เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 5

ตอนใหม่มาแล้วค่ะ เชิญอ่านด้เลยค่า

ขอบคุณทุกคอมเนท์ ทุกคนที่เข้ามาอ่านและกดไลค์เป็นกำลังใจนะคะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

บทที่ 5


พนาดรวิ่งมาทางศรินดาอย่างหน้าตาตื่นเมื่อน้องสาวต่างสายเลือดโทรศัพท์ไปบอกพี่ชายว่าตอนนี้บิดาของชายหนุ่มหมดสติจนต้องพาส่งโรงพยาบาล พอดิบพอดีกับที่พนาดรเองก็อยู่ที่โรงพยาบาลเช่นกันเพราะต้องมาส่งสลิลธาร

“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างริน” พนาดรถามน้องสาวอย่างร้อนรน รินส่ายหน้าน้ำตาคลอเต็มดวงตา

“หมอยังไม่ออกมาเลยค่ะพี่ต้น”

“คุณพ่อเป็นอะไรไปครับน้าริสา” เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากน้องสาวพนาดรจึงหันมาถามมารดาของศรินดาแทน

“คุณธฤตเป็นโรคหัวใจค่ะ” ศิรสาตอบเสียงเบา

“เรื่องนั้นผมทราบครับ แต่ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณพ่อถึงหมดสติไป” ชายหนุ่มถามเสียงเข้มจนผู้มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงอึกอักไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร

“คุณธฤต...มีเรื่องนิดหน่อยกับ...คุณดลค่ะ” มารดาเลี้ยงตอบเสียงเบา และยิ่งเบากว่าเดิมเมื่อเอ่ยชื่อของคนที่เป็นสาเหตุทำให้พ่อเลี้ยงธฤตหมดสติ

พนาดรเลื่อนสายตาคู่คมก็เบี่ยงไปยังน้องชายที่นั่งนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน

“มีเรื่องอะไรกับพ่อ” ก่อนจะถามน้องชายเสียงเรียบ หากแฝงไปด้วยความโกรธอย่างมาก

“พี่ถามว่าแกมีเรื่องอะไรกับพ่อ!” เมื่อน้องชายไม่บอมตอบคำถาม คนที่มักจะเก็บอารมณ์ความโกรธได้ดีจึงระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ หากธนาดลกลับเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายนิดหนึ่งก่อนจะก้มลงกลับไปมองที่พื้นตามเดิมโดยไม่แม้จะพูดอะไรออกมาสักคำเดียว

“ดล!” มือหนากระชากคอเสื้อน้องชาย ส่วนอีกมือเงื้อขึ้นหมายต่อยไปที่หน้าขาวๆของน้องหนักๆสักที แต่ก็ต้องชะงักค้าง เมือเห็นแผลบริเวณมุมปากของน้องชายที่แตกและเลือดไหลซิบๆ

“ต่อยสิพี่ต้น ต่อยผมอีกคน หลายๆหมัดก็ได้ ต่อยสิ ต่อยเลย!” ธนาดลท้าพี่ชาย ทั้งน้ำเสียงและสายตาเหยือกเย็น หนาวเหน็บ ทว่าภายในจิตในนั้น...หนาวยิ่งกว่า

หมัดของพนาดรเปลี่ยนทิศทางจากใบหน้าของน้องชายมาเป็นผนังกำแพงสีขาวของโรงพยาบาลแทน

“โธ่เว้ย!!” ชายหนุ่มต่อยเข้ากับผนังเต็มแรง มันอะไรกันนักหนาวะ!!

“พี่ต้น!” รินเข้ามาดึงมือข้างนั้นของพนาดรไว้มั่นเพราะกลัวใจพี่ชายจะต่อยเข้ากับผนังอีกรอบ

“พี่ต้นอย่าทำแบบนี้สิ คุณพ่อต้องไม่เป็นอะไร พี่ต้นอย่าทำแบบนี้เลยนะ” รินกึ่งห้ามกึ่งขอร้องพี่ชายเสียงสั่นเพราะต้องกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหล

“ริน!” สลิลธารวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสาวทันทีเมื่อจัดการกับงานของตัวเองเสร็จ “คุณลุงเป็นไงบ้าง”

“หมอยังไม่ออกมาเลย” รินตอบเพื่อนสาว แล้วสายตาก็เลื่อนมามองคนข้างตัวหมอน้ำที่ใส่ชุดกาวน์สีขาวสะอาด รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาออกแนวตี๊ๆแบบดาราเกาหลีญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของสาววัยรุ่น แว่นสายตากรอบดำทำให้ดูสุขุมสมกับเป็นนายแพทย์และเสริมให้ตาเล็กๆคู่นั้นดูโตขึ้นมานิดหน่อย จมูกโด่งสันกับปากสีแดงจัดนั่นก็ขับกับหน้าขาวๆได้เป็นอย่างดี

“นี่หมอเขต หมอเขตคะ นี่ริน เพื่อนน้ำ” สลิลธารจัดการแนะนำให้ทั้งเพื่อนสนิทและว่าที่คู่หมั้นรู้จักกัน

คุณหมอเขตโค้งหัวให้รินนิดหนึ่งเป็นเชิงทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร "สวัสดีครับ"

“ค่ะ” รินยิ้มให้บางๆเพราะจิตใจยังกังวลอยู่กับอาการป่วยของพ่อเลี้ยงธฤต

“พ่อเลี้ยงธฤตไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณรินอย่างกังวลไปเลย” เมื่อได้ยินคำปลอบใจของคุณหมอเขต ศรินดาก็คลายังวลไปได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด จนประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกและคุณหมอเดินเข้ามาบอกว่าพ่อเลี้ยงธฤตปลอดภัยแล้วนั่นล่ะ เธอถึงโล่งอก ดีใจจนแทบยืนไม่อยู่ ผิดกับลูกชายคนเล็กที่รู้ว่าพ่อตัวเองปลอดภัยแล้ว แทนที่จะอยู่ดูแลกลับปลีกตัวออกไปเสียเฉยๆ รินจึงเข้าไปรั้งแขนผู้ชายคนนั้นไว้ก่อนที่เขาจะเดินออกไปไกล

“นั่นพ่อคุณนะ คุณไม่คิดจะเข้าไปดูท่านบ้างเหรอ”

ธนาดลสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากมือของหญิงสาวอย่างแรง ตาคู่คมมองตรงมาที่ศรินดาอย่างไม่พอใจ

“อย่ามายุ่งกับฉัน” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงรอดไรฟัน

“จะไปไหนดล” พนาดรเดินเข้ามาดักหน้าน้องชายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะเดินออกจากโรงพยาบาล

“เรื่องของผม”

“ดล!” พนาดรตวาดน้องชายอย่างเหลืออด แต่อีกฝ่ายดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

“พ่อไม่สบายอยู่นะ ดลควรจะอยู่ดูพ่อ”

“ผมไม่ใช่หมอ อยู่ไปคงไม่ช่วยอะไร แล้วผมก็ไม่ใช่พวกชอบประจบประแจงดูแลคนป่วยเพื่อหวังสมบัติด้วย" ประโยคหลังชายหนุ่มเผื่อแผ่ความดังเพื่อให้คนเป็นแม่เลี้ยงได้ยินแล้วจึงหันหลังเดินจากไปโยไม่สนใจเสียงของพี่ชายที่ร้องเรียกดังตามหลังมา

พนาดรมองน้องชายอย่างไม่เข้าใจ ระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้านมันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้ถามอะไรเพราะบุรุษพยาบาลเข็นเตียงของบิดาออกมาจากห้องฉุกเฉินก่อนจะพาไปพักที่ห้องพิเศษ

“รินกับคุณน้ากลับไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมเฝ้าคุณพ่อเอง” พนาดรเอ่ยอย่างเอื้ออาทร เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย

“น้าดูแลคุณธฤตเองก็ได้ค่ะ วันนี้คุณต้นมีธุระในเมืองทั้งวันไม่ใช่หรือคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณน้ากลับไปพักเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเปลี่ยนกับผมตอนเช้า” ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆเพื่อยืนยันคำพูด จนแม่เลี้ยงอย่างศิรสาต้องยอมแพ้

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้น้าจะมาแต่เช้านะคะ”

“ครับ”

“รินกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้ามาให้พี่ต้นเปลี่ยนตอนเย็นนะ” น้องสาวอาสาหากพนาดรโบกมือห้าม

“ไม่ต้องหรอก พาแม่เรากลับไปพักผ่อนได้แล้วไป”

รินพยักหน้าหงึกอย่างว่าง่าย ก่อนจะประคองมารดาแม่กลับบ้านโดยรถที่พี่ต้นโทรไปบอกคนงานในไร่ให้ขับมารับ

พนาดรก้าวขาจะเดินไปดูบิดาที่ห้องพักผู้ป่วย หากก็ต้องชะงักค้างเมื่อยังเห็นผู้หญิงอีกคนยังยืนเด่นเป็นสง่าโดยที่ข้างตัวไม่มีผู้ชายที่ใส่ชุดกาวน์อยู่เคียงข้างอย่างตอนแรกที่เขาเห็น

“ทำไมไม่กลับไปพร้อมกับริน” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม จนสลิลธารนึกหงุดหงิดขึ้นมา เพราะเธออุตส่าห์หวังดีอยู่เป็นเพื่อน จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี

“น้ำจะอยู่ดูคุณลุงอีกเดี๋ยว”

“ไม่ต้อง” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงห้วนและสั้น

คุณหมอสาวหน้าเสียไปนิดเมื่อเจอคำตอบที่แสนจะตีรวนนั่น คิ้วเรียวขมวดชิด

“พี่ต้นโกรธใครก็อย่ามารวนกับน้ำสิ น้ำอุตส่าห์หวังดีอยู่เป็นเพื่อนพี่ต้นนะ” หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง

“ถ้าน้ำฝืนใจทำ ไม่ต้องทำก็ได้นะ” พนาดรรู้ตัวดีว่าตอนนี้เขาเองเริ่มจะมีนิสีย ‘แขวะ’ คนอื่นอย่างไร้เหตุผล รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ทั้งนั้น แต่พอเห็นเวลาสิขเรศยืนเคียงข้างกับสลิลธารแล้วมันหงุดหงิดอย่างไรบอกไม่ถูก...หงุดหงิดมากจริงๆ

“พี่ต้นอย่ามาหาเรื่องน้ำนะ!”

“พี่ไม่ได้หาเรื่อง”

“หาสิ พี่ต้นกำลังหาเร่องทะเลาะกับน้ำอย่างไร้เหตุผลอยู่ไง”

“พี่อยากอยู่คนเดียว” ชายหนุ่มตัดบทง่ายๆ

“ไล่น้ำเหรอ?” หญิงาวถามเสียงพร่า

“จะว่างั้นก็ได้” พูดจบร่างสูงก็เดินจากไปโดยทิ้งหญิงสาวให้อยู่ข้างหลัง สลิลธารมองแผ่นหลังกว้างอย่างเจ็บปวดลึกในหัวใจ มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทนหาพี่ชาย ก็เขาออกมาไล่แล้ว จะกลับไปอยู่บ้านเขาทำไมให้เขาหักหาญน้ำใจอีก

"เฮียเต้ โทรบอกเจ้หลินด้วยว่าน้ำขอเปิดห้องสวีทห้องนึง ทำไมเหรอ...ช่างเหอะเฮีย บอกเจ้ด้วยนะ น้ำจะไปอยู่เย็นนี้เลย อือ...อยู่จนกว่าจะย้ายมาทำงานที่นี่น่ะแหละ ขอบคุณนะเฮีย บอกป๊ากะม้าด้วยว่าน้ำคิดถึง แล้วน้ำจะโทรหาเฮียนะ" คุณหมอสาวสวยกดตัดสายสายโทรศัพท์เมื่อจัดการสิ่งที่ต้องทำเรียบร้อยก่อนที่ขาเรียวเดินจ้ำอ้าวไปหา ‘ว่าที่คู่หมั้น’

“หมอเขตว่างมั้ยคะ” หญิงเปิดประตูห้องพักของนายแพทย์หนุ่มโดยไม่ได้เคาะประตูจนทำให้เจ้าของห้องผงะเล็กๆด้วยความตกใจ

“ไปส่งน้ำที่ไร่ของพ่อเลี้ยงธฤตหน่อยได้ไหม” คุณหมอเขตยิ้มๆกับอารมณ์กระฟัดกระเฟียดของหญิงสาว

“ยิ้มอะไรคะ” คุณหมอน้ำเริ่มพาลไปทั่ว

“โกรธใครมาครับ”

“หน้าน้ำบอกชัดขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หญิงสาวไม่ตอบแต่ถามชายหนุ่มกลับ คุณหมอเขตพยักหน้าน้อยๆ

“ก็คิ้วขมวดชิด ปากเม้ม หน้าเชิดๆ ก็พอดูออกครับ” เขาตอบแบบยิ้มๆตามเดิม ก่อนจะพูดต่อ “น้ำดูง่ายจะตายไป”

สลิลธารเผลอส่งค้อนให้คุณหมอหนุ่มไปหนึ่งวง “แล้วจะไปส่งน้ำมั้ยคะ” หญิงสาวถามย้ำเมื่อเห็นว่าคุณหมอเขตยังไม่ยอมลุกจากเก้าอี้

“ขอเวลาสารถีคนนี้สิบนาทีนะครับ” คุณหมอยังคงมีรอยยิ้มประทับอยู่ที่ใบหน้าตามเดิมจนสลิลธารอดที่จะคิดเล่นๆไม่ได้

...น่าจะได้รางวัลนายแพทย์มิตรภาพนะ...หมอเขตเนี่ย ยิ้มได้ตลอดเวลาจริง...











ศรินดาพามารดาขึ้นไปนอนพักผ่อนที่ห้องเรียบร้อยแล้วจึงเดินลงมาชั้นล่างเพื่อถามสาวใช้เกี่ยวกับแขกของคุณดลที่มาพักในบ้านหลังนี้ได้สองสามวัน

“คุณนาฏไปไหนล่ะเอื้อง”

“ออกไปแล้วเจ้า”

“ไปไหน”

“เห็นคุณเขาโทรตามเพื่อนให้มารับน่ะเจ้า” หญิงพยักหน้ารับรู้ ดีจริงผู้หญิงคนนี้ พ่อแฟนตัวเองไม่สบายแท้ๆจะไปเยี่ยมเสียหน่อยไม่มีเลย ศรินดานึกต่อว่าแฟนสาวของธนาดลในใจก่อนจะเดินออกไปนอกบ้านเพื่อดักถามคนงานในไร่ว่า ‘นายน้อย’ ของพวกเขาเข้าไร่หรือเปล่า

“นายปุ้ยจ๊ะ คุณดลเข้าไร่หรือเปล่าจ๊ะ” รินถามคนงานผิวคร้ามเข้มคนหนึ่งที่ที่เพิ่งจะเข้ามาหาลูกหาเมียที่บ้านพักซึ่งอยู่แถบเดียวกับบ้านใหญ่ ก่อนที่จะออกไปทำงานอีกครั้ง

“ไม่เห็นครับคุณริน”

“ขอบใจจ้ะ” รินยิ้มให้คนงานอย่างเป็นมิตร อยากจะให้ธนาดลหายไปจริงๆไม่ต้องกลับมาอีกเลยยิ่งดี!

หญิงสาวร่างบางกำลังจะหมุนตัวเข้าบ้านแต่ก็ต้องละขาไว้เมื่อเห็นแลนด์โลเวอร์สีดำมุ่งตรงมาที่บ้านหลังใหญ่ คนที่ก้าวลงมาคือเพื่อนสาวคนสนิท และคงไม่ต้องเดาว่าใครคือคนขับถ้าไม่พ้นคุณหมอเขตสุดหล่อคนนั้น

“สวัสดีค่ะคุณหมอ” รินทักคุณหมอเขตอีกครั้งหากต่างสถานที่

“สวัสดีครับคุณริน” แล้วคุณหมอเขตทักกลับอย่างเป็นมิตรเหมือนเคย

“ฝากดูแลหมอเขตหน่อยนะริน น้ำขอทำธุระเดี๋ยว” พูดจบสลิลธารก็วิ่งเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เพื่อนสาวยืนคว้างอยู่กับคุณหมอหนุ่ม

“เข้าบ้านก่อนนะคะ” รินผายมือเชิญคุณหมอเข้าบ้าน

“ครับ”

แล้วธุระของสลิลธารก็เล่นเอาศรินดาถึงกับตาค้าง นี่เพื่อนเธอจะหอบผ้าหอบผ่อนไปไหน!

“จะไปไหนน้ำ” รินถามเมื่อรวบรวมสติที่แตกกระจายกลับมา

“โรงแรม” หมอน้ำตอบสั้นๆ

“ไปทำไมโรงแรม อยู่ที่นี่ไม่สะดวกหรือไง”

“สะดวกกายแต่ไม่สะดวกใจ มีคนเขาไม่อยากให้อยู่แล้วจะอยู่ทำไม ขอโทษนะริน แล้วฉันจะเข้าเยี่ยมบ่อยๆละกัน ส่วนยัยชินานาฏ ถ้ายัยนั่นทำอะไรแกอีก โทรบอกฉัน” สลิลธารพูดเร็วๆลากกระเป๋าเสื้อผ้าเดินลิ่วออกจากบ้าน รินมองเพื่อนตาค้าง นี่ไอ้น้ำมันเป็นอะไรไป ใครเอารังแตนไปให้มันกินถึงได้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้

“น้ำเขาโกรธใครมาคะ” รินถามผู้ชายอีกคนที่มาส่งสลิลธาร หมอเขตส่ายหัวเบาๆ

“ไม่รู้เหมือนกันครับ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้ว ผมลานะครับ” ตอบคำถามของศรินดาเสร็จ คุณหมอก็บอกลา

“ค่ะ” รินรับคำเบาๆ มองเพื่อนสาวที่จัดแจงเอากระเป๋าใส่รถอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่อาการอย่างนี้ของเพื่อนสาวคงคาดเดาได้ไม่อยากทสาเหตุน่าจะมาจากพี่ชายของเธอ...พนาดร

สิขเรศเหลือบสายตามามองคนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเป็นพักๆ เพราะตั้งแต่ออกจากบ้านของพ่อเลี้ยง ธฤตมา สลิลธารไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลยสักคำ

“จะไปโรงแรมไหนครับ” หมอเขตถามคนที่หน้าบึ้งไม่ยอมพูดยอมจา

“โรงแรม...ค่ะ” สลิลธารบอกชื่อโรงแรมหรูอันดับต้นๆของจังหวัด

“แพงนะนั่น อยู่ตั้งหลายวันไม่ใช่เหรอ” สิขเรศถามกลับ ชายหนุ่มพอจะรู้จักโรงแรมที่หญิงสาวเอ่ยชื่อขึ้นมาบ้าง โรงแรมที่หรูที่สุดและแพงที่สุดในจังหวัด

“ฮื่อ...เจ้าของเป็นลูกพี่ลูกน้องน้ำเอง จ่ายครึ่งราคา หมอเขตไม่ต้องห่วงหรอก” ถึงจะยอมตอบแต่โดยดีหากคิ้วบางก็ยังขมวดชิดอยู่ไม่ยอมคลาย

“กินไอติมมั้ยอารมณ์จะได้ดี” คุณหมอหนุ่มแกล้งยั่ว แล้วก็ได้ผลเมื่ออีกหนึ่งหมอหันมาบอกเสียงขุ่น

“ตลกแล้วค่ะ หนาวๆแบบนี้ใครเขากินไอติมกัน”

“ก็เห็นอารมณ์ไม่ดี คิ้วงี้ขมวดกันเลย คลายๆบ้างก็ได้นะครับ”

“จะพยายามค่ะ” สลิลธารอ้อมแอ้มตอบเพราะรับรู้ได้ถึงกระแสเสียงที่เจือไปด้วยความห่วงใยนั่น ส่วนคุณหมอเขตก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อเพียงแค่หัวเราะหึๆในลำคอแค่นั้น










บรรยากาศยามเย็นของบ้านดูเงียบเชียบชอบกล เพราะมีศรินดานั่งกินข้าวเย็นอยู่คนเดียวเพราะมารดาของหญิงสาวบ่นว่าปวดศีรษะ เธอจึงให้เอื้องขึ้นไปดูแลบนห้อง ส่วนสาวสวยอิมพอร์ตอย่างชินานาฏก็ยังไม่กลับมาตั้งแต่เช้าและไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกหรือเปล่า แล้วอีกคน...ไม่รู้ว่าไปตายที่ไหนแล้ว

ตาย...คิดแล้วก็รู้สึกหวั่นๆไม่ได้

เหตุการณ์ที่เธอเห็นถือว่าเป็นการทะเลาะครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา เพราะไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้ง ผู้ใหญ่อย่างพ่อเลี้ยงธฤตไม่เคยเลยสักครั้งที่จะลงไม้ลงมือกับลูกชาย เพราะด้วยความไม่ค่อยผูกพันเนื่องจาก ธนาดลติดที่จะอยู่กับแม่มากกว่ากับพ่อจึงทำให้พ่อลูกไม่ค่อยได้ใกล้ชิดและสนิทกันอย่างที่ควรจะเป็น หากวันนี้พ่อเลี้ยงธฤตกลับตบหน้าลูกชายอย่างไม่ยั้งมือ จึงไม่แปลกเลยที่คนเป็นลูกชายจะน้อยใจ

แต่คิดแล้วหญิงสาวก็แอบสะใจถึงจะรู้ว่ามันไม่ค่อยควรเท่าไหร่ สะใจที่คนอย่างธนาดลเจออะไรที่เจ็บปวดบ้าง สะใจที่คนอย่างเขาถูกทำร้ายบ้าง สะใจที่เขาก็ยังเจ็บ...อย่างที่เธอเจ็บ แต่มันยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เขารังแกเธอมาตั้งแต่เด็ก เทียบไม่ได้เลย...











ร่างแบบบางด้วยชุดนอนเข้าชุดลายมิ้กกี้เมาท์นั่งลงบนขอบเตียงนุ่มก่นจะเอนตัวลงนอนอย่างเหน็ดเหนื่อย พอแล้วสำหรับวันที่เลวร้ายอย่างวันนี้ ขอให้วันพรุ่งนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด หญิงสาวภาวนา...โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของวันกำลังคืบคลานมาหาเธออย่างเงียบเชียบ...ทว่าอันตราย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอแจ้งข่าวหน่อยค่าาา

เรื่อง 'พื้นที่ชุ่มรัก' ปอแก้วขอติดไว้ก่อนนะคะ ช่วงนี้ยุ่งจริงๆค่ะเลยไม่ได้เขียนเรื่องนั้นต่อเลย อย่างที่บอกค่ะว่าเรื่องคุณดลนั้นเขียนไว้จบแล้ว แต่เรื่องพี่อาร์มปอแก้วเขียนไปโพสไปน่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ แต่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งไปแน่ๆค่ะ ขอเวลาหน่อยน้าาาาาา


ตอบเมนท์กันค่าาาา...

คุณ Amata : เจตนาอย่างเปิดเผยเลยล่ะค่ะ และคุณดลเธอจะทำร้ายรินมากกว่านี้ในตอนต่อไป - -'

คุณ บุรีวาด : เรื่องนี้ยอมรับเลยค่ะว่าพระเอกนิสัยเสียสุดโต่งงงงงง

คุณ WallyValent : อยากจะโหวตออกเหมือนกัน ฮ่าๆ

คุณ ดาวคันชั่ง : ตอนนี้พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ แต่รินจะเป็นแทน ฮ่าๆ ส่วนคู่พี่ต้นกะหมอน้ำ ซึนจริงๆนั้นแหละค่ะ ไม่ยอมรับกันซักที

คุณ anOO : ใช่ค่ะ คุณดลเธอเสียใจมากที่แม่ต้องจากไปอย่างโดดเดี่ยวอย่างนั้น

คุณ nunoi : เป็นคนที่เอาแต่ใจและแก้แค้นผิดๆว่าไหมคะ แต่ตอนนั้นคุณดลเขาเด็กมาค่ะ มันก็เลยฝังใจแค้นแม่ของรินมากก็เลยเอามาลงกับลูก (ตรรกะแปลกๆอีกแล้ว)

คุณ กานตี : ได้เลยจ้า ชอบไม่ชอบยังไงบอกด้วยนะคะ :)

คุณ teesaparn : ตอนต่อไปมาแล้วนะคะ (แต่ก็ยังจบแบบให้คนอ่านลุ้นต่ออยู่ดี แหะๆๆ)

คุณ viengkawe : ซวยจริงแท้แน่นอนเลยค่ะ และจะซวยต่อไปเกือบทั้งเรื่อง (คุณดลโดนเกลียดแน่เลย)



ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2555, 11:55:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 เม.ย. 2555, 11:55:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 2124





<< บทที่ 4   บทที่ 6 >>
tutas 7 เม.ย. 2555, 13:53:09 น.
กรรม จะไม่ได้เจอพี่อาร์มกับพี่อาร์ทไปพักนึงเลยหรอคะ T^T คุณปอแก้วคะ งั้นต้องอัพคุณดลด่วนๆ เลยนะคะ ไม่งั้นตู่จะงอนนะ(แล้วใครจะง้อล่ะเนี้ย??)


ปอแก้ว 7 เม.ย. 2555, 14:37:40 น.
อ่าาาา...อย่าเพิ่งงอนไปค่ะคุณตู่ ไม่หายไปพักใหญ่ค่ะ ขอติดพี่อาร์มพี่อาร์ทไว้อาทิตย์นึงนะค้าาาา เดี๋ยวเดียววววกลับมาแน่ค่ะ เอาคุณดลไปอ่านก่อนน้าาา (จะเอามาลงให้ถี่กว่าเดิมค่ะ :)


บุรีวาด 7 เม.ย. 2555, 15:35:43 น.
สิ่งเลวร้ายอะไรหนอกำลังคืบคลานเข้ามา กำลังจะเริ่มต้นบทแก้แค้นแล้วใช่ไหมคะ แอบสงสารหนูรินแฮะ


ดาวคันชั่ง 7 เม.ย. 2555, 22:07:33 น.
กรี๊ด เปิดตัวหมอเขตอย่างเท่ ฮ่าๆ ทำเอาพี่ต้นพาลใหญ่เลย><

เอาล่ะสิ รินจะโดนอะไรอีกเนี่ย นายดลท่าทางจะแค้นน่าดู ตอนต่อไปมาเร็วๆนะคะ ^^


anOO 8 เม.ย. 2555, 13:05:16 น.
นายดลจะทำอะไรรินอีกล่ะ คิดแต่จะแก้แค้นอย่างเดียวเลยรึไงกัน


nunoi 9 เม.ย. 2555, 11:13:47 น.
นายดลจะทำอะไรกับหนูรินอีกหล่ะเนี๊ยะ ระวังน๊า ยิ่งทำเลวร้ายกับหนูรินเยอะ ยิ่งจะทำให้ตัวเองเจ็บปวดภายหลัง (ขอหนักๆ สำหรับนายดลด้วยค่ะ)^_^


Amata 10 เม.ย. 2555, 09:54:17 น.
นายดลคนนี้เป็นไงนะนิสัยแย่จริง ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account