เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 13

เมทินีเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อเห็นเบอร์เรียกเข้าที่ไม่ได้รับสายเป็นของเพื่อนสนิทกว่าห้าครั้ง หากยังไม่ทันจะได้กดหมายเลขโทรกลับ เพื่อสนิทก็กลับเป็นฝ่ายโทรเข้ามาเอง

“นี่ธุระด่วนหรือจ๊ะ วันนี้วันอาทิตย์นะ...ไม่คิดจะให้เพื่อนพักสมองบ้างหรือไง”

“ฟังเรื่องนี้แล้วอาจจะขอพักหัวใจเพิ่มก็ได้นะ”

“อะไรจะขนาดนั้น” เมทินีถามเสียงกลั้วหัวเราะ “อ้อ...รู้แล้ว บรรณาธิการหนุ่มแอบกิ๊กกับคอลัมนิสต์ในสังกัดใช่ไหม”

“หึ...ถ้ายังงั้นฉันจะไปเป็นสปอนเซอร์นิตยสารคู่แข่ง แย่งยอดขายให้พุ่งเกินล้านเล่มเลยดีไหม”

เมทินีเบ้หน้า เมื่อเพื่อนรักเล่นจะทุบหม้อข้าวแฟนหนุ่มแบบโหดจัดเต็มเสียนี่

“ใจร้าย...แล้วตกลงเรื่องกิ๊กจริงเหรอ”

“นี่...ถ้าเรื่องกิ๊กนะ ฉันไม่โทรมากวนหรอก” พิณสุดาบอกเสียงขุ่น “จัดเอง...จัดเต็ม...จัดหนักได้สบายมาก”

“อ้าว...แล้วเรื่องไรอ่ะ”

พิณสุดาถอนหายใจ

“พี่แพร...พี่แพรรู้เรื่องที่เขาเคยแต่งงานกับพี่มาร์คแล้ว”

“โอ๊ย...ก็ต้องรู้อยู่แล้ว ข่าวออกครึกโครม” เมทินีย้อน “เรื่องเก่ามาเล่าใหม่เนี่ยนะ”

“ไม่ใช่ ตอนเป็นข่าว...พี่แพรไม่เชื่อ เขาหาว่าข่าวมั่ว” พิณสุดาแจง “แต่ตอนนี้เขารู้เรื่องตาหนูแล้ว สายใยแม่ลูกทำให้เขายอมเชื่อและก็เลยอยากเห็นภาพตาหนู”

เมทินีเกาคอเบา ๆ อย่างใช้ความคิด ก่อนจะย้อนถามอย่างเดาใจเพื่อนออก

“แต่พ่อแม่ของเธอเผารูปตาหนูทิ้งหมดแล้ว ก็เลยจะมาขอที่นี่ใช่ไหม”

“นี่ล่ะเพื่อนสนิทของฉัน”

“ตอนนี้ชักไม่อยากสนิทแล้วล่ะ”

“ทำไมอ่ะ”

เมทินีพ่นลมหายใจอย่างเซ็งจัด

“รูปตาหนู...พี่มาร์คเก็บไว้คนเดียว ถ้าจะเอาก็ต้องไปขอพี่มาร์ค”

“ก็ไปขอให้ฉันหน่อยสิ”

“แล้วจะให้บอกว่าไง” คนถามเริ่มหงุดหงิด “บอกว่าพี่แพรอยากเห็นหน้าลูกอย่างนั้นเหรอ”

“มั้ง...”

“เฮ้ย...มั้งได้ไง” เมทินีโวย “หาเรื่องมาให้ก็ต้องช่วยคิดเหตุผลดี ๆ มาให้ด้วยสิ”

“ถ้าคิดออกจะง้อไหม” พิณสุดาย้อน ก่อนจะตอบแบบปัดรำคาญ “อยากบอกอะไรก็บอกไปเถอะ...อะไรก็ได้ที่พี่มาร์คจะให้”

เมทินียกมือกุมขมับเมื่อเพื่อนรักเล่นโยนกลองกันแบบไม่ต้องรำ

“เอ้า...เอาก็เอา ลองดูกันสักตั้ง...เดี๋ยวจะลองคุยกับพี่มาร์คให้”

“คุยอะไรกับพี่”

มหาสมุทรที่เดินเข้ามาหยิบนิตยสารในห้องนั่งเล่นทักทาย เมื่อเห็นน้องสาวนั่งคุยโทรศัพท์หน้าเครียด

“แค่นี้ก่อนนะ...เป้าหมายมาแล้ว”

เมทินีรีบกระซิบบอกเพื่อนรักก่อนจะกดตัดสาย เพื่อเดินหน้ามาอ้อนพี่ชายต่อทันที

“แบบ...แบบว่ามีเรื่องอยากให้พี่มาร์คช่วยนิดหน่อย”

“หึ...สงสัยจะเรื่องใหญ่นะเนี่ย สาวห้าวแสนเก่งถึงอยากขอความช่วยเหลือจากพี่ชายคนนี้” มหาสมุทรแซวเสียงกลั้วหัวเราะ “ว่าแต่เรื่องอะไรล่ะ...เรื่องที่บริษัทหรือเปล่า”

“ไม่ใช่ค่ะ...คือ...เอ่อ...”

“หือ...มีอ้ำอึ้งด้วย เรื่องอะไรน้า...อยากรู้แล้วสิ”

เมทินียกมือขึ้นทัดผมแก้เครียด ขยับเข้าเกาะแขนพี่ชายพลางอ้อนเสียงอ่อน

“ถ้า...ถ้าแมร์อยากจะขอยืมดูอัลบัมรูปของตาหนูชินสักหน่อยได้ไหมคะ”

มหาสมุทรมองหน้าน้องสาวนิ่ง รูปภาพของลูกชายไม่เคยได้รับการพูดถึงมาเกือบสามปีแล้ว ในช่วงแรก ๆ ทุกคนก็ยังคิดถึงยังอยากดูภาพตาหนู แต่หลัง ๆ ก็แทบจะลืมเลือน ไม่เคยพูดถึง หรืออาจเพราะเริ่มทำใจได้จนไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับภาพอดีตของตาหนูอีก คงเหลือเพียงเขาที่ไม่อาจลบความทรงจำเกี่ยวกับลูกชายได้เลย รูปภาพของลูกรักจึงถูกเก็บไว้ในแผ่นซีดีและอัลบัมภาพในห้องนอนของเขาอย่างดี แต่วันนี้น้องสาวกลับมาขอยืมด้วยท่าทางน่าสงสัย

“แปลก...ปกติเธอไม่ค่อยอยากดูรูปหลาน ทำไมคราวนี้ถึงอยากดูล่ะ” มหาสมุทรทัก “จะว่าบริษัทของเราต้องใช้ภาพเด็ก...ก็น่าจะใช้นายแบบตัวน้อยที่ยังหัวเราะได้อยู่ไม่ใช่เหรอ”

“พี่มาร์ค...”

เมทินีครางเรียกพี่ชายเสียงแผ่ว กลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะไปกระตุ้นความเสียใจของพี่ชายขึ้นมาอีก

“ไม่ต้องห่วงพี่หรอก...พี่ทำใจได้มากแล้ว สำหรับพี่...ตาหนูอยู่ในใจเสมอ เพียงแต่เธอต่างหากที่ทำตัวน่าสงสัย”

“คือ...คือว่า...”

เมทินีลังเล ตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเล่าความจริงให้พี่ชายฟังดีไหม

“ว่าอะไร...พี่รอฟังอยู่”

“คือ...พี่...” เมทินีพยักหน้ากับตัวเองเบา ๆ อย่างคนตัดสินใจแล้ว “พี่แพรอยากเห็นภาพตาหนู”

“แพรเนี่ยนะ หมายความว่ายังไง...เกิดอะไรขึ้น”

มหาสมุทรทั้งตกใจและข้องใจ รู้ดีว่าไม่มีทางเลยที่แพรธาราอยากเห็นหน้าลูก

“อย่าบอกพี่ว่าแพรจำทุกอย่างได้แล้ว...มีใครไปพูดอะไรเหรอ”

“เปล่าค่ะ เพียงแต่พี่แพรรู้ความจริงทุกอย่างหมดแล้ว”

เมทินีเฉลย แต่เป็นคำเฉลยที่ทำเอาหัวใจของมหาสมุทรกระตุกอย่างแรง ห่วงใยดอกเตอร์สาวจนแทบนั่งไม่ติด

“ทำไมล่ะ ถ้าจำไม่ได้แล้วจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ต้องมีใครพูดอะไรแน่...แล้วตอนนี้แพรเป็นยังไงบ้าง”

“พี่แพรปกติดีค่ะ” เมทินีรีบอธิบายเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของพี่ชาย “พี่แพรบังเอิญรู้เรื่องมูลนิธิชินภัทรก็มาเลยมาคาดคั้นกับยายพิณ ก็แหม...เวลาพี่แพรดื้อก็ดื้อเหลือร้ายอย่างยายพิณยังเอาไม่อยู่เลย”

“อยากให้ยายพิณมาได้ยินจัง สงสัยคงเถียงจนตัวตาย”

มหาสมุทรแซวด้วยสีหน้าผ่อนคลายลง เมื่อได้ทราบว่าหญิงสาวที่ตัวเองรักยังสบายดี

“แล้วเรื่องรูปล่ะคะ...จะให้ได้มั้ย”

ครั้งนี้น้องสาวจอมห้าวไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย สิ่งที่ทำคืออ้อนขอคำตอบจากพี่ชายเพราะรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับแพรธารามาก

“พี่จะให้...”

“เย้...จริงหรือคะ ดีจังเดี๋ยวแมร์รีบโทรบอกยายพิณเลยนะคะ...ให้มาเอาเย็นนี้เลยนะ”

“ยังฟังไม่จบเลยน้องรัก”

“คะ...”

เมทินีชะงักมือที่กำลังจะกดโทรศัพท์ค้าง เหลียวหน้ามามองพี่ชายอย่างงุนงง

“แพรจะต้องเป็นคนมารับอัลบัมรูปกับมือพี่เอง ที่ร้านอาหารประจำที่พี่เคยพาแพรไป”

“โอ๊ย...พี่แพรยังงอนพี่อยู่เลยนะ ใครจะยอมมา”

“ถ้าไม่...ก็จะไม่ได้รูป และอย่าหวังจะแอบขโมยหรือเล่นแง่เพราะไม่มีทางชนะ”

“ใครเล่นแง่กันแน่”

เมทินีย่นจมูกใส่จอมวางแผนที่รู้ทัน ก่อนจะกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาวอย่างหงุดหงิด



ดวงหน้านวลหันขวับมามองร่างบางข้างกายทันทีที่ได้ยินข้อเสนอสุดบีบคั้นจิตใจ ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตามีประกายขุ่น

“อะไรกัน...เขาจะให้พี่ไปรับภาพจากเขาเองเหรอ”

“อืม...” พิณสุดารับคำเสียงอ่อนเมื่อเห็นตาดุของพี่สาว “ถ้าพี่แพรไม่ไปก็คงไม่ได้รูปแน่ พี่มาร์คบทจะร้ายก็ใช่ย่อย ขนาดยายแมร์ยังไม่กล้าเสี่ยงเลย กลัวว่าถ้าแอบขโมยมาให้จะเป็นเรื่องใหญ่”

“คนร้ายกาจ...”

“เฮอ...แล้วพี่แพรจะเอายังไงล่ะ”

พิณสุดาเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้างอง้ำ ไม่พอใจของพี่สาว

“พิณว่าถ้าลำบากใจก็ลืมเรื่องนี้ไปดีกว่าไหม ถึงเห็นรูปตาหนูก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรนี่คะ มีแต่จะทำให้พี่แพรเจ็บและเสียใจมากขึ้นนะ”

แพรธาราครุ่นคิดเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะตอบรับอย่างไม่ลังเล

“พี่จะไป...ถ้าเขาคิดว่าข้ออ้างนี้จะทำให้พี่ยอมถอย...เขาก็จะได้รู้ว่าเขาคิดผิด”

“แต่ถ้าคุณปู่รู้ล่ะ”

“เรื่องแค่นี้คงไม่เกินฝีมือเธอมั้ง”

พิณสุดาย่นคออย่างไม่ชอบใจที่โดนให้รับภาระหนักแบบไม่ต้องอาสา ตรงข้ามกับแพรธาราที่เฝ้ารอให้ถึงวันนัดหมายเร็ว ๆ ใจอยากเห็นหน้าลูกชายเหลือเกิน และคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้เธอจำทุกอย่างในอดีตได้ แล้วสิ่งที่ควรจะเป็นก็อาจจะถูกที่ถูกทางมากกว่านี้

จุดนัดหมายที่มหาสมุทรระบุคือร้านอาหารประจำที่เขาเคยพาแพรธารามาบ่อย ๆ ชายหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือเห็นว่ามาถึงก่อนเวลาจึงเลือกโต๊ะอาหารมุมสงบเพื่อนั่งคอยพร้อมวางอัลบัมภาพของลูกชายไว้ข้างตัว เพียงครู่สายตาคมก็ปะทะกับร่างบางที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา

“แพรมาตามสัญญาแล้ว ขอรูปของตาหนูด้วยค่ะ”

ดอกเตอร์สาวหยุดยืนข้างโต๊ะ เอ่ยทวงสิ่งที่ตัวเองต้องการทันทีไม่คิดแม้แต่จะทักทายหรือนั่งร่วมโต๊ะกับมหาสมุทรสักนิด

“มาเหนื่อย ๆ นั่งพักสักครู่ดีกว่าไหมครับ”

“แพรไม่ได้มาที่นี่เพื่อนั่งเล่น แพรตั้งใจจะมาเอารูปของตาหนู”

แพรธาราแย้งเสียงหนัก สีหน้าเริ่มเครียดเมื่อไม่เห็นอัลบัมภาพบนโต๊ะ

“แต่สงสัยว่าแพรคงจะถูกหลอกให้มาเก้อ”

“พี่ไม่เคยโกหกหรือแกล้งหลอกใครเล่น”

มหาสมุทรแย้งเสียงนิ่ง พลางหยิบอัลบัมรูปที่วางข้างตัวขึ้นมาแสดงให้หญิงสาวเห็น

“แต่ถ้าแพรอยากได้รูปตาหนู พี่ว่าแพรควรจะนั่งลงก่อน”

“แพรบอกแล้วว่าไม่นั่ง แพรจะรีบไป” แพรธารายืนกราน “แพรแค่มาตามสัญญาว่าจะมารับรูปตาหนูจากพี่เท่านั้น”

“แพรคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ”

หนุ่มหล่อเหยียดยิ้มเล็กน้อย แต่ชวนหมั่นไส้สำหรับคนมองนัก

“แพรจะได้รูปไปก็ต่อเมื่อแพรนั่งลงและทานข้าวกลางวันกับพี่ก่อน”

“นี่...นี่คุณตั้งใจหลอกฉันใช่ไหม” แหวเสียงเครียด “จงใจแกล้งให้ฉันออกมาหาทั้งที่จริงไม่มีรูปตาหนูสักภาพเลย”

มหาสมุทรเปิดอัลบัมภาพเล่มหนาเผยให้เห็นรูปเด็กชายตัวน้อยกำลังยิ้มแป้นบนเก้าอี้โซฟาสีน้ำตาลอ่อน แพรธาราสะอึกอึ้งไปชั่วครู่แต่พอได้สติก็รีบจะแย่งอัลบัมรูป หากมหาสมุทรไวกว่า มือหนาปิดอัลบัมภาพดึงกลับมาวางข้างตัวริมหน้าต่างอย่างรวดเร็ว

“อาหารกลางวันมือนี้แลกกับรูปภาพของตาหนูครับ”

ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาคู่สวยหลับตาลงชั่วครู่อย่างพยายามระงับสติ หัวคิ้วชนกันอย่างครุ่น หากใจที่อยากเห็นหน้าลูกชายมีอำนาจมากกว่า ร่างบางจึงกระแทกตัวลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างจำใจ

“แพรอยากทานอะไรดีครับ”

มหาสมุทรยื่นเมนูอาหารให้หญิงสาวเลือก แต่แพรธาราก็ไม่ยอมยื่นมือไปรับ

“งั้นพี่สั่งให้นะครับ”

มหาสมุทรยิ้มจาง ๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากสาวสวยตรงหน้า ชายหนุ่มหันไปสั่งอาหารกับบริกรหนุ่มที่ยืนคอยอยู่ไม่ไกล

เพียงครู่อาหารกว่าสี่อย่างก็เสิร์ฟพร้อมกัน แพรธารามองทอดมันกุ้งที่มหาสมุทรตักมาให้ด้วยสีหน้านิ่งเฉย เหลือบมองอัลบัมภาพที่ตัวเองอย่างได้มากที่สุดชั่วครู่คล้ายจะย้ำเตือนตัวเอง ก่อนจะยอมร่วมรับประทานอาหารด้วย แต่เป็นมื้อกลางวันที่สุดแสนเงียบเมื่อต่างฝ่ายต่างทำเหมือนสนใจแต่อาหารตรงหน้าโดยไม่มีการพูดคุยกันแม้สักคำ

หากทุกครั้งที่แพรธาราเผลอ ดวงตาคมเข้มมักจะลอบมองดวงหน้านวลอย่างห่วงหา หัวใจตอกย้ำกับตัวเองว่าคนรักอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ไม่อาจสัมผัส ไม่อาจพูดคุยและแบ่งปันความสุขกันได้เหมือนก่อน ความรู้สึกโหยหาและร้าวรานนี้ช่างทรมานเหลือเกิน ชายหนุ่มรำพึงในอกว่าชาติก่อนเขาคงทำบาปหนักคงพรากคนรักกันให้จากกันเป็นแน่ ชีวิตนี้จึงต้องพบรักและพรากจากอย่างไม่มีวันทวงคืน

“แพรทำตามสัญญาแล้ว ขอรูปตาหนูให้แพรด้วยค่ะ”

แพรธาราเอ่ยหลังจากทั้งคู่รับประทานอาหารเสร็จ

“เพราะอะไรครับ...แพรอยากเห็นหน้าตาหนูเพื่ออะไร”

“มันเป็นเรื่องของแพร พี่มาร์คไม่เกี่ยว”

เสียงตอบสะบัดอย่างหงุดหงิด ไม่พอใจที่ชายหนุ่มพยายามยื้อเวลาอยู่ด้วยกันให้นานขึ้น ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ตัวเวลาที่เขาแอบมอง แต่ก็ต้องแกล้งทำเฉยเพราะสายตาคมกล้านั้นช่างแฝงด้วยความรักและความร้าวรานอย่างที่เธอไม่เข้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้คือเธอรู้สึกไม่มั่นคงทุกครั้งที่ใกล้ชิดกัน ยิ่งอยู่ใกล้กันทีไรเธอจะรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด และความรู้สึกแบบนี้เธอไม่ต้องการเลย

“เกี่ยวสิ ตาหนูเป็นลูกพี่” มหาสมุทรเถียง “ลูกของพี่กับผู้หญิงที่พี่รัก”

“อย่าพูดแบบนี้กับแพรอีก แพรไม่อยากฟัง” แพรธาราย้อนเสียงขุ่น “คิดว่าทำแบบนี้แล้วแพรจะยอมเชื่อว่าเราเคยรักเคยแต่งงานกันหรือไงคะ”

“ถ้าแพรไม่เชื่อสักนิด แพรจะอยากเห็นรูปตาหนูทำไมครับ”

“มันเรื่องของแพร หรือต่อให้แพรเชื่อว่าตาหนูเป็นลูกแพรจริง...แพรก็ไม่คิดว่าแพรจะรวมพี่เข้าเป็นส่วนหนึ่งกับเรื่องนี้หรอกนะคะ”

“แพร...”

แพรธารากัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ เมื่อประสานกับสายตาร้าวรานของเขา รู้สึกผิดเมื่อเห็นร่องรอยแห่งความเจ็บปวด เธอไม่ได้คิดจะพูดทำร้ายจิตใจของเขา แต่จะให้ทำอย่างไรเมื่อเธอจำเขาไม่ได้ จำไม่ได้ว่าเคยรักเคยผูกพันกัน จะให้ยอมรับเออออตามทั้งที่หัวใจของเธอไม่รู้สึก เธอคงทำไม่ได้

“แพรขอโทษค่ะ” แพรธาราพึมพำเสียงอ่อน เบนหน้าหนีสายตาเศร้าระคนรัก “แพรแค่อยากเห็นหน้าตาหนูสักครั้ง แต่ถ้าพี่มาร์คไม่...”

“แพรมีสิทธิ์เห็นหน้าตาหนู” มหาสมุทรขัด พลางยื่นอัลบัมรูปให้ผู้หญิงคนเดียวที่เขารัก “ไม่ว่าพี่หรือใครก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามหรอกจ๊ะ แค่ยอมอยู่ทานข้าวกับพี่วันนี้ก็ขอบคุณมากแล้วครับ”

“ขอบคุณนะคะ”

แพรธารายื่นมือไปรับอัลบัมรูปภาพของลูกชายด้วยมือสั่นเล็กน้อยอย่างดีใจที่สุด ก่อนจะรีบสัญญาพร้อมรอยยิ้มสดใส

“ถ้าแพรดูเสร็จแพรจะรีบเอามาคืนพี่นะคะ”

“แพรเก็บไว้เถอะครับถ้าคุณปู่และคุณพ่อคุณแม่ไม่ห้าม” มหาสมุทรอนุญาต “พี่มีรูปลูกอีกหลายเล่ม และถ้าแพรอยากเห็นอีกก็ให้พิณไปเอาที่บ้านของพี่ได้เสมอครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

แพรธารารับคำด้วยความยินดี แต่ก็นึกแปลกใจที่ครั้งหน้าเขาอนุญาตให้พิณสุดาไปเอารูปภาพที่เหลือของลูกชายมาดูได้โดยที่เธอไม่ต้องมาพบและขอรูปภาพด้วยตัวเองอีก ในใจจึงเกิดคำถามว่าเพราะอะไรครั้งนี้เขาจึงอยากพบเธอ หรือเขามีคำถามบางอย่างในใจและวันนี้ก็ได้คำตอบแล้วอย่างนั้นหรือ แต่อย่างหนึ่งที่หญิงสาวรู้ดีแก่ใจคือความรู้สึกเบาโหวงที่ก่อเกิดในหัวใจอย่างประหลาดเมื่อคิดว่าเขาไม่ต้องการพบเธออีกแล้ว


*********************
Sai – แพรจะได้ตามหาความจริงสักสามตอนค่ะ ตอนนี้จะเดินเรื่องช้าหน่อยเพื่อให้แพรได้รับรู้เรื่องราวในอดีตค่ะ

Auuuu – นี่คือคุณหมอในดวงใจค่ะ ทุกอย่างที่พี่มาร์คทำ...พิมดาวชอบค่ะ อิอิ

an00 – กลับมารักกันไหม ต้องบอกว่ารักนี้ไม่ง่ายเลย ต้องฝ่าด่านอรหันต์...คิดว่านะคะ

teesaparn – อย่าเพิ่งโป้งพิมดาวเลยค่ะ ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ สารภาพว่าพรากคนรักให้จากกันไปครั้งหนึ่งแล้ว อีกสักพักจะพรากเขาอีก อย่างที่บอกรักนี้ต้องผ่านด่านค่ะ อิอิ

panon – ตอนนี้น่าสงสาร แต่เดี๋ยวพี่มาร์คจะได้มีวินาทีร่วมกับน้องแพรอีกสักนิด หัวใจก็พอชุ่มชื่นนะคะ


*********************



พิมดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2555, 22:43:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 เม.ย. 2555, 22:43:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1412





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
sai 7 เม.ย. 2555, 23:14:25 น.
อ่านตอนนี้แล้วแอบโหวงๆในใจจังอ่ะ รู้สึกปวดใจไปกับพี่มาร์คยังไงไม่รู้สิT^T


panon 8 เม.ย. 2555, 11:18:33 น.
โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆสงสารพี่มาร์คอ่ะสงสารๆๆๆๆๆๆ


ใบบัวน่ารัก 8 เม.ย. 2555, 13:19:08 น.
ตาหนูเป็นไรตาย
จากไปตอนกี่ขวบคะ


anOO 8 เม.ย. 2555, 14:03:07 น.
แพรแค่อยากเห็นหน้าลูก ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับพ่อของลูก
พี่มาร์คก็อดทนรอหน่อยแล้วกัน


Auuuu 8 เม.ย. 2555, 19:23:42 น.
:( เศร้าจัง


teesaparn 10 เม.ย. 2555, 11:45:13 น.
เริ่มจะโป้งคนเขียนแห๋มคน ซอบทรมานหัวใจ๋เหลือเกิน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account