามกลางน้ำตานองหน้า ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลงไป
"ฝากกับฟ้าเป็นเพื่อนเธอยามเศร้า
ฝากกับดาวช่วยดูแลเธอ
อยากจะให้รู้ว่าถึงแม้ไม่ได้เจอ
อยากบอกเธอว่าทั้งหัวใจห่วงใยเหลือเกิน"
ตอน การจากลา ของกรกมล
"การจากลา ก็คือหนทางหนึ่ง ที่จะบอกว่าฉันรักคุณ
Letting go is one way
of saying I love you"
ธารนธีนั่งอ่านสมุดบันทึกที่กรกมลมอบให้ ก่อนที่หญิงสาวจะบินไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเขาตลอดเวลาที่รู้จักมา
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดนะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม" ธารนธีเขียนบันทึกลงไปในสมุดบันทึกก่อนจะวาดรูปการ์ตูนขึ้นมาเป็นตัวการ์ตูนญี่ปุ่นแบบน่ารักๆโดยเฉพาะตัวการ์ตูนผู้หญิงชายหนุ่มวาดสาวน้อยแก้มป่อง ตาโตๆชอบมัดผมเฉียงเป็นหางม้า
กรกมล ภัทรโยธิน ดอกบัวงาม
ย้อนกลับ
"คุณอาโปคะ"
"มีอะไรครับพี่ปิ่น"ชายหนุ่มหันมาถามปิ่นแก้ว ใบหน้าคมสันเครียดหวังว่าไม่ใข่เรื่องของแม่สองสาวลิลลี่กับเชอรี่อีกนะ นิ้วเรียวยาวดันแว่นตาขึ้น
"น้องกุ้งนางเขาจะไปแล้วนะคะ"
"ไปไหนครับ"ธารนธีถามเสียงดัง ร่างสูงโปร่งผุดลุกขึ้นยืน ใบหน้าขาวๆซีดเผือด"หรือว่าลาออก"
"ไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียคะ ปริญญาโทนะคะ"
"ไปเรียนต่อ"ชายหนุ่มพูดเสียงดัง
"คะ นี่น้องกุ้งนาง เขาห้ามพี่บอกคุณอาโปนะคะ แต่พี่ก็หลุดปากออกมาจนได้"ปิ่นแก้วหัวเราะแหะ มองหน้าเจ้านายที่หน้าซีด ไม่มีสี ร่างสูงโปร่งวิ่งออกจากห้องทำงานไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานทั้งหลายรวมทั้ง ปภังกร
"เขาวิ่งไปไหนของเขาพี่ปิ่น"ชายหนุ่มถามแม่บ้าน
"คงจะไปตามน้องกุ้งนางละมั้ง"
"แล้วจะรีบไปตามทำไม ร้านกาแฟก็อยู่ใกล้"ๆ
"น้องกุ้งนางเขาจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศวันนี้นะคะคุณหม่อน"
"หา ไปเรียนต่อ วันนี้ ตายละ "ปภังกรอุทานลั่นห้อง มิน่าละเพื่อนของเขาได้วิ่งเป็นเจ็กตื่นไฟ บอกแล้วงัยให้รีบพูด เป็นอย่างไรละหญิงสาวหนีไปอีกแล้วละ น่าสงสารเจ้าชายสายน้ำจริงๆตามเขามาตั้งประเทศคีรีธารา เฝ้าแอบมองมาหลายปีไม่ยอมทำอะไร ความรักมันเป็นแบบไหนกันนะ
"พี่กุ้งนางฝากสมุดบันทึกให้พี่อาโปคะ"อุมาพรยื่นสมุดบันทึกสีฟ้าให้ชายหนุ่มที่หน้าตาตื่น หอบแหกๆ
"แล้วกรกมลละครับ"เขาถาม นี่เธอไปไม่ยอมบอกเขาเลยหรือนี่ ชายหนุ่มคิด
"พี่รวีวิชญ์มารับไปส่งที่สนามบินแล้วละคะ"ผู้ชายคนนั้นรู้ด้วยหรือว่าเธอจะไปเรียนต่อ นี่เขาไม่สำคัญกับหญิงสาวเลยหรือนี่ ธารนธีคิดอย่างน้อยใจ
"ทำไมพี่อาโปเพิ่งมาละคะ"
"ผมเพิ่งรู้"
"พี่กุ้งนางรอพี่อาโปอยู่ตั้งนาน พี่เขาหวังว่าจะได้เจอหน้าพี่ก่อนจะไป แต่พี่กลับไม่ยอมมา"
"ผม"
"พี่อาโปคะ คนที่ทำให้พี่กุ้งนางต้องไปก็คือตัวของพี่"
"คือผมงั้นเหลอ"ชายหนุ่มถามเสียงดัง ใบหน้าขาวๆซีดเผือด
"ต้นเหตุของความเสียใจก็คือ พี่ไม่ยอมพูดอะไรเลย ไม่บอกไม่กล่าวอะไรกับพี่กุ้งนาง พี่อาโปมีแฟนแล้วมายุ่งกับพี่กุ้งนางทำไม"อุมาพรถามเสียงเข้ม
"แฟน ใครแฟนผม หรือครับ ผมยังไม่มีแฟน" ชายหนุ่มถามอย่างงงๆและแกมสงสัย
"ก็วันนั้นพี่อาโปพูดอะไรกับพี่ปิ่นแก้วละคะ ทำไมพี่กุ้งนางถึงได้ร้องไห้ตาบวม เดินกลับมาร้านแบบสภาพนกปีกหัก"กาญจนาถามเสียงแข็ง
"หมายความว่า" กรกมลเข้าใจผิดที่เขาพูดกับพี่ปิ่นแก้วหมายถึงตัวเธองั้นเหลอ แสดงว่าวันนั้นเธอก็อยู่ตรงนั้นด้วยงั้นสิชายหนุ่มคิด
"ยังมีอีกเรื่อง"
"มีผู้หญิงสองคนมาหาเรื่องพี่กุ้งนางด้วยนะคะ มาพูดจาประชดประชันแดกดันได้ทุกวี่ทุกวัน" หมายถึงลินดา กับ ชุลีพร งั้นเหลอ
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือครับ" เขาถามเสียงเบา
"มีคะ ถ้าเป็นอุ้มกับกิ๊บนะคะจะตบหน้าหันไปแล้ว เล่นมาดูถูกกันขนาดนี้ ทำไมคะพนักงานร้านกาแฟ มันต่ำต้อย น่ารังเกียจ จนไม่มีใครอยากจะคบหรือคะ"
"ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะเคยมีเรื่องแบบนี้"
"พี่กุ้งนาง รักพี่อาโปนะคะ ที่แกทำแบบนี้ก็เพื่อพี่อาโปนะคะ"
"เพื่อผม" หนีเขาไปเรียนต่อนี้นะ ทำเพื่อเขา
"คะ พี่กุ้งนางไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าพี่อาโป มาหลงรักพนักงานร้านกาแฟ ที่ต่ำต้อยไม่คู่ควร กับพี่อาโป พี่กุ้งนางอยากให้พี่อาโปได้พบเจอคนที่เหมาะสม ที่ดีกว่า"
"ผมไม่"
"ถ้ารักพี่กุ้งนางจริง แค่สามปี เองนะคะ รอไม่ได้หรือคะ"
"สามปี" นี่เขาต้องรอหญิงสาวอีกสามปีหรือนี่ ธารนธีคิด
"พี่อาโปคะ พี่กุ้งนาง บอกว่า ถึงจะเป็นแค่พนักงานร้านกาแฟอย่าได้คิดมาดูถูกกัน คนบางคนอาจจะมีดีกว่าคนบางคนซะอีกนะคะ อย่าได้มองคนแต่ภายนอก ให้มองที่หัวใจบ้างนะคะ"
จำไว้นะ ว่าฉันจะรักเธอตลอดไป เพราะหลังจากบอกแล้วฉันจะลืม
"วันนี้พี่อาโป ควงยาย หน้างิ้ว เข้ามาในร้านกาแฟ น้องกุ้งนางรับไม่ได้ ทั้งโมโห ทั้งหึง อยากจะตบหน้า ผู้ชายหน้าตาดี "
"น้องกุ้งนางละคะไม่คิดว่าพี่อาโปก็หึงเหมือนกันหรือครับ ยิ่งเห็นหน้านายรวีวิชญ์แล้วพี่อาโปอยากชกหน้าหล่อๆของมันที่บังอาจ มายุ่งกับผู้หญิงของพี่อาโป"
ธารนธีเขียนข้อความตอบโต้ลงไป ในเรื่องราวที่หญิงสาวเขียนบันทึกไว้ ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดถึงหน้าคนเขียนขึ้นมา ป่านนี้ เครื่องบินคงจะออกไปแล้วละ แค่สามปีเอง ทำไมจะรอไม่ได้ละ ห้าปียังรอมาได้เลย
"หัวใจของฉันเจ็บปวดเพราะรักคุณ
My heart aches, because I love you"




ณัฏฐกมล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 20:55:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 20:55:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1423





<< เซียมซีเสี่ยงรัก   บ้านรมย์รวินท์ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account