จับใจไว้ด้วยรัก
เรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มฉายา เจ้าชู้หลบใน กับหญิงสาวที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่เรื่องแต่งงาน เรื่องราวความรักที่สุดแสนจะปั่นป่วนเริ่มขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งตามตื้อ ส่วนอีกฝ่ายก็คอยวิ่งหนี เขาจะทำให้เธอหันมามองและเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตได้ไหม ติดตามได้ใน 'จับใจไว้ด้วยรัก'
Tags: หวาน,น่ารัก,โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 9

ตอนที่ 8

“ไอ้วิชญ์...ไอ้แสบ...อยู่ไหนวะ ออกมาเดี๋ยวนี้!” กรวีร์ก้าวเร็วๆเข้ามาภายในบ้าน ตามมาด้วยสาวใช้ที่รีบวิ่งเข้ามารับเสื้อสูทที่เจ้านายโยนมาให้อย่างมีน้ำโห สาวใช้มองตามหลังคุณชายใหญ่ของบ้านที่เดินขึ้นไปด้านบนอย่างกับพายุ แล้วหันยิ้มแหยๆส่งให้วีรพัชรที่เดินเรื่อยๆถือกระเป๋าเอกสารเข้ามา

“คุณวีร์เป็นอะไรไปจ๊ะ...พี่พัชร”

“เลือดจะไปลมจะมา...อาการของคนวัยทอง...มะลิอย่าไปสนใจเลย เอาของไปเก็บไป” หนุ่มแว่นบอกหน้าตาย ชายหนุ่มเดินผ่านสาวใช้นามมะลิ ขึ้นไปยังห้องทำงานของกรวีร์ด้านบน

มะลิมองตามเลขาหนุ่มแว่นตาปริบ มือเรียวถูกยกขึ้นเกาศีรษะ “อะไรกันวะเนี่ย คุณวีร์เพิ่งจะสามสิบห้า จะวัยทองได้ไง...วุ้ย...มะลิล่ะงง” สุดท้ายก็ส่ายหัวเดินถือเสื้อสูทของเจ้านายไปเก็บบนห้อง

ข้างฝ่ายกรวีร์ก็เดินหาน้องชายทั่วบ้าน หน้าตาถมึงทึงจนสาวใช้ทั้งหลายต้องพากันหลบ จนระทั่งไปพบอีกฝ่ายกำลังนอนเอกเขนกอาบแดดอยู่ริมสระว่ายน้ำ ชายหนุ่มกัดฟันกรอด

‘หน๊อย...แกล้งฉันได้สำเร็จ เลยมานอนอาบแดดสบายอารมณ์เลยนะ...ไอ้น้องเวร’

เขาค่อยย่องเข้าไปใกล้ๆคนที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนผ้าขนหนูผืนใหญ่บนพื้น ไม่ได้รับรู้การมาเยือนของมัจจุราชหน้าหล่อนามว่า ‘กรวีร์’ ชายหนุ่มแสยะยิ้มดีใจที่น้องชายตัวดียังไม่รู้ตัว เมื่อเข้าไปใกล้จนได้ระยะสำหรับ ‘จัดการ’กรวิชญ์แล้ว ชายหนุ่มจึงยกเท้าขึ้นมาแล้วบรรจงยันเข้าชายโครงร่างผอมของน้องชายจนอีกฝ่ายกลิ้งตกน้ำไปด้วยความรวดเร็ว

กรวิชญ์พยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาสู่ผิวน้ำ เมื่อพ้นผิวน้ำแล้วเขาจึงรีบสูดอากาศหายใจเข้าไปและหันขวับไปมองตัวการด้วยดวงตาแดงก่ำ รีบโวยวายออกมาทันที

“ทำบ้าไร(วะ)เนี่ย...พี่วีร์ เกิดผมตายขึ้นมาคนหล่อๆก็หมดโลกพอดี”

“กล้าเนอะ เฮอะ!...คนหล่อๆ อย่างแกเนี่ยนะไปหาทางทำให้หน้าตัวเองดูแมนขึ้นมาก่อนเหอะ” กรวีร์มองคนที่อยู่ในน้ำด้วยหางตา แล้วต่อ

“...หน้าหวานซะผู้หญิงยังอาย”

“กระแทกจุดเจ็บอย่างนี้มาต่อยกันดีกว่าป่ะ” กรวิชญ์บอกเสียงขุ่น ตาคว่ำ เขาว่ายไปที่บันไดก่อนจะปีนขึ้นไปยืนประจันหน้ากับพี่ชาย

กรวีร์แสยะยิ้มอีกครั้ง แล้วใช้นิ้วจิ้มอกหนุ่มหน้าหวาน “ไม่กลัวหน้าหวานๆเป็นรอยเหรอจ๊ะ...น้องสาว...” ลากเสียงยาว จนกรวิชญ์แอบภาวนาให้เขาขาดใจตายไปเลย!

“ปากพี่นี่เสียสุดๆอย่างที่น้องเบญบอกไว้จริงๆด้วย”

“ไอ้วิชญ์! ฉันพี่แกนะเว้ย...ทำไมไม่เข้าข้างฉันวะ” ชายหนุ่มโวยวายกลบเกลื่อน กรวิชญ์ยักไหล่

“ก็เผอิญผมเป็นคนรักเพื่อนมากกว่าพี่ เพราะเห็นหน้าเพื่อนมากกว่าพี่น่ะ...ความผูกพันเลยไม่ค่อยจะมี”

“ไอ้วิชญ์...” กรวีร์กำหมัดแน่น ตาขวาง ชักทนไอ้น้องชายตัวดีที่ยังไม่รู้ตัวว่าทำความผิดเอาไว้ แล้วตอนนี้ยังมายืนด่าเขาปาวๆ

แต่อีกฝ่ายไม่สนใจเพราะยังคงพูดต่อไป

“ก็มันจริงนี่ พอกลับมาจากเมืองนอก พี่วีร์ก็มัวแต่ไปกกสาว บ้านช่องไม่กลับ เออ...จะว่าไปผมก็สงสัย มั่วหามรุ่งหามค่ำแบบนั้น ติดโรคมาบ้างป่ะเนี่ย...” หนุ่มหน้าหวานขมวดคิ้วอย่างใช่ความคิด

“...รีบๆไปตรวจซะนะ ถ้าเป็นจะได้รักษา บอกตรงๆผมยังอยากกำพร้าพี่ แม้พี่จะเฮงซวยหน่อยๆก็ตาม”

“ไอ้วิชญ์...ทนไม่ไหวแล้วโว้ย เอ็งตาย!” ว่าแล้วกรวีร์ก็ยิ้มเหี้ยม โผเข้าโรมรันกับน้องชายตัวดีที่ตั้งการ์ดเอาไว้รอเหมือนกัน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตุบตับไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ก็ไม่มีใครในบ้านออกมาดูหรือห้ามปรามการออกกำลัง(?) ของสองพี่น้องเลยแม้แต่คนเดียว...


คุณมีนาคอยกำกับให้สาวใช้ทั้งหลายยกจานอาหารออกมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะสั่งให้ใครสักคนขึ้นไปตามลูกชายทั้งสองให้ลงมาร่วมรับประทานอาหารเย็น ห้านาทีหลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นทางด้านหลังจึงพูดขึ้นโดยไม่หันไปดู มีป้าชื่น แม่บ้านใหญ่คนสนิทคอยทำตัวเป็นลูกขุนพลอยพยักอยู่ข้างๆ

“พี่วีร์ น้องวิชญ์มาทานข้าวเร็วลูก ...วันนี้แม่ลงมือทำเองเลยนะ มีของโปรดของลู...ว้าย!...ผีหลอก!”คุณมีนาร้องลั่นเมื่อหันกลับมาเห็นใบหน้าของลูกชายทั้งสองที่บัดนี้ดูไม่ได้เลย กรวีร์ยืนอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนกรวิชญ์ก็ยืนอยู่ทางขวา

เธอยกมือทาบอก ส่วนป้าชื่นก็แทบลมจับต้องให้สาวใช้วัยละอ่อนอีกสองคนคอยพยุง เมื่อเห็นใบหน้าที่เคยหล่อของเจ้านายหนุ่มน้อยทั้งสอง

คุณมีนาที่พอได้มองชัดแล้วว่าทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือลูกชายไม่ใช่อสุรกายที่ไหน ก็เปลี่ยนท่าทางมาเป็นกวาดสายตาพิจารณาอาการของทั้งคู่แทน...

กรวีร์ปากแตก แม้จะไม่เหลือคราบเลือดแล้วแต่ก็ยังทิ้งรอยเล็กๆสีม่วงอมแดงเอาไว้ ตาข้างซ้ายเขียวช้ำเป็นรอยจางๆแต่คาดว่าพรุ่งนี้คงไม่พ้นกลายเป็นพันธุ์เป็นแพนด้า เห็นทีพรุ่งนี้เธอคงต้องให้ใครไปหาใบไผ่มาให้แทะแทนทานข้าวเสียแล้ว...เฮ้อ!

พอหันไปอีกทางก็ต้องส่ายหัว ส่วนกรวิชญ์ก็แก้มโย้...เหมือนอมลูกมะนาวเอาไว้ทั้งลูก ปากแตกแบบที่เห็นคงต้องงดน้ำพริกอีกเป็นอาทิตย์ ตาข้างขวาเขียวไม่ต่างจากพี่ชาย...นี่เธอคงได้แพนด้าไปให้สวนสัตว์เชียงใหม่เพิ่มอีกตัวแล้วสินะ

คุณมีนาส่ายศีรษะเบาๆอย่างเหนื่อยใจที่อยู่ทั้งคู่เกิดอยากสานสัมพันธ์พี่น้องด้วยการแลกกำปั้นกันซะอย่างนั้น ลูกชายบ้านอื่นเขาทำแบบนี้เมื่อตอนเป็นเด็ก แต่พ่อสองหน่อนี่เกิดมาเป็นตอนโต เอ...หรือลูกเธอจะอายุสมองลดกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งกัน

ในขณะที่มารดากำลังครุ่นคิด คู่กรณีทั้งสองก็เหลือบมองหน้าของอีกฝ่ายแล้วยิ้มเย้ยใส่กันอย่างสะใจที่เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่

“นี่พวกลูกไปทำอะไรมา ฟัดกับน้องหมาเหรอ”

“เปล่าครับแม่ วิชญ์โดนใครบางคนที่ทำตัวเป็นขี้แพ้ชวนตีอัดมา” กรวิชญ์เข้ามากอดแขนมารดาแล้วฟ้องเสียงสั่น ถ้ามองดีจะเห็นหยาดน้ำใสๆเอ่อคลอ(เพราะเอาวาเป็กซ์ป้าย) ซึ่งนั่นก็ทำให้ป้าชื่น แม่บ้านใหญ่ที่หายจากการเป็นลมเมื่อครู่หันขวับไปมองคุณชายใหญ่ของบ้านตาเขียว โทษฐานที่ทำให้คุณชายเล็กคนโปรดของเธอหน้าเยิน

กรวิชญ์เห็นดังนั้นก็ผละจากแขนมารดาโผเข้าสู่อ้อมกอดของผู้อนุบาลในวัยเยาว์ ใบหน้าหวานเกินหญิงที่โผล่พ้นไหล่ของป้าชื่นนั้นจ้องหน้าพี่ชายแล้วยักคิ้วให้แผล็บ ส่งผลให้มุมปากกรวีร์กระตุกกึกๆอย่างเริ่มมีอารมณ์กับความแหลของน้องชาย(หรือสาว!?)

“น้อยๆหน่อย...แกเองก็ต่อยฉันเหมือนกันล่ะวะ”

“ผมป้องกันตัวเองนี่ ผิดด้วยเหรอที่ไม่ยอมให้พี่ใช้เป็นกระสอบทราย”

“ไอ้วิชญ์!...”กรวีร์เตรียมกระโจนเข้าเล่นงานน้องชายอีกรอบ ข้างฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมอยู่เฉยเตรียมลงสนามเช่นกันโดยการดันป้าชื่นที่ยืนอยู่ออกไปให้พ้นทางแล้วตั้งการ์ด

“หยุดก่อน...คุณลูกทั้งสอง” คุณมีนาเข้ามายืนขวางทั้งคู่เอาไว้ไม่ให้เกิดมวยไทยศึกสายเลือดแล้วไต่ถาม

“ตกลงใครเริ่มก่อน”

“พี่วีร์ / ไอ้วิชญ์ครับแม่!” ชายหนุ่มทั้งสองยืนถลึงตาใส่กันเหมือนเด็กๆทั้งยังเถียงกันไปมาข้ามหัวเธอ สุดท้ายคุณมีนาที่เริ่มโมโหจึงตะโกนสั่งเสียงเข้ม

“พอได้แล้วนะ คุณแม่รำคาญ...ถ้ายังไม่หยุดคืนนี้ก็ออกไปนอนที่สนามทั้งพี่ทั้งน้องเลย...” ร่างที่เริ่มท้วมของคุณมีนาเท้าเอวมองทั้งคู่สลับกันไปมา ก่อนถามขึ้นอีกครั้ง “...ตกลงจะหยุดไหม”

“หยุดครับแม่” ประสานตอบเสียงอ่อย รู้ด้วยจิตสำนึกและความคุ้นเคยดีว่าคราวนี้แม่พูดจริงและกำลังโกรธมากด้วย

คุณมีนามองท่าทางสำนึกผิดของสองพี่น้องอย่างพอใจ ชี้นิ้วสั่งให้แต่ละคนนั่งประจำที่ ส่วนเธอก็นั่งลงตำแหน่งประจำของตนเช่นเดียวกัน พอเห็นว่านั่งกันเรียบร้อยแล้วก็จัดการเปิดศาล ไต่สวนกันต่อ

“เอาล่ะทีนี้ก็เล่ามาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงต้องมาแลกกำปั้นกันอย่างกับเป็นนักมวยอย่างนี้...พี่วีร์เล่ามาก่อน”

อดีตท่านประธานแห่งเครือสิทธิวัตินิ่งฟังเรื่องจากทางฟังลูกชายคนโต ก่อนจะฟังอีกฝ่ายบ้างแล้วก็ได้ข้อสรุปว่าลูกชายทั้งสองของเธอต่างก็กวน...ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

“โธ่เอ๊ย...เรื่องแค่นี้เอง แกล้งกันไปมา พี่วีร์ก็เตือนน้องดีๆก็ได้ ไม่เห็นถึงกับลงไม้ลงมือ”

“ใช่ๆ...บอกดีๆก็ได้ น้องวิชญ์ไม่ดื้อหรอก แต่นี่อะไรมาถึงก็ถีบเฉย น้องวิชญ์กลิ้งเป็นลูกขนุนลงน้ำเลยนะแม่” กรวีร์พยักหน้าเห็นด้วยกับมารดาแล้วเสริมขึ้นเรียกคะแนนความสงสารอย่างเว่อร์จนพี่ชายต้องสะกิดเตือนด้วยเท้าใต้โต๊ะ

“น้องวิชญ์เองก็ด้วย ทำผิดแล้วก็ต้องขอโทษ คุณแม่ว่าคราวนี้น้องวิชญ์เริ่มเรื่องก่อนนะ ขอโทษพี่วีร์เลยเร็ว” คุณมีนาสั่ง กรวิชญ์เบ้ปากมองหน้าพี่ชายที่มองมาอย่างเหนือกว่า สุดท้ายชายหนุ่มก็ยอมเปิดปากอย่างเสียไม่ได้

“ขอโทษที่แกล้งขอรับ...คุณพี่ที่เคารพ”

“คุณมีนาพยักหน้าอย่างพอใจ หันไปทางลูกชายอีกคน

“พี่วีร์ก็ด้วย ขอโทษน้องซะ เราเองก็ทำเกินไป ดีที่น้องว่ายน้ำเป็น ไม่งั้นป่านนี้น้องวิชญ์ได้ไปเกิดใหม่แล้ว” กรวีร์หันไปมองน้องชายตัวดีที่ยิ้มกวนๆมาให้ พร้อมเร่งให้เขาขอโทษด้วยสายตา หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ล่ะนะ แต่ทำไงได้ตอนนี้ต้องเอาคุณนายแม่ไว้ก่อน รอจนเสร็จเรื่องแล้วค่อยเล่นงานไอ้ตัวดีก็ยังไม่สาย

ไม่เป็นไร...เขาถือคติที่ว่าช้าช้าได้พร้าเล่มงาม ถึงทีฉันเมื่อไหร่แกโนจัดหนักแน่...ไอ้น้องเลิฟ

“พี่ขอโทษแล้วกันนะนายวิชญ์ คราวหน้าจะไม่ถีบแกแล้ว” กรวิชญ์คิ้วกระตุกกับคำพูดซ่อนนัยยะของพี่ชาย นี่มันหมายความว่าคราวหน้าเขาคงโดนอะไรที่หนักกว่าถีบสินะ

“ดีมากจ๊ะ จบเรื่องแล้วก็ทานข้าวกันดีกว่า” คุณมีนายิ้มกว้างพอใจที่ลูกชายทั้งสองยอมลงให้กันแล้ว โดยแสร้งทำเป็นไม่สนใจประกายไฟเปรี๊ยะๆทางสายตาของทั้งคู่


หลังจากรับประทานอาหารเสร็จกรวีร์ก็ผูกขาดการพามารดาไปส่งที่ห้องนอนตัดหน้ากรวิชญ์ที่มักจะเป็นคนทำหน้าที่นี้ เพราะวันนี้เขามีบางอย่างเกี่ยวกับเบญญาภาที่ต้องขอร้องให้มารดาช่วย จะไปหวังพึ่งกรวิชญ์ก็คงไม่ได้ เนื่องจากไอ้ตัวดีแปรพักต์ไปเรียบร้อยแล้ว และเขาก็มั่นใจว่าไอ้ตัวแสบคงจะต้องเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้หญิงสาวฟัง ป่านนี้คงจะหัวเราะคิกคักสนุกสนานกันไป

ไม่เป็นไรเขายอมต่อให้ก่อน เขายังไม่รู้จักเบญญาภามากนัก รอให้เก็บข้อมูลได้ครบเมื่อไหร่ จะเดินหน้าดับเครื่องชนเอาให้ล้มไม่เป็นกระบวนลงมาซบอกเขาเสียเลย ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งข้างมารดาเอนตัวไปกอดอ้อนเหมือนเด็กๆ

“วันนี้แม่จะอ่านเรื่องอะไรครับ เดี๋ยวพี่วีร์หยิบให้” เขาบอกเสียงนุ่มเอาใจ คุณมีนาหรี่ตามองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ เนื่องจากลูกชายคนโตไม่ค่อยอยากจะมาทำอะไรแบบนี้ให้เท่าไหร่ ส่วนมากมักจะไปเอาใจสาวๆมากกว่า

“คุณแม่ว่าจะอ่านเรื่อง ‘จับตายลูกชายเจ้าแผนการ’ น่ะ”

กรวีร์เหวอไป นี่นิยายสมัยนี้มีชื่อเรื่องแปลกๆแบบนี้ด้วยเหรอ

“เอ่อ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรน่ะครับ แล้วแม่ไปซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตั้งแต่พี่วีร์เริ่มเจ้าเล่ห์ยังไงล่ะ”

“โธ่...แม่ก็” เขาโอดที่โดนมารดารู้ทัน คุณมีนามองค้อน

“ว่าไงล่ะ...ตกลงว่าพี่วีร์มีเรื่องอะไรจะใช้คุณแม่”

“โอ๊ย...ผมไม่กล้าใช้คุณแม่หรอกครับ แค่มีเรื่องจะขอร้อง” ชายหนุ่มเลื่อนลงไปนั่งที่พื้น เอาคางเกยตักของมารดาแล้วอ้อน คุณมีนามองท่าทางน่าเอ็นดูนั้นอย่างหมั่นไส้ จะอย่างไรลูกก็คือลูก ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังรักยังห่วง ยากลำบากแค่ไหนก็สรรหามาให้ทุกอย่างที่ลูกต้องการ...นี่คือความรักของผู้เป็นแม่ ที่ไม่มีใครเทียบได้

“ว่ามา แต่ขอแม่เดาว่าต้องเป็นเรื่องของน้องเบญใช่ไหม”

“เก่งเกินใครคือแม่ของพี่วีร์คนนี้นี่แหละ...ครับ...เรื่องน้องเบญ”

“ไหนวันนี้พี่วีร์บอกว่าจะมีข่าวดีให้แม่ไม่ใช่เหรอ” เธอแกล้งขัดคอ ยิ้มขำกับหน้ามุ่ยๆของลูกชาย

“ก็...มันผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย...ไอ้น้องวิชญ์ตัวดีของคุณแม่มันทรยศผมนี่”

“แต่พี่วีร์ไปแกล้งเพื่อนเขาก่อนนา”

“ก็ผมไม่รู้นี่ว่าน้องเบญจะสวยขนาดนี้ ถ้ารู้ผมคงไม่ปากพล่อยไปหรอก” เขาแก้ตัว คุณมีนาส่ายหัวที่ลูกชายยังคงไม่สำนึก

“จะรู้ไม่รู้พี่วีร์ก็ไม่ควรจะไปพูดอย่างนั้น ไม่คิดเหรอว่าน้องเบญจะเสียใจแค่ไหน แล้วก็นะ คนเราเขาไม่ได้วัดกันที่ว่าสวยไม่สวย เขาวัดกันที่จิตใจ...” คุณมีนาลูบผมสีดำหนาของลูกชาย “...ดูอย่างแม่พวกสวยแต่รูป สมองกลวงอย่างที่พี่วีร์เคยควงๆมาสิ หน้าตากับจิตใจไปกันคนละทิศ”

“ครับผม...”ชายหนุ่มลากเสียงยาวไปงั้นๆ ไม่ได้ซึมซับเข้าไปในสมองเท่าไหร่ ก็แน่ล่ะที่แล้วๆมาเขาควงแม่พวกนั้นเล่น ไม่ได้คิดจริงอะไร คราวนี้ก็เหมือนกัน...

แม้เบญญาภาจะเป็นผู้หญิงที่สู้อะไรกับที่เคยควงมาไม่ได้ แต่มันมีบางอย่างในตัวของเธอที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของเขาอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ถ้าจะให้เปรียบเบญญาภากับสัตว์ป่าล่ะก็...อืม...เม่นล่ะมั้ง ยามอยู่เฉยๆก็ดูสวยงาม หนามแหลมบนหลังก็ไม่มีอันตราย แต่หากยามใดที่รู้สึกได้ว่ามีภัยมาใกล้ก็จะกางขนแหลมแข็งๆนั่นป้องกันตนเอง ทำให้มันยากต่อการจับ

แต่ว่าไอ้อะไรที่ได้มายากๆมันก็ยิ่งน่าท้าทาย อยากรู้นักว่าจะสนุกแค่ไหนถ้าเสืออย่างเขาจะตะปบเม่นสาวตัวน้อยเล่น

ยังไงก็ตามเขาเป็นคนเบื่อง่าย พอได้มาครองแล้วก็คงทิ้งเหมือนที่ผ่านๆมา อาจจะต่างกันหน่อยก็ตรงที่คนนี้กะจะขอควงซักสองอาทิตย์ก่อนแล้วค่อยโบกมือลา เขายังไม่อยากจะเสียสละความโสดอันหอมหวานนี้ให้กับสาวใดทั้งนั้น

ก่อนจะไปคิดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้ตั้งพิชิตใจสาวเจ้าให้ได้เสียก่อน และกุญแจสำหรับด่านแรกก็นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง กรวีร์รีบเข้าเรื่องก่อนที่มารดาจะพาออกทะเลไปอีก

“ผมจะพยายามปรับปรุงตัวนะ แต่ตอนนี้แม่ช่วยทำให้น้องเบญของแม่ยอมไปทานข้าวกับผมก่อนได้ไหม”

“งานยากมาก...”คุณมีนาบอกพลางทำท่าครุ่นคิด กรวีร์เลยรีบยื่นข้อเสนอตัดความลังเลของมารดา

“งานหนังสือฯคราวหน้าผมออกงบให้ไม่อั้น ตกลงไหมครับ”

“จัดไปอย่าได้เสีย...พรุ่งนี้มื้อเย็นน้องเบญไปทานข้างกับพี่วีร์แน่...คุณแม่รับรอง” กรวีร์ยิ้มชอบใจ อ้าแขนโอบรอบเอวมารดา หอมแก้มไปฟอดใหญ่ กล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วกลับห้องไป

“ขอบคุณมากครับ...ราตรีสวัสดิ์ครับแม่”

คุณมีนามองตาหลังไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวว่างานนี้เธอได้ลูกสะใภ้ใหญ่สมใจแล้ว...


เบญญาภาปิดประตูล็อกเกอร์ของตน ก่อนจะเดินไปตอกบัตรเข้างาน จากนั้นก็เดินไปดูตารางงานของตนเอง ก็พบว่าหลังชื่อของตนมีกระดาษกำกับว่า ‘ประจำชั้นผู้บริหาร’ ร่างบางถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ที่กรวีร์ไม่ยอมให้เธอกลับมาทำงานเดิม

หมุนตัวกลับเตรียมเดินไปที่รถเข็นอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อไปทำตามหน้าที ก็พบกับบัวตองมาดักหน้าขวางทาง พร้อมด้วยพนักงานที่เธอรู้มาว่าเป็นคนสนิทของอีกฝ่ายสองคนด้านหลัง บัวตองมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเคียดแค้น เมื่อวานเธอโดนผู้จัดการเรียกไปต่อว่าที่กล้าไปมีปัญหากับเบญญาภาทำให้เธอรู้มาอีกว่าแม่นี่ไม่ใช่พนักงานระดับล่างชั้นเดียวกับเธอแต่เป็นเด็กเส้นที่ใหญ่มากๆ ก็ยิ่งเจ็บใจ คนธรรมดามันก็ต้องแพ้คนรวยเป็นเรื่องปกติ

บัวตองเชิดหน้าเดินกระแทกเท้าชนไหล่บางออกไปไม่เหลือบแล เบญญาภาได้แต่มองตามอย่างหนักใจ จนปัญญาจะแก้ความเข้าใจผิดกับเพื่อนร่วมงานคนนี้อีก คงต้องปล่อยไปเฉยๆ หญิงสาวถอนหายใจเดินต่อไปยังจุดหมาย จัดการเตรียมอุปกรณ์แล้วเข็นออกไปเพื่อทำงานของช่วงเช้า

ร่างบางหยุดรถเข็นตรงหน้าลิฟต์ หยิบเครื่องดูดฝุ่นออกมาเสียบปลั๊กและจัดการเปิดเครื่องเริ่มต้นทำงานบนพื้นพรม เธอส่งยิ้มทักทายพ่อเลขาหนุ่มแว่นและก็ได้รับรอยยิ้มน้อยๆมาให้ ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ หางตาเหลือบเห็นเขากำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมา

เธอกำลังปิดเครื่องดูดฝุ่นพอดีตอนที่วีรพัชรเดินตรงเข้ามาหาใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉยเช่นปกติขณะที่บอกกับเธอว่า

“ท่านประธานเชิญข้างในครับ คุณเบญญาภา”

“ท่านฯมีธุระอะไรกับดิฉันคะ” หญิงสาวย้อนถามหน้านิ่ว ไม่อยากจะเจอหน้าคนที่สามารถทำให้เธอหงุดหงิดเพียงแค่ได้ยินชื่อ วีรพัชรส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่ทราบครับ ท่านฯแค่ให้มาเชิญคุณเข้าไป”

เบญญาภาอยากจะกรี๊ดอย่างขัดใจ ผู้ชายอะไรโดนไปขนาดนั้นแล้วยังไม่ยอมแพ้ สงสัยเธอคงจะเล่นเบาไป ได้...เดี๋ยวจะจัดไปในระดับที่คนอื่นเคยโดน หญิงสาววางแผนในใจก่อนจะเก็บของลงรถเข็นแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของเขา ยกมือเคาะประตูสามครั้งพอเป็นพิธีก็ได้ยินเสียงอนุญาตอ่อนโยนคุ้นหูอย่างไรชอบกล

“เชิญจ๊ะ”
เธอหมุนประตูให้เปิดออกแล้วก้าวเข้าไปข้างใน เบญญาภาตาโต เมื่อเห็นว่านอกจากเจ้าของห้องแล้วยังมีใครอยู่อีก “คุณป้า...” เธอคราง คุณมีนามองหน้าอึ้งของหญิงสาวอย่างเอ็นดู เธอเดินเข้าไปหาพร้อมกับดึงให้อีกฝ่ายตามมานั่งข้างๆ

“เป็นไงบ้างลูก...น้องเบญ เหนื่อยไหม พี่เขาใช้งานหนักรึเปล่า”

“หนักเป็นบางวันค่ะคุณป้า” หญิงสาวตอบตามความจริง คุณมีนายิ้มเอ็นดู เหลือบตามองพ่อลูกชายที่แกล้งทำเป็นง่วนอยู่กับการอ่านเอกสาร แต่หูนี่ผึ่งรอฟังเต็มที่

“เก่งมากจ๊ะ...คนเก่งของป้า ว่าแต่ตั้งแต่หนูกลับมานี่ป้ายังไม่ได้เลี้ยงตอบรับเลยนะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะคุณป้า...” เธอรีบปฏิเสธเพราะเกรงใจ “ ...แค่ยอมให้เบญมาฝึกงานที่นี่ก็มากพอแล้วค่ะ”

“มากอะไรกัน เราน่ะใช่คนอื่นคนไกลกันที่ไหน ป้าเห็นเรามาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูกป้าจริงๆเข้าไปทุกทีแล้ว หรือเราเห็นป้าเป็นคนอื่น” คุณมีนาแกล้งพูดอย่างน้อยใจ กรวีร์แอบขำการแสดงของมารดาที่น่ามอบลูกโลกทองคำให้จริงๆ เบญญาภาลำบากใจเกรงใจก็เกรงใจแต่ก็กลัวคุณป้าที่เคารพรักจะเสียใจ สุดท้ายก็ตัดสินใจออกไป

“งั้นก็แล้วแต่คุณป้าแล้วกันค่ะ”

“ต้องอย่างนี้สิลูก!” คุณมีนาแทบจะลุกขึ้นร้องแต่ต้องรักษามาดผู้ใหญ่ที่ควรแก่การเคารพเอาไว้ ส่วนกรวีร์ที่นั่งลุ้นมาตลอดว่าน้องเบญคนดีจะตกลงหลุมที่เขากับมารดาดักเอาไว้ไหมก็เป่าปากฟู่ ลอบยิ้มที่มุมปาก ยกนิ้วโป้งให้มารดาที่หันมาขยิบตาส่งให้

“งั้นเย็นนี้แล้วกันนะจ๊ะที่...”คุณมีนารีบบอกชื่อร้านอาหารฝรั่งเศสที่เธอพอจะรู้จักเพราะเคยไปทานกันเพื่อนครั้งหนึ่ง ก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นๆต่อ

เบญญาภารู้สึกผ่อนคลายที่กรวีร์ไม่เข้ามายุ่มย่ามกับเธออย่างที่นึกกลัวทำให้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คุยกับคุณมีนาได้อย่างออกรสมากกว่าปกติ หญิงสาวไม่รู้เลยว่าทุกเรื่องที่คุณมีนาถามนั้นกลายเป็นข้อมูลให้ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ที่นั่งอยู่โดดเดี่ยวได้อย่างดี

ทั้งสองคุยกันนานพอดู ก่อนที่คุณมีนาจะขอตัวกลับ แต่ก่อนกลับได้ทิ้งระเบิดลูกโตไว้ให้เบญญาภา

“ป้ากลับก่อนนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นเจอกัน อุ๊ยตาย...ป้าลืมไปว่าเย็นนี้ป้าต้องไปงานเลี้ยงของสมาคมฯกับคุณแม่ของหนู เอาเป็นว่าป้าส่งพี่วีร์ไปแทนแล้วกันนะจ๊ะ ฝากน้องด้วยนะตาวีร์ พาไปส่งก่อนสี่ทุ่มล่ะ” ส่งยิ้มหวานใส่ตาของเบญญาภาที่ยืนยิ้มค้าง ส่วนคนตัวสูงที่มายืนข้างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ก็ยิ้มกว้างบอกกับมารดาเสียงนุ่ม

“แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลน้องเบญอย่างดี”

ร่างบางหันขวับไปมองเขาแล้วก็หันไปมองคุณป้าคนดีเห็นรอยยิ้มแปลกๆของทั้งคู่ก็รู้เลยว่าเธอพลาด! เดินเข้าสู่กับดักของจอมวางแผนเสียแล้ว หญิงสาวกัดปากตัวเองแน่นอย่างเจ็บใจ จดบันทึกเอาไว้ว่าต้องเอาคืน

คล้อยหลังคุณมีนา กรวีร์ก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ทั้งปากทั้งตาให้เธอแล้วกระซิบบอก

“พลาดแล้วค่ะ...คนสวย”
----------------------------------------------------------------------------------------
เอาพี่วีร์มาส่ง นั่งเครื่องมาเลยทีเดียว ตอนนี้ให้น้องเบญโดนแกล้งไปก่อน เดี๋ยวตอนหน้า สมาคมคนเกลียดพี่วีร์ (ที่มีไรเตอร์เป็นแกนนำ) จะจัดให้สาสมใจ โฮะ โฮะ โฮะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ ติชมได้น้า >o<



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 เม.ย. 2555, 14:39:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 เม.ย. 2555, 14:39:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 1757





<< ตอนที่ 8   ตอนที่ 10 >>
anOO 29 เม.ย. 2555, 16:09:59 น.
อย่าเพิ่งดีใจไปพี่วีร์ น้องเบญน่าจะเตรียมการณ์รับมืออย่างดีแน่ๆ


Pat 29 เม.ย. 2555, 19:53:43 น.
รอตอนหน้า จัดเต็ม


pattisa 29 เม.ย. 2555, 19:57:26 น.
นายพี่วีร์เจ้าเล่ห์จริงๆ


Setia 30 เม.ย. 2555, 02:03:21 น.
หนอย อีตาพี่วีร์ กะคั่วน้องเบญอย่างเดียวแล้วชิ่งเหรอ
น้องเบญ จัดหนักให้อีตานี่เลย หมั่นไส้


กาซะลองพลัดถิ่น 1 พ.ค. 2555, 03:17:52 น.
โห ...คุณพี่วีร์โดนหนักแน่ ๆ 555....ประพฤติตนใหม่ดีไหมจ๊ะ อาจจะไม่เจ็บตัวและใจมากไปกว่านี้ ถ้าน้องเบญจะเอาคืนมั่ง .....รีบ ๆ เร็วเข้าคุณวีร์


pseudolife 3 พ.ค. 2555, 22:29:24 น.
ขอร่วมเกลียดพี่วีร์ด้วยค่า น้องเบญเอาคืนหนักๆ เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account