เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)
-----------------------------------------------------------------
เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
-----------------------------------------------------------------
เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร
ตอน: บทที่ 11
บทที่ 11
“เป็นยังไงบ้างดล” พนาดรถามไถ่อาการน้องชายเมื่อกลับไร่ไปเคลียร์อะไรต่อมิอะไรเรียบร้อยแล้ว ใจจริงชายหนุ่มอยากจะมาที่โรงพยาบาลทันทีเสียด้วยซ้ำ ถ้าน้องสาวไม่เตือนสติว่าตอนนี้ที่ไร่ไม่มีคนดูแล และอาการของธนาดลเองก็ไม่เป็นอะไรมากแล้ว
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะพี่ต้น” ธนาดลยิ้มน้อยๆให้กับพี่ชาย แม้จะไม่ได้อยู่ชิดใกล้กับพนาดรแต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกได้เสมอว่า...พี่ชายคนนี้...ยังรักและเป็นห่วงตนเองเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
“จะแจ้งความหรือเปล่า” พนาดรถามเสียงเข้มเมื่อนึกถึงหน้าไอ้ชัยที่บังอาจมาทำร้ายน้องชายให้ต้องนอนเจ็บอยู่อย่างนี้
“ผมคิดว่าจะไม่แจ้ง”
คำตอบของธนาดลทำเอาหนึ่งสาวที่อยู่ในห้องคนป่วยหันควับมามองอย่างเหลือเชื่อ
...พระเจ้า! คนอย่างคุณดลไม่เอาเรื่องคน ประเทศไทยหิมะตกแน่ค่ะ!...
พนาดรเองก็คงคิดไม่ต่างจากศรินดามากนัก ว่าทำไมน้องชายที่มีนิสัยไม่ยอมคนถึงได้ยอมปล่อยให้ไอ้ชัยหลุดรอดจากคุกจากตาราง
“ดลจะปล่อยให้มันกลับมาทำร้ายอีกหรือ” พี่ชายย้อนถาม คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจความคิดของน้องชาย
“ถ้ามันกล้ามาก็ให้มันมาพี่ต้น” เสียงของธนาดลแข็งขึ้นทันที ดวงตาก็เยือกเย็นที่สุดเท่าที่รินเคยเห็นมาปรากฏบนใบหน้าคมของคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง เพียงแค่เห็นหญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที และถ้าไอ้ชัยคิดจะวกกลับมาทำร้ายผู้ชายคนนี้อีกครั้งล่ะก็ เธอคิดว่ามันคงไม่มีชีวิตรอดกลับไปแน่
พนาดรถอนหายใจออกมายาวเหยียด ลองพูดอย่างนี้ น้องชายเขาคงมีแผนการรองรับเอาไว้แล้ว
“แล้วหมอให้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่”
“อีกวันสองวันมั้งฮะ” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่แน่ใจ “ใช่หรือเปล่า” ก่อนที่หันมาถามคนที่นั่งเงียบอยู่นาน ศรินดาเงยหน้ามองคนที่จู่ก็โยนคำถามมาให้ด้วยใบหน้าบึ้งบูด
“อือ” สียงใสตอบกลับอย่างรำคาญ
“เหรอ” พนาดรเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ทำเอาคนที่เพิ่งตอบคำถามเมื่อครู่เหวอไปพักใหญ่ เมื่อคนที่รับคำเธอกลับคือพนาดร
“เมื่อกี้รินไม่ได้พูด ‘อือ’ กับพี่ต้นนะ” หญิงสาวรีบแก้ เพราะเธอไม่เคยเลยสักครั้งที่จะใช้คำพูดที่ไม่มีสัมมาคารวะกับพนาดร ไม่เคยเลย...
พนาดรเลิกคิ้วขึ้นสูง “แล้วรินพูดกับใคร...นายดลเหรอ”
ศรินดาพยักหน้าเบาๆ หญิงสาวรู้ว่าพนาดรกำลังไม่พอใจที่เธอใช้คำว่า ‘อือ’ กับธนาดล เพราะในความคิดของพี่ชายคนโต ธนาดลคือพี่ และเธอคือน้อง น้องพูดกับพี่ว่า ‘อือ’ มันไม่ควร
“ทีหลังอย่าพูดอย่างนี้อีกนะริน ยังไงดลก็มีศักดิ์เป็นพี่ของริน พูดแบบนี้ มันไม่เพราะ” พนาดรสอนน้องสาว รินนั่งก้มหน้ารับผิดแต่โดยดี ส่วนธนาดลนั้นกำลังยิ้มเยาะสะใจที่เอาคืนศรินดาได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
...เก๊ง! ยกสามธนาดลพลิกกลับมาชนะ...
“งั้นพี่กลับก่อนนะดล” พนาดรบอกน้อยชายพร้อมๆกับลุกขึ้น จนน้องสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นดังนั้นเลยลุกขึ้นตาม
“รินกลับด้วยนะพี่ต้น”
“เรากลับแล้วใครจะดูนายดล” รินอ้าปากค้างเมื่อได้คำยินคำถาม สิ่งที่หวังว่าเมื่อพนาดรกลับมาเธอก็จะหลุดจากบ่วงกรรมนี่เสียทีพังทลายลงต่อหน้าต่อตา เมื่อเจอคำพูดของพี่ชาย...ที่ไม่ว่าจะแปลมุมไหน องศาไหน ก็หมายความว่า เธอจะต้องอยู่ดูแลธนาดลต่อไป
“พี่ต้น...” รินครางออกมาเบาๆ แต่แล้วสมองก็ปิ๊งไอเดียดีๆได้ขึ้นมา
“คุณนาฏไงพี่ต้น เขาเป็นแฟนคุณดล ให้เขาดูแลก็ได้นี่คะ รินทำหน้าที่แทนเขามาสองวันแล้วนะ” น้องสาวทำตาเศร้าเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร ในใจก็นึกสาปแช่งชินานาฏอยู่ทุกเวลาเพราะเมื่อเธอจะโทรไปบอกว่าธนาดลเข้าโรงพยาบาลฝ่ายนั้นก็ดันไม่เปิดมือถือเลย
...สาธุ...วันนี้ช่วยเปิดเครื่องหน่อยนะคุณนาฏ ที่รินแช่งไว้ เดี๋ยวจะถอนให้หมดเลย...
“งั้นรินก็โทรบอกเขาสิ” พนาดรยอมทำตามข้อเสนอของน้องสาว ร่างบางแทบเต้นอย่างดีใจ ส่วนมือก็รีบกดเบอร์โทรศัพท์ของชินานาฏอย่างรวดเร็ว ...ช่วยติดทีเถอะเจ้าประคุณ...
‘ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ...’
...โอย!! จะปิดเครื่องทำไมคะ! เธอไม่อยากดูแลผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ไม่เอา!!...
...คุณนาฏ...ทุกคำที่ฉันแช่งคุณไว้ ขอให้เป็นจริง เพี้ยง!...
“ว่าไง” พนาดรถามน้องสาวเมื่อเห็นอีกฝ่ายปิดมือถือรุ่นฝาพับอย่างแรง
“ปิดเครื่องค่ะ” รินตอบเสียงเบา ทั้งที่ในใจกำลังตะโกนเสียงดัง ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้นะศรินดา ซวยๆๆ
“งั้นรินช่วยดูแลนายดลหน่อยแล้วกันนะ เดี๋ยวเย็นนี้พี่มารับช่วงต่อเอง” เหมือนสวรรค์มาโปรด ศรินดาทำตาเป็นประกายอีกครั้ง
“รินดูแลถึงแค่ตอนเย็นใช่ไหมคะ" หญิงสาวอย่างมีความหวัง ในใจภาวนาให้คำตอบออกมาว่า `ใช่`
“ใช่”
...เย้! ขอบคุณสวรรค์...รินซึ้งในน้ำใจท่านมากๆเลยค่ะ...
“งั้นพี่ต้นไม่ต้องมารับหรอกค่ะ เดี๋ยวรินให้น้ำไปส่งก็ได้ น้ำบอกว่าจะนอนเป็นเพื่อนรินจนกว่าคุณพ่อจะออกจากโรงพยาบาลน่ะค่ะ” ศรินดายิ้มกว้าง ดีใจเป็นที่สุด
“เหรอ” พนาดรรับคำน้องสาวเบาๆแล้วจึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “คุณพ่ออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้ใช่ไหมริน”
“ค่ะ...แต่รินยังไม่ได้บอกเรื่องนี้นะคะ” หญิงสาวละชื่อของเจ้าของเรื่องอย่างธนาดลไว้ในฐานที่เข้าใจ
พนาดรพยักหน้า “เดี๋ยวพี่จัดการเอง...พี่ไปนะ” ศรินดายิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือด ก่อนจะเดินไปส่งพนาดรถึงประตูห้อง
...พี่ต้น...รินรักพี่ต้นที่สุดเลย...
ร่างบางหมุนตัวกลับเข้ามา ดวงหน้าที่ชื่นมื่นเหี่ยวลงทันใดเมื่อเห็นคนที่เหลืออยู่ในห้อง หญิงสาวถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ทำใจยอมรับชะตากรรมที่แสนโหดร้ายอย่างนี้ไปอีกวัน คิดเสร็จก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ซึ่งเป็นที่กินที่นอนของเธอตลอดที่อยู่ที่นี่ มือเล็กบางหยิบหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดที่ฝากสลิลธารซื้อมาอ่าน
ธนาดลมองคนที่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอย่างเมามันโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างอย่างนึกขัน แววตาคู่คมที่มักมองหญิงสาวด้วยความเย็นชาและหยาบกระด้าง บัดนี้กลับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยแม้แต่น้อย แววตาอ่อนโยนอย่างที่ศรินดาไม่เคยเห็นกำลังทอดมองไปที่เธอโดยที่สาวเจ้าไม่รู้สึกตัว
“หิวน้ำ” เจ้าของแววตาอ่อนโยนที่นานๆจะเห็นได้สักครั้งพูดขึ้นเบาๆเหมือนจะปลุกให้คนที่หลุดเข้าสู่โลกของจินตนาการให้กลับมาสู่โลกของความเป็นจริง
“หิวน้ำ” น้ำเสียงนั้นดังขึ้นอีกนิด ศรินดาละสายตาจากหนังสือการ์ตูนในมือก่อนที่จะตวัดไปมอง ‘คนเรื่องมาก’ ที่นอนอยู่ หญิงสาวจำต้องวางการ์ตูนสุดที่รักในมืออย่างหงุดหงิด แล้วจึงเดินไปรินน้ำใส่แก้วให้คนบนเตียง
“เอ้า” หญิงสาวยื่นแก้วน้ำเกือบที่จะชนหน้าของธนาดล ในใจร่ำๆอยากจะไปอ่านหนังสือการ์ตูนเต็มแก่
“เอ้า...น้ำ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมรับแก้วน้ำไปจากมือเธอ อารมณ์หงุดหงิดก็เริ่มติดไปกับน้ำเสียงที่เริ่มแข็ง ธนาดรับแก้วน้ำจากมือเล็กบางนั่นไปดื่ม ก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง รินเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม และเริ่มเปิดการ์ตูนที่อ่านค้างไว้...อีกครั้ง
“อยากกินแอปเปิ้ล...ปอกให้ที” ตาที่กำลังจะอ่านหนังสือการ์ตูนเปลี่ยนทิศมามองคนที่อยากกินนู่นกินนี่ตาเขียวปัด ธนาดลหลิ่วตาไปทางแอปเปิ้ลลูกสีแดงสดหน้ากินที่สลิลธารซื้อมาเยี่ยมเมื่อวาน
“ปอกให้หน่อย” ชายหนุ่มสั่ง รินนับในใจหนึ่งถึงสาม
...อย่าให้ไอ้รินบ้าเพราะอ่านการ์ตูนไม่จบนะคุณดล!...
มือบางยอมปล่อยหนังสือการ์ตูนสุดที่รักอีกครั้ง แต่ยังไม่วายที่จะมองมันอย่างละห้อยหา
...รอหน่อยนะลูก...เดี๋ยวแม่กลับมาอ่าน...
รินหิ้วตะกร้าใส่แอปเปิ้ลและจัดการชำแหละ เอ้ย! ปอกเปลือก ล้างและจัดใส่จานอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยื่นไปจนเกือบกระแทกหน้าของคนป่วยจอมเอาแต่ใจ
“เอ้า” พูดโดยสายตาไม่มองคู่สนทนาเพราะกำลังจ้องอยู่ที่หนังสือการ์ตูนอย่างถวิลหา
“เอ้า...” หญิงสาวยื่นจานจนเกือบจะชิดหน้าธนาดลอีกที ชายหนุ่มยื่นมือไปรับจานที่อยู่ชิดหน้าตัวเอง เมื่อจัดการทำตามคำสั่งเรียบร้อย คนที่ใกล้ลงแดงตายเพราะไม่ได้อ่านการ์ตูนรีบเดินไปหาหนังสือเล่มเล็กๆนั่นอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยว” แต่ยังไม่ทันถึงศรินดาก็ต้องชะงักเมื่อเสียงห้าวรั้งไว้ หญิงสาวหันมามองธนาดลอย่างหัวเสียเล็กๆ
“อารายอีก” รินพูดเสียงยานคาง อยากจะโขกหัวกับกำแพงสักทีสองที
...โอ๊ยๆๆ จะขัดไปอีกถึงไหน คนจะอ่านการ์ตูน!...
ธนาดลยื่นจานกลับมาให้ หญิงสาวมองอาการนั้นอย่างไม่เข้าใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างสงสัย
“จะเอาอะไรอีกเจ้าคะ”เสียงใจแกล้งประชด หากชายหนุ่มกลับไม่พูดอะไร มือหนาที่ถือจานยังคงยื่นมันมาที่เธอ รินมองจานแอปเปิ้ลอย่างงงๆ
“จะให้ฉันป้อนหรือไง” สาบานได้ว่าเธอพูดเล่น แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับพยักหน้าเอาจริง
ศรินดาทำตาโต อ้าปากค้าง
...เขาว่าไงนะ!...
“จะให้ฉันป้อนเหรอ” รินถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ธนาดลพยักหน้าเบาๆ
“มือก็ไม่ได้เป็นอะไร กินเองสิคุณ” หญิงสาวว่า
“รังเกียจมากนักหรือไง” น้ำเสียงเยือกเย็นหลุดออกจากปากของธนาดล หากศรินดาไม่เถียงหรือตอบโต้กลับ หญิงสาวทำเพียงแค่เดินไปที่โทรศัพท์และยกหู...
“จะเอายาบำรุงหรือวิตามินเพิ่มสักเม็ดสองเม็ดไหมคะคุณดล” รินหันมาถามกับคนที่เริ่มจะเปิดสงครามกับเธอเสียงเรียบ แค่นั้นล่ะ...ผู้ชายตัวโตๆก็เงียบและนั่งกินแอปเปิ้ลในจานโดยไม่พูดอะไรอีกเลย
“ก็แค่นั้น”
รินกลับมานั่งที่โซฟาและเริ่มอ่านหนังสือการ์ตูนอีกครั้ง และคราวนี้คงไม่มีเสียงจากใครมาขัดจังหวะการอ่านของเธออีกเลย
...ก็ลองขัดดูสิ แม่จะจับยัดพาราซะให้เข็ด...
ธนาดลมองคนที่อ่านหนังสือการ์ตูนอย่างตั้งอกตั้งใจและเริ่มหลุดเข้าสู่โลกแห่งจินตานากรอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ปนแค้นเล็กๆ ก็บอกแล้วว่าเขาขอไว้อย่าง ไอ้ยาขมๆเนี่ย ให้เก่งยังไงเขาก็ขอยอมแพ้
...ฝากไว้ก่อนนะศรินดา...ฝากไว้ก่อน...
พนาดรเดินออกจากโรงพยาบาล ทว่าสายตาคู่คมก็ดันเหลือบไปเห็นร่างระหงคุณหมอน้ำที่กำลังเดินมาทางเดียวกับตนเองเช่นกัน สลิลธารเองก็เห็นว่าคนข้างหน้าเธอคือพนาดร หากหญิงสาวทำเป็นไม่สนใจและเดินผ่านไปอย่างไม่ใยดี แต่ร่างบางก็ต้องหยุดกึกเมื่อมือใหญ่ที่ไม่หยาบกระด้างเลยแม้แต่น้อยรั้งแขนของเธอไว้เบาๆ
“พี่ขอโทษ” เสียงนุ่มๆกับคำขอโทษสั้นๆทว่าจริงใจทำให้ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำได้ไม่ยาก สลิลธารยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้รับคำขอโทษจากปากของพนาดร
“น้ำกลับไปอยู่ที่ไร่ได้นะ”
สลิลธารบิดแขนของตัวเองให้ออกจากมือชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรค่ะ น้ำไม่อยากอยู่ ถ้าเจ้าของบ้านไม่เต็มใจให้อยู่” คุณหมอน้ำพูดเสียงแข็งเพื่อให้อีกฝ่ายได้เสียใจบ้าง อย่างที่เธอเคยเสียใจ...เมื่อคราวนั้น
“น้ำ...พี่บอกว่าพี่ขอโทษ น้ำได้ยินไหม” พนาดรถามเสียงอ่อน เพราะรู้ดีกรีความงอนของสลิลธารดี ถ้าว่าลองงอนขึ้นมา การง้อคือสิ่งที่ยากที่สุดกว่าผู้หญิงคนนี้จะหายงอนและยอมคืนดี
“น้ำไม่ได้ยิน” หญิงสาวไถไปได้น้ำขุ่นๆ พนาดรมองเด็กดื้ออย่างอ่อนใจ
“พี่ขอโทษ...นะครับ” ตาคมสีดำสนิทมองลึกเข้าไปในดวงตาชั้นเดียวของสลิลธารอย่างอ่อนโยน จนหญิงสาวต้องรีบหลบวูบ เพราะกลัวใจตัวเองเหลือเกิน กลัวว่ามันจะทรยศกลับไปหาใครบางคน...อีกครั้ง
“น้ำมีที่อยู่แล้วค่ะ” ถึงแม้จะยอมพูดด้วยแต่โดยดี หากสลิลธารก็ยังไม่ยอมกลับไปพักที่ไร่ตามเดิม อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอมใจอ่อนง่ายๆเหมือนแต่ก่อน ไม่มีทาง...
“แล้วน้ำจะนอนโรงแรมให้เสียเงินทำไม” ดวงตาเรียวชั้นเดียวมองหน้าชายหนุ่มอย่างสงสัย ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอพักอยู่ที่โรงแรม
“รินบอกพี่ต้นหรือคะ” หญิงสาวถามและพนาดรก็พยักหน้ารับน้อยๆ
...ไอ้เพื่อนบ้า! ก็บอกแล้วว่าไม่ให้บอก...
“น้ำอยู่โรงแรมสะดวกกว่าค่ะพี่ต้น ติดต่อกับหมอเขตก็ง่าย” พนาดรหน้าเจื่อนลงทันทีที่อีกฝ่ายกล่าวถึงนายแพทย์สิขเรศ
“น้ำคบกับหมอเขตแล้วหรือ” ชายหนุ่มถามเสียงต่ำ ติดออกจะสั่นๆด้วยซ้ำไป
“ไม่รู้สิคะ พี่ต้นรู้มั้ยว่าน้ำเคยวิ่งตามใครคนหนึ่งจนน้ำเหนื่อย เพราะเขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะมองมาที่น้ำบ้างเลย ตอนนี้น้ำเลยต้องการที่จะพักบ้าง ใครสักคนที่เดินไปข้างๆน้ำ ไม่ใช่คอยเอาแต่หนีน้ำ ใครสักคนที่คอยยิ้มให้น้ำ ใครสักคนที่รักน้ำ น้ำต้องการแค่นั้น"
พูดจบสลิลธารก็เดินผ่านร่างสูงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนน้ำตาที่กลั้นไว้จะไหลรินออกมา พนาดรทำได้เพียงแต่มองร่างที่คุ้นตาที่สำคัญ...คุ้นยิ่งในหัวใจ เขาทำได้แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ
...ใครสักคนที่รักน้ำ... เสียงหวานใสยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท และส่งความเจ็บปวดเป็นริ้วๆไปถึงหัวใจ
...น้ำลองมาเป็นพี่ ลองมาเป็นคนที่พ่อน้ำไม่ชอบจนถึงขนาดชังน้ำหน้าดูบ้าง แล้วน้ำจะรู้ว่าพี่ก็ไม่ได้เสียใจน้อยไปกว่าน้ำเลย ถึงพี่จะรักน้ำมากแค่ไหน พี่ก็บอกน้ำไม่ได้ มันทรมานมาก...น้ำรู้บ้างไหม ยิ่งน้ำมีคนดีๆอย่างหมอเขตมาดูแล พี่ยิ่งต้องย้ำตัวเองว่าพี่ไม่ดีพอสำหรับน้ำ พี่เคยบอกน้ำว่าพี่จะคิดกับน้ำแค่น้องสาว พี่จะทำให้ได้ พี่จะลบความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รัก’ ออกไปให้หมด และลบภาพของน้ำออกจาก...หัวใจ พี่จะพยายาม...
ชายหนุ่มรูปร่างสูง หน้าแต่ที่เคยสะอาดเกลี้ยงเกลาบัดนี้กลับมีแผลฟกช้ำจากการชกต่อย หัวถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวกำลังเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่ย้ายถิ่นพำนักไปนอนโรงพยาบาลมาหลายวัน
“หัวแข็งไม่เบานี่” พ่อเลี้ยงธฤตที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลก่อนลูกชายคนเล็กไม่กี่วันเดินเข้ามาหา
“ครับ” ธนาดลรับคำบิดา
“จะทำงานเลยหรือเปล่า”
“คิดว่าอย่างนั้นครับ”
พ่อเลี้ยงธฤตตบบ่าลูกชายสองทีเบาๆ “พักก่อนก็ได้นะดล” น้ำเสียงบิดานั้นเจือไปด้วยความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
“ไม่เป็นไรครับ ผมไหว” เมื่อได้รับคำยืนยันจากลูกชาย ผู้เป็นบิดาก็หันหลังก่อนจะเดินกลับไปยังของทำงานของท่าน
“คุณพ่อครับ” หากธนาดลกลับรั้งบิดาให้อยู่ต่อ พ่อเลี้ยงธฤตหันกลับมามองลูกชาย
“หืม มีอะไรดล”
“ผมขออะไรคุณพ่ออย่างได้ไหมครับ”
คนเป็นพ่อนิ่งไปนิดหนึ่ง “ได้สิ จะเอาอะไรล่ะ” ก่อนจะตอบรับคำขอของลูกชายง่ายๆ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านรู้สึกผิดมาตลอดที่ทำให้ธนาดลเสียใจ และท่าน...ไม่เคยทำอะไรให้ลูกชายคนนี้เลย
“ผมขอศรินดา...ให้มาเป็นเลขาฯผม ได้ไหมครับ”
พ่อเลี้ยงธฤตตกใจไม่น้อยกับคำขอของลูกชาย ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามอายุฉายแววครุ่นคิด คาดไม่ถึงว่าธนาดลจะขออะไรอย่างนี้ ธนาดลกับศรินดานั้นเป็นดั่งน้ำกับน้ำมัน ไม่มีวันที่จะเข้ากันได้ ท่านรู้ดี
“รินหรือดล พ่อว่า...”
“ผมไม่ได้เอาลูกสาวคุณพ่อไปฆ่านะครับ ไม่ต้องกังวลถึงขนาดนั้นก็ได้” น้ำเสียงธนาดลพูดคล้ายเยาะ เมื่อเห็นกิริยาของบิดาที่ไม่ค่อยจะเต็มใจยกลูกสาวสุดที่รักให้มาเป็นเลขาฯเขาเท่าไรนัก
“พ่อไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เพียงแต่...” พ่อเงี้ยงธฤตชะงัก ไม่รู้จะอธิบายเหตุผลออกไปอย่างไร เพราะสาเหตุนั้นคงไม่พ้นความกังวลที่ว่าลูกชายคนนี้คิดจะทำอะไรลูกเลี้ยงสาวของท่านหรือไม่
ธนาดลมองบิดา “เพียงแต่...เพียงแต่อะไรครับ ผมขอศรินดามาเป็นเลขาฯนะครับ ไม่ได้ขอมาเป็นทาส”ชายหนุ่มประชด เพราะรู้สึกว่าบิดาเริ่ม ‘หลง’ ลูกเลี้ยงคนนี้มากไปแล้ว หลงทั้งแม่หลงทั้งลูก!
...ก็เล่นกันซะทุกทางขนาดนั้น...
“ไม่เป็นไรครับ” เมื่อเห็นว่าบิดายังให้คำตอบอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะปฏิเสธเสียเอง “ผมก็คิดอยู่แล้วว่าลูกนอกคอกอย่างผม จะไปขอลูกสาวคนโปรดของพ่อเลียงธฤตมาเป็นเลขาฯได้ยัง ไม่เจียมตัวจริงๆ”ธนาดลพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันแต่ก็แฝงไปด้วยความน้อยใจ ทว่าพอร่างสูงทำท่าจะหันหลังเดินจากไป ผู้เป็นบิดาก็เอ่ยเสียงขึ้นรั้งลูกชายไว้
“เดี๋ยวดล” ธนาดลหยุดกึก มุมปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ ตาคู่คมจ้องมองใบหน้าของบิดา
“พ่อจะบอกรินให้”
“ขอบคุณครับ” ลูกชายขอบคุณบิดาเบาๆก่อนจะหันหลังเดินจากไป แววตาที่แสดงถึงความน้อยเนื้อต่ำใจแปรเปลี่ยนมาเป็นแววตาเจ้าเล่ห์...ทันที
...ยกที่สี่...ธนาดล...ชนะ...
...เสมอกันแล้วนะ...
...ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมศรินดา ว่าไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้ แล้วไม่ได้!...
----------------------------------------------------------------------------------------------
เตรียมโดนเอาคืน...ได้เลยล่ะรินเอ๋ย...
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์คุยกันและกดไลค์เพื่อให้กำลังใจกันนะคะ
เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ :)
คุยกันเถอะค่ะ...
คุณ Gingfara : กำลังจะโดนเอาคืนแล้วล่ะค่ะ คุณดลเธอเริ่มปฏิบัติการแล้ว...
คุณ ดาวคันชั่ง : ใช่เลยค่ะ เพราะคุณดลเขาไม่ถูกกับการกินยาเลย รินรู้จุดอยู่ เลยแกล้งซะหน่อย นิดหน่อยก็ยังดีค่ะ :)
คุณ nunoi : แต่ตอนนี้คุณดลพลิกกลับมาตามทันแล้วนะคะ กลับมาร้ายได้เต็มเหมือนเดิมแล้ว - -
คุณ Auuuu : ชนะ...ดีกว่าไม่ชนะเลยค่ะ ดีใจที่ชอบนะคะ ส่วนเรื่องจะซับซ้อนไหม ช่วยอ่านต่อและบอกกันด้วยนะคะ :)
คุณ หมูบูลิน : แต่ตอนนี้คงต้องเริ่มร้อนๆหนาวๆแทนรินแล้วล่ะค่ะ ><
คุณ MYsister : อ๊ายยยย...รู้ได้ยังไงคะเนี่ยยยยย XD
คุณ Amata : ใช่เลยค่ะ ชีวิตของคุณดลก็เป็นของรินเหมือนกันนั่นแหละ ระวังเถอะ...ระวังไว้...555
คุณ Heronett : ได้เลยค่ะ อ่านแล้วอย่าลืมบอกด้วยนะคะว่าชอบหรือไม่ชอบ ติ-ชมได้เลยค่ะ
คุณ ปรางขวัญ : โอกาสงามๆอย่างนี้มีผ่านมาไม่มากนักค่ะ เอาคืนได้รินก็ต้องเอาคืนไว้ก่อนล่ะ อิอิ
คุณ anOO : ดูท่าว่าจะโดนเอาคืนชุดใหญ่จริงๆนั่นแหละค่ะ
คุณ WallyValent : อัพเร็วน่ะสิ จนดูว่าพี่อาร์มช้าไปเลย ฮือออออออ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ!!!
ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 เม.ย. 2555, 16:49:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 เม.ย. 2555, 16:49:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 2032
<< บทที่ 10 | บทที่ 12 >> |
namon 19 เม.ย. 2555, 18:41:21 น.
ขอบคุณที่แวะไปอ่านนิยายของ ณ มนนะค้า
ขอบคุณที่แวะไปอ่านนิยายของ ณ มนนะค้า
anOO 19 เม.ย. 2555, 18:52:12 น.
งานนี้ ยัยรินเสร็จแน่ๆ เตรียมตัวเจองานมหาโหดได้เลย
งานนี้ ยัยรินเสร็จแน่ๆ เตรียมตัวเจองานมหาโหดได้เลย
บุรีวาด 19 เม.ย. 2555, 19:49:49 น.
โอ้ หนูรินงานเข้า
โอ้ หนูรินงานเข้า
ปรางขวัญ 19 เม.ย. 2555, 20:02:46 น.
ดูท่าว่างานนี้หนูรินต้องเหนื่อยแน่ๆเลย
ดูท่าว่างานนี้หนูรินต้องเหนื่อยแน่ๆเลย
nunoi 19 เม.ย. 2555, 20:07:09 น.
โอ๊ยย อย่างนี้หนูรินเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย
โอ๊ยย อย่างนี้หนูรินเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย
roseolar 19 เม.ย. 2555, 20:29:06 น.
คิดถึงงงงงงง >w<
หมอน้ำกับพี่ต้นน่าสงสารจัง แต่คนอ่านชอบเพราะเจ็บปวดได้ใจ ฮาา~
ส่วนอีกคู่ก็กวนกันไปกวนกันมา น่าร้ากกกกก
คิดถึงงงงงงง >w<
หมอน้ำกับพี่ต้นน่าสงสารจัง แต่คนอ่านชอบเพราะเจ็บปวดได้ใจ ฮาา~
ส่วนอีกคู่ก็กวนกันไปกวนกันมา น่าร้ากกกกก
ดาวคันชั่ง 19 เม.ย. 2555, 20:46:25 น.
สงสารพี่ต้นกับหมอน้ำ T^T
ส่วนรินท่าทางจะเจอศึกหนักจากนายดลแน่นอน
สงสารพี่ต้นกับหมอน้ำ T^T
ส่วนรินท่าทางจะเจอศึกหนักจากนายดลแน่นอน
MYsister 19 เม.ย. 2555, 22:11:18 น.
;-) nu'Rin mai raud nae!!! (O_O)
;-) nu'Rin mai raud nae!!! (O_O)
Amata 19 เม.ย. 2555, 22:20:46 น.
มาแรงแซงทางโค้งเลยนะคะ ^^
มาแรงแซงทางโค้งเลยนะคะ ^^
หมูบูลิน 20 เม.ย. 2555, 00:15:07 น.
ไม่เอามาเป็นทาศจิงหลอนายดล
ไม่เอามาเป็นทาศจิงหลอนายดล