ทรัพย์สิดี ชื่อนี้ที่ผมรัก (รีไรท์)
เป็นเรื่องเก่าที่เคยลงที่นี่แล้ว เมื่อ 3-4 ปีก่อนได้มั้งคะ ตอนนี้เราเอามารีไรท์ใหม่ เพราะต้องการส่งสำนักพิมพ์แบบจริงจัง เพราะตอนนี้เรียนจบแล้ว มีเวลาแล้ว ถ้าคนที่เคยอ่านแล้ว เราก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ลงซ้ำซาก แต่ถ้าช่วยอ่านตอนรีไรท์ใหม่อีกครั้ง และลงคำติชมไว้ เพื่อแก้ไข้ก่อนส่งสำนักพิมพ์ เราก็ยินดีและขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับใครที่ไม่เคยอ่าน ก็รบกวนลงคำติชมไว้เพื่อการปรับปรุงได้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เรื่องย่อ...

พนักงานสาวออฟฟิศที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งานใหม่ ปรากฏว่าชนชายคนหนึ่ง ล้มลงที่สถานีรถไฟฟ้า หล่อนโวยวายและทุบตีเขา แต่ที่ไหนได้ ปรากฏว่าเขานั่นแหละคือประธานบริษัทที่หล่อนจะไปสมัครงาน!!!
Tags: Romantic comedy

ตอน: งานใหญ่

ตอนที่ 13

หลังจากฉันกลับมาทำงานได้ครบอาทิตย์ก็ถึงวันเกิดของคุณนรินทร์พอดี ทั่วทั้งบริษัทดูคึกคักกันมาก ฉันก็พึ่งรู้นี่แหละว่างานวันเกิดของคุณนรินทร์ยิ่งใหญ่เหลือเกิน จะมีนักธุรกิจมากมายทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ที่สำคัญพวกพนักงานสาวของบริษัทนราธรดีใจที่สุดก็เพราะจะได้เหล่นักธุรกิจหนุ่มๆพวกนั้นด้วยน่ะสิ

“ไร้สาระ คุณแม่ผมจัดการเองทั้งนั้น จะได้จับคู่ผมกับพวกลูกสาวประธานบริษัทด้วยไงล่ะ” คุณนรินทร์พูดกับฉันอย่างหัวเสีย ขณะฉันเข้าไปถามว่า ฉันต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

ฉันก็นึกอยู่แล้วเชียว แต่ฉันว่าน่าสนุกดีออก เพราะดูจะเป็นงานยิ่งใหญ่ที่มีของกินเยอะแยะ แหมใครๆเขาก็ตื่นเต้นกับงานประจำปีงานนี้กันทั้งนั้น ดูอย่างนลินยังเที่ยวหาซื้อเสื้อผ้าให้วุ่น ฉันก็คงไปร่วมงานในฐานะเลขาอยู่แล้ว แต่คงไม่ต้องแต่งอะไรมากนอกจากชุดสูท

“คุณกับผมถือว่าไปเพราะธุรกิจ ฉะนั้นใส่ชุดทำงานไป! แล้วไม่ต้องคุยกับผมเรื่องนี้อีกนะ!” แหมๆ อารมณ์เสียอะไรนักหนา ก็ฉันเป็นคนใหม่สำหรับที่นี่นี่นา แค่ฉันถามนิดเดียวเองว่าต้องใส่ชุดราตรีหรือเปล่า แต่ก็ดีแล้วนะเพราะฉันขี้เกียจแต่งตัว อีกอย่างฉันไม่มีเงินซื้อชุดราตรีแพงๆหรอก

พอฉันเล่าเรื่องงานยิ่งใหญ่ให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่า

“งั้นลูกก็หาโอกาสนี้ เหล่นักธุรกิจหนุ่มบ้างสิจ๊ะ จะได้ไม่ต้องขึ้นคานไง”

โหย แม่คิดได้ยังไง ฉันนึกว่าเรื่องขึ้นคานมันจบไปนานแล้วนะ

“ไม่ล่ะคะแม่ ว่าแต่งานเขียนของแม่ได้ตีพิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วนี่ ดีจังนะคะ” ฉันพูดถึงงาน Master Piece ที่แม่ได้ทำเป็นหนังสือขายดิบขายดี แถมตีพิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วด้วย

แม่ยิ้มแฉ่ง “ใช่จ้ะลูก เดี๋ยวเดือนหน้าทางสำนักพิมพ์เขาจะโอนเงินมาให้แม่แล้วล่ะ แล้วจากนั้นเราไปเที่ยวกันมั้ย”

ว้าว!!!!! จำได้เลยว่าล่าสุดที่แม่ชวนฉันไปเที่ยวคือเมื่อฉันจบ ม.6

“ไปไหนล่ะคะแม่” ฉันพูดน้ำเสียงตื่นเต้น

“แล้วแต่ลูกแล้วกันจ้ะ” แม่น่ารักอย่างนี้เสมอ แต่แล้วฉันก็ทำหน้าเบ้

“เอ่อ แต่หนูก็ไม่รู้ว่าจะขอลางานได้รึเปล่านะคะ” ก็อีตาเจ้านายนั่นจะให้ฉันลาหยุดรึเปล่าเถอะ



งานวันเกิดเจ้านายใกล้เข้ามาทุกที พนักงานสาวหลายๆคนคุยอวดกันเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานวันนั้นกันใหญ่ ฉันกำลังพิมพ์จดหมายเชิญประธานบริษัทต่างๆ ก็พอดีที่นลินเดินเข้ามาคุยด้วย

“นี่สิดี เธอหาซื้อเสื้อผ้าหรือยัง เหลืออีก 3 วันเท่านั้นเองนะ”

“อ๋อ ฉันแค่ใส่ชุดทำงานไปเท่านั้นเองแหละค่ะ คุณนรินทร์บอกให้ฉันไปในเรื่องธุรกิจ” ฉันตอบ

“หวา หมดสนุกกันพอดี แล้วนี่หาซื้อของขวัญให้ท่านรึยัง เธอเป็นเลขาควรจะมีอะไรให้ท่านบ้างนะ อีกอย่างเป็นการขอบคุณที่ท่านรับเธอเข้าทำงานตั้งสองรอบด้วย” นลินพูดเน้นคำว่า ‘สองรอบ’ ชัดเจน

ฉันผงะ นิ้วทั้งสิบค้างอยู่บนแป้นพิมพ์ “ฉันต้องหาซื้อของขวัญด้วยเหรอคะ”

เพราะจากการประมวลแล้วว่า เขาเกลียดการจัดงานวันเกิดนี้ขนาดไหน ฉันเลยคิดว่าเขาคงเกลียดตัวเองด้วยว่าเกิดมาทำไม ฉันจึงตัดสินใจไม่ซื้ออะไรให้เขาเป็นการแสดงความดีใจว่าเขาลืมตาดูโลกในวันนี้เป็นดีที่สุด

นลินกลอกตา “ก็ต้องน่ะสิคะ” แล้วเธอก็เดินจากไป เมื่อเห็นว่าคุณนรินทร์เดินออกมาจากห้องทำงาน

“คุณสิดี วันนี้ผมมีประชุมกี่โมง” เขาทำหน้าเครียดเชียว

“เอ่อ...สักครู่นะคะ” ฉันรีบกุลีกุจอเปิดแฟ้มตารางนัดหมาย

“บ่าย 2 ค่ะ”

แล้วเขาก็พูดเบาๆว่า “ดี” จากนั้นก็หันมาทำหน้าเครียดใส่ฉัน “คุณหยุดพิมพ์งานก่อน แล้วตามผมมา”

เพราะอย่างนั้นฉันเลยต้องเดินตามเขาออกไปจากออฟฟิศ จากนั้นฉันก็ได้นั่งเคียงข้างเขาในเบาะหลังของรถ Lexus

“นี่เราจะไปไหนกันเหรอคะ” ฉันถามอย่างอยากรู้ ก็นี่มันเพิ่ง 10 โมงเช้า และเขาก็ไม่ได้มีนัดกับใครข้างนอกนี่นา

“เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง” เขาตอบห้วนๆ และแสดงสีหน้าไม่พอใจคนทั้งโลกไปตลอดทาง

พอรถมาหยุดที่ห้องเสื้อขนาดใหญ่ ฉันเลยถึงบางอ้อ

“คุณมาตัดเสื้อผ้าเหรอคะ”

เขาทำสีหน้ารำคาญ แล้วลุกออกจากรถไป

พอเราทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน พนักงานสาวสวยขาเรียวยาวรีบเดินเข้ามากุลีกุจอต้อนรับฉันกับคุณนรินทร์กันใหญ่ แล้วอยู่ดีดีนอกจากพวกเธอจะวัดตัวคุณนรินทร์ด้วยแล้ว ยังใช้สายวัดตัวยาวๆวัดรอบอกรอบเอวฉันให้วุ่นไปหมด ฉันร้องโวยวายเรียกร้องให้คุณนรินทร์อธิบายใหญ่

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ หยุดนะพวกเธอ หยุดวัดตัวฉันเดี๋ยวนี้ ฉันบอกให้ยู้ด!!!!......” แล้วเสียงฉันก็หายไปกับอากาศ หลังจากคุณนรินทร์ไม่หันมามองฉันสักนิด และพวกพนักงานสาวสวยก็ดึงตัวฉันเข้าไปหลังร้าน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!!” ฉันแผดเสียงดังลั่นห้องลองเสื้อ จนพนักงานสาวที่กำลังวุ่นวายกับร่างกายของฉันถึงกับหยุด

“เอ่อ...เราก็ไม่ทราบหรอกค่ะ แค่ทำตามคำสั่งให้วัดตัวคุณแล้วจัดหาเสื้อผ้าออกงานราตรีที่เหมาะกับคุณก็เท่านั้น คุณช่วยกรุณาอยู่นิ่งๆก่อนได้ไหมคะ” พนักงานสาวอธิบายให้ฉันฟังด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ

หา!!!!! ออกงานราตรีเรอะ!!!!! งานบ้าบออะไรกัน

แล้วคุณนรินทร์ในชุดสูททักซิโด้ก็เดินเข้ามา

“คุณต้องไปงานวันเกิดกับผมไงล่ะ จำไม่ได้หรือ คราวนี้ก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเสร็จๆไปก่อนได้ไหม ผมมีประชุมตอนบ่าย 2 นะ” เขาพูดเสียงเฉียบ

“อ้าวก็ไหนคุณบอกว่าฉันไม่ต้อง....”

“วัดตัวเธอต่อไปเถอะครับ” คุณนรินทร์ไม่สนใจในสิ่งที่ฉันพูด เขาหันไปสั่งพนักงานสาวคนเดิมอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!!!!!!



หลังจากวัดตัวและหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ต้องเดินตามก้นคุณนรินทร์ออกจากร้าน

“คุณคะ แล้วชุดพวกนั้นน่ะราคาไม่ใช่ถูกเลยนะคะ ก็ไหนคุณบอกว่าเราไปเรื่องธุรกิจ...” ฉันหันไปโวยวายใส่เขา

“มันเป็นคำสั่งของคุณแม่” เขาพูดเสียงนิ่ง ดูท่าทางแม่เขาจะมีอธิพลต่อเขามากมายเหลือเกินนะ โตจนป่านนี้แล้วเนี่ย

“ในเมื่อผมต้องใส่ชุดอย่างนั้น คุณไปกับผมในฐานะเลขา คุณก็ต้องใส่ ‘ชุดอย่างนั้น’ ด้วย เข้าใจไหม ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายน่ะ ผมจัดการเอง” เขาหยุดพูดแล้วมองหน้าฉันที่กำลังบูดบึ้ง...ฉันเกลียด ‘ชุดอย่างนั้น’ มันอึดอัดและคันจะตายไป

“นี่คุณคิดว่าผมเต็มใจแต่งทักซิโด้งั้นเหรอ บางครั้งเราก็ไม่สามารถเอาแต่ใจตัวเองได้ตลอดหรอกนะ” จากนั้นเขาก็เงียบไปตลอดทาง

อืม น่าสงสารเจ้านายฉันจริงๆ ฉันอยากรู้จังว่าถ้าเขาไม่ได้ทำธุรกิจของตัวเองให้ประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ เขาจะมีความหวังอะไรในชีวิตอีกไหมนะ



วันงานใกล้เข้ามาทุกที งานของฉันก็มีมากขึ้นกว่าเดิม ไหนจะต้องคอยพิมพ์จดหมายเชิญแขก ไหนจะต้องต้อนรับแขกจากต่างประเทศและคอยหาที่พักโรงแรมให้คนระดับห้าดาวเหล่านั้น แต่ก็ดีเหมือนกันมันทำให้ฉันฝึกพูดภาษาอังกฤษมากขึ้นหลังจากที่ไม่ได้ขยับมานาน

แหมๆ จะบอกอะไรให้นะ ถึงฉันจะไม่ได้เรียนเก่งอะไร และไม่ได้เรียนตรงทางภาษาแบบแม่ แต่ฉันก็ได้เชื้อความเก่งของแม่มาบ้างล่ะน่า ภาษาอังกฤษของฉันถือว่าใช้ได้ทีเดียวเลยนะ

แต่ปัญหาตอนนี้คือ ฉันยังหาของขวัญให้เจานายไม่ได้เลย!!! ก็ดูเขาจะมีครบทุกอย่างแล้วนี่นา ออกจะรวยปานนั้น เขายังอยากได้อะไรอีเหรอ อีกอย่างฉันไม่มีเงินซื้อของแพงๆให้หรอกนะ...

เฮ้!เดี๋ยวก่อน....

ฉันซื้อรูปภาพให้เขาก็ได้นี่นา!!! ห้องทำงานของเขาขาดความเป็นศิลปะไม่ใช่เรอะ!!

“นั่งยิ้มอะไรอยู่ได้!!! คุณต้องไปรับประธานบริษัทACER แทนผมไม่ใช่เรอะ” เสียงที่น่าฟังน้อยที่สุดในโลก แทรกเข้ามาในโสตประสาท

ฉันออกจากภวังค์ทันที นี่นาย!!! ที่ฉันเพ้ออยู่ก็เพราะคิดเรื่องของขวัญของนายหรอกนะ ชิ!

“ค่ะ” ว่าแล้วฉันก็ต้องก้มหัวงุดๆ เดินผ่านเขาออกไป โถ่เอ๊ย! เขาจะพูดจากับฉันดีดีหน่อยไม่ได้เรอะ!!!

“เดี๋ยว” เขาเรียก

“คุณต้องไปรับชุดกับผมเย็นนี้ด้วยนะ ผมจะรอที่บริษัทจนกว่าคุณจะกลับมาก็แล้วกัน” แล้วคุณนรินทร์ก็เดินหันหลังกลับห้องไปอย่างสง่างาม....แหวะ!



ขออภัยนะคะ เดี๋ยวจะไม่อยู่อีกสองสามวันนะคะ





















ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2555, 23:15:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2555, 23:15:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1861





<< ทานข้าว   เตรียมพร้อม >>
sai 8 เม.ย. 2555, 23:49:29 น.
กลับมาเร็วๆนะค่ะเค้าคิดถึงงงงงงง


konhin 9 เม.ย. 2555, 06:18:51 น.
^__________________^


MYsister 9 เม.ย. 2555, 06:42:34 น.
:-))


Pat 9 เม.ย. 2555, 08:36:31 น.
5555 ^_____^


ม่านฟ้า 9 เม.ย. 2555, 09:48:58 น.
เฮ้ คนเขียนหายไปบ่อยจัง ....ล้อเล่นนะจ๊ะ


Kapoh 9 เม.ย. 2555, 15:23:35 น.
น่ารักๆ


Auuuu 9 เม.ย. 2555, 16:55:10 น.
555555555


wane 9 เม.ย. 2555, 23:23:34 น.
คุณนรินทรจะน่าอยู่ในวัยทองมั้ง รมณ์เสียตลอด ตลอด


ling 11 เม.ย. 2555, 14:35:17 น.
มาเร็วๆนะค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account