เสน่หาในเพลิงแค้น
ความรักของ 'ธนาดล' ผลิบานท่ามกลางความแค้นที่รอวันสะสาง 'ธนาดล' จะทำเช่นไรหากต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้นที่มีตัวแปรชื่อ 'รัตติกาล' เจ้าของหัวใจที่หักห้ามรักร้อนจากเขาคนนั้น เมื่อปฏิเสธความรักอันหอมหวาน หากผลักไสแล้วใจกลับร้าวราน หัวใจดวงนี้ฤาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
Tags: สโนไวท์

ตอน: บทที่ 1

บทที่ 1

แสงแดดเหรอ ไม่ใช่มั้ง

หัวสมองของรัตติกาลแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อนาฬิกาปลุกกรีดเสียงที่หญิงสาวว่าเป็นเสียงสยองขวัญกอปรกับแสงสว่างจ้าแยงตาราวกับแสงจากดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ดวงตากลมปรือขึ้นเล็กน้อย ปรับสายตาให้ชิน แล้วพบว่าเธอลืมปิดไฟนอนนั่นเอง

เสียงกุกกักจากข้างนอกเป็นสัญญาณว่าผู้เป็นมารดาของเธอได้กลับบ้านแล้ว นาฬิกาชีวิตของเธอกับมารดาสวนทางกันทันทีที่บิดาได้แยกทางไป หากเธอไปเรียนแม่เธอกลับถึงบ้าน พอเธอกลับถึงบ้านแม่ก็ไปทำงาน แรกทีเดียวรัตติกาลรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงของชีวิต จากที่เคยร่าเริงก็เก็บตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ ในโลกส่วนตัว เกือบทั้งชีวิตหญิงสาวเลือกที่จะปฎิเสธมิตรภาพที่เพื่อนในวัยเดียวกันต่างหยิบยื่นให้ อาจกล่าวได้ว่าความสดใสของเธอ

รัตติกาลได้กระเทาะเปลือกแห่งความอ้างว้างไว้เบื้องหลังทันทีที่เธอจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยปลูกฝังให้เธอเป็นคนมีคุณภาพทั้งด้านอารมณ์และสติปัญญา

ร่างค่อนข้างสูงของรัตติกาลลุกจากที่นอนแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป สายน้ำชุ่มฉ่ำใต้ฝักบัวกระตุ้นให้หญิงสาวตื่นตัวเพื่อออกไปผจญภัยในสังคมเมืองที่แสนวุ่นวาย

รัตติกาลเป็นนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ โทจิตวิทยาปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยรัฐบาลเก่าแก่ มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศแห่งนี้เป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคน หญิงสาวมีรูปร่างค่อนข้างสูง ผิวพรรณหมดจด หน้าตาสะสวยเมื่อเครื่องหน้าที่ไม่ได้รับการตกแต่งศัลยกรรม ไล่ตั้งแต่คิ้วโก่งราวคันศร ดวงตากลมโตสีดำสนิทสีเดียวกับผมเธอ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอวบอิ่มรับกับใบหน้ารูปหัวใจ ที่สำคัญรอยย้ิมพิมพ์ใจของเธอทำให้รัตติกาลเป็นที่น่าสนใจกับเพศตรงข้ามเป็นอย่างยิ่ง

ความสวยงามของสตรีเพศหาได้ใช่สิ่งที่รัตติกาลต้องการ สิ่งที่หญิงสาวโหยหามานานแสนนานคือความรัก ความอบอุ่น และความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว ปมด้อยในใจนี้กดให้รัตติกาลไม่อาจมีความสุขกับชีวิตได้เลยแม้เธอจะมีความพิเศษเหนือเพื่อนวัยเดียวกันที่เรียกว่าความสวยที่ไม่เคยสำคัญสำหรับเธอ

ผู้ที่คอยย้ำเตือนบาดแผลในจิตใจของรัตติกาลคือผู้เป็นมารดาที่ต้องลำบากเลี้ยงดูเธอมาตลอดยี่สิบสามปี เพียงเพราะคำว่า ‘หน้าที่’ คุณแม่ยังสาวไม่เคยกอดลูกสาวที่เกิดมาด้วยความไม่ตั้งใจอย่างรักใคร่ รัตติกาลจึงคล้ายกับเป็นตุ๊กตาตัวสวยที่มารดาคือผู้เล่นเป็นครั้งคราว ยามรักก็รักจนใจหาย ยามเกลียดก็ชังจนไม่มีคำบรรยาย เมื่อบิดาเธอเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงอื่น เธอก็ขึ้นแท่นลูกชังเต็มตัว หากหวนคิดถึงความทรงจำที่แสนเจ็บปวดในอดีตคราใดรัตติกาลก็ฝืนยิ้มให้กับตัวเอง แน่นอนว่าเธอไม่เคยแสดงความน้อยใจนี้ให้มารดาได้รับรู้ หรือว่ามารดารับรู้แต่ไม่สนใจเธอก็ไม่อาจทราบได้ รัตติกาลรู้เพียงว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นอยู่ในซอกหลืบไหนซักแห่งของหัวใจ

รัตติกาลไม่เคยโกรธ หรือเกลียดมารดาเลยแม้แต่น้อย แม้ว่ามารดาของรัตติกาลจะไม่มีโอกาสปลอบประโลมอย่างที่ควรปฏิบัติ เแต่กระนั้นผู้เป็นมารดาก็ไม่เคยปล่อยให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวต้องขัดสนเงินทอง ทุกๆ เดือนเงินจำนวนไม่น้อยกว่าหกหลักถูกโอนเข้าบัญชีของรัตติกาล จำนวนเงินนั้นมากพอให้เธอสามารถให้ชีวิตฟุ้งเฟ้อกับสินค้าวัตถุนิยมได้อย่างสบาย แต่สำหรับหญิงสาวนั้นเธอไม่เคยใช้เงินเกินความจำเป็นเลย ด้วยเพราะรู้ว่ามารดาหาเงินด้วยความยากลำบากจากอาชีพเต้นกินรำกิน ตั้งแต่ใจความได้เธอรู้เรื่องเดียวเกี่ยวกับมารดาว่าเป็นนักร้องเสียงทองชนิดหาตัวจับได้ยาก นอกจากนั้นมารดาของเธอยังหมั่นออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ดูแลรูปร่าง ไม่ได้ปล่อยให้สังขารร่วงโรยไปตามวัยจึงทำให้มารดาของเธอเป็นนักร้องในผับหรูมีระดับ เสียแต่อย่างเดียวที่บางครั้งผู้เป็นมารดาก็หายตัวไปเป็นสัปดาห์


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


รัตติกาลตื่นจากภวังค์เมื่อรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่สีบรอนซ์เงินตีวงโค้งเข้ามาแล้วจอดที่ประจำ เจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด หน้าตา ผิวพรรณบ่งบอกถึงความเป็นไทยแท้ น้ำหรือน่านน้ำนักศึกษาปีสุดท้าย คณะเภสัชศาสตร์ หอบหนังสือกองโตจากกระโปรงหลังรถอย่างทุลักทุเล

“พี่น้ำ” รัตติกาลเรียกชายหนุ่มอย่างยินดีพร้อมทั้งแสดงน้ำใจช่วยปิดกระโปรงหลังให้ น่านน้ำหันมามองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ แทนคำทักทาย ชายหนุ่มรู้ดีว่าแม่ตัวดีไม่ค่อยเห็นเขาในสายตา แต่ครั้งนี้เธอมาแปลก

“มีอะไรหรือเปล่า” คำตอบของน่านน้ำทำให้หญิงสาวหน้าง้ำ ดูสิ ไอ้เราก็อุตส่าห์มารอ

“พี่น้ำอ่ะ นิกซ์ก็แค่คิดถึงก็เลยมาทักทาย” น่านน้ำถึงกับหน้าเหวอไม่คิดว่ายัยตัวดีจะกล้าพูดเล่นกับตัวเองขนาดนี้แถมลมหายใจอุ่นๆยังชิดที่ริมหูเขาอีก ถ้าเป็นคนอื่นคงได้คุยโวอวดเพื่อนที่ดอกฟ้าอย่างรัตติกาลยอมโน้มกิ่งมาสุงสิงกับหมาวัด

“กินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่าน่ะเรา”

“แหม พี่น้ำก็ นิกซ์คิดถึงพี่จริงๆ นะ เมื่อคืนนิกซ์ยังแบฝันถึงพี่ด้วยแหละ” รัตติกาลโกหกหน้าตาเฉย แววตาพราวระยับอย่างถูกใจราวกับเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ น่านน้ำพยายามหาความจริงจากหญิงสาว แต่ก็ไม่พบอะไรจึงรีบตัดบทสนทนาก่อนที่ทั้งเขาและเธอจะกลายเป็นเป้าสายตาของนิสิตที่ต่างสนใจดาวคณะมนุษยศาสตร์คนสวย

“เอ่อ...คุณรัตติกาลครับ คือวันนี้ผมรีบครับ และผมหนักมากด้วยครับ” หญิงสาวกล่าวขอโทษขอโพยชายหนุ่มเป็นการใหญ่แบบที่น่านน้ำรู้ว่าเธอไม่จริงใจนัก

“เย็นนี้พี่น้ำทำตัวให้ว่างนะ” รัตติกาลบอกยิ้มๆ ก่อนเดินจากไปทิ้งความฉงนไว้กับชายหนุ่มเบื้องหลัง


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

อาคารสูงเสียดฟ้าย่านธุรกิจใจกลางกรุงเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัท ทรัสต์ คอเปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานและอินเทอร์เน็ตอันดับต้นๆ ของประเทศ สถานการณ์ภายในบริษัทกลับเคร่งเครียด เนื่องด้วยการล้มป่วยของประธานบริษัทเปรียบดังผู้กุมบังเหียนใหญ่ของบริษัท หากไร้ท่านสักคนก็เหมือนกองทัพใหญ่ที่ขาดแม่ทัพ

ธนาดล อมรวัฒนกุล นักบริหารหนุ่มอนาคตไกล ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขามีศักดิ์เป็นน้องชายของประธานบริษัท ทรัสต์ คอเปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชายหนุ่มได้รับมอบหมายให้ดูแลบริษัทลูกที่เชียงใหม่ต้องเดินทางกลับมาดูแลทางบริษัทแม่อย่างกะทันหันเพื่อสานต่อธุรกิจจากผู้มีศักดิ์พี่สาวที่ประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

“คุณธนาดลคะ คุณน้องเอ้ต้องการเรียนสายคะ” เสียงจากอินเตอร์คอมจากเมรยา เลขานุการสาวคนเก่งทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าจากเอกสารกองโตที่เจ้าหล่อนได้เอามาให้หลังการประชุมสรุปผลกำไรไตรมาสที่สามของปีก่อนตอบตกลงให้โอนสายเข้ามาได้

“ว่าไงคะ น้องเอ้” ธนาดลกรอกเสียงอย่างอารมณ์ดี ชุติมาหรือเอ้ เปรียบเหมือนนางฟ้าประจำบ้านที่คอยสร้างสีสันให้กับครอบครัวอมรวัฒนกุล หลานสาวคนเดียวของเขา

แน่นอน เขารักเธอมากที่สุด

“เย็นนี้น้าดลมารับเอ้ที่มหาวิทยาลัยนะคะ” ชุติมาบอกถึงความต้องการของตนทันที ไม่ได้สนใจถามว่าชายหนุ่มจะว่างหรือมีธุระติดพันอันใดหรือไม่ เพราะรู้ว่าผู้เป็นน้าชายไม่เคยขัดใจหล่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว เหมือนเคย ธนาดลตอบตกลงโดยไม่ต้องเสียเวลาให้คิดนาน “งั้นเย็นนี้เจอกันนะคะ เอ้คิดถึงน้าดลจังค่ะ”

“ปากหวานอย่างนี้จะอ้อนน้าเอาอะไรคะ” ธนาดลหัวเรากับเสียงเล็กๆ หัวใจแห้งแล้งของเขากลับมาอบอุ่นอีกครั้งเหมือนทหารกล้าเพิ่งกลับจากสงคราม

“เอ้ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นค่ะ เอ้แค่ทานข้าวกับน้าดล ไว้เจอกันเย็นนี้นะคะ เอ้ไม่กวนแล้วค่ะ” ชุติมารีบวางสายทั้งที่ใจแสนเสียดาย

ไม่เรียกร้อง และไม่งอแงคือแผนการของเธอที่ต้องการกระตุ้นให้ธนาดลเลิกมองเธอเป็นเด็กเสียที

“เอ้ เธอมีน้าชายด้วยหรอ” หลังที่เพื่อนสนิทกดปุ่มสิ้นสุดบทสนทนาปาลิดาก็ถามอย่างสนใจใคร่รู้ นั่นทำให้ดวงตาชวนฝันของชุติมาวาวโรจน์อย่างไม่ตั้งใจ

“ฟังให้ดีนะปริม ฉันไม่มีน้าชาย ไม่เคยมี และไม่คิดจะมีด้วย เขาเป็นแค่ญาติห่างๆ แต่มีศักดิ์เป็นน้าชาย” ดูเหมือนท้ายเสียงนั้น ชุติมาจะเน้นหนัก สายตากร้าวจนปาลิดานึกกลัว จึงเฉไฉชวนดูคอเล็คชั่นใหม่ของห้องเสื้อที่ได้รับความสนใจมากในขณะนี้

ชุติมาไม่เคยพิสมัยกับคำว่า ‘น้าชาย’ ทว่าหญิงสาวต้องปั้นหน้ายิ้มเรียกเขาว่าน้าชายราวกับว่ายินดีกับความรักแบบเครือญาติของธนาดลที่มีให้ตลอดเวลา มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเพียงคนเดียวนั่งอยู่กลางใจเสมอมา


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

รถยุโรปสีดำปลาบเคลื่อนมาจอดหน้าคณะมนุษยศาสตร์ไม่ได้เรียกความสนใจกับนิสิตที่กำลังทยอยกลับบ้านซึ่งต้องเดินผ่านทางนี้ไปป้ายรถเมล์และสถานีรถไฟฟ้าเท่ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของที่ก้าวลงจากรถ อาจเพราะร่างสูงไซส์ยุโรปของชายหนุ่มบวกกับหน้าตาคมคายรับกับเรือนผมสีดำสนิทในชุดสูทสีดำสนิทจากห้องเสื้อดังที่ยืนพิงรถอย่างสบายอารมณ์ ธนาดลถอดแว่นกันแดดออก อวดใบหน้าที่หล่อจัดเจนก่อนกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วสะดุดตากับร่างอ้อนแอ้นของชุติมาที่กำลังเดินนวยนาด ส่งยิ้มหวานมาแต่ไกล

“น้องเอ้”

“น้าดล” เสียงเล็กแหลมเรียกธนาดลอย่างปิดความยินดีไม่มิด ร่างสูงของชายหนุ่มอ้าแขนรอหลานสาวสุดที่รักสวมกอดทันที

“เอ้คิดถึงน้าดลจังคะ” ชายหนุ่มลูบศีรษะชุติมาอย่างเอ็นดูในขณะที่ชุติมาก็ฉวยโอกาสหอมทั้งแก้มซ้ายและขวาว่าเป็นธรรมเนียมการทักทายอย่างฝรั่ง ธนาดลเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับให้กับหลานสาวและเคลื่อนรถออกไป

“เรียนหนักไหมคะน้องเอ้”

“นิดหน่อยค่ะ ใกล้สอบแล้วงานเยอะค่ะ ไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงไม่ยอมสั่งตั้งแต่ต้นเทอม พอใกล้สอบปลายภาคทีไรระดมสั่งกันทุกคน” ชุติมาหน้ามุ่ย ถือโอกาสฟ้องน้าชายไปในตัว

“คนเก่งของน้าทำได้อยู่แล้ว” ธนาดลหัวเราะน้อยๆ ที่หลานสาวแอบบ่น เขาทราบดีว่ามันเป็นวงจรปกติของเด็กมหาวิทยาลัย

“ค่ะ คนเก่งก็คนเก่ง” ชุติมายหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อคนที่ตนแอบรักมาตลอดถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“อีกอึดใจเดียวก็จะเรียนจบแล้ว สู้ๆ นะคะ”

“ก็เพราะอีกอึดใจเดียวนี่แหละค่ะเอ้ถึงสู้ไม่ถอย”

ธนาดลถูกใจที่ชุติมามีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ ชายหนุ่มค่อยสบายใจเมื่อหญิงสาวไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เขาเอ็นดูหลานสาวที่ยิ้มจนตาหยี ไม่ห่วงสวย นึกครึ้มในใจว่าจะต้องไว้หนวด ไว้เครา คอยตะเพิดหนุ่มๆ ที่ตามวอแวชุติมาเสียแล้ว หากต้องหยุดความคิดไว้แค่นี้ก่อนนึกอะไรขึ้นได้

“กินขนมปังรองท้องก่อนนะคะ” ธนาดลเอื้อมไปหยิบถุงกระดาษที่ภายใจบรรจุขนมปังไส้หมูหยองแสนอร่อย ของโปรดของชุติมาและน้ำส้มคั้นจากเบาะหลัง

“ขอบคุณค่ะ น้าดลรู้ใจเอ้เสมอเลยนะคะ” ชุติมาประทับใจความมีนำ้ใจเล็กๆ น้อยๆ ของชายหนุ่ม เขาจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเธอได้เสมอ

จุดหมายของธนาดลและชุติมาคือโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่ คิ้วเข้มของธนาดลขมวดราวกับปมเชือกหากอึดใจเดียวก็หายไปด้วยไม่อยากให้ชุติมาไม่สบายใจ ผู้เป็นน้าชายเก็บความแปลกใจไว้เมื่อหลานสาวบ่นให้ฟังว่าคุณบวรผู้เป็นบิดาไม่เคยย่างกรายมาเหยียบโรงพยาบาลเพื่อดูอาการของผู้เป็นภรรยาทางนิตินัยและพฤตินัยแม้แต่ครั้งเดียว

ภาพของชุติมาที่พูดคุยกับภราดาที่นอนหลับใหลไม่ได้สติทำให้ธนาดลเกิดความสงสารหลานสาวอย่างจับใจ พลางครุ่นคิดถึงแฟ้มเอกสารที่เมรยาเลขาสาวที่มากความสามารถหาข้อมูลที่เขาต้องการทราบอย่างละเอียด

เอกสารรายรับรายจ่ายของครอบครัวอมรวัฒนกุลซึ่งส่วนใหญ่เป็นของบวรที่เขาเชื่อว่าหมดไปกับการพนัน และกินเหล้าเคล้านรี สายตาคมกล้าสะดุดกับการโอนเงินเข้ากับหมายเลขบัญชีหนึ่งเป็นประจำทุกเดือน เงินจำนวนนั้นเป็นแค่เศษเงินของทรัพย์สมบัติที่เขาและพี่สาว แต่ที่น่าสงสัยคือหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวนี้เป็นระยะเวลาได้กว่า 4 ปีแล้ว

“น้าดลคะ คิดอะไรอยู่คะ หน้าเครียดเชียว” ชุติมาปลุกธนาดลจากภวังค์ เขาส่ายหน้าหลานสาวจึงชวนน้าชายกลับบ้าน ธนาดลฝากฝังภราดาไว้กับพยาบาลพิเศษที่เขาจ้างไว้

ทันทีที่ถึงคฤหาสน์ย่านชานเมือง ธนาดลวานให้สักรินทร์เพื่อนสนิทของเขาจัดการสืบข้อมูลที่เขาต้องการรู้ โดยเริ่มที่เจ้าของเลขบัญชีนั้น


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

รัตติกาลเดินเตร็ดเตร่ที่ห้างสรรพสินค้ากับน่านน้ำจนมืดค่ำ เพื่อนต่างเพศคนเดียวที่เธอสามารถคบได้สนิทใจ น่านน้ำเป็นเหมือนพี่และเพื่อนที่เป็นกระจกส่องความคิดต่างมุมให้กับหญิงสาว วันนี้รัตติกาลใช้เงินหมดไปกับเสื้อผ้ายี่ห้อดังเป็นส่วนใหญ่ทำให้น่านน้ำขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอย่างเป็นห่วงหญิงสาว เป็นที่รู้กันว่าถ้าอาการช็อปแหลกของรัตติกาลกำเริบคราใดแสดงว่าหญิงสาวมีเรื่องในใจให้ต้องใช้ความคิดจนเป็นความเครียดอ่อนๆ แต่ชายหนุ่มก็เดินตามหญิงสาวที่เดินออกร้านนั้นร้านนี้อย่างชำนาญ

“ยังไม่พออีกหรอนิกซ์ นี่ก็เยอะแล้วนะ” น่านน้ำถามขณะรับถุงเสื้อผ้าจากห้องเสื้อร้านดังเป็นถุงที่ 7 ยังไม่รวมรองเท้าคู่สวยแสนแพงสองคู่ รัตติกาลหันมายิ้มแล้วส่ายหน้า พลางใช้นิ้วชี้กระเป๋าหนังใบสวยที่จัดแต่งเข้ากับชุดในหุ่นให้พนักงาน

“วันนี้นิกซ์อารมณ์ดี อยากใช้เงิน” ว่าแล้วรัตติกาลก็ขยิบตา กวนโมโหน่านน้ำ

“เฮ้อ บอกอะไรก็ไม่เคยเชื่อ ไม่เคยฟัง เป็นน้องเป็นนุ่งนะจะจับตีให้ก้นลายเลย”

“อย่าบ่นเป็นตาแก่ไปหน่อยเลยค่ะคุณน่านน้ำ” หญิงสาวพูดขณะทาบเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพงกับร่างของชายหนุ่ม ก่อนส่งให้พนักงานขาย

“ไม่ต้องก็ได้นิกซ์ เสื้อที่เราซื้อให้คราวที่แล้วพี่ยังไม่ค่อยได้ใส่” น่านน้ำผงกหัวให้กับพนักงานก่อนหยิบเสื้อมาแขวนไว้ที่เดิม รัตติกาลส่ายหน้า

“ไม่มีแต่พี่น้ำ แค่นี้เองนิกซ์อยากให้พี่ ไว้คราวหน้าพี่น้ำเลี้ยงข้าวนิกซ์นะ” หญิงสาวไม่สนใจก้าวฉับไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินแล้วรับถุงกระดาษสีแดงที่ประทับตราร้านสีทองหรา

รัตติกาลปฏิเสธที่จะกลับบ้านทันที เธอไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว ทั้งคู่เลือกที่จะรับประทานข้าวต้มรอบดึกที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งร้านประจำของน่านน้ำ กว่าน่านน้ำจะมาส่งรัตติกาลก็เกือบห้าทุ่ม หญิงสาวเกรงใจชายหนุ่มเล็กน้อยที่ช่วยถือของมาส่งถึงห้อง

“เข้ามาก่อนสิคะ พี่น้ำ”

รัตติกาลรินน้ำเย็นสองแก้วหลังจากที่ทั้งคู่ต้องทนกับการจรราจรติดขัดบนท้องถนนนานสองนาน

“พี่ว่านิกซ์กับคุณแม่น่าจะไปหาที่อยู่ใหม่นะ พี่ว่ามันอันตรายเกินไป” เขาดูสภาพแวดล้อมของแมนชั่นแห่งนี้มันไม่น่าพิสมัยนัก ทางเข้าก็ค่อนข้างเปลี่ยว

“พี่น้ำจะให้นิกซ์ไปอยู่ที่ไหนล่ะคะพี่น้ำ อยู่มาตั้งแต่เด็ก” รัตติกาลส่งน้ำเย็นแก้วใหญ่ให้ชายหนุ่มดับกระหาย สายตาที่ร่าเริงเศร้าลงนิดก่อนปรับให้เป็นปกติ

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 เม.ย. 2554, 02:57:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ค. 2554, 12:37:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 2425





<< บทนำ ฝันร้าย   บทที่ 2 >>
Gingfara 27 เม.ย. 2554, 07:00:36 น.
ว้าว จัดเต็มมาเลยนะคะ
จะรอตอนต่อไปน้า
น่าอ่านๆ>O<


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account