หลงบ่วงวิวาห์(จบจ้า)
วิวาห์พาหัวใจทั้งสองดวง
ให้หลงบ่วงสู่ห้วงแห่งรัก
ก่อเกิดเป็นวิมานร่วมทอถัก
สายใยรักปักลงกลางทรวง

Tags: รักโรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 3 ความบาดหมางใจ

สำหรับตอนนี้อ่านไปแล้วอาจมีคนเกลียดพี่ภูมากขึ้น เอิ๊กกก
ยังไงก็อย่าให้ถึงกับเลือกตกยางออกนะคะ ฮ่าๆ

..........................

“จะพาพี่ไปอาบน้ำที่ไหนเนี่ยหนูจ๋า ห้องน้ำไม่ได้อยู่ในบ้านหรือไง”

ภูธนิกร้องถามขณะเดินตามหญิงสาวออกมาทางหลังบ้านพร้อมกับอุปกรณ์อาบน้ำในมือ ที่บ่าไหล่ของคนร่างบางซึ่งเดินนำหน้าเขาอยู่นั้นมีผ้าขนหนูผืนหนาพาดอยู่

“อยู่!” จิรัชยาหันมาตอบเขาสั้นๆ ก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงท่าน้ำ

“อ้าว...แล้วพาพี่ออกมาข้างนอกทำไม” ภูธนิกยังทำท่าเหลอหลา แต่เมื่อมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายสลับกับลำคลองก็ถึงกับเต้นผาง

“นี่อย่าบอกนะว่าจะให้พี่อาบน้ำในคลองนั่น!”

“ค่ะ อาบในคลองนี่แหละ จะได้ชำระตราบาปออกให้หมดจด ขืนให้เข้าไปอาบในบ้านก็เปลืองน้ำแย่เลยกว่าจะลบรอยมลทินออกจากตัวพี่ภูหมด”

“ปากอย่างนี้มันน่าจับโยนไปสร้างมลทินในน้ำด้วยกันจริงๆ”

จิรัชยาเบ้ปากกับคำพูดสองแง่สองง่ามของเขาเพราะตัวเธอไม่คิดหรอกว่าเขาจะกล้าทำอย่างที่พูดจริงๆ เพราะนี่มันคลองหลังบ้านเธอแท้ๆ

“หนูจ๋าไม่ใช่คุณมุจลินทร์ ไม่ต้องมาทำเป็นพิศวาสนักก็ได้”

“แน่ล่ะ เธอน่ะมันไม่น่าพิศวาสเลยสักนิดเดียว” ภูธนิกพูดใส่หน้าก่อนจะเดินลงไปนั่งที่ขั้นบันไดท่าน้ำ แช่เท้าลงน้ำแล้วถอดเสื้อออกโยนมาให้เธอ

“โอ๊ย...มันโดนหน้าหนูจ๋านะ” หญิงสาวร้องแหวใส่เขาก่อนจะรีบหันหลังให้เพราะไม่คุ้นชินกับร่างกายของผู้ชายเลยสักนิด

“เอากางเกงไปด้วย”

แล้วกางเกงยีนตัวเก่งของเขาก็ลอยหวือมากองแทบเท้า จิรัชยาเม้มริมฝีปากแน่นที่ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่พาเขามาอาบน้ำที่นี่

“อย่าถอดหมดนะ ไม่อายผีสางเทวดาบ้างหรือไง” รีบดักคอแล้วต้องถอนหายใจโล่งอกเมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรลอยมาตกใกล้ๆ เธออีก

“พี่ภูอาบตรงนี้แหละ เดี๋ยวหนูจ๋าจะเอาเสื้อผ้าไปซักให้”

จิรัชยาบอกเขาแล้วเอาผ้าขนหนูไปวางไว้ให้ใกล้ๆ ตะกร้าสบู่เมื่อเห็นเขาลงไปดำผุดดำว่ายอยู่ในคลองน้ำที่ยังใสสะอาด ก่อนที่ตัวเองจะหอบเสื้อผ้าของเขาเดินกลับเข้ามาในบ้าน

“อ้าว...แล้วพี่เขาล่ะหนูจ๋า แล้วนั่นเสื้อผ้าใครน่ะ”

คุณรวงแก้วเอ่ยถามเมื่อเห็นบุตรสาวเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับเสื้อผ้าของใครก็ไม่รู้ในอ้อมแขน

“ของพี่ภูค่ะ หนูจ๋าจะเอาไปซัก”

“ของตาภู อ้าวแล้วเจ้าตัวเขาอยู่ไหนกันล่ะ ในห้องน้ำก็ไม่เห็นมี หรือว่าอาบน้ำเสร็จแล้วก็เลยกลับไปแล้ว”

“เปล่าหรอกค่ะ ยังอาบน้ำอยู่ค่ะแม่ ที่คลองหลังบ้านโน้น”

“หา! นี่เราให้พี่เขาไปอาบน้ำในคลองหรือหนูจ๋า” คุณรวงแก้วร้องเสียงหลงด้วยความตกใจกับการกระทำของบุตรสาว

“ก็จะเป็นไรไปล่ะคะแม่ น้ำในคลองน่ะมันสะอาดยิ่งกว่าตัวคนอาบอีกนะคะ แล้วหนูจ๋าก็ไม่เห็นว่าเขาจะบ่นอะไรเลยสักคำ”

“งั้นก็ดูแลกันเอาเองก็แล้วกัน แม่จะออกไปตลาดสักหน่อย เดี๋ยวจะไปซื้อของมาทำกับข้าวให้ตาภูเขาทานน่ะ”

“โธ่...ต้องลำบากทำไมกันคะแม่ มีอะไรในครัวก็ทำๆ ไปเถอะค่ะ ถ้าเขากินไม่ได้เดี๋ยวเขาก็กลับไปกินบ้านเขาเองนั่นแหละค่ะ...อูย...” พูดไปแล้วก็ต้องสูดปากเบาๆ ก่อนจะทำหน้าง้ำเมื่อถูกมารดาหยิกเข้าที่ต้นแขนทีหนึ่ง

“เรานี่นะ เป็นอย่างนี้ต่อไปเถอะ อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวพี่เขาจะหนี”

คุณรวงแก้วค้อนให้ลูกสาววงใหญ่ ก่อนจะชวนลูกหยีออกไปตลาดด้วยกัน ทิ้งให้จิรัชยากับภูธนิกอยู่เฝ้าบ้านด้วยกันตามลำพัง



จิรัชยาซักเสื้อผ้าให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปหาชายหนุ่มที่คลองหลังบ้านเพราะว่าทิ้งให้เขาอาบน้ำนานแล้วก็ยังไม่เห็นกลับเข้ามาสักที แล้วต้องแปลกใจเมื่อไปถึงแล้วพบว่าเขานอนหลับไปแล้วทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีผ้าขนหนูพันกายผืนเดียว

ร่างสูงใหญ่เปลือยตลอดช่วงอก นอนหนุนแขนตัวเองหลับตาพริ้ม ใบหน้าของเขานั้นอ่อนเยาว์กว่าเคยเมื่อจิรัชยาทำใจกล้าเดินเข้าไปเพ่งพิศใกล้ๆ เขานอนแผ่หลาอยู่บนท่าน้ำโดยไม่สนใจสิ่งรอบกายเลยสักนิด

“พี่ภูคะ...พี่ภู” หญิงสาวร้องเรียกเขาเบาๆ ออกจะอายๆ เสียด้วยซ้ำเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองเพิ่งจะแอบมองเรือนร่างสมส่วนและตึงแน่นไปด้วยมัดกล้ามของเขาเมื่อครู่

ภูธนิกรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงหวานร้องเรียกใกล้ๆ เขาลืมตาขึ้นมองก็เห็นใบหน้าเนียนใสชะโงกเงื้อมอยู่เหนือใบหน้าของเขา จึงเอ่ยถามไม่จริงจังนัก

“มีอะไรหนูจ๋า?”

“เอ่อ...หนูจ๋าเห็นพี่ภูอาบน้ำนานแล้วไม่เข้าบ้านสักที ก็เลยออกมาตามค่ะ” หญิงสาวพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติเมื่อยังรู้สึกเก้อกระดาก

“พี่ง่วง ขอนอนต่อสักพักเถอะ” เขาบอกแล้วทำท่าจะหลับตาลงไปใหม่

“ได้อย่างไรค่ะ จะมานอนอยู่ตรงนี้ในสภาพนี้นี่นะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าก็ได้หาว่าหนูจ๋าเลี้ยงชีเปลือยไว้ที่บ้านสิคะ” หญิงสาวไม่ยอมให้เขาได้ทำตามใจตัวเองเมื่อร้องโวยวายขึ้น

ภูธนิกทำเสียงจิจ๊ะในลำคออย่างขัดใจก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งในที่สุด แต่เมื่อเขาทำท่าจะลุกขึ้นยืนหญิงสาวก็มาร้องห้ามอีก

“ระวังค่ะระวัง...เดี๋ยวโป๊” จิรัชยาบอกอ้อมแอ้มในตอนท้ายเมื่อเห็นเขามองมาด้วยความรำคาญ

“จะกลัวโป๊ทำไม เดี๋ยวพอแต่งงานกันยิ่งกว่านี้อีก”

“ก็ตอนนี้ยังไม่แต่งนี่คะ พี่ภูก็ต้องระวังตัวเองบ้างสิ” จิรัชยาบอกแล้วก็รีบยกมือขึ้นปิดตาเมื่อเห็นว่าเขากำลังลุกขึ้นยืน

ภูธนิกหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูซึ่งเป็นครั้งแรกนับจากได้กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้พบกันอีกเลยเมื่อต่างก็เติบโตขึ้นในสังคมที่แตกต่างกัน เขาและจิรัชยาจึงดำเนินชีวิตกันมาคนละแบบโดยตลอด

“แสดงว่าแต่งแล้วก็ไม่ต้องระวังตัวเลยสิใช่ไหม นึกอยากจะถอดเมื่อไหร่ก็ถอดได้”

“พี่ภูหยาบคาย” จิรัชยาเปิดตาออกมาต่อว่าเขา ก่อนจะรีบเดินหนีเข้าบ้านเพราะไม่อยากเห็นร่างเกือบเปลือยของเขานานๆ เนื่องจากรับรู้ได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่มันผิดจังหวะ

“พูดเรื่องจริงก็หาว่าหยาบคาย”

ภูธนิกเดินตามมาติดๆ ซ้ำยังพูดต่อให้ได้อายแต่จิรัชยาก็ยังทำเป็นไม่สนใจเดินต่อไปจนถึงบ้านแล้วก็หยิบเสื้อผ้าตัวเก่าของบิดาที่มารดายังคงเก็บเอาไว้เป็นอย่างดีมาส่งให้เขา

“เสื้อผ้าของพ่อหนูจ๋า พี่ภูคงจะใส่ได้อยู่หรอกมั้ง”

“แล้วเสื้อผ้าพี่ล่ะ”

“ก็หนูจ๋าบอกแล้วไงคะว่าเอาไปซัก เอาไปซักมันก็ต้องเปียกสิ” หญิงสาวบอกเขาคล้ายกับรำคาญที่ถามอะไรไม่เข้าท่า ก่อนจะผลักเขาเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำพลางร้องถามเขาไปด้วย

“เสื้อผ้าแห้งแล้วพี่ภูจะกลับเลยหรือเปล่า”

ไม่มีเสียงตอบจากภูธนิกจนเมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วถึงได้เปิดประตูห้องน้ำออกมาตอบ

“กลับไปให้คุณแม่ไล่ตะเพิดฉันน่ะสิ”

“โดนคุณป้าสั่งให้มาอีกแล้วสิคะ” แววตาของหญิงสาวหม่นลงเล็กน้อยแต่เพียงชั่วแวบเดียวมันก็กลับมาเรียบสนิทดังเดิม

“มุกเดิม รู้แล้วยังจะถาม ก็เพราะเธอไม่ใช่หรือที่โทรไปฟ้องน่ะ”

“หนูจ๋าเปล่าโทรไปฟ้องสักหน่อย คุณป้าท่านโทรมาเองต่างหาก”

“ก็ถ้าแค่นั้นแล้วแม่ฉันจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าเมื่อวานฉันปล่อยเธอกลับบ้านคนเดียว”

“ก็คุณป้าท่านถาม หนูจ๋าก็ต้องบอกสิคะ” หญิงสาวตอบเฉย ไม่สนใจแววตาชวนหาเรื่องของชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย

“แล้วไหนเธอว่าไม่ใช่คนช่างฟ้องไงล่ะ”

“ฟ้องตรงไหนล่ะคะ ก็ท่านถามหนูจ๋าก็ต้องบอกสิ ถ้าจะให้โกหกแล้วทำไมพี่ภูไม่บอกหนูจ๋าไว้ล่ะคะ หนูจ๋าจะได้บอกคุณป้าให้ถูกใจพี่ภู”

จิรัชยาย่นจมูกใส่เขาเล็กน้อย ก่อนจะเดินหลบไปนั่งที่ห้องรับแขกเพราะขี้เกียจจะทะเลาะด้วย แต่ชายหนุ่มก็ยังเดินตามมาติดๆ ซ้ำยังสำรวจข้าวของภายในบ้านเธออย่างไม่เกรงใจอีกด้วย ก่อนจะหันมาถามถึงมารดาของเธอ

“แล้วนี่คุณอาไปไหน?”

“ไปตลาด” จิรัชยาพยายามตอบให้สั้นที่สุด

“พี่หิวข้าว มีอะไรให้กินไหม?”

“ก็แม่ไปตลาดอยู่ไง พี่ภูหิวก็รอก่อนสิคะ” หญิงสาวทำหน้ายุ่งใส่เขาราวกับว่าเขาเป็นเด็กเกเร

“พี่ง่วง มีที่ให้นอนไหม?”

“ไม่มีค่ะ ถ้าอยากนอนก็กลับไปนอนบ้านพี่ภูสิ”

“แต่พี่เห็นอยู่ที่หนึ่ง” เขาบอกแล้วก็เดินมานั่งลงใกล้ๆ

“ที่ไหนคะ?”

จิรัชยาดูจะไม่สนใจเขาเลยสักนิดเพราะถามส่งๆ ไปอย่างนั้นเอง แต่แล้วต้องร้องลั่นเมื่อจู่ๆ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เอนกายลงนอนหนุนตักเธอเสียเฉยๆ

“ทำอะไรของพี่ภูเนี่ย”

“อ้าว...ก็นอนสิถามได้”

“รู้แล้วว่านอน แต่ทำไมต้องมานอนหนุนตักหนูจ๋าด้วยล่ะ”

“ก็หนูจ๋าไม่มีที่ให้พี่นอนนี่ พี่ก็เลยต้องหาที่นอนเอาเอง เถอะน่า...แค่นอนหนุนตักแค่นี้จะเป็นไรนักหนา”

“เป็นสิคะ เดี๋ยวแม่กลับมาเห็นหนูจ๋าก็แย่น่ะสิ”

จิรัชยามีท่าทีลุกลี้ลุกลนเพราะไม่เคยใกล้ชิดกับเขาในลักษณะนี้มาก่อนเลย ทั้งกลัวว่ามารดาจะกลับมาเห็นและกลัวใจตัวเองว่าจะต้านทานเสน่ห์อันเหลือร้ายของเขาไม่ไหว

“คุณอามาเห็นจะว่าอะไรได้ล่ะ พี่แค่นอนหนุนตักหนูจ๋าเฉยๆ ไม่ได้ปล้ำหนูจ๋าเสียหน่อย ทำเป็นกลัวไปได้อีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว น่า...ขอนอนหน่อย ง่วงจะแย่แล้ว”

“เมื่อคืนดึกล่ะสิ” หญิงสาวทำอะไรเขาไม่ได้ก็เลยแขวะเสียงขึ้นจมูก

“ก็นิดหน่อย...” ภูธนิกตอบเสียงเบาพร้อมกับเปลือกตาที่พริ้มลง แล้วเขาก็หลับไปในที่สุด

จิรัชยาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นึกชังเขานักที่จะมาหาแต่ละทีนั้นต้องรอให้ถูกบังคับเสียก่อน แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ถ้าหากไม่ถูกมารดาเขาบังคับมาละก็ คนอย่างภูธนิกนะหรือจะมาเฉียดใกล้แถวบ้านสวนของเธอที่มันไม่ได้มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง ทั้งสวน และก็ตัวเจ้าของสวนเองด้วย



ภูธนิกหลับไปได้พักเดียวก็มีอันต้องรู้สึกตัวแต่เขายังไม่ยอมลุกออกไปจากตักนุ่มนิ่มของจิรัชยาเมื่อจับน้ำเสียงได้ว่าหญิงสาวกำลังพูดคุยกับใครอยู่ จึงแสร้งทำเป็นหลับต่อไปแต่หูนั้นคอยฟังบทสนทนาของทั้งคู่อย่างตั้งใจ

“แล้วนี่จะอยู่ทานข้าวด้วยกันหรือเปล่าล่ะ แม่กับลูกหยีไปตลาดอยู่ อีกเดี๋ยวคงกลับมาทำกับข้าวให้กิน”

“หนูจ๋าอยากให้เราอยู่หรือ ก็น้ารวงเขาตั้งใจจะทำให้คุณเจ้าบ่าวของหนูจ๋ากินนี่ ไม่ได้ทำให้เรากินสักหน่อย”

“โธ่...ทำเป็นใจน้อยไปได้ วัชก็กินข้าวบ้านหนูจ๋าออกจะบ่อย ยังต้องถามอีกนะว่าอยากให้อยู่หรือเปล่าน่ะ”

จิรัชยาพูดกลั้วหัวเราะทำไม่รู้ไม่เห็นต่อสิ่งที่ธีรวัชกำลังแสดงออก เพราะในหัวใจเธอนั้นจะรับใครไว้ได้อีกเล่าก็ในเมื่อตอนนี้มันมีว่าที่เจ้าบ่าวนั่งอยู่เต็มทั้งสี่ห้องใจ

“ถามไปอย่างนั้นแหละ ถึงหนูจ๋าอยากให้อยู่เราก็คงไม่อยู่หรอก ขอโทษนะ...บอกตรงๆ ว่าเราไม่ค่อยปลื้มเจ้าบ่าวของหนูจ๋าสักเท่าไร”

ภูธนิกได้ยินแล้วก็แทบอยากทะลึ่งพรวดขึ้นมาบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้ปลื้มหน้าไอ้คนที่กำลังพูดนี่สักเท่าไรหรอก ออกจะเกลียดขี้หน้าเสียด้วยซ้ำ หน็อย...ว่าที่เจ้าบ่าวเขานอนหนุนตักหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคนมันยังจะกล้ามาทำออเซาะ

“ไม่เป็นไรหรอก หนูจ๋าเข้าใจว่าคนอย่างเขาเนี่ยคงจะให้ใครๆ มาปลื้มยาก นอกจากสาวๆ ในสต็อกของเขาเท่านั้นแหละที่หลงกันดีนัก”

จิรัชยารู้หรอกว่าคนที่นอนหนุนตักเธออยู่นั้นตื่นนานแล้ว เพราะในบางครั้งเธอสังเกตเห็นว่าเปลือกตาเขาขยับหยุกหยิกจึงแกล้งพูดเหน็บแนมให้เขาได้ยินด้วย

“แล้วหนูจ๋าล่ะ อยู่ในข่ายไหน?”

ธีรวัชก็สงสัยถึงความสัมพันธ์ของคู่วิวาห์ที่กำลังจะเข้าพิธีร่วมกันในอีกไม่ช้านี้ แต่เขาก็รู้ว่าขีดความจำกัดของคำว่าเพื่อนมันยังค้ำคอ ทำให้ในบางเรื่องเขาก็ไม่อาจล้ำเส้นตรงนี้ได้ จึงได้แต่กระเซ้าถามไม่จริงจังนัก

ภูธนิกเองก็รอฟังคำตอบของหญิงสาวอยู่เหมือนกัน เขาไม่แปลกใจหรอกถ้าหากเธอจะบอกว่าอยู่ในข่ายเดียวกับนายธีรวัชนี่ แต่เขาต้องแปลกใจเมื่อได้ยินหญิงสาวตอบแบบเลี่ยงๆ ว่า

“หนูจ๋าชอบเดินทางสายกลาง”

“แล้ว...ถ้าแต่งงานกับเขาแล้ว หนูจ๋าจะต้องย้ายไปอยู่กับเขาไหม?”

“ก็ต้องอย่างนั้นสิ”

“ใช่สินะ คนแต่งงานกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน” ธีรวัชรำพันออกมาคล้ายกับขมขื่น ก็จะไม่ให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไรเมื่อตอนนี้หัวใจของเขามันกำลังปวดแปลบที่จะต้องเสียเธอไปให้กับคนอื่น

“วัชเป็นอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่สบายกลับบ้านก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องรอเจอแม่หรอก เดี๋ยวหนูจ๋าบอกให้ว่าวัชเอาของมาฝาก”

จิรัชยาเองก็รับรู้ถึงความรู้สึกของธีรวัช แต่เธอไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้เมื่อคนที่กำลังจะเป็นสามีในอนาคตอันใกล้ยังนอนแอบฟังอยู่บนตัก

“เราไม่ได้เป็นอะไร แต่...เรากลับก่อนก็ดีเหมือนกัน” ธีรวัชบอกอย่างตัดใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับบอกตัวเองว่านับจากนี้เขาควรจะทำใจให้ว่างเพื่อเปิดรับให้คนอื่นเข้ามาสักที

“ไม่ไปส่งนะ...ลุกไม่ได้” จิรัชยาทำมือบุ้ยใบ้มาที่ร่างสูงที่นอนหนุนตักอยู่

“ไม่เป็นไร เรากลับก่อนนะ”

ธีรวัชเดินออกจากบ้านไปแล้วภูธนิกจึงลืมตาขึ้นเพื่อจะมองใบหน้าของว่าที่เจ้าสาวตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรที่เพื่อนสนิทที่สุดเดินออกไปแล้ว

“อาลัยไหม?”

“อะไรคะ หนูจ๋ารู้นะว่าพี่ภูแอบฟังตลอด” จิรัชยาก้มมองคนบนตักตาขุ่น

“ถ้าไม่แอบฟังแล้วจะรู้เร้อ...ว่าเธอกับเพื่อนสนิทเธอยังอาลัยตัดกันไม่ขาด โธ่...ทำเป็นมาถามว่าแต่งงานแล้วหนูจ๋าจะต้องย้ายไปอยู่กับเขาไหม มันคิดว่าฉันจะไม่นอนกับเธอหรือไง หรือเธอไปสัญญิงสัญญาอะไรกับมันเอาไว้ว่าจะเก็บความสาวไว้ให้มันน่ะ”

ภูธนิกผุดลุกขึ้นนั่งแล้วชวนหาเรื่องทันที ดวงตาคมนั้นวาววับเลยทีเดียวเมื่อคิดว่าฝันไปเถอะที่เขาจะยอมปล่อยให้เธอรอดไปถึงมือไอ้หมอนั่น

“พี่ภูอย่ามาหยาบคายกับหนูจ๋าได้ไหม เห็นหนูจ๋าเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน แต่งงานแล้วรับรองว่าเป็นของพี่แน่ไม่ต้องห่วงว่าจะเก็บไว้ให้ใครหรอก หนูจ๋ารู้ว่าคนอย่างพี่ภูน่ะ ขาดอะไรก็ขาดได้แต่ขาดเรื่องอย่างว่าก็คงอดตาย!”

จิรัชยาเหลืออดกับเขาก็เลยจะลุกหนีแต่กลับถูกกระชากเข้าสู่อ้อมกอดของเขาเต็มแรง

“ถ้ารู้ใจกันดีขนาดนั้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีด้วยล่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าฉันเป็นพวกไม่ชอบของจืดชืด อาจจะลองได้แค่ครั้งเดียวก็คงจะเบื่อแล้วล่ะ แต่ถึงอย่างไรไอ้ครั้งเดียวที่ว่านั่นน่ะ เธอก็ต้องทุ่มสุดตัวเลยนะไม่อย่างนั้นฉันคงจะขยาดไปอีกนาน”

“พี่ภู!” จิรัชยาถึงกับหน้าซีดเผือดเพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดกับเธอแบบนี้

“ทำไม บอกกันไว้แต่เนิ่นๆ ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ เธอจะได้เตรียมการถูก ฉันว่าแค่ครั้งเดียวมันคงไม่บุบสลายเท่าไรหรอก ไอ้เพื่อนสนิทของเธอมันคงยังรับได้อยู่หรอกมั้ง”

จิรัชยาเงื้อมือขึ้นสูงเตรียมตวัดใส่ใบหน้าเขาให้หายแค้นกับคำพูดเหยียดหยาม แต่ฝ่ามือน้อยยังไม่ทันได้สัมผัสกับแก้มสากมือบางก็ถูกเขายึดเอาไว้แน่น

“อย่าคิดว่าจะตบฉันได้อีกเป็นครั้งที่สอง บอกแล้วไงว่าอย่างเธอน่ะ แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว”

จิรัชยาโกรธจนตัวสั่น ดวงตากลมโตนั้นคลอด้วยหยาดน้ำใสก่อนจะไหลลงมาอาบแก้มเป็นน้ำตาแห่งความแค้นใจ ภูธนิกเห็นแล้วก็ยกนิ้วขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้แต่ใบหน้าเขานั้นยิ้มเยาะไร้ซึ่งความอาทรผิดกับการกระทำ อีกทั้งคำพูดยังตามมากระหนำให้เจ็บช้ำระลอกสอง

“จะโกรธทำไม แต่งงานเล่นๆ มันก็อย่างนี้แหละ จะผูกพันกันไปทำไมนักหนาเพราะเดี๋ยวก็ต้องอย่ากันแล้ว” เขาพูดราวกับกำลังหยันอะไรสักอย่าง

“การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หรอกนะคะ”

หญิงสาวพยายามสะกดกลั้นอารมณ์อย่างสุดความสามารถพร้อมทั้งสะบัดตัวหลุดออกจากการเกาะกุมของเขาจนสำเร็จ ดวงตากลมที่คลอคลองด้วยน้ำใสๆ นั้นจ้องมองเขาด้วยความเจ็บแค้น บอกตัวเองว่าชาตินี้ถ้าเธอทำให้เขามาสยบแทบเท้าเธอไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกว่าจิรัชยา!

“ก็การแต่งงานของเราไงล่ะ แต่งเล่นๆ เพื่อเงิน!”

“พี่ภูก็เอาแต่ดูถูกหนูจ๋า แล้วตัวพี่ภูเองล่ะดีนักหรือ พี่ภูเองก็แต่งเพื่อเงินเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวย้อนเขาด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน เพราะรู้มาเหมือนกันว่าถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งงานกับเธอแล้วละก็ แม้แต่เงินสักแดงของคุณลัลดาเขาก็จะไม่ได้แตะมัน

“ที่ฉันทำก็เพื่อเงินของตัวเองที่ฉันพึงมี พึงได้ ไม่ใช่ทำเพราะอยากได้เงินของคนอื่นอย่างเธอ”

“พี่ภูก็รู้ว่าหนูจ๋าต้องเอาเงินมาช่วยแม่ ต้องเอาเงินมาใช้หนี้ แต่พี่ภูก็ยังดูถูกหนูจ๋าเหมือนว่าหนูจ๋าอยากได้เงินมาทำเรื่องอย่างอื่นที่มันเหลวไหล”

“ฉันจะไม่ดูถูกหรอกนะถ้าไอ้วิธีหาเงินของเธอมันจะไม่ใช่การเอาตัวเข้าแลก ผู้หญิงอะไรสิ้นคิดขนาดนี้ นี่หรือหนูจ๋า!”

“ค่ะ นี่แหละหนูจ๋า หนูจ๋ามันสิ้นคิด อยากได้เงินมาใช้หนี้ให้แม่แต่ก็ไม่มีปัญญา ก็เลยต้องขายตัวแลกเงิน” จิรัชยาโพล่งออกมาเสียงสั่น น้ำตาที่คลอหน่วยนั้นเริ่มหลั่งไหลลงมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่แต่ไร้แม้เสียงสะอื้น

ภูธนิกแม้จะรู้สึกสงสารกับภาพตรงหน้าแต่เขาก็ทำได้แค่ยิ้มหยัน เพราะเธอเป็นคนเลือกให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เอง เขาเคยขอแล้วว่าให้ร่วมมือกันต่อต้านการแต่งงานในครั้งนี้แต่เธอก็ยังเห็นแก่ตัว เห็นแก่สวนบ้าๆ นี่ไม่ยอมร่วมมือกับเขา ยังยืนกร้านที่จะทำตามความประสงค์ของมารดาของเขาและของเธออย่างแน่วแน่ เมื่อคิดจะยืนคนละฝั่งกับเขามันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ครั้นจะให้เขาถลาเข้าไปปลุกปลอบละก็อย่าได้ฝัน เขาจะไม่มีวันทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นเด็ดขาด!

..........................

ทักทายจากตอนที่แล้วค่ะ

คุณมะดันขา ขอบคุณที่งงแล้วยังอุตส่าห์สนุกค่ะ ฮี่ๆ อายจัง>///<

คุณก้อนอิฐขา ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ อิอิ

คุณชนาพันทธ์ขา ไม่มากเท่าไหร่มั้งคะ นิดหน่อยละม้าง คิคิ

คุณsaiขา ตบได้แต่น่าเจ็บใจพี่ภูไม่จูบกลับ เง้อ(อยากตบเหมือนก้านน)

คุณribbinขา อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับหนูจ๋าค่ะว่าจะเล่นหนักได้แค่ไหน อิอิ

คุณboonjaขา ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจค่ะ รับมาไว้เต็มทั้งสี่ห้องใจแล้ว

คุณของขวัญชา ขอบคุณมากมายที่แวะมาค่ะ ไอคอนน่ารักจังเลย^^

คุณเด็กหญิงม่อนขา อยู่หมัดอยู่แล้วค่า

คุณlunamoonขา เอ๋...ไม่มีอะไรค่า แค่อาบน้ำในคลอง อิอิ

คุณcheiiขา ฮ่าๆ โหเสียกระต่ายตกใจเลย

คุณhippopoขา ขอบคุณที่ชอบหนูจ๋าค่ะ

คุณสายลมแห่งรักขา พี่ภูไม่น่ารักเลยสักนิดค่ะ แต่ทำไมไม่รู้หนูจ๋ายังรักอยู่ได้เนอะ

คุณNNKขา ขอบคุณสำหรับ :)ค่า

คุณหมูอ้วนขา ไม่แมนจริงๆ ค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวหนูจ๋าสอนได้ เอิ๊กกกก

คุณXaWarZdขา ฮ่าๆ ก็ไม่รู้ว่าพอเอาเข้าจริงหนุ่มๆ จะใกล้หนูจ๋าได้บ้างหรือเปล่าสิคะ

คุณniteขา ก๊ากกก งุงิ อันนี้ก็บอกไม่ถูกเลยค่ะ ฮ่าๆๆ

คุณMYsisterขา คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่หนูจ๋าค่ะ หุหุ

คุณan00ขา พี่ภูแย่มาแต่เริ่มเลยค่ะ ไม่งั้นหนูจ๋าจะอยากตบเร้อ คิคิ

คุณnutchaขา หนูจ๋าน่าจะสู้ได้นะคะกระต่ายว่า อิอิ

คุณSaiParnขา ขอบพระคุณมากค่า แบบว่าจะผิดตลอดเลยค่ะ ไอ้ตลาดเป็นตลอดนี่ ฮ่าๆ

คุณSetiaขา ถ้าเห็นแก่เงินก็คงไม่ตามหรอกค่ะ หุหุ

คุณน้ำค้างขา คาดว่าน่าจะกัดกันตลอดๆ ค่า

คุณAsianขา รู้ว่าชอบก็ปลื้มใจค่า ^^



ญาณนันต์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 เม.ย. 2554, 21:50:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 เม.ย. 2554, 21:50:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 5864





<< ตอนที่ 2 สิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน   ตอนที่ 4 วันวิวาห์ >>
หนอนฮับ 27 เม.ย. 2554, 21:58:34 น.
ไอ้ต่าย..ไมพระเอกแก เลวจังอ่ะ

แหมมม...ทีใครทีมัน อย่าให้ถึงคราวละกัน

ต้องเอาให้หนัก ชิ..


หนอนฮับ 27 เม.ย. 2554, 21:59:28 น.
ง่ะ..กดผิด..ต่อๆ ให้ฉันเป็นนางนะ..

เอาให้หงอเลยแก...ฮิ..ฮิ ฮาาาาาาาาาา

เอิ๊กกก...


มะดัน 27 เม.ย. 2554, 22:06:31 น.
หย่า จ้า บ่ใช่ อย่า
ติดตามอ่านนะ love จุ๊บๆ


Gingfara 27 เม.ย. 2554, 22:07:34 น.
อ๊ายยยยยย พี่ภู
เย็นค่ะเย็น พี่ภู อย่าให้เจอตัวนะคะ
ฮ่าๆๆ ลงชื่อรออ่านต่อนะคะ


sai 27 เม.ย. 2554, 22:15:01 น.
เด๋วเถอะพี่ภู เดี๋ยวได้กลืนน้ำลายตัวเองแน่ๆ เหอะปากดีไปเถอะ

หนูจ๋าสู้ๆนะ


ribbin 27 เม.ย. 2554, 22:32:33 น.
หนูจ๋าเอ๊ย..รับรองมาแทบเท้าแหง็ม ๆ


yayee62 27 เม.ย. 2554, 22:36:52 น.
พี่ภูใจร้าย


boonja 27 เม.ย. 2554, 23:44:28 น.
หนูจ๋าาาาาา จัดให้หนักๆๆไปเลยไอ้พี่ภูใจร้ายเนี่ย.....


invisible 28 เม.ย. 2554, 00:23:02 น.
รอตอนหลังๆ อยากให้หนูจ๋าใจร้ายจนพี่ภูเข็ดไปเลย อิอิ


เรียงอักษร 28 เม.ย. 2554, 00:23:13 น.
แอร๊ย!! พี่ภูอ่ะ ใจร้าย


คิมหันตุ์ 28 เม.ย. 2554, 00:24:08 น.
เอิ่ม.....ผู้ชายคนนี้...ไม่ไหวจะเคลียร์


ปูสีน้ำเงิน 28 เม.ย. 2554, 00:38:27 น.
พระเอกใจร้ายมากๆ เลยนะ


ชนาพัทธ์ 28 เม.ย. 2554, 00:52:18 น.
โหดร้ายเข้าไปเถอะ ถึงเวลาอย่ามาอยากแอ้มเก๊านะตัวเอ๊งงงง


lunamoon 28 เม.ย. 2554, 01:59:55 น.
พี่ภู ใจร้าย ลุ้นๆๆๆเอาคืนๆๆ


XaWarZd 28 เม.ย. 2554, 02:35:57 น.
นู๋จ๋า ต้องเอาคืนให้เข็ด แต่งแล้วเอาให้เจ็บๆ คันๆ เลยนายภูนิสัยเสีย


เด็กหญิงม่อน 28 เม.ย. 2554, 03:24:25 น.
พี่ภูร้ายเกินไปแล้วนะ อยากให้หนูจ๋าเอาคืนพี่ภูเร็วๆ :)


หมูอ้วน 28 เม.ย. 2554, 06:22:55 น.
พี่ภูใจร้ายมากเลย หนูจ๋าสู้ ๆ


ทองหลาง 28 เม.ย. 2554, 07:38:18 น.
ร้อนๆๆๆ อยากอาบน้ำคลอง


pseudolife 28 เม.ย. 2554, 07:50:29 น.
เอาใจช่วยหนูจ๋านะจ๊ะ


hippopo 28 เม.ย. 2554, 10:22:08 น.
พี่ภูร้ายมาก นู๋จ๋าเอาคืนพี่ภูให้หนักๆ เลยนะ


NNK 28 เม.ย. 2554, 11:46:48 น.
:)


รอรัก 28 เม.ย. 2554, 14:29:47 น.
อ๊ากกกกกกก ไอ้พี่ภูบ้า อย่ามาหลงรักหนูจ๋าแล้วกัน


Asian 28 เม.ย. 2554, 16:09:00 น.
พี่ภูปากร้ายน่าดู อย่างนี้ไม่น่ารักนะเค๊อะ


minieminnie 28 เม.ย. 2554, 18:08:04 น.
อร๊าย พี่ภูหื่น แต่หนูช้อบ ชอบ


anOO 28 เม.ย. 2554, 18:50:40 น.
ผู้ชายอะไร ปากร้ายมาก...พูดจาไม่คิดถึงจิตใจคนฟังเลย
เดี๋ยวยุหนูจ๋าให้ถอดใจดีกว่าไหม ไม่ต้องแต่งมันแล้ว


dee_jung 28 เม.ย. 2554, 21:08:29 น.
หนูจ๋า..มาเยี่ยมจ้า


nutcha 28 เม.ย. 2554, 22:54:46 น.
หนูจ๋าแต่งกับพี่ภูแล้วจัดหนักเลยนะ...พี่ภูนิสัยไม่ดี


ของขวัญ 28 เม.ย. 2554, 23:07:25 น.
พี่ภูใจร้ายจริงๆๆ


น้ำค้าง 29 เม.ย. 2554, 13:02:18 น.
พี่ภู ปากดี อ่ะ อย่างนี้หนูจ๋าต้องทำให้รักแล้วแกล้งหักอกซะ ผู้ชายอารายน่าหมั่นไส้ที่สุด


Setia 29 เม.ย. 2554, 18:07:23 น.
หูย คนใจดำ หนูจ๋า พอถึงเวลาแล้วเอาคืนให้หนักๆเลยนะ


yamong 29 เม.ย. 2554, 19:28:15 น.
เอ...พี่พลาดตอน 2 ได้ไงอ่ะ แต่ว่ากลับไปจัดการมาแล้วค่ะ น้องสาว
เข้มข้นหวานมันมาก ๆ เรื่องนี้
อย่าลืม...จัดการพี่ภูหนัก ๆ นะน้องสาว ชอบทำร้ายหนูจ๋าดีนัก


SaiParn 29 เม.ย. 2554, 21:09:30 น.
ว๊ายยยยยยยยยยย พี่ภูเนี่ยใจร้ายได้อีกนะคะ แบบนี้เมื่อถึงตอนหนูจ๋าเอาคืนเอาแสบ ๆ เลยนะคะ อิอิ ปล.หย่าจ้า มิใช่อย่า อิอิ ปล.2 อยากอ่านต่อมาอัพเร็วนะจ๊ะ


เกสรชมพู่ 19 พ.ค. 2554, 16:25:05 น.
ทำไมพี่ภูใจร้ายจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account