ลำนำรักสายน้ำ
‘หลับตาลงครั้งใด เห็นว่ามีแต่ภาพใครบางคน
ที่กี่ครั้งก็ยังวกวน ดูไม่ชัดเจน
ได้ยินแต่เสียงเรียกของเธอ
ที่ฟังแล้วอบอุ่นและคุ้นในใจ
ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ยิ่งติดอยู่ข้างใน
ยิ่งห้ามเท่าใจเท่าไร ยิ่งใกล้เธอเข้าไปทุกที
ตามหาหัวใจ ที่ลึมไว้กับใครสักคน‘
ธารนธี ตกหลุมรักหฺญิงสาวนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญเต็มดวงของฤดูใบไม้ผลิ เป็นคืนที่ราชาแห่งขุนเขาและเทพีแห่งบุปผาจะประทานพรให้หนุ่มสาวชาวคีรีธาราสมหวังในความรัก
‘หัวใจอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม สักวันหนึ่งร่างกายจะเดินมารวมกับหัวใจ‘
เช่นเดียวกับสายน้ำและดอกบัวงาม
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดู แห่งการเริ่มต้น ดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบาน เพื่อต้อนรับแสงแดดที่อบอุ่นหลังจากที่ต้องจมอยู่ได้พื้นดินเป็นเวลานาน
เช่นเดียวกับความรักของธารนธีและกรกมล

ถึง Dream Girl
นกสีฟ้าของผมจะโบยบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อคุณได้ยินเสียงขลุ่ย โปรดรับรู้ว่ามันคือคำบอกรักของผม ยามคุณดื่มกาแฟ จะรับรู้รสจุมพิตของผม หากคุณเข้าไปในสวนดอกไม้ กลิ่นของมันคือกลิ่นอายความทรงจำของเราสองคน และที่ศาลากลางน้ำ หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับนั่น คือรอยยิ้มที่ผมมอบให้คุณเพียงคนเดียว
จาก อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์
14 กุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว ประเทศ ออสเตรเลีย

‘ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนใด
เริ่มเพาะเหมาะกลางระหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี‘
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดน่ะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม”

Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: ไม่ผิดใช่ไหม...ที่ฉันจะรักเธอ

เมือง วินธัยบุรี วัดมณฑาธาร
“อาโปขา น้อง กุ้งนางเดินไม่ไหวแล้ว “ กรกมล ร้องลั่นทางเดินขึ้นเขา ไปไหว้พระที่วัด มณฑาธาร ที่อยู่บนยอดเขา จุฑาธช บันไดเดินขึ้นเขา 2,200 ขั้น
“ทนอีกเดียวนะครับ”
“แง้ ไม่ไหว เดินไม่ไหว แล้ว “ หญิงสาว แกล้ง นั่งบีบน้ำตา ปริบๆๆ นั่งแมะบนทางเดินบันได ที่มีต้น มณฑา ป่า ขึ้นเต็มตลอดทางเดิน
“ถ้าอย่างนั้นก็นั่งอยู่ตรงนี้ ก็แล้วกัน ผมขึ้นไปคนเดียวก็ได้ “ ธารนธีว่า พลางยิ้ม ยั่ว “แต่ว่า ข้างบนสวยนะครับ เขาว่า คน ……”
“ไปก็ได้ จะมาหลอกด่ากันหรืองัยละ “ มารยาหน่อยก็ไม่ได้ ชิ ภูกระดึง ดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ เขาวัดช่องกระจก เขาใหญ่ก็ไปมาหมดแล้ว จิ๊บๆๆ แค่วัดมณฑาธาร ชิวๆๆนะ กรกมลค้อนควับใส่คนที่รู้ทัน ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปตามบันไดหิน
“อ้าวไม่นั่ง รอผม อยู่ข้างล่าง แล้วเหลอ”
“ไม่นั่ง ชิ “ กรกมลย่นจมูก ใส่ ชายหนุ่ม ที่ ยืนหัวเราะ อย่าง ชอบ
อกชอบใจ “พามาลำบากลำบนจริงๆ เลย “
“ผมพามาทำบุญ นะครับ ไม่ได้พาที่รัก ไปเดินห้าง จะได้สบาย มีแอร์ เย็นๆ”
“จะไปกี่วัด ละคะ “
“วัดเดียว ก็พอ แล้วมั้ง ดูท่าทาง ที่รักจะไม่ไหว เดินบ่นยังกับคนแก่”ธารนธีแกล้งว่า
“ถ้าฉัน แก่ คนบางคน ก็คงเป็น ทวดไปแล้วละมั้ง “
“ถ้าอย่าง งั้น คืนนี้ ไป พิสูจน์กันนะ “ ชายหนุ่ม กระซิบ บอก ก่อนจะรีบ วิ่งหนีขึ้นบันได ปล่อยให้กรกมล ยืน กัดฟันกรอดๆด้วยความโมโห อีตาบ้า วันๆ หาเรื่องมาให้อาย กรรมเวรของเธอจริงๆไปตกหลุมรัก ผู้ชายคนนี้ “เร็ว สิครับคุณยาย คุณตา รออยู่”
“ค้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจะไปเดี่ยวนี้ ละ “
กว่าจะเดินขึ้นมาถึงข้างบน กรกมลแทบหมดแรง นั่งพิงต้นมณฑา ที่ปลูกไว้ บริเวณวัด ส่วนธารนธียืนถือ พัดกระดาษ พัดให้หญิงสาว
“ดื่มน้ำหน่อย สิครับ”
“คงไม่ใช่ บุปผานารี หรอกนะคะ “
“นี่มัน วัด นะ คะ ที่ รัก ใครจะเอาเครื่องดื่มของมึนเมาเข้ามา บาปตายละ “ ธารนธี ว่า
“ก็คุณงัยละ”
“ประชดผมเหลอ ถึงเอามาผมก็ไม่ให้คุณดื่ม ขี้เกียจแบกคนเมาลงเขา ดูท่าทางหนักไม่เบานะนี่” ชายหนุ่มล้อ เลยโดนหญิงสาว ทุบอกให้ทีหนึ่ง
“อาโป”
“ครับมีอะไร “
“เรื่อง ภาพวาด ดรีม เกิร์ล นั่นนะคะ มันเป็นเรื่องจริงหรือคะ” กรกมลหันมาถาม ชายหนุ่มที่กำลังนั่งดื่มน้ำเปล่าอยู่ ถึงกับชะงัก นัยน์ตาสีดำคมกริบหันมามอง
“ครับ “
“ถ้าอย่างงั้นคุณก็รู้ สิคะ เขาเป็น ใคร”
“คุณอยากจะรู้ไปทำไมหรือครับ” ธารนธีเสียงขรึม
“ก็ฉัน อยากเห็น หน้า ผู้ชายคนนั้นนะสิ ว่า เขาเป็น คนแบบไหนนะที่ รักมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง น่าอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังเลยนะคะ เขาจะรู้ไหมหนอ ว่ามีใครรอเขาอยู่” กรกมลพูด เสียง ชวนฝัน ไม่ได้มองไปยังผู้ชายอีกคนที่นั่ง หน้าเครียด
“คุณว่า ผู้ชายคนนั้นน่าสมเพชไหมละ”
“ไม่นะ ในโลกนี้จะมีผู้ชายแบบนี้สักกี่คน หลงเหลืออยู่ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นนะฉันรักผู้ชายคนนั้นตายเลยละ จะรีบวิ่งไปกอด ไปบอกว่า ฉันรักคุณมากๆๆ “
“ทำไมไม่กอดละ”
“หึ ว่า อะไรนะคะ ไม่ได้ฟังนะคะ “ กรกมลหันมาถาม ชายหนุ่ม ที่ หันหน้าหนีไปอีกทาง
“เปล่า หรอกครับ คุณก็รู้ว่าเธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้”
“ถ้าจำไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นไม่ต้องรอ จนตายหรือคะ “
“คงงั้นมั้งละครับ”
“ทำไมเขาไม่สร้างความทรงจำใหม่ กับเธอละคะ ประมาณว่า จีบเธอใหม่ อะไรประมาณ นั้น แต่งงานกับเธอ เพราะถึงอย่างงัยก็คนเดียวกันใช่ไหม เพราะว่าบางที อีกสิบปีข้างหน้าเธออาจจะจำได้ พอถึงเวลานั่น เธอกับเขา ก็ ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่มีอะไรเสียหายใช่ไหมคะ ผู้ชายคนนั่น ก็ได้ดูแลเธอไปด้วย คอยกระตุ้นความทรงจำเก่าๆ ให้ย้อนกลับคืนมา ดีกว่า รอเปล่า ๆโดยไม่ทำอะไร เผื่อเธอไปรักคนอื่นหรือไม่ก็แต่งงานไปกับใครสักคน เขาจะทำอย่างงัยไม่เสียใจ หนักกว่าเก่าหรือคะ”
”คุณคิดแบบนั้นหรือครับ”
“ใช่ถ้าฉันเป็นผู้ชายคนนั้นนะคะ จะดักฉุด หรือไม่ ก็ปล้ำจับแต่งงานด้วย ให้ได้เลยละคะ” กรกมลหัวเราะคิกคัก แต่ไม่ได้รู้ชะตากรรมตัวเองเลย ว่าคืนนี้จะรอดหรือเปล่า
“คุณจะให้ผู้ชายคนนั้นทำแบบนั้นหรือครับ”
“จะปล่อยไว้ทำไมคะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว แต่งงานกันเสร็จอาจจะจำได้ ก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็ได้ร่างกาย และหัวใจ ผู้หญิงคนนั้นกลับคืนมา ไม่เห็นจะมีใครเสียหาย หรือว่าเสียเปรียบ วิน วิน ทั้งคู่ ว่ามะ” กรกมลหันไปถามธารนธีที่มองมา แววตาที่มองมาหวานหยดย้อย ทำท่าจะกลืนเธอลงท้องให้ได้
“ก็ดี นะ “ ชายหนุ่ม ลูบแขน หญิงสาวเบาๆ
“เฮ้ย คุณนี่จะทำอะไร “ กรกมล กระเถิบร่างหนี เมื่อเห็น ธารนธี จะกลายเป็นหมาป่า
“เปล่า หรอกครับ ผมแค่จะหยิบใบไม้ ที่หล่น ใส่ หัวออกให้นะ” ชายหนุ่มบอก ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบใบไม้ที่ติดผม ที่อยู่บนศีรษะหญิงสาว ออกให้ กรกมลเป่าลมออกจากปาก นึกว่า เขาจะ จุดจุดจุด” ไปไหว้พระกันเถอะครับ เดี่ยวจะได้ไปชมถ้ำ เบญจมินทร์ กันต่อ “ ชายหนุ่มดึง แขนหญิงสาวให้ลุก ขึ้น
“ก็ได้คะ “
ให้เขา ดักฉุด ปล้ำ แต่งงาน ทำอย่างกับจะยอมง่ายๆๆละ กว่าจะกอดได้แต่ละที แทบจะกระอักเลือดตาย พูดนะมันง่ายนะกรกมล แต่ทำนี่นะสิ มันยากสุดๆๆเลยละ
“วัดนี้มีชื่อว่า มณฑาธาร ตั้งตาม ชื่อดอกมณฑา ที่ขึ้น อยู่รอบๆวัดนะครับ “ ชายหนุ่มหันมาอธิบายให้ฟัง ก่อนจะยื่นดอกบัวให้หญิงสาว เพื่อนำไปบูชาพระพุทธรูปด้านในวัด
“เหลอคะ “ กรกมลหันไปมองต้น มณฑา ที่ขึ้นเต็ม บริเวณ สิบกว่าต้น
“ถ้ำเบญจมินทร์จะแบ่ง เป็นห้า ห้องนะครับ มาดูทางนี้ดีกว่า “ชายหนุ่มจูงมือหญิงสาวให้เดินตาม “ภายในถ้ำจะแกะสลัก หินเป็นเรื่องราว พระพุทธประวัติ “
“อาโป คะ “
“ครับมีอะไรหรือ”
“เปล่าไม่มี อยากเรียกเฉยๆ”
“ภายในถ้ำจะมีรูป พระพุทธรูป ปางต่างๆมากกว่า 100 องค์ “
กรกมลยกมือถ่ายรูปไม่ได้สนใจว่ามีใคร ยืนมองเธอกับ ธารนธีอยู่อีกด้าน แต่ชายหนุ่มรู้ ก่อนจะโบกมือไล่ให้ออกไป เฮ้อ ตามมาจนได้ นะ ขอสวีทหวานกับคนรักหน่อยได้ไหมฮะ อุตส่าห์พาขึ้นเขามายังมี คนตามมาอีกหรือนี่
“นายเป็น นักข่าวหรืองัยฮะ นายภาม “ ธารนธี ฉุน จัดที่ถูก ถ่ายรูป
“กระหม่อม เป็น นักแสดง พะยะค่ะ ฝ่าบาท “ ภพสรร ล้อเพื่อนที่ กำลังควันออกจากหู
“ที่อื่นมี มากมายทำไมไม่ไป “
“อ้าว กระหม่อม จะรู้ หรือว่า ฝ่าบาท พา ว่าที่พระชายา มา ฮันนีมูลที่นี่ โรแมนติค พิลึก “
“นายภาม “ ธารนธี เรียกชื่อเล่น เพื่อนที่ ชักจะเลยเถิด ไปไกล ภพสรร หัวเราะคิกคัก ก่อนจะมองกรกมล ที่ก้มหน้าก้มตา ถ่ายรูป
“น่ารัก ดี นะ เข้าหอหรือยังละ “
“ไอ้ ปากเสีย “
“ฤกษ์แต่งตั้งปลายปี จะรอ ไหวเหลอ น้ำตาลใกล้มด ซะด้วย”
“อย่ามาชักใบให้เรือเสีย นะ นายภาม “
“ทนได้อย่างงัยวะ ตายด้านหรือเปล่า เพื่อน “
“ไอ้ “ ธารนธี อยากจะด่า เพื่อน ตัวแสบ แต่ก็ด่าไม่ออก ได้แต่กัดฟันกรอดๆๆ
“อ้าย …….คุณภาม กรี๊ด ๆๆๆๆ” กรกมล วิ่งไปหาชายหนุ่ม นักแสดงที่ยืนยิ้ม อ่อนๆให้ แต่ทว่ากลับถูกธารนธีดึงคอเสื้อไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้ นักแสดงหนุ่ม ดาวรุ่ง พุ่งแรงของเมืองไทย
“จะไปไหน”
“จะไปขอลายเซนต์ ขอถ่ายรูป ปล่อยสิคะ “ กรกมลบอก แต่ชายหนุ่ม ไม่ปล่อย
“ท่าทางแฟนคุณ จะหึงมากนะครับ “ภพสรร พูด พลางยิ้มให้
“จะมาหึง มาหวงอะไร กันละคะ “ กรกมลว่า ก่อนจะกระทืบเท้าลงไปบนรองเท้าธารนธี เดินไปหาภพสรรที่ยืนยิ้มอยู่
“สวัสดี ครับ จะมาขอถ่ายรูปหรือครับ “
“คะ กุ้งนางชอบถ่ายรูปนะคะ ไม่ทราบว่าคุณภามจะเป็นแบบให้ได้ไหมคะ “
“สำหรับคุณ ได้เสมอ “
“กุ้งนาง เป็นแฟน ของคุณภามด้วยนะ คะ ดูหนังเรื่อง ที่คุณภามเล่นทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง ไม่ผิดใช่ไหม ที่ฉันจะรักเธอ คุณภามร้องเพลงเพราะมากเลย ทำเอาน้ำตาซึมเลยละคะ”
“เหลอครับ ดูเหมือนผู้ชายบางคน อยากจะฆ่าผมนะครับ”
“คุณภามจะไปกลัวทำไม คะ ดีเหมือนกัน อยากเห็น ผู้ชายหึงจะเป็นแบบไหน” กรกมลว่า พลางค้อนใส่ธารนธี ที่มองมาแบบตาขวาง ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หึงสิคะ หึงเลย แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะเฉยๆ ไม่แสดงอาการว่าจะหึง หวง กลับยืนยิ้มๆ นี่มันนักแสดงดังคับฟ้านะค้า ภพสรร พสุธราดล พระเอกหนัง ภาพยนตร์เรื่อง “ไม่ผิดใช่ไหม ที่ฉันจะรักเธอ”
“เขาไม่หึง หรอกครับ พวกเราเป็นเพื่อนกัน”
“หา เพื่อนอาโป “ กรกมล หน้า เหลอเหลา ที่เธอปล่อยไก่หมดเล้าอีกแล้วหรือนี่
“ครับ พวกเราทั้งกลุ่มมี ห้าคน เรียกว่า กลุ่มเบญจา ” ภพสรร หันมาอธิบาย “ใครมีแฟน มีกิ๊ก มีคน พิเศษ พวกเรารู้หมดละครับ รวมถึงเรื่องของคุณด้วยละ”
“ถ้าอย่างงั้น ก็เหลือ อีกคน สิคะ ที่ยังไม่ได้เจอ “ กรกมลถาม ชายหนุ่มสุดหล่อแห่งไร่นวาระ กานดิศ อังศุธร ภพสรร ขาดอีกคนจะเป็นใครอีกหนอ
“นาย หม่อน เดี๋ยวคุณ ก็ได้เจอเองละครับ ตอนนี้ เขาอยู่ที่ เมืองบุรีธารา “ กำลังตามจีบสาวอยู่ แถว ป่าฝนรีสอร์ท ขำหม่อมราชวงศ์คนดัง ที่มาเจอรักแรกพบ ที่ประเทศคีรีธารา ในกลุ่มไปอีกคนแล้วหรือนี่ ถ้างั้นเหลือเขากับกานดิศ อะดิที่ยังหาแฟนไม่ได้ เซ็ง
“ท่าทางกลุ่ม เบญจา นี่ จะมีแต่ คนหน้าตาดีๆๆทั้งนั้นเลยนะคะ”
“แต่ผมว่า หล่อสู้สุดที่รักคุณไม่ได้หรอกนะครับ สุภาพบุรุษ อ่อนโยน อ่อนหวาน ฯลฯ ให้ก็แล้วกัน คุณโชคดีมากนะครับที่ได้หัวใจของผู้ชายคนนี้ไปครองนะครับ”
“หึ “
“ถ้าว่าง อย่าลืมให้อาโป พาไปเที่ยวที่เมือง ภิรมย์เวศน์บ้างนะครับ ที่ไร่ นวาระ ของผมยินดีต้อนรับคุณเสมอ “
“คะ “
“ผมต้องขอตัวก่อน จะไปถ่ายรูปที่ วัดข้างบนนะ เชิญคุณสองคน เที่ยวกันต่อผมไม่อยู่กวนแล้ว”
ภพสรรขอตัวเดินจากไป ก่อนจะหันมายิ้มให้กรกมลทีหนึ่งก่อนจะเดินไปหาธารนธีที่ยืนมองดู พระพุทธรูป ปางขัดสมาธิ
“คืนนี้ ก็รีบๆๆพาเข้าหอซะ คนมาทีหลังเขาจะแซงหน้าหมดแล้วนะเฟ้ย มัวแต่ลีลาอยู่ได้ “
“ปากเหลอที่พูดนะนั่น”
“บอกด้วยความหวังดีนะเพื่อน”
“จะไปไหนก็รีบ ๆไป แล้วบอก ไอ้คุณชายกลางด้วย อย่าโผล่มาให้เห็นหน้า ไม่งั้นโดนฝัง อยู่ที่ธาราคีรีแน่ๆ”
“จะกลัวไปทำไม เขาไม่กล้าไปยุ่ง กับพระชายาของฝ่าบาทหรอกนะ ตอนนี้ได้ข่าวว่า ต้องหลุมรัก สาวนางหนึ่งชื่อ ฝนสุดาละมั้ง”
“ดี จะได้ไม่ต้องมายุ่ง”
“หึง ไปได้น่า รวบรัดไปเลยคืนนี้ บรรยากาศก็แสนจะโรแมนติค เข้าหอก่อนแต่งก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ยังงัยก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว”
“ปากหาเรื่องนะเอ็ง จะไปไหนก็ไป เกะกะ ลูกหูลูกตาจริงๆ”ธารนธี บอก ส่วนภพสรรก็ได้แต่หัวเราะหึ ก่อนจะยอมเดินจากไป ทิ้งให้หนุ่มสาวสองคนกระหนุงกระหนิงกันต่อ อิจฉาคนมีแฟน โว้ย แล้วเขาจะไปหา นางในฝันที่ไหนได้ละ นึกออกแล้ว ถ้าแก้แค้นละก็มีอยู่คนเดียวนั่นละ ยายตัวแสบ แปดปีก็ยังไม่หายแค้นหรอกนะ เจ้าหญิงบุษบามินตรา เฌอฟ้า ศรีสุภางค์ ยายทอมบอยน้อยตัวแสบ
“โอ้ย …เบาๆๆสิคะ อาโป เจ็บนะคะ” เสียงกรกมลร้องลั่นบ้านรมย์รวินท์
“คุณ ก็อยู่เฉยๆๆได้ไหม อย่าขยับสิ “
“โอ้ย คุณก็เบาๆๆสิ ฮ้า “
“คุณจะร้องทำไมนี่ “
“ก็ฉันเจ็บนี่ “
“ผมทำเบาๆๆแล้วนะ”
“โอ้ย ไม่ไหวแล้ว ว้าย เจ็บนะ กรี๊ดๆๆ”
“คุณอย่าร้องได้ไหม”
“หยุดเดี๋ยวนี้ ฉันเจ็บ “ กรกมลร้องต่อ
“แค่นิดเดียวนะ “
“ฮ้าย ๆๆๆๆ” กรกมลร้องลั่นห้อง ถ้าใครมาได้ยินคงเข้าใจคิดว่าสองคนนี้ กำลังจุดจุดจุดแน่ๆๆแต่ความจริง ธารนธีอยากจะจับ ผู้หญิงที่กำลังนอนคว่ำหน้ากับหมอนฟาดก้นจริงๆๆๆ
“ตอนทำ ทำไมไม่คิดฮะ” ชายหนุ่ม เอายา มานวดเอวให้หญิงสาวที่นอนร้องระงม
“ก็แหม ใครจะคิดละหว่านแห แล้วมันจะพลิกล็อก เอวเคล็ดแบบนี้ ไม่ได้หว่านมานาน “ นั่น แสบไหมละ
“นี่แนะ อยู่ดีๆๆไม่ชอบ “ ชายหนุ่มบีบเอวหญิงสาวอย่างมันเขี้ยว
“โฮ้ย เจ็บนะ อีตาบ้า มือหนักอย่างกับคีม โฮ้ย เบาๆสิ “ ตกลงเขานวดเอวให้หรือว่าจะมาฆ่ากันนะ
“เจ็บ แบบนี้ คงจะซ่าส์ไม่ได้อีกนาน ละมั้ง” ชายหนุ่มว่า
“น้อยไปละสิค้า อาโปขา ฉันมันม้าดีดกระโหลกประจำคณะเลยนะค้า เจ็บแค่นี้ ชิวๆๆ ยังมีฤทธิ์แผลงได้อีกเยอะ โฮ้ย เจ็บนะ “
“แกล้งผมใช่ไหม กรกมล “ ชายหนุ่ม ถาม ก่อนจะ บีบเอวคอดกิ่วอย่างแรง
“ก็อยากให้แกล้งเองทำไมละ “ กรกมลตวาดแว๊ดกลับคืน ก่อนจะลุกนั่ง เอวเคล็ด ไม่น่าเลย หญิงสาวคิด อยู่ดีไม่ว่าดี เห็นชาวบ้านกำลังหว่านแหทอดปลาอยู่ริมแม่น้ำ ก็เกิดอาการนึกสนุกอยากจะลอง ไม่คิดเลยว่า สภาพออกมาเป็นแบบนี้ กลายเป็นลูกหมาตกน้ำถูกธารนธีหิ้วปีกกลับบ้านแทบไม่ทัน
“มันน่าจะจับหักคอจิ้มน้ำพริกจริงๆเลยนะนี่ ผู้หญิงที่ไหนเขาไปหว่านแหทอดปลากันบ้าง” เขาถามเสียงฉุนๆๆ
“ก็ฉันงัยละ นางสาวกรกมล ชลธาร เฮ้ยภัทรโยธินงัยละ “ กรกมลแลบลิ้นใส่ แต่ ชายหนุ่ม กลับโกรธ ควันออกจากหู ตอนเห็นสภาพหญิงสาวหัวทิ่มลงไปในน้ำ ใจของเขาแทบสลาย ถ้าเธอเป็นอะไรไปเขาจะทำอย่างไรละ
“วังปทุมวัน เขาไม่ได้สอนมารยาท กุลสตรี หรืองัยฮะ “
“สอน แต่ฉัน ดื้อ ไม่ยอมเรียน ฮิอิ มีอะไรไหมค้า เพ่ อาโป” กรกมลลากเสียงล้อชายหนุ่ม ก่อนจะลุกยืน เจ็บชะมัดยาดเลย
“วันหลังผมจะพา คุณขึ้นเขา สักห้าลูกเลยดีไหม “
“สิบลูกก็ไม่กลัว แบร่ แบร่ แค่วัดมณฑาธาร จิ๊บๆๆ “
“แล้วคุณ บ่น ตลอดทางทำไม “เขาถาม
“ก็ฉันอยากแกล้งคนบางคน มีอะไรไหม” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบ
“กรกมล “ ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวดังลั่น ก่อนจะคว้าร่างยายตัวแสบมาลงโทษ
“แหวะ จ้างก็จับไม่ได้หรอก “ กรกมลกระโดดลงจากเตียง อย่างเร็ว ธารนธีคว้าได้แต่ตุ๊กตาหมี ที่วางอยู่บนเตียง นอน ส่วนยายตัวแสบวิ่งออกไป จากห้อง แล้ว ฝากไว้ก่อนเถอะยายตัวแสบ
ตอน ไม่ผิดใช่ไหม…ที่ฉันจะรักเธอ
“ตกลง ผู้ชายบ้า หรือผู้หญิงโง่ กันนะนี่ “ กรกมลนอนดูหนัง เรื่อง ไม่ผิดใช่ไหม… ที่ฉันจะรักเธอ ที่ภพสรร พสุธราดล แสดงกับสาว ไต้หวัน คนสวย ที่ชื่อ หลิวลู่ลม ในมือถือข่าวโพดปิ้งที่ซื้อจากข้างทาง ตอนกลับจากเที่ยว นอนแทะอย่างสบายอารมณ์ ขากระดิกยิกๆ ไม่ได้สนใจว่าร่างสูงที่เดินถือ จาน แตงโม กับ ขนม เข้ามานั่งใกล้ๆ
“คุณ ดูหนัง หรือจะบ่น กันแน่ “ ธารนธีถาม
“ก็ พระเอกโง่ จริงนี่ หนา ทั้งที่นางเอกเขารักตัวเองจะตาย ยังเข้าใจผิดคิดว่า เขาไม่รักอีก ผู้ชายโลกนี้ โง่แบบนี้ทุกคนหรืองัยนะ”
ธารนธี กลอกตาไปมา สงสาร พระเอกที่ชื่อ เคนนี่ ที่รับบทโดยภพสรร พสุธราดลจริงๆ
“นี่นางเอก ก็โง่ ๆๆพระเอก ก็แสดงออกว่ารัก แต่ยังบื้อ ไม่รู้ตัวอีก “ ด่าตัวเองหรือเปล่านะนางเอก
“ถ้าหนังมันน่าเบื่อคุณจะดูไปทำไมละ เสีย อารมณ์เปล่านะ” ชายหนุ่มว่า กรกมลลุกนั่ง
“ก็ วิวมันสวย เพลงเพราะ ร้องเป็นภาษาจีนอีกต่างหาก ว้าว ฉากจูบ เคนนี่ กับ ชิงเฉิงท่ามกลางทุ่งหิ่งห้อย อะไรจะโรแมนติค ขนาดนี้นะ “ กรกมล เอาหมอนปิดหน้าตัวเอง อายหน้าแดง อินในอารมณ์ ส่วนธารนธี หลับตานิ่ง อะไรจะขนาดนั้นนะ “อี๋ อะไรมันหวานขนาดนี้ ดูสิ ขอแต่งงานด้วย อิจฉามากๆๆ อยากจะเป็นนางเอก กรี๊ดๆๆ“ ชายหนุ่มอยากจะบ้าตาย กับหญิงสาวที่กำลังส่งเสียงกรี๊ดๆๆกับฉากแต่งงาน ของเคนนี่และชิงเฉิง ท่ามกลางดวงดาวนับล้านดวง มันก็สวยหรอกนะ เล่นไปถ่ายทำถึงประเทศไต้หวัน
“หนี่ เข่อ จือเต้า หว่อ ไอ้ เสย(เธอน่าจะรู้ว่าฉันรักใคร)
ซิน ซั่ง เหญิน ซื่อ หน่า อี เว่ย(สุดที่รัก คือคนไหน)
ปี่ หนี่ เวินโหญว อี้ เชียน เป้ย(อ่อนโยนกว่าเธอตั้งพันเท่า)
ปี่ ทา เข่อ ไอ้ อี้ วั่น เป้ย(น่ารักกว่าเขาเป็นหมื่นเท่า)
อี้เตี่ยน เหย่ ปู้ ซีวเหว่ย(ไม่เสแสร้งเลยแม้แต่น้อย)
โซว เต้า เลอ ชวงซัง ปู้ หลิว เล่ย(ได้รับบาดเจ็บไม่หลั่งน้ำตา)
ไอ้ เตอ ลู่ ซั่ง ปู้ ไผหวย”(บนเส้นทางแห่งรักไม่รวนเร)
กรกมลร้องเพลง จีน ชื่อ เธอน่าจะรู้ว่าฉันรักใคร คลอตามหนังฉาก สำคัญ ที่พระเอกกับนางเอก กำลังแยกทางกัน ท่ามกลางหิมะ สุดยอด ของ วิว โคตรสวยเลย ธารนธี ไม่เข้าใจกับผู้หญิงเลย เดี่ยวร้องไห้ เดี่ยวหัวเราะ ท่าทางกรกมลเริ่มจะบ้า
“คุณเคยรักฉันบ้างไหมคะ เคนนี่ “ ชิงเฉิง ถาม เคนนี่ ด้วยใบหน้าที่นองน้ำตา (คุณเคยรักฉันบ้างไหมอาโป )
“ที่ผมแสดงออกมาทั้งหมดมัน ยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่าผมรักคุณเลยหรือ “ เคนนี่ถาม
“ไม่ “ เสียงชิงเฉิงกรีดร้อง ใบหน้า นองด้วยน้ำตา
“คุณ จะให้ผมทำอย่างไร ถึงคุณจะเชื่อ ว่า ผมรักคุณ ดาว “ ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่ชื่อชิงเฉิง ที่ภาษาไทยแปลว่าดวงดาว ใบหน้าหล่อเหลาเจ็บปวด ที่หญิงสาวคนรักไม่เชื่อว่าเขารัก แมะ แมะ ทำไมมันเศร้าแบบนี้นะ วะ
“ฉันไม่เหมาะสมกับคุณ หรอกคะ เคนนี่ “ ทุกทีสินะคำพูดนี่(ทำอย่างกับตัวเองไม่เคยพูดงั้นละกรกมล)
“เพราะอะไร ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้ บอกผมสิ” น้ำเน่ามาก เพราะคุณดีเกิน ไป ทำไมมันเหมือนที่เธอเคยพูดจังเลยวะ ทำไมยิ่งดูยิ่งเหมือนตัวเองแบบนี้นะ ชิงเฉิงหนีเคนนี่ไป ประเทศอังกฤษ เพราะเข้าใจผิด มายก็อต เคนนี่ก็ตาม ทำไมธารนธีไม่ตามเธอไปแบบนี้บ้างนะ
“มัน ไม่ผิดใช่ไหม ที่ ผมจะรักคุณ ดาว “
“คุณรัก ฉัน เพราะอะไร คะ เคนนี่ ฉันแค่เป็น แค่ ผู้หญิงจนๆคนหนึ่ง” โกหก ได้อย่างหน้าด้านๆ นะยะ หล่อนนะลูกสาว ประธานบริษัทโฆษณาไม่ใช่หรือ กรกมลคิด ก่อนหยิบแตงโมมาทาน ทำเป็นลองใจพระเอก ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนตัวเอง(พนักงานร้านกาแฟกับหนุ่มสถาปนิก)
“นี่ก็อีกคน เป็นนักแสดง ซุปเปอร์สตาร์คนดัง แต่บอกว่า เป็นแค่นักท่องเที่ยว ธรรมดาๆ พอๆกันทั้งคู่ๆเลย “ กรกมลนั่งบนพึมพำคนเดียว ต้าย ฉากนี่ ทำไม มันสุดยอดแบบนี้ รับไม่ได้ เขิน
กรกมลหันไปมองธารนธีที่นอนหลับ อยู่บนพื้น จานแตงโมกับขนม ถูก หญิงสาวผลักไปไกลตัว ก่อนจะคลานดุกดิก ชะโงกหน้า ไปมอง ใบหน้าชายหนุ่ม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อน่าจูบ เอ เขามีแต่ผู้ชายขโมยจูบผู้หญิงไม่ใช่หรือ แต่ว่าชิงเฉิงจูบเคนนี่ตอนหลับไม่เห็นจะเป็นไร(นั่นมันหนังนะยะยายกุ้งนาง)
“แต่ว่า เขาจูบกันแบบไหนละ” หญิงสาวนั่งคิด เกิดมาไม่เคยจูบใครสักคน อีตาธารนธีนี่ละคนแรก หอมแก้มพอทน แต่จูบคงไม่ไหว
“จะทำอะไรที่รัก “ มือใหญ่คว้าเอวหญิงสาวไว้
“ว้าย “ กรกมลหัวทิ่ม ลงบนแผงอกกว้าง
“จะขโมยจูบผมเหลอ” เขาถามเสียงหวาน แขนทั้งสองข้างโอบกอดร่างบางไว้แน่น
“บ้าหรือเปล่าคุณ” กรกมลโวยวายลั่น
“เด็กเลี้ยงแกะ จะลักหลับผมเหลอ “ เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะ
“ใส่ความฉันนะ ปล่อยอย่ามากอดนะ “ กรกมลดิ้นขลุกขลัก ธารนธี
พลิกตัว ทาบร่างบอบบางที่อยู่ด้านล่าง มือใหญ่ช้อนศีรษะหญิงสาวไว้ไม่ให้สัมผัสพื้น จมูกโด่งชนกับจมูกกรกมล ริมฝีปากบางเฉียดกันนิดเดียว
“จะเล่นบท ชิงเฉิง ขโมยจูบพระเอกหรือครับ” เขาถาม ตาระยิบยับมองอย่างรู้ทัน
“จะบ้าหรือคุณ ลุกออกจากตัวฉันได้แล้วมันหนัก “ กรกมลโวยวาย ไม่น่าหาเรื่องเลย เรื่องปากกับใจไม่ตรงกันนี่นะ เธอนะถนัดมากๆๆ
“ไม่ลุก “ จมูกโด่งซุกลงบนซอกคอขาว ก่อนจะเม้มเบาๆ กรกมลขนลุกซู่ ตายละ อย่าบอกนะ ธารนธีจะจุดจุด จุด ไม่ยอม
“อาโปคุณจะทำอะไร ว้าย คุณ อย่ามาถอดเสื้อฉันนะ”กรกมลร้องลั่น เมื่อมือชายหนุ่มเริ่มซุกซนแถวสาบเสื้อ
“ก็พิสูจน์งัยว่า ผมแก่หรือเปล่า” เขาหัวเราะ
“ว้าย คุณ จะบ้า หรือ ไม่นะฉันไม่ยอม นะ “ เธอแค่จะขโมยจูบเขาเองนะ ไม่ใช่ให้เขามาปล้ำเธอ
“ไม่ยอม ก็ต้องยอม ผมไม่ปล่อยคุณหรอกนะคืนนี้ “ เขาหัวเราะ
“ไม่ได้ นะคุณจะ ผ่าไฟแดงไม่ได้นะ “ กรกมลร้องลั่น
“อะไรนะ” ชายหนุ่ม ถาม อย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะลุกออกจากตัวหญิงสาว ที่ทำหน้า ปวดเมื่อย
“ปวดท้อง สงสัยจะมา “
“อะไรมา “ เขาถามมึนงง
“ประจำเดือน” กรกมลบอกเสียงดัง ธารนธีกลอกตา ให้มันได้อย่างนี้สิ ทำไมมาต้องมาตอนนี้ด้วยนะ ชายหนุ่มคิด กำลังจะจุดจุดจุดกันแล้วเชียว
“เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มถาม ถือ ถ้วยโกโก้ ที่ชงมายื่นให้ ก่อนจะนั่งลงบนเตียง
“ปวดท้อง นะคะ” กรกมลตอบเสียงเพลีย
“ปวดมากไหมครับ ต้องทานยาไหม เดี่ยวผมไปหยิบมาให้” เขาถาม
“ไม่เป็นไรคะ ขอบคุณคะ โฮ้ย “ กรกมลลุกนั่ง โดยมีชายหนุ่มช่วยพยุงร่างบอบบาง ให้นั่ง
“ผมชงโกโก้ มาให้ ดื่มซะกำลังอุ่น” เขาบอก
“ขอบคุณคะ “ หญิงสาวรับถ้วยโกโก้มาดื่ม ทำไมมันปวดแบบนี้นะ สองหนุ่มสาวนั่งมองหน้ากัน กรกมลอายหน้าแดงเมื่อ ชายหนุ่มมองมาอย่างห่วงใย
“ปวดมากเลยหรือครับ” หน้าตาของกรกมลดูไม่ดีเลย
“ก็นิดหน่อยนะคะ “
“ไปหาหมอไหมครับ เดี๋ยวผมพาไป”
“ไม่ต้องหรอกคะ ไม่เป็นไร มาก แค่นอนไม่หลับนิดหน่อย โฮ้ย “ กรกมลร้อง เอวเคล็ดไม่พอยังมาปวดท้องโรคผู้หญิงอีกหมดสภาพเลยนางเอก ให้ตายเถอะ
“ถ้างั้นเดี่ยวผมเล่านิทานให้ฟัง “
“เรื่องอะไรละคะ “ กรกมลตาแป๋ว มองหน้าชายหนุ่ม
“เรื่องอะไรดีละ กระต่ายกับเต่าดีไหม” เขาถาม พลางลูบ ศีรษะ เธอเบาๆๆ
“ไม่เอา” กรกมลทำแก้มป่อง
“เจ้าหญิงนิทรา” เขาถามต่อ
“โน ไม่ฟัง “ หญิงสาวกอดอก สะบัดหน้าหนี
“เจ้าหญิงเงือกน้อย” เขาถาม
“ไม่เอา “
“วิวาห์พระสมุทร” ชายหนุ่มถาม นัยน์ตาสีดำ ระยิบระยับทอดมองมา ยังคนตัวเล็ก
“ดีเลยอยากฟัง “ กรกมลบอกก่อนจะลุกนั่ง ธารนธีดึงร่างบอบบางมากอดแนบอก หญิงสาวซบหน้าลงกับไหล่ชายหนุ่ม ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเตรียมตัวฟังนิทานก่อนนอน ส่วน ตุ๊กตาหมีถูก เขาจับโยนทิ้งลงข้างเตียง(เกะกะ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนซื้อให้ หมดหน้าที่ของแก แล้ว ไอ้กีต้าร์ ชิ่ว ชิ่ว )
“ถ้าแม้นพี่เลือกได้ดังใจพี่ จะไปพ้นที่นี้นั้นหาไม่
จะยืนชมขวัญตาผู้ยาใจ กว่าจะได้สวมกอดแม่ยอดรัก
ถ้าแม้นไม่เกรงใจบิดาเจ้า จะลักองค์นงเยาว์จากตำหนัก
นี่หากเกรงโฉมฉายจะขายพักตร์ จึงจำหักใจคอยดูถ้อยทีฯ”
ตับวิวาห์พระสมุทร เพลงแขกส่าหร่าย กรกมลคิด น้ำเสียงทุ้มห้าวเอ่ยเอื้อนได้ไพเราะอ่อนหวาน เจ้าชายอังเดร หญิงสาวโอบกอดร่างชายหนุ่มไม่ผิดใช่ไหม ที่เธอจะรักผู้ชายคนนี้ นะ
“ในประเทศกรีกสมัย โบราณ มีเกาะ แห่งหนึ่งชื่อว่า อัลฟาเบต้า กษัตริย์มิดัส ผู้ครองเกาะ อัลฟาเบต้า มีพระราชธิดาโฉมงาม ชื่อ เจ้าหญิง อันโดเมดา “
“อันโดเมดา ชื่อ คล้ายตำนานกรีก ที่เทพจูปิเตอร์เอานาง อันโดเมดา ไปเป็นเครื่องสังเวยเลยนะคะ” กรกมลถาม เพราะเคยได้อ่าน ตำนานเทพของเขาโอลัมบัส
“คงจะใช่ ชาวเกาะทุกคนเกรงกลัวในอำนาจแห่งพระสมุทร และเชื่อว่า เมื่อครบทุก ร้อยๆๆปี จะต้องส่งสาว พรหมจารี ไปเป็นเจ้าสาวของพระสมุทร หรือทำพิธีบูชายัญ ต่อเทพแห่งท้องทะเล ที่เรียกว่า วิวาห์ พระสมุทร “
“จบแล้ว หรือ คะ กำลังสนุกอยู่เลย “ กรกมล แกล้งถาม ชายหนุ่ม อมยิ้ม ก่อนจะเล่าต่อ
“พวกเขาจะจับ หญิงสาว พรหมจรรย์ไปมัดเชือกทิ้งไว้ ที่ ทะเล ให้คลื่น พัดลงไปในทะเล พอรุ่งขึ้น เมื่อหญิงสาวนั้นหาย ชาวเมืองก็บอกว่า หญิงสาวคนนั้น ได้วิวาห์กับพระสมุทร”
“ทำไมโหดร้ายจังเลยนะคะน่า สงสารหญิงสาวเหล่านั้นจังเลย จบแล้วหรือ ไม่เห็นมีพระเอกเลย เห็นมีแต่ นางเอก เจ้าหญิงอันโดเมดา”
“ก็พระเอกอยู่นี่งัยครับ นอนกอดคุณอยู่งัย” ธารนธียิ้มหวาน ก่อนจะแกล้งกอด เจ้าหญิงอันโดเมดา แน่น
“อาโป คุณ อย่า ได้คิด ฝ่าฝืนกฎจราจรนะ “ กรกมลร้องห้ามลั่น เมื่อ จมูกโด่ง แตะลง บนเนินเนื้อนุ่ม ธารนธีหัวเราะอยู่ในใจ กรกมลเอย ถ้าเขา จะทำอะไร เธอจริงๆๆละก็ เขาไม่ปล่อยให้มานอนแมะ แบบนี้หรอกนะ แต่ที่เขาไม่ทำ เพราะเขารักเธอต่างหากละ
“เจ้าหญิงอันโดเมดานั้นมีคนรัก ชื่อ อาโป เอ้ย ไม่ใช่ เจ้าชายอังเดร ซึ่งเป็นคนยากจน เพราะพระบิดา เอาทรัพย์สินไปลงทุนแล้วขาดทุนหมด กษัตริย์มิดัสพระบิดาไม่อยากได้เจ้าชาย อังเดรมาเป็น ลูกเขย เพราะรังเกียจว่าจน
“อันโดรเมดาสุดาสวรรค์ ยิ่งกว่าชีวันเสน่หา
ขอเชิญสาวสวรรค์ขวัญฟ้า เปิดวิมานมองมาให้ชื่นใจ
ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์ ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ยิ่งมืดใหญ่
ถึงราตรีมีจันทร์อันอำไพ ไม่เห็นโฉมประโลมใจยิ่งมืดมน
อ้าดวงสุริย์ศรีของพี่เอย ขอจงเผยหน้าต่างนางอีกหน
ขอเชิญจันทร์ส่องสว่างกลางสกล เยี่ยมมาให้พี่ยลเยือกอุรา ฯ”
ธารนธีพูดเป็นกลอนของ คลื่น กระทบฝั่งของตับวิวาห์พระสมุทร นัยน์ตาสีดำขลับทอดมองมาอ่อนหวาน กรกมลเห็นแล้วหัวใจเต้นระรัว มือเรียวเล็ก ขยุ้มคอเสื้อชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม เปล่งประกายราวกับดวงดาวนับล้าน ที่สุกสกาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ธารนธีอดไม่ได้ต้องฉวยมือ เธอไว้ก่อนจะจุมพิตหลังมือน้อยเบาๆ
กรกมลยิ่งอายหน้าแดง เมื่อ ธารนธีกอดเธอเข้ามาแนบกาย หญิงสาวหลับตาพริ้มรับความอบอุ่นที่โหยหา นึกอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ เวลาที่เขาและเธอจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป
“ได้ยินคำสำเนียงเสียงเสนาะ แสนไพเราะรสรักเป็นหนักหนา
เหมือนยินเสียงหงส์ทองที่ฟ่องฟ้า กล่อมสุนทรวอนว่าน่ายินดี
ถึงแม้ว่าจะสนิทนิทรา ก็ผวาเมื่อสดับศัพท์เสียงพี่
ถึงดิฉันร้อนรุมกลุ้มฤดี เสียงเหมือนทิพย์วารีมาประพรม
แต่โอ้ว่าอนิจจาได้กินหวาน มิช้านานต้องกลืนทั้งขื่นขม
พอพี่ไปใจน้องต้องระทม ยิ่งมาชมก็ยิ่งช้ำระกำใจฯ”
“หลับฝันดี เจ้าหญิงของผม “ ธารนธี ก้มลง จูบ หน้าผากมน เบาๆของหญิงสาว ที่นอน หลับ อยู่บน เตียง ก่อนจะเดินไปปิดไฟ และก้าวออกจากห้อง อย่างเงียบๆ




ณัฏฐกมล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 21:07:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 21:07:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1621





<< นิยามของคำว่ารักของอาโป   บ้านสวนดอกเหมย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account