จับใจไว้ด้วยรัก
เรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มฉายา เจ้าชู้หลบใน กับหญิงสาวที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่เรื่องแต่งงาน เรื่องราวความรักที่สุดแสนจะปั่นป่วนเริ่มขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งตามตื้อ ส่วนอีกฝ่ายก็คอยวิ่งหนี เขาจะทำให้เธอหันมามองและเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตได้ไหม ติดตามได้ใน 'จับใจไว้ด้วยรัก'
Tags: หวาน,น่ารัก,โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 8

ตอนที่ 7

กรวีร์ถอดเสื้อสูทส่งให้สาวใช้ที่ปราดเข้ามารับ ก่อนจะรูดเนกไทสีดำเหลือบเงินออกจากคอส่งให้แล้วเดินขึ้นไปบนบ้านโดยมีวีรพัชรเดินถือกระเป๋าเอกสารตามขึ้นมาด้วย ส่วนพัชระกับธัชพลเดินแยกไปยังเรือนพักของตนด้านหลัง ชายหนุ่มเดินผ่านห้องนั่งเล่นโดยไม่ได้สนใจว่ามารดาและน้องชายทรพีจะมุงดูอะไรกันอยู่

คุณมีนาเหลือบมาเห็นลูกชายคนโตกำลังจะเดินขึ้นห้องก็รีบเรียกเอาไว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอกำลังอารมณ์ดีมากๆกับอะไรบางอย่างที่ลูกชายคนเล็กนำมาให้ดู และพอเห็นหนึ่งในตัวเอกของ ‘คลิป’ เดินผ่านมาจึงอดที่จะเรียกไว้ไม่ได้

ไม่ได้เรียกว่าเห็นใจหรอกนะ...แต่จะเรียกมาซ้ำเติม!

“ตาวีร์...มานี่หน่อยเร็ว” ก่อนจะรีบเรียกเลขาหนุ่มแว่นของลูกชายเอาไว้ด้วย “วีรพัชรด้วยมานี่เร็ว...แม่มีอะไรให้ดู”

“อะไรครับแม่...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับวีรพัชรด้วย อยากบอกนะว่าจะหาคู่ให้เลขาผมน่ะ” ชายหนุ่มแกล้งแซว ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างมารดา มือหนาโอบร่างบางเอาไว้ก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่

คุณมีนาค้อนขวับ ส่วนคนที่จะถูกหาคู่ได้แต่ยิ้มเย็น “ผมไม่ขอมีแฟนก่อนคุณวีร์แน่ครับ...คุณท่าน”

“งั้นเหรอ...งั้นเดี่ยวแต่งพร้อมกันเลยนะปลายปี เพราะดูท่าใครบางคนกำลังจะตกลงหลุมรัก”

กรวีร์เลิกคิ้ว “ใครกันครับแม่...นายวิชญ์เหรอ?”

“ผมอยากแต่งกับงานมากกว่า คนนี้ต่างหาก” กรวิชญ์สวนกลับ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือของตนส่งไปให้พี่ชายที่รับไปดูอย่างงงๆ วีรพัชรที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ชะโงกหน้าข้ามไหล่เจ้านายหนุ่มมาดูภาพเคลื่อนไหวนั้นอย่างสนใจ

หนุ่มแว่นอ้าปากค้างไม่กล้าส่งเสียงใดๆออกมาเมื่อเห็นว่าคนในคลิปวีดีโอคือเจ้านายของตน ส่วนผู้หญิงนั้นคือ พนักงานกิตติมศักดิ์คนใหม่ที่เจ้านายเขาพยายามจะหนีมาตลอด แล้วนี่ไปเจอกันตอนไหนหว่า?

ชายหนุ่มรู้สึกเกร็งมากขึ้นอีกเมื่อเห็นชอตเด็ดที่เรียกเอาเลือดหล่อเลี้ยงใบหน้าของเจ้านายให้หายไปจนเกลี้ยง

‘อ้าว!ทำไมล่ะครับ หรือว่าน้องเบญรังเกียจที่จะไปทานข้าวกับพี่’

‘ค่ะ...รังเกียจ’

ภาพเคลื่อนไหวนั้นหยุดลง หน้าจอโทรศัพท์มืดสนิท กรวีร์เริ่มอยากจะใช้มารยาหญิงแกล้งเป็นลมบ้างอะไรบ้าง เมื่อเห็นว่ามารดานั้นมองเขาอย่างขำๆปนสะใจ ส่วนน้องชายตัวต้นเรื่องก็หัวเราะร่าอย่างไม่ปิดบัง วีรพัชรเองก็ได้แต่แอบขำในใจ ไม่กล้าแสดงออกมากนักเพราะกลัวตกงาน แต่ก็คิดอยู่ว่าต้องเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนอีกสองคนฟังแน่นอน

“ไงล่ะ...น้องเบญของแม่เด็ดไหม...สมน้ำหน้า...นี่ถ้าแม่เป็นน้องเบญนะแม่จะตบพี่วีร์ซ้ายขวา เอาให้หมดหล่อไปเลย ไม่ใช่แค่ด่าหรอก” คุณมีนาบอกจริงจัง

“แม่ครับ....กรณีแบบนี้คนเป็นแม่ควรจะปลอบใจลูกตัวเองนะ ไม่ใช่ไปเข้าข้างลูกคนอื่น” กรวีร์เอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรงบอกมารดาเสียงขุ่น

“เอ้า! ...น้องเบญน่ะคนอื่นที่ไหน ลูกสาวนอกไส้ของแม่เลยนะ”

“แม่ครับ...”ชายหนุ่มครางอย่างอ่อนใจ จนคนเป็นแม่อดสงสารไม่ได้

“ก็ได้ๆ พี่วีร์อย่าเศร้าใจไปเลยลูก ก็แค่ผู้หญิงเขาเกลียดลูกชายสุดหล่อคนนี้ แค่นี้เอง เรื่องจิ๊บๆ พี่วีร์ของแม่บ่ยั่นอยู่แล้ว ขนาดไปทำสาวท้อง พี่วีร์ของแม่ยังปฏิเสธได้หน้าตาเฉย เรื่องแค่นี้...หูย...อย่าได้แคร์ลูกจ๋า...” คุณมีนาลูบหัวลูบไหล่ลูกชายคนโต พร้อมพูดปลอบ?

แต่แต่ละคำที่พูดออกมากลับทำให้กรวีร์รู้สึกเหมือนจะเป็นไมเกรนกะทันหัน

“...เป็นไง...แบบนี้พอใจยัง?” คุณมีนาถามกลับหน้าซื่อ พร้อมกระพริบตาปริบๆใส่ลูกชาย จนอีกฝ่ายโกรธไม่ลง

“ครับ...”ชายหนุ่มย้ำเสียงหนัก “...พอใจมาก!”

คุณมีนายักไหล่อย่างไม่แคร์ต่อน้ำเสียงประชดประชันนั้น เธอหันไปหาลูกชายคนเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์แบบริงไซด์แล้วสอบถามนู่นนี่นั่นอีกนิดหน่อย ซึ่งกรวิชญ์ก็ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวที่ดีรายงานแบบละเอียดยิบตั้งแต่ช่วงที่ตนเองมาถึงตรงจุดนั้นแบบไม่ขาดไปสักประโยคเดียว

คุณมีนาฟังไปก็หัวเราะชอบใจกับความใจเด็ดของเบญญาภา นี่สิ! ว่าที่ลูกสะใภ้ในฝัน คิดเป็น ทำเป็น แถมยังสวยอีกต่างหาก

หากใครปล่อยให้หลุดมือไปก็โง่แล้ว และแน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมโง่เด็ดขาด ติดอยู่ที่ว่าพ่อลูกชายตัวดีของเธอจะยอมไม่โง่ด้วยหรือเปล่าเถอะ...ยิ่งไม่ค่อยใช้สมองเรื่องผู้หญิงอยู่ด้วย

เธอปรายตามองลูกชายคนโตที่กำลังพยายามจะเขกกะโหลกน้องชายของตัวเองอยู่อย่างหมายมาด...

“นี่พี่วีร์...แม่ขอสั่งให้พี่วีร์ไปขอโทษน้องเบญเลยนะ”

“ถึงแม่ไม่บอกผมก็ตั้งใจไว้แบบนั้นอยู่แล้วครับ” เขาบอกโดยที่มือหนายังไม่ยอมหยุดหาหนทางเล่นงานกรวิชญ์ที่เอาแม่เป็นกำบัง คุณมีนาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

“ทำไมคราวนี้ว่าง่ายนักล่ะ ปกติต้องมีเถียงบ้างไรบ้าง”

ชายหนุ่มยักไหล่ “ก็...คนทำผิดจะรับผิดก็ไม่แปลกนี่ครับ แม่ชอบมองผมในแง่ร้ายเรื่อย”

“ก็ปกติพี่วีร์ไม่มีดีให้แม่มอง”

“เจ็บนะเนี่ย แต่เอาเถอะผมไม่สนหรอก...”กรวีร์ลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินกลับขึ้นห้องนอน ส่วนวีรพัชรนั้นกลับไปยังที่พักของตนตั้งแต่คลิปวีดีโอจบลงได้ไม่นานเพราะหมดหน้าที่แล้ว เขายิ้มกว้างให้มารดา ยักคิ้วแผล็บให้น้องชายที่มองมา

“...พรุ่งนี้คุณแม่เตรียมฟังข่าวดีได้เลย” ร่างสูงเดินผิวปากจากไปอย่างอารมณ์ดี

คุณมีนามองและตะโกนตามหลังไป “แล้วก็อย่าลืมย้ายน้องเบญขึ้นมาทำงานด้วยกันเสียนะพี่วีร์”

“คร้าบ...”

กรวิชญ์มองท่าทางอารมณ์ดีของพี่ชายอย่างหมั่นไส้ คุณมีนาเองก็งงไปเหมือนกัน ปกติหากโดนว่าไปแบบเมื่อกี้ กรวีร์ต้องหาทางโต้กลับจนเธอเป็นฝ่ายพ่าย

“แม่ว่าพี่วีร์ดูแหม่งๆนะน้องวิชญ์”

“วิชญ์ก็ว่างั้น...แต่แม่ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ”ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ คุณมีนาเอียงคอมองอย่างสงสัย สุดท้ายก็เอ่ยปากถาม

“น้องวิชญ์หมายความว่าไงอ่ะ...แม่ชักจะก๊งแล้วนะ”

“ก็...น้องเบญน่ะไม่ยอมยกโทษให้พี่วีร์ง่ายๆหรอก อีกอย่าง...ผู้ชายแบบพี่วีร์น่ะ น้องเบญเกลียดเข้าไส้เลย” เขาอธิบายถึงเรื่องวิธีแก้เผ็ดผู้ชายเจ้าชู้เมื่อสมัยเรียนของเบญญาภาให้มารดาฟัง

คุณมีนาฟังไปก็ลอบกลืนน้ำลายอย่างหวาดแทนพ่อลูกชายเสือผู้หญิงของตน แต่แหม...เท่าที่ฟังดูวิธีของน้องเบญนี่ก็เด็ดแหะ

“แล้วแบบนี่พี่วีร์จะช้ำในตายไหมเนี่ยน้องวิชญ์ แม่ยังอยากมีหลานนะ”

“โธ่แม่ครับ...ให้พี่วีร์โดนซะบ้าง จะได้เห็นคุณค่าของผู้หญิง ไม่ใช่พอสุขสมและก็เขวี้ยงทิ้งอย่างที่ผ่านๆมาหรือถ้าแม่ไม่เห็นด้วย วิชญ์ก็จะปล่อยให้เบญโดนทิ้งแบบคนอื่นแล้วกัน” กรวิชญ์แกล้งบอก เขาหันหน้าหนีไปอีกทางปล่อยให้มารดานั่งใช้ความคิด แต่เขามั่นใจว่ายังไงซะงานนี้พี่ชายของตนดวงตกแบบกู้ไม่ขึ้นแน่นอน

และแล้วชายหนุ่มก็ลอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เมื่อคุณมีนาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยังติดจะลังเลน้อยๆ

“ก็...ก็ได้...เฮ้อ...หวังว่าน้องเบญจะไม่เล่นงานลูกชายแม่จนโคม่าไปก่อนนะ” บอกอย่างปลงๆ ก่อนจะหันไปฝากฝังกับลูกชายคนเล็ก

“น้องวิชญ์ก็ช่วยๆพี่วีร์เขาด้วยนะลูก อย่าให้น้องเบญแกล้งหนักมือนัก”

เขายิ้มกว้างนำหน้า “ครับแม่ ด้วยผมจะบอกน้องเบญให้”

‘แต่บอกว่าอย่าเบามือนะครับไม่ใช่อย่าหนักมือ หึหึ’

ประโยคนี้เขาคิดเอาในใจไม่พูดออกไป เดี๋ยวจะไม่สนุก ก่อนจะเดินประคองมารดขึ้นไปส่งยังห้องนอนของท่าน ส่วนตัวเองก็กลับเข้าห้องของตนไป


เบญญาภาผลักประตูห้องพักพนักงานเข้าไป หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานในช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งเธอต้องทำความสะอาดห้องพักจำนวนสิบห้องที่แขกเช็กเอ้าท์ออกไปแล้ว ถ้าให้เทียบกับทุกวันนั้นถือว่าวันนี้งานน้อยสุดแล้ว แต่ก็ยังใช้เวลาตลอดทั้งช่วงเช้าอยู่ดี

ขาเรียวหยุดชะงักอยู่หน้าประตูเพราะสายตาแปลกๆของเพื่อนร่วมงานที่มองมายังเธอพร้อมเพรียงกัน ทั้งสายตาฉงนสงสัยและสายตาแบบที่เธอไม่ชอบใจนั่นคือมองแบบเหยียดๆ

หญิงสาวค่อยก้าวเดินตรงไปยังล็อกเกอร์แม้จะยังคงแปลกใจกับท่าทางของเพื่อนร่วมงานบางคนที่ดูเหมือนโกรธแค้นเธอมานาน และเธอคนนั้นก็คือ บัวตอง สาวรุ่นพี่เธอประมาณสองสามปี อีกฝ่ายเป็นแม่บ้านประจำอยู่บนชั้นของผู้บริหารไม่ค่อยได้มีตารางมาเจอกันเท่าไหร่ แต่เท่าที่เคยพูดคุยด้วยสองครั้งเธอก็ตัดสินได้ว่าเจ้าหล่อนไม่ปลื้มหน้าเธอ เบญญาภาเลยเลี่ยงที่จะไม่เจอหน้า

หากแต่วันนี้กลับแปลก ก็ว่าไม่ได้เดินไปเหยียบเท้าสักหน่อยทำไมมาจ้องหน้าเธออย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวยักไหล่ คิดว่าคงเพราะกำลังหงุดหงิดอะไรมาเป็นแน่เลยมาลงกลับคนอื่น มือเรียวหยิบกระเป๋าเงินออกมา จัดการปิดประตูตู้เรียบร้อย ในระหว่างนั้นเองเสียงแหลมของบัวตองก็ดังขึ้นมา

“โอ๊ย... นี่พวกแกว่าไหม คนมันมีวาสนาจะได้เป็นคุณนายใครมันจะไปฉุดด้าย...มาทำงานไม่กี่วันก็มาแย่งงานของคนเขาแล้ว ทำความสะอาดห้องพักไม่กี่วันก็ได้ขึ้นไปทำความสะอาดชั้นผู้บริหารแล้ว ไม่รู้เอาอะไรไต่ พอจะบอกพวกเราบ้างได้ไหมจ๊ะเบญญาภา” บัวตองเหยียดยิ้ม พร้อมปรายตามองมายังเธอ เบญญาภานิ่วหน้า ‘นี่มันเรื่องอะไรกัน’

แต่ก่อนจะได้ถามออกไป เสียงทรงอำนาจตามวัยและประสบการณ์ของหัวหน้าแผนกก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน

“มีปัญหาอะไรงั้นรึบัวตอง...อยากจะทำงานในเวลาที่คนอื่นเขาพักเที่ยงกันอย่างนั้นเหรอ”

“เปล่าหรอกค่ะหัวหน้า...นังบัวตองมันก็แค่แม่บ้านต๊อกต๋อย จะไปกล้ามีปัญหาอะร๊าย...! เขาบอกให้เปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน ไม่ต้องดูว่ามาก่อนมาหลัง” บัวตองประชดประชัน

“ก็ดีที่รู้ตัว” หัวหน้างานสาวใหญ่บอกเสียงเรียบ ไม่บ่งบอกอารมณ์ ก่อนจะหันไปหาคนอื่น “เอาล่ะถ้าพวกหล่อนไม่มีอะไรสงสัยแล้วก็ไปพักได้...”

หัวหน้าหันกลับมาที่บัวตองอีกครั้ง “บ่ายโมงกลับมาจะได้เริ่มงานใหม่ของเธอ...บัวตอง” บัวตองตวัดสายตามองนังเด็กใหม่ที่ยืนหน้านิ่งอยู่ข้างหัวหน้าอย่าหงุดหงิดแกมหมั่นไส้

มีอย่างที่ไหนมาชุบมือเปิบแย่งงานบนชั้นบริหารที่แสนจะสะดวกสบายไปหน้าด้านๆ ให้เธอต้องกลับมาทำความสะอาดห้องพักแขก ต็อกๆอีกครั้ง ทั้งทีเธออุตส่าห์ดิ้นรนทำทุกอย่าง ยอมทนให้โขกสับเพื่อจะได้ไปทำงานยังชั้นนั้น แต่นังเด็กเมื่อวานซืนนี่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย!

บัวตองเดินกระแทกเท้าออกไปด้วยความเจ็บใจ ตามด้วยคนอื่นๆรวมทั้งเพื่อนร่วมงานสองคนที่เป็นมิตรกับเบญญาภาก็เดินตามออกไปเช่นกัน หญิงสาวมองตามอย่างกังวลใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ

“คุณเบญญาภาคะ...เดี๋ยวคุณขึ้นไปทำความสะอาดแผนกบริหารเดี๋ยวนี้เลยนะ จัดการให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาพัก” หัวหน้าสาวใหญ่บอกก่อนจะเดินออกไปพักบ้าง เบญญาภาอึ้งไป เมื่อได้สติแล้วก็เดินตามไป

“นี่มันอะไรกันคะ แผนกบริหาร? แต่...แต่ดิฉันไม่ได้มีหน้าที่ตรงส่วนนั้น”

“นับแต่นี้ไปหน้าที่ของคุณคือประจำอยู่ที่แผนกบริหารแทนบัวตอง”หัวหน้าสาวยังคงชี้แจงเสียงเรียบ เบญญาภาเม้มปากแน่นอย่างรู้สึกขัดใจจนต้องแย้งออกมา

“แต่หน้าที่นี้มันเป็นของพี่บัวตองนะคะ ดิฉันไม่อยากจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน กรุณาเปลี่ยนให้พี่บัวตองกลับมาทำงานเดิมเถอะค่ะ”

“ต้องขออภัยด้วยค่ะ...ดิฉันทำไม่ได้ ทางแผนกเราได้รับคำสั่งจากท่านประธานว่าให้คุณ...”คุณหัวหน้าเน้นเสียงหนักบอกให้รู้ว่าเธอคือคนที่ถูกเลือก “...เป็นคนมาทำความสะอาดประจำที่ชั้นนั้นแทนบัวตอง”

“หากคุณอยากจะขอเปลี่ยนก็คงต้องขึ้นไปบอกกับท่านฯเอาเอง...ถ้าหมดธุระแล้ว ดิฉันขอตัวไปพักก่อน”
เบญญาภาอึ้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธเมื่อรู้แล้วว่าอะไรและใครคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนร่วมงานโกรธเธอ ดูท่าที่โดนไปเมื่อวานจะไม่เข็ด อยากลองดีกับน้องเบญใช่ไหม เดี๋ยวจัดให้! คุณพี่วีร์ ฮึ่ม!

หญิงสาวเดินกลับเข้าไปในห้องพัก เก็บกระเป๋าเงินเข้าที่แล้วเข็นรถขนอุปกรณ์ทำความสะอาดตรงไปยังลิฟต์ขนของด้านเพื่อไปยังชั้นยี่สิบ ที่อยู่ของใครบางคน...


ร่างสูงกำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับโครงการประมูลที่ดินในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่คนต่างชาติและคนไทยด้วยกัน เพราะความสวยงามของธรรมชาติและปะการังใต้น้ำ ซึ่งเขามีแผนที่จะสร้างโรงแรมที่นั่นติดที่ว่ายังหาทำเลที่เหมาะสมยังไม่ได้ แต่ตอนนี้ดูท่าจะไม่ใช่...

“คุณแน่ใจนะว่าเรามีโอกาสที่จะได้ที่ดินผืนนี้” กรวีร์ถามหนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า คุณกรณ์ คือคนที่เขาเลือกขึ้นมาให้ทำหน้าที่ประมูลที่ดินในการสร้างโรงแรมมาตลอดหลายปีที่เขาเข้ามาบริหารงานและชายหนุ่มคนนี้ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง

“ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับท่านประธาน ถ้าได้งบประมาณตามที่ผมระบุไปในเอกสาร เราจะได้เปิดสขาใหม่ที่นั่นได้ภายในต้นปีหน้าแน่นอนครับ” กรณ์ตอบด้วยความมั่นใจ กรวีร์ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ มือหนาตวัดเซ็นอนุมัติทันที

เขาส่งแฟ้มนั้นให้กรณ์ก่อนจะสอบถามเรื่องอื่นๆ

“แล้วทางพวกไอ้ดนัยล่ะ”

“สายของผมที่อยู่ในนั้นบอกว่า นายดนัยก็พยายามวิ่งเต้นทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ที่ดินผืนนี้เหมือนกันครับ แต่คงยากเพราะเราบล็อกเอาไว้ทุกทางแล้ว ตอนนี้ก็เลยได้แต่เต้นผาง”

“หึ...การต้อนหมาให้เกือบจนตรอกนี่มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ”เขายิ้มย่อง “ชักอยากรู้ว่ามันจะทำยังไงต่อไป”

“หากมีการคืบหน้าผมจะมารายงานให้ท่านประธานทราบแน่นอนครับ”กรณ์บอก ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ กรวีร์โบกมือรับรู้ ชายหนุ่มกดอินเตอร์คอมเรียกให้เลขาหนุ่มแว่นเข้ามาในห้อง

“ท่านประธานมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”

“น้องเบญมารึยัง”

“ยังเลยครับ”

“นายโทรไปเร่งให้หน่อยสิ” วีรพัชรเลิกคิ้วเล็กน้อยกับอาการของผู้เป็นนาย “ก็ห้องมันรกเนี่ยนายไม่เห็นเหรอ”

“เห็นครับ...” เลขาหนุ่มดันแว่นขึ้น ตอบเสียงเรียบ “เห็นว่าท่านประธานแกล้งโยนของให้รกก่อนผมเข้ามานี่เอง ถ้าไม่เชื่อเช็กกล้องวงจรปิดก็ได้นะครับ”

“ไอ้...”เขาอยากจะด่าเลขาหนุ่มแว่นให้สะใจแต่นึกคำด่าไม่ออก จึงได้แต่สบถในใจแล้วมองอีกฝ่ายตาขุ่น

“ช่างหัวว่ามันจะรกเพราะอะไร เอาเป็นว่าฉันต้องการให้น้องเบญมาทำความสะอาดห้องให้เร็วที่สุด เข้าใจ?”

“คิดว่างั้นครับ” หนุ่มแว่นรับคำแบบที่เจ้านายอยากจะประเคนฝ่าเท้าให้เสียเหลือเกิน ไม่รู้ตอนนั้นอะไรดลใจให้ลากหมอนี่มาเป็นเลขา รู้งี้ปล่อยให้ไปเป็นทนายความอย่างที่อยากเสียก็ดีหรอก

“เออดี...แล้วของที่ฉันสั่งได้ยัง” เขารีบถามถึงของพิเศษบางอย่างที่สั่งให้พ่อเลขาจอมกวนหน้าตายไปซื้อมา

วีรพัชรถอนหายใจ

“ถ้าท่านประธานหันไปทางซ้ายมือก็คงจะพบกับคำตอบแล้วครับ”

กรวีร์กระพริบตาปริบๆ แต่ก็ยอมหันไปทางซ้ายมือก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นว่าของพิเศษและโต๊ะอาหารพร้อมอาหารนั้นวางตั้งอยู่เรียบร้อยแล้ว รอเวลาที่ผู้ร่วมโต๊ะอีกคนจะเดินทางมาถึงเท่านั้นเอง ชายหนุ่มยิ้มกริ่มแล้วโบกมือให้อีกฝ่ายกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง


เบญญาภาเข็นรถขนอุปกรณ์ทำความสะอาดขึ้นมาถึงชั้นเป้าหมายแล้วก็จัดการทำตามหน้าที่ของตนทันทีหวังว่าจะได้ไปพักกลางวันโดยเร็วเพราะตอนนี้ก็กินเวลามาแล้วเกือบครึ่ง ร่างบางหยิบไม้ขนไก่ขึ้นมาปัดฝุ่นที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟารับแขกที่เธอเคยมาใช้บริการครั้งหนึ่งอย่างว่องไวแต่สะอาด ไม่สนใจสายตาของเลขาหนุ่มที่นั่งมองอึ้งๆ

วีรพัชรขยับแว่น ลุกขึ้นเดินตรงไปยังหญิงสาว แล้วทำหน้าที่กามเทพ... เอ๊ย! ...เลขาที่ดีทันที

“คุณเบญญาภาครับ...ท่าประธานบอกว่าหากคุณมาถึงแล้วให้เชิญข้างในได้เลยครับ”

“ค่ะ”ร่างบางรับคำ เดินกลับไปที่รถเข็นเตรียมจะเข็นเข้าอยู่แล้ว แต่เสียงราบเรียบไร้อารมณ์ของหนุ่มแว่นดังขึ้นขัดเอาไว้

“ไม่ต้องเข็นเข้าไปหรอกครับ...ท่านประธานไม่ได้จะให้เข้าไปทำความสะอาด”

“อ้าว... ไม่ได้ให้ทำความสะอาดงั้นเหรอ” หญิงสาวทวนคำเบาๆ เริ่มระวังตัวขึ้นมาเล็กน้อย

เธอหรี่ตามองหน้าเลขาหนุ่มอย่างจับผิด แต่ก็ไม่พบพิรุธใดจากอดีตว่าที่ทนาย นอกจากนั้นยังผายมือไปยังประตูห้องอย่างสุภาพ สุดท้ายก็ยอมวางของทุกอย่างลงแล้วเดินตามเขาเข้าไป วีรพัชรเคาะประตูสามครั้งแล้วเปิดเข้าไป ชายหนุ่มเบี่ยงตัวติดประตูเปิดทางให้เธอได้เข้าไปก่อน

เบญญาภากวาดตาสำรวจห้องทำงานของประธานหนุ่มเจ้าเสน่ห์(สำหรับคนอื่นนะ...ไม่ใช่เธอ)อย่างสนใจ...

ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลขาว ตั้งแต่ผนังห้องติดวอลเปเปอร์สีน้ำตาลลายไม้ ประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันลายป่าไม้สีเขียวขจีหลังฝนตกมีหนดน้ำเกาะอยู่ตามใบไม้ ดูชุ่มชื้นเย็นตา...เย็นใจ

ที่พื้นปูด้วยพรมสีน้ำตาลโทนเดียวกับผนัง เครื่องเรือนทั้งหมดที่วางบนนั้น ตั้งแต่โต๊ะทำงาน โซฟารับแขก โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา ตู้วางเอกสาร ทั้งหมดล้วนเป็นสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีผนังและพรมได้อย่างมีสไตล์ อ้อ...ยกเว้นแต่เก้าอี้ที่ปากเสียนั่งอยู่เท่านั้นที่เป็นสีดำ

เบื้องหลังของโต๊ะทำงานคือกระจกด้านเดียวบานใหญ่ สามารถมองเห็นวิวใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานครได้อย่างชัดเจน ทุกอย่างในห้องนี้ล้วนแต่เนรมิตขึ้นมาตามความต้องการของเจ้าของห้องยามที่เข้ารับช่วงต่อห้องนี้จากมารดา

แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอคิดว่ามันไม่เหมาะกับห้องนี้เท่าไหร่ก็คือ...โต๊ะอาหารสแตนเลสแบบพับได้และเก้าอี้แบบเดียวกันทั้งสองตัววางอยู่ตรงพื้นที่ว่างด้านซ้ายของห้อง

“น้องเบญครับ”

หญิงสาวสะดุ้ง เบนสายตามาจากโต๊ะแสตนเลสตัวนั้นมามองใบหน้าคมคายที่ฉีกยิ้มวางจนเกือบถึงหู ราวกับตัวตลกโจ๊กเกอร์ สำหรับเขาไม่ใช่ตัวที่อยู่บนไพ่นะ แต่เป็นตัวที่อยู่ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ค้างคาวชื่อดังต่างหาก ร่างบางค่อยๆก้าวถอยหลังสร้างระยะห่างระหว่างเธอและเขา บอกตรงๆเธอไม่ค่อยจะไว้ใจผู้ชายมือไวใจง่าย(แถมปากเสียสุดๆ) อย่างกรวีร์ สิทธิวัติสักเท่าไหร่

“มีอะไรกับดิฉันคะ...ท่านประธาน” หญิงสาวถามกลับเสียงราบเรียบ กรวีร์อดยิ้มไม่ได้กับน้ำเสียงห่างเหินและท่าทางระแวดระวังภัยของเจ้าหล่อน

เขาล่ะอยากจะบอกเธอเหลือเกินไอ้ที่ทำอยู่นี่น่ะมันได้ทำให้ใครกลัวเล๊ย...ตรงกันข้ามมันกลับดึงดูดให้พวกที่ชอบความท้าทายให้ลองมาปราบพยศมากกว่าเช่น...เขา

ถ้าเบญญาภาเป็นเหมือนผู้หญิงอื่นที่เขาเคยควง เขาคงลากขึ้นเตียงไปตั้งเมื่อวานแล้ว ไม่ปล่อยให้มาทำหน้านิ่งใส่เขาอย่างนี้หรอก

ความจริงในใจนั้นจำต้องเก็บงำเอาไว้ เราะหากแสดงอาการ ‘หื่น’ ออกมาอย่างใจอยาก ลูกแมวน้อยตัวนี้คงเผ่นแผล๊วหายไป แล้วมารดาของเขาคงจะจับเขาหมกป่าที่ไหนซักแห่งเป็นแน่ โทษฐานทำตัวรุ่มร่ามกับลูกสาวนอกไส้

เขาตีสีหน้าอ่อนใจ แล้วบอกเสียงอ่อนเสียงหวาน แบบที่เบญญาภารู้สึกขนลุก

“โธ่...น้องเบญคะ...พี่วีร์บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกท่านประธาน ตอนนี้มีแต่คนกันเองทั้งนั้น...น้องเบญเรียกพี่วีร์ว่าพี่วีร์ดีกว่านะคะ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ... เราไม่รู้จักกันอะไรมากมายขนาดนั้น แค่เคยเจอกันครั้งสองครั้งตอนเด็กๆ”

“ใครว่าล่ะ น้องเบญมาเล่นที่บ้านพี่แทบทุกวัน แล้วอีกอย่างน้องเบญก็เป็นเพื่อนเจ้าวิชญ์ด้วย...”เขาฉีกยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้ “...เห็นไหมว่าเราสนิทกัน”

“เท่าที่ฟังดูยังไม่มีตรงไหนบอกว่าเราสนิทกัน กรุณาอย่ามาตีขลุมค่ะ...ท่านประธาน”เบญญาภาแย้งคนที่ทำเนียนมั่วว่าสนิทกับเธอ

“โธ่...ไม่รู้แหละพี่ถือว่าสนิทกัน เพราะฉะนั้น...” ร่างสูงก้าวกลับไปยังโต๊ะทำงาน หยิบดอกไม้ช่อใหญ่ติดมาตรงมายังเธอ มือหนายื่นช่อดอกไม้นั้นมาให้ พร้อมบอก

“นี่ครับ ดอกไม้สวยๆเหมาะกับคนสวยๆอย่างน้องเบญ พี่ให้เพื่อเป็นขอโทษเรื่องเมื่อวานและเป็นของขวัญต้อนรับของพี่ น้องเบญรับเอาไว้นะครับ”

เบญญาภาก้มมองดอกไม้ในมือเขาสลับกับใบหน้าคมคาย ร่างบางฉีกยิ้มหวานจนอีกฝ่ายถึงกับเคลิ้ม ราวกับลอยอยู่บนสวรรค์ ก่อนจะตกลงมาสู่นรกอย่างรวดเร็วด้วยประโยคนี้

“ขอบคุณค่ะ...แต่ดิฉันแพ้เกสรดอกไม้”

เพล้ง!

วีรพัชรที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้านาย รู้สึกว่าตนได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างแตกกระจาย เขาเหลือบมองว่าเจ้านายจะทำอย่างไร กรวีร์ยังคงยิ้มอยู่เหมือนเดิมแม้ในใจจะสวดเจริญพรน้องชายตัวมาร? ที่แกล้งบอกมาผิดๆ

ลงบัญชีดำไว้แล้วหนึ่ง...

“งั้นไม่เป็นไร ช่างดอกไม้มัน”ว่าแล้วเขาก็โยนของในมือไปด้านหลังอย่างไม่แยแสต่อราคาของมันแม้แต่น้อยทำเอาวีรพัชรผวาเข้ามารับแทบไม่ทัน เลขาหนุ่มเป่าปากดังฟู่ นึกสงสารเจ้าดอกไม้ช่องามที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเล๊ย แต่ต้องมาโดนโยนทิ้งซะนี่...

กรวีร์เดินนำไปยังโต๊ะสแตนเลสพับได้ที่เขาให้คนเอาเข้ามาตั้ง บนนั้นมีอาหารหลากหลายสัญชาติตั้งวางอยู่ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น อิตาเลียน แม้กระทั่งฝรั่งเศส ยกเว้นไทย

เขาหันกลับมาหาเธอแล้วบอก

“งั้นน้องเบญทานข้าวกับพี่สักมื้อนะครับ พี่ยังไม่ได้เลี้ยงขอโทษน้องเบญเลย”

“ดิฉันนัดกับเพื่อนไว้แล้วค่ะ”เธอโกหกหน้าตาเฉย “แล้วอีกอย่างดิฉันชอบาหารไทยมากกว่าค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”

เบญญาภายกมือไหว้ชายหนุ่มก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้เจ้าของห้องและเลขาหนุ่มแว่นยืนอึ้งไปตามๆกัน วีรพัชรยืนอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะมีสาวไหนกล้าปฏิเสธเสือหิวสุดหล่ออย่างเจ้านายเขา เขาจึงออกอาการทึ่งเล็กน้อย

แต่กรวีร์นั้นอึ้งเพราะไอ้ที่น้องชายเขาบอกมามันไม่ใช่เลยซักอย่าง ชายหนุ่มนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาย่องเข้าไปถามเรื่องของเบญญาภาแล้วเจ้าน้องชายตัวดีก็ตอบคำถามอย่างดีไม่มีอะไรบ่งบอกว่ามันจะวางยาเขาอย่างนี้!

‘น้องเบญชอบสีอะไร’

‘อ้อ...สีเทา’

‘มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษไหม’

‘มี๊...ดอกไม้ไง...ยิ่งเป็นดอกลิลลี่ด้วยแล้วยิ่งปลื้ม’

พอคิดถึงตรงนี้ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่ารอยยิ้มของไอ้ตัวดีมันแปลกๆไป แต่นาทีนั้นเขามัวแต่สนใจกับเรื่องราวของสาวน้อยเบญญาภามากกว่า นึกต่อไปแล้วยิ่งเจ็บใจ...

‘แล้วอาหารล่ะ น้องเบญชอบทานอะไร ไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาเลียน หรือฝรั่งเศส’

‘เขากินได้หมดแหละ...แต่ไม่ชอบอาหารไทย’

“โอ๊ย...ไอ้วิชญ์ ไอ้น้องเวร...แกตาย!”

เจ็บ! เจ็บอย่างหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ ชายหนุ่มยกมือทึ้งผมตัวเองอย่างหงุดหงิด ตะโกนอาฆาตน้องชายตัวดีดังลั่นห้อง งานนี้ต้องมีแหลกกันไปข้างและแน่นอนว่าข้างที่แหลกต้องเป็นมัน!... ไอ้น้องทรยศ!

และแล้วก็...ลงบัญชีดำๆไว้อีกหนึ่ง...

----------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่า ร้อนๆออกจากเตาเผา ความหายนะต่อเนื่องของพี่วีร์ยังคงมีต่อ รอเจอกันตอนหน้าค่ะ

ขอให้สนุกกับการอ่านคะ ติชมได้ค่ะ



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 เม.ย. 2555, 13:58:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2555, 17:18:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1664





<< ตอนที่ 7   ตอนที่ 9 >>
anOO 16 เม.ย. 2555, 19:07:58 น.
555 กะว่าน้องชายจะเข้าข้างใช่ไหมล่ะ
โดนซะแล้ว ชุดใหญ่ซะด้วย


Pat 16 เม.ย. 2555, 20:42:34 น.
5555สมน้ำหน้าพี่วีร์


Auuuu 16 เม.ย. 2555, 23:48:04 น.
555555 บอกได้คำเดียว สะใจจจจจ เอิ๊กๆๆๆ
แล้วนี่แม่บัวตองไม่รู้เลยหรอว่านางเอกเราเป็นใครมาจากไหน =="


เทียนจันทร์ 17 เม.ย. 2555, 17:34:54 น.
สะใจมาก อย่างี้ต้องโดน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account