จับเธอมาเป็นเจ้าสาว ภาค 2
ผูกองมือปราบต้องเผชิญหน้ากับเจ้าสาวแสนที่จะหวงตัว แต่สุดจะขี้หึงบรรลัยไวยวอด การเอาชนะเมียต้องไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนตระกูลพฤกษชาติ ดังนั้นเด่นดวงจึงต้องใช้ลูกล่อ ลูกชนทุกอย่างเพื่อให้ได้ ฟัน
Tags: หื่น มันส์ ฮา
ตอน: เหตุการณ์สร้างวีรบุรุษ
เด่นดวงในรูปเค้าของหนุ่มหน้าตาดี ผมตัดสั้นตามอาชีพ แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนทรงดีไม่รัดติ้วจนถ่างขาลำบากอย่างที่นิยมกัน เขาตามหนึ่งน้องเป็นเวลาสองวัน จนรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำงานอะไร นอกจากช๊อบตามห้างในจังหวัด เขาสังเกตได้แท้จริงว่าอีกฝ่ายไม่มีเพื่อนเลย นอกจากบางครั้งมีคนสนิทตามรับใช้ วันนี้เด่นดวงนำรถเข้ามาจอดรถในบริเวณลานจอดของห้างก่อนหนึ่งน้อง สายตาเขาจับจ้องมองรถที่หนึ่งน้องอาศัยมา หมู่หรรษารายงานมาแล้วว่าอีกฝ่ายนั่งรถเบ็นซ์ใหม่เอี่ยมสีน้ำทะเลใส ซึ่งเป็นการสาดสีทำใหม่ อาจโดยความชอบส่วนตัว หรือความเชื่อทางด้านหมอดูก็เป็นได้
ลักษณะรถคันที่หมู่หรรษาระบุได้เข้ามาจอดแล้ว ไม่นานนักรถคันนั้นถูกเปิดออก และเท้าเรียว สวยย่างเยื้องลงมาก่อน จากนั้นชายกระโปรงอัดพีซร่วงพลิ้วตามขาสวยคลุมตาม และหญิงสาวในชุดแสนเรียบร้อย(เกินไป)ในสายตาของเด่นดวง เธอสะพายกระเป๋าแบรนดังราคาแพงสีขาวเข้าชุด
ดวงหน้าเรียวรูปไข่ สดใส หน้าผากกว้างสวย อย่างที่เด่นดวงมองต่ำลงไปอย่างอดไม่ได้ เพราะในหมู่เพื่อนฝูงบอกเล่าต่อกันว่า ถ้าข้างบนนูนและกว้าง ข้างล่างเชื่อขนมกินได้ ไม่มีราบติดกระดูก และอีกครั้งที่เด่นดวงระบายลมหายใจอึดอัดออกจากทรวงอก เป็นลมหายใจที่ไม่หนักอย่างที่ตนเองเคยรู้สึกเสียดายความหล่อของตัวเอง เพราะหนึ่งน้องวันนี้ แตกต่างจาก ค้างคาวบ้าเลือดวันนั้นอย่างคนละคน ผู้หญิงร่างอรชรคนนี้สวยอย่างหาที่ติไม่ได้สักแห่ง คิ้วเรียวยาวเข้ม ไม่ต้องวาด ดวงตากลมโตสวยอย่างธรรมชาติไม่ต้องใส่เลนซ์ผีหลอก จมูกโด่งอันเล็กๆ ยาวพอดีสัดส่วน ริมฝีปากอิ่มหนา แต้มสีชมพู
ยัยสั้น สวยได้น่า...น่าจูบขนาดนี้เชียว!!
“มองหาอะไร” เสียงแหลมสูงตวาดใส่เด่นดวงที่ลืมตัวจ้องอีกฝ่าย เผลอเหม่อคิดกระทั่งคนงามมาด่าใส่หน้า
“มองหาความสูง คุณมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าล่ะ” ปากไวสวนกลับตามประสาเคยตัว
“ไม่ต้องมาสาระแนหรอก ไปให้พ้นที่นี้ได้ยิ่งดี”
“ผมก็มีเงินที่จะซื้อของ ของผม คุณอย่าใจไม้ไส้ระกำไล่คนหล่อให้หนีไปจากชีวิตคุณนักเลยน่า”
“อะไรนะ”
หนึ่งน้องอุทานตาเบิกกว้าง แก้มใสทำป่องเหมือนปลาทองขยับเหงือก เด่นดวงทำท่าจะพูดต่อ พอดีกับเสียงทักดังมาจากข้างหลัง
“โอ้คุณอูม ดีใจจังที่เจอคุณที่นี่” กำจายกรากเข้าไปทำท่าเหมือนจะโอบกอดหนึ่งน้องด้วยความสนิทสนม หนึ่งน้องขยับหนีระวังตัวแจ ร้องถามอย่างไม่ไว้วางใจ
“คุณเป็นใคร”
เด่นดวงแอบมองกิริยาอาการของอีกฝ่ายตลอด จากนั้นลูกชายคุณนายกานพลู หัวเราะในลำคอ คิดถึงอีกฝ่ายว่าช่างหวงตัวจริงเสียด้วย ว่าแต่เด่นดวงไม่คุ้นหน้าชายผู้แทรกเข้ามาผิดที่ผิดเวลาในยามนี้เหลือเกิน เด่นดวงเดินจากมาจากคนทั้งสอง ห่างออกไม่มากนัก ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ตัวกลม ซึ่งวางข้างประตูห้างอยู่หลายตัว เป็นเก้าอี้สำหรับพักนั่งของผู้บริโภค ความใกล้ยังมากพอที่จะลอบมองเหตุการณ์ กำจายมีผู้ติดตามมาด้วยสามคน ซึ่งยืนกำกับหลังลูกพี่ผู้พิทักษ์นาย
เสียงพูดติดสำเนียงดัดให้หล่อดังว่า
“จำพี่กำจายไม่ได้หรือน้องอูม พี่ไงพี่คนที่เป็นแฟนของอูมสมัยมอต้นตอนปลายไง เรานะเคย” กำจายเว้นประโยค พลางถูมือ หน้าแดง อย่างที่เด่นดงรู้ว่าคิดเรื่องทะลึ่งอย่างแน่นอน
“พี่ไปเรียนต่อเมืองนอกหลายปี อูมคงลืมไปแล้วว่าเรานะ มี อะไร อะไรกันถึงไหน”
“ตาบ้าทักคนไม่ดูหน้า ยังปากหมาลำเลิกเรื่องอะไรของแกออกมาห้ะ”
กำจายเสียหน้าเป็นอันมาก ที่โดนตอกกลับไร้เยื่อขาดใย และไร้มารยาททางวาจา เขาจึงหรี่ตาลงข้างหนึ่ง ตอบโต้เต็มเสียง
“ทำไมต้องด่าต้องขึ้นเสียงมึงมาพาโวยด้วยวะอีนี่” กำจายสำราก สันดานดิบออกมา กรากเข้าไปใกล้ เด่นดวงขยับตัวเตรียมระวังเหตุตามความเคยชิน กำจายฉวยข้อมืออีกฝ่ายหมายฉุดดึง หนึ่งน้องสะบัดขึ้นไม่ให้ถูกตัว ชายผู้มีความจำสับสน ย้ำเสียงดัง หวังให้หนึ่งน้องได้อับอาย
“ต้องให้สอนมารยาทมั้ย งามอย่างไทย กราบขอโทษพี่เดี๋ยวนี้ ท่าไม่อยากมีเรื่อง”
“อ้ายเพี้ยน ให้กราบแกอย่างนั้นหรือ ฉันยอมกลับไปกราบแม่เลี้ยงคู่ปรับของฉันไม่ดีกว่าหรือไง”
“หน็อย ท่าทางจะต้องสอนบทเรียนกันยาวแล้ว” กำจายดีดนิ้วมือเปราะ ลูกสมุนสามคนดาหน้ากันเข้าไปหาหนึ่งน้อง เป็นทางเดียว
วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสของเด่นดวงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้หนึ่งน้องจะกล้าเผชิญ แต่เด่นดวงย่อมรู้หมาหมู่ย่อมขย้ำเหยื่อจนเลือดสาด แต่อาจจะลากไปสาดที่อื่น ซึ่งเขายอมให้เกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นลูกชายคุณนายกานพลูจึงเสนอหน้าเป็นพระเอกทันใด
“เฮ้ย อย่าเอากฎหมาหมู่มาใช้แถวนี้ได้มั้ย โดยเฉพาะกับผู้หญิงนะ ไม่สมควร”
“อย่าเสือก เรื่องผัวเมียจะเคลียกัน”
“อ๊ายยยยย”
หนึ่งน้องกรี๊ดแล้วกระโจนเข้าไปทำท่าจะตบกำจาย แต่เด่นดวงไวกว่า เพราะหญิงสาวใช้ไม้นี้มาก่อน และโดนเขานี่เองตบสวนไป เด่นดวงไม่อยากให้หนึ่งน้องโดนผู้ชายตบซ้ำสอง ชายหนุ่มปราดเข้าไปยืนขวาง บังตัวสาวสวยเลือดเดือดมิดทีเดียว หนึ่งน้องฟ้องร้องเหมือนฟ้องพ่อไม่มีผิด
“มันด่าน้อง มันกล่าวหาน้อง”
“ไม่มีคนปัญญาอ่อนเชื่อมันหรอก”เด่นดวงหันไปบอกหนึ่งน้อง และทันใดนั้น กำปั้นของลูกน้องกำจาย พุ่งเข้ามาหาชายหนุ่มเต็มเหนี่ยว เด่นดวงเอี้ยวตัวหลบอย่างคนมีสายตาดีเยี่ยม พ้นหมัดของพวกมัน ก่อนพุ่งหมัดสวนเข้าที่ท้องน้อยอีกฝ่ายจุกแอด รายการแจกเท้าฟรีของเด่นดวงตามมาทันที
วิถีการต่อสู้ของลูกผู้ชายได้เกิดขึ้นหน้าห้างโดยที่เด่นดวงทั้งดึงหนึ่งน้องไว้ติดตัว ไม่ให้พวกกำจายเข้าใกล้ได้ อีกทั้งยังสามารถ เตะ ถีบ แจกมวยไทยและเทควันโด้ขั้นสายดำ เป็นสายที่พร้อมสอนคนอื่นแล้ว (การสอบสายเป็นระดับการเตะการพร้อมและความสามารถ เริ่มจาก สีขาว เหลือง ฟ้า แดง และดำ)
ลูกน้องไร้น้ำยาของกำจาย โดนเท้าหนักหน่วงของเด่นดวง กราดเตะล้มระเนระนาดเจ็บตัวไปตามๆกัน กำจายโมโหเด่นดวงมากที่ทำให้เขาไม่สามารถฉุดผู้หญิงไปปู้ยี่ปู้ยำตอนกลางวันแสกๆได้ เขาจึงประกาศศักดาด้วยการชักปืนเซมิออโต้ ชูขึ้นข่มขู่เด่นดวงให้หยุดทั้งมือและตีน ซึ่งได้ผลทำให้เด่นดวงง้างเท้าที่จะเตะอัดเข้าชายโครงสมุนไร้น้ำยาของกำจาย
“มึงอยากตายนักใช้มั้ยถึงเสือกเรื่องของกูกับเมียมากนัก”
“ฉันไม่ใช่เมียแกนะอ้ายคนบ้า”
“เดี๋ยวก็ได้รื้อความจำ เฮ้ยไปลากเมียกูมา”กำจายส่ายปืนไปมา พร้องสั่งลูกน้องทั้งสาม ซึ่งฝืนลากสังขารลุกขึ้นลากขาจะไปฉุดหนึ่งน้องให้ลกพี่ตามคำสั่ง
เด่นดวงหาช่องทางเข้าชาจต์อีกฝ่ายไม่ได้ จะล้วงอาวุธปืนก็ไม่ถนัด ในที่สุดสมองโตส่วนที่ฉลาดสั่งการให้ทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดถึงได้ด้วยการ ผลักร่างหนึ่งน้องเข้าหากำจายเต็มแรง ชายชั่วรีบลดปืนตั้งรับหนึ่งน้องที่ถลาไปตามแรงผลัก เด่นดวงฉกฉวยโอกาสนั้นเองที่ตามไปประกบร่างกำจายด้วยการกระชากหนึ่งน้องไปไว้ข้างหลังของเขาอย่างเหมาะเหม็ง ส่วนตัวเองกดข้อมือของอีกฝ่าย สไลด์ปืนปลดเซฟแม็คกาซีนจนรังปืนร่วงหล่นลงมาสู่มือเรียวยาวของเขาอย่างง่ายดาย จากนั้นเขาเก็บปืนและกระสุนของอีกฝ่ายไว้ ก่อนชักปืนจากเอวของตนเองออกมาขู่คู่กรณีเข้าบ้าง
“กูไม่ชักปืนเล่นแน่ ถ้ายังอยากฉุดผู้หญิงอีก”
ท่าทางจริงจัง ความหนักหน่วงของฝีเท้าที่จริงใจบ่งบอกว่า ชายหนุ่มรูปงาม เอาจริง
“เอามือวางไว้บนหัว” เด่นดวงเผลอสั่งตามความเคยชินต่อผู้ต้องหา ซึ่งคู่กรณีต้องทำตามอีก เพราะท่าทางมือที่รองรับข้างที่ถือปืนดูกระชับ และแคล่วคล่องต่อการใช้เป็นตัวตัดสินให้พวกเขาจำยอมทำตามทุกอย่าง แม้อับอายต่อสายตาไทยมุง และยามที่ไม่ได้เข้ามาห้าม เพราะเขามีอาวุธแค่กระบอง ส่วนการแจ้งความเขาแจ้งไปแล้ว รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเท่านั้น
เด่นดวงหันมาทางหญิงสาว ซึ่งดึงชายเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น
“ไงจะช็อบต่อหรือจะให้คุ้มกันกลับบ้าน”
เธอได้พบที่พึ่งพา หลังจากเหงาใจที่ไร้คนรัก บ้า...หนึ่งน้องด่าตัวเองที่มีความคิดไขว้เขวอย่างง่ายๆ แต่เมื่อคิดว่าบ้า เธอกลับตอบเด่นดวง
“ฉันจ้างคุณเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันได้มั้ย”
“ไม่เอา ไม่ต้องจ้าง เพราะเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ” เด่นดวงเริ่มปฏิบัติการกระล่อน
“ความรักต่างหากที่ต้องการ”
“อะไรนะ”หนึ่งน้องกลายเป็นคนหูตึงไปเสียแล้ว เธอได้ยินชายหนุ่มพูดไม่ชัด
เด่นดวงใช้ปืนเป็นคำสั่งด้วยการส่ายให้พวกนักเลงพลัดถิ่น ซึ่งพวกแก๊งเช่นนี้กำลังอาละวาดอย่างหนัก เป้าหมายคือผู้หญิงสวย ท่าทางดี และมีเงิน พวกคนร้ายคิดมาฉุดสาวสวยไปทำร้ายๆให้เป็นบาดแผลต่อชีวิต แต่ครั้งนี้นับว่าเป็นคราวมหาซวยของพวกเขาที่มาเจอหนึ่งน้อง สะพานสายหลักของเด่นดวงที่จะเข้าถึงตัวพ่อเลี้ยงคำตัน
ลักษณะรถคันที่หมู่หรรษาระบุได้เข้ามาจอดแล้ว ไม่นานนักรถคันนั้นถูกเปิดออก และเท้าเรียว สวยย่างเยื้องลงมาก่อน จากนั้นชายกระโปรงอัดพีซร่วงพลิ้วตามขาสวยคลุมตาม และหญิงสาวในชุดแสนเรียบร้อย(เกินไป)ในสายตาของเด่นดวง เธอสะพายกระเป๋าแบรนดังราคาแพงสีขาวเข้าชุด
ดวงหน้าเรียวรูปไข่ สดใส หน้าผากกว้างสวย อย่างที่เด่นดวงมองต่ำลงไปอย่างอดไม่ได้ เพราะในหมู่เพื่อนฝูงบอกเล่าต่อกันว่า ถ้าข้างบนนูนและกว้าง ข้างล่างเชื่อขนมกินได้ ไม่มีราบติดกระดูก และอีกครั้งที่เด่นดวงระบายลมหายใจอึดอัดออกจากทรวงอก เป็นลมหายใจที่ไม่หนักอย่างที่ตนเองเคยรู้สึกเสียดายความหล่อของตัวเอง เพราะหนึ่งน้องวันนี้ แตกต่างจาก ค้างคาวบ้าเลือดวันนั้นอย่างคนละคน ผู้หญิงร่างอรชรคนนี้สวยอย่างหาที่ติไม่ได้สักแห่ง คิ้วเรียวยาวเข้ม ไม่ต้องวาด ดวงตากลมโตสวยอย่างธรรมชาติไม่ต้องใส่เลนซ์ผีหลอก จมูกโด่งอันเล็กๆ ยาวพอดีสัดส่วน ริมฝีปากอิ่มหนา แต้มสีชมพู
ยัยสั้น สวยได้น่า...น่าจูบขนาดนี้เชียว!!
“มองหาอะไร” เสียงแหลมสูงตวาดใส่เด่นดวงที่ลืมตัวจ้องอีกฝ่าย เผลอเหม่อคิดกระทั่งคนงามมาด่าใส่หน้า
“มองหาความสูง คุณมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าล่ะ” ปากไวสวนกลับตามประสาเคยตัว
“ไม่ต้องมาสาระแนหรอก ไปให้พ้นที่นี้ได้ยิ่งดี”
“ผมก็มีเงินที่จะซื้อของ ของผม คุณอย่าใจไม้ไส้ระกำไล่คนหล่อให้หนีไปจากชีวิตคุณนักเลยน่า”
“อะไรนะ”
หนึ่งน้องอุทานตาเบิกกว้าง แก้มใสทำป่องเหมือนปลาทองขยับเหงือก เด่นดวงทำท่าจะพูดต่อ พอดีกับเสียงทักดังมาจากข้างหลัง
“โอ้คุณอูม ดีใจจังที่เจอคุณที่นี่” กำจายกรากเข้าไปทำท่าเหมือนจะโอบกอดหนึ่งน้องด้วยความสนิทสนม หนึ่งน้องขยับหนีระวังตัวแจ ร้องถามอย่างไม่ไว้วางใจ
“คุณเป็นใคร”
เด่นดวงแอบมองกิริยาอาการของอีกฝ่ายตลอด จากนั้นลูกชายคุณนายกานพลู หัวเราะในลำคอ คิดถึงอีกฝ่ายว่าช่างหวงตัวจริงเสียด้วย ว่าแต่เด่นดวงไม่คุ้นหน้าชายผู้แทรกเข้ามาผิดที่ผิดเวลาในยามนี้เหลือเกิน เด่นดวงเดินจากมาจากคนทั้งสอง ห่างออกไม่มากนัก ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ตัวกลม ซึ่งวางข้างประตูห้างอยู่หลายตัว เป็นเก้าอี้สำหรับพักนั่งของผู้บริโภค ความใกล้ยังมากพอที่จะลอบมองเหตุการณ์ กำจายมีผู้ติดตามมาด้วยสามคน ซึ่งยืนกำกับหลังลูกพี่ผู้พิทักษ์นาย
เสียงพูดติดสำเนียงดัดให้หล่อดังว่า
“จำพี่กำจายไม่ได้หรือน้องอูม พี่ไงพี่คนที่เป็นแฟนของอูมสมัยมอต้นตอนปลายไง เรานะเคย” กำจายเว้นประโยค พลางถูมือ หน้าแดง อย่างที่เด่นดงรู้ว่าคิดเรื่องทะลึ่งอย่างแน่นอน
“พี่ไปเรียนต่อเมืองนอกหลายปี อูมคงลืมไปแล้วว่าเรานะ มี อะไร อะไรกันถึงไหน”
“ตาบ้าทักคนไม่ดูหน้า ยังปากหมาลำเลิกเรื่องอะไรของแกออกมาห้ะ”
กำจายเสียหน้าเป็นอันมาก ที่โดนตอกกลับไร้เยื่อขาดใย และไร้มารยาททางวาจา เขาจึงหรี่ตาลงข้างหนึ่ง ตอบโต้เต็มเสียง
“ทำไมต้องด่าต้องขึ้นเสียงมึงมาพาโวยด้วยวะอีนี่” กำจายสำราก สันดานดิบออกมา กรากเข้าไปใกล้ เด่นดวงขยับตัวเตรียมระวังเหตุตามความเคยชิน กำจายฉวยข้อมืออีกฝ่ายหมายฉุดดึง หนึ่งน้องสะบัดขึ้นไม่ให้ถูกตัว ชายผู้มีความจำสับสน ย้ำเสียงดัง หวังให้หนึ่งน้องได้อับอาย
“ต้องให้สอนมารยาทมั้ย งามอย่างไทย กราบขอโทษพี่เดี๋ยวนี้ ท่าไม่อยากมีเรื่อง”
“อ้ายเพี้ยน ให้กราบแกอย่างนั้นหรือ ฉันยอมกลับไปกราบแม่เลี้ยงคู่ปรับของฉันไม่ดีกว่าหรือไง”
“หน็อย ท่าทางจะต้องสอนบทเรียนกันยาวแล้ว” กำจายดีดนิ้วมือเปราะ ลูกสมุนสามคนดาหน้ากันเข้าไปหาหนึ่งน้อง เป็นทางเดียว
วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสของเด่นดวงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้หนึ่งน้องจะกล้าเผชิญ แต่เด่นดวงย่อมรู้หมาหมู่ย่อมขย้ำเหยื่อจนเลือดสาด แต่อาจจะลากไปสาดที่อื่น ซึ่งเขายอมให้เกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นลูกชายคุณนายกานพลูจึงเสนอหน้าเป็นพระเอกทันใด
“เฮ้ย อย่าเอากฎหมาหมู่มาใช้แถวนี้ได้มั้ย โดยเฉพาะกับผู้หญิงนะ ไม่สมควร”
“อย่าเสือก เรื่องผัวเมียจะเคลียกัน”
“อ๊ายยยยย”
หนึ่งน้องกรี๊ดแล้วกระโจนเข้าไปทำท่าจะตบกำจาย แต่เด่นดวงไวกว่า เพราะหญิงสาวใช้ไม้นี้มาก่อน และโดนเขานี่เองตบสวนไป เด่นดวงไม่อยากให้หนึ่งน้องโดนผู้ชายตบซ้ำสอง ชายหนุ่มปราดเข้าไปยืนขวาง บังตัวสาวสวยเลือดเดือดมิดทีเดียว หนึ่งน้องฟ้องร้องเหมือนฟ้องพ่อไม่มีผิด
“มันด่าน้อง มันกล่าวหาน้อง”
“ไม่มีคนปัญญาอ่อนเชื่อมันหรอก”เด่นดวงหันไปบอกหนึ่งน้อง และทันใดนั้น กำปั้นของลูกน้องกำจาย พุ่งเข้ามาหาชายหนุ่มเต็มเหนี่ยว เด่นดวงเอี้ยวตัวหลบอย่างคนมีสายตาดีเยี่ยม พ้นหมัดของพวกมัน ก่อนพุ่งหมัดสวนเข้าที่ท้องน้อยอีกฝ่ายจุกแอด รายการแจกเท้าฟรีของเด่นดวงตามมาทันที
วิถีการต่อสู้ของลูกผู้ชายได้เกิดขึ้นหน้าห้างโดยที่เด่นดวงทั้งดึงหนึ่งน้องไว้ติดตัว ไม่ให้พวกกำจายเข้าใกล้ได้ อีกทั้งยังสามารถ เตะ ถีบ แจกมวยไทยและเทควันโด้ขั้นสายดำ เป็นสายที่พร้อมสอนคนอื่นแล้ว (การสอบสายเป็นระดับการเตะการพร้อมและความสามารถ เริ่มจาก สีขาว เหลือง ฟ้า แดง และดำ)
ลูกน้องไร้น้ำยาของกำจาย โดนเท้าหนักหน่วงของเด่นดวง กราดเตะล้มระเนระนาดเจ็บตัวไปตามๆกัน กำจายโมโหเด่นดวงมากที่ทำให้เขาไม่สามารถฉุดผู้หญิงไปปู้ยี่ปู้ยำตอนกลางวันแสกๆได้ เขาจึงประกาศศักดาด้วยการชักปืนเซมิออโต้ ชูขึ้นข่มขู่เด่นดวงให้หยุดทั้งมือและตีน ซึ่งได้ผลทำให้เด่นดวงง้างเท้าที่จะเตะอัดเข้าชายโครงสมุนไร้น้ำยาของกำจาย
“มึงอยากตายนักใช้มั้ยถึงเสือกเรื่องของกูกับเมียมากนัก”
“ฉันไม่ใช่เมียแกนะอ้ายคนบ้า”
“เดี๋ยวก็ได้รื้อความจำ เฮ้ยไปลากเมียกูมา”กำจายส่ายปืนไปมา พร้องสั่งลูกน้องทั้งสาม ซึ่งฝืนลากสังขารลุกขึ้นลากขาจะไปฉุดหนึ่งน้องให้ลกพี่ตามคำสั่ง
เด่นดวงหาช่องทางเข้าชาจต์อีกฝ่ายไม่ได้ จะล้วงอาวุธปืนก็ไม่ถนัด ในที่สุดสมองโตส่วนที่ฉลาดสั่งการให้ทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดถึงได้ด้วยการ ผลักร่างหนึ่งน้องเข้าหากำจายเต็มแรง ชายชั่วรีบลดปืนตั้งรับหนึ่งน้องที่ถลาไปตามแรงผลัก เด่นดวงฉกฉวยโอกาสนั้นเองที่ตามไปประกบร่างกำจายด้วยการกระชากหนึ่งน้องไปไว้ข้างหลังของเขาอย่างเหมาะเหม็ง ส่วนตัวเองกดข้อมือของอีกฝ่าย สไลด์ปืนปลดเซฟแม็คกาซีนจนรังปืนร่วงหล่นลงมาสู่มือเรียวยาวของเขาอย่างง่ายดาย จากนั้นเขาเก็บปืนและกระสุนของอีกฝ่ายไว้ ก่อนชักปืนจากเอวของตนเองออกมาขู่คู่กรณีเข้าบ้าง
“กูไม่ชักปืนเล่นแน่ ถ้ายังอยากฉุดผู้หญิงอีก”
ท่าทางจริงจัง ความหนักหน่วงของฝีเท้าที่จริงใจบ่งบอกว่า ชายหนุ่มรูปงาม เอาจริง
“เอามือวางไว้บนหัว” เด่นดวงเผลอสั่งตามความเคยชินต่อผู้ต้องหา ซึ่งคู่กรณีต้องทำตามอีก เพราะท่าทางมือที่รองรับข้างที่ถือปืนดูกระชับ และแคล่วคล่องต่อการใช้เป็นตัวตัดสินให้พวกเขาจำยอมทำตามทุกอย่าง แม้อับอายต่อสายตาไทยมุง และยามที่ไม่ได้เข้ามาห้าม เพราะเขามีอาวุธแค่กระบอง ส่วนการแจ้งความเขาแจ้งไปแล้ว รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเท่านั้น
เด่นดวงหันมาทางหญิงสาว ซึ่งดึงชายเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น
“ไงจะช็อบต่อหรือจะให้คุ้มกันกลับบ้าน”
เธอได้พบที่พึ่งพา หลังจากเหงาใจที่ไร้คนรัก บ้า...หนึ่งน้องด่าตัวเองที่มีความคิดไขว้เขวอย่างง่ายๆ แต่เมื่อคิดว่าบ้า เธอกลับตอบเด่นดวง
“ฉันจ้างคุณเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันได้มั้ย”
“ไม่เอา ไม่ต้องจ้าง เพราะเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ” เด่นดวงเริ่มปฏิบัติการกระล่อน
“ความรักต่างหากที่ต้องการ”
“อะไรนะ”หนึ่งน้องกลายเป็นคนหูตึงไปเสียแล้ว เธอได้ยินชายหนุ่มพูดไม่ชัด
เด่นดวงใช้ปืนเป็นคำสั่งด้วยการส่ายให้พวกนักเลงพลัดถิ่น ซึ่งพวกแก๊งเช่นนี้กำลังอาละวาดอย่างหนัก เป้าหมายคือผู้หญิงสวย ท่าทางดี และมีเงิน พวกคนร้ายคิดมาฉุดสาวสวยไปทำร้ายๆให้เป็นบาดแผลต่อชีวิต แต่ครั้งนี้นับว่าเป็นคราวมหาซวยของพวกเขาที่มาเจอหนึ่งน้อง สะพานสายหลักของเด่นดวงที่จะเข้าถึงตัวพ่อเลี้ยงคำตัน
นางแก้ว เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 เม.ย. 2555, 20:26:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 เม.ย. 2555, 20:26:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 1554
| << เหนือสุดยอดในสยาม | โจทก์เก่า >> |
แว่นใส 15 เม.ย. 2555, 21:34:10 น.
วางแผนหรือว่ามันมาเอง
วางแผนหรือว่ามันมาเอง
nutcha 16 เม.ย. 2555, 03:25:24 น.
กะล่อนเบอร์สามออกลาย
กะล่อนเบอร์สามออกลาย
ling 17 เม.ย. 2555, 01:14:40 น.
ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้ ^_^
ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้ ^_^
นางแก้ว 17 เม.ย. 2555, 10:16:02 น.
เหตุการณ์สร้างวีรบุรุษค่ะ
เหตุการณ์สร้างวีรบุรุษค่ะ